LOGINสายตาเธอจ้องมองไปที่ด้านหน้าเขานั่งตรงบริเวณหัวโต๊ะในท่วงท่าสงบนิ่ง ทั้งห้องเงียบกริบ เหมือนทุกคนกำลังตั้งใจฟังในสิ่งที่เขากำลังจะพูด ความเคร่งขรึมในแววตาคมไร้อารมณ์นั้นมันทำให้เกวลินไม่กล้าแม้แต่จะมองเขาแบบตรง ๆ
ในความคิดของเกวลินตอนนี้ เธออยากจะมุดแผ่นดินหนีออกไปจากที่นี่เหลือเกิน ท่าทีของเขา ช่างแตกต่างจาก พี่ชินทร์ ที่เกวลินเคยเจอมากๆ
สูทสีดำเรียบหรูที่โอบล้อมเรือนกายสูงใหญ่ของเขาเปรียบเสมือนเกราะที่ทำให้เขาดูห่างไกลและน่าเกรงขามมากขึ้น ยิ่งเมื่อมีเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมสองเม็ดเผยอกแกร่งกำยำของเขาด้วยแล้ว เธอกลับรู้สึกว่าภายใต้ความแข็งแรงนั้นแฝงพลังบางอย่างที่พร้อมจะกดทับเธอได้ทุกเมื่อ
“รายละเอียดโปรเจกต์เปิดสาขาที่เวียดนามของบริษัท ผมได้ให้เลขาของผมส่งให้บริษัทเตชะวรากูลเอนจิเนียร์ เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้น วันนี้ คุณพอจะนำเสนอโปรเจกต์ของคุณให้ผมฟังคร่าวๆ ได้มั้ยครับ”
สายตาคมเหลือบมองไปที่หัวหน้าสาวทีมB เพื่อรอคำตอบ แต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจ ใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เลย
“ได้ค่ะ คือเราจะมีทีมงานทั้งหมด 8 คนและแบ่งงานกันทำค่ะ แต่พอดีช่วงนี้เราได้เด็กฝึกงานเพิ่มมาอีกคน เรื่องเขียนแบบโครงสร้างของเครื่องจักร น้องข้าวตูเก่งมากค่ะ งานนี้คุณเตชินทร์ไม่ต้องห่วงนะคะ ทางเราจะรีบทำข้อมูลรายละเอียดของโปรเจกต์งาน ไปนำเสนอคุณอีกครั้งค่ะ”
“ได้ครับ...งั้น...ถ้าคุณขวัญรดาพร้อมที่จะพรีเซนต์เมื่อไหร่ ก็แจ้งผมก่อนล่วงหน้าก็แล้วกันครับ”
“ได้ค่ะ ถ้าดิฉันพร้อมแล้ว อาจจะต้องรบกวนคุณเตชินทร์เชิญที่บริษัทนี้อีกครั้งนะคะ...แต่เอ๊ะ...หรือว่าคุณเตชินทร์จะสะดวกให้ดิฉันไปพบคุณที่บริษัทเลยก็ได้นะคะ”
“คุณขวัญรดาพาทีมงานไปที่บริษัทของคุณเตชินทร์เลยครับ จะได้สะดวก เป็นการให้บริการแก่ลูกค้าของเราด้วยครับ และถ้าคุณไป คุณควรพาเด็กฝึกงานไปเรียนรู้งานบ้าง ก็ดีนะครับ เธอจะได้ความรู้ทักษะจากบริษัทเราครับ”
กวินท์ล็อคเป้าหมายให้เพื่อนของเขาเสร็จสรรพ ที่เหลือนายก็จัดการเองก็แล้วกันนะ เขาช่วยได้แค่นี้
“!!!”
เด็กฝึกงานที่ถูกเอ่ยถึงเหลือบมองคนที่พูดถึงเธอทันที ทำไมพี่กวินท์จะต้องเจาะจงเป็นเธอด้วย เกวลินเป็นแค่เด็กฝึกงาน ไม่มีอะไรสำคัญที่จะต้องมาห่วงว่าเธอจะฝึกงานแล้วจะได้ความรู้อะไรหรือเปล่า แค่นำเสนอ พวกพี่ๆ ไปก็จบแล้ว
“ได้ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะพาข้าวตูไปด้วยค่ะ”
ขวัญรดามองแวบเดียว ก็รู้ได้ทันที ว่าผู้ชายสองคนนี้ กำลังคิดอะไรกันอยู่
“โอเค งั้น ผมฝากโปรเจกต์นี้ไว้กับคุณขวัญรดาเลยล่ะกันครับ มีปัญหาติดตรงไหน ก็ปรึกษาผมได้ตลอดเลยครับ”
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะคุณกวินท์ ที่ไว้ใจให้ดิฉันและทีมงานได้ทำโปรเจกต์นี้ค่ะ”
“โอเค ในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ผมคิดว่า คงไม่มีอะไรแล้ว ทุกคนเลิกประชุมได้เลยครับ”
กรวิชญ์ประธานบริษัทเตชะวรากูลเอนจิเนียร์ จำกัด เป็นผู้ปิดประชุมในครั้งนี้
“ครับ/ค่ะ”
“ไปกันชินทร์”
กวินท์หันไปชวนเพื่อน ที่นั่งนิ่งเงียบขรึม ทำไมเพื่อนของกวินท์ถึงได้ดูจริงจังขนาดนี้ เอาจริงๆ ลุคนี้ของเตชินทร์สลัดคราบผู้ชายเพลย์บอยออกไปจนหมดสิ้น เหลือแต่หนุ่มหล่อมาดเข้มนักธุรกิจใหญ่เท่านั้น
“โอเค...” เตชินทร์ลุกขึ้นยืน พร้อมกับปรายตามองไปที่ใครบางคน เธอยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับ ตลอดระยะเวลาเกือบสามปี เธอดูเปลี่ยนไป ดูสุขุมขึ้นตอนนี้เธอน่าจะอายุ 21 แล้วสินะ
“...” เกวลินนิ่งเงียบ รอให้ขบวนท่านประธานและผู้บริหารระดับสูงเดินออกจากห้องไป ทีละคน จนเหลือคนสุดท้าย ก็คือเธอ สมองของเกวลินประมวลผลอะไรไม่ทันเลย เจอเขาวันนี้ ทำให้เธอตกใจมาก ไม่คิดว่า อยู่ดีๆ เขาจะปรากฏตัวแบบกะทันหันที่นี่
@ ห้องทำงานรองประธานบริษัท...
“กูว่า ตอนนี้น้องรหัสมึง คงตกใจยังไม่หายแน่เลยชินทร์ ที่จู่ๆ มึงก็โผล่มาที่บริษัทกู”
“คงไม่น่าจะตกใจหรอกมั้ง น้องเขาไม่ได้สนใจกูอยู่แล้ว เจอกูในฐานะแบบนี้ ยิ่งจะไม่อยากเข้าใกล้กูไปอีก มึงเห็นตอนที่น้องเขาจะออกจากห้องไปมั้ย กูคิดว่า น้องเขาไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ คือไม่สน และไม่แคร์กูเหมือนเดิม”
“ถึงไม่สนหรือไม่แคร์มึง แต่วันนี้ น้องข้าวตู ก็คงได้เห็นมึงลุคใหม่แล้วแหละ เอาจริงๆ วันนี้มึงแต่งตัวมาเต็มยศแบบนี้ ดูหล่อ มาดเข้มเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแห่งปีเลยนะโว้ย...ชินทร์”
“มันก็ไม่ได้ทำให้น้องข้าวตูจะสนใจกูอยู่ดี”
“มึงก็ไม่เห็นจะต้องเครียดเลยนี่หว่า...ชินทร์ ตอนนี้มึงพึ่งเริ่มต้นเองนะ”
“กูเริ่มจะไม่หวังอะไรกับน้องเขาแล้วว่ะ ถ้าไม่โอเค กูก็จะปล่อยน้องเขาไปจริงๆ แล้ว”
“อ่าว...ทำไมอยู่ดีๆ มึงถึงเปลี่ยนใจแบบนี้ล่ะชินทร์ อะไรวะ มึงป๊อดแล้วเหรอ กะอีแค่น้องเขาไม่มองมึงวันนี้เหรอวะ ที่จะทำให้มึงตัดสินใจ ปล่อยน้องเขาไปอ่ะ”
“เออ...ก็ประมาณนี้แหละ บางครั้งกู ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันเบื่อที่จะต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อใครแล้ว มาคิดอีกที จริงๆกูเป็นตัวเองแหละดีสุด ใครจะชอบกู หรือไม่ชอบกู ก็แล้วแต่เลย”
“มึงพูด เหมือนกับว่าตอนนี้มึงท้อและจะไม่จีบน้องข้าวตูต่อแล้วงั้นเหรอ...ชินทร์ แล้วไอ้ที่มึงลงทุนแปลงโฉมตัวเองขนาดนี้ล่ะ เพื่ออะไร”
“เพื่องานไง ตอนนี้กูเริ่มคิดที่จะทำงานแล้ว ป๊ากูดีใจมากรู้มั้ย ที่กูคิดจะทำงานทำการซะที ส่วนเรื่องข้าวตู กูก็ไม่ได้หวังอะไร เอาจริงๆ นะ กูทำตัวแบบนี้แหละ น้องเขาจะชอบ หรือไม่ชอบกูก็แล้วแต่น้องเขาเลย...”
“มึงนี่มันเป็นพวกอารมณ์หลายขั้วจังเลยนะชินทร์ เดี๋ยวก็ชอบ เดี๋ยวก็ไม่ชอบ กูตามมึงไม่ทันเลยจริงๆ ว่ะ”
“กูไม่ได้บอกว่าจะเลิกชอบน้องเขานะ แต่กูแค่ จะบอกมึงว่ากูจะใช้ตัวตนของกูนี่แหละ เข้าหาน้องเขา ไม่พยายามที่จะเป็นแบบใคร ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ การทำงาน กูก็ยังเหมือนเดิม อาจจะมีบ้าง ที่กูกับน้องเขาจะต้องทำงานร่วมกัน มันก็เท่านั้นเอง”
“จริงๆ กูเข้าใจมึงนะชินทร์ กับคนอื่น มึงก็คงจะไม่อะไรเท่าไหร่ แต่กับน้องเขามึงดันคลิก แต่สาเหตุของการคลิกกับน้องเขา อาจเป็นเพราะมึงไม่เคยเจอใครปฏิเสธมึงมาก่อน ซึ่งน้องเขาก็เป็นคนแรกที่ปฏิเสธมึง”
“บางครั้ง ในความคิดกู ก็อยากจะสั่งสอนน้องเขากลับบ้างนะ ไม่สน ไม่แคร์กู ทั้งที่ตัวเองเสียเปรียบ กูก็จะเปลี่ยนเป็นคนชอบเอาเปรียบน้องเขาบ้างก็ได้”
“มึงทำได้อย่างที่พูดป่ะล่ะ”
“ได้สิ วันนี้กูเห็นน้องเขาแล้ว ดูไม่สนใจกูเลย มันก็ทำให้กูคิดว่า คนแบบน้องเขา ไม่ต้องใช้วิธีอะไรที่มันนิ่มนวลหรอก นิสัยเพลย์บอยแบบกูนี่แหละ ที่อาจจะจัดการน้องเขาได้”
“วันนี้มึงทำให้กูอึ้งมากเหมือนกันนะชินทร์ มึงคิดได้ตั้งแต่ตอนไหนวะ”
“วันนี้แหละ วันที่กูเห็นน้องเขา”
เตชินทร์เห็นแววตาที่หวาดกลัวของเธอออกมาอย่างชัดเจน การเจอเธอวันนี้ มันทำให้เตชินทร์ได้เข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง บางครั้งพยายามมากเกินไป ก็ไม่ดี...
@นนทบุรี...@บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์น “ตกลงว่า เรื่องนี้ ก็เอาตามนี้ก็แล้วกัน ในเมื่อเด็กๆ เขาชอบพอกัน ให้เขาตกลงกันเอง จะหมั้นหรือจะแต่ง ก็แล้วแต่พวกเขาก็แล้วกันนะ” “ครับ ผมต้องขอบคุณแทนลูกชายผมด้วยครับ ที่เมตตาเอ็นดูตาชินทร์ ผมเลี้ยงลูกตามใจมาตลอด ต้องขอโทษด้วยครับ ที่ไปทำเรื่องล่วงเกินลูกสาวของคุณฐานทัพ...อืม...ความจริงเรียกคุณหมอดีกว่านะครับ” “ได้ครับ เอาที่คุณสะดวกครับ ยังไง อีกหน่อยเราสองครอบครัว ก็ต้องเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วครับ” “ดิฉัน ต้องขอบคุณด้วยค่ะ ที่เอ็นดูตาชินทร์ เราสองคนดีใจมากค่ะ ที่ตาชินทร์ชอบพอกับลูกสาวของคุณ เรื่องหมั้นเรื่องแต่ง เดี๋ยวให้เขาสองคนตกลงกันก็ได้ค่ะ ทางเราพร้อมเสมอค่ะ”จันทร์ทิพย์เอ่ยเสริม พร้อมกับปรายตามองว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอ ลูกชายของเธอตาถึงไม่เบาเลยนะ เลือกได้ดี สวย น่ารัก บุคลิกทุกอย่างเหมาะสมกับลูกชายเธอมาก เรื่องฐานะทางครอบครัว จันทร์ทิพย์ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจเลย ขอเพียง ลูกชายสุดที่รักของเธอชอบก็เพียงพอแล้ว “ค่ะ ก็คงจะต้องหมั้นไว้ก่อนค่ะ ยัยข้าวยังเรียนไม่จบเลย ก็น่าจะเกือบสองปีค่ะ แต่งตอนนี้ ค
ในเวลาต่อมา...สายสนทนา... “ว้าว! เริ่ด! พี่ชินทร์สุภาพบุรุษสุดๆเลยอ่ะ” “ฉันเล่าให้เธอฟัง เพื่อจะขอคำปรึกษานะ น้ำตาล ไม่ใช่ไปอยู่ข้างพี่เขา”หลังจากที่พ่อแม่กลับไป เขาก็กลับไปเคลียร์ที่บ้าน ส่วนเกวลินก็อัดอั้นตันใจ จนต้องโทรมาระบายกับเพื่อนสาวของเธอ “เธอจะต้องปรึกษาอะไรกันอีก ในเมื่อเรื่องของเธอกับพี่ชินทร์มันมาไกลขนาดนี้แล้ว เธอต้องปล่อยแล้วมั้ย จะกังวลทำไมอีก ฉันไม่เข้าใจเธอเลย...” “ฉัน...” “เธอกังวลเรื่องพ่อแม่ของพี่ชินทร์ใช่มั้ย หรือเธอกังวลเรื่องการถอนหมั้นของพี่เขา ฉันขอบอกไว้เลยนะ เรื่องพวกนี้ เธอไม่ต้องเอามาคิดหรอก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่ชินทร์ ให้พี่เขาจัดการเอง พรุ่งนี้ เธอก็แค่กลับบ้านไปเตรียมต้อนรับพ่อแม่พี่ชินทร์ก็พอ...อย่าเครียดเลย มันไม่มีอะไร” “ฉันเครียดเรื่องถอนหมั้นของเขานี่แหละ คนอื่นจะคิดว่า ฉันเป็นคนแย่งพี่ชินทร์มาจากคู่หมั้นเขาหรือเปล่า และพ่อแม่ของเขาจะคิดยังไง มันเป็นเรื่องวุ่นวายมากเลยนะ น้ำตาล” “เธอไม่ได้เป็นคนแย่งพี่ชินทร์นะ เข้าใจซะใหม่ ความจริงถ้าเธอตกลงกับพี่เขาตั้งแต่แรก พี่ชินทร์ก็ไ
เช้าวันต่อมา... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้นมือเรียวบางเลื่อนออกมาจากผ้าห่ม ควานหาตามเสียงเรียกเข้าที่ดังอยู่ไม่หยุด บนโต๊ะหัวเตียง เสียงสั่นจากโทรศัพท์ยิ่งเร่งให้เธอรีบหาต้นเหตุของเสียงนั้น“ค่ะ...มะ-แม่”เกวลินเหลือบมองคนที่นอนอยู่ข้างกายเธอ“แม่กับพ่อ มาแวะมาหาลูก อีก ห้านาทีลงมาเปิดประตูให้พ่อกับแม่ด้วยนะ”“คะ? อะไรนะคะ!! แม่กับพ่อกำลังจะมาหาข้าวงั้นเหรอคะ ละ-แล้วทำไม ไม่โทรบอกข้าวก่อนล่ะคะ”“ก็บอกก่อนนี่ไง ทำไมเหรอ? หรือลูกไม่อยู่ที่ห้อง อืม ตอนนี้ก็พึ่งจะเก้าโมงเองนะ วันเสาร์ด้วย”“เออ คือว่า ข้าวแค่ตกใจค่ะแม่ ความจริงแม่ต้องบอกข้าวก่อนสิคะ”เกวลินหันไปมองคนตัวใหญ่ ที่ยังคงหลับลึกไม่ยอมตื่น“อ่ะ งั้น อีกห้านาทีแม่จะถึงแล้ว ลงมาเปิดประตูให้แม่ด้วยนะ แค่นี้แหละ”ตึ๊ด! ตึ๊ด!ปลายสายถูกตัดไปเกวลินกำลังอยู่ในอาการตกใจ เธอควรจะทำอะไรก่อนดีนะ เวลาห้านาที มันจะทำอะไรได้ล่ะ บ้าจริง!“พี่ชินทร์!! พี่ตื่นเถอะค่ะ”เกวลินเขย่าคนตัวใหญ่ พ่อกับแม่จะเห็นเธอกับเขาอยู่ในสภาพนี้ไม่ได้เด็ดขาด“อึ้มม์...พี่ขอนอนอีกหน่อยนะ”“ไม่ได้! พี่ต้องตื่นเดี๋ยวนี้นะ!”เกวลินลุกขึ้น พร้อมกับรีบคว้
“เหตุผล...ที่พี่ทำกับข้าวทั้งหมด...ก็เพราะ...พี่รักข้าวนะ”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน แม้ใบหน้าคมยังคงฉาบด้วยท่าทีมั่นคง แต่ลึกลงไปภายในกลับปั่นป่วนจนแทบควบคุมไม่อยู่ ทุกถ้อยคำที่เขาพูดออกมานั้นล้วนมาจากความจริงในใจเขาทั้งหมด เพราะนี่คือสิ่งที่เตชินทร์ไม่เคยเอ่ยกับใคร“...!!!”ดวงตาของเธอเบิกกว้างในทันทีที่ได้ยินถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากเขา สมองของเกวลินเหมือนหยุดทำงานชั่วขณะ ร่างกายของเธอแข็งทื่อราวกับถูกตรึงให้อยู่กับที่หัวใจเธอเต้นแรงสะท้อนก้องอยู่ในอก ทั้งที่ปากอยากจะโต้กลับ อยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล แต่กลับไม่มีเสียงใดเปล่งออกมา มีเพียงความเงียบที่ห่อหุ้มเธอเอาไว้ ดวงตาที่เธอไม่กล้าสบตรง ๆ กับเขาเพราะรู้ดีว่าในนั้นมีบางสิ่งร้อนแรงและจริงจังเกินกว่าจะปฏิเสธได้ง่าย ๆ“พี่รักเธอจริงๆ นะ ถึงเธอจะปฏิเสธพี่ แต่พี่ก็ยังรักเธออยู่ดี”เตชินทร์เผยความรู้สึกของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา ตอนแรกเขาคิดว่า ‘แค่เสียหน้า เพราะถูกปฏิเสธ’ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ เขาชอบเธอต่างหากที่เป็นเรื่องจริง“เอ่อ...แล้วพี่...ทำไมถึงรักข้าวล่ะคะ?”เมื่อตั
@ โมเดิร์นคอนโด... “เฮ้อ...”เสียงถอนหายใจแบบยาวๆ ดังขึ้น หลังจากที่เกวลินวางสายสนทนาจากเพื่อนรักของเธอ เกวลินได้เล่าเรื่องที่เธอประสบพบเจอมาในวันนี้ให้อลินดาฟัง สงสัย เธอคงจะหนีผู้ชายคนนี้ไม่พ้นเสียแล้วจริงๆอลินดาบอกเธอว่า... ‘เธอควรจะทำใจ และยอมรับพี่เขาได้แล้วนะ’ ‘ฉันต้องทำแบบนั้นจริงๆ ใช่มั้ย น้ำตาล’ ‘ใช่! พี่ชินทร์ทำถึงขนาดนี้แล้ว เชื่อฉันสิ พี่ชินทร์ชอบเธอมาก ฉันว่า เป็นเรื่องดีนะ ถ้าตัดความเพลย์บอยออก พี่ชินทร์ก็เป็นผู้ชายที่โอเคคนหนึ่งเลยแหละ’ “...”เกวลินกำลังนึกย้อนถึงคำพูดของเพื่อนเธอ ‘เพลย์บอยนี่แหละ คือเรื่องที่สำคัญสำหรับฉัน’ อุปสรรคระหว่างเกวลินกับเขา มันไม่ใช่แค่เรื่องที่เขามีคู่หมั้นหรอกนะ เรื่องที่เธอต้องกังวลมากที่สุดก็คือ เรื่องครอบครัวของเขา กับครอบครัวของเธอต่างหากคือปัญหาใหญ่ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็เจอแต่ทางคู่ขนาน ที่ไม่สามารถจะบรรจบกันได้... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้น เกวลินกดเลื่อนดูสายเรียกเข้านั้น ‘นี่เขาจะไม่ให้เธอได้พักเรื่องของเขาบ้างเลยหรือไง’นิ้วเรียวยาวกดรับสายสนทนานั้น
“เมียงั้นเหรอ! กรี๊ดดดดดด!!!”เสียงกรีดร้องของเพนนีดังลั่นจนทะลุไปถึงข้างนอก เลขาที่เฝ้าดูสถานการณ์อันน่าหวาดเสียวนี้ ก็รีบวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น “คุณเตชินทร์คะ? มีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ไม่มีอะไร...”เตชินทร์ตอบด้วยสีหน้าราบเรียบนิ่งเฉย ราวกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย เกมนี้เขารู้อยู่แล้ว ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นอย่างไร “ปล่อยนะ...”เกวลินพยายามขืนตัวออกจากการอ้อมกอดของเขา พร้อมกับเหลือบมองไปที่ผู้หญิงอีกคน ที่ยืนตาโตหน้าแดงกำมือแน่นพร้อมเอาเรื่องได้ตลอดเวลา “เพนนีจะไม่ยอมถอนหมั้นให้พี่แน่นอน พี่ชินทร์ทำกับเพนนีแบบนี้ มันหยามเพนนีเกินไป คอยดู! เพนนีจะไปบอกคุณลุงกับคุณป้า ว่าพี่ชินทร์เอาผู้หญิงข้างถนน...อ่อ...ไม่ใช่แค่นั้นสิ...ยังเป็นนักศึกษาอยู่ด้วย เธอคงจะรอเวลานี้มานานแล้วสินะ!” “ดิฉันไม่ได้...”เกวลินกำลังจะโต้กลับ แต่ทว่าก็มีคำพูดหนึ่งแทรกขึ้นมาก่อน ประโยคนั้นทำให้เธอตกใจเพิ่มขึ้นไปอีก “นั่นมันก็แล้วแต่เธอเลย พี่คุยป๊ากับม๊าของพี่เรียบร้อยแล้วว่าพี่จะถอนหมั้นกับเธอ พี่ไม่ได้ชอบเธอ แต่พี่ชอบคนนี้”เตชินทร์กระชับอ้







