로그인ตอนนี้เราอยู่ที่ฟลอเรนซ์ จะไปเวนิสต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง แอนนารีบเก็บของใส่กระเป๋าแล้วออกจากห้อง เมื่อเปิดประตูก็พบว่าเขารออยู่แล้ว
แทนที่เขาจะพาเธอไปชั้นล่างกลับเลือกจะเดินขึ้นข้างบน เธอจึงรู้ว่าพาหนะในการเดินทางของเราคือเฮลิคอปเตอร์ กระเป๋าเดินทางถูกเอาขึ้นไปวางไว้ ส่วนเธอถูกจับนั่งด้านหน้า ไม่นานลูคัส บอดี้การ์ดของเขาก็เข้ามานั่งข้างหลัง
แอนนาหันไปถาม “ใครขับ?” ไม่รอให้เขาเฉลย มาร์โกก็นั่งประจำที่นักบิน เธอหันมองแล้วถามอีกรอบ
“คุณขับได้?” เขาจะครบเครื่องไปไหน
“ก็ไม่แน่ใจ” แต่คำตอบของเขาทำให้เธอถึงกับกลืนน้ำลาย
มาร์โกหยิบที่ครอบหูมาใส่ให้คนข้างตัวก่อนจะดึงสายคาดนิรภัยมารัดให้แน่น คนถูกบริการนั่งตัวแข็งกว่าเดิม
แอนนามองคนที่ยังอยู่ตรงหน้า เขาเหมือนกำลังได้เล่นสนุก ส่วนเธอไม่สนุกด้วยเสียหน่อยจึงสะบัดหน้าไปทางอื่น
นักบินหันมาเตรียมการ พอติดเครื่องก็กระตุกจนแอนนารู้สึกได้
“เอาจริง ๆ คุณขับเป็นไหม” มาเฟียจอมเจ้าเล่ห์เพียงยิ้มกวนใส่ จากนั้นก็ยกตัวเครื่องขึ้นจากพื้น
แอนนาพ่นลมหายใจ คิดว่าเขาคงขับเป็นแน่ ทุกอย่างกำลังไปได้สวยจนกระทั่งจู่ ๆ เครื่องบินก็ดิ่งลงต่ำ
“คุณ!!”
นักบินหันมองคนหน้าซีดเผือด แอนนาหาหลักจับไว้มั่นก่อนจะคว้าแขนเขา “ฉันยังไม่อยากตาย”
คนแกล้งยังแกล้งต่อไป มุมปากยกขึ้นอย่างพอใจ
แอนนากรี๊ดดังลั่นหลับตาปี๋ แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจ เมื่อลืมตาก็พบว่าเฮลิคอปเตอร์กำลังบินสูงขึ้นเรื่อย ๆ เธอมองคนขับ หน้าบึ้งด้วยความไม่พอใจ
“ผมอยากจับมือคุณนะ แต่ผมต้องขับเฮลิคอปเตอร์”
พอรู้ตัวว่ากำลังจับแขนเขาไว้แน่นก็รีบดึงมือออก แต่อีกฝ่าย ไม่ยอม กลับประคองมือเธอขึ้นแล้วจูบจึงยอมปล่อย
เจ้าของมือรีบดึงมือมาวางบนตักแล้วหันมองวิวผ่านกระจกด้านข้าง ไม่สนใจเขาอีก ทั้งที่หัวใจกำลังเต้นรัว
ใจเย็นแอนนา อย่าได้หลงกลคนแบบเขาเป็นอันขาด
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเฮลิคอปเตอร์ก็ลงจอดที่ดาดฟ้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ตอนแรกเธอคิดว่าเขาจะพักที่นี่แต่ก็เปล่า เมื่อลงลิฟต์มายังชั้นล่างสุด จึงพบว่าชั้นใต้โรงแรมมีเรือยอชต์จอดอยู่
“พวกเราจะไปไหน?” ที่ถามไม่ได้ต้องการคำตอบ แค่อยากพูดอะไรบ้าง ตั้งแต่เจอเขาเธอไม่เคยได้อยู่นิ่งสักวัน คนพามาไม่ตอบสิ่งใด
สิ่งหนึ่งที่เธอตกใจคือทุกคนล้วนมีอาวุธครบมือ อีกทั้งจำนวน บอดี้การ์ดยังเพิ่มขึ้นนับไม่ถ้วน ในใจคนที่ไม่เคยเจอคนประเภทนี้ได้แต่หวาดกลัว พอเขาบอกให้ขึ้นเรือเธอก็รีบก้าวอย่างว่องไว
ขืนชักช้ามีหวังถูกยิงทิ้งไว้แถวนี้ เล่นตัวตอนนี้ไม่ดีแน่ คนรู้จัก เล่นตัวนั่งได้ไม่นานประตูโรงแรมก็เปิดออก เรือสามลำมุ่งหน้าไปยังแม่น้ำเบื้องหน้า เส้นทางเหมือนจะออกไปยังทะเลเอเดรียติก
แอนนาหันมองสองฝั่ง ตั้งแต่มาอิตาลี นี่เป็นครั้งที่สองที่เธอได้มาเยือนเวนิส ครั้งก่อนเพียงมาเที่ยวกับเพื่อนในกลุ่ม ได้นั่งแค่เรือพาย ไม่เคยได้นั่งเรือยอชต์สักครั้ง
คลื่นน้ำกระทบบ้านเรือนสองฝั่งเพราะเรือเร่งด้วยความเร็ว เสียงเครื่องยนต์ดังพอสมควร น่าจะทำให้คนที่กำลังหลับไม่พอใจ
เสียงเครื่องน่ะไม่เท่าไร ถ้าไม่ใช่นาทีต่อมาเธอได้ยินเสียง...
ปัง!! แอนนามองไปด้านหลัง มีเรือยอชต์ตามมาอีก 2 ลำ แถมคนบนเรือทุกลำก็เล็งปืนยาวมาทางพวกเรา เห็นแบบนั้นแล้วถามหน่อยว่าเธอจะทำยังไง
ไม่ต้องคิดแล้ว แอนนาทรุดลงบนพื้นแล้วก้มต่ำยิ่งกว่าเดิม พยายามปิดปากตัวเองไม่ให้กรีดร้องออกไป
มาร์โกหยิบปืนขึ้นมายิงสวน เสียงปืนดังไปทั่วลำคลองไม่รู้ว่า กี่ครั้ง เพราะเธอหูดับไปแล้วจากเสียงดังกล่าว มารู้สึกตัวก็ตอนที่เรือโคลงเคลง พอเงยหน้าถึงเห็นว่าลูคัสที่เป็นคนขับเรือโดนยิงเข้าที่บ่า!!
ตายแน่ เธอได้ตายสมใจ คนเป็นมาเฟียสั่งให้คนขับถอยออกจากหลังพวงมาลัยเรือแล้วเข้าไปขับแทน เท่านั้นแหละหายนะก็มาเยือน เพราะเจ้าพ่อเลือดร้อนเร่งเครื่องเร็วกว่าเดิม
ยัง ๆ เท่านั้นยังไม่พอ เขายังขับเลี้ยวเข้าลำคลองเล็กวกไปวนมารอบเกาะเวนิส ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าพวกเราอยู่ตรงไหนของเกาะแล้ว จังหวะสุดท้ายเรือก็เลี้ยวเข้าบ้านหลังหนึ่งจากนั้นประตูก็ปิดอย่างรวดเร็ว
มาร์โกดับเครื่องยนต์แล้วรอฟังเสียง ได้ยินเสียงเรือขับผ่านไป พวกมันคงตามไม่ทันแล้ว เขาหันมาพยุงลูคัสขึ้นไปยังประตูลิฟต์ ไม่ต้องให้บอกเธอก็รีบตามไป
มาถึงชั้นบนสุดเธอจึงพบว่าพวกเราอยู่ในบ้านหลังหนึ่งใจกลางเมืองเวนิสที่มองเห็นมหาวิหารซันมาร์โก เห็นเสาสีแดงและสิงโตสีทองมีปีกเด่นชัด แอนนาหันมามองรอบห้อง หรือนี่จะเป็นบ้านลับอีกหลังของเขา
เธอยังไม่ทันนั่งก็มีคนเข้ามาหลายคนช่วยพยุงเขาไปยังอีกห้อง เธอแอบมองเข้าไปในห้องดังกล่าว เหมือนจะมีอุปกรณ์การแพทย์ครบมือ
เมื่อหมดปัญหาเรื่องคนเจ็บ เธอก็เริ่มสำรวจ ทางฝั่งซ้ายของชั้นนี้ มีสามห้องนอนติดริมแม่น้ำเวนิส มีห้องโถงใหญ่ซึ่งก็คือที่เธออยู่ ส่วนด้านขวาเป็นห้องครัวเล็กที่ดูเหมือนจะไม่ได้ใช้งานมานานพอสมควร
แอนนาเลือกนั่งที่โซฟา ส่วนมาร์โกหายเข้าไปในห้องห้องหนึ่งเหมือนจะไปโทรศัพท์
เดี๋ยวนะ!! แอนนาหันมองรอบห้องอีกครั้ง ตอนนี้เหมือนเธอจะถูกลืม หรือควรจะใช้โอกาสนี้แอบหนีไปดี?
คิด ๆ แล้วก็น่าจะดี ไหน ๆ ก็ไม่มีใครสนใจ ว่าแล้วก็ลุกขึ้นจากโซฟา ห้องที่ทำแผลให้ลูคัสกำลังวุ่น ส่วนเขาที่อยู่อีกห้องก็เงียบสนิท หนีสิ จะอยู่รออะไรไม่ทราบ
เท้าไวกว่าความคิด รีบเปิดประตูแล้วกดลิฟต์ไปยังชั้น 1 ที่ไม่ใช่ห้องใต้ดิน เมื่อเปิดออกกลับพบว่าที่พวกเราอยู่นั้นเป็นร้านอาหารแห่งหนึ่ง
ทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว เธอหมายถึงพ่อครัวทั้งหมด ทุกอย่างหยุดชะงัก วิ่งสิรออะไรอีก!!!
“จับเธอไว้!!”
“งานก็คือเงิน ถ้ารู้จักทำงานก็มีเงินกินข้าว” พูดจบเธอก็เดินไปหยุดหน้าลูคัส “ส่วนนาย ตอนนี้นายมีงานใหม่แล้ว”ฮื้อ แม้แต่ลุงลูคัสยังถูกขวางไม่ให้ช่วยเธอ เจด้าได้แต่ร้องในใจ สุดท้ายเธอก็ถูกไล่ออกจากบ้านมาอยู่ห้องเช่าใกล้มหา’ลัยที่มีนักศึกษาพักอยู่ทั้งตึกแถมพอเปิดประตูก็พบกับผู้หญิงอีกคน หญิงสาวในห้องหันมองแล้วรีบแนะนำตัว “ฉันชื่อเจน ฝากตัวด้วยนะ เธอชื่ออะไร”แม่นะแม่ ให้เธอออกมาอยู่ข้างนอกไม่พอ ยังให้มาอยู่ร่วมกับคนอื่นอีก เธอจะทำยังไงดี หันมองข้าวของที่อีกฝ่ายเอามาไม่เยอะอย่างที่คิด เจด้าหน้าบูดบึ้ง เดินไปที่เตียงของตัวเองแล้วก้มหน้ากรี๊ดใส่หมอนเพื่อระบายอารมณ์หลังจากกรีดร้องจนพอใจแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนร่วมห้องหนึ่งเดียว “ฉันชื่อเจด้า”อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้เจนจิราได้รู้ว่าอนาคตที่จะอยู่ร่วมห้องกันต้องสนุกแน่“เธอเรียนคณะไหน?”เจด้าบอกชื่อคณะของตน จึงรู้ว่าอีกฝ่ายก็เรียนคณะเดียวกัน เซคเดียวกันด้วย แต่เจด้าผู้ซึ่งไม่สนใจใครจำใครไม่ได้“ไปกินข้าวกันไหม” พอเจนจิราทัก ท้องเจด้าก็ร้องขึ้นมาทันที จึงพยักหน้ารับแล้วลุกไปหยิบกระเป๋าแบรนด์เนมมาคล้องแขน“กระเป๋าใบนี้
ปอฝ้ายหันมามอง ทำไมคนที่หน้าตาเหมือนฝรั่งถึงได้พูดไทยได้ ยังไม่ทันได้ตอบ อีกฝ่ายก็ปิดประตูใส่หน้าคืนเธอยกแขนขึ้นกอดอก ชักจะโมโหจนลืมคิดไปว่าที่เขาพูดก็ถูกแล้ว และเพราะเธอยังยืนอยู่ทำให้ได้ยินเสียงถ่ายหนัก ที่แท้ก็โมโหเพราะปวดหนักนี่เอง เสียงปู้ดป้าดยิ่งทำให้ปอฝ้ายกลั้นขำผ่านไปสิบนาทีมาร์กัสก็ออกมา เด็กสาวยังยืนอยู่“เธอมาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไร”“ก็ตั้งแต่นายเข้าไปนั่นแหละ ได้ยินอะไรดี ๆ เยอะเลย” จากนั้นก็ทำเสียงปู้ดป้าดล้อเลียน“เธอนี่มัน” เขากำหมัดแน่น แต่เมื่อคิดว่าต่อไปคงไม่ได้เจอกันอีกเลยพยายามควบคุมอารมณ์หลังจากแกล้งจนพอใจ ปอฝ้ายก็ถามชื่ออีกฝ่าย “นายชื่ออะไร”เป็นมาร์กัสที่แปลกใจกับอารมณ์ของเด็กสาว “เธอจะรู้ไปทำไม”“เราชื่อปอฝ้ายนะ”มาร์กัสไม่คิดจะบอก ปอฝ้ายก็เหมือนเด็กสาวดื้อรั้นทั่วไปจึงก้าวไปขวาง “ไม่ให้ไป เราบอกชื่อแล้ว นายต้องบอกชื่อตัวเองด้วย”เขาไม่ได้อยากรู้ชื่ออีกฝ่ายเสียหน่อย มาร์กัสจะกลับไปนั่งที่จึงผลักเธอไปโดยไม่ตั้งใจ ทำให้ปอฝ้ายล้มลง“โอ๊ย!!” เธอร้องดังลั่น คนทำตกใจรีบก้มลงถาม“เจ็บตรงไหนไหม” พอจะจับแขนเธอก็สะบัดออกแล้วลุกหนี มาร์กัสเลยได้แต่ขอโทษและบอกชื่อตนเ
แอนนามองรูปถ่ายในมือ มาร์คัสเกิดหลังมาร์กัสสองปี พวกเขาเติบโตไล่ ๆ กันมาเหมือนฝาแฝด แต่นิสัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงมาร์กัสที่ถูกเลี้ยงมาโดยมาดามคารีนาเป็นคนสุขุมแต่ร้ายลึก ส่วนมาร์กัสที่เติบโตมาโดยฝีมือของพ่อเขานิสัยเหมือนต้นแบบไม่มีผิดท่าทีของมาร์กัสห่างเหินขึ้นเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอไปเยี่ยมเขาที่ฝรั่งเศส จนเธอเริ่มกลัวว่าต่อไปอาจเกิดเรื่องบางอย่างเธอมองเจด้าที่ตอนนี้อายุครบสิบขวบกำลังชวนมาร์คัสเล่นซ่อนแอบ ส่วนมาร์กัสนั่งมองนิ่ง ๆ อยู่บนเก้าอี้ แอนนาเดินเข้าไปนั่งกับลูกมาร์กัสหันมองมารดาแล้วตัวแข็งขึ้นมาเล็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าเขากำลังขยับหนี แอนนาขยับตามจนตัวเขาติดที่วางแขน“ทำไมถึงไม่อยากอยู่ใกล้แม่”แววตาเขาเหมือนมีคำพูด แต่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำ “โกรธแม่ใช่ไหมที่ยกหนูให้ย่าเลี้ยง”มาร์กัสตอบแค่ประโยคเดียว “แม่ไม่รักผมใช่ไหม”เป็นเธอเองที่จุกจนพูดไม่ออก “ไม่ว่าลูกคนไหนแม่ก็รักเท่ากัน ยิ่งลูกที่แม่ต้องจำใจยกให้คนอื่นเลี้ยงก็ยิ่งรักและคิดถึง แม่รู้ว่าลูกน้อยใจ ที่เจด้าและมาร์คัสได้อยู่กับแม่”เธอจับแขนลูกชาย มาร์กัสดึงแขนออก เธอจึงเปลี่ยนเป็นโอบกอดจนเขาจมอยู่ในอก“ผมไม่ไ
แอนนาเงยหน้ามองเขาแล้วยิ้ม ยกปากออกจากท่อนเอ็นจากนั้นก็ก้มลงดูดกลืนลูกไข่ด้านล่างสองลูกไปมา ยิ่งกระตุ้นเร่งเร้าให้เขาปรารถนาในตัวเธอมากขึ้นจึงจับเธอลุกขึ้นแล้วให้คุกเข่ากับโซฟา จากนั้นก็จับท่อนเอ็นอัดลงไป “อ๊ะ คุณใจร้อนไปแล้ว”“สำหรับคุณ ผมไม่เคยมีคำว่าใจเย็น” พูดจบเอวหนาก็กระแทกเร็วและแรง แอนนาเกาะขอบโซฟายึดตัวเองให้แน่นเพราะเกรงว่าจะทรุดลงไป แต่ยิ่งเกาะก็ยิ่งกระแทกแรงจนกระทั่งเธอเสร็จไปอีกรอบเขาจึงยกตัวเธอขึ้นมาอีกรอบท่าอุ้มแตง!! “คุณไหว?”มาร์โกส่ายหน้า “คุณดูถูกผมมากไปแล้ว” ท่อนแขนใหญ่ยกเธอ ได้สบายจากนั้นก็สอดใส่ท่อนเอ็นเข้าไปแล้วเริ่มขยับ แอนนาเกาะคอเขาไว้ให้มั่นจากนั้นก็ส่งเสียงตอบรับความรุนแรงที่มากขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่เธอกล้าไปดูถูกเขาเสียงป๊าบ ๆ ดังไปทั่วห้อง เขาก็ยิ่งยกยิ้มเหมือนเสือร้าย จากโซฟารับแขกก็เลื่อนมายังโต๊ะอาหาร จากนั้นมือเขาก็กวาดแจกันบนโต๊ะ แอนนาไหวตัวทันรีบถือมันขึ้น“อันนี้ฉันเพิ่งซื้อมาจากฝรั่งเศส” เขาไม่เสียดายแต่เธอเสียดาย คนหวงของก็ถือเอาไว้ เขาก็ดึงมันมาวางไว้บนตัวเธอจากนั้นก็สั่ง“ถ้าคุณเสียดายก็อย่าขยับ เพราะไม่งั้นมันจะแตก” จากนั้นเขาก็ถอดท่อนเอ
เขาหยิบเจลหล่อลื่นมาบีบใส่ร่องก้นของเธอแล้วลูบนิ้วถูไถ มุมปากยกยิ้มเหมือนเสือที่กำลังจะตะครุบเหยื่อ ไม่นานนิ้วที่เปียกลื่นก็สอดใส่เข้ามาเช่นเดียวกับท่อนเอ็น“อ๊ะ” แอนนาทรุดลงกับเบาะ แทบจะทรงตัวไม่อยู่แต่เขาก็ยกเอวเธอแล้วเร่งขยับเอวเธอไม่เสร็จตอนนี้ก็เรียกว่าแปลกแล้ว เธอเสร็จไปถึงห้าครั้งหลังจากเขาโยกอยู่เป็นชั่วโมง มาร์โกอุ้มเธอไปที่เตียงนอนจากนั้นก็ยังไม่วายอัดดันท่อนเอ็นเข้ามาอีก“ยกขาขึ้นอีก”ขาเธอแทบจะชี้ฟ้าก็ยังจะให้ยกอีก เขาจะเล่นกายกรรมหรือไง ดูท่าเธอไม่น่าจะรอด แต่แล้วเขาก็ลุกขึ้นสอดใส่ท่อนเอ็นก่อนจะโยกตัว“โอ๊ะ!!!” แอนนาร้องออกมาเพราะท่านี้ทำให้กระแทกลึกไปถึงมดลูก เธอร้องดังเท่าไร เขาก็ยิ่งกดกระแทกลงมา กลายเป็นว่ากว่าจะจบบทรักในห้องแดงเธอก็เสร็จไปอีกหลายรอบ ส่วนเขาเสร็จไปสามครั้ง ถ้ายังไม่ท้องอีกก็ไม่รู้จะต้องทำยังไงแล้วหนึ่งเดือนต่อมา แอนนายกที่ตรวจครรภ์ขึ้นมามองใกล้ ๆ ก่อนจะวางลง คนตรงหน้ายักไหล่“เห็นไหมผมพูดถูก” เธอยอมแล้วจริง ๆ หนึ่งปีที่ผ่านมาเพราะเราเลี้ยงลูกกันเองเลยทำให้มีเวลาส่วนตัวน้อยลง แต่เขาก็ไม่เคยนอกลู่นอกทาง ยังคงรักษาสัญญาอย่างดีพอมาร์กัสถูกพาตัวไป
สรุปเธอให้เขาเข้ามาเพื่อปลอบเธอหรือเธอปลอบเขากันแน่ สุดท้ายเลยต้องพยายามอดกลั้นไม่ร้องจนถึงขีดสุดก็ถูกเข็นเข้าห้องคลอดตอนอยู่ข้างนอกว่าวุ่นวายแล้ว มาเจอตอนเห็นเลือดเธอเขายิ่งตกใจ พอหมอถือมีดจะกรีดด้านล่างมาร์โกก็มองเขม่น หมอจึงต้องอธิบาย“ผมต้องกรีดเปิดให้หัวเด็กออกมาครับ” แม้แต่หมอยังเกรงใจ คิดเอาเถอะ ก็เขาเล่นพกปืนเข้ามาด้วยแอนนาเบ่งลูก เรียกพลังเบ่งได้สองครั้งลูกก็ออกมา คงเพราะกลัวพ่อจะฆ่าหมอเสียก่อนเป็นแน่ เด็กน้อยร้องไห้เสียงดังลั่นห้อง หมอรับเด็กมาวางบนหน้าท้องเธอเพราะเธอไม่อยากให้เขารู้ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ตอนนี้พอเห็นลูกมีไข่ใบใหญ่จึงทำให้เขาฉีกยิ้มยิ่งกว่าเดิม“เป็นผู้ชาย”“ครับเป็นผู้ชาย” หมอมองพ่อของเด็กแล้วก็บ่นในใจ คิดว่าอนาคตต้องลำบากแน่“เชิญคุณพ่อออกไปด้านนอกก่อนนะครับ เดี๋ยวพยาบาลจะทำความสะอาดคุณแม่แล้วพาไปห้องพักฟื้น”มาร์โกพยักหน้าเดินตามรถเข็นเด็กไปนอกห้องคลอด ลูกน้องเขารีบกรูเข้ามาดูเจ้านายอีกคน “ผู้หญิงหรือผู้ชายครับ”“ผู้ชาย” ปากมาร์โกจะฉีกถึงหูแล้ว พอมาถึงห้องเด็กแรกเกิด พยาบาลก็ไม่ให้เขาเข้าไปเลยได้แต่มองอยู่นอกกระจก แอนนาเหมือนจะออกมาแล้วเช่นกันจึงห







