LOGIN2 ปีต่อมา...
@ บริษัทเตชะวรากูลเอนจิเนียร์ จำกัด
แผนกฝ่ายขาย...
“ข้าว...แบบร่างเครื่องจักรรุ่น Vss-377 พี่ให้ข้าวออกแบบไปเมื่อวานเป็นยังไงบ้างล่ะ มีติดขัดตรงไหนหรือเปล่า”‘ขวัญรดา’ เอ่ยถามลูกน้อง ซึ่งเป็นเด็กฝึกงานพึ่งรับเข้ามาใหม่ ช่วงนี้บริษัทค่อนข้างยุ่งวุ่นวาย ทำไม่ทัน ก็ต้องมอบหมายให้เด็กฝึกงานทำ ดูจากผลการเรียนแล้ว คงจะเก่งไม่เบา
“ออกแบบเรียบร้อยแล้วค่ะพี่ขวัญ เหลือลงสีนิดหน่อยกับใส่รายละเอียดโครงร่างบางส่วนค่ะ พี่ขวัญจะดูก่อนมั้ยคะ เดี๋ยวข้าวเปิดให้ดูค่ะ”
เกวลินพูดพร้อมกับเดินไปเปิดโน๊ตบุ๊คสำนักงานทันที เธอกับอลินดาเข้ามาฝึกงานในบริษัทนี้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้ว ตอนนี้เกวลินเรียนอยู่ชั้นปีที่สาม ซึ่งจะต้องมีการฝึกงานเป็นเวลาสี่เดือนหรือหนึ่งภาคเรียน
“ได้ๆ เปิดรอไว้เลย เดี๋ยวพี่ไปถามพี่คินก่อน ว่าวันนี้จะออกไปพบลูกค้าเลยมั้ย แบบพร้อม ยังไงพี่อาจจะเอาเราไปด้วยนะข้าว จะได้ช่วยพี่อธิบายด้วย”
“ค่ะพี่ขวัญ”
ช่วงเวลาฝึกงานนี้ เกวลินงดรับงานพิเศษของเธอไปก่อน เหตุผลก็เพราะ การฝึกงานมันต้องใช้ทักษะปฏิบัติ เหมือนการทำงานในสถานการณ์จริง เพราะฉะนั้น สาขาที่เกวลินเรียนมาก็คือ วิศวกรรมเครื่องกล และบริษัทของครอบครัวอลินดา เพื่อนเลิฟของเกวลิน ก็เปิดรับนักศึกษาฝึกงานพอดี เกวลินกับอลินดาอยู่แผนกฝ่ายขาย มีหน้าที่นำเสนอเครื่องจักรอุตสาหกรรมให้กับลูกค้า
“ข้าว...”
“อืม...ว่าไงน้ำตาล” เกวลินกำลังจ้องหน้าจอคอมฯ
“พี่วินท์กับพี่วิชญ์จะมาตรวจที่เยี่ยมแผนกฝ่ายขายน่ะ”
“มาตอนไหนล่ะ”
“ช่วงสิบโมงน่ะ เธออยู่ด้วยหรือเปล่า”
“ไม่น่าจะอยู่นะ ฉันน่าจะออกไปพบลูกค้ากับพี่ขวัญ ทำไมเหรอ?”
“ฉันไม่อยากเจอพี่วินท์กับพี่วิชญ์เลย ถ้าเจอ กลัวว่าพี่เขาจะทักฉันสิ แล้วพี่ๆ ที่ทำงานทุกคนก็จะรู้ ว่าฉันเป็นน้องของท่านประธานบริษัท แล้วฉันจะฝึกงานที่ต่อยังไงอ่ะ ฉันอึดอัด”
“อึดอัดอะไร...สักวัน...พวกพี่ๆ เขาก็ต้องรู้อยู่แล้ว เธอก็ทำตัวเฉยๆ สิ ตอนที่พี่วินท์กับพี่วิชญ์เดินมา ทำเนียนนิ่งไป ก็จบแล้ว”
พี่วินท์ (กวินท์)กับพี่วิชญ์ (กรวิชญ์)ที่เพื่อนของเกวลินพูดถึง ก็คือพี่ชายของอลินดา พี่วิชญ์เป็นพี่ชายคนโตซึ่งเป็นประธานบริษัทเตชะวรากูลเอนจิเนียร์ จำกัด ส่วนพี่วินท์เป็นรองประธานบริษัท โดยอลินดาเพื่อนของเธอนั้น มีศักดิ์เป็นน้องสาวบุญธรรม ซึ่งไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน
“แล้วถ้าพี่เขาทักฉันล่ะ จะทำยังไง”
“ก็ยกมือไหว้ สวัสดีตามปกติ”
ความที่...อลินดากับพี่ชาย...ในอดีตนั้นเคยมีเหตุการณ์ Something บางอย่างด้วยกัน ก็เลยทำให้เพื่อนของเกวลินอึดอัดที่จะต้องเผชิญหน้า ความกังวลนี้ เกวลินรู้มาตลอด
“แต่...”
“เธอไม่ต้องกังวลอะไรเลยน้ำตาล เรื่องของเธอกับพี่วินท์มันผ่านไปสองปีแล้ว นี่จะเข้าปีที่สามแล้วนะ เหตุการณ์ตอนนี้กับเมื่อก่อนมันไม่เหมือนกันเลย เธอไม่ต้องกลัวว่าพี่วินท์เขาจะทำอะไรเธอได้หรอก เชื่อฉันสิ”
เรื่องของเกวลินกับอลินดานั้น ค่อนข้างที่จะคล้ายกันกับเธอแต่แตกต่างกันตรงที่ อลินดากับพี่ชายตัวเองซึ่งไม่ใช่สายเลือดเดียวกันสำหรับเกวลินนั้น กับพี่รหัสของตัวเอง และซ้ำร้ายไปกว่านั้น พี่วินท์กับพี่รหัสของเธอ ดันเป็นเพื่อนร่วมแก๊งเดียวกันอีก
“เฮ้อ...อยู่ที่บ้าน พี่วินท์ก็คอยแต่จะแขวะฉันตลอด ไม่รู้เป็นอะไร ฉันอุตส่าห์ไม่ยุ่งกับพี่เขาแล้วนะ”
“อืม...ก็อย่างที่ฉันเคยบอกเธอแหละน้ำตาล พี่วินท์ชอบเธอนะ แต่ไม่กล้าที่จะแสดงออกให้ชัดเจน ว่าชอบเธอ”
“ชอบอะไรล่ะ ฉันไม่สนพี่เขาแล้ว เลิกรัก พี่เขาไปตั้งนานแล้ว ไม่มีทางหรอก ที่ฉันจะกลับไปเจ็บเหมือนเดิมอีก”
“แล้วหนีพี่เขาพ้นมั้ยล่ะ วันนี้ก็ตามที่บริษัทอีก ทำใจดีกว่า เชื่อฉันดิ พี่วินท์ชอบเธอ และจะคอยตามติดชีวิตเธอไปแบบนี้แหละ น้ำตาล”
“ฉันก็อยากทำให้ได้อย่างที่เธอพูดนะข้าว อยากจะปลงกับชีวิตของตัวเอง เมื่อก่อน ฉันชอบพี่วินท์มาก แต่พี่วินท์กลับปฏิเสธฉัน แต่พอฉันเลิกชอบพี่เขา แต่พี่เขากลับมาชอบฉัน เฮ้อ...เหนื่อยใจจริงๆ หัวใจของฉัน ไม่ได้มีไว้ให้พี่วินท์ล้อเล่นแบบนี้นะ ว่าแต่เธอเองเถอะ ได้ข่าวคราวของพี่ชินทร์บ้างมั้ย...ขอโทษนะที่ถาม ฉันเห็นพี่วินท์ ฉันก็อดนึกถึงพี่ชินทร์ไม่ได้ เขาเป็นเพื่อนกลุ่มแก๊งเดียวกัน”
“ฉันเคยเจออยู่ครั้งหนึ่ง เขามากับแฟนเขาน่ะ น่าจะพากันมาทานข้าวแหละ พี่ชินทร์ไม่เห็นฉัน แต่ฉันเห็นพี่เขานะ ตอนนี้พี่เขาไม่ได้มีผลกับฉันหรอกนะน้ำตาล ฉันไม่สนใจ และลืมพี่เขาไปแล้ว”
“และถ้าเจอต่อหน้าล่ะ เธอจะทำยังไง”
“ก็ปกติ แต่ฉันจะไม่คุยไม่ทักพี่เขาหรอก ไม่มีอะไรให้ต้องเกี่ยวข้องกัน ทำไมฉันจะต้องไปสนใจพี่เขาด้วยเล่า”
ระยะเวลาเกือบสามปีแล้ว ที่เกวลินใช้ชีวิตของเธออย่างปกติสุข เรียน เที่ยวเล่น ทำงาน ทุกอย่างที่เกวลินทำ ก็นับว่ามีความสุขอย่างที่สุดแล้ว
“ฉันคิดว่า เธอปากกับใจไม่ตรงกันนะข้าว...”
“ห๊ะ! อะไรทำให้เธอคิดแบบนี้เนี่ย น้ำตาล”
“ไม่รู้แหละ ฉันมีความรู้สึกว่า เธอน่าจะยังลืมพี่ชินทร์ไม่ได้หรอก เซ้นท์ (Sense) ฉันมันบอกอย่างนั้นนะ”
“เซ้นท์ง่อยๆ ของเธอน่ะสิ เธอบ้าไปแล้วเหรอน้ำตาล ฉันเป็นคนที่ตัดความสัมพันธ์กับพี่ชินทร์เองนะ ฉันจะไปจำพี่เขาทำไมอีก ถ้าฉันคิดจะคบกับเขา ฉันก็คงตกลงให้พี่ชินทร์รับผิดชอบฉันตั้งแต่แรกแล้วมั้ง...ตรรกะความคิดอะไรของเธอ บ้าบอชะมัด”
ถึงแม้ว่าเขาจะคอยตามตื้อเธออยู่หลายครั้ง แต่ว่าเกวลินก็ไม่สนใจ เหตุผลของเธอง่ายๆ คือ ถ้าเขารับผิดชอบเธอ จะด้วยการแต่งงานหรือว่าอะไรก็แล้วแต่ เกวลินคิดว่า ระหว่างเธอกับเขาคงไปกันไม่รอดแน่นอน ที่สำคัญ ครอบครัวของเกวลินกับเขานั้น แตกต่างกันมาก เขาเป็นผู้ชายที่หล่อและบ้านรวยเป็นมหาเศรษฐีขนาดนั้น ไม่มีวันที่ครอบครัวเธอกับเขาจะเข้ากันได้ มันไม่มีอะไรที่จะเหมือนกันเลยสักนิด แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
“เธอจะคิดว่าฉันบ้าก็แล้วแต่เธอเลย แต่ฉันคิดแบบนี้จริงๆ นะข้าว ฉันเป็นเพื่อนเธอมาสิบกว่าปีแล้ว เราสองคนแทบจะสิงร่างของกันและกันแล้ว มีเหรอ ที่ฉันจะไม่เข้าใจเธอ ฉันคิดว่า เธอไม่กล้ายอมรับต่างหาก ว่าชอบพี่ชินทร์”
“ยัยบ้า...เธอเอาอะไรมาคิดเนี่ย ฉันเนี่ยนะ จะชอบพี่เขา เธอดูหนังดูซีรี่ย์เยอะเกินไปหรือเปล่า มั่วล่ะ...”
“ไม่มั่ว เธอคิดดูสิข้าว ความสัมพันธ์ทางกายระหว่างเธอกับพี่ชินทร์ มันจะไม่มีผลอะไรบ้างเหรอ?”
“ไม่มี! ฉันไม่ได้มีความรู้สึกอะไรทั้งนั้น เธอเองก็เหมือนกันนะน้ำตาล เธอก็มีความสัมพันธ์กับพี่วินท์ แสดงว่าตอนนี้เธอก็ต้องรู้สึกกับพี่วินท์เหมือนกันอ่ะดิ...เธออย่าเอาตรรกะบ้าบอของเธอมาตัดสินฉันนะ ฉันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลย”
เกวลินปิดล็อคหัวใจของตัวเองไว้มานานแล้ว เธอไม่เคยมีความรัก ถึงแม้จะมีใครต่อใครหลายคนพูดว่า ไม่น่าเชื่อ ว่าคนอย่างเกวลินนั้นเหรอจะไม่มีแฟน ใช่! มันเป็นแบบนั้นจริงๆ เธอไม่มีแฟน ไม่มีความรัก เหตุผลของการไม่มี ก็คือบาดแผลที่มันตราตรึงอยู่ในใจและร่างกายของเกวลินมาตลอดนั่นเอง เธอไม่ได้เป็นสาวบริสุทธิ์อีกต่อไปแล้ว เธอมีมลทิน ที่ล้างยังไง ก็ไม่ยอมออกสักที...
@นนทบุรี...@บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์น “ตกลงว่า เรื่องนี้ ก็เอาตามนี้ก็แล้วกัน ในเมื่อเด็กๆ เขาชอบพอกัน ให้เขาตกลงกันเอง จะหมั้นหรือจะแต่ง ก็แล้วแต่พวกเขาก็แล้วกันนะ” “ครับ ผมต้องขอบคุณแทนลูกชายผมด้วยครับ ที่เมตตาเอ็นดูตาชินทร์ ผมเลี้ยงลูกตามใจมาตลอด ต้องขอโทษด้วยครับ ที่ไปทำเรื่องล่วงเกินลูกสาวของคุณฐานทัพ...อืม...ความจริงเรียกคุณหมอดีกว่านะครับ” “ได้ครับ เอาที่คุณสะดวกครับ ยังไง อีกหน่อยเราสองครอบครัว ก็ต้องเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วครับ” “ดิฉัน ต้องขอบคุณด้วยค่ะ ที่เอ็นดูตาชินทร์ เราสองคนดีใจมากค่ะ ที่ตาชินทร์ชอบพอกับลูกสาวของคุณ เรื่องหมั้นเรื่องแต่ง เดี๋ยวให้เขาสองคนตกลงกันก็ได้ค่ะ ทางเราพร้อมเสมอค่ะ”จันทร์ทิพย์เอ่ยเสริม พร้อมกับปรายตามองว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอ ลูกชายของเธอตาถึงไม่เบาเลยนะ เลือกได้ดี สวย น่ารัก บุคลิกทุกอย่างเหมาะสมกับลูกชายเธอมาก เรื่องฐานะทางครอบครัว จันทร์ทิพย์ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจเลย ขอเพียง ลูกชายสุดที่รักของเธอชอบก็เพียงพอแล้ว “ค่ะ ก็คงจะต้องหมั้นไว้ก่อนค่ะ ยัยข้าวยังเรียนไม่จบเลย ก็น่าจะเกือบสองปีค่ะ แต่งตอนนี้ ค
ในเวลาต่อมา...สายสนทนา... “ว้าว! เริ่ด! พี่ชินทร์สุภาพบุรุษสุดๆเลยอ่ะ” “ฉันเล่าให้เธอฟัง เพื่อจะขอคำปรึกษานะ น้ำตาล ไม่ใช่ไปอยู่ข้างพี่เขา”หลังจากที่พ่อแม่กลับไป เขาก็กลับไปเคลียร์ที่บ้าน ส่วนเกวลินก็อัดอั้นตันใจ จนต้องโทรมาระบายกับเพื่อนสาวของเธอ “เธอจะต้องปรึกษาอะไรกันอีก ในเมื่อเรื่องของเธอกับพี่ชินทร์มันมาไกลขนาดนี้แล้ว เธอต้องปล่อยแล้วมั้ย จะกังวลทำไมอีก ฉันไม่เข้าใจเธอเลย...” “ฉัน...” “เธอกังวลเรื่องพ่อแม่ของพี่ชินทร์ใช่มั้ย หรือเธอกังวลเรื่องการถอนหมั้นของพี่เขา ฉันขอบอกไว้เลยนะ เรื่องพวกนี้ เธอไม่ต้องเอามาคิดหรอก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่ชินทร์ ให้พี่เขาจัดการเอง พรุ่งนี้ เธอก็แค่กลับบ้านไปเตรียมต้อนรับพ่อแม่พี่ชินทร์ก็พอ...อย่าเครียดเลย มันไม่มีอะไร” “ฉันเครียดเรื่องถอนหมั้นของเขานี่แหละ คนอื่นจะคิดว่า ฉันเป็นคนแย่งพี่ชินทร์มาจากคู่หมั้นเขาหรือเปล่า และพ่อแม่ของเขาจะคิดยังไง มันเป็นเรื่องวุ่นวายมากเลยนะ น้ำตาล” “เธอไม่ได้เป็นคนแย่งพี่ชินทร์นะ เข้าใจซะใหม่ ความจริงถ้าเธอตกลงกับพี่เขาตั้งแต่แรก พี่ชินทร์ก็ไ
เช้าวันต่อมา... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้นมือเรียวบางเลื่อนออกมาจากผ้าห่ม ควานหาตามเสียงเรียกเข้าที่ดังอยู่ไม่หยุด บนโต๊ะหัวเตียง เสียงสั่นจากโทรศัพท์ยิ่งเร่งให้เธอรีบหาต้นเหตุของเสียงนั้น“ค่ะ...มะ-แม่”เกวลินเหลือบมองคนที่นอนอยู่ข้างกายเธอ“แม่กับพ่อ มาแวะมาหาลูก อีก ห้านาทีลงมาเปิดประตูให้พ่อกับแม่ด้วยนะ”“คะ? อะไรนะคะ!! แม่กับพ่อกำลังจะมาหาข้าวงั้นเหรอคะ ละ-แล้วทำไม ไม่โทรบอกข้าวก่อนล่ะคะ”“ก็บอกก่อนนี่ไง ทำไมเหรอ? หรือลูกไม่อยู่ที่ห้อง อืม ตอนนี้ก็พึ่งจะเก้าโมงเองนะ วันเสาร์ด้วย”“เออ คือว่า ข้าวแค่ตกใจค่ะแม่ ความจริงแม่ต้องบอกข้าวก่อนสิคะ”เกวลินหันไปมองคนตัวใหญ่ ที่ยังคงหลับลึกไม่ยอมตื่น“อ่ะ งั้น อีกห้านาทีแม่จะถึงแล้ว ลงมาเปิดประตูให้แม่ด้วยนะ แค่นี้แหละ”ตึ๊ด! ตึ๊ด!ปลายสายถูกตัดไปเกวลินกำลังอยู่ในอาการตกใจ เธอควรจะทำอะไรก่อนดีนะ เวลาห้านาที มันจะทำอะไรได้ล่ะ บ้าจริง!“พี่ชินทร์!! พี่ตื่นเถอะค่ะ”เกวลินเขย่าคนตัวใหญ่ พ่อกับแม่จะเห็นเธอกับเขาอยู่ในสภาพนี้ไม่ได้เด็ดขาด“อึ้มม์...พี่ขอนอนอีกหน่อยนะ”“ไม่ได้! พี่ต้องตื่นเดี๋ยวนี้นะ!”เกวลินลุกขึ้น พร้อมกับรีบคว้
“เหตุผล...ที่พี่ทำกับข้าวทั้งหมด...ก็เพราะ...พี่รักข้าวนะ”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน แม้ใบหน้าคมยังคงฉาบด้วยท่าทีมั่นคง แต่ลึกลงไปภายในกลับปั่นป่วนจนแทบควบคุมไม่อยู่ ทุกถ้อยคำที่เขาพูดออกมานั้นล้วนมาจากความจริงในใจเขาทั้งหมด เพราะนี่คือสิ่งที่เตชินทร์ไม่เคยเอ่ยกับใคร“...!!!”ดวงตาของเธอเบิกกว้างในทันทีที่ได้ยินถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากเขา สมองของเกวลินเหมือนหยุดทำงานชั่วขณะ ร่างกายของเธอแข็งทื่อราวกับถูกตรึงให้อยู่กับที่หัวใจเธอเต้นแรงสะท้อนก้องอยู่ในอก ทั้งที่ปากอยากจะโต้กลับ อยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล แต่กลับไม่มีเสียงใดเปล่งออกมา มีเพียงความเงียบที่ห่อหุ้มเธอเอาไว้ ดวงตาที่เธอไม่กล้าสบตรง ๆ กับเขาเพราะรู้ดีว่าในนั้นมีบางสิ่งร้อนแรงและจริงจังเกินกว่าจะปฏิเสธได้ง่าย ๆ“พี่รักเธอจริงๆ นะ ถึงเธอจะปฏิเสธพี่ แต่พี่ก็ยังรักเธออยู่ดี”เตชินทร์เผยความรู้สึกของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา ตอนแรกเขาคิดว่า ‘แค่เสียหน้า เพราะถูกปฏิเสธ’ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ เขาชอบเธอต่างหากที่เป็นเรื่องจริง“เอ่อ...แล้วพี่...ทำไมถึงรักข้าวล่ะคะ?”เมื่อตั
@ โมเดิร์นคอนโด... “เฮ้อ...”เสียงถอนหายใจแบบยาวๆ ดังขึ้น หลังจากที่เกวลินวางสายสนทนาจากเพื่อนรักของเธอ เกวลินได้เล่าเรื่องที่เธอประสบพบเจอมาในวันนี้ให้อลินดาฟัง สงสัย เธอคงจะหนีผู้ชายคนนี้ไม่พ้นเสียแล้วจริงๆอลินดาบอกเธอว่า... ‘เธอควรจะทำใจ และยอมรับพี่เขาได้แล้วนะ’ ‘ฉันต้องทำแบบนั้นจริงๆ ใช่มั้ย น้ำตาล’ ‘ใช่! พี่ชินทร์ทำถึงขนาดนี้แล้ว เชื่อฉันสิ พี่ชินทร์ชอบเธอมาก ฉันว่า เป็นเรื่องดีนะ ถ้าตัดความเพลย์บอยออก พี่ชินทร์ก็เป็นผู้ชายที่โอเคคนหนึ่งเลยแหละ’ “...”เกวลินกำลังนึกย้อนถึงคำพูดของเพื่อนเธอ ‘เพลย์บอยนี่แหละ คือเรื่องที่สำคัญสำหรับฉัน’ อุปสรรคระหว่างเกวลินกับเขา มันไม่ใช่แค่เรื่องที่เขามีคู่หมั้นหรอกนะ เรื่องที่เธอต้องกังวลมากที่สุดก็คือ เรื่องครอบครัวของเขา กับครอบครัวของเธอต่างหากคือปัญหาใหญ่ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็เจอแต่ทางคู่ขนาน ที่ไม่สามารถจะบรรจบกันได้... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้น เกวลินกดเลื่อนดูสายเรียกเข้านั้น ‘นี่เขาจะไม่ให้เธอได้พักเรื่องของเขาบ้างเลยหรือไง’นิ้วเรียวยาวกดรับสายสนทนานั้น
“เมียงั้นเหรอ! กรี๊ดดดดดด!!!”เสียงกรีดร้องของเพนนีดังลั่นจนทะลุไปถึงข้างนอก เลขาที่เฝ้าดูสถานการณ์อันน่าหวาดเสียวนี้ ก็รีบวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น “คุณเตชินทร์คะ? มีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ไม่มีอะไร...”เตชินทร์ตอบด้วยสีหน้าราบเรียบนิ่งเฉย ราวกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย เกมนี้เขารู้อยู่แล้ว ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นอย่างไร “ปล่อยนะ...”เกวลินพยายามขืนตัวออกจากการอ้อมกอดของเขา พร้อมกับเหลือบมองไปที่ผู้หญิงอีกคน ที่ยืนตาโตหน้าแดงกำมือแน่นพร้อมเอาเรื่องได้ตลอดเวลา “เพนนีจะไม่ยอมถอนหมั้นให้พี่แน่นอน พี่ชินทร์ทำกับเพนนีแบบนี้ มันหยามเพนนีเกินไป คอยดู! เพนนีจะไปบอกคุณลุงกับคุณป้า ว่าพี่ชินทร์เอาผู้หญิงข้างถนน...อ่อ...ไม่ใช่แค่นั้นสิ...ยังเป็นนักศึกษาอยู่ด้วย เธอคงจะรอเวลานี้มานานแล้วสินะ!” “ดิฉันไม่ได้...”เกวลินกำลังจะโต้กลับ แต่ทว่าก็มีคำพูดหนึ่งแทรกขึ้นมาก่อน ประโยคนั้นทำให้เธอตกใจเพิ่มขึ้นไปอีก “นั่นมันก็แล้วแต่เธอเลย พี่คุยป๊ากับม๊าของพี่เรียบร้อยแล้วว่าพี่จะถอนหมั้นกับเธอ พี่ไม่ได้ชอบเธอ แต่พี่ชอบคนนี้”เตชินทร์กระชับอ้