“ฉันขอตู้เสื้อผ้าของคุณครึ่งหนึ่งได้ไหม”
พราวลลิลเอ่ยเสียงดังขึ้นเมื่อพาตัวเองเข้ามายืนอยู่ภายในโซนแต่งตัวของห้องนอนที่รายล้อมแยกสัดส่วนด้วยตู้เสื้อผ้าสามตู้ใหญ่ๆเรียงกั้นเป็นห้องขนาดเล็กอีกห้องหนึ่งมีประตูเป็นกระจกใส
ในตู้เสื้อผ้าทั้งสามตู้เต็มไปด้วยเสื้อผ้าของเขา ไม่หนาแน่นมากนักแต่ทว่ากลับถูกแขวนแยกสัดส่วนเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ
จนคนอย่างเธอที่มีเสื้อผ้ามากมายถึงสามกระเป๋าต้องเอ่ยขออนุญาตเขาก่อน ด้วยไม่อยากมีปัญหากับเจ้าของห้องอย่างเขา
“อะไรนะ”
ได้ยินเสียงพูดของเธอดังแว่วๆเข้าไปภายในห้องน้ำ คนที่เปลี่ยนเสื้อผ้าออกหมดแล้วถึงกับเอียงหูฟังอย่างตั้งใจ
และเริ่มแง้มประตูห้องน้ำให้เปิดออกเล็กน้อย เพื่อจะฟังเธอพูดให้ได้ยิน
“ฉันขอตู้เสื้อผ้าของคุณครึ่งหนึ่งได้ไหม”
“ได้ เธอเลือกเอาได้เลย”
“คุณสะดวกจะให้ทางฝั่งซ้ายหรือขวา ฉันจะได้ย้ายของ”
“เดี๋ยวฉันจัดการเคลียร์ให้เองจะดีกว่า”
หยิบผ้าเช็ดตัวผืนไม่ใหญ่มากนักแค่พอพันรอบเอวสอบของตัวเองได้เอามาพันไปรอบๆเอวเพื่อปิดบังความโป้
เดินตัวปลิวออกจากห้องน้ำตรงไปยังห้องแต่งตัวเพื่อจะไปหยิบเสื้อผ้าของตัวเองขยับออกจากราวแขวน
มันเป็นเสื้อผ้าของเขา เขาควรทำอะไรพวกนี้ด้วยตัวเอง มันใช่เป็นเธอที่ยังคงถือว่าเป็นแขกของบ้านมาทำให้
อันที่จริงแล้วเสื้อผ้าของเขานั้นแขวนแค่ตู้เดียวก็เพียงพอแล้ว เพราะไม่ได้มีมากมายนัก แต่ที่แขวนเต็มไปหมดเพราะปกติอยู่คนเดียว ใช้ตู้เสื้อผ้าพวกนี้คนเดียว ก็เลยแขวนเรียงให้เกิดความสวยงามเป็นระเบียบเว้นระยะห่างไปทั่ว
เอาเป็นว่าอีกสองตู้เขายกให้เธอใช้ไปก่อนแล้วกัน จนกว่าอะไรๆมันจะเข้าที่เข้าทาง แล้วเขากับเธอสมควรจะแยกห้องนอนกัน
“อืม ทำไมไม่แต่งตัวให้มันเรียบร้อยอ่ะ”
คนตัวเล็กที่ยืนอยู่อีกฝั่งของห้องแต่งตัวจ้องมองไปยังชายหนุ่มที่เดินนุ้งผ้าเช็ดตัวออกมา ด้วยท่าทางน้ำลายเกือบไหลหก
หุ่นของเขามันช่างแน่นไปหมด กล้ามงี้เป็นมัดๆน่าจับขย้ำเป็นบ้าเลย ถ้าเทียบกับเด็กโฮสที่เธอไปเฝ้า เขากินขาดไม่มีใครเทียบติดเลย
แล้วทำไมต้องขาวได้ขนาดนั้น ราวกับพระเอกซีรีส์จีนหลุดออกมาจากจอทีวีแล้วมาเดินเล่นอยู่หน้าเธอ
แสบตาเหลือเกิน
อื้ออออ จะทนไม่ไหวแล้วนะ
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
นนท์ธิวรรธน์จัดเรียงเสื้อผ้าในตู้เสียใหม่เสร็จเรียบร้อยดีแล้วก็หันหน้ามาหาหญิงสาว ก็เพื่อจะบอกกับเธอว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
แต่ทว่าก็ต้องตกใจไม่น้อย เมื่อคนตัวเล็กนั้นย่อตัวลงไปนั่งยองๆกับพื้นแล้วหันหลังให้กับเขา
“เปล่าๆ คุณรีบไปอาบน้ำเถอะ ฉันจะได้รีบจัดของ”
เธอแพ้ความหล่อของเขาถึงกับเข่าอ่อน จำต้องนั่งลงตั้งหลักก่อน และก็หันหลังให้เขาด้วยเพราะไม่กล้ามองเขาต่อ กลัวว่าจะเป็นลมตายเพราะความหล่อความแน่นไปเสียก่อน
“อืม”
เห็นว่าไม่มีอะไรแล้ว เขาก็เดินกลับไปที่ห้องน้ำต่อ แล้วอาบน้ำชำระล้างร่างกายที่ทั้งทำงานหนักมาทั้งวันและออกกำลังกายจนเหงื่อเปียกชุ่มมาทั้งตัวอีก
~ซู่ ซู่~
“เฮ้อออ เกือบตาย”
เสียงน้ำไหลดังออกมาจากภายในห้องน้ำ ทำให้พราวลลิลกล้าที่จะลุกขึ้นยืนอีกครั้งด้วยขาของเธอที่เลิกสั่นขึ้นมาได้บ้างแล้ว
เข้าเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเอง หยิบเอาเสื้อผ้าที่มีมากมายหลายสิบชุดออกมาจัดเรียงไปบนตู้เสื้อผ้าทั้งสองตู้ที่เจ้าของบ้านนั้นยกให้
เธอแขวนเสื้อผ้าไปก็แต่งตัวไปด้วยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาก่อนที่คนในห้องน้ำจะออกมาอีกครั้ง
ค่อนข้างเร่งมือพอสมควรด้วยไม่อยากให้ใครมาเห็นตอนเธอโป้ เมื่อห้องแต่งตัวนั้นเป็นกระจกใสมองเห็นได้อย่างชัดเจน
คนตัวเล็กใช้เวลาอยู่ในโซนห้องแต่งตัวไม่นานก็รีบกระโดดขึ้นเตียงนอนมาจัดการเลือกฝั่งที่ตัวเองถนัดนอนก่อน
ไม่ได้เก็บเสื้อผ้าให้เสร็จเรียบร้อย ด้วยมันมากมายจนเกินจะเก็บไหวในคราวเดียว เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยเก็บใหม่
นนท์ธิวรรธน์ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานพอสมควรก่อนจะออกมาแต่งตัวภายในห้องแต่งตัว
แต่เขาไม่ได้โป้ให้เธอเห็นหรอกนะ เพราะภายในห้องแต่งตัวมีผ้าม่านให้เลื่อนปิดได้ ตามที่นักตกแต่งห้องนี้เขาได้ออกแบบเพื่อเอาไว้ในอนาคตว่าหนุ่มโสดอย่างเขาอาจมีผู้หญิงมาอยู่ด้วย และวันนี้มันก็ได้ใช้งานจนได้ หลังจากเป็นแค่ผ้าม่านประดับห้องมานานแสนนาน
“เธอจะนอนฝั่งนั้นเหรอ”
แล้วเขาก็ได้เห็นว่าหญิงสาวนั้นลงนอนบนเตียงก่อนหน้าเขาแล้ว และเธอก็นอนชิดฝั่งทางซ้ายติดกับทางด้านหน้าต่างกระจกของห้องนอน
ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าเธอถนัดนอนทางนั้นเลยเลือกแบบนั้น หรือแค่รีบร้อนขึ้นไปนอนก่อนที่เขาจะออกจากมาภายในห้องน้ำ
“อืม ใช่”
“ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ”
ชายหนุ่มเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ เพราะถ้าเธอไม่สะดวกจะนอนฝั่งนั้น ก็มาเลือกนอนอีกฝั่งหนึ่งได้นะ
ถึงแม้ว่าเขาจะถนัดนอนฝั่งขวามาก แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษก็พอจะเสียสละให้เธอได้
“อืม ฉันชอบด้านซ้าย และอีกอย่างก็ชอบหน้าต่างด้วย มันทำให้ไม่อึดอัด”
เธอชอบฝั่งทางซ้ายนี้จริงๆ เพราะที่บ้านเธอนั้นเธอก็เลือกนอนฝั่งนี้ ไม่อย่างนั้นจะรีบกระโดดขึ้นเตียงมาเลือกด้วยตัวเองเหรอ
“ถ้าอย่างนั้น เอาหมอนข้างหน่อยไหม”
เมื่อฝั่งนอนเป็นที่ตกลงกันดีแล้ว ชายหนุ่มก็มองหาหมอนข้างที่เขาเอาไปวางที่โซฟาเมื่อคืนก่อน
ด้วยคืนนี้มันน่าจะต้องถูกใช้งาน เป็นที่กั้นไม่ให้เขากับเธอต้องนอนใกล้กันมากเกินไป
“เอาสิ”
“อืม ปิดไฟเลยไหม”
เหมือนเตียงนอนจะถูกแบ่งออกเป็นอย่างดีแล้ว นนท์ธิวรรธน์ก็เสนอที่จะปิดไฟภายในห้องนอนทันที
เขายังไม่ได้ง่วงนอนเลยสักนิด แต่ความมืดน่าจะช่วยให้ห้องนอนห้องนี้ดูน่าอึดอัดน้อยลง
“เดี๋ยวก่อน อืม คือว่า เบาแอร์หน่อยได้ไหม”
หญิงสาวเริ่มหนาวจนสะท้านแม้จะห่มผ้าเอาไว้อย่างมิดชิดจนถึงคอก็ตาม เมื่อเครื่องปรับอากาศภายในห้องนี้ถูกเปิดเอาไว้ที่ยี่สิบองศา
ไม่ต้องไปเที่ยวไกลถึงต่างประเทศ เมืองไทยก็หนาวจนสั่นได้ด้วยเครื่องปรับอากาศภายในห้องนอนของเขาห้องนี้
“อ่อ หนาวเหรอ”
“อืม”
“เธอตั้งเอาเอง ตามสบายได้เลย”
เขาเดินไปหยิบรีโมทแอร์มาให้กับเธอ เมื่อไม่รู้ว่าจะต้องตั้งอุณหภูมิเท่าไหร่ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอถึงจะรู้สึกอบอุ่น
“คุณตั้งดีกว่า ถ้าเกิดคุณร้อนขึ้นมาจะพาลนอนไม่หลับเอานะ”
“ไม่ร้อนหรอก เธอตามสบายได้เลย”
“อืม เอาแบบนั้นก็ได้ ถ้าอย่างนั้นรีโมทแอร์เอาไว้ฝั่งฉันนะ”
พราวลลิลจัดการปรับอุณหภูมิให้เพิ่มขึ้นไปถึงยี่สิบห้าองศา ก่อนจะวางรีโมทแอร์ไว้ตรงหัวเตียงนอนฝั่งตัวเอง เพื่อสะดวกต่อการหยิบเอามาใช้ในวันหน้า
“อืม”
“ถ้าอย่างนั้น ปิดไฟนะ”
ทุกอย่างดูเหมือนจะเรียบร้อยดีแล้ว นนท์ธิวรรธน์ก็ปิดไฟภายในห้องนอนลงเหลือไว้แต่เพียงไฟหรี่ภายในห้องน้ำ
ภายในห้องมืดลงในทันที แต่ก็ไม่ได้มืดสนิท ยังคงมีแสงสลัวๆรอดผ่านประตูห้องน้ำออกมา
“อืม”
“ฝันดีนะ”
เจ้าของร่างสูงลงนอนบนเตียงด้วยความเคยชินในฝั่งที่ตัวเองถนัด แต่ทว่าวันนี้ทิ้งตัวลงนอนเบากว่าปกติเมื่อไม่ได้นอนเพียงคนเดียวแล้วบนเตียงใหญ่
ก่อนจะเอ่ยบอกฝันดีอีกฝ่าย เพราะไม่รู้จะพูดอะไรเพื่อดับความเงียบที่มันน่ากลัวกว่าความมืดที่มันเกิดขึ้นภายในห้องนอนของเขา
“อืม ฝันดี”
คนตัวเล็กขานรับคำพูดของเขาตามมารยาท ก่อนจะพยายามข่มตาให้หลับลงท่ามกลางสถานที่ใหม่ๆแห่งนี้
โดยไม่รู้เลยว่าวันนี้ คืนนี้ คนอย่างเธอจะนอนหลับไหม
“พี่นนท์คะ”เสียงหวานเอ่ยเรียกสามีของเธอที่นั่งรออยู่บนเตียงนอนอย่างเย้ายวนพร้อมกับค่อยๆเดินอย่างเชื่องช้าออกมาจากภายในห้องแต่งตัว ด้วยชุดนอนแบบที่เรียกได้ว่าใส่แล้วคงไม่ได้นอน เป็นผ้าลื่นๆมันๆตัดขอบด้วยผ้าลูกไม้สีดำทั้งชุดร่างบางที่ตุ้ยนุ้ยขึ้นพร้อมกับท้องโตๆที่ใกล้คลอดเต็มแก่แล้วนั่งลงบนตักใหญ่ของสามีอย่างจงใจยั่วยวนเขาแม้ใกล้คลอดเต็มทนไม่ควรจะมาทำอะไรแบบนี้กัน แต่ทว่าบรรยากาศมันก็พาไปทำให้เธออดใจเอาไว้ไม่ไหวจริงๆอีกอย่างการอยู่ใกล้ท่านประธานที่หล่อเหลากว่าหนุ่มโฮสเป็นไหนๆแบบนี้ ใครล่ะจะไปอดใจถือศีลไหวกัน“หืม นมหวาน”นนท์ธิวรรธน์วางมือหนาบนท้องโตๆของเมียคนสวยแล้วลูบวนเบาๆอย่างอดใจต่อไปไม่ไหว ก่อนจะขยับปลายมือมาบีบขย้ำไปตามอกอวบของเธอที่มันใหญ่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากการเตรียมตัวเป็นแม่คนไม่คาดคิดเลยว่าของขวัญวันเกิดในปีนี้ที่ได้เมียมานั้นจะแสนถูกใจเสียจนห้ามใจเอาไว้ไม่ไหวเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตั้งใจเป็นพ่อที่ดีไม่ไปเร่งรัดให้ลูกน้องคลอดออกมาก่อนกำหนด“แบบนี้พอจะเป็นของขวัญของพี่นนท์ได้ไหมคะ”พราวลลิลเอนกายซบพิงไปกับร่างกำยำของผู้เป็นสามีพร้อมกับเปิดชายของชุดนอนขึ้นมาเล็กน้อยให้พ
ชีวิตหลังแต่งงานของนนท์ธิวรรธน์ไม่ต่างอะไรจากชีวิตก่อนแต่งงานเลยสักนิดเดียว เขายังคงทำตัวเหมือนเดิม เหมือนเมื่อตอนที่มีเธอเดินเข้ามาในชีวิตวันแรกไม่มีเปลี่ยนไปเลยเขาตื่นแต่เช้าออกไปทำงานทุกวัน บางวันก็พาเมียไปทำงานด้วย บางวันก็ไม่ได้พาเธอไปด้วยอย่างเช่นตอนนี้เพราะเธอนั้นท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทนแล้ว เขาก็เลยให้เธอพักอยู่บ้านซะมากกว่า จะมีพาไปบ้างก็แค่บางวันที่เธอดูจะเบื่อการอยู่บ้านเท่านั้นและเขาก็จะรีบกลับจากที่ทำงานเพื่อมาที่บ้านในทันทีหลังจากที่เลิกงาน ไม่เคยแวะข้างทางที่ไหนเพื่อจะมาหาเมียให้เร็วที่สุด หรือถ้ามีเธอไปด้วยเขาก็รีบกลับบ้านอยู่ดีถ้าเธออยากกลับหรือพาเธอออกไปใช้ชีวิตหลังเลิกงานด้วยกันบ้างถ้าเธออยากไปและในวันนี้เขาก็เลิกงานค่อนข้างดึกพอสมควรเพราะอาทิตย์หน้าเจ้าตัวน้อยในท้องเมียน่าจะลืมตาดูโลกแล้วตามที่หมอคาดการณ์เอาไว้ เขาก็เลยคิดว่าน่าจะต้องลางานอีกหลายวันเลยละก็เลยเริ่มที่จะเคลียร์งานออกไปบ้างแล้ว แล้วก็รีบกลับบ้านมาหาเมียในทันที“ทำอะไรอยู่ครับ”ร่างสูงรีบเดินขึ้นมายังห้องนอนที่เมียขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วหลังจากที่เขานั้นให้เธอกินมื้อเย็นล่วงหน้าไปก่อนไม่ต้องรอเขาด้วยวันน
“วันนี้นมหวานสวยจังเลย”เสียงของนนท์ธิวรรธน์เอ่ยชมเมียคนสวยของเขาไม่ขาดปากในขณะที่กำลังเริ่มแต่งหน้าสำหรับงานเลี้ยงในรอบเย็น หลังจากที่เมื่อเช้านั้นเพิ่งจะจัดงานแต่งกันแบบไทยๆกันไปเมื่อในสายตาของเขานั้นเห็นว่าเมียสวยอยู่ตลอดเวลา เห็นแบบนี้มาตั้งแต่เจอหน้าเธอครั้งแรกก็ว่าได้“สวยตรงไหน สิวเม็ดเท่าช้างอยู่บนหน้าเนี้ยนะ”คนสวยตอบกลับด้วยความจริงเมื่อฮอร์โมนของคนท้องทำให้สิวหัวช้างขึ้นหน้าเธอตรงกลางหน้าผากพอดิบพอดีหัวสิวนั้นใหญ่เสียจนแต่งหน้ากลบยังไม่มิดเลย จะมีความสวยที่ไหนกันได้ล่ะ“สวยทุกตรงนั้นแหละ และก็สวยทุกวันเลยด้วย”ท่านประธานหนุ่มก็ยังคงไม่เลิกที่จะเอ่ยชมเมียตัวเล็กตัวน้อยของเขาที่สวยที่สุดสำหรับเขาอยู่ดี“หน้าก็ยังไม่ได้แต่ง ชุดก็ยังไม่ได้ใส่เนี้ยนะ”ถึงเขานั้นจะมองข้ามเรื่องสิวไปได้ก็ต้องเห็นเรื่องแต่งหน้าทำผมใส่ชุดของเธอบ้างแหละ ไม่ใช่มาหลับหูหลับตาชมเธอจนช่างแต่งหน้าอายแทนได้แบบนี้“เจ้าบ่าวออกไปรออีกห้องได้แล้วจ้ะ”นนท์ธิวรรธน์ยังไม่ทันได้เอ่ยชมเมียอีกสักรอบก็ถูกขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงของแม่เขาที่เปิดประตูเข้ามาพอดี“ครับคุณแม่”และนั้นทำให้นนท์ธิวรรธน์ต้องรีบออกจากห้องแต่ง
“วันนี้งานที่บริษัทเป็นยังไงบ้างคะ เหนื่อยหรือเปล่า”เสียงหวานๆเอ่ยทักทายผู้เป็นสามีพร้อมกับเดินเข้าไปหาเพื่อช่วยเขาถอดเสื้อสูทออกจากตัวหลังจากที่เขาเพิ่งจะกลับมาจากทำงานทำหน้าที่ภรรยาเป็นอย่างดีแต่ช่วงนี้ไม่ได้ไปทำหน้าที่เลขาเลย ด้วยเธอนั้นยังคงมีอาการแพ้ท้องอยู่ ท่านประธานก็เลยเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรมากไปกว่านี้ก็เลยสั่งหยุดงานเธออย่างไม่มีกำหนดไปก่อนเธอก็เลยทำได้แค่ส่งเขาออกไปทำงานในตอนเช้า และก็รอรับเขากลับเข้าบ้านในตอนเย็นเท่านั้น“อืม ก็นิดหน่อย”นนท์ธิวรรธน์เอ่ยตอบไปตามความจริงพร้อมกับหอมแก้มเมียไปอีกฟอดใหญ่เพื่อเติมเมียเข้าปอดให้ได้ชื่นใจ หลังจากที่เขาต้องนั่งทำงานอย่างเคร่งเครียดมาทั้งวัน“ปวดหัวไหมคะ ให้หนูนวดให้ไหม”พราวลลิลขันอาสาเป็นหมอนวดให้เขาอีกครั้งเมื่ออาการแพ้ท้องของเธอนั้นเริ่มดีขึ้นมากแล้ว และก็อยากจะช่วยเขาแบ่งเบาความเครียดหลังเลิกงานด้วย“ก็ดีเหมือนกันนะ”ท่านประธานรีบประคองเมียให้เดินไปที่โซฟาในทันที ให้เธอนั่งลงอย่างนุ่มนวลภายใต้การคอยมองของเขา ก่อนที่เขาจะลงนอนหนุนตักเธอรีบหลับตาพริ้มในทันทีเพื่อรอมือเล็กๆของเธอนั้นมากดนวดให้ตามจุดต่างๆที่มักรู้สึกปวด
“เป็นอะไรไป ทำไมวันนี้ตื่นสายจัง”หลังจากที่เมื่อวานครอบครัวของเขาและก็ของเธอนั้นได้รวมตัวกันกินข้าวมื้อใหญ่เพื่อประกาศข่าวดีกันที่บ้านของคุณยายเธอ เขากับเธอก็กลับมานอนกันที่บ้านตามปกติด้วยตอนเช้านั้นเขามีประชุมต้องเดินทางออกจากบ้านแต่เช้า ก็เลยไม่ได้อยู่ค้างกันที่นู่นแต่พอในเช้าวันใหม่นี้ก็มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น เมื่อคนตัวเล็กที่มักตื่นนอนพร้อมกับเขาหรือบางทีก็ตื่นก่อนเขา วันนี้กลับไม่เหมือนวันอื่นๆเขานั้นอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจะเพิ่งตื่นขึ้นมา แถมสีหน้ายังไม่สดชื่นอีกตั้งหาก“สงสัยเมื่อวานหนูจะกินขาหมูมากเกินไป เช้านี้ก็เลยไขมันขึ้น”พราวลลิลมีอาการพะอืดพะอมตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาเลยก็ว่าได้ และก็เวียนหัวจนแทบไม่อยากลุกจากที่นอนเลยล่ะเป็นอาการไม่สบายที่ทำให้นึกถึงคุณยายเป็นอย่างมากในเวลาที่ไขมันท่านขึ้นสูงจนต้องพาไปพบหมออยู่บ่อยๆ“อาการมันเป็นยังไง ทำไมถึงรู้ว่าตัวเองไม่สบายแบบนั้นล่ะ”มือหนาๆวางลงบนศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยนก่อนจะลูบเบาๆด้วยความเป็นห่วง “ก็หนูเวียนหัวเหมือนคุณยายเวลาที่ไขมันท่านขึ้นสูง”“พี่ว่าไม่น่าจะใช่นะ”อาการของเธอไม่น่าจะใช้ไขมันขึ้นสูงแบบที่เธอกำลังค
“เป็นอะไรไป”เสียงหนาเอ่ยถามอย่างอบอุ่นเช่นเคยในเช้าวันหยุดที่เขากับเธอยังคงนอนเล่นกันอยู่บนเตียงไม่ได้รีบร้อนลุกไปทำงานเหมือนทุกวันเมื่อเขาเห็นว่าเธอดูจะหงอยเหงาผิดปกติไปจากเช้าวันอื่นๆที่ถึงแม้รีบเร่งไปทำงานก็ยังดูสดชื่นกว่าวันนี้เป็นเท่าตัวอาการเหล่านี้มันออกหลังจากที่เธอนั้นหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูแจ้งเตือนบางอย่างที่ส่งเสียงร้องอยู่สักพัก ก่อนจะวางมือถือนั่งลงแล้วก็ถอดถอนหายใจยาวออกมาเขาไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไรแต่มันคงไม่ดีสักเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นพราวลลิลที่เปรียบเสมอความสดใสนั้นคงไม่ดูหม่นหมองถึงเพียงนี้“เปล่า”มือเล็กๆยกขึ้นปาดน้ำตาที่หางตาเบาๆไม่ให้คนที่นอนอยู่ข้างๆรับรู้เรื่องราวของเธอไปด้วย ก่อนหน้านี้เธอเคยตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ แต่พอมาถึงวันนี้ในระยะเพียงสั้นๆเท่านั้นเธอกลับเสียใจตั้งแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจให้เด็ดเดี่ยวเลยด้วยซ้ำไป“ไม่เป็นอะไรแล้วร้องไห้ทำไมคะ”ท่าทางของเธอไม่ได้โจ่งแจ้งสักเท่าไหร่แต่ทว่าเขานั้นอยู่ใกล้เธอมากจนไม่อาจมองข้ามไปได้ถึงแม้ว่าเธอจะนอนหันหลังให้เขาอยู่ก็ตาม เขาก็ยังรับรู้ได้อยู่ดี“ฮืออออ”พราวลลิลก็ปล่อยเสียงร้องไห้