เขายืนอยู่ด้านหลังเธอในขณะที่จับมือของเธอไว้กับที่ กักขังเธอได้อย่างประสบความสำเร็จเมเดลีนตะลึงเล็กน้อยไปชั่วครู่ เมื่อเธอได้สติกลับมาเพื่อสู้กลับ เธอก็พบว่าชายคนนั้นกำลังจำกัดการเคลื่อนไหวของเธอเธอเอาชนะแรงของเขาไม่ได้เธอไม่เข้าใจพฤติกรรมของเจเรมี่ เขาไม่ได้อยู่กับลาน่าอย่างนั้นเหรอ?ทำไมเขาถึงยังทำเรื่องพวกนี้กับเธอล่ะ?ถ้าลาน่ายังเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังพฤติกรรมแปลก ๆ ของเจเรมี่ ถ้าอย่างนั้นทุกอย่างก็คงสมเหตุสมผลอย่างไรก็ตาม เมื่อเมเดลีนคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็ยิ่งรู้สึกถูกผลักไสเธอกัดปากของเจเรมี่ แล้วทำให้ชายคนนั้นยิ่งโกรธ ทันใดนั้น เขาก็อุ้มเธอขึ้นและโยนเธอลงบนเตียง“อย่าพยายามหนีล่ะ ก่อนที่คุณจะทำสิ่งที่ผมอยากให้คุณทำ คุณก็ทำได้แค่อยู่ที่นี่เท่านั้น ได้ยินไหม?”เมเดลีนกำหมัด และในที่สุด เธอก็ทำได้แค่คลายมันโดยไม่มีทางเลือก “ฉันอยากโทรหาสักสายหนึ่ง ฉันอยากรู้ว่าลูกชายของฉันเป็นยังไงบ้าง”“ผมจะให้โอกาสให้คุณรู้ว่าลูกชายของคุณเป็นยังไง แต่คุณต้องเชื่อฟังผม”มีความสงบในแววตาของเมเดลีน เธอยอมและตอบตกลงว่า “โอเค ฉันสัญญา”เจเรมี่พอใจหลังจากที่เขาได้คำตอบนี้ภายใต้การจั
แน่นอนว่า ในตอนนี้เจเรมี่ไม่เชื่อเมเดลีน เช่นนั้นแล้ว เขาจึงไปที่วิทแมน คอร์เปอเรชั่นกับเธอเพื่อจับตาดูเธอไว้เหล่าพนักงานในบริษัทตกใจเมื่อพวกเขาเห็นเจเรมี่“นั่น… นั่นคุณวิทแมนไม่ใช่เหรอ?”“นั่นจะเป็นไปได้ไง? เขาตายในอุบัติเหตุเมื่อสามเดือนก่อนไม่ใช่เหรอ?”“ผีจะโผล่มาในตอนกลางวันไม่ได้นี่ ใช่ไหม?” พนักงานที่ขี้ขลาดจำนวนหนึ่งวิ่งหนีในตอนที่เห็นเจเรมี่เจเรมี่สังเกตเห็นการตอบสนองของเหล่าพนักงาน แต่ก็ชินกับมันแล้วเขาตามเมเดลีนไปยังแล็บของเธอแล้วเห็นเครื่องมือและเครื่องปรุงหลายประเภทถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ จากนั้น เขาก็เริ่มชื่นชมพวกมันด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกเหมือนว่าเคยอยู่ที่นี่มาก่อนเมเดลีนสวมเสื้อคลุมสีขาวและหน้ากากก่อนที่จะผสมน้ำหอมอย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่สามารถทำให้สิ่งนี้สำเร็จได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ระหว่างการดำเนินการ เมเดลีนได้ยินเจเรมี่รับสาย ฟังดูเหมือนว่ามันมาจากลาน่า น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนมาก ก่อนหน้านี้ เขาจะใช้น้ำเสียงนี้กับเธอและไม่ใช้กับผู้หญิงคนอื่นหลังจากที่เมเดลีนผสมเสร็จ เธอก็อยากดื่มน้ำ ในตอนนี้ เลขาฯ ของเธอโคโค่ก็เข้ามาตามหาเธอ โคโค่บอกกับเธอว่า
เขาจูบผมของเธอราวกับว่ามีความละโมบในการครอบครองเธอ จากนั้น เขาก็ผลักเธอออกไปอย่างเย็นชาในทันที “ทำงานของคุณต่อไป”ท่าทีที่ดูขัดแย้งนี้ดูแปลกต่อเมเดลีนจากนั้น เขาก็เดินไปอีกด้านหนึ่งเพื่อสูบบุหรี่ แบรนด์ของบุหรี่ที่เขาสูบคือแบบเดียวกันกับที่ลาน่าสูบเมเดลีนรู้ว่าเธอคงโกหกถ้าบอกว่าเธอไม่ใส่ใจเรื่องนี้ แต่เธอก็รู้ว่าเจเรมี่คงจะไม่ฟังสิ่งที่เธอพูดในตอนนี้ชุดอโรมาเทอราพีเสร็จแล้ว แต่มันยังต้องทิ้งไว้ข้ามคืนเมื่อตัดสินจากการตอบสนองของเจเรมี่แล้ว ดูเหมือนว่าเขายังอยากจะพาเมเดลีนกลับไปยังที่อยู่ของเขากับลาน่า เธอปฏิเสธว่า “ลูกชายของฉันอายุแค่เดือนเดียวและต้องการน้ำนมจากอกของฉันเพื่อเติบโตขึ้นอย่างสุขภาพดี ฉันต้องไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!”เธอเดินเข้าไปในลิฟต์ด้วยท่าทีที่มั่นใจ เมื่อเธอเห็นเจเรมี่ตามเธอมา เธออยากจะเข้าไปอีกลิฟต์หนึ่ง แต่ก็ถูกเจเรมี่ดึงกลับมาเธอสู้กลับแต่ก็ล้มเหลว เมื่อเขากดเธอติดผนังของลิฟต์ไว้แน่นชายคนนั้นมองตรงเข้าไปที่เธอด้วยสายตาที่ทรงเสน่ห์ “เอวลีน ผู้ชายชอบผู้หญิงที่เชื่อฟังพวกเขานะ อย่าพยายามยั่วโมโหผมอีก”“ถ้าคุณไม่ใช่สามีของฉัน เจเรมี่ วิทแมน งั้นฉันก็ไม่ต้อง
กาแฟไม่ได้หกรดลงบนตัวของเมเดลีน แต่กลับกัน เสื้อเชิ้ตของเจเรมี่กลับกลายเป็นเหยื่อแทนนาโอมิมองชายที่จู่ ๆ ก็โผล่มาด้วยความตกใจ “นาย… ฮานส์? ทำไมนายถึงอยู่นี่?”เจเรมี่มองเธออย่างเยือกเย็น “ฉันต้องรายงานเธอทุกครั้งว่าฉันอยู่กับใครรึไง?”“...” นาโอมิไม่มั่นใจ ดังนั้น เธอจึงเริ่มเล็งไปที่เมเดลีน “เอวลีน ตอนนี้สามีเธอก็ตายไปแล้ว เธอก็เริ่มอ่อยไรย์เพราะเธอทนความเหงาไม่ได้ใช่ไหม ฮ้ะ? ฉันจะไม่ยกโทษให้เธอง่าย ๆ กับสิ่งที่เธอทำเมื่อตอนนั้นแน่ คอยดูเถอะ!”นาโอมิชี้เมเดลีนหลังจากที่หล่อนตะคอกใส่เธอ“หยุดเถอะ” เมเดลีนเรียกนาโอมิอย่างเคร่งขรึมนาโอมิหยุดเดินและเห็นเมเดลีนกำลังเดินเข้ามาหาเธอ“นาโอมิ เธอรู้ไหมว่าเธอจะต้องเจอการดำเนินการทางกฎหมาย ถ้าฉันตัดสินใจที่จะเอาเรื่องที่เธอพยายามทำร้ายฉัน? ใครมอบความกล้าให้เธอในการมาบอกกับฉันว่าเธอจะไม่ให้อภัยฉัน? ลาน่าใช่ไหม?”“...” นาโอมิไม่คิดว่าเมเดลีนจะแข็งแกร่งมาก หล่อนเปิดเผยความอ่อนแอของเธอออกมาได้อย่างไร? เธอกรี๊ดอย่างน่าไม่อาย “ใช่แล้ว ลาน่าคือคนที่มอบความกล้าให้ฉันทำแบบนั้น เอวลีน แล้วไงเหรอ ถ้าเธอจะเป็นหมายเลขหนึ่งในชนชั้นสูงของเกลนเดล? เธอ
เจเรมี่พูดออกมาคำหนึ่งโดยไม่รู้ตัวเขารู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังปรากฏอยู่หัวใจของเขา และนั่นทำให้เขาตัวสั่นลินนี่ ทำไมเขาเพิ่งพูดว่า ‘ลินนี่’ ออกมาเสียงดังล่ะ?เมเดลีนลุกขึ้นหลังจากที่ลูกหลับ เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นใครบางคนยืนอยู่ที่ประตูเธอเดินเข้าไปอย่างสงสัยและเห็นเจเรมี่เมเดลีนปิดประตูอย่างคุมเชิง “อย่าเข้ามาใกล้ลูกชายของฉันนะ” มีนัยของความสบประมาทในแววตาของเธอ “ฉันจะให้ชุดอโรมาเทอราพีกับคุณในวันพรุ่งนี้ วันนี้ฉันต้องอยู่กับลูกชาย”เมเดลีนคาดว่าเจเรมี่จะปฏิเสธเธอ แต่น่าประหลาดใจที่เขากลับตกลงหลังจากครู่หนึ่ง เอโลอิสและฌอนก็มาถึง เมื่อพวกเขารู้เรื่องอาการของเจเรมี่ พวกเขาก็รู้สึกเป็นทุกข์เช่นกัน“ฉันสงสัยว่าเมื่อไหร่เขาจะดีขึ้น? ฉันคงกังวลว่าเขายังอยู่กับยัยผู้หญิงที่ชื่อลาน่านั่น” เอโลอิสกังวลและพูดด้วยเสียงเล็ก ๆ ว่า “พ่อของลูกติดต่อกับเพื่อนของเขาในเมืองเอฟและได้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับลาน่ามา หล่อนมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมที่จัดตั้งขึ้น”“อีกทั้ง พี่ชายของหล่อน โยริค จอห์นสัน เป็นคนที่มีอำนาจมาก ๆ ในเมืองเอฟ เขาลุยทั้งด้านดีและชั่ว พูดได้ว่าผู้หญิงคนนี้กดขี่
ชายคนนี้ช่างไร้หัวใจอย่างแท้จริงเธอปล่อยเขา และมีความสับสนอยู่ในแววตาของเธอ“ถ้าคุณไม่ใช่เจเรมี่ แล้วคุณจูบฉันทำไม?”“ผมทำก็เพราะว่าอยากทำ ไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น” เขาตอบกลับง่าย ๆ และตรงไปตรงมาเมเดลีนยิ้ม “งั้นนี่ก็เป็นวิธีที่คุณจูบลาน่าเหมือนกันใช่ไหม? คุณกอดเธอนอนในทุก ๆ คืนตลอดสามเดือนที่ผ่านมารึเปล่า?”ในขณะที่มองเข้าไปในดวงตาของเมเดลีน จู่ ๆ เจเรมี่ก็เห็นภาพที่เธอเอ่ยในตาคู่สวยของเธอเขาเห็นตัวเองกำลังกอดผู้หญิงคนหนึ่งขณะที่พวกเขาหลับอย่างสงบในยามค่ำคืนเขาไม่มีความสงบสุขแบบนั้นมานานมากแล้วอย่างไรก็ตาม เขามั่นใจมากว่าเขาไม่มีความทรงจำใด ๆ ในการกอดลาน่านอนเมเดลีนผลักเขาออกไปอย่างสิ้นหวังหลังจากที่เห็นเขาเงียบเธอยังคงมีภาพที่เขาเสี่ยงชีวิตเพื่อเธอ อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่มีหลักฐานการมีอยู่ของเธอในใจของเขาอีกแล้วหลังจากที่เมเดลีนออกไป ในที่สุดเจเรมี่ก็ได้สติหลังจากพักใหญ่ เขาหยิบชุดอโรมาเทอราพีที่เธอทิ้งไว้ให้ หลังจากที่เปิดมัน เขาก็นำมันมาอังไว้ใต้จมูกและสูดดมกลิ่นจาง ๆ ของกุหลาบญี่ปุ่นแทรกซึมเข้าไปในจมูกของเขา ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายก่อนที่เธอจะออกไป เมเดลีนได้เอา
“ลินนี่!”เจเรมี่เรียกอย่างตาเหลือกตาพองราวกับว่ามันเป็นการตอบสนองโดยไม่รู้ตัวเขาอุ้มเมเดลีนขึ้นรถและรีบไปยังโรงพยาบาลก่อนที่จะได้คิดด้วยซ้ำเมื่อเขาจากไป เขาก็เห็นรถพยาบาลและรถดับเพลิงที่เขาเพิ่งโทรหาเมื่อกี้นี้ผ่านเขาไปเจเรมี่มองไปที่กระจกข้าง แม่บ้านที่เป็นพยานปรักปรำเขาก็ได้หนีไปแล้วเจเรมี่ส่งเมเดลีนไปยังโรงพยาบาล และหมอพูดว่าเธอแค่หมดสติเพราะเศร้ามากเกินไปเศร้ามากเกินไปอย่างนั้นเหรอ?เจเรมี่เข้าใจว่าทำไมเมเดลีนถึงเศร้าเขามองไปที่หญิงสาวซึ่งไร้สติและรู้สึกห่วงแปลก ๆ เจเรมี่ไม่ชินกับสิ่งที่เขากำลังรู้สึกต่อเมเดลีนเขาหันหลังออกไปจากห้องก่อนที่จะเข้ามายังห้องพักผู้ป่วยซึ่งลูกชายคนเล็กของเมเดลีนอยู่อย่างไม่ได้ตั้งใจเมื่อเขาอยู่ที่ประตู เขาก็เห็นคาเลนกับเด็ก ๆ น่ารักสองคนที่อายุประมาณสี่หรือห้าขวบ พวกเขากำลังคุยกับทารก“คุณย่าคะ นี่ใช่น้องชายของหนูจริง ๆ ไหมคะ?” ลิเลียนกะพริบตาและถามคาเลนตอบกลับอย่างมีความสุข “เด็กโง่เอ๊ย นี่คือน้องชายของหนูและแจ็คไง ดูหน้าเล็ก ๆ ของเขาสิ มันเหมือนกับเจเรมี่ตอนที่เขาเล็ก ๆ เลย แจ็ค ดูสิ หลานก็เป็นแบบนี้ในตอนที่หลานตัวเล็ก ๆ เหมือนก
“คุณแม่ เป็นอะไรไป?”“มัมมี้กำลังร้องไห้”เมเดลีนได้ยินเสียงที่กังวลของคาเลนเช่นเดียวกันกับเสียงที่งุนงงของลูก ๆ ทั้งสองแต่เมเดลีนก็ยังคงจ้องไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย จากนั้น เธอก็อ้าปากที่ซีดเซียว “ทำไมฉันต้องจ่ายราคาที่สูงเช่นนี้เพียงเพื่อรักเขา? ทำไม…”คาเลนรู้ในทันทีว่าเมเดลีนกำลังพูดถึงเจเรมี่เธอเริ่มกังวล “เอวลีน เธอกำลังพูดถึงเจเรมี่ใช่ไหม? เขาทำอะไร?”เมเดลีนกัดริมฝีปากและพูดทั้งน้ำตานองหน้าว่า “เขาเผาบ้านของฉัน”“อะไรนะ?” คาเลนตกใจเป็นอย่างมาก “ไม่มีทาง เจเรมี่คงไม่ทำเรื่องแบบนั้นแน่ เป็นไปไม่ได้...”เมเดลีนหลับตา เธอก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าเจเรมี่จะทำแบบนั้นเหมือนกันอย่างไรก็ตาม แรงที่เขาออกในตอนที่จับคอของเธอก็ยังชัดเจนเมเดลีนสะอึกสะอื้นอย่างไร้เสียง เธอใจสลายมากจนมันเจ็บแม้แต่หายใจเธอยกผ้าห่มออกและลงจากเตียงก่อนที่จะวิ่งออกไปเธอเรียกแท็กซี่ไปยังคฤหาสน์มอนต์โกเมอรี ที่นั่น เธอเห็นนักดับเพลิงกำลังดับไฟที่ยังควบคุมไม่ได้อย่างสมบูรณ์อยู่เมเดลีนยืนที่ทางเข้าขณะที่หน้าเริ่มซีด เธอเฝ้ามองอาคารอันโอ่อ่าถูกเผาไหม้กลายเป็นซากปรักหักพัง จากนั้น เธอก็รีบเข้าไปนักดับเพ