"อืม... คุณเจสัน ฉันไม่ไหวแล้ว ช่วยดันมันเข้ามาที" หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่กระเส่า ในขณะที่มือเรียวของเธอโอบจิกลงไปที่แผ่นหลังของเขาอย่างเผลอลืมตัว
"สามีขา... ช่วยทำให้รวีหน่อยค่ะ ไหนพูดซิ" คราวนี้เจสันพูดเสียงสองสอนรวีออกมา พร้อมกับเงยหน้าขึ้นสบตากับรวี เวลานี้หัวใจของเธอเริ่มเต้นแรงจนสร่างเมา ดวงตาคมที่จ้องเธอเป็นประกาย กำลังจะทำให้หัวใจของระวีละลาย เพราะผู้ชายอย่างเขารุกหนักจนเกินจะต้านทาน
"คุณ! ทำไมเป็นคนแบบนี้ ถึงฉันจะโชกโชนเรื่องผู้ชายฉันก็อายเป็นเหมือนกันนะ"
จุ๊บ~จร๊วบ! เจสันรีบกดริมฝีปากทาบทับประกบจูบเธอลงในทันที เขาคลอเคลียริมฝีปากและละเอียดชิมอย่างเมามัน เมื่อเขานั้นต้องการกลืนกินเสียงพูดของเธอ เรื่องที่รวีเคยผ่านผู้ชายมาแล้วนับไม่ถ้วน ก็อย่างที่เขาบอกว่ามันไม่สำคัญ เพราะนับจากนี้ไปเขาจะขอเป็นคนสุดท้าย เพื่อปกป้องและดูแลเธอเอง
เรือนกายที่ขาวเนียน เมื่อต้องแสงสีส้มนวลจากดวงจันทร์ ที่สอดส่องผ่านกระจกมา กำลังทำให้เจสันแทบอยากจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว มือหนาลูบไล้ไปทั่วเรือนกายที่เซ็กซี่ ก่อนจะมาหยุดที่สะโพกกลม ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะใช้มือจับลงไปที่หลังเท้าของเธอ
"อืม คุณจะทำอะไร คุณเจสัน อ้า อร้ายยย" การกระทำของเขา ทำให้รวีถึงกับครางกระเส่าออกมา เมื่อริมฝีปากอุ่นจุมพิตลงไปที่หลังเท้าอวบของเธอ เขาค่อยๆ พรมจูบไล้ขึ้นมาเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดที่ใต้ท้องน้อยของรวี เจสันได้จัดการถ่างขาเธอออก พร้อมกับมุดหน้าลงต่ำ
"อ๊ะอ้าย คุณเจสัน! รวีเสียว อ้า" เสียงหวานพูดพร้อมกับครางออกมา เมื่อเนื้อนูนบวมเป่งถูกลิ้นร้อนรุกรานอย่างหนัก จนริมฝีปากอิ่มเผยอขึ้น ส่งเสียงหวานเรียกชื่อเขาห้วนๆ ออกมาอย่างแผ่วเบา แต่ปลายลิ้นของเจสันยังคงอ้อยอิ่งกับจุดอ่อนไหวของเธอไปมา สลับกับดูดกลืนจนเม็ดสีแดงระเรื่อสั่นระริกจากการขมิบ เตรียมปลดปล่อยน้ำหวานออกมา เมื่อการกระตุ้นของเจสัน เริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ
"ดีไหมครับ คราวหลังห้ามพูดถึงชายอื่น ทุกอย่างคืออดีต ผมคือปัจจุบันเราจะเดินไปด้วยกันผมสัญญา" เจสันพูดพร้อมกับจับลงไปที่ต้นขาอวบของรวี ก่อนจะจับมังกรยักษ์ดันเข้าไปในถ้ำของเธอจนมิดลำ
พรึ่บ!! ความคับแน่นกับน้ำหล่อลื่นที่มี ทำให้ทั้งสองรู้สึกดี ก่อนที่เจสันจะโยกสะโพกเข้าออกช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ เร่งจังหวะให้เร็ว และหนักหน่วงขึ้นในเวลาเดียวกัน จนคนตัวเล็กใต้ร่าง ตัวสั่นกระเพื่อมขึ้นลง
"อืม เร็วหน่อยค่ะคุณเจสัน" เวลานี้รวีรู้สึกร้อนวูบวาบไปถึงท้องน้อย เมื่อมังกรยักษ์นั่นทั้งใหญ่และยาว บวกกับชายหนุ่มกระแทกลงถี่ๆ อย่างไม่เบาแรง
"โอ้!! เมียผมสุดยอดมาก" คำพูดของเจสันทำให้รวีรู้สึกดีไม่น้อย แต่นั่นเธอกลับคิดว่า มันเป็นเพียงแค่คำพูดของผู้ชายที่ต้องการร่วมรักกับผู้หญิงอย่างเธอเท่านั้น
"อ๊ะ~อ้า! คุณเจสัน" เขาบรรเลงท่วงท่าที่หนักหน่วง จนสะโพกมนกระตุกวาบ สั่นสะท้านไปทั้งตัว เมื่อมังกรยักษ์ได้รุกล้ำจ้วงลึกเข้ามาในถ้ำ เขาถอดถอนเข้าออกเป็นจังหวะระรัว สะกิดจุดอ่อนไหวภายในอย่างแม่นยำ จนทำให้รวีนั้นร้อนวูบวาบให้กับขนาดความใหญ่โตของท่อนเอ็น ในขณะเดียวกันความรู้สึกที่มีนั้นเหมือนกำลังจะถูกปลดปล่อยให้หลุดลอยไปในอวกาศ
"อ้า โอ้ววว ที่รักผมขอแตกในอีกนะ" เวลานี้คำบอกเล่าของเจสันไม่ได้มีผลต่อการได้ยินของรวีเลยสักนิด เมื่อเธอกำลังรู้สึกเหมือนวิญญาณ กำลังจะออกจากร่างทุกอย่างมันเบาหวิวไปหมด
"อ้า อูยยย! อื้ม เร็วหน่อยคุณเจสัน" เสียงหวานออกคำสั่งให้ชายตรงหน้าเพิ่มความเร็ว พร้อมกับสะโพกมนกระตุกขึ้น แอ่นรับมังกรยักษ์ได้อย่างลงตัว ช่องแคบได้ขมิบตอดรัดท่อนเอ็นร้อนของเขาเอาไว้จนมิดลำ ในขณะที่มังกรยักษ์กำลังจะพ่นน้ำลาวาขาวขุ่นออกมา และแล้วมันก็พุ่งเข้าไปในถ้ำของเธอจนหมดทุกหยาดหยด ซึ่งสิ่งนั้นมันคือจุดก่อกำเนิดของสิ่งมีชีวิต ในขณะที่ทั้งสองไม่ได้คำนึงถึงผลที่จะตามมา เพราะความต้องการในกามารมณ์มีมากกว่าสติ ไม่นานต่างคนต่างก็หมดแรงนอนกอดกันกลม หลับใหลลงไปอย่างไม่รู้ตัว
รวีรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอมองไปที่ชายร่างกำยำที่นอนเคียงข้างด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย อีกใจหนึ่งก็รู้สึกดี ส่วนอีกใจนั้นเธอก็รู้สึกไร้ค่า ที่เขาต้องการจะย่ำยีเมื่อไหร่ก็ได้ รวีค่อยๆ ดันตัวลุกลงมาจากเตียง ก่อนจะหยิบชุดมาสวมใส่ ต้องขอบคุณเจสันที่เขาไม่ได้ฉีกมันขาดเหมือนวันนั้น
หญิงสาวเดินไปหยิบกระเป๋าถือ ก่อนจะเปิดประตูเบาๆ แล้วค่อยๆ ย่องออกไปจากห้อง นับจากวันนี้เธอจะขอเป็นคนใหม่ พอกันทีกับชีวิตท่ามกลางแสงสี หลายปีที่เธอโตมาท่ามกลางการเอาอกเข้าใจจากบิดามารดา นับจากวันนี้เธอควรจะหันมาทำตัวให้มีคุณค่ามากกว่าที่เคยเป็น
รถยนต์คันหรูแล่นออกไปจากคอนโด จุดหมายปลายทางของเธอนั้นคือบ้านกะสิเทพ ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าบ้านหลังนั้นโดนยึดไปหรือยัง บิดามารดาจะอยู่อย่างไร เธอควรกลับไปดูแลท่านบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้กิเลสตัณหาครอบงำ แล้วเที่ยวระรานคนอื่นไปทั่วเหมือนหมาบ้าเช่นนี้
ภายในห้องที่เคยเต็มไปด้วยความรัก เวลานี้นารีกำลังเก็บเสื้อผ้ามาพับใส่กระเป๋า เธอไม่อาจอยู่ร่วมชายคากับสามีที่เห็นแก่ตัวอย่างนักรบได้อีกต่อไป เมื่อเขายังคงอยากจะเก็บเทเรซ่าเอาไว้ เธอจะเป็นฝ่ายเดินออกไปเอง
"นารี ผมสั่งให้คุณเอากระเป๋าไปเก็บ! " นักรบพูดพร้อมกับเดินเข้ามาคว้ากระเป๋าจากมือของนารี แต่หญิงสาวกลับกำไว้แน่น พร้อมกับแววตาที่ฉายแววแข็งกร้าวออกมา จนนักรบรู้สึกได้ว่าเขานั้นกำลังจะสูญเสียเธอไป
"คุณก็เห็นในกระเป๋าใบนี้มีเสื้อผ้าไม่กี่ชุด ฉันไม่ได้เอาของมีค่าอะไรติดตัวไปด้วย ฉันจะไม่เรียกร้องสินสมรสจากคุณ เมื่อฉันเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้แต่ตัว ฉันก็จะกลับไปตัวเปล่า คุณไม่ต้องกลัวว่าฉันจะฟ้องร้องเรียกสิทธิ์อะไรจากคุณ คุณพร้อมเมื่อไหร่นัดเจอกันที่เขตได้เลย" นารีพูดพร้อมกับเปิดประตูเดินออกไปจากห้อง เวลานี้ต่อให้ช้างมาฉุดมันก็คงจะหยุดเธอไม่ได้ ความขมขื่นที่มีในหัวใจ มิอาจเก็บกลั้นไว้อีกต่อไปได้อีกแล้ว
"อ้าว! หนูนารีจะไปไหนแต่เช้า แล้วนั่นกระเป๋าอะไร ป้าบอกแล้วใช่ไหมคะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอย่าทิ้งคุณหนู คุณนักรบรักคุณนารีมากนะคะ" คำพูดของป้านวลไม่ได้สร้างความตื้นตันใจให้กับนารีเลยสักนิด เธอกลับคิดว่า การกระทำต่างหากคือคำตอบของความรัก ไม่ใช่ลมปากที่พ่นออกมา
"นาไม่เหมาะกับที่นี่หรอกค่ะป้า" นารีพูดพร้อมกับก้มหน้ามองลงต่ำ เพราะเธอไม่กล้าสบตาป้านวล กลัวว่าน้ำตามันจะไหลออกมาไม่หยุด
"บ้านหลังนี้จะมีนายหญิงที่ชื่อนารีเพียงคนเดียว ถ้าสบายใจแล้วก็กลับมานะคะคุณหนูนารี ที่นี่ยังคงรอต้อนรับคุณเสมอ แล้วใครจะไปส่งเจสันก็ยังไม่กลับ" ป้านวลพูดออกมาลอยๆ ในขณะที่หางตาแอบชำเลืองมองไปที่นักรบ ที่เอาแต่ยืนแข็งทื่อไม่พูดไม่จา เดินตามหลังเธอลงมา แต่กลับไม่ห้ามปรามนารีเลยสักคำ
"เย้! คุณพ่อใจดีที่สุดในโลกเลยครับ" เด็กชายร้องออกมาเสียงดังพร้อมกับกำมือชูขึ้นสองข้าง จนนารีแอบฉีกยิ้มที่มุมปาก ที่พ่อกับลูกนั้นเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย "คุณหนูพบรักไปบ้านคุณยาย ย่านวลคงจะเหงาน่าดูเลย รีบไปรีบกลับนะครับคนเก่ง" น้ำเสียงของป้านวลช่างออดอ้อนให้เด็กน้อยนั้นอยากเอาใจ จนนักรบและนารียิ้มไม่หุบให้กับในความน่ารักของย่ากับหลาน "ผมไปบ้านคุณยายไม่กี่วันก็กลับแล้วครับคุณย่านวล เดี๋ยวพบรักจะเอาผลไม้มาฝาก ที่บ้านของคุณตาคุณยายมีผลไม้เยอะแยะเลย "ช่างพูดช่างเจรจาจังเลยนะเราเนี่ย อย่างนี้จะไม่ให้ย่ารักอย่าหลงได้ยังไง" หญิงสูงวัยพูดพร้อมกับเอามือลูบลงที่ศีรษะของพบรักไปมาเบาๆ ก่อนที่เด็กชายจะส่งยิ้มร่าให้ย่านวล พลอยทำให้ทุกคนยิ้มตามออกมา เมื่อพบรักมีความน่ารักสมวัยรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านกะสิเทพ ก่อนจะมีเด็กชายเปิดประตูวิ่งแจ้นออกมาจากรถ จนทำให้นักรบนั้นรีบเปิดประตูลงมาคว้าตัวลูกชายมาอุ้มเอาไว้
สักพักปลายลิ้นร้อนลากผ่านลงมาที่หน้าท้องของภรรยา เขาได้จุมพิตอย่างทะนุถนอมลงไปเบาๆ เมื่อมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ภายในนี้ ซึ่งมันคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ที่นักรบตั้งใจไม่คิดป้องกันตั้งแต่แรก เพราะชายหนุ่มนั้นหวังจะได้ทายาท ตามที่ใจเคยปรารถนาเอาไว้ และภรรยาของเขาก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลยแม้เพียงนิด "พ่อรักหนูนะ รักแม่ของหนูด้วย" สิ้นเสียงพูดของชายหนุ่ม เขาได้สัมผัสไปที่มังกรยักษ์ก่อนจะค่อยๆ สอดมันเข้าไปในช่องแคบของภรรยาอย่างเบามือ "อืม แน่ใจนะคะว่าจะไม่มีผลต่อลูกของเรา" แม้ความต้องการของเธอจะมีมาก แต่นารีก็ยังเป็นห่วงลูกมากมายเช่นกัน "ไม่เป็นไรหรอกหนูนา ท่าเบสิกอย่ากลัวไปเลย ผมจะทำเบาๆ นะครับคนดี" นักรบพูดในขณะที่สะโพกของเขาเริ่มทำการขยับโยกเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ แม้ว่ามันจะไม่หนักหน่วงหรือรุนแรง แต่ทว่าความคับแน่นของช่องแคบ เมื่อมังกรยักษ์ผลุบเข้าผลุบออกก็ได้สร้างความเสียวซ่านให้กับสองสามีภรรยาไม่น้อยเลย "อ้า อ๊าคุณนักร
"ลูกของพ่อเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเนี่ย ทำไมแม่ถึงได้ดุจังเลย" การกระทำของสามีหนุ่ม ทำให้นารีนั้นรู้สึกใจเต้นแรง เมื่อตัวเธอเองก็โหยหาเขาเช่นกัน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่คืนกี่วัน ผู้ชายคนนี้ก็มักจะทำให้เธอรู้สึกดีเสมอ โดยที่เขานั้นไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยด้วยซ้ำ "เงยหน้าขึ้นมาสิ เดี๋ยวไม่ทำแผลให้เปลี่ยนใจไปนอนไม่รู้ด้วยนะ" นารียังคงใช้คำพูดแข็งกระด้าง มีใบหน้าที่เรียบเฉยอีกตามเคย แต่นักรบก็รู้ว่าเธอใจอ่อนลงไปบ้างแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่เดินมาหาเขา เพื่อขอดูแผลแบบนี้หรอก สามีหนุ่มยอมทำตามภรรยาอย่างว่าง่าย ยอมแหงนหน้าขึ้นไปให้เธอทำแผลให้ พร้อมกับจ้องมองไปที่ดวงตากลมโต ที่เวลานี้ความหมองหม่นได้หายไปสิ้น "แผลบวมนูนขึ้นมาแบบนี้ ฉันว่าคุณไปเย็บแผลดีกว่า ไม่อย่างนั้นต้องเป็นแผลเป็นแน่ๆ" คราวนี้นารีพูดออกมาจากใจด้วยความรู้สึกผิด เมื่อแผลมันลึกและกว้างอยู่มาก และที่สำคัญเลือ
วันนี้ทั้งวัน ตั้งแต่เธอเดินไปหาอะไรกิน ในตอนเช้านารีไม่ยอมเดินออกจากห้องอีกเลย เพราะไม่อยากเจอนักรบ หญิงสาวขังตัวเองไว้ในห้องที่ชั้นบนของบ้าน ส่วนข้าวปลาอาหารนั้นมีรินสาวใช้คนสนิทของพี่สาวคอยบริการเธอทุกอย่าง ตอนนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบยี่สิบนาฬิกาแล้ว นารีไม่ได้สนใจใครทั้งสิ้น เธออาบน้ำแล้วเตรียมตัวจะเข้านอน ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! "นารีขอแม่เข้าไปหน่อยได้ไหมลูก" เสียงของผู้เป็นมารดาดังแว่วมา หลังจากที่เสียงเคาะประตูเงียบไป ทำให้นาทีนั้นค่อยๆ ลุกจากเตียง เพื่อเดินไปเปิดประตูให้กับมารดา และเธอก็ต้องแปลกใจ เมื่อชายร่างสูงใหญ่รีบเบี่ยงตัวเข้ามาในห้องของเธอทันที พร้อมกับกระเป๋าใบเล็กๆ "แม่... แม่ แม่ค่ะ" นารีร้องเรียกหามารดา แต่จะดูเหมือนว่าเธอนั้นโดนหลอกเข้าให้ซะแล้ว "คุณไม่ต้องเรียกหรอก คุณแม่เดินเข้าห้องไปแล้ว" นักรบพูดพร้อมกับค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด จนทำให้นารีนั้นมองเขาตาเขียว "ออกไปให้พ้นจากห้องฉันเลยนะ คุณแม่นะ
"จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน สายแล้วนะคุณ ลุกไปอาบน้ำจะได้มาทานข้าวพร้อมกัน" เจสันกระซิบลงไปที่ข้างหูของรวี ทำให้หญิงสาวรู้สึกคุ้นกับเสียงทุ้มนี้เป็นอย่างมาก เธอค่อยๆ ปรือตาขึ้น ก่อนจะหลับลงอีกครั้ง เมื่อแสงมันแยงมา และคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป จากนั้นรวีค่อยๆ ปรือตาลืมขึ้นมาอีกครั้ง "ว้าย! เจสัน! คุณเข้ามาอยู่ในห้องของฉันได้ยังไงออกไปเลยนะ" รวีพูดพร้อมกับหยิบหมอนตีลงไปที่ลำตัวของเจสัน ชายหนุ่มรีบเอามือขึ้นมาป้องตัวเอาไว้ พร้อมกับจับหมอนไว้แน่น ก่อนที่ทั้งสองจะยื้อกันไปมา "นี่คุณ! ไปเอาแรงมาจากไหนเนี่ย แรงอย่างกับช้างหยุดก่อนได้ไหม" เจสันพยายามพูดปรามรวีให้หยุดดึงหมอน แต่ดูท่าทีของเธอแล้วไม่น่าจะยอมเขาง่ายๆ "ใครอยู่ข้างนอก ทำไมปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้ามาในห้องของฉันแบบนี้ รินอยู่ไหมเข้ามาช่วยหน่อยซิ" รวีตะโกนออกมาเสียงดัง แต่ดูเหมือนว่าคนข้างนอกจะไม่ใส่ใจ เพราะไม่เห็นมีใครตอบกลับมาเลยสักคน"ผมจะบอกอะไรให้นะ คุณไม่ได้ลงกลอน ผมแค่เปิดประตูเดินเข้ามา ตอนแรกพ่อของคุณกำลังจะไปหากุญแจสำรองมาเปิดใ
"ดูสิของเด็กเล่นพวกนั้น เขาสั่งมาเป็นคันรถเชียวนะ เขาไม่รู้หรือไงว่านาเพิ่งท้องได้เดือนกว่า" คำถามของมารดาทำให้นารีเริ่มสงสัย นักรบรู้เรื่องที่เธอตั้งครรภ์ได้ยังไง ในเมื่อเธอไม่เคยบอกให้ใครที่บ้านนั้นทราบ"บอกให้เขาขนกลับไปค่ะพ่อ นาไม่ขอรับอะไรจากเขาทั้งนั้น คนแบบนี้ตบหัวแล้วลูบหลัง อย่าฝันว่าเอาของพวกนี้มาล่อแล้วนาจะใจอ่อน ลูกของนาไม่จำเป็นต้องใช้ของพวกนั้นหรอกค่ะ เสื้อผ้านาตัดเย็บให้ลูกเองก็ได้ ส่วนของเล่นก็ประดิษฐ์ขึ้นเอง ไม่เห็นยากอะไร ไม่ต้องใช้เงินซื้อมาให้ฟุ่มเฟือยด้วยซ้ำ" นารีพูดระบายออกมาซะยาวเหยียด เมื่อเธอนั้นยังรู้สึกโกรธและน้อยใจในตัวของสามี ซึ่งนารียังไม่คิดว่าจะคืนดีกับเขาง่ายๆ เมื่อชายหนุ่มพาภรรยาเก่ามาหยามน้ำใจ จนทำให้เธอต้องนอนร้องไห้สามเวลา "พ่อว่ามีอะไรก็พูดกันดีๆ สามีของลูกเล่าทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟังหมดแล้ว เขาก็ไม่ได้ผิดอะไรมาก นาควรจะหันไปปรับความเข้าใจกันนะ ยังไงลูกก็ต้องมีพ่อ พ่อกับแม่ไม่อยากเห็นหลานเป็นกำพร้า เพราะสาเหตุที่หนูกับสามี ผิดใจกันเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย" นักรบได้เล่าทุกอย่างให้กับบิดาและมารดาของนารีได้รับฟัง ยกเว้นเร