LOGINสองชั่วโมงต่อมา...
@ แผนกฝ่ายขาย...
“Oh! my god! นี่คือเรื่องจริงใช่มั้ย...ข้าว”
“จริงสิ นึกแล้วยังเคืองไม่หาย ฉันทำผิดอะไร ทำไมพี่ชินทร์ถึงได้แกล้งฉันขนาดนี้ ฉันไม่เข้าใจเลยน้ำตาล...”
หลังจากที่กลับมาจากการนำเสนองาน เกวลินก็ได้เรียกเพื่อนเลิฟของเธอ มาระบายความอัดอั้นที่เธอได้ประสบพบเจอมาในวันนี้
“ไม่น่าเชื่อเลยนะ เท่าที่ฉันเคยรู้จักพี่ชินทร์มา พี่เขาไม่น่าเป็นคนแบบนี้เลยนะข้าว”
“ก็เป็นไปแล้วไง อย่างที่ฉันเล่าให้เธอฟังแหละ เขาพยายามแกล้งฉัน ทำให้ฉันพรีเซนต์งานวันนี้ไม่สำเร็จ และพี่ขวัญ ก็เครียดด้วยตอนนี้ ฉันจะทำยังไงดีล่ะน้ำตาล ฉันจะบ้าตายแล้วนะ”
“หรือพี่ชินทร์จะแค้นเธอ ที่เธอปฏิเสธในความรับผิดชอบของพี่เขานะ จะใช่เรื่องนี้หรือเปล่าข้าว...แต่…ก็ไม่น่าจะใช่นะ พี่ชินทร์เป็นผู้ชายเจ้าชู้ มีผู้หญิงเยอะแยะมากมาย ยิ่งจะต้องดีใจสิ ที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร”
“แต่พี่ชินทร์ก็บอกฉันว่าเคลียร์แล้ว ไม่ติดใจอะไรแล้วนี่ เขาเป็นคนบอกฉันเองวันนี้ สดๆ ร้อนๆ เลย”
“ห๊ะ! วันนี้ มีการคุยถึงเรื่องนี้ กับพี่ชินทร์ด้วยเหรอ? เธอไปพรีเซนต์งานไม่ใช่เหรอ แล้วทำไม ไปเข้าโหมดเรื่องนั้นได้ล่ะ”
“เอ่อ...คือว่า...” เอาแล้วไง
“เธอมีอะไร ที่ยังไม่ได้สารภาพฉันหรือเปล่า รีบบอกมานะ ฉันรู้ว่า เรื่องนี้มันไม่ธรรมดาแน่นอน พี่ชินทร์ เขาจะไร้สาระ ถึงขนาดเอาเรื่องอุบัติเหตุในอดีตมาแก้แค้นทำไม นอกจากเธอกับพี่เขาจะมีเรื่องอะไร นอกเหนือจากเรื่องนี้อีก”
“พี่ชินทร์เป็นคนไร้สาระจริงๆ นะน้ำตาล เขาโมโหฉัน ที่ฉันปฏิเสธเขาเรื่องความรับผิดชอบในตอนนั้นไง”
“เธอจะบอกความจริงฉันมั้ย”
“ความจริงอะไร ฉันไม่...”
“บอกฉันมา ก่อนที่ฉันจะโกรธเธอนะข้าว ฉันรู้ ว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ เธอกับฉันเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้ว เธอยังไม่เชื่อใจฉันอีกเหรอ? ฉันเสียใจนะที่...”
“โอเคๆ ได้ๆ ฉันจะเล่าให้เธอฟัง ก่อนอื่น ฉันต้องขอโทษเธอด้วยแล้วกันนะน้ำตาล ฉัน...”
“เธอบอกฉันได้เสมอ ฉันคือเพื่อนเธอนะ”
“ฉันปิดบังเธอเรื่องหนึ่ง...จริงๆ แล้วฉันเคยถูกพี่ชินทร์%$#@!&$%@”
เกวลินตัดสินใจเล่าให้เพื่อนรักฟังจนหมดเปลือก ความจริงที่เธอเคยปิดบังมาตลอด ระหว่างเธอกับเขา มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาทั่วไปอย่างที่เพื่อนของเธอพูดจริงๆ
“ทุเรศที่สุด! พี่ชินทร์ทำกับเธอแบบนี้ได้ไง! ทำไม เธอไม่เล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟังตั้งแต่แรก เธอปิดไว้ทำไมข้าว พี่ชินทร์ทำกับเธอขนาดนี้ เขาต้องได้รับการลงโทษนะ เธอต้องแจ้งความ เอาพี่เขาเข้าคุกสิ นี่มันคือการข่มขืนนะข้าว”
อลินดาได้ยินสิ่งที่เพื่อนของเธอเล่ามาทั้งหมด มันก็ทำให้เธอโกรธแค้นอย่างที่สุด ผู้ชายเฮงซวย
“ในตอนนั้น ฉันทำไม่ได้หรอกน้ำตาล ฉันอายุ 18 เองนะ และอีกอย่าง ฉันไม่อยากให้พ่อกับแม่รู้ และฉันกลัวท่านจะเสียใจ ที่ลูกสาวของตัวเอง เข้าเรียนยังไม่ถึงปีเลยด้วยซ้ำ กลับต้องทำเรื่องน่าอับอายขนาดนี้”
“สุดท้าย พี่ชินทร์ก็ลอยนวลไปได้งั้นสิ”
“แต่ มันก็ไม่ใช่ความผิดพี่เขาทั้งหมดนะน้ำตาล สิ่งที่เขาทำ เพราะความโมโห ความจริงในวันนั้น เขาตั้งใจเคลียร์กับฉัน เรื่องที่พี่เขาจะรับผิดชอบ โดยการแต่งงานกับฉัน แต่ว่า...ฉันปฏิเสธเขาไป และพูดแรงใส่เขาด้วย ทุกอย่าง ก็เลยเป็นแบบที่ฉันเล่าเลย”
“อืม...แต่ฉันก็แปลกใจอยู่อย่างนะ ว่าทำไม พี่ชินทร์ถึงรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ในตอนนั้น และขอรับผิดชอบเธอ โดยการขอแต่งงานกับเธอ หรือว่า...”
“...”
“หรือว่าพี่เขาจะชอบเธอจริงๆ ชอบแบบที่ว่า คือยอมแต่งงานด้วยอ่ะ...อืม...แต่ว่าพี่เขาเป็นระดับเพลย์บอย บ้านรวย เป็นลูกชายคนเดียว ทรัพย์สมบัติมหาศาลขนาดนั้น เขาจะมาชอบเธอง่ายๆ ได้ยังไง ฉันไม่ได้ว่า เธอไม่สวยนะ เธอสวยมาก แต่คนระดับพี่เขาจะต้องคบกับคุณหนูไฮโซ แบบคู่หมั้นเขาสิ”
“อืม...ใช่...เขามีคู่หมั้นอยู่แล้วทั้งคน และคู่หมั้นเขา ก็เหมาะสมกันทุกอย่าง คนรวยก็ต้องคู่กับคนรวยสิ”
“เออ นั่นดิ...แต่ ฉันก็มีอีกหนึ่งข้อสงสัยนะ ว่าพี่ชินทร์จะแค้นเธอขนาดนั้นเลยเหรอ มันดูจะเป็นเด็กหน่อยมั้ย ที่จะต้องมาเอาคืน ทั้งที่พี่เขาไม่ได้เป็นคนเสียเปรียบนี่ เรื่องนี้มันแปลกมาก เธอว่ามั้ย”
“ฉันบอกเธอไปแล้วไง ว่าเขาเป็นคนไร้สาระ บ้าบอ เผลอๆ สติไม่ดีด้วยแหละ มาโกรธฉันทำไมก่อน ความจริงฉันจะต้องเป็นคนเรียกร้องเขาสิ ถึงจะถูก แต่นี่ฉันไม่อะไร คิดว่ามันคืออุบัติเหตุ เป็นความโชคร้ายของฉันไป”
“เธอก็แย่สิ วันนี้ก็โดนพี่เขาแกล้งอีก แล้วจะทำยังไงล่ะ พรุ่งนี้ เจอหน้าพี่เขา เธอก็ถามไปตรงๆ เลยมั้ย ว่าสรุปแล้ว พี่ชินทร์จะเอายังไงกับเธอกันแน่ ชอบเธอหรือเปล่า เธอคุยกับพี่เขาเลย ไม่อย่างนั้น ฉันคิดว่า มันไม่จบแน่นอน”
“เธอจะให้ฉันถามพี่ชินทร์ว่า ชอบฉันหรือเปล่า งั้นเหรอน้ำตาล”
“อืม...ใช่ ถามไปเลย จะได้จบๆ”
“บ้าสิ ถึงแม้ฉันจะเป็นคนมีความมั่นใจ แต่ฉันก็คงไม่มั่นหน้าขนาดนั้นหรอกน้ำตาล”
“ก็ถ้าเธอไม่ถาม เรื่องเธอกับพี่เขา มันก็จะไปยังไงล่ะ งานก็ต้องทำนะ ยิ่งตอนนี้ เธอต้องรับผิดชอบโปรเจกต์ใหญ่ของทีมพี่ขวัญด้วย สมมุตินะ...ถ้าพี่ชินทร์เกิดยกเลิกโปรเจกต์ที่เธอจะต้อง พรีเซนต์ล่ะ เธอจะทำยังไง”
“นั่นสินะ...ฉันยิ่งเครียดๆ อยู่ด้วย ถ้าครั้งนี้ ฉันพรีเซ้นต์งานไม่สำเร็จ มันก็หมายความว่า ฉันจะฝึกงานไม่ผ่านด้วยมั้ย”
“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ แต่เธอก็อย่าคิดมากเลยนะข้าว ฉันว่า พี่ชินทร์ก็คงไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง”
“...” ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ พี่ชินทร์ที่เธอเคยรู้จัก ดูเป็นคนอารมณ์ดี ง่ายๆ สบายๆ เฟรนลี่ (Friendly) กับทุกคน แล้วผู้ชายคนที่เกวลินเจอวันนี้ล่ะ คือใครกัน...แต่ยังไม่ทันที่เกวลินจะคิดหาทางแก้ปัญหาของตัวเอง ก็ได้มีเสียงของรุ่นพี่ในทีมงาน เรียกเธอเสียก่อน
“น้องข้าว...พี่ขวัญให้ข้าวไปพบที่ห้อง ตอนนี้เลยนะ”
“!!!”หัวใจของเกวลินพลันหล่นวูบ
@ ห้องทำงานหัวหน้าฝ่ายขาย...
“พี่เรียกเธอมา ก็เพราะว่าพี่ไม่สบายใจ วันนี้ พี่คงนอนไม่หลับแน่นอน ไหนลองอธิบายให้พี่ฟังหน่อย ว่าพรุ่งนี้ ข้าวจะไปโน้มน้าวคุณเตชินทร์ในการพรีเซ้นต์ได้ยังไง ขอสั้นๆ นะ”
“เอ่อ...คือ...ข้าว”
เกวลินโดนหัวหน้างานของเธอกดดันแบบนี้ เธอก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรเลย
“นั่นไง พี่คิดไว้แล้วเชียว ว่าข้าวจะหาทางออกเรื่องนี้ไม่ได้”
“ข้าวจะกลับไปฝึกซ้อมเย็นนี้ค่ะพี่ขวัญ”
“ฝึกยังไง ถึงข้าวจะพูดจาคล่องแคล่ว ฉะฉาน แต่พี่ก็ไม่สบายใจอยู่ดี พี่คิดว่า คุณเตชินทร์เขาน่าจะมีปัญหาอะไรกับข้าวหรือเปล่า ทำไมอยู่ดีๆ ก็ไม่โอเค”
“ข้าวไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคุณเตชินทร์นะคะ”
“ไม่มีปัญหา แล้วทำไมคุณเตชินทร์ถึงต้องให้ข้าวไปพรีเซนต์งานใหม่อีกล่ะ พี่คิดว่า วันนี้ เราจะปิดงานสำเร็จซะอีก ข้าวทำให้พี่ต้องเครียดนะ รู้มั้ย”
“ข้าวขอโทษค่ะพี่ขวัญ”
“เปลี่ยนคำขอโทษ เป็น ทำยังไงก็ได้ ที่จะปิดดิวงานนี้ให้สำเร็จดีกว่ามั้ย พี่คิดว่ามันไม่ได้ยากอะไรเลย ช่วยทำให้พี่มั่นใจหน่อยได้มั้ยข้าว...”
“ได้ค่ะ ข้าวรับรอง ว่าพรุ่งนี้ ข้าวจะทำงานนี้ให้สำเร็จ”
มวลของความกดดันทั้งหมด มันตกมาอยู่ที่เกวลินแล้ว เธอรับปากหัวหน้าของเธอไป และเธอจะต้องทำให้ได้ พรุ่งนี้ เธอจะต้องไปพรีเซนต์งานต่อหน้าเขาให้สำเร็จ เกวลินจะต้องลุยให้ถึงที่สุดแล้ว
@นนทบุรี...@บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์น “ตกลงว่า เรื่องนี้ ก็เอาตามนี้ก็แล้วกัน ในเมื่อเด็กๆ เขาชอบพอกัน ให้เขาตกลงกันเอง จะหมั้นหรือจะแต่ง ก็แล้วแต่พวกเขาก็แล้วกันนะ” “ครับ ผมต้องขอบคุณแทนลูกชายผมด้วยครับ ที่เมตตาเอ็นดูตาชินทร์ ผมเลี้ยงลูกตามใจมาตลอด ต้องขอโทษด้วยครับ ที่ไปทำเรื่องล่วงเกินลูกสาวของคุณฐานทัพ...อืม...ความจริงเรียกคุณหมอดีกว่านะครับ” “ได้ครับ เอาที่คุณสะดวกครับ ยังไง อีกหน่อยเราสองครอบครัว ก็ต้องเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วครับ” “ดิฉัน ต้องขอบคุณด้วยค่ะ ที่เอ็นดูตาชินทร์ เราสองคนดีใจมากค่ะ ที่ตาชินทร์ชอบพอกับลูกสาวของคุณ เรื่องหมั้นเรื่องแต่ง เดี๋ยวให้เขาสองคนตกลงกันก็ได้ค่ะ ทางเราพร้อมเสมอค่ะ”จันทร์ทิพย์เอ่ยเสริม พร้อมกับปรายตามองว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอ ลูกชายของเธอตาถึงไม่เบาเลยนะ เลือกได้ดี สวย น่ารัก บุคลิกทุกอย่างเหมาะสมกับลูกชายเธอมาก เรื่องฐานะทางครอบครัว จันทร์ทิพย์ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจเลย ขอเพียง ลูกชายสุดที่รักของเธอชอบก็เพียงพอแล้ว “ค่ะ ก็คงจะต้องหมั้นไว้ก่อนค่ะ ยัยข้าวยังเรียนไม่จบเลย ก็น่าจะเกือบสองปีค่ะ แต่งตอนนี้ ค
ในเวลาต่อมา...สายสนทนา... “ว้าว! เริ่ด! พี่ชินทร์สุภาพบุรุษสุดๆเลยอ่ะ” “ฉันเล่าให้เธอฟัง เพื่อจะขอคำปรึกษานะ น้ำตาล ไม่ใช่ไปอยู่ข้างพี่เขา”หลังจากที่พ่อแม่กลับไป เขาก็กลับไปเคลียร์ที่บ้าน ส่วนเกวลินก็อัดอั้นตันใจ จนต้องโทรมาระบายกับเพื่อนสาวของเธอ “เธอจะต้องปรึกษาอะไรกันอีก ในเมื่อเรื่องของเธอกับพี่ชินทร์มันมาไกลขนาดนี้แล้ว เธอต้องปล่อยแล้วมั้ย จะกังวลทำไมอีก ฉันไม่เข้าใจเธอเลย...” “ฉัน...” “เธอกังวลเรื่องพ่อแม่ของพี่ชินทร์ใช่มั้ย หรือเธอกังวลเรื่องการถอนหมั้นของพี่เขา ฉันขอบอกไว้เลยนะ เรื่องพวกนี้ เธอไม่ต้องเอามาคิดหรอก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่ชินทร์ ให้พี่เขาจัดการเอง พรุ่งนี้ เธอก็แค่กลับบ้านไปเตรียมต้อนรับพ่อแม่พี่ชินทร์ก็พอ...อย่าเครียดเลย มันไม่มีอะไร” “ฉันเครียดเรื่องถอนหมั้นของเขานี่แหละ คนอื่นจะคิดว่า ฉันเป็นคนแย่งพี่ชินทร์มาจากคู่หมั้นเขาหรือเปล่า และพ่อแม่ของเขาจะคิดยังไง มันเป็นเรื่องวุ่นวายมากเลยนะ น้ำตาล” “เธอไม่ได้เป็นคนแย่งพี่ชินทร์นะ เข้าใจซะใหม่ ความจริงถ้าเธอตกลงกับพี่เขาตั้งแต่แรก พี่ชินทร์ก็ไ
เช้าวันต่อมา... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้นมือเรียวบางเลื่อนออกมาจากผ้าห่ม ควานหาตามเสียงเรียกเข้าที่ดังอยู่ไม่หยุด บนโต๊ะหัวเตียง เสียงสั่นจากโทรศัพท์ยิ่งเร่งให้เธอรีบหาต้นเหตุของเสียงนั้น“ค่ะ...มะ-แม่”เกวลินเหลือบมองคนที่นอนอยู่ข้างกายเธอ“แม่กับพ่อ มาแวะมาหาลูก อีก ห้านาทีลงมาเปิดประตูให้พ่อกับแม่ด้วยนะ”“คะ? อะไรนะคะ!! แม่กับพ่อกำลังจะมาหาข้าวงั้นเหรอคะ ละ-แล้วทำไม ไม่โทรบอกข้าวก่อนล่ะคะ”“ก็บอกก่อนนี่ไง ทำไมเหรอ? หรือลูกไม่อยู่ที่ห้อง อืม ตอนนี้ก็พึ่งจะเก้าโมงเองนะ วันเสาร์ด้วย”“เออ คือว่า ข้าวแค่ตกใจค่ะแม่ ความจริงแม่ต้องบอกข้าวก่อนสิคะ”เกวลินหันไปมองคนตัวใหญ่ ที่ยังคงหลับลึกไม่ยอมตื่น“อ่ะ งั้น อีกห้านาทีแม่จะถึงแล้ว ลงมาเปิดประตูให้แม่ด้วยนะ แค่นี้แหละ”ตึ๊ด! ตึ๊ด!ปลายสายถูกตัดไปเกวลินกำลังอยู่ในอาการตกใจ เธอควรจะทำอะไรก่อนดีนะ เวลาห้านาที มันจะทำอะไรได้ล่ะ บ้าจริง!“พี่ชินทร์!! พี่ตื่นเถอะค่ะ”เกวลินเขย่าคนตัวใหญ่ พ่อกับแม่จะเห็นเธอกับเขาอยู่ในสภาพนี้ไม่ได้เด็ดขาด“อึ้มม์...พี่ขอนอนอีกหน่อยนะ”“ไม่ได้! พี่ต้องตื่นเดี๋ยวนี้นะ!”เกวลินลุกขึ้น พร้อมกับรีบคว้
“เหตุผล...ที่พี่ทำกับข้าวทั้งหมด...ก็เพราะ...พี่รักข้าวนะ”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน แม้ใบหน้าคมยังคงฉาบด้วยท่าทีมั่นคง แต่ลึกลงไปภายในกลับปั่นป่วนจนแทบควบคุมไม่อยู่ ทุกถ้อยคำที่เขาพูดออกมานั้นล้วนมาจากความจริงในใจเขาทั้งหมด เพราะนี่คือสิ่งที่เตชินทร์ไม่เคยเอ่ยกับใคร“...!!!”ดวงตาของเธอเบิกกว้างในทันทีที่ได้ยินถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากเขา สมองของเกวลินเหมือนหยุดทำงานชั่วขณะ ร่างกายของเธอแข็งทื่อราวกับถูกตรึงให้อยู่กับที่หัวใจเธอเต้นแรงสะท้อนก้องอยู่ในอก ทั้งที่ปากอยากจะโต้กลับ อยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล แต่กลับไม่มีเสียงใดเปล่งออกมา มีเพียงความเงียบที่ห่อหุ้มเธอเอาไว้ ดวงตาที่เธอไม่กล้าสบตรง ๆ กับเขาเพราะรู้ดีว่าในนั้นมีบางสิ่งร้อนแรงและจริงจังเกินกว่าจะปฏิเสธได้ง่าย ๆ“พี่รักเธอจริงๆ นะ ถึงเธอจะปฏิเสธพี่ แต่พี่ก็ยังรักเธออยู่ดี”เตชินทร์เผยความรู้สึกของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา ตอนแรกเขาคิดว่า ‘แค่เสียหน้า เพราะถูกปฏิเสธ’ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ เขาชอบเธอต่างหากที่เป็นเรื่องจริง“เอ่อ...แล้วพี่...ทำไมถึงรักข้าวล่ะคะ?”เมื่อตั
@ โมเดิร์นคอนโด... “เฮ้อ...”เสียงถอนหายใจแบบยาวๆ ดังขึ้น หลังจากที่เกวลินวางสายสนทนาจากเพื่อนรักของเธอ เกวลินได้เล่าเรื่องที่เธอประสบพบเจอมาในวันนี้ให้อลินดาฟัง สงสัย เธอคงจะหนีผู้ชายคนนี้ไม่พ้นเสียแล้วจริงๆอลินดาบอกเธอว่า... ‘เธอควรจะทำใจ และยอมรับพี่เขาได้แล้วนะ’ ‘ฉันต้องทำแบบนั้นจริงๆ ใช่มั้ย น้ำตาล’ ‘ใช่! พี่ชินทร์ทำถึงขนาดนี้แล้ว เชื่อฉันสิ พี่ชินทร์ชอบเธอมาก ฉันว่า เป็นเรื่องดีนะ ถ้าตัดความเพลย์บอยออก พี่ชินทร์ก็เป็นผู้ชายที่โอเคคนหนึ่งเลยแหละ’ “...”เกวลินกำลังนึกย้อนถึงคำพูดของเพื่อนเธอ ‘เพลย์บอยนี่แหละ คือเรื่องที่สำคัญสำหรับฉัน’ อุปสรรคระหว่างเกวลินกับเขา มันไม่ใช่แค่เรื่องที่เขามีคู่หมั้นหรอกนะ เรื่องที่เธอต้องกังวลมากที่สุดก็คือ เรื่องครอบครัวของเขา กับครอบครัวของเธอต่างหากคือปัญหาใหญ่ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็เจอแต่ทางคู่ขนาน ที่ไม่สามารถจะบรรจบกันได้... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้น เกวลินกดเลื่อนดูสายเรียกเข้านั้น ‘นี่เขาจะไม่ให้เธอได้พักเรื่องของเขาบ้างเลยหรือไง’นิ้วเรียวยาวกดรับสายสนทนานั้น
“เมียงั้นเหรอ! กรี๊ดดดดดด!!!”เสียงกรีดร้องของเพนนีดังลั่นจนทะลุไปถึงข้างนอก เลขาที่เฝ้าดูสถานการณ์อันน่าหวาดเสียวนี้ ก็รีบวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น “คุณเตชินทร์คะ? มีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ไม่มีอะไร...”เตชินทร์ตอบด้วยสีหน้าราบเรียบนิ่งเฉย ราวกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย เกมนี้เขารู้อยู่แล้ว ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นอย่างไร “ปล่อยนะ...”เกวลินพยายามขืนตัวออกจากการอ้อมกอดของเขา พร้อมกับเหลือบมองไปที่ผู้หญิงอีกคน ที่ยืนตาโตหน้าแดงกำมือแน่นพร้อมเอาเรื่องได้ตลอดเวลา “เพนนีจะไม่ยอมถอนหมั้นให้พี่แน่นอน พี่ชินทร์ทำกับเพนนีแบบนี้ มันหยามเพนนีเกินไป คอยดู! เพนนีจะไปบอกคุณลุงกับคุณป้า ว่าพี่ชินทร์เอาผู้หญิงข้างถนน...อ่อ...ไม่ใช่แค่นั้นสิ...ยังเป็นนักศึกษาอยู่ด้วย เธอคงจะรอเวลานี้มานานแล้วสินะ!” “ดิฉันไม่ได้...”เกวลินกำลังจะโต้กลับ แต่ทว่าก็มีคำพูดหนึ่งแทรกขึ้นมาก่อน ประโยคนั้นทำให้เธอตกใจเพิ่มขึ้นไปอีก “นั่นมันก็แล้วแต่เธอเลย พี่คุยป๊ากับม๊าของพี่เรียบร้อยแล้วว่าพี่จะถอนหมั้นกับเธอ พี่ไม่ได้ชอบเธอ แต่พี่ชอบคนนี้”เตชินทร์กระชับอ้







