LOGIN“อะไรนะ แม่เลี้ยงแกกล้าทำขนาดนี้เลยเหรอ”
กิ่งกาญจน์ เพื่อนรักเพียงหนึ่งเดียวของ
มาริสาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อได้รู้ว่าเพื่อนสนิทต้องเจอกับอะไรมาบ้างตั้งแต่เกิดเรื่องเสี่ยธวัชชัยเมื่อเดือนที่แล้ว
กิ่งกาญจน์ก็ชวนมาริสามาอยู่ด้วยกันที่หอพักใกล้มหาวิทยาลัย หากมีความจำเป็นต้องกลับบ้าน กิ่งกาญจน์ก็จะไปเป็นเพื่อนด้วยทุกครั้ง ทางด้านมาริสาเองก็เกรงใจเพื่อนสนิทอยู่ไม่น้อย เพราะตั้งแต่เธอมาอยู่ด้วย ทำให้แฟนของกิ่งกาญจน์ไปมาหาสู่ได้ไม่สะดวกนัก แต่ด้วยมิตรภาพที่มีมายาวนาน กิ่งกาญจน์จึงให้ความสำคัญต่อมาริสาเป็นอันดับแรก ซึ่งแฟนหนุ่มของกิ่งกาญจน์เองก็เข้าใจดี“แล้วแกจะเอายังไงต่อ”
“ยังไม่รู้เลย เมื่อกี้น้านงค์ก็โทรมาด่าเป็นชุด เมย์ไม่ไหวจะฟัง บล็อกเบอร์ไปแล้ว”
“เอางี้ไหม ฉันพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง เดี๋ยวที่เหลือฉันขอยืมพ่อ แกเอาไปใช้หนี้ให้มันจบ ๆ ดีกว่า จะได้หมดเวรหมดกรรมซะที”
“ไม่นะกิ่ง แค่นี้เมย์ก็เกรงใจจะแย่แล้ว”
“เมย์ เราเป็นเพื่อนกันนะ ถ้าเพื่อนไม่ช่วยเพื่อน แล้วจะมีเพื่อนไว้ทำไม” มาริสาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เธอมองกิ่งกาญจน์ด้วยความซาบซึ้งใจ โชคดีแค่ไหนที่ได้มีเพื่อนที่ดีเช่นนี้
“เมย์ขอหาทางเองก่อนนะกิ่ง ถ้ามันหมดหนทางจริง ๆ ค่อยว่ากันนะ”
“อืม ตามใจ” กิ่งกาญจน์พยักหน้ารับอย่าง
จำใจ หล่อนรู้ดีว่ามาริสายอมทำงานสายตัวแทบขาดเสียดีกว่าที่จะต้องรบกวนเธอและครอบครัว เวลานี้กิ่งกาญจน์จึงทำได้เพียงรับฟังปัญหา และคอยให้กำลังใจเพื่อนรักอย่างเต็มที่“ขอบใจมากนะกิ่งเพื่อนรัก แค่นี้เมย์ก็ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว เอาไว้เงินเดือนออกเมย์จะช่วยจ่ายค่าห้องนะ” มาริสาเดินมานั่งลงบนเตียง พลางดึงแขนกิ่งกาญจน์มากอดและเอนศีรษะลงบนไหล่เพื่อนรัก
“ไม่ต้องจ่ายหรอก แค่นี้ขนหน้าแข้งฉันไม่ร่วงหรอก”
“จ้า ๆ งั้นเดี๋ยวเมย์เลี้ยงข้าวนะ”
“อยากกินหมูกระทะ”
“โอเค ล้างท้องรอได้เลย”
มาริสากล่าวจบก็ลุกจากเตียงลงมานั่งที่โต๊ะญี่ปุ่นซึ่งตั้งอยู่กลางห้อง โต๊ะตัวนี้เป็นทั้งโต๊ะกินข้าวและโต๊ะทำงานของเธอ และกิ่งกาญจน์
มาริสาหยิบแล็ปท็อปออกมาจากกระเป๋าสะพาย ก่อนเปิดขึ้นเพื่อเตรียมทำงาน
“ทำไรแก พรุ่งนี้มีสอนพิเศษแต่เช้าทำไมไม่รีบนอน” กิ่งกาญจน์ซึ่งนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงหันมาถามเธอ
“ตรวจงานแปลแปบนึง ต้องส่งพรุ่งนี้ จะได้มีเงินมากินหมูกระทะ”
“แกไหวแน่นะ เมื่อคืนก็โต้รุ่ง”
“ไหว เมย์เตรียมตัวช่วยมาด้วย” มาริสาว่าพร้อมหยิบขวดเครื่องดื่มชูกำลังและกาแฟกระป๋องขึ้นมาจากกระเป๋าคู่ใจที่อยู่ข้างกาย กิ่งกาญจน์ถึงกับหลุดขำออกมาพรืดใหญ่ บอกไปก็คงไม่มีใครเชื่อว่าดาวคณะคนสวยจะพกเครื่องดื่มขวดแก้วสีชานี้ไว้ตลอดเวลา เรียกได้ว่าเป็นไอเทมประจำกายเลยก็ว่าได้
“ไหวแน่นะแก”
“ไหว ๆ แต่เซ็งตรงที่มันขึ้นราคามาตั้งสองบาทน่ะ เดี๋ยวนี้ข้าวของราคาขึ้นทุกอย่างเลย แต่ค่าแรงนี่สิ ไม่ยอมขึ้นเลย เฮ้อ” มาริสากล่าวจบก็ถอนหายใจออกมายาวเหยียด ก่อนเปิดขวดเครื่องดื่มชูกำลังขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด
เมื่อกิ่งกาญจน์เห็นว่าเพื่อนรักเริ่มลงมือทำงาน หล่อนจึงหันไปสนใจหน้าจอสี่เหลี่ยมในมือเพื่อจัดการภารกิจในเกมหม้อไฟหม่าล่าต่อไป ส่วนเพื่อนสาวคนสวยที่ตั้งใจว่าจะตรวจงานเล็กน้อยก่อนนอน ก็เกิดทำงานติดพัน กว่าจะได้เข้านอนก็เกือบสว่างอีกเช่นเคย
ณ คฤหาสน์อัครเดชกรกุล
หลังจากคีรินทร์มอบหมายให้ ณัฐดนัยสืบประวัติมาริสาและครอบครัวแล้ว เลขาหนุ่มรับงานไปก็ยังไม่วายโทรมาสอบถามซักไซ้ถึงเหตุผล
ทำให้คีรินทร์ต้องเล่าเรื่องมาริสาให้ฟังในช่วงสายของวันอาทิตย์ คีรินทร์ก็ได้รับข้อมูลของมาริสาผ่านทางอีเมล นักสืบที่ณัฐดนัยจ้างมานั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับตัวท็อปของวงการ
ทำให้คีรินทร์ได้รับข้อมูลที่ต้องการอย่างรวดเร็วและถูกต้องแม่นยำ อีกทั้งยังเป็นเพราะงบประมาณที่ คีรินทร์จ่ายไม่อั้น ทำให้สามารถล้วงข้อมูลวงในมาได้ละเอียดยิบข้อมูลจำนวนมากหลั่งไหลขึ้นมาบนหน้าจอสี่เหลี่ยมของแมคบุ๊กบนโต๊ะที่ตั้งอยู่ตรงหน้าคีรินทร์ ยิ่งอ่านชายหนุ่มยิ่งมีสีหน้าเคร่งเครียด
“ทำงานพิเศษขนาดนี้เอาเวลาที่ไหนพักผ่อน” คีรินทร์พึมพำกับตัวเองด้วยความสงสัย
และจู่ ๆ ดวงตาคู่คมก็แปรเปลี่ยนเป็น
แข็งกร้าวขึ้นทันที เมื่อเขาพบว่าหนี้สินที่มาริสาต้องตรากตรำทำงานอย่างยากลำบากนั้น เป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาบิดาของเธอเพียงหนึ่งในสามส่วนเท่านั้น เงินที่เหลือถูกอนงค์นาถนำไปผลาญในบ่อนของเสี่ยธวัชชัยจนหมดสิ้นครืด~ครืด~
โทรศัพท์เครื่องหรูบนโต๊ะทำงานสั่นระรัว
ชายหนุ่มละสายตาจากแมคบุ๊กหันไปมองที่หน้าจอสี่เหลี่ยมเล็ก เมื่อเห็นว่าปลายสายคือเลขาคนสนิทจึงรีบกดรับทันที“เร็วดีนี่แก”
[ต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มอีกไหมครับ]
“ไม่ แค่นี้ก็พอแล้ว”
[สนใจน้องเหรอครับ]
“อย่ามาทำเป็นรู้ดี”
[ก็เพราะรู้ดีไงครับ ก็เลยอยากช่วย]
ริมฝีปากหยักยกยิ้มให้กับความรู้ใจของ
ณัฐดนัย เลขาคนสนิทที่เป็นทั้งรุ่นน้อง และเพื่อนเที่ยวกลุ่มก๊วนเดียวกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย จึงไม่แปลกที่ผู้ช่วยหนุ่มจะมองออกได้อย่างทะลุ ปรุโปร่งว่าคีรินทร์สนใจมาริสา“มีอะไรก็พูดมา ไม่ต้องมาโยนหินถามทาง”
[ก็แค่จะบอกว่าน้องคนนี้การ์ดสูงมากพี่ พนักงานหล่อ ๆ ที่เข้ามาจีบแห้วกันหมด ใครมาแสดงท่าทีจีบ น้องจะรีบตีตัวออกห่างทันทีเลยพี่]
“หรือว่ามีแฟนแล้ว”
[โอ๊ย ยังไม่มีครับ ดูจากประวัติคร่าว ๆ ที่สืบมาจะไม่มีก็ไม่แปลกหรอกพี่ ทำงานสายตัวแทบขาดขนาดนั้น จะเอาเวลาที่ไหนไปมีแฟน]
“อืม งั้นก็ดี”
[ถ้าพี่จริงจังผมก็ดีใจ น้องน่าสงสารนะพี่ อย่าเห็นเป็นดอกไม้ริมทางล่ะ]
“นี่แกเห็นฉันเป็นคนยังไง”
[ฮ่า ฮ่า เป็นคนดีสิครับเจ้านายผมเนี่ย ทั้งหล่อ และนิสัยรวย]
“ไอ้ณัฐ”
[ไม่กวนแล้วครับ อย่าลืมนะครับ น้องการ์ดสูงมาก]
“เออ”
คีรินทร์กดตัดสายโดยไม่ปล่อยให้ณัฐดนัยได้พูดต่อ ชายหนุ่มวางโทรศัพท์ลงพลางคิดถึงคำพูดของณัฐดนัย
“การ์ดสูงเหรอ”
เขาเคาะนิ้วชี้ลงบนโต๊ะขณะใช้ความคิด พลางมองไปบนหน้าจอแมคบุ๊กอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเห็นข้อมูลของมาริสา นัยน์ตาคู่คมก็เกิดเป็นประกายขึ้นมา
มาริสา บัณฑิตสาวป้ายแดงที่เพิ่งผ่านพ้นงานรับปริญญาไปหมาด ๆ ก็ต้องมาหัวหมุนกับการเตรียมงานแต่งที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนหน้าเดิมทีคุณหญิงผกายมาศหาฤกษ์ยามไว้ให้ได้ปลายปีหน้า ทว่าหลานชายตัวดีเกิดเสกเด็กเข้าท้องว่าที่หลานสะใภ้เสียก่อน จึงต้องรีบเร่งจัดงานวิวาห์กันอย่างเร่งด่วน ทำเอาคุณหญิงผกายมาศโกรธจัดจนไล่หลานชายสุดที่รักไปอยู่เพนท์เฮ้าส์เสียหลายวันเป็นการลงโทษ สุดท้ายท่านก็ทนสงสารหลานสะใภ้ไม่ไหว ยอมให้คีรินทร์กลับมาอยู่บ้าน เพราะมาริสาแพ้ท้องหนักมาก ข้าวปลาแทบทานไม่ได้ อารมณ์อ่อนไหว พร่ำบ่นคิดถึงพ่อของลูกในท้องเกือบทุกวันเมื่อได้ไฟเขียวจากผู้เป็นย่า คีรินทร์ก็ทิ้งงานที่บริษัทรีบตรงมาคฤหาสน์อัครเดชกรกุลทันทีที่ชายหนุ่มเข้าไปถึงห้องนอนของคนรัก เห็นร่างบอบบางนอนหลับสนิท ใบหน้าซีดเซียวแทบไร้สีเลือด ทั้งยังซูบผอมลงอย่างชัดเจน ทำให้เขาสงสารเธอจับใจ ข้อนิ้วเรียวลูบไล้แก้มนวลแผ่วเบา ก่อนที่เธอจะลืมตาขึ้น“อืม อ้าวพี่คิง มาได้ไงคะ”“คุณย่าโทรตามพี่ก็รีบมาเลย เมย์เป็นยังไงบ้าง กินอะไรไม่ได้เลยเหรอ”“มันเหม็นไปหมดค่ะ กินไม่ลงเลย เอ๊ะ กลิ่นอะไรคะ”ร่างเล็กพยายามลุกขึ้นนั่งโดยมีคีรินทร์ช่วยประคอง จ
หลังอาหารมื้อค่ำในคืนนั้น คุณหญิงผกายมาศเรียกมาริสาเข้าไปพบในห้องนอน พร้อมขอยึดโทรศัพท์มือถือของเธอเอาไว้ ก่อนให้เครื่องใหม่แก่เธอสำหรับใช้ชั่วคราว เพื่อไม่ให้คีรินทร์สามารถติดต่อมาริสาได้ หญิงสาวก็ยอมทำตามแต่โดยดีเมื่อดูแลปรนนิบัติคุณหญิงผกายมาศเรียบร้อยแล้ว มาริสาก็กลับมายังห้องนอนของตนเอง ทันทีที่หัวถึงหมอน เธอก็เข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วด้วยความเหนื่อยล้าเมื่อถึงเช้าวันใหม่ มาริสารีบตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ เพื่อจะได้ไปปรนนิบัติคุณหญิงผกายมาศ หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เธอก็เข้าไปหาท่านที่ห้องนอน ทว่ากลับพบเพียงความว่างเปล่า จึงเดินลงมาชั้นล่างเพื่อถามเด็กรับใช้คนสนิทของท่าน ยังไม่ทันที่เธอจะเหยียบย่างลงไปถึงบันไดขั้นสุดท้าย ก็ได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกดังครื้นเครงมาจากห้องนั่งเล่นเมื่อหญิงสาวเดินเข้าไปถึง ก็เห็นคุณหญิงหญิงผกายมาศกำลังนำคุกกี้ที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ ๆ จัดใส่โหลแก้วทรงสูง โดยมีเด็กรับใช้คนสนิทคอยเป็นลูกมือช่วยหยิบจับอยู่ไม่ห่าง“อ้าว หนูเมย์ มอร์นิ่งค่ะลูก ไปทานข้าวเช้ากันลูก” คุณหญิงผกายมาศลุกขึ้นเดินมาหามาริสาด้วยความกระฉับกระเฉง ไม่เหมือนคนที่เป็นลมจนล้มห
หลังจากคีรินทร์แสดงความรักให้เธอด้วยการปรนเปรอกามารมณ์ถึงสองวันติดกัน ทำให้มาริสานอนหลับสลบไสลไม่ได้สติยาวไปจนถึงเที่ยงของอีกวัน ทว่าโชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุด เธอจึงไม่ต้องฝืนสังขารตื่นไปเรียนแต่เช้าตรู่ร่างบางนอนคุดคู้อยู่ภายใต้ผ้านวมหนานุ่ม รู้สึกตัวขึ้นจากเสียงประตูห้องนอนที่เปิดออก พร้อมกลิ่นอาหารหอมกรุ่น คนขี้เซาถึงกับลืมตาแป๋วพร้อมบิดขี้เกียจลุกขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง“หอมจังเลยค่ะ”ท่านประธานหนุ่มเข้ามาในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงผ้าขายาว ทรงผมยุ่งเหยิงที่ดูเปียกหมาด ๆ ทำให้เขาดูเด็กลงไปหลายปี ในมือของคีรินทร์มีถาดอาหารส่งกลิ่นหอมไปทั่วทั้งห้อง มาริสามองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจฟูฟ่อง เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาคือคนรักของเธอ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นราวกับความฝัน“มองแบบนี้อยากกินอาหาร หรือกินพี่ครับ” คีรินทร์เอ่ยแซวขณะที่วางถาดอาหารลงบนที่นอน ก่อนเข้าไปนั่งเบียดคนตัวเล็ก“ก็ต้องกินอาหารสิคะ กินพี่คิงนอกจากไม่อิ่มแล้วยังเหนื่อยสายตัวแทบขาด รู้ไหมคะตั้งแต่เกิดมาเมย์ไม่เคยตื่นสายขนาดนี้เลย”“สำหรับพี่ไม่ต้องกินข้าวก็ได้ ขอกินเมย์ดีกว่า กินเท่าไหร่ก็ไม่พอ” เขาก้มลงซุกซอกคอเรียว อ้าปากง
“เมย์ ฟังพี่นะครับ” ชายหนุ่มคลายอ้อมแขนออก และจับไหล่บางสองข้าง นัยน์ตาคู่คมฉายแววจริงจังจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่หวานอันแดงก่ำ “เมย์กำลังเข้าใจผิด ฟังพี่ก่อนได้ไหมครับคนดี หืม” มาริสาร้องไห้จนหมดแรง เธอไม่เหลือแม้เรี่ยวแรงจะกล่าวตอบ จึงทำได้เพียงพยักหน้ารับ “สิ่งที่เมย์เห็น มันไม่ใช่แบบที่เมย์กำลังคิดนะ พี่ไปร้านเพชรของรุ่นน้องที่สนิทกัน เพื่อรับของที่พี่สั่งทำ” คีรินทร์ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินขนาดกะทัดรัดขึ้นมา มันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำจนเขาต้องสลัดไปมาก่อนเปิดออก “...” มาริสานิ่งไป เธอมองกล่องสี่เหลี่ยมในมือของชายหนุ่มที่เปิดอ้าออก เผยให้เห็นแหวนเพชรเม็ดงาม หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมคร้ามอย่างตั้งคำถาม เพราะสิ่งที่ชายหนุ่มกล่าวมันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด “พี่ตั้งใจจะใช้แหวนวงนี้ขอคนที่พี่รักเป็นแฟน” มาริสาเบือนหน้าไปอีกทาง เพราะไม่อาจทนมองแหวนวงสวยที่คีรินทร์หมายมั่นจะมอบให้แก่คนที่เขารัก “เมย์ครับ พี่ตั้งใจจะให้แหวนวงนี้กับเมย์” ดวงหน้าสวยหันกลับมาทันทีพร้อมนัยน์ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ เธอแทบจะไม่
พอใกล้เที่ยง มาริสาก็ออกจากเพนท์เฮ้าส์หรูมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยโดยใช้บริการรถไฟฟ้า ระหว่างทางเธอได้รับข้อความจากกิ่งกาญจน์ว่าอาจารย์ประสบอุบัติเหตุ ทำให้ต้องยกเลิกคลาสกะทันหัน สองสาวจึงนัดไปเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่กี่นาที ซึ่งอยู่ใกล้กับบริษัทของคีรินทร์มาริสานั่งรอกิ่งกาญจน์ที่ศูนย์อาหาร สั่งเครื่องดื่มมานั่งดื่มรอฆ่าเวลา พลางเช็กข้อความในโทรศัพท์มือถือ หวังว่าจะมีข้อความจากคนที่คิดถึงทุกลมหายใจส่งเข้ามา ทว่าก็ว่างเปล่า เธอส่งข้อความไปหาคีรินทร์ตั้งแต่ก่อนออกจากเพนท์เฮ้าส์ กระทั่งตอนนี้ชายหนุ่มก็ยังไม่เปิดอ่าน มาริสานึกงอนว่าป่านนี้เขาคงก้มหน้าก้มตาทำงานจนลืมเวลา ไม่ยอมกินข้าวกินปลาให้ตรงเวลาอีกเช่นเคย“โอ๊ยแกข้างนอกร้อนมาก นึกว่าอยู่ในกระทะทองแดง” กิ่งกาญจน์ทรุดลงนั่งตรงข้ามมาริสา พร้อมคว้าแก้วกาแฟของเธอขึ้นไปดูดอย่างกระหาย “ยิ้มหน้าบานอะไร”“เปล๊า!!!”“ไม่เนียน เล่ามาเลย”“คือ เมย์คิดว่า...วันที่ครบสัญญากับคุณคิง...” เสียงหวานเงียบไป ทำให้เพื่อนสาวต้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้ รอฟังอย่างตั้งใจ “เมย์จะ...สารภาพรัก”“มันต้องอย่างนี้ ฉันเห็นด้วยนะ ท่าทางคุณคิงเขาก็ดูมีใจ”
“ขึ้นห้องกัน จะได้ต่อ”เมื่อความข้องใจของมาริสาถูกไขให้กระจ่าง ร่างบางก็ลอยหวือขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่ง โดยชุดคลุมสีขาวตัวยาวของเธอถูกทิ้งไว้บนโซฟาหนังกลางห้องนั่งเล่นคีรินทร์อุ้มมาริสาขึ้นมาบนห้องนอนชั้นสอง เขาวางเธอลงบนเตียงนอนขนาดคิงไซต์ที่ตั้งอยู่กลางห้อง ก่อนเดินไปยังโต๊ะข้างหัวเตียง เปิดลิ้นชักหยิบบางสิ่งออกมาโยนไว้บนที่นอน มาริสาหันไปมองตาม เธอก็เห็นกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กกะทัดรัดที่เธอคุ้นตาเป็นอย่างดี เพราะมันเป็นสินค้าขายดีอันดับต้น ๆ ในร้านสะดวกซื้อใกล้มหาวิทยาลัยที่เธอไปทำงานพาร์ตไทม์มาริสาหันกลับมามองคีรินทร์ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ชายหนุ่มเดินกลับมายังปลายเตียง สลัดชุดคลุมตัวยาวทิ้งลงบนพื้น ก่อนคืบคลานขึ้นมาบนเตียงด้วยกายเปลือยเปล่า“อย่ามองพี่แบบนั้น พี่บอกแล้วว่าไม่เคยพาใครมาที่นี่จริง ๆ คอนดอมนั่นไอ้เลขาตัวดีมันรู้มากเตรียมไว้ให้ และพี่ก็ไม่เคยใช้มันเลย”“เมย์ยังไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ เมย์ก็แค่มอง...”คำพูดของเธอถูกกลืนหายไป เมื่อเขาบดเบียดริมฝีปากร้อนลงมา ฝ่ามือหนาลูบไล้เรียวแขนเนียนนุ่ม เขาจับมือเล็กขึ้นมาสัมผัสความเป็นชายที่ผงาดตื่นตัวเต็มที่ คีริ







