ตอนที่ 68 การขุดคุ้ยเงาอดีต

---

ตอนที่ 68 การขุดคุ้ยเงาอดีต

ความจริงที่ซ่อนเร้นในแฟ้มเอกสารเก่ากัดกินใจของ อเล็กซานเดอร์ เขาไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป ความสับสนและผิดหวังจากการที่ คริสเตียน ผู้เป็นพ่อปิดบังเรื่องราวสำคัญในอดีตผลักดันให้อเล็กซานเดอร์ต้องขุดคุ้ยความจริงให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพื่อให้ได้มาซึ่งความเข้าใจที่สมบูรณ์

อเล็กซานเดอร์เริ่มภารกิจการสืบค้นอย่างรอบคอบและลับที่สุด เขาไม่ต้องการให้ใครล่วงรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คริสเตียน และ แพรไหม เพราะเขารู้ดีว่าเรื่องราวเหล่านี้จะสร้างความเจ็บปวดให้กับพวกเขามากแค่ไหน

เขาใช้เวลาว่างจากงานบริหารที่หนักหน่วงไปกับการค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมในหอจดหมายเหตุของคาร์ดินัล เขามุ่งเน้นไปที่เอกสารเก่าแก่ในช่วงเวลาที่โครงการที่น่าสงสัยนั้นดำเนินอยู่ เขาค้นหาชื่อบริษัท ผู้รับเหมา และบุคคลที่ปรากฏอยู่ในแฟ้มลับนั้น เพื่อเชื่อมโยงชิ้นส่วนปริศนาเข้าด้วยกัน

นอกจากเอกสารภายในแล้ว อเล็กซานเดอร์ยังเริ่มค้นหาข้อมูลจากแหล่งภายนอก เขาใช้เครือข่ายความสัมพันธ์ของเขาเพื่อเข้าถึงข้อมูลสาธารณะที่เกี่ยวข้องกับโครงการในอดีต เช่น รายงานข่าวเก่าๆ บันทึกการประชุมสภาท้องถิ่น หรือแม้แต่คำให้การของชาวบ้านในพื้นที่ที่อาจเคยเป็นประเด็นเมื่อหลายสิบปีก่อน

เขายังติดต่อกับสำนักงานกฎหมายที่เคยว่าความให้กับคาร์ดินัลในอดีตอย่างไม่เป็นทางการ โดยอ้างว่าเป็นข้อมูลสำหรับโปรเจกต์ใหม่ เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับประเด็นการเวนคืนที่ดินและสิทธิของผู้ได้รับผลกระทบ เขายอมรับว่านี่คือความท้าทายที่ยากที่สุด เพราะมันไม่ใช่แค่การทำธุรกิจ แต่เป็นการดำดิ่งลงไปในความมืดมิดของประวัติศาสตร์ตระกูล

---

มือที่ยื่นมาอย่างไม่คาดฝัน: เดฟ

ในระหว่างที่อเล็กซานเดอร์กำลังจมอยู่กับการค้นคว้าอย่างโดดเดี่ยว ก็มีบุคคลหนึ่งที่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติในตัวเขา และยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออย่างเงียบๆ บุคคลนั้นคือ เดฟ

เดฟเป็นมากกว่าแค่ผู้ช่วยหรือมือขวาของคริสเตียนและอเล็กซานเดอร์ เขามีความจงรักภักดีต่อตระกูลคาร์ดินัลอย่างแท้จริง และเป็นคนที่รู้ความลับเบื้องลึกเบื้องหลังของตระกูลมาโดยตลอด เขาสังเกตเห็นอเล็กซานเดอร์เข้าออกหอจดหมายเหตุบ่อยครั้ง และสังเกตเห็นความเครียดที่ฉายชัดบนใบหน้าของนายท่านคนใหม่

วันหนึ่ง ขณะที่อเล็กซานเดอร์กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในยามดึก แสงไฟสลัวๆ ส่องกระทบเอกสารที่กระจัดกระจายอยู่เต็มโต๊ะ เดฟเดินเข้ามาพร้อมกาแฟร้อนๆ

“นายท่านยังไม่กลับหรือครับ” เดฟเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงปกติ แต่แววตาของเขาสะท้อนความห่วงใย

อเล็กซานเดอร์พยักหน้า “ยังครับเดฟ มีเอกสารที่ต้องดูอีกเยอะ”

เดฟวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะข้างๆ แฟ้มเอกสารเก่าที่อเล็กซานเดอร์กำลังอ่านอยู่ สายตาของเขาเหลือบไปเห็นชื่อบุคคลและรหัสบางอย่างที่คุ้นตา และเขาก็เข้าใจในทันทีว่าอเล็กซานเดอร์กำลังค้นคว้าเรื่องอะไรอยู่

“เรื่องโครงการ… ที่ดินทางใต้เมื่อสามสิบปีก่อนใช่ไหมครับ” เดฟถามเสียงเรียบ สีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที

อเล็กซานเดอร์เงยหน้าขึ้นมองเดฟด้วยความประหลาดใจและตกใจเล็กน้อย เขารู้ว่าเดฟเป็นคนเดียวที่คริสเตียนไว้วางใจให้รับรู้เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังมาตลอด

“คุณรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอเดฟ” อเล็กซานเดอร์ถามเสียงเบา

เดฟพยักหน้าช้าๆ “ผมรู้ครับนายท่าน… ผมอยู่กับนายท่านคริสเตียนมาตั้งแต่ต้น”

เดฟไม่ได้เล่ารายละเอียดทั้งหมดในทันที แต่เขาก็เสนอตัวที่จะเป็น ผู้ให้ข้อมูล แก่อเล็กซานเดอร์ เขารู้ว่าอเล็กซานเดอร์จำเป็นต้องรู้ความจริงทั้งหมด เพื่อที่จะแก้ไขมันได้อย่างถูกต้อง

“นายท่านคริสเตียนไม่เคยต้องการให้เรื่องนี้ถูกเปิดเผยครับ แต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะหนีความผิด เขาพยายามแก้ไขมาตลอดครับ” เดฟกล่าว “แต่มีบางอย่างที่ซับซ้อนกว่านั้นครับ”

การปรากฏตัวของเดฟและข้อมูลที่เขาเสนอ ทำให้ความโดดเดี่ยวของอเล็กซานเดอร์ลดลงไปมาก เขารู้สึกโล่งใจที่มีคนเข้าใจในสิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่ และมีคนพร้อมที่จะช่วยเหลือเขา

ด้วยความช่วยเหลือจากเดฟ การสืบค้นของอเล็กซานเดอร์ก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและลึกซึ้งยิ่งขึ้น เดฟเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟังอย่างละเอียด ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของโครงการที่ดิน การที่บุคคลบางกลุ่มในคาร์ดินัลยุคเก่าใช้อำนาจในทางที่ผิด และความพยายามของคริสเตียนในการเข้ามากอบกู้สถานการณ์และแก้ไขปัญหาเหล่านั้น

เดฟยังให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ บุคคลที่สาม ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งเป็นตระกูลเก่าแก่ที่มีอิทธิพลมืดในอดี และมีส่วนร่วมในการบีบบังคับชาวบ้าน ซึ่งคริสเตียนเคยมีข้อพิพาทกับตระกูลนี้มาก่อน

“ตระกูลนั้นคือตัวการสำคัญครับนายท่าน” เดฟกล่าว “พวกเขาอาศัยอิทธิพลของนายท่านคริสเตียนในตอนนั้น เพื่อทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย”

ข้อมูลจากเดฟทำให้จิ๊กซอว์ที่ขาดหายไปของอเล็กซานเดอร์เริ่มสมบูรณ์ เขารู้สึกโกรธกับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ก็เข้าใจถึงความพยายามของพ่อที่ต้องการจะปกป้องและแก้ไขทุกอย่างอย่างเงียบๆ

ความจริงที่ค้นพบหนักอึ้งเกินกว่าที่อเล็กซานเดอร์จะรับไหวคนเดียว เขาต้องรับรู้ถึงความผิดพลาดในอดีตของตระกูล ความทุกข์ทรมานของผู้บริสุทธิ์ และความลับที่พ่อแม่เก็บซ่อนไว้

ยิ่งอเล็กซานเดอร์สืบค้นลึกลงไปเท่าไหร่ ความกังวลในใจของเขาก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เขากังวลว่าเมื่อลลิลรู้เรื่องนี้ เธอจะมองตระกูลคาร์ดินัลเปลี่ยนไป และอาจจะรับไม่ได้กับอดีตที่มืดมิดนี้ เขาไม่อยากให้ความรักของพวกเขาต้องถูกทำลายด้วยเงาจากอดีต

เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะซ่อนความเครียดและความหนักใจจากลลิล เมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ เขาก็จะพยายามยิ้ม พูดคุยเรื่องทั่วไป และแสดงความรักให้เธอเห็นอย่างปกติ

แต่ลลิลก็ยังคงสังเกตเห็นถึงความผิดปกติในตัวเขา เธอรู้สึกว่าอเล็กซานเดอร์มีบางอย่างที่เก็บไว้ในใจ บางครั้งเขาก็จะเหม่อลอย หรือดูเหมือนมีเรื่องให้คิดตลอดเวลา

“ที่รัก คุณโอเคจริงๆ นะคะ” ลลิลถามด้วยความเป็นห่วงในคืนหนึ่งขณะที่นอนซบอยู่บนอกของเขา

อเล็กซานเดอร์กอดเธอแน่น “ผมโอเคครับคุณ แค่คิดเรื่องงาน” เขาอยากจะเล่าความจริงให้เธอฟังเหลือเกิน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร และกลัวว่าเธอจะรับไม่ได้

ความลับที่ต้องเก็บงำไว้ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขามีรอยร้าวเล็กๆ อเล็กซานเดอร์รู้ดีว่าการปิดบังความจริงจากคนที่เขารักนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่เขาก็ยังหาทางออกไม่ได้ เขาต้องการปกป้องลลิลจากความเจ็บปวดในอดีต แต่การปกป้องนั้นก็กำลังสร้างความห่างเหินระหว่างพวกเขาอย่างช้าๆ

การสืบค้นความจริงยังคงดำเนินต่อไป และอเล็กซานเดอร์ก็รู้ว่าสักวันหนึ่ง เขาจะต้องเผชิญหน้ากับความจริงทั้งหมด และต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับมัน ไม่ใช่แค่เพื่อตระกูลคาร์ดินัล แต่เพื่ออนาคตของเขาและลลิลด้วย