LOGIN@แผนกฝ่ายขาย...
“พี่ชินทร์ปรากฏตัววันนี้ ต้องมีอะไรแน่นอน อยู่ดีๆ ก็มาเฉยเลยเธอคิดแบบนั้นมั้ย ข้าวตู”
“ไม่รู้สิ...ฉันกับพี่เขา ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันอยู่แล้วนี่”
“เธอแน่ใจนะข้าวตู ว่าไม่เกี่ยวกับเธอ”
“ใช่...ไม่เกี่ยวกับฉันเลย...”
“แต่สีหน้าของเธอตอนนี้ มันเหมือนเธอกำลังหนักใจอะไรบางอย่างอยู่นะ....มีอะไรหรือเปล่า”
“ฉันก็กำลังเครียด ที่ตัวเองจะต้องไปทำงานกับเขาก็แค่นั้นเอง ตอนนี้...ฉันกำลังหาวิธีที่จะปฏิเสธพี่ขวัญอยู่”
“ปฏิเสธทำไม? ในเมื่อเธอบอกว่า เธอกับพี่ชินทร์ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน ก็ไม่เห็นจะต้องกลัวนี่...หืม...เธอก็ทำงานต่อได้”
“ถ้าเป็นไปได้ ฉันไม่อยากจะเห็นเขา หรือร่วมงานกับเขาเลยยิ่งดี...”
เกวลินกลัวความจริงบางอย่างของเธอกับเขาถูกเปิดเผย เรื่องที่เธอโดนเขารังแก เกวลินเก็บความลับเรื่องนี้มาตลอด ขนาดอลินดาเพื่อนรักของเธอ เกวลินก็ไม่เคยปริปากบอกเลยสักคำ
“ฉันไม่เข้าใจเธอเลยนะข้าวตู”
“ไม่เข้าใจอะไร? ฉันมีอะไรเหรอ?”
“เซ้นต์ (sense) ของฉัน มันกำลังบอกฉันว่า เธอยังแคร์พี่ชินทร์อยู่นะ แต่เธอเอง ยังไม่ยอมรับ...”
“เซ้นต์บ้าอะไรของเธอ...น้ำตาล”
เกวลินไปพลาดเผลอแสดงอะไรตอนไหน ที่ทำให้เพื่อนของเธอ ถึงคิดว่า เกวลินแคร์เขากันนะ
“เอาน่า...ฉันเดาไม่พลาดแน่นอน ความจริงถ้าเธอรู้สึกกับพี่ชินทร์ เธอก็น่าจะยอมรับ และลองคบกับพี่เขาดูก็ได้นะข้าวตู”
“ฉันจะไปทำแบบนั้นทำไมน้ำตาล วันนี้ พี่ชินทร์เขาก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะสนใจฉันเลย อีกอย่าง ฉันได้ข่าวว่า พี่ชินทร์ก็มีคู่หมั้นแล้ว ทำไมฉันจะต้องเอาตัวเองไปเกี่ยวข้องกับพี่เขาด้วยล่ะ”
“อุ้ย! ขนาดเธอไม่ได้สนใจพี่เขานะ เธอยังรู้เรื่องที่เขาหมั้นด้วยอ่ะ...”
“พี่เขาหมั้นตั้งแต่ พวกเราอยู่ปีหนึ่งแล้วมั้ง หลังจากที่เธอกับฉันเกิดเรื่องตอนนั้นไง”
ความจริงมันเกิดขึ้นหลังจากที่เขาทำเรื่องร้ายๆ กับเธอต่างหาก อลินดาไม่รู้ และเธอก็เลือกที่จะไม่บอกความโชคร้ายของเธอกับเพื่อนเอง
“เหรอ? งั้น พี่ชินทร์มีคู่หมั้นแล้ว เธอกับพี่ชินทร์ ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้แล้วน่ะสิ...ว้า...แย่จัง”
“เธอคิดอะไรของเธอ...น้ำตาล เรื่องของฉันกับพี่ชินทร์ มันเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว ฉันไม่ได้ชอบพี่เขา คนเจ้าชู้มากรักอย่างพี่ชินทร์ ฉันNo สน No แคร์จ่ะ...”
“อือหือ...งั้น…เธอก็ไม่ต้องเครียด ที่จะต้องไปทำงานร่วมกับพี่เขาแล้วสิ ตอนไปทำ ก็ท่องเอาไว้ว่า พี่เขามีคู่หมั้นแล้ว ก็พอนะ...”
“ถึงมีคู่หมั้นแล้ว ฉันก็ไม่อยากเจออยู่ดี”
“เธอไม่น่าจะเป็นคนฝังใจอะไรขนาดนั้นนะข้าวตู หรือว่า”
“อะไร? หรือว่าอะไร?”
“ไม่พูดดีกว่า ฝากไว้ให้คิดเองก็แล้วกันนะ”
“ยัยน้ำตาล! บอกมานะ ฉันคาใจ เรื่องอะไร...”
เวลา 14.00 น.
@ห้องประชุมแผนกฝ่ายขาย...
“พี่กับพวกน้องๆ ในทีมงาน กำหนดรายละเอียดที่จะเตรียมพรีเซนต์ให้กับคุณเตชินทร์เรียบร้อยแล้วนะ ส่วนของข้าวตู พี่จะให้ช่วยเรื่องของการออกแบบโครงสร้างเครื่องจักรแต่ละตัว พร้อมกับลงรายละเอียด ให้ทางลูกค้าเข้าใจ ว่าเครื่องจักรของเราที่นำไปเสนอ มันใช้งานยังไง”
“ได้ค่ะพี่ขวัญ”
ท้ายสุดแล้ว เกวลินก็หนีเรื่องนี้ไม่พ้นอยู่ดี เธอต้องร่วมงานโปรเจกต์นี้ ด้วยความที่เป็นเด็กฝึกงาน ปฏิเสธไม่ได้ พวกพี่เขาให้ทำอะไร เกวลินก็ต้องน้อมรับคำสั่งเท่านั้น
“แต่ถ้าข้าว ทำเสร็จเมื่อไหร่ พี่จะพาทีมงานไปนำเสนอที่บริษัทของคุณเตชินทร์เลยนะ ยิ่งเร็วก็ยิ่งดีนะ บริษัทเขาจะได้เห็นถึงศักยภาพการทำงานของทีมB ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ”
“เอ่อ...แล้วพี่ขวัญให้เวลาข้าวกี่วันคะ?”
“สักสองวันพอมั้ย”
“ห้าวันไม่ได้เหรอคะ”
“พี่อยากได้สองวันนะ แต่ตรงไหนที่ข้าวทำไม่ทัน เดี๋ยวพี่ให้นายเก่งไปช่วยล่ะกัน โอเค มั้ยเก่ง ช่วยน้องข้าวหน่อยนะ”
“ได้ครับพี่ขวัญ”
“ค่ะพี่ขวัญ”
เกวลินหาทางหลบตรงไหนไปไม่ได้เลย เฮ้อ...
3 วันต่อมา...
@ บริษัทเชาวกรกุล จำกัด...
“มาเร็วข้าว เข้ามา รีบมานั่งสิ”
ขวัญรดากวักมือเรียกลูกน้องฝึกงานของเธอ วันนี้นัดนำเสนองานของทีมขวัญรดาเริ่มขึ้นแล้ว เธอเตรียมความพร้อมทุกอย่างเรียบร้อย ก่อนที่จะทำการนัดเจ้าของบริษัทที่เป็นลูกค้าของเธอผ่านเลขา และจึงเป็นที่มา ของการมาตามนัดในวันนี้...
“อ่อ...ค่ะๆ”
เกวลินที่กำลังยืนตะลึงอยู่ตรงหน้าประตู เธอรีบสาวเท้าเข้าไปในห้องทันที สายตาของเธอกวาดไปทั่วบริเวณห้องประชุมใหญ่ที่โอ่อ่าและหรูหรามีระดับเกินกว่าจะเรียกว่าห้องสำหรับการประชุม
เพดานสูงประดับโคมไฟคริสตัลระยิบระยับ แสงไฟสะท้อนกับผิวโต๊ะหินอ่อนกลางห้องจนแสบตา เก้าอี้หนังแท้เรียงรายรอบโต๊ะอย่างสง่างาม ราวกับทุกที่นั่งคือบัลลังก์ที่พร้อมจะตัดสินชะตาของใครสักคน
ผนังไม้เข้มดูขรึมขลังถูกขับเน้นด้วยกรอบทองส่องประกาย เกวลินเห็นภาพศิลป์ขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่กลางห้อง แม้จะเป็นเพียงงานศิลปะ แต่กลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกมองจากสายตาที่เย็นชาและเหนือกว่า พรมเนื้อหนานุ่มที่เท้าเหยียบย่ำควรจะให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่กลับยิ่งทำให้บรรยากาศหนักอึ้งจนหายใจไม่ทั่วท้อง
แม้จะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้สดลอยอบอวลอยู่ แต่เกวลินกลับไม่อาจรู้สึกผ่อนคลายได้เลย ความเงียบในห้องนั้นหนาวเย็นยิ่งกว่าเสียงใด ๆ และเมื่อเกวลินนั่งลง เธอแทบจะได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นแรงก้องกังวานอยู่ในอก
“เป็นอะไรข้าว”
“เอ่อ...เปล่าค่ะพี่ขวัญ”
“บริษัทคุณเตชินทร์ใหญ่และหรูหรามากเลยนะ ตอนที่พี่เข้ามานี่ขนลุกไปหมดเลย ร่ำรวยขนาดนี้ เธอรู้มั้ยว่าคุณเตชินทร์เป็นลูกเดียวด้วยนะ ทรัพย์สมบัติก็มากมายมหาศาลขนาดนี้ จะใช้ยังไงหมดเนี่ย”
“แต่คุณเขาก็มีคู่หมั้นแล้วนะคะพี่ขวัญ”
“แกรู้ได้ยังไงยัยแพร?”
“เอ๊า! พี่! เราจะมานำเสนอสินค้าให้กับลูกค้า เราก็ต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าบ้างสิคะ”
“แกศึกษาเรื่องส่วนตัวเขาเนี่ยนะยัยแพร”
“แหม...พี่ เรื่องที่คุณเตชินทร์มีคู่หมั้น มันเกิดขึ้นเกือบจะสามปีแล้วมั้งคะ”
“ตายจริง! ฉันตกข่าวไปเหรอเนี่ย…แล้วเธอรู้กับเขาหรือเปล่ายัยข้าวตู...”
“ก็...พอรู้ค่ะ” เกวลินรู้ยิ่งกว่ารู้ซะอีก
“แล้วเก่งล่ะ แกเป็นผู้ชาย รู้เรื่องพวกนี้กับเขาบ้างมั้ย”
“ผมจะไปรู้ได้ยังไงครับพี่ เรื่อง*ซอกแซกแบบนี้ มีแต่ผู้หญิงเท่านั้นแหละที่สนใจ”
“อ่าว...ไอ่นี่! แกจะว่าพวกฉัน*ซอกแซกเพราะเสือกงั้นเหรอ?”
“เปล่าครับพี่ขวัญ ผมไม่ได้ว่าพี่เสือกกันนะครับ”
“แต่ฉันก็เข้าใจแบบพี่ขวัญนะเก่ง ความหมายคือแก ว่าพวกฉันแหละ”
“จริงๆ เรื่องของคุณเตชินทร์ ในหน้าข่าวบันเทิงย้อนหลังก็มีนะคะ เราค้นหาดูได้ค่ะ เขาไม่ได้ปิดบังอะไรเลยค่ะ”
เกวลินกดสมาร์ทโฟนค้นหาในสิ่งที่เธอพูด จนเจอภาพงานหมั้นของตระกูลเชาวกรกุลที่ยิ่งใหญ่...
“โห...งานอลังมาก...คู่หมั้นคุณเตชินทร์น่ารักดีนะ เหมาะสมกันดี ตระกูลคนรวย ก็ต้องจับคู่กับคนรวย น่าอิจฉาจัง เลยนะ...ข้าวตู”
“อ่อค่ะ แต่...เราจะไปอิจฉาเขาทำไมคะ? เขารวย ก็ต้องเหมาะกับคนรวยสิคะพี่”
ใช่! เกวลินจะไปอิจฉาคู่หมั้นของเขาทำไม ในเมื่อเธอกับเขา มันอยู่คนละเส้นทางกันแล้ว ไม่มีทางที่จะเกี่ยวข้องกันเลยสักนิด...
@นนทบุรี...@บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์น “ตกลงว่า เรื่องนี้ ก็เอาตามนี้ก็แล้วกัน ในเมื่อเด็กๆ เขาชอบพอกัน ให้เขาตกลงกันเอง จะหมั้นหรือจะแต่ง ก็แล้วแต่พวกเขาก็แล้วกันนะ” “ครับ ผมต้องขอบคุณแทนลูกชายผมด้วยครับ ที่เมตตาเอ็นดูตาชินทร์ ผมเลี้ยงลูกตามใจมาตลอด ต้องขอโทษด้วยครับ ที่ไปทำเรื่องล่วงเกินลูกสาวของคุณฐานทัพ...อืม...ความจริงเรียกคุณหมอดีกว่านะครับ” “ได้ครับ เอาที่คุณสะดวกครับ ยังไง อีกหน่อยเราสองครอบครัว ก็ต้องเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วครับ” “ดิฉัน ต้องขอบคุณด้วยค่ะ ที่เอ็นดูตาชินทร์ เราสองคนดีใจมากค่ะ ที่ตาชินทร์ชอบพอกับลูกสาวของคุณ เรื่องหมั้นเรื่องแต่ง เดี๋ยวให้เขาสองคนตกลงกันก็ได้ค่ะ ทางเราพร้อมเสมอค่ะ”จันทร์ทิพย์เอ่ยเสริม พร้อมกับปรายตามองว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอ ลูกชายของเธอตาถึงไม่เบาเลยนะ เลือกได้ดี สวย น่ารัก บุคลิกทุกอย่างเหมาะสมกับลูกชายเธอมาก เรื่องฐานะทางครอบครัว จันทร์ทิพย์ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจเลย ขอเพียง ลูกชายสุดที่รักของเธอชอบก็เพียงพอแล้ว “ค่ะ ก็คงจะต้องหมั้นไว้ก่อนค่ะ ยัยข้าวยังเรียนไม่จบเลย ก็น่าจะเกือบสองปีค่ะ แต่งตอนนี้ ค
ในเวลาต่อมา...สายสนทนา... “ว้าว! เริ่ด! พี่ชินทร์สุภาพบุรุษสุดๆเลยอ่ะ” “ฉันเล่าให้เธอฟัง เพื่อจะขอคำปรึกษานะ น้ำตาล ไม่ใช่ไปอยู่ข้างพี่เขา”หลังจากที่พ่อแม่กลับไป เขาก็กลับไปเคลียร์ที่บ้าน ส่วนเกวลินก็อัดอั้นตันใจ จนต้องโทรมาระบายกับเพื่อนสาวของเธอ “เธอจะต้องปรึกษาอะไรกันอีก ในเมื่อเรื่องของเธอกับพี่ชินทร์มันมาไกลขนาดนี้แล้ว เธอต้องปล่อยแล้วมั้ย จะกังวลทำไมอีก ฉันไม่เข้าใจเธอเลย...” “ฉัน...” “เธอกังวลเรื่องพ่อแม่ของพี่ชินทร์ใช่มั้ย หรือเธอกังวลเรื่องการถอนหมั้นของพี่เขา ฉันขอบอกไว้เลยนะ เรื่องพวกนี้ เธอไม่ต้องเอามาคิดหรอก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่ชินทร์ ให้พี่เขาจัดการเอง พรุ่งนี้ เธอก็แค่กลับบ้านไปเตรียมต้อนรับพ่อแม่พี่ชินทร์ก็พอ...อย่าเครียดเลย มันไม่มีอะไร” “ฉันเครียดเรื่องถอนหมั้นของเขานี่แหละ คนอื่นจะคิดว่า ฉันเป็นคนแย่งพี่ชินทร์มาจากคู่หมั้นเขาหรือเปล่า และพ่อแม่ของเขาจะคิดยังไง มันเป็นเรื่องวุ่นวายมากเลยนะ น้ำตาล” “เธอไม่ได้เป็นคนแย่งพี่ชินทร์นะ เข้าใจซะใหม่ ความจริงถ้าเธอตกลงกับพี่เขาตั้งแต่แรก พี่ชินทร์ก็ไ
เช้าวันต่อมา... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้นมือเรียวบางเลื่อนออกมาจากผ้าห่ม ควานหาตามเสียงเรียกเข้าที่ดังอยู่ไม่หยุด บนโต๊ะหัวเตียง เสียงสั่นจากโทรศัพท์ยิ่งเร่งให้เธอรีบหาต้นเหตุของเสียงนั้น“ค่ะ...มะ-แม่”เกวลินเหลือบมองคนที่นอนอยู่ข้างกายเธอ“แม่กับพ่อ มาแวะมาหาลูก อีก ห้านาทีลงมาเปิดประตูให้พ่อกับแม่ด้วยนะ”“คะ? อะไรนะคะ!! แม่กับพ่อกำลังจะมาหาข้าวงั้นเหรอคะ ละ-แล้วทำไม ไม่โทรบอกข้าวก่อนล่ะคะ”“ก็บอกก่อนนี่ไง ทำไมเหรอ? หรือลูกไม่อยู่ที่ห้อง อืม ตอนนี้ก็พึ่งจะเก้าโมงเองนะ วันเสาร์ด้วย”“เออ คือว่า ข้าวแค่ตกใจค่ะแม่ ความจริงแม่ต้องบอกข้าวก่อนสิคะ”เกวลินหันไปมองคนตัวใหญ่ ที่ยังคงหลับลึกไม่ยอมตื่น“อ่ะ งั้น อีกห้านาทีแม่จะถึงแล้ว ลงมาเปิดประตูให้แม่ด้วยนะ แค่นี้แหละ”ตึ๊ด! ตึ๊ด!ปลายสายถูกตัดไปเกวลินกำลังอยู่ในอาการตกใจ เธอควรจะทำอะไรก่อนดีนะ เวลาห้านาที มันจะทำอะไรได้ล่ะ บ้าจริง!“พี่ชินทร์!! พี่ตื่นเถอะค่ะ”เกวลินเขย่าคนตัวใหญ่ พ่อกับแม่จะเห็นเธอกับเขาอยู่ในสภาพนี้ไม่ได้เด็ดขาด“อึ้มม์...พี่ขอนอนอีกหน่อยนะ”“ไม่ได้! พี่ต้องตื่นเดี๋ยวนี้นะ!”เกวลินลุกขึ้น พร้อมกับรีบคว้
“เหตุผล...ที่พี่ทำกับข้าวทั้งหมด...ก็เพราะ...พี่รักข้าวนะ”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน แม้ใบหน้าคมยังคงฉาบด้วยท่าทีมั่นคง แต่ลึกลงไปภายในกลับปั่นป่วนจนแทบควบคุมไม่อยู่ ทุกถ้อยคำที่เขาพูดออกมานั้นล้วนมาจากความจริงในใจเขาทั้งหมด เพราะนี่คือสิ่งที่เตชินทร์ไม่เคยเอ่ยกับใคร“...!!!”ดวงตาของเธอเบิกกว้างในทันทีที่ได้ยินถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากเขา สมองของเกวลินเหมือนหยุดทำงานชั่วขณะ ร่างกายของเธอแข็งทื่อราวกับถูกตรึงให้อยู่กับที่หัวใจเธอเต้นแรงสะท้อนก้องอยู่ในอก ทั้งที่ปากอยากจะโต้กลับ อยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล แต่กลับไม่มีเสียงใดเปล่งออกมา มีเพียงความเงียบที่ห่อหุ้มเธอเอาไว้ ดวงตาที่เธอไม่กล้าสบตรง ๆ กับเขาเพราะรู้ดีว่าในนั้นมีบางสิ่งร้อนแรงและจริงจังเกินกว่าจะปฏิเสธได้ง่าย ๆ“พี่รักเธอจริงๆ นะ ถึงเธอจะปฏิเสธพี่ แต่พี่ก็ยังรักเธออยู่ดี”เตชินทร์เผยความรู้สึกของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา ตอนแรกเขาคิดว่า ‘แค่เสียหน้า เพราะถูกปฏิเสธ’ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ เขาชอบเธอต่างหากที่เป็นเรื่องจริง“เอ่อ...แล้วพี่...ทำไมถึงรักข้าวล่ะคะ?”เมื่อตั
@ โมเดิร์นคอนโด... “เฮ้อ...”เสียงถอนหายใจแบบยาวๆ ดังขึ้น หลังจากที่เกวลินวางสายสนทนาจากเพื่อนรักของเธอ เกวลินได้เล่าเรื่องที่เธอประสบพบเจอมาในวันนี้ให้อลินดาฟัง สงสัย เธอคงจะหนีผู้ชายคนนี้ไม่พ้นเสียแล้วจริงๆอลินดาบอกเธอว่า... ‘เธอควรจะทำใจ และยอมรับพี่เขาได้แล้วนะ’ ‘ฉันต้องทำแบบนั้นจริงๆ ใช่มั้ย น้ำตาล’ ‘ใช่! พี่ชินทร์ทำถึงขนาดนี้แล้ว เชื่อฉันสิ พี่ชินทร์ชอบเธอมาก ฉันว่า เป็นเรื่องดีนะ ถ้าตัดความเพลย์บอยออก พี่ชินทร์ก็เป็นผู้ชายที่โอเคคนหนึ่งเลยแหละ’ “...”เกวลินกำลังนึกย้อนถึงคำพูดของเพื่อนเธอ ‘เพลย์บอยนี่แหละ คือเรื่องที่สำคัญสำหรับฉัน’ อุปสรรคระหว่างเกวลินกับเขา มันไม่ใช่แค่เรื่องที่เขามีคู่หมั้นหรอกนะ เรื่องที่เธอต้องกังวลมากที่สุดก็คือ เรื่องครอบครัวของเขา กับครอบครัวของเธอต่างหากคือปัญหาใหญ่ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็เจอแต่ทางคู่ขนาน ที่ไม่สามารถจะบรรจบกันได้... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้น เกวลินกดเลื่อนดูสายเรียกเข้านั้น ‘นี่เขาจะไม่ให้เธอได้พักเรื่องของเขาบ้างเลยหรือไง’นิ้วเรียวยาวกดรับสายสนทนานั้น
“เมียงั้นเหรอ! กรี๊ดดดดดด!!!”เสียงกรีดร้องของเพนนีดังลั่นจนทะลุไปถึงข้างนอก เลขาที่เฝ้าดูสถานการณ์อันน่าหวาดเสียวนี้ ก็รีบวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น “คุณเตชินทร์คะ? มีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ไม่มีอะไร...”เตชินทร์ตอบด้วยสีหน้าราบเรียบนิ่งเฉย ราวกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย เกมนี้เขารู้อยู่แล้ว ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นอย่างไร “ปล่อยนะ...”เกวลินพยายามขืนตัวออกจากการอ้อมกอดของเขา พร้อมกับเหลือบมองไปที่ผู้หญิงอีกคน ที่ยืนตาโตหน้าแดงกำมือแน่นพร้อมเอาเรื่องได้ตลอดเวลา “เพนนีจะไม่ยอมถอนหมั้นให้พี่แน่นอน พี่ชินทร์ทำกับเพนนีแบบนี้ มันหยามเพนนีเกินไป คอยดู! เพนนีจะไปบอกคุณลุงกับคุณป้า ว่าพี่ชินทร์เอาผู้หญิงข้างถนน...อ่อ...ไม่ใช่แค่นั้นสิ...ยังเป็นนักศึกษาอยู่ด้วย เธอคงจะรอเวลานี้มานานแล้วสินะ!” “ดิฉันไม่ได้...”เกวลินกำลังจะโต้กลับ แต่ทว่าก็มีคำพูดหนึ่งแทรกขึ้นมาก่อน ประโยคนั้นทำให้เธอตกใจเพิ่มขึ้นไปอีก “นั่นมันก็แล้วแต่เธอเลย พี่คุยป๊ากับม๊าของพี่เรียบร้อยแล้วว่าพี่จะถอนหมั้นกับเธอ พี่ไม่ได้ชอบเธอ แต่พี่ชอบคนนี้”เตชินทร์กระชับอ้