นาวินพยายามใช้มือข้างหนึ่งปลุกปลอบความเป็นชายของตนที่สิ้นฤทธิ์ราบคาบ ไม่เคยสอดใส่ได้สำเร็จเลยสักครั้ง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะวิน”
มือเรียวลูบไล้ต้นแขนของสามี นีรชาเคยอ่านมาจากหนังสือจิตวิทยาการร่วมรัก ว่าภรรยาที่ดีไม่ควรซ้ำเติมในความล้มเหลวของสามี เพราะมันเป็นเรื่องซับซ้อนอ่อนไหวที่อาจทำให้เขาคิดมากจนขาดความเชื่อมั่น เธอจึงให้กำลังใจเขา ด้วยรู้ว่าปกตินาวินก็มีอาการหลั่งเร็วอยู่บ่อยๆ ยิ่งในตอนหลังก็ต้องมาป่วยด้วยโรคเบาหวาน สมรรถภาพทางเพศของเขาจึงดูถดถอย ทุลักทุเลอย่างที่เห็น
ครู่ต่อมาเธอก็ได้ยินเสียงกรนเบาๆ คนข้างกายหลับลงง่ายดาย นาวินทิ้งให้เธอนอนลืมตาโพลงอยู่ในความมืด รวดร้าวกับอารมณ์ที่ค้างคาทรมาน
ครู่ต่อมานีรชาก็หยัดร่างเปลือยเปล่าขึ้นจากที่นอน ก้าวเข้าไปในห้องน้ำ ปิดประตูแล้วล็อกลูกบิด ขังตัวเองเอาไว้ในโลกแคบๆ เปิดน้ำแล้วคว้าฝักบัวมากำแน่นเอาไว้ในมือ เหมือนรู้ว่าจะจัดการกับอารมณ์อันคั่งค้างนั้นได้อย่างไร
อีกสัปดาห์ต่อมา
ภายในห้องนอนกว้างของบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ย่านชานเมืองของกรุงเทพฯ มหานคร
“คราวนี้จะไปกี่วันคะ”
หลังจากจัดกระเป๋าเดินทางใบใหญ่และตรวจตราจนเป็นที่แน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรตกหล่น นีรชาซึ่งอยู่ในชุดนอนสายเดี่ยวเนื้อผ้าซาตินสีชมพูบางพลิ้ว เดินเข้ามาหาสามีซึ่งกำลังคร่ำเคร่งอยู่กับแฟ้มเอกสารตรงหน้า เพราะนาวินมักจะหอบงานจากออฟฟิศเอามาทำที่บ้านเป็นประจำ มันเป็นภาพที่นีรชาเห็นจนชิน เธอเคยบอกให้เขาแยกแยะเรื่อง ‘งาน’ กับเรื่องที่ ‘บ้าน’ ออกจากกัน แต่นาวินก็ไม่เคยฟังความเห็นของเธอ
“คุณจะไปเวียดนามกี่วันคะ”
นีรชาถามอีกครั้งหลังจากนาวินนิ่งเงียบไป
“สองอาทิตย์”
เขาตอบโดยไม่ได้หันมามองหน้าเธอด้วยซ้ำ
“ไปนานจังเลยนะคะ… ไม่ไปไม่ได้หรือคะ”
มีความกังวลเจืออยู่ในน้ำเสียงของนีรชาอย่างเห็นได้ชัด เธอสืบเท้าเข้ามาใกล้เขา มือเรียวนวดเฟ้นต้นแขนของนาวินเบาๆ ถ้าเลือกได้เธออยากให้เขาอยู่ดูแลเธอกับลูก
“ไม่ไปก็โง่สิ ใช่ว่าโอกาสดีๆ แบบนี้จะมีเข้ามาในชีวิตบ่อยๆ ถ้าอยากได้ความก้าวหน้าในอาชีพการงาน อยากได้เงินเดือนเยอะขึ้นก็ต้องรีบคว้าโอกาสนี้เอาไว้ ถ้าพี่ปฏิเสธไม่ไปรับตำแหน่งผู้จัดการสาขาที่เวียดนามก็มีหลายคนพร้อมจะเสียบแทน ตำแหน่งผู้จัดการภูมิภาคใครๆ ก็อยากได้ทั้งนั้น เธอน่าจะยินดีกับพี่”
น้ำเสียงของเขาทำราวกับว่านีรชาไม่รู้จักคิด หญิงสาวได้แต่นิ่งฟัง ไม่เถียงเลยสักคำว่าสิ่งที่สามีของเธอพูดออกมานั้นถูกต้องทุกประการ แต่ที่เธอแสดงความเห็นออกมาก็ในฐานะของคนเป็นเมียและแม่ของลูก เป็นช้างเท้าหลังที่มีหน้าที่ดูแลบ้านและลูกๆ ถ้าเลือกได้ก็อยากให้เขาปฏิเสธตำแหน่ง รับเงินเดือนน้อยหน่อยก็ได้ เพื่อแลกกับการได้อยู่พร้อมหน้ากันพ่อแม่ลูก
นีรชาอยากได้ครอบครัวที่สมบูรณ์มากกว่าอยากได้สามีที่เก่งและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานจนผู้คนอิจฉา แต่ต้องแยกไปใช้ชีวิตห่างไกลเธอกับลูก
“ไปอยู่ไกลถึงเวียดนาม… ใจคอคุณจะไม่ห่วงฉันกับลูกบ้างหรือคะ บอกตรงๆ ว่าบ้านที่ไม่มีผู้ชายมันทำให้รู้สึกเหงาพิกล ไม่อุ่นใจยังไงไม่รู้”
นีรชาบอกในสิ่งที่เธอรู้สึก
“กลัวอะไรนักหนา… อย่ามาทำตัวอ่อนแอให้ผมเป็นห่วงนักเลยน่ะ หมู่บ้านเราออกจะปลอดภัย มียามคอยตรวจตราการเข้าออกเคร่งครัด เรื่องโจรขโมยก็ไม่เคยมี คุณจะกลัวอะไร?”
เขากล่าวพลางยกนิ้วขึ้นคลึงตรงหว่างคิ้วเพื่อคลายความเครียด
“ยังไงมันก็ไม่อุ่นใจเท่ากับมีคุณอยู่ด้วย”
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เมื่อวานพี่เพิ่งคุยกับน้องชาย ไอ้มาร์คมันโทรมาบอกว่าเรียนจบแล้ว ช่วงนี้กำลังจะเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ เดี๋ยวให้มันมาอยู่ที่บ้านเราไปพลางๆ ก่อนดีมั๊ย เธอกับลูกจะได้อุ่นใจในระหว่างที่พี่ต้องไปประจำที่เวียดนาม”
มาร์คเป็นน้องชายต่างบิดากับนาวิน เพิ่งเรียนจบมาจากวิทยาลัยพละศึกษา ตอนนี้อาศัยอยู่ที่ต่างจังหวัด กำลังจะเดินทางเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ พอดี“ก็แล้วแต่พี่… ฉันยังไงก็ได้”นีรชาพยักหน้าปลงๆ เธอรู้ดีว่าสำหรับนาวิน ‘งาน’ มักจะมาก่อน ‘ครอบครัว’ เสมอเป็นปีมาแล้วกระมังที่เขาไม่เคยพาเธอกับลูกออกไปกินข้าวนอกบ้าน ชีวิตของนาวินมีแต่งาน บางครั้งวันหยุดเขาก็ยังเข้าไปทำงานวันๆ ผู้ชายคนนี้นึกถึงแต่ความสำเร็จจากหน้าที่การงานจนลืมไปว่าเขายังมีครอบครัวอยู่เบื้องหลัง มีลูกเมียที่ต้องการความเอาใจใส่ดูแล เหมือนลืมไปว่าเธอกับลูกต้องการมากกว่าเงินที่เขาหยิบยื่นให้ใช้ในแต่ละเดือนทุกวันนี้ฐานะครอบครัวของเธอก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่นาวินก็ยังโหยหาความสำเร็จด้วยการทำงานอย่างบ้าคลั่งหญิงสาวหารู้ไม่ว่าแท้ที่จริงแล้วสามีของเธอกำลังโหยหา การยอมรับเพื่อกลบเกลื่อนปมด้อยในเรื่อง ‘เซ็กส์’ ที่เขาล้มเหลวมาโดยตลอดความล้มเหลวในเรื่องสมรรถภาพทางเพศทำให้นาวินเก็บกดอยู่ลึกๆ ในใจ เขาพยายามเบนความสนใจของตัวเองไปสู่สิ่งอื่น ด้วยการไขว่คว้าความสำเร็จจากหน้าที่การงาน ทำให้ตัวเองโดดเด่นเหนือผู้ชายคนอื่น เพียงเพื่อต้องการ
นาวินพยายามใช้มือข้างหนึ่งปลุกปลอบความเป็นชายของตนที่สิ้นฤทธิ์ราบคาบ ไม่เคยสอดใส่ได้สำเร็จเลยสักครั้ง “ไม่เป็นไรหรอกค่ะวิน” มือเรียวลูบไล้ต้นแขนของสามี นีรชาเคยอ่านมาจากหนังสือจิตวิทยาการร่วมรัก ว่าภรรยาที่ดีไม่ควรซ้ำเติมในความล้มเหลวของสามี เพราะมันเป็นเรื่องซับซ้อนอ่อนไหวที่อาจทำให้เขาคิดมากจนขาดความเชื่อมั่น เธอจึงให้กำลังใจเขา ด้วยรู้ว่าปกตินาวินก็มีอาการหลั่งเร็วอยู่บ่อยๆ ยิ่งในตอนหลังก็ต้องมาป่วยด้วยโรคเบาหวาน สมรรถภาพทางเพศของเขาจึงดูถดถอย ทุลักทุเลอย่างที่เห็นครู่ต่อมาเธอก็ได้ยินเสียงกรนเบาๆ คนข้างกายหลับลงง่ายดาย นาวินทิ้งให้เธอนอนลืมตาโพลงอยู่ในความมืด รวดร้าวกับอารมณ์ที่ค้างคาทรมาน ครู่ต่อมานีรชาก็หยัดร่างเปลือยเปล่าขึ้นจากที่นอน ก้าวเข้าไปในห้องน้ำ ปิดประตูแล้วล็อกลูกบิด ขังตัวเองเอาไว้ในโลกแคบๆ เปิดน้ำแล้วคว้าฝักบัวมากำแน่นเอาไว้ในมือ เหมือนรู้ว่าจะจัดการกับอารมณ์อันคั่งค้างนั้นได้อย่างไรอีกสัปดาห์ต่อมา ภายในห้องนอนกว้างของบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ย่านชานเมืองของกรุงเทพฯ มหานคร “คราวนี้จะไปกี่วันคะ”หลังจากจัดกระเป๋าเดินทางใบใหญ่และต
นาวินสะดุ้งเฮือก ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นพรูออกมาทางจมูกและริมฝีปากด้วยความรู้สึกเสียวสยิวสุดจะบรรยาย“พี่เสียวเหลือเกิน”เขาผลักศีรษะเธอเบาๆ เป็นเชิงห้าม นีรชาชะลอการรุกเร้าลงชั่วครู่ เมื่อเห็นว่าเพียงแค่โดนริมฝีปากครอบลึกเข้าไปตามความแข็งแกร่ง สามีของเธอก็ถึงกับร้องคราง แค่เธอระรัวปลายลิ้นลงบนหัวลึงค์แดงก่ำเขาก็สะดุ้งโหยง เสียวซ่านจนเกือบจะทนไม่ไหว“ขอนีนั่งนะคะ… ”นาวินรู้ว่า ‘นั่ง’ นั้นหมายถึงอะไร เขาจึงคว้าหมอนมารองหลังตัวเอง เอนกายลงไปในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน จากนั้นนีรชาก็เป็นฝ่ายขึ้นไปคุกเข่าคร่อมร่างเปลือยเปล่าของเขาเอาไว้ กึ่งกลางกายของเธอกระถดไถเข้ากับแก่นกายของเขาเป็นจังหวะ พยายามเสียดสีความเป็นหญิงชายเข้าด้วยกัน ทว่าในขณะที่นีรชากำลังจะบดกลีบเนื้อสาวให้สนิทแน่นเข้ากับแก่นกายของเขาที่ถูไถกันมาครู่สั้นๆ“อ๊ะ… ”หญิงสาวถอนใจแรงอย่างนึกขัดใจเมื่อจู่ๆ ชิ้นเนื้อน้อยๆ ของสามีซึ่งควรจะดุนดันผ่านความชุ่มลื่นของกลีบเนื้อหนึบแน่นเข้าไปทำหน้าที่ของมันอย่างองอาจสมชายชาตรี ก็มีอันต้องงอพับหลับใหล อ่อนปวกเปียกเหมือนมะเขือเผา“ไม่เป็นไรค่ะ… ใจเย็นๆ นะคะ คุณทำได้ค่ะ”คนเป็นภรรยาให้กำลังใจ เธอพยา
ถ้าหากมีผัวแล้วเธอยังต้องพึ่งพาลำนิ้วน้อยๆ ของตัวเองในทุกครั้งที่มีความต้องการ นีรชาก็ไม่รู้ว่าจะมีผัวไปทำไม? และทันทีที่ทั้งสองเข้ามาอยู่ภายในห้องนอนกว้าง นีรชาค่อยๆ ปลดเปลื้องชุดนอนพลิ้วบางออกจากลาดไหล่สล้าง กระทั่งเรือนร่างเปลือยเปล่าขาวผ่องอยู่ภายใต้แสงไฟที่สาดสงมาจากเพดานห้อง เธอเดินตรงเข้าไปกอดร่างสูงโปร่งของสามี แสดงกิริยาท่าทางโหยหาสัมผัสของบุรุษเพศอย่างเปิดเผย“เดี๋ยวสิจ๊ะ”นาวินร้องห้าม เมื่อมือเรียวของนีรชาซุกซนด้วยการลูบล้วงแก่นกายของเขาซึ่งยังหลับใหลไม่พร้อมรบอยู่ในกางเกงขาก๊วย สภาพของมันอ่อนปวกเปียก นุ่มนิ่มเหมือนหนอนน้อยที่หลับอยู่ในพงหญ้าสีดำ“ทำไมล่ะคะ”ใบหน้างามแหงนขึ้นมองตาสามีตอนนั้นนาวินยังตั้งตัวไม่ทัน นีรชาดูร้อนรนผิดสังเกต สีหน้าและแววตาของเธอแสดงความต้องการออกมาอย่างเปิดเผยจนเขาไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงที่ภายนอกดูเงียบๆ ค่อนไปในทางเรียบร้อยด้วยซ้ำ บทจะเร่าร้อนก็แสดงออกเป็นไฟอย่างเปิดเผยจนน่าตกใจ “ใจเย็นๆ ก็ได้ ผมยังเครียดอยู่เลย”คนเป็นสามีรีบบอกปัญหาของตัวเอง ด้วยอยู่กินกันมานานหลายปีจนนาวินรู้ว่านีรชามีความต้องการทางเพศค่อนข้าง
“น้องผัว”(นวนิยายสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น)ผู้เขียน : กาสะลองสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2537ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้นทักทายคนอ่าน “น้องผัว” เป็นนิยาย ‘ฮาร์ดอีโรติก’ เล่มล่าสุด สดๆ ร้อนๆ ของ ‘กาสะลอง’ ผู้เขียนต้องขออภัย ถ้าบางถ้อยคำที่เขียนอาจจะรุนแรงไปบ้าง แต่นั่นก็เกิดจากความตั้งใจ จงใจของนักเขียนอีกนั่นแหละ บางครั้งก็รู้สึกอึดอัดขัดใจที่จะปั้นแต่งถ้อยคำให้เลิศหรูงดงามจนดูดัดจริตเกินจริง นิยายเรื่องนี้ไม่เหมาะกับนักอ่านโลกสวย เพราะเนื้อหาค่อนข้างรุนแรง ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยเซ็กส์และตัณหาราคะในแบบที่อาจจะทำให้คุณอึ้ง.. ทึ่ง.. เสียว เรื่องนี้เป็นนิยาย ‘สีดำสนิท’ ดำเหมือนน้ำคำในคูคลองที่ยุงชุกชุมนั่นแหละ ไม่ใช่นิยาย ‘สีขาว’ บางประโยคอาจจะมีการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ‘ดิบ’ ๆ เถื่อนๆ ไปตามบริบทแวดล้อมที่ถูกกำหนดขึ้นด้วยอารมณ์ความรู้สึกในฉากเหตุการณ์นั้นๆ กาสะลองขอกราบแทบเท้านักอ่านที่เปิดใจรับนิยายสีดำนะจ๊ะ ขอบคุณที่ยอมรับในความหลากหลาย ข