เวลาเกือบสี่ทุ่ม คนตัวกำลังนั่งเล็กนั่งทำรายงานที่ห้องนอนอย่างตั้งอกตั้งใจ บางครั้งหากคิดเนื้อหาที่จะใส่ในรายงานไม่ออก เธอมักจะมองวิวด้านนอกเพื่อปลดปล่อยความตึงเครียด โชคดีที่เธอฝึกงานเสร็จตั้งแต่ช่วงเทอมแรก เทอมที่สองจึงเป็นการทำรายงานส่งให้ทันก่อนขึ้นปีสี่ แกร๊ก~ คนสวยในชุดพร้อมนอนหันไปมองตามต้นเสียง เซนเดินเข้ามาในห้องนอนพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำเล็กน้อย หยิบทิชชู่เปียกมาเช็ดมืออย่างติดเป็นนิสัย ก่อนจะเดินเข้าไปหาคนตัวโตที่นั่งบนเตียงด้วยท่าทางมึนเมาเล็กน้อย "เมาเหรอคะ" ยกมือลูบแก้มสากอย่างอ่อนโยน ไม่เคยเห็นเขาดื่มจนหน้าแดงได้ขนาดนี้ "นิดหน่อย ลูกค้าทำเหล้า เลยได้ลองตัวใหม่ น่าสนใจดี" เขาพูดออกมาระหว่างที่รับเธอขึ้นมานั่งเกยบนตัก ริมฝีปากหยักจูบที่เนินอกอวบเบาๆ "ตัวหอมดี" ถอดเสื้อสูททิ้งลงข้างเตียงอย่างไม่ใยดี ตามด้วยนาฬิกาข้อมือกับเครื่องประดับอื่นที่สวมใส่ในวันนี้ ก่อนจะรั้งท้ายทอยคนตัวเล็กเข้ามาประกบจูบ ฉายความปรารถนาผ่านรสจูบเร่าร้อน ดูดดึงเรียวลิ้นเล็กจนน้ำลายไหลออกมาจากมุมปาก ความรู้สึกที่
หลายวันต่อมา พริมโรสแวะมาซื้อเครื่องสำอางที่ห้างสรรพสินค้า ใกล้เพนท์เฮ้าส์ในช่วงหลังเลิกเรียน วันนี้เซนบอกเธอล่วงหน้าว่าต้องออกไปดื่มกับลูกค้าที่เพิ่งเซ็นสัญญาค้าอาวุธรายใหม่ จึงเป็นการขับรถไปเรียนที่มหาวิทยาลัยด้วยตนเองในรอบสองเดือนของเธอ "คุณผู้หญิงลองน้ำหอมตัวนี้ไหมคะ เป็นกลิ่นใหม่นะคะ วางขายวันนี้วันแรกเลย" พนักงานแนะนำสินค้าใหม่ให้เธอในฐานะแขกวีไอพี หลังจากที่คนตัวเล็กเดินมาถึงก็บอกกลิ่นน้ำหอมที่ต้องการทันทีอย่างไม่ลังเล พริมโรสสูดกลิ่นจากก้านน้ำหอมที่พนักงานยื่นให้ ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ "ไม่ค่ะ แค่นี้พอแล้ว" น้ำหอมกลิ่นฟลอร่าเกินไป ไม่เหมาะกับบุคลิกตนเอง มือเรียวยื่นบัตรเครดิตสีดำที่ได้จากแฟนหนุ่มตั้งแต่ตอนไปสิงคโปร์ นับตั้งแต่นั้นมาเขาก็ให้เธอใช้มันได้ตามสบาย พร้อมกับยึดบัตรเครดิตที่ได้จากที่บ้านไปทันที "ไฮ~" พริมโรสหันไปตามเสียงทักทายนั้น ก่อนจะพบว่าคือซีลีน ยืนอยู่ที่หน้าร้านพร้อมกับบอดี้การ์ดสี่นายที่มีถุงชอปปิงเต็มสองมือ จะว่าไป เธอคนนี้เองก็หายไปตั้งแต่วันที่กลับจากสิงคโปร์ คงจะเป็นอย่า
"มีรถขับตามเรามาครับ" ดีนส์พูดในขณะที่มองเจ้านายสลับกับรถยนต์คันหลัง ที่ขับตามพวกเขามาแล้วสักพัก ตั้งแต่ออกจากคฤหาสน์ของริคคาโน่ เซนที่ไม่ทันสังเกตสถานการณ์ตั้งแต่ทีแรกขมวดคิ้วหันไปมองรถคันดังกล่าว เมื่อกี้เขามีเรื่องให้ครุ่นคิดมากมาย อีกทั้งยังหลงเหลือความอ่อนเพลียจากยาสลบที่ได้รับ จึงไม่ทันสังเกตว่ารถคันนั้นพยายามขับตามมาจริงๆ แม้ดีนส์จะลองขับวนในตรอกนี้หนึ่งรอบแล้วก็ตาม "คนของเราอยู่ไหน" "ประกบท้ายรถคันนั้นห่างๆ ครับ" มาเฟียหนุ่มพยักหน้ารับทราบ หันไปมองคนตัวเล็กที่นั่งฟังการสนทนาเงียบๆ "รถคนของราฟาเอลหรือเปล่าคะ" ริมฝีปากอวบอิ่มถามขึ้นมา "ไม่ใช่ครับ รถคันนั้นจอดอยู่ข้างคฤหาสน์มาสักพักแล้ว" ดีนส์อธิบายสิ่งที่ได้ยินผ่านหูฟังให้ทั้งสองคนเข้าใจ ลูกน้องของเขาติดต่อขอดูกล้องวงจรปิดจากคฤหาสน์ เห็นว่ารถคันดังกล่าวจอดอยู่ตรงนั้น ก่อนจะขับตามพวกเขามาโดยแทบไม่ทิ้งระยะห่าง มองดูออกทันทีว่าไม่ใช่มืออาชีพ "รอภาพจากลูกน้องเราสักครู่ครับ" ทันทีที่พูดจบ มือขวาหนุ่มก็ยูเทิร์นรถขับวนซ้ำเป็นรอบที่สาม ไม่นานนักเสียงแจ้งเตือนข้อความก็ดังมาจากมือถือเครื่องสีเทาของมือขวาหนุ่ม ดีนส์
‘แม่ฉันสวย พ่อเลยเลือกแม่ฉัน' คำพูดที่เธอฟังในวันนั้นด้วยความขบขัน เพราะเข้าใจว่ากำลังถูกเขาอวดคุณแม่ที่เขารักกับคนแปลกหน้า “ริวาโน่ไม่ควรเกิดมาจากผู้หญิงคนนั้น” ความผิดพลาดเดียวของลูกชายคือการเกิดจากผู้หญิงที่ไม่ถูกยอมรับ หญิงสาวที่ได้ฟังก็เกิดความฉุนเฉียวขึ้นทันที ผู้ชายตรงหน้าเธอ ทำราวกับรักแฟนของเธอมาก แต่กลับคิดเล็กน้อยคิดน้อยกับสายตาของคนอื่น “มันความผิดเขาหรือไง ก็คุณทำให้เขาเกิดมาไม่ใช่หรือไงคะ!” “ฉันแค่นอนกับนังนั่นไม่กี่ครั้ง ผู้หญิงคนนั้นจ้องจะจับฉัน!!” พริมโรสส่ายหน้าให้กับถ้อยคำเห็นแก่ตัวของเขา เด็กสาวแค่นหัวเราะออกมา เมื่อเข้าใจว่าอะไรทำให้เซนของเธอเจ็บปวดได้ถึงขนาดนี้ พ่อของเขามองว่าการเกิดมาของเขา คือความผิดพลาด แม่ก็ตั้งใจให้กำเนิดเขาเพื่อหวังจับคนรวย บรรดาญาติที่เหลือ ก็ไม่ยอมรับ เพราะเกิดจากผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้า “งั้นก็ปล่อยเขาสิ ตอนนี้เขาเป็นของโรส” หญิงสาวละทิ้งความกลัวในใจเอ่ยขึ้นมา ปัง! มือใหญ่ของเจ้าของห้องตบลงบนโต๊ะ เมื่อมองเห็นท่าทีก้าวร้าวที่เด็กคราวลูกแสดงออกมา ทั้งกล้าตามมาถึงถิ่นเขา เถียงเขาฉอดๆ “เขาต้องมีรูซโซ่!!” “หยุด
[Primrose Talks] ตอนนี้เกือบสี่โมงเย็นแล้ว แต่ยังไม่มีท่าทีว่าเซนจะมารับฉันอย่างทุกครั้ง อาจเป็นเพราะวันนี้เป็นประชุมบอร์ดบริหารอย่างที่เขาว่า และพ่อของเขามาหาด้วยตนเอง ฉันเพียงแต่ส่งข้อความหาเขาเท่านั้น ไม่กล้าโทรไปรบกวนในเวลางาน แต่ถึงตอนนี้ เขาก็เพียงอ่าน แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา "ให้ลุงบุญไปส่งไหมแก" ใบเตยที่นั่งรอเป็นเพื่อนเอ่ยขึ้นหลังจากที่ผ่านมาหนึ่งชั่วโมงเต็ม "ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันกลับเอง เขาน่าจะติดประชุมอยู่" ฉันหันไปปฏิเสธเพื่อนด้วยความเกรงใจ เพราะเส้นทางกลับบ้านของใบเตยมันคนละทางกับเพนท์เฮ้าส์ "อย่ามามีมารยาทกับฉัน ส่งข้อความบอกแฟนแก ฉันโทรเรียกลุงบุญแล้ว" ใบเตยจิ้มนิ้วกลางหน้าผากฉันแกล้งๆ หลังจากนั้นก็ก้มหน้าเล่นมือถือต่อ ข้อความถูกส่งไปแล้ว และเขาก็อ่านมันทันที แต่ไม่ตอบ ยังไม่ทันที่รถบ้านของใบเตยจะมาถึง รถยนต์ยุโรปสีดำสนิทก็จอดที่หน้าคณะ บอดี้การ์ดในชุดสูทดำสนิททั้งตัวเดินมายังจุดที่ฉันนั่งอยู่ ฉันไม่คุ้นหน้าพวกเขาเลย แต่ไม่แน่ใจว่าเซนมีลูกน้องเยอะขนาดไหน "นายสั่งให้ผมมารับคุณไปพบครับ" หนึ่งในนั้นประสานมือคุยกับฉันอย่างสุภาพ เขาเคยบอกฉันว่า ศัตรูเขามีม
[Primrose Talks] ตั้งแต่กลับมาจากสิงคโปร์ ฉันก็แทบไม่ได้กลับคอนโดตัวเองเลย เซนให้ฉันพักอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์กับเขา ไปรับไปส่งฉันที่มหาวิทยาลัย จนฉันอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปถามพี่ดีนส์ในตอนที่เขาไม่อยู่ "ช่วงนี้เซนทำงานบ้างไหมคะ" ฉันถามเขาระหว่างที่เรานั่งอยู่ในครัวรอเจ้าของห้องแต่งตัวไปทำงาน "ครับ?" พี่ดีนส์ละสายตาจากหน้าจอหันมามองฉันด้วยความสงสัย สมควรสิ อยู่ดีๆ ก็ไปถามอะไรละลาบละล้วงอย่างนั้น "คือ...โรสเห็นช่วงนี้เขาไปรับไปส่งตลอด เลยสงสัยว่าเขาได้ทำงานบ้างหรือเปล่า" เพราะบางทีฉันก็ไม่ได้มีเรียนเช้า สายบ้าง บ่ายบ้าง หรือบางทีเลิกเรียนช่วงบ่ายสองบ่ายสาม เซนก็ยังมารับฉันด้วยตัวเอง "อ้อ...ช่วงนี้นายให้ผมดูงานของบริษัทให้ก่อนครับ ส่วนนายก็มีเจรจาธุรกิจสำคัญบางวัน" เขาตอบฉันออกมาอย่างสุภาพเช่นทุกครั้ง พี่ดีนส์ยิ้มออกมาบางๆ ให้ฉันสบายใจ "นายยินดีไปรับไปส่งคุณโรสครับ ไม่ได้เดือดร้อนอะไร" คำตอบที่ได้ยินค่อยทำให้ฉันสบายใจขึ้นมาหน่อย ฉันไม่อยากให้เขาเสียงานเสียการเพราะฉัน "พี่ดีนส์รู้จักกับเซนนานหรือยังคะ" ไม่บ่อยนักที่ฉันจะได้ฟังเรื่องเขาจากปากคนอื่น เจ้าของเรื่องก็ไม่ค่อ