พอเข้ามาในห้องนารีนั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนจะหยิบสร้อยคอที่นักรบสวมให้ขึ้นมาดู มันเป็นสร้อยอิตาลีทองคำขาวจี้ประดับเพชรเป็นรูปหัวใจ ด้านหลังสลักชื่อของเขาและเธอเอาไว้ จนทำให้นารีเผลออมยิ้มออกมา อย่างน้อยเขาก็ให้ความสำคัญกับวันวิวาห์ ถึงแม้ว่าจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขก็ตามที นารีก็รู้สึกดี อย่างน้อยเจ้าบ่าวของเธอในวันนี้ ก็เป็นอาร์มันโด้คนเดียวกัน กับที่เคยช่วยชีวิตให้เธอรอดพ้น จากอันตรายในวันนั้น
ก่อนที่นักรบจะขึ้นมา นารีตัดสินใจรีบหยิบชุดหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำ แม้ว่าจะเคยนอนร่วมห้องนี้กับเขามาก่อน แต่ความรู้สึกนั่นมันย่อมแตกต่างกับวันนี้โดยสิ้นเชิง จากคนที่เคยรู้จักสถานะได้เปลี่ยนเป็นสามีภรรยา เธอเองก็ยังคงทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน
นารีอาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วเดินออกมา ปรากฏว่านักรบนั่งที่เตียง สายตาคมของเขาจับจ้องมองมาที่เธออย่างไม่วางตา นารีแกล้งทำเป็นเมินแล้วเดินไปนั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้ง
"คุณเป็นอะไรหรือเปล่านารี ทำไมถึงมีท่าทีแปลกๆ กลัวผมเหรอ หื้ม.." นักรบพูดพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ มือของเขาจับลงที่หัวไหล่ของนารี ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดผมให้กับใคร
"คุณ! ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันทำเองได้" หญิงสาวรีบพูดออกไป ในขณะที่หัวใจของเธอนั้นเริ่มต้นแรง
"แต่ผมอยากจะทำให้คุณ รู้ตัวหรือเปล่านารี คุณคือผู้หญิงคนแรกเลยนะ ที่ผมทำแบบนี้ให้" คำพูดของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลัง ทำให้หัวใจของนารีนั้นยิ่งเต้นแรง
"ฉันขอเวลาได้ไหม ฉันยังไม่พร้อมจริงๆ กับการทำหน้าที่ภรรยา" นารีตัดสินใจพูดออกมาตามตรง ในขณะที่เธอเขินอายจนใบหน้าร้อนผ่าว มันคงแดงเป็นลูกตำลึงสุกแล้วตอนนี้
"ผมไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น ที่สำคัญผมไม่เคยใช้กำลังบังคับขืนใจผู้หญิง ที่ไม่เต็มใจจะนอนด้วยหรอกนะ" นักรบพูดพร้อมกับเอาผ้าคุณหนูขึ้นไปแขวนไว้ในไม้แขวนเสื้อ ก่อนจะเปิดตู้หยิบหมอนและผ้าห่มออกมา จากนั้นเขาได้เดินตรงไปที่โซฟา ก่อนจะล้มตัวนอนลงนอน แต่ดูยังไงโซฟานั่นก็เล็กกว่าร่างของเขาอยู่ดี
นารีค่อยๆ ลุกขึ้น แล้วเดินไปล้มตัวลงนอนที่เตียง แม้เธอจะพยายามข่มตานอนเป็นชั่วโมงก็นอนไม่หลับ ก่อนจะพลิกตัวตะแคงกลับหันไปมองนักรบ ที่นอนอยู่บนโซฟา ดูท่าทางแล้วน่าจะอึดอัด เธอไม่รู้ว่าเขานอนหลับไปได้ไง
ความเป็นจริงแล้วเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายที่น่ากลัวหรือใจร้ายอะไร ขนาดเธอทำร้ายเขาจนเลือดตกยางออก ก็ไม่เห็นว่านักรบจะตอบโต้กลับมาเลย เมื่อคิดได้ดังนั้นนารีไม่รีรอ รีบลงจากเตียงเดินตรงไปหาชายตัวโต ที่นอนอยู่บนโซฟาทันที
"คุณ! คุณนักรบค่ะ" นารีพูดพร้อมกับเขย่าไปที่ต้นแขนของเขาเบาๆ ชายหนุ่มค่อยๆ งัวเงียลืมตาตื่นขึ้น เพราะเขารู้สึกเพลียจากการจัดการเรื่องงาน และอีกหลายๆ อย่าง จึงทำให้เขานั้นหลับลงได้อย่างง่ายดาย ทั้งที่ตอนแรกคิดแค่ลองใจนารี ว่าเธอจะมีน้ำใจให้เขาไหม
"มีอะไรหรือเปล่าคุณนารี นอนไม่หลับเหรอ หรือจะให้ผมไปนอนข้างนอก" นักรบพูดพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง และเตรียมหยิบหมอนและผ้าห่มพร้อมสำหรับจะเดินออกไปจากห้องนี้
"นั่นคุณจะไปไหน ฉันมาปลุกคุณให้ลุกไปนอนที่เตียง เพราะไม่อยากเอาเปรียบใคร" นารีพูดเฉไฉออกมา แต่ทำให้นักรบนั้นแอบยกยิ้มที่มุมปาก เมื่อแผนการของเขาได้ผล ชายหนุ่มเชื่อว่าผู้หญิงอย่างนารีเป็นคนที่มีจิตใจดี เธอไม่มีทางปล่อยให้เขานอนที่โซฟาทั้งคืนหรอก
"ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวจะทำให้คุณนอนไม่หลับเป็นกังวลเปล่าๆ เดี๋ยวผมจะออกไปนอนข้างนอกก็ได้ คุณจะได้สบายใจขึ้น" นักรบยังคงพูดจาแกล้งให้นารีนั้นรู้สึกเห็นใจเขามากขึ้น
"ฉันบอกให้ไปนอนที่เตียง ถ้ายังดื้อดึงอยู่แบบนี้ เดี๋ยวฉันจะจัดให้อีกแผล อยากลองอีกไหม แต่คราวนี้รับรองได้เย็บหลายเข็มแน่" นารีพูดออกมาพร้อมกับเดินไปหยิบไม้ตีกอล์ฟ ทำให้นักรบนั้นรีบเดินขึ้นเตียงอย่างไว พร้อมกับหัวเราะในใจ ใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ที่สามารถเอาชนะใจนารีได้สำเร็จ โดยที่เธอนั้นไม่เอะใจเลยสักนิดว่ามันคือการแสดงละคร ที่นักรบนั้นเสแสร้งแกล้งทำ เพื่อให้เธอนั้นตายใจ
"แค่นี้เองทำเป็นฟอร์มจัดไปได้" นารีพูดจบก็เดินไปล้มตัวลงนอนตะแคงข้างหันหลังให้กับนักรบ
"คุณ! นอนยัง" เสียงทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้นทำให้นารีนั้นถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างแรง
"มีอะไรฉันจะนอนแล้ว คุณนอนไปเลยห้ามกวน" ความจริงนารีก็นอนไม่หลับ เพียงแค่ไม่อยากคุยกับเขาบนเตียงแบบนี้ มันเสี่ยงเกินไปหากเขานั้นหน้ามืดขึ้นมาเธอจะทำยังไง
"ผมรู้สึกปวดที่แผล คุณช่วยดูให้หน่อยได้ไหม" ใครว่ามารยาร้อยเล่มเกวียนมีแต่ผู้หญิง เวลานี้นักรบก็กำลังใช้มันกับนารี เมื่อเธอนั้นนอนตะแคงข้างหันหลังให้เขาแบบนี้ ชายหนุ่มจึงคิดหาวิธีที่จะได้จ้องหน้าและสบตาเธอ
"ไหนขอดูหน่อย ปวดมากไหมเดี๋ยวฉันจะลงไปหยิบยาพาราขึ้นมาให้" นารีพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบลงที่หางคิ้วของนักรบอย่างเบามือ เพื่อสำรวจดูว่าแผลนั้นบวมขึ้นมาหรือเปล่า
"ช่วยเป่าให้ผมหน่อยได้ไหม" ได้ทีนักรบก็เล่นใหญ่ พูดจาอ้อนนารีออกมา จนทำให้เธอนั้นใจอ่อนยอมทำตามเขาอย่างว่าง่าย แต่นั่นเป็นเพราะว่าเธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขามีแผลนี้เกิดขึ้นด้วย
"เพี้ยง! ..ฉันขอโทษนะคุณ" นารีเป่าลงไปที่ผ้าก๊อซปิดแผลพร้อมกับทำเสียงลมเป่า จากนั้นเธอได้กล่าวคำขอโทษเขาออกมาอีกครั้ง จึงทำให้ทั้งสองได้สบตากัน สายตาคมนัยน์ตาสีฟ้าของชายตรงหน้าช่างน่าหลงใหล เธอจ้องมองเขากลับไปราวกับถูกต้องมนต์สะกดเอาไว้ ทำให้เธอนั้นแทบหยุดหายใจ
ก่อนที่ริมฝีปากอุ่นจะกดจูบลงไปที่เรียวปากบางอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน ลิ้นหนาสอดเข้าไปในโพรงปากของเธอ ในขณะที่ลิ้นเล็กแตะตอบกลับอย่างอัตโนมัติ เมื่อหญิงสาวนั้นได้เคลิ้มไปกับสัมผัสได้รับจากชายตรงหน้า จากจูบที่นุ่มนวลค่อยๆ ดูดดื่มและเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ มือหนาโอบไปที่แผ่นหลังของคนตัวเล็กเอาไว้ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ สอดมือลงไปใต้ชายเสื้อของเธอ
“อืมม์!” เสียงอื้ออึงดังมาจากในลำคอของหญิงสาว จากนั้นมือเรียวของเธอได้พยายามผลักอกแกร่งของเขาออกห่าง ก่อนที่สติของเธอนั้นจะเตลิดไปไกลมากกว่านี้ นักรบสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวของนารี เมื่อเนื้อตัวของเธอนั้นเริ่มสั่นเทา นั่นเป็นเพราะว่ามันคือครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสกับชายหนุ่มอย่างใกล้ชิด มิหนำซ้ำยังจูบอย่างดูดดื่มแบบนี้อีกด้วย
"ผมรู้ว่าคุณไม่พร้อม แค่ซ้อมไว้เฉยๆ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้ นอนนะครับคนดี" วาจาที่อ่อนหวานกับการกระทำที่อ่อนโยน ทำให้นารีนั้นเผลอไผลทำตามคำพูดของเขาอย่างว่าง่าย ยอมนอนซบหน้าเข้ากับกว้าง พร้อมทั้งยอมให้เขาโอบกอดเอาไว้ตามอำเภอใจ คืนแรกของการแต่งงานที่หลายคนคิดว่าต้องดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ แต่สำหรับคู่ของเขาและเธอนั้น แค่นี้ก็หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งเดือนห้าเสียอีก
"เย้! คุณพ่อใจดีที่สุดในโลกเลยครับ" เด็กชายร้องออกมาเสียงดังพร้อมกับกำมือชูขึ้นสองข้าง จนนารีแอบฉีกยิ้มที่มุมปาก ที่พ่อกับลูกนั้นเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย "คุณหนูพบรักไปบ้านคุณยาย ย่านวลคงจะเหงาน่าดูเลย รีบไปรีบกลับนะครับคนเก่ง" น้ำเสียงของป้านวลช่างออดอ้อนให้เด็กน้อยนั้นอยากเอาใจ จนนักรบและนารียิ้มไม่หุบให้กับในความน่ารักของย่ากับหลาน "ผมไปบ้านคุณยายไม่กี่วันก็กลับแล้วครับคุณย่านวล เดี๋ยวพบรักจะเอาผลไม้มาฝาก ที่บ้านของคุณตาคุณยายมีผลไม้เยอะแยะเลย "ช่างพูดช่างเจรจาจังเลยนะเราเนี่ย อย่างนี้จะไม่ให้ย่ารักอย่าหลงได้ยังไง" หญิงสูงวัยพูดพร้อมกับเอามือลูบลงที่ศีรษะของพบรักไปมาเบาๆ ก่อนที่เด็กชายจะส่งยิ้มร่าให้ย่านวล พลอยทำให้ทุกคนยิ้มตามออกมา เมื่อพบรักมีความน่ารักสมวัยรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านกะสิเทพ ก่อนจะมีเด็กชายเปิดประตูวิ่งแจ้นออกมาจากรถ จนทำให้นักรบนั้นรีบเปิดประตูลงมาคว้าตัวลูกชายมาอุ้มเอาไว้
สักพักปลายลิ้นร้อนลากผ่านลงมาที่หน้าท้องของภรรยา เขาได้จุมพิตอย่างทะนุถนอมลงไปเบาๆ เมื่อมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ภายในนี้ ซึ่งมันคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ที่นักรบตั้งใจไม่คิดป้องกันตั้งแต่แรก เพราะชายหนุ่มนั้นหวังจะได้ทายาท ตามที่ใจเคยปรารถนาเอาไว้ และภรรยาของเขาก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลยแม้เพียงนิด "พ่อรักหนูนะ รักแม่ของหนูด้วย" สิ้นเสียงพูดของชายหนุ่ม เขาได้สัมผัสไปที่มังกรยักษ์ก่อนจะค่อยๆ สอดมันเข้าไปในช่องแคบของภรรยาอย่างเบามือ "อืม แน่ใจนะคะว่าจะไม่มีผลต่อลูกของเรา" แม้ความต้องการของเธอจะมีมาก แต่นารีก็ยังเป็นห่วงลูกมากมายเช่นกัน "ไม่เป็นไรหรอกหนูนา ท่าเบสิกอย่ากลัวไปเลย ผมจะทำเบาๆ นะครับคนดี" นักรบพูดในขณะที่สะโพกของเขาเริ่มทำการขยับโยกเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ แม้ว่ามันจะไม่หนักหน่วงหรือรุนแรง แต่ทว่าความคับแน่นของช่องแคบ เมื่อมังกรยักษ์ผลุบเข้าผลุบออกก็ได้สร้างความเสียวซ่านให้กับสองสามีภรรยาไม่น้อยเลย "อ้า อ๊าคุณนักร
"ลูกของพ่อเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ย ทำไมแม่ถึงได้ดุจังเลย" การกระทำของสามีหนุ่ม ทำให้นารีนั้นรู้สึกใจเต้นแรง เมื่อตัวเธอเองก็โหยหาเขาเช่นกัน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่คืนกี่วัน ผู้ชายคนนี้ก็มักจะทำให้เธอรู้สึกดีเสมอ โดยที่เขานั้นไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยด้วยซ้ำ "เงยหน้าขึ้นมาสิ เดี๋ยวไม่ทำแผลให้เปลี่ยนใจไปนอนไม่รู้ด้วยนะ" นารียังคงใช้คำพูดแข็งกระด้าง มีใบหน้าที่เรียบเฉยอีกตามเคย แต่นักรบก็รู้ว่าเธอใจอ่อนลงไปบ้างแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่เดินมาหาเขา เพื่อขอดูแผลแบบนี้หรอก สามีหนุ่มยอมทำตามภรรยาอย่างว่าง่าย ยอมแหงนหน้าขึ้นไปให้เธอทำแผลให้ พร้อมกับจ้องมองไปที่ดวงตากลมโต ที่เวลานี้ความหมองหม่นได้หายไปสิ้น "แผลบวมนูนขึ้นมาแบบนี้ ฉันว่าคุณไปเย็บแผลดีกว่า ไม่อย่างนั้นต้องเป็นแผลเป็นแน่ๆ" คราวนี้นารีพูดออกมาจากใจด้วยความรู้สึกผิด เมื่อแผลมันลึกและกว้างอยู่มาก และที่สำคัญเลือ
วันนี้ทั้งวัน ตั้งแต่เธอเดินไปหาอะไรกิน ในตอนเช้านารีไม่ยอมเดินออกจากห้องอีกเลย เพราะไม่อยากเจอนักรบ หญิงสาวขังตัวเองไว้ในห้องที่ชั้นบนของบ้าน ส่วนข้าวปลาอาหารนั้นมีรินสาวใช้คนสนิทของพี่สาวคอยบริการเธอทุกอย่าง ตอนนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบยี่สิบนาฬิกาแล้ว นารีไม่ได้สนใจใครทั้งสิ้น เธออาบน้ำแล้วเตรียมตัวจะเข้านอน ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! "นารีขอแม่เข้าไปหน่อยได้ไหมลูก" เสียงของผู้เป็นมารดาดังแว่วมา หลังจากที่เสียงเคาะประตูเงียบไป ทำให้นาทีนั้นค่อยๆ ลุกจากเตียง เพื่อเดินไปเปิดประตูให้กับมารดา และเธอก็ต้องแปลกใจ เมื่อชายร่างสูงใหญ่รีบเบี่ยงตัวเข้ามาในห้องของเธอทันที พร้อมกับกระเป๋าใบเล็กๆ "แม่... แม่ แม่ค่ะ" นารีร้องเรียกหามารดา แต่จะดูเหมือนว่าเธอนั้นโดนหลอกเข้าให้ซะแล้ว "คุณไม่ต้องเรียกหรอก คุณแม่เดินเข้าห้องไปแล้ว" นักรบพูดพร้อมกับค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด จนทำให้นารีนั้นมองเขาตาเขียว "ออกไปให้พ้นจากห้องฉันเลยนะ คุณแม่นะ
"จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน สายแล้วนะคุณ ลุกไปอาบน้ำจะได้มาทานข้าวพร้อมกัน" เจสันกระซิบลงไปที่ข้างหูของรวี ทำให้หญิงสาวรู้สึกคุ้นกับเสียงทุ้มนี้เป็นอย่างมาก เธอค่อยๆ ปรือตาขึ้น ก่อนจะหลับลงอีกครั้ง เมื่อแสงมันแยงมา และคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป จากนั้นรวีค่อยๆ ปรือตาลืมขึ้นมาอีกครั้ง "ว้าย! เจสัน! คุณเข้ามาอยู่ในห้องของฉันได้ยังไงออกไปเลยนะ" รวีพูดพร้อมกับหยิบหมอนตีลงไปที่ลำตัวของเจสัน ชายหนุ่มรีบเอามือขึ้นมาป้องตัวเอาไว้ พร้อมกับจับหมอนไว้แน่น ก่อนที่ทั้งสองจะยื้อกันไปมา "นี่คุณ! ไปเอาแรงมาจากไหนเนี่ย แรงอย่างกับช้างหยุดก่อนได้ไหม" เจสันพยายามพูดปรามรวีให้หยุดดึงหมอน แต่ดูท่าทีของเธอแล้วไม่น่าจะยอมเขาง่ายๆ "ใครอยู่ข้างนอก ทำไมปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้ามาในห้องของฉันแบบนี้ รินอยู่ไหมเข้ามาช่วยหน่อยซิ" รวีตะโกนออกมาเสียงดัง แต่ดูเหมือนว่าคนข้างนอกจะไม่ใส่ใจ เพราะไม่เห็นมีใครตอบกลับมาเลยสักคน"ผมจะบอกอะไรให้นะ คุณไม่ได้ลงกลอน ผมแค่เปิดประตูเดินเข้ามา ตอนแรกพ่อของคุณกำลังจะไปหากุญแจสำรองมาเปิดใ
"ดูสิของเด็กเล่นพวกนั้น เขาสั่งมาเป็นคันรถเชียวนะ เขาไม่รู้หรือไงว่านาเพิ่งท้องได้เดือนกว่า" คำถามของมารดาทำให้นารีเริ่มสงสัย นักรบรู้เรื่องที่เธอตั้งครรภ์ได้ยังไง ในเมื่อเธอไม่เคยบอกให้ใครที่บ้านนั้นทราบ"บอกให้เขาขนกลับไปค่ะพ่อ นาไม่ขอรับอะไรจากเขาทั้งนั้น คนแบบนี้ตบหัวแล้วลูบหลัง อย่าฝันว่าเอาของพวกนี้มาล่อแล้วนาจะใจอ่อน ลูกของนาไม่จำเป็นต้องใช้ของพวกนั้นหรอกค่ะ เสื้อผ้านาตัดเย็บให้ลูกเองก็ได้ ส่วนของเล่นก็ประดิษฐ์ขึ้นเอง ไม่เห็นยากอะไร ไม่ต้องใช้เงินซื้อมาให้ฟุ่มเฟือยด้วยซ้ำ" นารีพูดระบายออกมาซะยาวเหยียด เมื่อเธอนั้นยังรู้สึกโกรธและน้อยใจในตัวของสามี ซึ่งนารียังไม่คิดว่าจะคืนดีกับเขาง่ายๆ เมื่อชายหนุ่มพาภรรยาเก่ามาหยามน้ำใจ จนทำให้เธอต้องนอนร้องไห้สามเวลา "พ่อว่ามีอะไรก็พูดกันดีๆ สามีของลูกเล่าทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟังหมดแล้ว เขาก็ไม่ได้ผิดอะไรมาก นาควรจะหันไปปรับความเข้าใจกันนะ ยังไงลูกก็ต้องมีพ่อ พ่อกับแม่ไม่อยากเห็นหลานเป็นกำพร้า เพราะสาเหตุที่หนูกับสามี ผิดใจกันเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย" นักรบได้เล่าทุกอย่างให้กับบิดาและมารดาของนารีได้รับฟัง ยกเว้นเร