มาร์คเป็นน้องชายต่างบิดากับนาวิน เพิ่งเรียนจบมาจากวิทยาลัยพละศึกษา ตอนนี้อาศัยอยู่ที่ต่างจังหวัด กำลังจะเดินทางเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ พอดี
“ก็แล้วแต่พี่… ฉันยังไงก็ได้”
นีรชาพยักหน้าปลงๆ เธอรู้ดีว่าสำหรับนาวิน ‘งาน’ มักจะมาก่อน ‘ครอบครัว’ เสมอ
เป็นปีมาแล้วกระมังที่เขาไม่เคยพาเธอกับลูกออกไปกินข้าวนอกบ้าน ชีวิตของนาวินมีแต่งาน บางครั้งวันหยุดเขาก็ยังเข้าไปทำงาน
วันๆ ผู้ชายคนนี้นึกถึงแต่ความสำเร็จจากหน้าที่การงานจนลืมไปว่าเขายังมีครอบครัวอยู่เบื้องหลัง มีลูกเมียที่ต้องการความเอาใจใส่ดูแล เหมือนลืมไปว่าเธอกับลูกต้องการมากกว่าเงินที่เขาหยิบยื่นให้ใช้ในแต่ละเดือน
ทุกวันนี้ฐานะครอบครัวของเธอก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่นาวินก็ยังโหยหาความสำเร็จด้วยการทำงานอย่างบ้าคลั่ง
หญิงสาวหารู้ไม่ว่าแท้ที่จริงแล้วสามีของเธอกำลังโหยหา การยอมรับเพื่อกลบเกลื่อนปมด้อยในเรื่อง ‘เซ็กส์’ ที่เขาล้มเหลวมาโดยตลอด
ความล้มเหลวในเรื่องสมรรถภาพทางเพศทำให้นาวินเก็บกดอยู่ลึกๆ ในใจ เขาพยายามเบนความสนใจของตัวเองไปสู่สิ่งอื่น ด้วยการไขว่คว้าความสำเร็จจากหน้าที่การงาน ทำให้ตัวเองโดดเด่นเหนือผู้ชายคนอื่น เพียงเพื่อต้องการกลบเกลื่อนปมด้อยในเรื่องเซ็กส์ที่ล้มเหลวมาโดยตลอด
“งั้นพรุ่งนี้พี่จะโทรบอกมาร์ค ให้มันพักห้องข้างล่างก็ได้ เดี๋ยวเธอช่วยเตรียมห้องเอาไว้ให้มันด้วย”
“ค่ะ… ”
นีรชาตอบพลางลูบไล้มือเรียวไปตามหลังไหล่ของสามี ก่อนจะสวมกอดเขาจากทางด้านหลัง ใบหน้าสวยซุกซบราวกับต้องการซึมซับความอบอุ่นจากแผ่นหลังกว้างของบุรุษเพศ ทรวงอกอวบใหญ่ของเธอเบียดบดไปตามหลังไหล่ของเขาอย่างจงใจปลุกเร้า หากแต่คำพูดของสามีก็ทำให้นีรชาชะงัก ต้องคลายกอดในที่สุด
“ไม่ไหว ปวดบ่าปวดไหล่ไปหมด เธอก็น่าจะรู้ว่าช่วงนี้พี่เครียดๆ… ”
นีรชายังไม่ทันจะเอ่ยปากขอ คนเป็นสามีก็ปฏิเสธออกมาเสียก่อน
“พี่วินไปนานเป็นเดือน… แบบนี้นีคงคิดถึงแย่”
หญิงสาวขยับห่างออกมา น้ำเสียงเศร้าบอกเป็นนัยให้รู้ว่าเธอเหงา
เกือบสามเดือนมาแล้วที่นาวินไม่ยอมแตะต้องเธอเลย หลังจากครั้งสุดท้ายที่เขาล้มเหลวไม่เป็นท่า ความเครียดและอาการป่วยจากโรคเบาหวานกำเริบทำให้เขาไม่แข็งตัวพอจะสอดใส่เข้าไปในร่างกายของเธอได้
ทุกๆ คืนพอลุกออกจากโต๊ะทำงาน เมื่อหัวถึงหมอนเขาก็หลับเป็นตาย ปล่อยให้เธอนอนลืมตาโพลงอยู่ในความมืด อดทนฟังเสียงกรนสนั่นของเขาด้วยความทุกข์ทรมาน พยายามข่มตาจนหลับไปพร้อมๆ กับความรู้สึกรวดร้าวในอารมณ์
“รู้ตัวหรือเปล่าว่าช่วงนี้เธอเซ็กส์จัดเกินไปแล้วนะ”
“ทำไมต้องว่านีด้วยล่ะคะ”
“ก็มันจริงนี่นา เธอลองหาอะไรทำแก้เบื่อบ้างก็ได้นะ อย่าปล่อยให้ตัวเองว่างจนฟุ้งซ่าน ถ้าขืนเธอไม่รู้จักควบคุมความต้องการที่นับวันยิ่งมากขึ้นทุกที เธอจะกลายเป็นผู้หญิงที่หมกมุ่น และมักมากในกามารมณ์ไปในที่สุด”
แน่ะ… ดูสิ ยังมาว่าเธออีก คำพูดของสามีทำให้นีรชารู้สึกเจ็บแปลบ รวดร้าวยิ่งกว่าโดนตบแรงๆ
แม้จะมีความต้องการอยู่ลึกๆ แต่นีรชาก็ต้องเก็บกดเอาไว้เรื่อยมา เธอไม่ได้เคี่ยวเข็ญให้เขาลุกขึ้นมาทำการบ้านบ่อยๆ เธอขอแค่นานๆ ครั้งก็ยังดี ต้นไม้ทุกต้นต้องการน้ำฉันใดเธอก็ต้องการความรักของเขามาหล่อเลี้ยงหัวใจฉันนั้น
ทว่าหลังจากนาวินป่วยเป็นเบาหวาน กิจกรรมบนเตียงระหว่างเธอกับเขาก็ว่างเว้นจนทุกวันนี้เรียกว่า ‘งด’ ไปเลยก็ว่าได้ ครั้งสุดท้ายที่ผ่านมาก็นานจนลืมไปแล้วว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไร
ในระยะหลังๆ มานี้นีรชาสังเกตเห็นได้ชัดว่านาวินขาดความกระตือรือร้นจนกลายเป็นความเฉยชาในเรื่องบนเตียงอย่างเห็นได้ชัด
ความต้องการทางเพศของนาวินลดลงมาก ทุกวันนี้พลังรักของเขาถดถอยจนแทบไม่เหลือ เมื่อเทียบกับปีแรกๆ ที่อยู่กินกันใหม่ๆ ซึ่งนีรชาก็พอจะรู้ว่ามันเป็นผลสืบเนื่องมาจากเบาหวานซึ่งเป็นโรคประจำตัวของเขานั่นเอง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
นีรชายังไม่หลับ ได้ยินเสียงฝีเท้าของนาวินย่ำมาตามพื้นปาเก้ เขาเปิดประตูเข้ามาในห้องนอน คนที่ยังลืมตาโพลงอยู่ในความมืดและเงียบรับรู้ได้แม้กระทั่งฟูกด้านหนึ่งยวบยุบลงไปเพราะน้ำหนักตัวของเขาที่ทรุดลงนั่งตรงขอบเตียง ก่อนจะเอนนอนเหยียดยาว เพียงไม่กี่นาทีภายหลังจากศีรษะถึงหมอน เสียงกรนก็ดังสนั่นตามมา นาวินหลับเหมือนตาย
“วินคะ… ”
นีรชาซุกกายอวบอิ่มกายเข้าไปกอดเขาเบาๆ ทรวงอกหนั่นแน่นเบียดเข้ากับต้นแขนของนาวิน ความอบอุ่นจากร่างกายของสามีแผ่ลามมาสู่ตัวเธอ
“อยากมากก็ช่วยตัวเองไปก่อน.. ดึกแล้วนะ พี่ทั้งง่วงทั้งเหนื่อย ยังจะมากวนอีก ไม่ไหวนะ”
มาร์คเป็นน้องชายต่างบิดากับนาวิน เพิ่งเรียนจบมาจากวิทยาลัยพละศึกษา ตอนนี้อาศัยอยู่ที่ต่างจังหวัด กำลังจะเดินทางเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ พอดี“ก็แล้วแต่พี่… ฉันยังไงก็ได้”นีรชาพยักหน้าปลงๆ เธอรู้ดีว่าสำหรับนาวิน ‘งาน’ มักจะมาก่อน ‘ครอบครัว’ เสมอเป็นปีมาแล้วกระมังที่เขาไม่เคยพาเธอกับลูกออกไปกินข้าวนอกบ้าน ชีวิตของนาวินมีแต่งาน บางครั้งวันหยุดเขาก็ยังเข้าไปทำงานวันๆ ผู้ชายคนนี้นึกถึงแต่ความสำเร็จจากหน้าที่การงานจนลืมไปว่าเขายังมีครอบครัวอยู่เบื้องหลัง มีลูกเมียที่ต้องการความเอาใจใส่ดูแล เหมือนลืมไปว่าเธอกับลูกต้องการมากกว่าเงินที่เขาหยิบยื่นให้ใช้ในแต่ละเดือนทุกวันนี้ฐานะครอบครัวของเธอก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่นาวินก็ยังโหยหาความสำเร็จด้วยการทำงานอย่างบ้าคลั่งหญิงสาวหารู้ไม่ว่าแท้ที่จริงแล้วสามีของเธอกำลังโหยหา การยอมรับเพื่อกลบเกลื่อนปมด้อยในเรื่อง ‘เซ็กส์’ ที่เขาล้มเหลวมาโดยตลอดความล้มเหลวในเรื่องสมรรถภาพทางเพศทำให้นาวินเก็บกดอยู่ลึกๆ ในใจ เขาพยายามเบนความสนใจของตัวเองไปสู่สิ่งอื่น ด้วยการไขว่คว้าความสำเร็จจากหน้าที่การงาน ทำให้ตัวเองโดดเด่นเหนือผู้ชายคนอื่น เพียงเพื่อต้องการ
นาวินพยายามใช้มือข้างหนึ่งปลุกปลอบความเป็นชายของตนที่สิ้นฤทธิ์ราบคาบ ไม่เคยสอดใส่ได้สำเร็จเลยสักครั้ง “ไม่เป็นไรหรอกค่ะวิน” มือเรียวลูบไล้ต้นแขนของสามี นีรชาเคยอ่านมาจากหนังสือจิตวิทยาการร่วมรัก ว่าภรรยาที่ดีไม่ควรซ้ำเติมในความล้มเหลวของสามี เพราะมันเป็นเรื่องซับซ้อนอ่อนไหวที่อาจทำให้เขาคิดมากจนขาดความเชื่อมั่น เธอจึงให้กำลังใจเขา ด้วยรู้ว่าปกตินาวินก็มีอาการหลั่งเร็วอยู่บ่อยๆ ยิ่งในตอนหลังก็ต้องมาป่วยด้วยโรคเบาหวาน สมรรถภาพทางเพศของเขาจึงดูถดถอย ทุลักทุเลอย่างที่เห็นครู่ต่อมาเธอก็ได้ยินเสียงกรนเบาๆ คนข้างกายหลับลงง่ายดาย นาวินทิ้งให้เธอนอนลืมตาโพลงอยู่ในความมืด รวดร้าวกับอารมณ์ที่ค้างคาทรมาน ครู่ต่อมานีรชาก็หยัดร่างเปลือยเปล่าขึ้นจากที่นอน ก้าวเข้าไปในห้องน้ำ ปิดประตูแล้วล็อกลูกบิด ขังตัวเองเอาไว้ในโลกแคบๆ เปิดน้ำแล้วคว้าฝักบัวมากำแน่นเอาไว้ในมือ เหมือนรู้ว่าจะจัดการกับอารมณ์อันคั่งค้างนั้นได้อย่างไรอีกสัปดาห์ต่อมา ภายในห้องนอนกว้างของบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ย่านชานเมืองของกรุงเทพฯ มหานคร “คราวนี้จะไปกี่วันคะ”หลังจากจัดกระเป๋าเดินทางใบใหญ่และต
นาวินสะดุ้งเฮือก ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นพรูออกมาทางจมูกและริมฝีปากด้วยความรู้สึกเสียวสยิวสุดจะบรรยาย“พี่เสียวเหลือเกิน”เขาผลักศีรษะเธอเบาๆ เป็นเชิงห้าม นีรชาชะลอการรุกเร้าลงชั่วครู่ เมื่อเห็นว่าเพียงแค่โดนริมฝีปากครอบลึกเข้าไปตามความแข็งแกร่ง สามีของเธอก็ถึงกับร้องคราง แค่เธอระรัวปลายลิ้นลงบนหัวลึงค์แดงก่ำเขาก็สะดุ้งโหยง เสียวซ่านจนเกือบจะทนไม่ไหว“ขอนีนั่งนะคะ… ”นาวินรู้ว่า ‘นั่ง’ นั้นหมายถึงอะไร เขาจึงคว้าหมอนมารองหลังตัวเอง เอนกายลงไปในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน จากนั้นนีรชาก็เป็นฝ่ายขึ้นไปคุกเข่าคร่อมร่างเปลือยเปล่าของเขาเอาไว้ กึ่งกลางกายของเธอกระถดไถเข้ากับแก่นกายของเขาเป็นจังหวะ พยายามเสียดสีความเป็นหญิงชายเข้าด้วยกัน ทว่าในขณะที่นีรชากำลังจะบดกลีบเนื้อสาวให้สนิทแน่นเข้ากับแก่นกายของเขาที่ถูไถกันมาครู่สั้นๆ“อ๊ะ… ”หญิงสาวถอนใจแรงอย่างนึกขัดใจเมื่อจู่ๆ ชิ้นเนื้อน้อยๆ ของสามีซึ่งควรจะดุนดันผ่านความชุ่มลื่นของกลีบเนื้อหนึบแน่นเข้าไปทำหน้าที่ของมันอย่างองอาจสมชายชาตรี ก็มีอันต้องงอพับหลับใหล อ่อนปวกเปียกเหมือนมะเขือเผา“ไม่เป็นไรค่ะ… ใจเย็นๆ นะคะ คุณทำได้ค่ะ”คนเป็นภรรยาให้กำลังใจ เธอพยา
ถ้าหากมีผัวแล้วเธอยังต้องพึ่งพาลำนิ้วน้อยๆ ของตัวเองในทุกครั้งที่มีความต้องการ นีรชาก็ไม่รู้ว่าจะมีผัวไปทำไม? และทันทีที่ทั้งสองเข้ามาอยู่ภายในห้องนอนกว้าง นีรชาค่อยๆ ปลดเปลื้องชุดนอนพลิ้วบางออกจากลาดไหล่สล้าง กระทั่งเรือนร่างเปลือยเปล่าขาวผ่องอยู่ภายใต้แสงไฟที่สาดสงมาจากเพดานห้อง เธอเดินตรงเข้าไปกอดร่างสูงโปร่งของสามี แสดงกิริยาท่าทางโหยหาสัมผัสของบุรุษเพศอย่างเปิดเผย“เดี๋ยวสิจ๊ะ”นาวินร้องห้าม เมื่อมือเรียวของนีรชาซุกซนด้วยการลูบล้วงแก่นกายของเขาซึ่งยังหลับใหลไม่พร้อมรบอยู่ในกางเกงขาก๊วย สภาพของมันอ่อนปวกเปียก นุ่มนิ่มเหมือนหนอนน้อยที่หลับอยู่ในพงหญ้าสีดำ“ทำไมล่ะคะ”ใบหน้างามแหงนขึ้นมองตาสามีตอนนั้นนาวินยังตั้งตัวไม่ทัน นีรชาดูร้อนรนผิดสังเกต สีหน้าและแววตาของเธอแสดงความต้องการออกมาอย่างเปิดเผยจนเขาไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงที่ภายนอกดูเงียบๆ ค่อนไปในทางเรียบร้อยด้วยซ้ำ บทจะเร่าร้อนก็แสดงออกเป็นไฟอย่างเปิดเผยจนน่าตกใจ “ใจเย็นๆ ก็ได้ ผมยังเครียดอยู่เลย”คนเป็นสามีรีบบอกปัญหาของตัวเอง ด้วยอยู่กินกันมานานหลายปีจนนาวินรู้ว่านีรชามีความต้องการทางเพศค่อนข้าง
“น้องผัว”(นวนิยายสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น)ผู้เขียน : กาสะลองสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2537ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้นทักทายคนอ่าน “น้องผัว” เป็นนิยาย ‘ฮาร์ดอีโรติก’ เล่มล่าสุด สดๆ ร้อนๆ ของ ‘กาสะลอง’ ผู้เขียนต้องขออภัย ถ้าบางถ้อยคำที่เขียนอาจจะรุนแรงไปบ้าง แต่นั่นก็เกิดจากความตั้งใจ จงใจของนักเขียนอีกนั่นแหละ บางครั้งก็รู้สึกอึดอัดขัดใจที่จะปั้นแต่งถ้อยคำให้เลิศหรูงดงามจนดูดัดจริตเกินจริง นิยายเรื่องนี้ไม่เหมาะกับนักอ่านโลกสวย เพราะเนื้อหาค่อนข้างรุนแรง ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยเซ็กส์และตัณหาราคะในแบบที่อาจจะทำให้คุณอึ้ง.. ทึ่ง.. เสียว เรื่องนี้เป็นนิยาย ‘สีดำสนิท’ ดำเหมือนน้ำคำในคูคลองที่ยุงชุกชุมนั่นแหละ ไม่ใช่นิยาย ‘สีขาว’ บางประโยคอาจจะมีการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ‘ดิบ’ ๆ เถื่อนๆ ไปตามบริบทแวดล้อมที่ถูกกำหนดขึ้นด้วยอารมณ์ความรู้สึกในฉากเหตุการณ์นั้นๆ กาสะลองขอกราบแทบเท้านักอ่านที่เปิดใจรับนิยายสีดำนะจ๊ะ ขอบคุณที่ยอมรับในความหลากหลาย ข