LOGINวันต่อมาเวลา 09.00 น.
@ บริษัทเชาวกรกุล จำกัด...
บรรยากาศหน้าห้องทำงานที่เงียบสงัดกลับทำให้เกวลินได้ยินเสียงหัวใจตัวเองดังอย่างชัดเจน ความกังวลรุมเร้าอยู่ในอกจนมือที่ถือเอกสารสั่นเล็กน้อย วันนี้เธอตื่นแต่เช้า เพื่อเตรียมตัวนำเสนองานตามนัด เกวลินพึ่งได้นอนไปแค่สามชั่วโมง หลังจากที่เธอเครียดเรื่องงานของตัวเองทั้งคืน...
ดวงตากลมโตมองประตูบานใหญ่ตรงหน้าที่ถูกทำมาจากไม้เนื้อดีเคลือบเงาสะท้อนแสงระยิบระยับ ยิ่งทำให้อุปสรรคตรงหน้าดูสูงส่งเกินเอื้อมเหลือเกิน...
“น้องคะ”
เลขาหน้าห้องเดินตรงเข้ามาหาเด็กสาวผู้น่าสงสารทันทีญาดาเข้าบริษัทมา ก็เห็นเด็กคนนี้ นั่งรออยู่ตรงหน้าบริษัทแล้ว
“สวัสดีค่ะพี่”
เกวลินยกมือไหว้เลขาประจำห้องทำงานของเขา
“พอดี พี่จะมาบอกน้องว่า คุณเตชินทร์จะยังไม่เข้าบริษัทตอนนี้นะคะ”
“หมายความว่ายังไงคะพี่”
เมื่อได้ยินสิ่งที่พี่เลขาบอกเธอ ใจของเกวลินก็หวิวราวกับถูกดึงลงสู่ห้วงลึก‘ไม่นะ! เขาจะยกเลิกนัดครั้งนี้ไม่ได้ เธอต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้พรีเซนต์งานในวันนี้’
“คุณเตชินทร์ยังไม่ถึงบริษัทเลย แต่พี่โทรติดต่อคนขับรถของคุณเตชินทร์แล้ว...เอ่อ...เห็นว่า...คุณเตชินทร์เธอยังไม่ตื่นนอนเลยค่ะ น้องจะรอก็ได้นะคะ แต่พี่ก็ไม่รู้ว่า คุณเขาจะเข้ามาหรือเปล่า”
ญาดาก็เพลียใจกับเจ้านายของเธอซะเหลือเกิน พึ่งเข้ามาบริหารงานของบริษัทได้ไม่ถึงสัปดาห์เลยด้วยซ้ำ แต่มาทำงานแค่วันสองวัน ที่เหลือ นอนอยู่บ้านสบายๆ เป็นลูกชายเจ้าของบริษัท ไม่ต้องทำอะไร ก็อยู่อย่างชิวล์ๆ จะมาทำงานตอนไหนก็ได้
“แล้ว ข้าวจะทำยังไงคะพี่ ข้าวเตรียมงานพรีเซนต์มาแล้ว และวันนี้ ถ้าข้าวไม่ได้คำตอบจากคุณเตชินทร์ ข้าวจะต้องตายแน่ๆ เลยค่ะพี่”
เกวลินเครียดทุกทาง จะกลับก็ไม่ได้ จะรอ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะเข้ามาหรือเปล่า เกวลินจะทำอย่างไรดี
“พี่ก็ไม่ทราบเหมือนกัน พี่เองก็พึ่งมาทำงานที่นี่ได้ไม่ถึงสิบวันเลย ตั้งแต่พี่มาทำงาน พี่ก็เห็นคุณเตชินทร์เข้าบริษัทแค่สองวันเองนะ”
ญาดาก็ไม่รู้จะทำยังไง ลำพังตัวเธอเองก็ใหม่ เจอเจ้านายแบบนี้เธอก็เครียดเหมือนกัน อย่าบอกนะ ว่าอยู่ดีๆ เจ้าของเธอก็ไม่อยากทำงานแล้ว แล้วญาดาล่ะ จะไปอยู่ที่ไหน ตำแหน่งของเธอคือเลขาของเขาด้วยสิ
“พี่คะ ถ้าข้าวจะไปตามคุณเตชินทร์ที่บ้านได้มั้ยคะ”
เกวลินไม่เหลือหนทางไหนอีกแล้ว ขืนเธอรออย่างไม่มีความหวังอย่างนี้ล่ะก็ เธอต้องเครียดตายอย่างแน่นอน
“อะไรนะ! น้องข้าวจะไปตามคุณเตชินทร์ที่บ้านเหรอ? พี่ว่าน้องข้าวรอที่นี่ดีกว่านะ เผื่อคุณเขาจะมา”
“แล้วข้าวจะแน่ใจได้ยังไงคะพี่ ว่าคุณเตชินทร์เขาจะมา”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ อันนี้ พี่ก็ช่วยน้องข้าวไม่ได้เหมือนกัน คุณเตชินทร์เขาเป็นลูกชายเจ้าของบริษัท เขาจะมาหรือไม่มาทำงานก็ไม่มีใครรู้ได้เลย พี่เองก็จนใจแล้วเหมือนกัน”
“งั้น ข้าวขอเบอร์คนขับรถของคุณเตชินทร์หน่อยค่ะ ข้าวจะโทรไปถามว่า มีแนวโน้มที่คุณเตชินทร์ จะเข้ามาที่บริษัทหรือเปล่า ข้าวรออยู่เฉยๆ ไม่ได้แน่ๆ ค่ะพี่”
ความเครียดในตอนนี้ มันทำให้สมองของเธอก็แทบจะระเบิดออกมาแล้ว เกวลินจะต้องพรีเซนต์งานวันนี้ให้ได้ ไม่ว่าจะยังไง เธอจะต้องทำมันให้สำเร็จ
“มีๆ เดี๋ยวพี่ต่อสายให้ก็แล้วกันนะ”
ญาดารีบหยิบสมาร์ทโฟนของเธอมากดต่อสาย เพื่อช่วยเหลือเด็กสาวคนนี้ทันที สงสารจับใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ และเมื่อวานเธอก็เป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย เด็กฝึกงาน ต้องมารับภาระงานที่หนักหนา ก็น่าเห็นใจอยู่นะ
“...” สายตาของเกวลินจับจ้องไปที่พี่เลขาตลอดเวลา หัวใจของเธอหนักอึ้งเหมือนถูกทับด้วยภูเขาทั้งลูก!
“ฮัลโหล...พี่ชาติ...เอ่อ...คุณเตชินทร์ตื่นหรือยังคะพี่”
“อ๋อ...ตื่นแล้ว...แต่เห็นบอกแม่บ้านว่า วันนี้คุณเตชินทร์จะไม่ออกไปไหนนี่...มีอะไรหรือเปล่า?”
“เอ่อ พอดี มีน้องฝึกงานจากบริษัทเตชะวรากูล มาขอพบคุณเตชินทร์ เพื่อรอพรีเซนต์งาน ตามที่คุณเตชินทร์นัดไว้ค่ะพี่”
“โอเค เดี๋ยวพี่จะให้แม่บ้านเข้าไปถามคุณเตชินทร์อีกทีนะ เธอจะวาง หรือรอสายล่ะ”
“รอค่ะ!”
เกวลินรีบตอบแทนพี่เลขาในทันใด นาทีนี้ เธอไม่มีเวลาจะมาคิดถึงมารยาทแล้ว
“ใจเย็นๆ นะน้องข้าว”
ญาดาหันไปปลอบใจเด็กสาว ถ้าญาดาเป็นเหมือนเด็กฝึกงานคนนี้ เธอก็เครียดเหมือนกัน จะรอ ก็ไม่รู้ว่าจะมาหรือเปล่า จะกลับไป ก็ไม่ได้
“ค่ะพี่...”
มือบางอันเย็นเฉียบบีบเข้าหากันแน่น เธอรู้สึกเหมือนถูกพันธนาการด้วยโซ่แห่งความกดดัน ชีวิตของเกวลิน ต้องขึ้นอยู่กับเขาแล้วตอนนี้ จะบีบก็ตาย จะคลายรอด...
5 นาทีต่อมา...
“ค่ะพี่ชาติ ว่าไงคะพี่”
“คุณชินทร์ บอกว่าไม่เข้าบริษัทแล้ว วันนี้อยากจะนอนพักผ่อนอยู่บ้าน”
“อ่าว แล้วพี่ได้บอกคุณเตชินทร์มั้ย ว่าน้องเขามารอที่จะ พรีเซนต์งานอยู่ที่บริษัทค่ะ”
“บอกแล้ว แต่คุณชินทร์เขาบอกว่า ถ้ารีบร้อนพรีเซนต์ ก็ให้มาหาที่บ้านเลย”
“ห๊ะ! ให้น้องฝึกงานไปหาที่บ้านเนี่ยนะ น้องเขาจะไปได้ยังไงล่ะพี่ แล้ว...”
“ไปค่ะ! ข้าวจะไปที่บ้านคุณเตชินทร์ค่ะ”
เกวลินตัดสินใจพูดแทรกอีกครั้ง เธอไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่ไป เธอจะต้องบ้าตายแน่ๆ
“โอเคพี่ ขอบคุณมากค่ะ เดี๋ยวน้องเขาจะไปหาคุณเตชินทร์ที่บ้านนะคะ ยังไง พี่ก็มายืนรอหน้าประตู พาน้องเขาไปหน่อย เดี๋ยวหนูจะเอาเบอร์โทรของพี่ให้น้องเขานะคะ”
“ได้ๆ”
“เฮ้อ...”
เกวลินถอนใจหายด้วยความโล่งอกทันที เมื่อเธอได้ยินปลายสายตอบตกลง ต่อจากนี้ เธอก็จะต้องลุยเองแล้วสินะ
“น้องข้าว*เมมเบอร์ของพี่คนขับรถไว้เลย แล้วรู้เส้นทางไปบ้านคุณเตชินทร์หรือเปล่า”
“เปิด Map ค่ะพี่สบายมากค่ะ เอ่อ พี่ญาดาจะไปกับข้าวมั้ยคะ ถ้าพี่ไป...”
ยังไม่ทันที่เกวลินจะพูดจบ
“พี่ไม่ไปค่ะ! เอ่อ...พี่ไปไม่ได้หรอก ความจริงพี่ก็พึ่งทำงานที่นี่ยังไม่ถึงสิบวันเลย พี่ไม่กล้าไปหรอก”
“ทำไมเหรอคะพี่ ก็พี่เป็นเลขาคุณเตชินทร์ไม่ใช่เหรอคะ?”
“ใช่...แต่พี่จะบอกข้าวดีหรือเปล่านะ เรื่องทางบ้านของคุณเตชินทร์น่ะ ถ้าบอก ก็จะไม่กล้าไปอีก เอาไงดี...”
“พี่บอกมาเถอะค่ะ พี่พูดมาขนาดนี้แล้ว”
เอาเข้าจริงๆ เกวลินก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเหมือนกันนะ ต้องเข้าบ้านมหาเศรษฐีพันล้านหมื่นล้านแบบนั้น
“แม่ของคุณเตชินทร์ ท่านเป็นคุณผู้หญิงที่...เอ่อ...เข้มงวดมาก พูดตรงๆ ก็ดุมาก อันนี้ พี่ฟังคนที่บริษัทพูดมาอีกทีนะ คือคุณจันทร์ทิพย์เธอเป็นท่านผู้หญิงไฮโซ ข้าวพอนึกออกมั้ย คือแนวคุณหญิงคุณนาย เหมือนในละครอ่ะ”
“พอนึกออกค่ะ เอ่อ งั้น พี่ไปกับข้าวไม่ได้เหรอคะ”
“ข้าวไปเองเถอะนะ พี่พึ่งทำงานได้ไม่นาน พี่ไม่กล้าหรอก ข้าวไปคนเดียวเถอะนะ”
“...” เกวลินจะทำอย่างไรดี หรือจะโทรชวนอลินดาให้มาเป็นเพื่อนเธอ แต่วันนี้เพื่อนของเธอก็ไม่ว่างอีก ออกพื้นที่กับทีมC หรือเธอจะต้องลุยเดี่ยวแล้ว...
@นนทบุรี...@บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์น “ตกลงว่า เรื่องนี้ ก็เอาตามนี้ก็แล้วกัน ในเมื่อเด็กๆ เขาชอบพอกัน ให้เขาตกลงกันเอง จะหมั้นหรือจะแต่ง ก็แล้วแต่พวกเขาก็แล้วกันนะ” “ครับ ผมต้องขอบคุณแทนลูกชายผมด้วยครับ ที่เมตตาเอ็นดูตาชินทร์ ผมเลี้ยงลูกตามใจมาตลอด ต้องขอโทษด้วยครับ ที่ไปทำเรื่องล่วงเกินลูกสาวของคุณฐานทัพ...อืม...ความจริงเรียกคุณหมอดีกว่านะครับ” “ได้ครับ เอาที่คุณสะดวกครับ ยังไง อีกหน่อยเราสองครอบครัว ก็ต้องเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วครับ” “ดิฉัน ต้องขอบคุณด้วยค่ะ ที่เอ็นดูตาชินทร์ เราสองคนดีใจมากค่ะ ที่ตาชินทร์ชอบพอกับลูกสาวของคุณ เรื่องหมั้นเรื่องแต่ง เดี๋ยวให้เขาสองคนตกลงกันก็ได้ค่ะ ทางเราพร้อมเสมอค่ะ”จันทร์ทิพย์เอ่ยเสริม พร้อมกับปรายตามองว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอ ลูกชายของเธอตาถึงไม่เบาเลยนะ เลือกได้ดี สวย น่ารัก บุคลิกทุกอย่างเหมาะสมกับลูกชายเธอมาก เรื่องฐานะทางครอบครัว จันทร์ทิพย์ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจเลย ขอเพียง ลูกชายสุดที่รักของเธอชอบก็เพียงพอแล้ว “ค่ะ ก็คงจะต้องหมั้นไว้ก่อนค่ะ ยัยข้าวยังเรียนไม่จบเลย ก็น่าจะเกือบสองปีค่ะ แต่งตอนนี้ ค
ในเวลาต่อมา...สายสนทนา... “ว้าว! เริ่ด! พี่ชินทร์สุภาพบุรุษสุดๆเลยอ่ะ” “ฉันเล่าให้เธอฟัง เพื่อจะขอคำปรึกษานะ น้ำตาล ไม่ใช่ไปอยู่ข้างพี่เขา”หลังจากที่พ่อแม่กลับไป เขาก็กลับไปเคลียร์ที่บ้าน ส่วนเกวลินก็อัดอั้นตันใจ จนต้องโทรมาระบายกับเพื่อนสาวของเธอ “เธอจะต้องปรึกษาอะไรกันอีก ในเมื่อเรื่องของเธอกับพี่ชินทร์มันมาไกลขนาดนี้แล้ว เธอต้องปล่อยแล้วมั้ย จะกังวลทำไมอีก ฉันไม่เข้าใจเธอเลย...” “ฉัน...” “เธอกังวลเรื่องพ่อแม่ของพี่ชินทร์ใช่มั้ย หรือเธอกังวลเรื่องการถอนหมั้นของพี่เขา ฉันขอบอกไว้เลยนะ เรื่องพวกนี้ เธอไม่ต้องเอามาคิดหรอก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่ชินทร์ ให้พี่เขาจัดการเอง พรุ่งนี้ เธอก็แค่กลับบ้านไปเตรียมต้อนรับพ่อแม่พี่ชินทร์ก็พอ...อย่าเครียดเลย มันไม่มีอะไร” “ฉันเครียดเรื่องถอนหมั้นของเขานี่แหละ คนอื่นจะคิดว่า ฉันเป็นคนแย่งพี่ชินทร์มาจากคู่หมั้นเขาหรือเปล่า และพ่อแม่ของเขาจะคิดยังไง มันเป็นเรื่องวุ่นวายมากเลยนะ น้ำตาล” “เธอไม่ได้เป็นคนแย่งพี่ชินทร์นะ เข้าใจซะใหม่ ความจริงถ้าเธอตกลงกับพี่เขาตั้งแต่แรก พี่ชินทร์ก็ไ
เช้าวันต่อมา... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้นมือเรียวบางเลื่อนออกมาจากผ้าห่ม ควานหาตามเสียงเรียกเข้าที่ดังอยู่ไม่หยุด บนโต๊ะหัวเตียง เสียงสั่นจากโทรศัพท์ยิ่งเร่งให้เธอรีบหาต้นเหตุของเสียงนั้น“ค่ะ...มะ-แม่”เกวลินเหลือบมองคนที่นอนอยู่ข้างกายเธอ“แม่กับพ่อ มาแวะมาหาลูก อีก ห้านาทีลงมาเปิดประตูให้พ่อกับแม่ด้วยนะ”“คะ? อะไรนะคะ!! แม่กับพ่อกำลังจะมาหาข้าวงั้นเหรอคะ ละ-แล้วทำไม ไม่โทรบอกข้าวก่อนล่ะคะ”“ก็บอกก่อนนี่ไง ทำไมเหรอ? หรือลูกไม่อยู่ที่ห้อง อืม ตอนนี้ก็พึ่งจะเก้าโมงเองนะ วันเสาร์ด้วย”“เออ คือว่า ข้าวแค่ตกใจค่ะแม่ ความจริงแม่ต้องบอกข้าวก่อนสิคะ”เกวลินหันไปมองคนตัวใหญ่ ที่ยังคงหลับลึกไม่ยอมตื่น“อ่ะ งั้น อีกห้านาทีแม่จะถึงแล้ว ลงมาเปิดประตูให้แม่ด้วยนะ แค่นี้แหละ”ตึ๊ด! ตึ๊ด!ปลายสายถูกตัดไปเกวลินกำลังอยู่ในอาการตกใจ เธอควรจะทำอะไรก่อนดีนะ เวลาห้านาที มันจะทำอะไรได้ล่ะ บ้าจริง!“พี่ชินทร์!! พี่ตื่นเถอะค่ะ”เกวลินเขย่าคนตัวใหญ่ พ่อกับแม่จะเห็นเธอกับเขาอยู่ในสภาพนี้ไม่ได้เด็ดขาด“อึ้มม์...พี่ขอนอนอีกหน่อยนะ”“ไม่ได้! พี่ต้องตื่นเดี๋ยวนี้นะ!”เกวลินลุกขึ้น พร้อมกับรีบคว้
“เหตุผล...ที่พี่ทำกับข้าวทั้งหมด...ก็เพราะ...พี่รักข้าวนะ”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน แม้ใบหน้าคมยังคงฉาบด้วยท่าทีมั่นคง แต่ลึกลงไปภายในกลับปั่นป่วนจนแทบควบคุมไม่อยู่ ทุกถ้อยคำที่เขาพูดออกมานั้นล้วนมาจากความจริงในใจเขาทั้งหมด เพราะนี่คือสิ่งที่เตชินทร์ไม่เคยเอ่ยกับใคร“...!!!”ดวงตาของเธอเบิกกว้างในทันทีที่ได้ยินถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากเขา สมองของเกวลินเหมือนหยุดทำงานชั่วขณะ ร่างกายของเธอแข็งทื่อราวกับถูกตรึงให้อยู่กับที่หัวใจเธอเต้นแรงสะท้อนก้องอยู่ในอก ทั้งที่ปากอยากจะโต้กลับ อยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล แต่กลับไม่มีเสียงใดเปล่งออกมา มีเพียงความเงียบที่ห่อหุ้มเธอเอาไว้ ดวงตาที่เธอไม่กล้าสบตรง ๆ กับเขาเพราะรู้ดีว่าในนั้นมีบางสิ่งร้อนแรงและจริงจังเกินกว่าจะปฏิเสธได้ง่าย ๆ“พี่รักเธอจริงๆ นะ ถึงเธอจะปฏิเสธพี่ แต่พี่ก็ยังรักเธออยู่ดี”เตชินทร์เผยความรู้สึกของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา ตอนแรกเขาคิดว่า ‘แค่เสียหน้า เพราะถูกปฏิเสธ’ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ เขาชอบเธอต่างหากที่เป็นเรื่องจริง“เอ่อ...แล้วพี่...ทำไมถึงรักข้าวล่ะคะ?”เมื่อตั
@ โมเดิร์นคอนโด... “เฮ้อ...”เสียงถอนหายใจแบบยาวๆ ดังขึ้น หลังจากที่เกวลินวางสายสนทนาจากเพื่อนรักของเธอ เกวลินได้เล่าเรื่องที่เธอประสบพบเจอมาในวันนี้ให้อลินดาฟัง สงสัย เธอคงจะหนีผู้ชายคนนี้ไม่พ้นเสียแล้วจริงๆอลินดาบอกเธอว่า... ‘เธอควรจะทำใจ และยอมรับพี่เขาได้แล้วนะ’ ‘ฉันต้องทำแบบนั้นจริงๆ ใช่มั้ย น้ำตาล’ ‘ใช่! พี่ชินทร์ทำถึงขนาดนี้แล้ว เชื่อฉันสิ พี่ชินทร์ชอบเธอมาก ฉันว่า เป็นเรื่องดีนะ ถ้าตัดความเพลย์บอยออก พี่ชินทร์ก็เป็นผู้ชายที่โอเคคนหนึ่งเลยแหละ’ “...”เกวลินกำลังนึกย้อนถึงคำพูดของเพื่อนเธอ ‘เพลย์บอยนี่แหละ คือเรื่องที่สำคัญสำหรับฉัน’ อุปสรรคระหว่างเกวลินกับเขา มันไม่ใช่แค่เรื่องที่เขามีคู่หมั้นหรอกนะ เรื่องที่เธอต้องกังวลมากที่สุดก็คือ เรื่องครอบครัวของเขา กับครอบครัวของเธอต่างหากคือปัญหาใหญ่ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็เจอแต่ทางคู่ขนาน ที่ไม่สามารถจะบรรจบกันได้... ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงสมาร์ทโฟนดังขึ้น เกวลินกดเลื่อนดูสายเรียกเข้านั้น ‘นี่เขาจะไม่ให้เธอได้พักเรื่องของเขาบ้างเลยหรือไง’นิ้วเรียวยาวกดรับสายสนทนานั้น
“เมียงั้นเหรอ! กรี๊ดดดดดด!!!”เสียงกรีดร้องของเพนนีดังลั่นจนทะลุไปถึงข้างนอก เลขาที่เฝ้าดูสถานการณ์อันน่าหวาดเสียวนี้ ก็รีบวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น “คุณเตชินทร์คะ? มีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ไม่มีอะไร...”เตชินทร์ตอบด้วยสีหน้าราบเรียบนิ่งเฉย ราวกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย เกมนี้เขารู้อยู่แล้ว ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นอย่างไร “ปล่อยนะ...”เกวลินพยายามขืนตัวออกจากการอ้อมกอดของเขา พร้อมกับเหลือบมองไปที่ผู้หญิงอีกคน ที่ยืนตาโตหน้าแดงกำมือแน่นพร้อมเอาเรื่องได้ตลอดเวลา “เพนนีจะไม่ยอมถอนหมั้นให้พี่แน่นอน พี่ชินทร์ทำกับเพนนีแบบนี้ มันหยามเพนนีเกินไป คอยดู! เพนนีจะไปบอกคุณลุงกับคุณป้า ว่าพี่ชินทร์เอาผู้หญิงข้างถนน...อ่อ...ไม่ใช่แค่นั้นสิ...ยังเป็นนักศึกษาอยู่ด้วย เธอคงจะรอเวลานี้มานานแล้วสินะ!” “ดิฉันไม่ได้...”เกวลินกำลังจะโต้กลับ แต่ทว่าก็มีคำพูดหนึ่งแทรกขึ้นมาก่อน ประโยคนั้นทำให้เธอตกใจเพิ่มขึ้นไปอีก “นั่นมันก็แล้วแต่เธอเลย พี่คุยป๊ากับม๊าของพี่เรียบร้อยแล้วว่าพี่จะถอนหมั้นกับเธอ พี่ไม่ได้ชอบเธอ แต่พี่ชอบคนนี้”เตชินทร์กระชับอ้



![สมิงดำ [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)



