Share

ตอนที่ 7 : เปิดใจ

Penulis: NATO87
last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-30 23:36:36

ปวีณาใช้ความสามารถในการหาข่าวบนโลกโซเชียล เพื่อค้นหาข้อมูลของโรงพยาบาลที่เจนรบถูกส่งเข้าไปรักษาตัว จนในที่สุดเธอก็ทราบชื่อและที่ตั้ง และเดินทางไปเยี่ยมเจนรบอย่างเร่งด่วน

“ตอนนี้ยังเยี่ยมไม่ได้นะคะน้อง คนไข้ต้องการพักผ่อนหลังจากผ่าตัด และทางเราต้องจำกัดผู้เข้าเยี่ยมเพื่อความปลอดภัยค่ะ” พยาบาลที่เฝ้าหน้าเคาน์เตอร์บอกกับปวีณาในชุดนักศึกษาด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่หนักแน่น สาวน้อยรู้สึกผิดหวังและเป็นห่วงจับใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินทางกลับหอพัก

หลายวันผ่านไป ปวีณากระวนกระวายใจ ติดตามข่าวอาการของเจนรบห่างๆ และตัดสินใจโทรศัพท์ไปยังสำนักงานทนายความของเจนรบเพื่อสอบถามด้วยความเป็นห่วง เลขาของคุณเจนรบจำปวีณาได้ เธอรับรู้ถึงความเป็นห่วงอย่างแท้จริง จึงรับปากว่าจะแจ้งข่าวให้ทราบหากคุณเจนรบอาการดีขึ้นและสามารถมีคนใกล้ชิดเข้าเยี่ยมได้ ไม่กี่วันต่อมา เลขาคนเดิมก็โทรกลับมาแจ้งปวีณาว่าตอนนี้คุณเจนรบพ้นขีดอันตรายแล้ว และอนุญาตให้คนใกล้ชิดเข้าเยี่ยมได้ตามเวลาที่กำหนด ปวีณาดีใจจนน้ำตาคลอ รีบซื้อของฝากแล้วเดินทางไปโรงพยาบาลทันทีในช่วงบ่ายของวันนั้น

ปวีณาใส่ชุดเดรสยาวสีฟ้า มีเสื้อแขนยาวคลุมทับ เดินทางไปโรงพยาบาลพร้อมกับของฝาก

“ลุงจอม…” ปวีณาเปิดประตูเข้าไป ก็พบว่าเจนรบกำลังนอนดูโทรทัศน์อยู่

“หนูปลา…” เจนรบแทบไม่เชื่อสายตา ว่าปวีณาจะมาเยี่ยมเขาถึงโรงพยาบาล

“เป็นไงบ้างคะลุง” สาวน้อยเอาของฝากไปวางไว้บนโต๊ะ ก่อนหันกลับมานั่งเก้าอี้นั่งประกบเตียงที่สุภาพบุรุษทนายความกำลังนอนพักฟื้นอยู่

“ก็ยังเจ็บอยู่ โชคดีที่กระสุนแค่เฉียดไหล่ซ้ายลุงไป ก็เลยไม่เป็นอะไรมาก” เจนรบตอบ “ลุงไม่คิดเลยว่าหนูปลาจะมาเยี่ยมลุงถึงที่นี่”

“ทำไมละคะ” ปวีณากุมมือของเจนรบ “ก็หนูเป็นห่วงลุง หนูจะมาหาลุงไม่ได้เหรอ?”

แววตาเป็นห่วงอย่างจริงใจและมือน้อยของปวีณาที่กุมมือเขาไว้ ทำให้หัวใจเจนรบสั่นสะท้าน น้ำตาเริ่มปริ่มขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เกือบไปแล้ว... เกือบจะไม่ได้เห็นหน้าเธออีกแล้ว... ความคิดนั้นดังชัดเจนในหัว เหตุการณ์เฉียดตายที่ผ่านมาทำให้เขารู้ซึ้งถึงคุณค่าของเวลาและคนข้างกาย เหตุผลเรื่องอายุ อนาคต หรือคำพูดของไอ้ภาคที่เคยทำให้เขาลังเล... ตอนนี้มันดูเลือนรางเหลือเกินเมื่อเทียบกับความกลัวที่จะสูญเสียปลาไปตลอดกาล

“หนูปลา…” หนุ่มใหญ่ยิ้มทั้งน้ำตา เพราะไม่คิดว่าน้องปลาจะเป็นห่วงตนเองถึงขนาดนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเจนรบพยายามผลักไสเด็กสาวให้ออกไปจากชีวิตของตัวเอง แต่สุดท้าย หนุ่มใหญ่ก็พบว่าหัวใจของเขาขาดเด็กสาวคนนี้ไม่ได้เสียแล้ว

“ปลาซื้อของกิน มาฝากลุงเยอะแยะเลยนะคะ” ปวีณายิ้มหวาน หันกลับไปหยิบของกินอร่อยให้เจนรบได้กิน

“เอาไว้ก่อนก็ได้จ๊ะ” เจนรบยิ้มหวาน “แค่ลุงได้เจอหนูปลา ลุงก็ดีใจแล้ว”

เจนรบและปวีณาต่างยิ้มให้กัน ทั้งคู่กุมมือแน่น ต่างฝ่ายต่างคุยเปิดใจถึงเรื่องราวที่ผ่านมา

“ถ้าหนูจบปริญญาตรีเมื่อไร หนูคงต้องไปเรียนต่อที่อเมริกา” ปวีณาเอ่ยปากขึ้นมา

“ก็ดีแล้ว” เจนรบตอบ “มันดีกับตัวหนูเองนะ”

“หนูเริ่มไม่แน่ใจว่าหนูอยากจะไปอเมริกาจริงหรือเปล่า?”

“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะจ๊ะ?” เจนรบถาม

“ก็หนูยังลืมลุงไม่ได้” ปวีณาสารภาพ “หนูเป็นห่วงลุง”

“โถ…หนูปลา” หนุ่มใหญ่กุมมือเด็กสาว “เด็กโง่เอ้ย…หนูยังมีอนาคตอีกไกลนะ อย่ามาเสียเวลากับลุงเลย”

“หนูคิดว่ามันจะเสียเวลามากกว่า ถ้าหนูยังฝืนหัวใจตัวเองอยู่แบบนี้” ปวีณาสารภาพ “หนูอยากดูแลลุงนะคะ ลุงจอม”

เจนรบได้แต่ยิ้มทั้งน้ำตา เขาไม่คิดว่าสาวน้อยอย่างปวีณาจะมาหลงรักคนแก่อย่างเขาได้ถึงขนาดนี้ ในวันนั้น ปวีณาเฝ้าไข้เจนรบเกือบทั้งวัน เพราะเจนรบเองก็ไม่ได้มีญาติสนิทมากมายอะไร ชีวิตของเขามีแต่การงานเท่านั้น เรียกได้ว่านั่นแหละคือทุกสิ่งทุกอย่างของเจนรบ จนกระทั่งปวีณาเข้ามาในชีวิต เจนรบถึงรับรู้ว่าโลกของเขายังสดใส

“ถามอะไรหน่อยนะคะลุงจอม” ปวีณาเริ่มเปิดคำถามที่ยังค้างคาในใจ “ทำไมตอนนั้น ลุงถึงไล่ปลาออกไปจากชีวิตของลุง เป็นเพราะพ่อกับแม่ของปลาใช่ไหม?”

“ไม่ใช่หรอก ไอ้ภาคไม่ได้พูดอะไรแบบนั้น” เจนรบตอบ “ลุงแค่ไม่อยากให้หนูมาเสียเวลากับคนแก่ใกล้ตายแบบลุง”

“โกหกไม่เนียนเลยนะคะลุงจอม” ปวีณายิ้ม “หนูรู้นะว่าพ่อของหนูต้องพูดอะไรมากกว่านั้นชัวร์ ลุงจอม หนูโตแล้วนะ หนูคิดว่าหนูมีสิทธิ์ใช้ชีวิตในแบบของหนูเอง แล้วหนูก็คิดว่า หนูอยากดูแลลุงค่ะ”

“ถ้าหนูไม่ใช่ลูกสาวของไอ้ภาคและเปิ้ล บางทีเราคงรักกันได้” เจนรบสารภาพ “หนูปลาน่ะ ดีพร้อมทุกอย่างเลยนะ ดีเกินกว่ามาใช้ชีวิตกับคนแก่อย่างลุงซะอีก”

เขาพูดเหตุผลเดิมๆ ออกไปตามความเคยชิน แต่ในใจกลับรู้ดีว่ามันไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงอีกต่อไปแล้ว เขาแค่... กลัว กลัวว่าตัวเองจะดีไม่พอสำหรับเธอ กลัวว่าตัวเองจะอยู่ดูแลเธอได้ไม่นานพอ... แต่การไม่มีเธออยู่ข้างๆ มันทรมานยิ่งกว่า

ปวีณามองลึกเข้าไปในดวงตาของเจนรบ พยายามค้นหาความจริงใจหลังคำพูดที่เหมือนจะผลักไส *ทำไมลุงจอมยังพูดเรื่องนี้อีกนะ... หรือยังไม่เชื่อใจปลาจริงๆ* เธอสูดหายใจลึก รวบรวมความกล้าและความรู้สึกทั้งหมดออกมา

“สำหรับหนู ลุงจอมไม่เคยแก่เลยค่ะ และต่อให้วันข้างหน้าลุงจะแก่แค่ไหน ปลาจะเป็นคนดูแลลุงเอง หนูไม่ได้มองว่ามันเป็นการเสียเวลา แต่หนูอยากใช้ 'เวลา' ทั้งหมดที่มี...อยู่กับลุงค่ะ”

“แต่หนูเป็นลูกสาวเพื่อนของลุงนะซิหนูปลา” เจนรบตอบ “ถ้าใครรู้ว่าเราสองคนรักกัน หนูจะทนฟังคำนินทาว่าร้ายได้เหรอ? พ่อแม่ของหนูรู้แล้วจะเอาหน้าไปไว้ไหน”

“หนูไม่สนหรอก” ปวีณาตอบ ก่อนบีบมือของเจนรบแน่น “ถ้าเราสองคนรักกัน ทำไมเราต้องแคร์ความคิดของคนอื่นด้วยคะ?”

“หนูยังมองโลกในแง่ดีเกินไป” หนุ่มใหญ่ยังคงหาเหตุผลมาหักล้าง “ถ้าเราอยู่ด้วยกัน สักวันหนึ่งลุงจะแก่ตัวลงไปมากกว่านี้ ในขณะที่หนูยังสาวและยังสวย หนูคงไม่อยากเอาเวลามาดูแลคนแก่อย่างลุงหรอก”

“แล้วถึงตอนนั้นลุงจะอยู่ได้เหรอคะ?” ปวีณาถาม “ลุงจอมคะ ความรักเป็นเรื่องของความรู้สึกนะคะ บางครั้งลุงจอมน่าจะใช้ความรู้สึกนำหน้าเหตุผลบ้างนะ”

“ก็ลุงเป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร” หนุ่มใหญ่เค้นหัวเราะ “ลุงมันเป็นผู้ชายที่น่าเบื่อตั้งแต่สมัยยังหนุ่มแล้ว ปลาไม่อายสายตาคนอื่น ไม่กลัวถูกนินทาเหรอ? ที่เด็กอย่างปลาจะใช้ชีวิตกับคนแก่แบบลุงน่ะ”

“เรื่องพวกนั้น... ปลาไม่เคยกลัวเลยค่ะ” เธอบีบมือเขาแน่นขึ้น “สิ่งเดียวที่ปลาต้องการคือการได้อยู่กับคนที่ปลารัก... ซึ่งก็คือลุงจอม... ถ้าเราสองคนมั่นคงต่อกัน คำพูดของคนอื่นจะทำอะไรเราได้คะ?”

“หนูปลา…” หนุ่มใหญ่ตื้นตันใจในความรักที่เด็กสาวมอบให้ ทั้งคู่กุมมือแน่นราวกับเป็นเครื่องยืนยันว่าจากนี้ไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หัวใจทั้งสองดวงจะหล่อรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

เจนรบและปวีณาพูดคุยกันไปได้สักพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เปิดประตูเข้ามา เพื่อขอสอบถามเกี่ยวกับเบาะแสคดีความที่เจนรบรับผิดชอบในคดีล่าสุด ปวีณาเลยขอตัวลากลับหอพักที่อารีย์ไปก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้เจนรบได้พูดคุยเรื่องธุระสำคัญกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำคนร้ายมาดำเนินคดีได้

หลังจากเหตุการณ์วันนั้น เจนรบและปวีณาก็เริ่มปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง เจนรบเองยังไม่ลืมสิ่งที่ภาคภูมิขอร้อง เพียงแต่เขาไม่กล้าหักหาญน้ำใจของปวีณา ที่อุตส่าห์มาช่วยดูแลเขาในวันที่เขาล้มป่วย ภายหลังตำรวจได้ติดตามคดีจนสามารถติดตามไปถึงผู้บงการ อย่างที่ตำรวจคาดไว้ไม่มีผิด ผู้สั่งการคือคนที่เสียผลประโยชน์จากการว่าความของเจนรบในคดีเรื่องบุกรุกที่ดิน

เจนรบในวันที่เริ่มแข็งแรงดี ได้เดินทางไปที่ศาลเพื่อให้การประกอบรูปคดี เพื่อนำตัวคนร้าย ทั้งตัวผู้บงการและตัวผู้ลงมือมาลงโทษตามกฎหมายบ้านเมือง ในข้อหาจ้างวานฆ่าและพยายามฆ่า นักข่าวจากหลายสำนักเดินทางมาทำข่าวหน้าศาลอาญาที่รัชดาอย่างล้นหลาม

“ไม่ทราบว่าตอนนี้อาการบาดเจ็บที่ไหล่ซ้ายของคุณเจนรบเป็นยังไงบ้างครับ?”

“โชคดีที่กระสุนแค่ถากไหล่ผมไป ผมเลยไม่เป็นอะไรมาก ต้องยอมรับว่าผมยังโชคดีที่ยังได้ยืนอยู่ตรงนี้” เจนรบพูดตามความจริง “วันนี้เป็นวันที่ผมจะได้ทวงคืนความยุติธรรมกลับมา คนเลวต้องไม่มีที่ยืนในสังคมครับ”

ภาพข่าวของทนายเจนรบถูกเผยแพร่ไปทั่วสื่อโทรทัศน์และโลกโซเชียล ส่วนใหญ่ต่างลงความเห็นคล้อยตามและให้กำลังใจทนายเจนรบ ที่ได้ชื่อว่าเป็นทนายความขวัญใจคนจน รวมถึงยังมีสกู๊ปข่าวลูกความที่ทนายเจนรบเคยให้การช่วยเหลือมาก่อน

“คุณจอมเป็นคนดี แกเป็นคนชอบช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาส ถ้าคุณจอมไม่ช่วยพวกเรา พวกเขาคงไม่มีที่ซุกหัวนอน ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองคนดีแบบคุณจอมด้วยนะคะ”

ชาวบ้านในสลัมแห่งหนึ่งของกรุงเทพออกมาให้สัมภาษณ์กับนักข่าว ว่าครั้งหนึ่งทนายเจนรบเคยให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกพวกนายทุนเอารัดเอาเปรียบ สิ่งเหล่านี้เลยทำให้เจนรบได้รับการยกย่องไปทั่วประเทศ และภาพข่าวดังกล่าว ภาคภูมิและปิยะวรรณเองก็รับทราบ ใน

ฐานะเพื่อนเก่าและคนรักเก่า คู่สามีภรรยาต่างรู้สึกชื่นชมในตัวเจนรบ และคิดว่าเขาสมควรได้รับผลตอบแทนแห่งความดีที่เขาทำมาตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี

“ดีใจจัง ที่จอมไม่เป็นอะไรมาก” ปิยะวรรณยิ้มด้วยความรู้สึกโล่งใจ ที่ทราบว่าเจนรบอดีตคนรักเก่าปลอดภัย

“เป็นห่วงแฟนเก่าขนาดนั้นเลยเหรอ?” ภาคภูมิหันไปถามภรรยาที่นั่งดูโทรทัศน์ด้วยกัน

“นี่คุณหึงชั้นเหรอ?” อดีตดาวคณะอักษรศาสตร์ถาม “ชั้นอยู่กับคุณมา 30 กว่าปี มีลูกสาวให้คุณสองคน คุณยังสงสัยในตัวชั้นอีกเหรอภาค?”

“บ้า!! ผมแซวคุณเล่นหรอก!!” ภาคภูมิยิ้ม “คุณก็ตีตนไปก่อนไข้ ผมดีใจที่ไอ้จอมไม่เป็นอะไร มันเป็นคนดี มันก็ต้องได้รับสิ่งดีๆ แบบนี้ตอบแทนก็ถูกแล้ว”

ภาคภูมิดูข่าวของเจนรบบนหน้าจอโทรทัศน์สักพัก ก็ลุกขึ้นกลับไปชั้นสองเพื่อเตรียมเข้านอน ปล่อยให้ปิยะวรรณได้ดูรายการบันเทิงยามค่ำไปตามเรื่อง ผ่านไปสักพัก ปวีณาลูกสาวคนเล็กก็โทรมาจากกรุงเทพ

ปิยะวรรณลุกขึ้น เดินเปิดประตูระเบียงบ้านยืนคุยกับลูกสาวในยามค่ำคืน เธอรู้ดีว่าลูกสาวมีอะไรบางอย่างที่อยากคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว

“ฮัลโหล? มีอะไรจ๊ะปลา?” ปิยะวรรณถาม

“สบายดีค่ะแม่” ปวีณาตอบ “แม่คะ แม่ดูข่าวหรือยัง ลุงจอมปลอดภัยแล้วนะ”

“รู้แล้ว” สาวใหญ่ยิ้ม “แม่เห็นลุงจอมในโทรทัศน์ คิดว่าลุงจอมแข็งแรงขึ้นมาก สงสัยเพราะได้พยาบาลที่ดีอย่างลูกสาวของแม่คอยดูแลอยู่แน่ๆ เลย”

“แม่ก็พูดเกินไป!!” ลูกปลาตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “หนูก็แค่เป็นห่วงลุงจอมเขาเท่านั้นเอง”

“แหน๊ะ!! พูดแบบนี้แสดงว่ารักลุงจอมแล้วละซิ!!!” ปิยะวรรณแซวลูกสาว

“ไม่ใช่สักหน่อยค่ะแม่!!!”

“เด็กโง่ คิดว่ากำลังโกหกใครอยู่เหรอ?” ปิยะวรรณตอบ “แม่เข้าใจความรู้สึกของลูกที่มีต่อลุงจอมนะ พูดกันตามความจริงแล้ว แม่ไม่รังเกียจหรอกนะ ที่ลุงจอมกับหนูจะรักกัน ความรักมันเป็นเรื่องที่บังคับใจกันไม่ได้ แต่ลูกเข้าใจนะ ว่าลูกยังเด็ก ลูกยังมีอนาคตอีกไกล”

“หนูรู้ค่ะแม่” ปวีณาตอบตามตรง

ปิยะวรรณถอนหายใจเบาๆ มองออกไปนอกระเบียง อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด... ความรู้สึกของสองคนนี้มันลึกซึ้งเกินกว่าจะห้ามได้แล้วจริงๆ เธอนึกถึงตอนที่คุยกับลูกสาวช่วงปิดเทอมครั้งก่อน ตอนนั้นเธอบอกให้ลูกพักเรื่องนี้ไว้ก่อน แต่ตอนนี้... สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว โดยเฉพาะหลังจากที่เจนรบเพิ่งผ่านความเป็นความตายมา... เอาเถอะ... อย่างน้อยก็ต้องให้ลูกเรียนให้จบก่อนแล้วกันนะ... ถือว่าเป็นการพิสูจน์ความมั่นคงของทั้งคู่ไปในตัว

“แม่อยากให้ลูกแบ่งความสำคัญในชีวิตให้ถูก ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามนะลูก แต่ลูกยังเด็ก ยังมีโอกาสได้เจอคนดีๆ ในอนาคตอีกมาก แม่อยากให้ลูกคิดให้ดี และแม่ก็คิดว่าคนอย่างจอมก็ต้องเคยคุยเรื่องนี้กับลูกบ้างเหมือนกัน”

“ค่ะแม่…ลุงจอมเคยพูดเรื่องนี้กับหนูแล้ว” สาวน้อยตอบ “แต่แม่คะ หนูกับลุงจอมเรารักกันจริงๆ นะคะแม่ มันไม่มีทางเป็นไปได้จริงเลยเหรอ?”

“พูดยากแฮะ” ปิยะวรรณถอนหายใจ “แม่น่ะ ไม่คิดขัดขวางความรักของลูกนะ ในอนาคตมันเป็นสิทธิ์ของลูกที่จะรักใครหรือชอบใคร แต่ปัญหาคือพ่อของลูก แม่ไม่คิดว่าพ่อของลูกจะยอมหรอกนะ”

“ค่ะ…หนูทราบค่ะ” ลูกปลาตอบ

“แม่ว่า ลูกน่ะให้ความสำคัญกับเรื่องเรียนไปก่อนนะ ส่วนเรื่องลุงจอม ก็อย่างที่แม่เคยบอก แม่อยากให้ลูกคิดทบทวนให้ดี” ปิยะวรรณอธิบาย “แม่เคารพในการตัดสินใจของลูกนะปลา แต่แม่แค่อยากให้ลูกให้ความสำคัญกับเรื่องเรียนก่อน แล้วถ้าเรียนจบแล้ว เราค่อยมาว่ากันอีกที”

หลังจากวางสาย ปวีณาทิ้งตัวลงนอน ด้วยความหวังว่าบางทีเรื่องของเธอและลุงจอมอาจเป็นไปได้ เพราะแม่ของเธอไม่ได้มีท่าทีรังเกียจอะไรในตัวเจนรบ เพียงแต่ยังเห็นว่าปวีณาควรให้ความสำคัญกับเรื่องเรียนไปก่อนเรื่องความรัก แต่อย่างน้อย คำพูดของปิยะวรรณที่บอกกับเธอว่า ถ้าเรียนจบแล้วค่อยมาว่ากันอีกที ก็สร้างความหวังให้ปวีณาว่าเรื่องของเธอและลุงจอมจะมีโอกาสสมหวังในอนาคต พอคิดแบบนี้ สาวน้อยก็หลับตาพริ้มแล้วยิ้มหวานด้วยความสุข

ก่อนหน้านั้น ปวีณาได้แต่อมทุกข์ หลังจากถูกเจนรบขอให้ยุติความสัมพันธ์ต้องห้ามนี้ หลังจากสอบปลายภาคเสร็จ ปวีณาเดินทางกลับมาเชียงใหม่เพื่อพักผ่อน ปิยะวรรณผู้เป็นแม่สังเกตว่าลูกสาวมีท่าทางเศร้าสร้อย จึงได้ลองเปิดอกคุยกัน

แต่ความจริงแล้ว ปิยะวรรณรู้เรื่องจากภาคภูมิทั้งหมดแล้ว ว่าลูกสาวของเธอและเจนรบคบหากันอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องราวบานปลาย ภาคภูมิเลยขอร้องให้เจนรบยุติความสัมพันธ์กับปวีณาเสีย ปิยะวรรณเองก็เห็นด้วยกับภาคภูมิในแง่ของอนาคตที่ดีกว่าของลูกสาว เพียงแต่เพราะความเป็นผู้หญิงด้วยกัน ก็เลยทำให้เธอเข้าใจลูกสาวมากกว่า และได้เปิดใจคุยกันถึงเรื่องนี้

“หนูไม่สบายใจเรื่องอะไรเหรอจ๊ะ?”

“เปล่าค่ะ…” ปวีณาตอบ “หนูแค่รู้สึกเพลียนิดหน่อยค่ะ”

“หนูกำลังเพลีย…เรื่องลุงจอมใช่ไหม?” ปิยะวรรณถาม

“อะไรคะแม่?” ปวีณาแกล้งทำไม่รู้เรื่อง “แม่พูดเรื่องอะไรคะ?”

“แม่เป็นแม่ของลูกนะปลา ทำไมเรื่องแค่นี้แม่จะไม่รู้” ปิยะวรรณตอบ “แม่รู้จากพ่อน่ะ ว่าลูกกับลุงจอมแอบคบหากัน”

พอได้ยินที่ปิยะวรรณผู้เป็นแม่พูด ก็ทำเอาปวีณาปล่อยโฮออกมาก่อนซบที่อกของปิยะวรรณผู้เป็นแม่

“เฮ้อ…ในที่สุดก็ถึงวันนี้จนได้” ปิยะวรรณลูบไล้เรือนผมของลูกสาว “มันคงเป็นกรรมที่แม่ทำกับลุงจอมเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน ไม่คิดว่ากรรมมันจะตามมาทัน แต่มันกลับเกิดขึ้นกับลูก ไม่ใช่พ่อกับแม่”

“ฮือ…หนูขอโทษค่ะแม่” ปวีณาร้องไห้โฮออกมา “หนูกับลุงจอม…เรารักกัน”

“แม่รู้ว่าลุงจอมเป็นคนดี... ดีมากจริงๆ” น้ำเสียงของปิยะวรรณอ่อนลง “และแม่ก็เสียใจกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต... แต่ตอนนี้ ลูกต้องเข้มแข็งนะ ตั้งใจเรียนให้ดีที่สุดก่อน... อนาคตยังอีกยาวไกล อะไรๆ ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้”

ปิยะวรรณเปิดใจคุยกับลูกสาวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมกับเก็บเป็นความลับระหว่างกันโดยไม่บอกภาคภูมิ ปิยะวรรณขอให้ลูกสาวของเธอตั้งใจเรียนไปก่อน ถ้าเรียนจบปริญญาตรีเมื่อไร แล้วค่อยมาคุยกันเรื่องนี้อีกที ซึ่งในตอนนั้นเอง ที่เจนรบถูกคนร้ายลอบยิงจนได้รับบาดเจ็บ

“ไม่คิดว่ามันจะลงเอยแบบนี้เลย” ปิยะวรรณครุ่นคิดในใจ หลายปีที่ผ่านมา ยอมรับว่าบางครั้งเธอก็กลัวว่ากรรมมันจะตามสนองเธอและภาคภูมิ ที่ไปทำผิดกับเจนรบ เพียงแต่เธอไม่คิดมาก่อนว่า กรรมของเธอและสามีจะตกมาที่ปวีณา

แต่บางครั้ง เธอกลับรู้สึกว่าปวีณายินดีที่จะรับกรรมที่เธอไม่ได้ก่อ และอีกอย่างเจนรบก็ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไร เขาเป็นสุภาพบุรุษ เป็นผู้ชายที่ดี เธอและภาคภูมิมั่นใจว่าเจนรบจะสามารถดูแลปวีณาได้ เพียงแต่ปัญหาก็คือ ปวีณาคือลูกสาวของเธอและภาคภูมิ ส่วนเจนรบก็อายุมากแล้ว หากแต่งงานกัน ก็คงจะต้องพบกับคำครหาจากพวกปากหอยปากปูอย่างแน่นอน แล้วถึงตอนนั้น ลูกสาวของเธอจะทนได้เหรอ?

ปวีณาตอนนี้อยู่ชั้นปีที่สามของคณะนิเทศศาสตร์แล้ว อีกไม่นานเธอก็จะเรียนจบในระดับชั้นปริญญาตรี และเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางไปเรียนต่อในระดับปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา ด้วยการเรียนที่หนักขึ้น เลยทำให้ปวีณาแทบไม่มีเวลาติดต่อกับเจนรบเหมือนที่เค

ขณะเดียวกัน เจนรบเองก็วุ่นวายกับการงาน รวมถึงเป็นแขกรับเชิญในรายการโทรทัศน์เพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมายแก่ชาวบ้านจนเป็นที่รู้จัก และล่าสุดเจนรบกำลังเริ่มเขียนหนังสือเกี่ยวกับกฎหมายที่เขียนด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายเพื่อวางจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไปได้อ่านเพื่อเข้าใจกฎหมายมากขึ้นนั่นเอง

ในช่วงค่ำของคืนวันศุกร์ของเดือนตุลาคม ขณะที่เจนรบกำลังง่วนอยู่กับการเขียนหนังสือกฎหมายอยู่บนหน้าจอโน๊ตบุ๊คของตัวเองที่บ้าน สายเรียกเข้าจากคนที่เจนรบรอคอยมานานก็ดังขึ้น

“ไงจ๊ะน้องปลา มีธุระอะไรกับลุงเหรอ?” เจนรบพักกิจกรรมทุกอย่างบนหน้าจอโน๊ตบุ๊คเอาไว้ก่อน เพื่อคุยกับเด็กสาว

“เป็นไงบ้างคะลุง? สบายดีไหม?” ปวีณาถาม “เราไม่ได้เจอกันมานานสักพักใหญ่แล้วนะคะ หนูคิดถึงลุง อยากเจอลุงจังเลยค่ะ”

“ลุงก็คิดถึงหนู” สุภาพบุรุษทนายความตอบ “แต่ลุงว่าถ้ามีอะไร คุยกันผ่านโทรศัพท์จะดีกว่านะ”

“ทำไมคะลุง? กลัวพ่อกับแม่หนูรู้เหรอ?” ปวีณาถาม

“ก็นั่นแหละที่ลุงกำลังจะบอกหนู” เจนรบตอบ “ลุงน่ะอยากเจอหนูตลอดเวลานั่นแหละ แต่ลุงก็ไม่อยากจะผิดใจกับไอ้ภาคแล้วก็เปิ้ลนะ แค่เรายังแอบคุยกันแบบนี้ ลุงก็รู้สึกผิดจะแย่อยู่แล้ว”

“ก็เราไม่ได้ทำอะไรเสียหายสักหน่อย” ปวีณาหัวเราะคิกคัก “ลุงน่ะวิตกจริตเกินไปแล้ว ไม่เอาซิคะ เดี๋ยวก็แก่เร็วขึ้นหรอก”

เจนรบยิ้มแป้นหน้าบานอย่างมีความสุข ต่างฝ่ายต่างถามเรื่องราวของกันและกัน และสุดท้าย เจนรบก็ทนคำรบเร้าของปวีณาไม่ไหว ก็เลยยอมหาเวลามาเจอกันจนได้

เจนรบนัดพบกับปวีณาที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรัชดา เป็นเวลานานหลายเดือนแล้วที่หนุ่มใหญ่และเด็กสาวไม่ได้เจอหน้ากัน เพราะต่างฝ่ายต่างวุ่นวายกับภารกิจส่วนตัว หนุ่มใหญ่นั่งละเลียดกาแฟในร้านค้าแห่งหนึ่งภายในห้างสรรพสินค้า เพื่อรอคอยการปรากฏตัวของสาวน้อย

“รอปลานานไหมคะลุงจอม?” ปวีณาปรากฏตัวในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีชมพู กางเกงยีนสีขาว รองเท้าผ้าใบสีชมพู สาวน้อยไว้ผมยาวหยักศกทำไฮไลต์ผมสีน้ำตาล สะพายกระเป๋าแบรนด์หรูที่เจนรบซื้อให้ จนทำเอาหัวใจเจนรบเต้นไม่เป็นจังหวะเลยทีเดียว

“นั่งก่อนซิน้องปลา” เจนรบยิ้มหวาน “ยิ่งโตยิ่งสวยขึ้นนะเราน่ะ”

“ขอบคุณค่ะ” ปวีณายิ้มตอบ

“กินข้าวมาหรือยังล่ะ?”

“ยังเลยค่ะ”

“งั้น…เดี๋ยวลุงพาไปเลี้ยงข้าวนะ”

เจนรบจ่ายเงินค่ากาแฟ แล้วพาเด็กสาวไปหาอะไรกินชั้นบน สุดท้ายคู่รักต่างวัยก็มาลงเอยกับบุฟเฟ่ต์หมูย่างเกาหลีจนได้

“คิดถึงเมื่อก่อนจังเลยนะ” เจนรบชวนเด็กสาวคุย

“เรื่องอะไรคะ?” ปวีณาเอ่ยปากถาม ขณะกำลังย่างชิ้นเนื้อบนเตา

“ก็เมื่อก่อน ลุงชอบพาหนูมากินบุฟเฟ่ต์ ยังบ่นกันอยู่เลยว่าถ้าลุงกับหนูกินแบบนี้ทุกวัน คงได้อ้วนเป็นหมูทั้งลุงและหลาน” เจนรบยิ้ม ขณะคีบเนื้อย่างใส่จานของปวีณา

“ขอบคุณค่ะลุงจอม”

“ลุงคิดถึงหนูนะ”

“มาหวานอะไรตอนนี้คะเนี่ย ปรับอารมณ์ไม่ทัน”

ทั้งคู่ต่างส่งยิ้มให้กันในมื้อเที่ยงสุดพิเศษ พอกินบุฟเฟ่ต์และตบท้ายด้วยของหวานจนอิ่ม เจนรบและปวีณาก็เดินย่อยอาหารในห้างสรรพสินค้า ดูซุ้มขายของและร้านค้าภายในห้างสรรพสินค้าไปตามเรื่อง

“ลุงจอม วันนี้ลุงมีธุระไหม?” ปวีณาคล้องแขนหนุ่มใหญ่ ทำสายตาออดอ้อน

“ไม่มีจ๊ะ” เจนรบยิ้ม หนุ่มใหญ่พอเดาออกว่าสาวน้อยต้องการอะไร

“ให้ปลาไปนอนค้างบ้านลุงนะคะ” ปวีณากระซิบข้างหู

เจนรบยิ้ม เขาเห็นแก้มของปวีณาแดงระเรื่อ หนุ่มใหญ่รู้แล้วว่าสาวน้อยต้องการอะไร เธออยากใช้เวลากับเขาในคืนนี้ทั้งคืน

เจนรบขับรถพาปวีณากลับไปบ้าน ด้วยความที่ตัวเองยุ่งกับการทำงาน จนทำให้บ้านของเจนรบที่หนูปลาเคยช่วยจัดให้จนสะอาดสะอ้านเริ่มกลับมาสกปรก พอเปิดประตูเข้ามา ปวีณาถึงกับบ่นเป็นการใหญ่

“ลุงนะลุง!!” ปวีณาทักท้วง “ในบ้านมีฝุ่นเยอะนะคะ ทำไมไม่ดูแลบ้าง หรืออย่างน้อยน่าจะจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดซะหน่อย เดี๋ยวก็เป็นภูมิแพ้หรอก!!”

“ลุงไม่ค่อยได้อยู่บ้าน” เจนรบสารภาพ “ตั้งแต่ที่ลุงโดนยิงแล้วไม่ตาย ก็เลยทำให้ลุงมีงานเพิ่มขึ้น ไหนต้องไปเป็นแขกในรายการทีวี ไหนจะต้องว่าคดีให้ลูกความ แล้วก็เขียนหนังสือกฎหมายให้คนอ่าน เลยไม่มีเวลาดูแลบ้านเท่าไรน่ะปลา”

“ลุงจอม!!” ปวีณาขมวดคิ้วใส่เจนรบ “นี่ใจคอลุงจะทำแต่งานโดยไม่สนใจอะไรเลยใช่ไหมคะเนี่ย?”

“ก็ลุงไม่รู้จะทำอะไร” เจนรบเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำและแก้วสองใบมาวางบนโต๊ะรับแขก “ญาติมี แต่ก็ไม่สนิทอะไรขนาดนั้น ลูกเมียก็ไม่มี มีแต่ลุงตัวคนเดียว คนแบบลุง คงไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากมาใช้ชีวิตด้วยหรอก”

“ก็ลุงทำตัวแบบนี้แหละ ลุงถึงไม่มีใคร” สาวน้อยทักท้วง “อีกไม่กี่ปีลุงจะ 60 แล้วนะคะ คิดถึงชีวิตหลังเกษียณบ้างเถอะ”

“ลุงก็คิดอยู่เหมือนกัน” เจนรบสารภาพ “แต่ลุงตัวคนเดียวจะเลิกทำก็คงไม่ได้ ไหนจะลูกน้องที่ทำงาน ไหนจะงานอีก”

“หนูชักเป็นห่วงอนาคตของลุงจอมซะแล้วซิ” ปวีณาส่ายหน้า เธอรู้สึกว่าชีวิตของเจนรบมีแต่งาน ทำแต่งานจนไม่สนใจเรื่องอื่น คราวก่อนที่เจนรบโดนลอบยิง นอกจากลูกน้องที่ทำงาน ก็แทบไม่มีใครมาเยี่ยมนอกจากเธอ แล้วนี่ถ้าเกิดเจนรบล้มป่วยขึ้นมาจะทำยังไงดี

“แล้วหนูจะให้ลุงทำยังไงดีละ?” เจนรบถาม “แนะนำลุงหน่อยซิ”

“เหมือนที่หนูเคยพูดอยู่ตลอดนั่นแหละค่ะลุงจอม ลุงจริงจังกับชีวิตเกินไป” ปวีณาตอบ “ลุงน่าจะคิดถึงความสุขของตัวเองบ้างนะคะ”

“ก็ความสุขของลุงตอนนี้อยู่ข้างหน้าแล้วไง” เจนรบยิ้มหวาน

“ลุงจอม!! อารมณ์ไหนคะเนี่ย!!” ปวีณาหน้าแดงก่ำ เมื่อได้ยินคำหวานจากเจนรบ ที่เดินเข้ามาใกล้แล้วโอบกอดสาวน้อยด้วยความรัก

“ลุงกำลังคิดว่าจะทำงานอีกสักสองสามปี ก็จะวางมือแล้ว” เจนรบสารภาพ “ลุงอยากให้รางวัลตัวเองบ้าง ปีนี้ลุงอายุ 53 แล้ว ก็คิดว่าถึงเวลาที่ลุงต้องคิดถึงการมีครอบครัว หนูปลาเห็นด้วยไหม?”

“ลุงกำลังจะสื่ออะไรคะเนี่ย?” ปวีณาร่นคิ้วใส่เจนรบ “หนูงงไปหมดแล้ว”

“ลุงตัดสินใจแล้ว ถ้าหนูปลาเรียนจบเมื่อไร” เจนรบยิ้มแป้นหน้าบาน “ลุงจะไปสู่ขอหนูกับไอ้ภาคและเปิ้ล”

“ลุงจะบ้าเหรอ? คิดว่าทำแบบนี้พ่อกับแม่หนูจะยอมเหรอคะ?” ปวีณาแย้ง

“ไม่ลองก็ไม่รู้” เจนรบตอบ “ทุกวันนี้ ลุงมีบ้าน มีเงิน มีรถ แต่ลุงยังไม่มีคู่ชีวิตที่ดีสักคน ตอนแรกลุงเองก็ไม่คิดว่าโชคชะตาจะเล่นตลกให้ลุงมาตกหลุมรักเด็กสาวอย่างหนู ก่อนหน้านั้นลุงขอโทษนะ ที่ลุงขับไสไล่ส่งหนูไปจากชีวิตของลุง แต่จากนี้ไป ลุงจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว ลุงไม่อยากโกหกความรู้สึกของตัวเองอีกแล้ว”

“ลุงจอม…” สาวน้อยยิ้มทั้งน้ำตา “พูดอะไรของลุงเนี่ย? หนูเขินนะ”

“ลุงอยากให้หนูมาเป็นคู่ชีวิตของลุง” เจนรบสารภาพ “ไม่ใช่ในฐานะตัวแทนของเปิ้ล แต่ในฐานะที่หนูเป็นตัวของหนูเอง ลุงจอมรักน้องปลานะ”

“อือ!!! น้ำเน่าอ่ะลุง!!!” ปวีณาหน้าแดงก่ำ “ลุงไปทำอะไรมาคะเนี่ย ทำไมถึงได้พูดอะไรแบบนี้”

“ลุงคิดว่าชีวิตที่ผ่านมา ลุงทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือคนอื่นมามากพอแล้ว ลุงเลยอยากทำเพื่อตัวเองบ้าง” เจนรบตอบ “ตอนแรกลุงก็อยากให้หนูไปเจอคนที่ดีกว่าหนุ่มกว่า แต่ลุงมาคิดดูแล้ว ลุงไม่อยากจะใช้ชีวิตแบบตายทั้งเป็น โดยไม่มีหนูปลาอยู่เคียงข้าง”

“อือ!!!! ลุงจอม!!! ลุงพูดอะไรของลุงเนี่ย หวานซะ!!!” ปวีณาหน้าแดงก่ำ อายจนไม่รู้จะอายยังไง และยิ่งวาบหวามไปมากกว่านี้ คือการที่เจนรบเริ่มซุกไซ้ซอกคอและหอมแก้มสาวน้อย “ลุงจอมอย่าค่ะ ไม่ทำตรงนี้”

“ทำไมล่ะ อายเหรอ จะกลัวอะไร ในบ้านหลังนี้มีแค่ลุงกับปลาแค่สองคนเท่านั้นเอง” เจนรบยิ้มหวาน

“ไปทำข้างบน” ปวีณาตอบ “แล้วก็อาบน้ำก่อน ทั้งหนูทั้งลุงนั่นแหละ กลิ่นไหม้จากร้านบุฟเฟ่ต์ยังติดตัวแบบนี้ หนูไม่เอาด้วยหรอก”

เจนรบยิ้มให้สาวน้อยที่มองค้อนด้วยใบหน้าแดงก่ำ หนุ่มใหญ่หยิกแก้มสาวน้อยเล่นอย่างมีความสุข ก่อนเดินจูงมือขึ้นสู่แดนสวรรค์ชั้นสอง ทนายความจูงมือพาสาวน้อยเข้าไปอาบน้ำด้วยกัน ต่างฝ่ายต่างใส่ใจในเรือนร่างเปลือยเปล่าของกันและกัน

ปวีณาสังเกตว่ายังมีรอยแผลเป็นจากรอยกระสุนปืนและอุบัติเหตุรถคว่ำเมื่อหลายเดือนก่อน ต้องบอกว่าเจนรบโชคดีมากที่ไม่ได้รับบาดเจ็บจนถึงแก่ชีวิต พวกเกจิพระเครื่องที่เห็นข่าวจากหน้าสื่อโทรทัศน์และสื่อโซเชียล ต่างสนใจพระที่ห้อยตรงกระจกหน้ารถของทนายความ จนทำให้ราคาในท้องตลาดสูงขึ้น

เคยมีเซียนพระเครื่องลงทุนเดินทางมาถามเจนรบถึงสำนักงานทนายความว่าเขามีของดีอะไร และอยากขอซื้อต่อ แต่เจนรบตอบกลับไปว่าสิ่งที่ปกป้องเขาคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์และความดี ก็เลยทำให้เซียนพระคนนั้นกลับบ้านไปมือเปล่า

ตัดมาที่ปัจจุบัน เจนรบโอบกอดปวีณาจากด้านหลัง แผงหน้าอกของหนุ่มใหญ่สัมผัสกับแผ่นหลังอันแสนเนียนนุ่มของสาวน้อย ฝ่ามืออันหยาบกร้านของเจนรบลูบไล้หน้าท้องของเด็กสาวที่กำลังแขม่วด้วยความสยิว

“แหน๊ะ!!! ลุงจอม!! เอาอะไรมาทิ่มก้นหนูคะ!!” ปวีณาหันไปค้อนใส่เจนรบ “ทะลึ่งใหญ่แล้วนะคะ”

“ก็หนูน่ารักขนาดนี้ ใครจะไปอดใจไหวล่ะ?” เจนรบสารภาพ

“อือ!! พอแล้วค่ะลุงจอม!!!” สาวน้อยพยายามขัดขืนฝ่ามือปลาหมึกของเจนรบ “พอได้แล้ว!! รีบอาบน้ำให้เสร็จเถอะค่ะ เนื้อตัวหนูจะเปื่อยอยู่แล้ว”

เจนรบหัวเราะร่วนอย่างมีความสุข ก่อนแยกย้ายไปทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ หนุ่มใหญ่อาบน้ำเสร็จก่อน ก็เลยหยิบผ้าขนหนูเช็ดตัวแล้วเดินออกมารอในห้องนอน ส่วนปวีณาใช้เวลานานกว่าเพราะเป็นผู้หญิง

“เฮ้อ!!! เสร็จสักที” ปวีณาเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีเพียงแค่ผ้าขนหนูผืนน้อยปกปิดร่างกาย “แหน๊ะ!!! อย่ามองซิคะ ตาแก่ลามก”

เจนรบหัวเราะร่วน เพราะไม่คิดว่าสาวน้อยจะหยอกล้อเขาแบบนั้น ทีนี้หนุ่มใหญ่เลยทนไม่ไหว ลุกขึ้นไปกอดสาวน้อยที่กำลังยืนเช็ดเนื้อตัวอยู่หน้ากระจกในห้องนอนของเจนรบ

“ตะกี้ว่าลุงเหรอ?” เจนรบโอบกอดแม่กวางน้อยจากด้านหลัง “กล้าว่าผัวแบบนี้เหรอ?”

“อ๊า!! ลุงจอม!!” ปวีณาร้องเสียงหลง “เอาใหญ่แล้วนะคะลุง!! แล้วตะกี้ลุงแทนตัวเองว่าอะไรนะ?”

“ก็ผัวไงจ๊ะ” เจนรบยิ้มหวาน “ทำไมเหรอ? ยอมรับไม่ได้เหรอมีผัวแก่”

“ลุงจอม!!! อือ!!! ใจเย็นก่อนซิคะ” ลูกปลาพยายามดิ้นขัดขืน เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น เจนรบดูเป็นสุภาพบุรุษ แต่พอเวลาอยู่กับเธอสองต่อสอง จะบอกว่ายังไงดีล่ะ เจนรบเหมือนตาแก่จอมหื่นยังไงยังงั้นเลยทีเดียว เจนรบทั้งหอม ทั้งซุกไซ้ซอกคอของปวีณา มือปลาหมึกของเจนรบก็ลูบไล้บั้นท้ายและหน้าท้องของร่างเล็ก พอรู้สึกตัวอีกที ผ้าขนหนูผืนน้อยก็หลุดออกจากเรือนกายของคู่รักต่างวัย

“กลับไปที่ของเราเถอะนะ” เจนรบกระซิบข้างหูปวีณา ที่ยืนบิดขาเอามือปิดเนินสาวด้วยท่าทีเหนียมอาย

“ค่ะ” ปวีณาพยักหน้า ก่อนเดินตามเจนรบกลับไปที่รังรัก แม่กวางน้อยทิ้งตัวลงนอนบนเตียงสีขาว โดยมีสิงห์เฒ่าอย่างเจนรบนั่งคร่อมร่าง ปวีณาหลับตาพริ้ม ขณะกำลังถูกเจนรบหยอกเย้าเธอด้วยปลายลิ้นตรงซอกคอ

“ลุงจอม…อือ…” ปวีณาครางเสียงหวาน ในขณะที่เจนรบกำลังเสพกายสาวของเธอ หนุ่มใหญ่ทั้งซุกไซ้ซอกคอ ติ่งหู และกรามสวยได้รูปของปวีณา ก่อนเลื่อนลงต่ำเพื่อสำรวจร่างกายของลูกปลาตัวน้อยอย่างละเอียด

“จ๊วบ…จ๊วบ…จ๊วบ”

“อ๊ะ…ลุงจอมขา”

“ซู๊ดด…ซู๊ดด…ซู๊ดด”

เจนรบหยอกเย้ากับยอดปทุมถันของปวีณาด้วยปลายลิ้นสลับกับบีบคลึงด้วยฝ่ามือ หนุ่มใหญ่สังเกตว่าหน้าอกหน้าใจของสาวน้อยใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อน บางทีอาจเป็นเพราะอาหารการกินในเมืองหลวง หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะลีลารักของเจนรบ ที่ทำให้ร่างกายของปวีณาอวบอัดมากขึ้นก็ได้ ใครจะไปรู้

เจนรบเลื่อนลงต่ำไปอีก หนุ่มใหญ่หยอกล้อกับสะดือบุ๋มน่ารักด้วยปลายลิ้น ปวีณาเกร็งหน้าท้องด้วยความสุขที่แสนหวาน หนุ่มใหญ่สูดดมกลิ่นสาบสาวของปวีณาตรงหน้าท้องเข้าไปเต็มปอด

“อ่าห์…หอมชื่นใจ” เจนรบทำหน้าฟินน์ จนปวีณาอดขำไม่ได้

“ลุงจอม!! ลุงเหมือนตาแก่ลามกเข้าไปทุกทีแล้วนะคะ!!” สาวน้อยยิ้มหวาน

“ถ้าลุงจะลามก ก็ลามกกับหนูคนเดียวเท่านั้นแหละ” เจนรบยิ้มตอบ ก่อนหันไปแกล้งแม่กวางน้อยด้วยการใช้ปลายคางที่เปื้อนหนวดเคราขยี้ท้องน้อยของเด็กสาวเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยว

“อึยยย!!! ลุงจอม!!! จั๊กกะจี๊!!!” ปวีณาหัวเราะร่วนจนเห็นแผงฟันขาว แต่เจนรบกลับไม่มีท่าทีจะยอมลดราวาศอกแม้แต่น้อย หนุ่มใหญ่ใช้ฝ่ามือแหวกขาอ่อนของปวีณาให้กว้างขึ้น เพื่อหวังเชยชมกับความลับสุดยอดของสตรีเพศ

เจนรบยิ้มหวาน เมื่อเห็นว่ากลีบดอกไม้ของปวีณาชุ่มฉ่ำด้วยน้ำหวาน หนุ่มใหญ่จึงโน้มตัวลงไปชิมรสชาติด้วยปลายลิ้น ปวีณาหลับตาพริ้ม แก้มแดงระเรือ แม่กวางน้อยร้องครางเสียงหวานด้วยความสุขสม

“ลุงจอมขา…อืออออ!!” ปวีณาเริ่มเกร็งตัวมากขึ้น เมื่อเจนรบเร่งจังหวะ จนในที่สุดร่างบางก็กระตุกเกร็งอย่างรุนแรง เจนรบใช้มือรองรับสะโพกของปวีณาขณะกำลังถึงฝั่งฝัน

เจนรบยิ้มหวาน ก่อนจะเริ่มดุนดันแท่งทองเข้าไปในถ้ำสาวที่ชุ่มฉ่ำของปวีณา สาวน้อยหลับตาพริ้มแก้มแดงระเรื่อ ยอมปล่อยกายปล่อยใจให้เจนรบได้เสพร่างกายของเธอ

ในค่ำคืนนั้น เจนรบและปวีณาได้ช่วยกันสร้างท่วงทำนองบทเพลงรักที่แสนหวาน ต่างฝ่ายต่างตอบสนองความต้องการของกันและกัน พอรู้สึกตัวอีกที เตียงนอนของเจนรบก็ยับยู่ยี่ มีรอยด่างเลอะไปทั่วเตียงที่เปียกแฉะ

“ลุงจอมขา…อือออ” ปวีณาซบแผงอกของเจนรบในสภาพอิดโรย ร่างกายของทั้งคู่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ถึงแม้ว่าเจนรบจะเปิดแอร์ช่วย แต่ก็ไม่อาจดับความร้อนจากเกมรักที่สรรค์สร้างขึ้นมาโดยเจนรบและปวีณาได้

“โอย…ลุงก็ไม่ไหวเหมือนกันจ๊ะหนูปลา” เจนรบหลับตาปี๋ด้วยความเหนื่อย “ขึ้นทำต่อไปอีก มีหวังลุงหัวใจวายคาอกหนูแน่”

“ก็ใครอยากให้ลุงหักโหมล่ะ” ปวีณายิ้ม ขณะกำลังใช้มือแตะปลายจมูกของเจนรบ “นี่ถ้าเราแต่งงานกันจริงๆ หนูว่าเราสองคนคงลูกดกแน่เลยอ่ะ”

เจนรบยิ้มแป้นด้วยความสุข เขาฝันไกลไปแล้วว่าสักวันหนึ่งจะได้แต่งงานสร้างครอบครัวกับปวีณา เขาไม่อยากปล่อยผู้หญิงที่แสนดีแบบปวีณาให้ผ่านไปจากชีวิตของเขาอีกแล้ว เหมือนที่เขาเคยพลาดจากปิยะวรรณ

ใช่แล้ว เจนรบตัดสินใจแล้วว่าเขาจะเดินทางไปเชียงใหม่ เพื่อพูดคุยเรื่องนี้กับภาคภูมิและปิยะวรรณด้วยตัวเองถึงเรื่องการขอหมั้นปวีณาเอาไว้ก่อน ถึงแม้มันจะยาก แต่เขาก็อยากจะลอง เพราะไม่อยากเสียใจซ้ำสองอีกต่อไป

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนพิเศษ 3 : บททดสอบของหัวใจ

    เวลาผ่านไปอีกราวสองปี น้องอุ้มบุญ กันยกร ในวัยสามขวบ กำลังอยู่ในช่วงวัยแห่งการเรียนรู้และพลังงานอันล้นเหลือ บ้านหลังใหญ่ของเจนรบและปวีณาที่เคยมีแต่ความสงบ (หรือความหวานชื่นของคู่รัก) บัดนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ เสียงเรียก “พ่อจ๋า” “แม่จ๋า” และเสียงวิ่งตึงตังของเจ้าตัวเล็กที่พร้อมจะสำรวจโลกกว้างตลอดเวลาเช้าวันเสาร์ เจนรบในวัยใกล้จะเกษียณอายุราชการ ถ้าหากเขารับราชการ แต่ในความเป็นจริงคือทนายความอาวุโสชื่อดังวัย 56 ปี ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงเล็กๆ ที่ดังอยู่ข้างเตียง“พ่อจ๋า...ตื่น...เล่น...” น้องอุ้มบุญในชุดนอนลายการ์ตูน กำลังใช้มือป้อมๆ เขย่าแขนพ่อปลุก ดวงตากลมใสแป๋วแหววไร้เดียงสา“อุ้มบุญเหรอลูก?” เจนรบลืมตาขึ้น ปากก็ยิ้มรับลูกสาว แต่ร่างกายกลับประท้วงเบาๆ ด้วยความปวดเมื่อยหลังจากโหมงานเอกสารและเตรียมตัวสำหรับรายการทีวีมาทั้งสัปดาห์ “จ๊ะลูก...พ่อตื่นแล้ว...แต่อุ้มบุญให้พ่อพักอีกแป๊บได้ไหมจ๊ะ?”“ม่ายอาววว...เล่นเยย...” เด็กน้อยไม่ยอมง่ายๆ เริ่มปีนขึ้นมาบนเตียง ทิ้งตัวลงบนอกพ่ออย่างแรง“โอ๊ย!! จุกนะลูก!!” เจนรบร้องเบาๆ แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้ คว้าตัวลูกสาวมากอดฟัด จั๊กจี้จนเสียงห

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนพิเศษ 2 : หนึ่งปีแห่งความสุข

    เวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปอย่างรวดเร็ว เผลอเพียงชั่วพริบตาเดียว นางฟ้าตัวน้อยของบ้านทนายเจนรบและปวีณา—เด็กหญิงกันยกร หรือน้องอุ้มบุญ—ก็อายุครบหนึ่งขวบพอดิบพอดี จากทารกน้อยที่นอนร้องไห้จ้าอยู่ในอ้อมแขน วันนี้กลายเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่เริ่มตั้งไข่ หัดเดินเตาะแตะ และส่งเสียงอ้อแอ้เรียก “ป้อ” “แม่” ได้เป็นคำๆ สร้างความสุขและความมีชีวิตชีวาให้กับบ้านหลังใหญ่ที่เคยเงียบเหงาได้อย่างน่าอัศจรรย์“ป้อ!! ป้อ!! แม่!!”“น่ารักน่าชังจริง ๆ ลูกพ่อ!!”“หนึ่งขวบแล้วน๊า น้องอุ้มบุญ!!”เช้าวันเกิดขวบปีแรกของน้องอุ้มบุญอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของแพนเค้กฟักทองเนื้อนุ่มที่ปวีณาตั้งใจทำให้ลูกสาวเป็นมื้อพิเศษ เจนรบนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร สายตาจับจ้องมองสองแม่ลูกด้วยแววตาที่เปี่ยมสุข หนึ่งปีที่ผ่านมา เขาแทบไม่เชื่อว่าชีวิตของตัวเองจะเปลี่ยนแปลงไปได้มากขนาดนี้ จากทนายความผู้เคยใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว มีแต่งานเป็นเพื่อน ตอนนี้เขากลายเป็น “พ่อ” เต็มตัว เป็นสามีของหญิงสาวที่เขารักสุดหัวใจ และเป็นโลกทั้งใบของเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังใช้มือเล็กๆ พยายามหยิบแพนเค้กเข้าปากอย่างเงอะงะ“ค่อย ๆ ซิจ๊ะลูกแม่ เลอะหมดแล้วเห็นไหม” ปวี

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนพิเศษ 1 : ความสุขที่รอคอย

    พาดหัวข่าวตัวไม้บนหน้าหนังสือพิมพ์บันเทิงหลายฉบับ และฟีดข่าวที่ร้อนแรงในโลกโซเชียลมีเดีย ต่างประโคมข่าว ‘วิวาห์หวานชื่น…ทนายดังต่างวัยคว้าลูกสาวเพื่อนสนิทเข้าประตูวิวาห์’ ภาพของเจนรบ ทนายความชื่อดังขวัญใจคนยากจน วัย 54 ปี ในชุดสูทสีขาวสะอาดตา ยืนเคียงข้าง ปวีณา เจ้าสาวแสนสวยวัย 22 ปี ทายาทคนเล็กของนักธุรกิจรีสอร์ตหรูแห่งเชียงเหนือ ในชุดไทยล้านนาประยุกต์อันงดงาม กลายเป็นประเด็นทอล์คออฟเดอะทาวน์เพียงชั่วข้ามคืนคอมเมนต์หลั่งไหลเข้ามามากมายราวกับสายน้ำหลาก บ้างแสดงความยินดี บ้างตั้งคำถามถึงความเหมาะสม บ้างก็อดอิจฉาเจ้าบ่าวสูงวัยที่ได้ภรรยาสาวสวยราวกับนางฟ้ามาครองไม่ได้“อิจฉาคนแก่ว่ะ! มีดีอะไร สาวสวยถึงได้ยอมแต่งด้วย?”“สายเปย์รึเปล่า? แต่บ้านฝ่ายหญิงก็รวยนะ”“ไม่แน่...ฝ่ายชายอาจจะเกาะฝ่ายหญิงก็ได้ ใครจะรู้”“หรือว่าเขารักกันจริงๆ ความรักมันไม่เกี่ยวกับอายุหรอกน่า อย่าคิดอกุศลเลย”เจนรบและปวีณาเตรียมใจรับมือกับกระแสสังคมเหล่านี้ไว้แล้ว ทั้งคู่เลือกให้สัมภาษณ์กับสื่อเพียงไม่กี่แห่งเท่าที่จำเป็น โดยเน้นย้ำถึงความรักความเข้าใจที่ทั้งสองมีให้กัน และการยอมรับจากครอบครัวทั้งสองฝ่าย พวกเขาไม่ได

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนที่ 10 : เข้าถ้ำเสือ

    “ทำไมหนูไม่บอกพ่อกับแม่ล่ะว่าจะทำงานอยู่กรุงเทพ?” เจนรบเอ่ยปากถามปวีณา“หนูบอกแล้ว แต่พ่อกับแม่ไม่ยอม” ปวีณาตอบ “ลุงจะให้หนูทำยังไงละคะ?”ปวีณาบอกกับเจนรบว่าหลังจากเรียนจบปริญญาตรีแล้ว ภาคภูมิและปิยะวรรณเรียกเธอกลับไป ช่วยงานธุรกิจรีสอร์ตทางบ้านที่เชียงใหม่ระหว่างรอรับปริญญาตรีและไปเรียนต่อปริญญาโทที่ อเมริกา เจนรบเริ่มรู้สึกว่ามันคือแผนการที่เพื่อนรักทั้งสองคิดเอาไว้ คือไม่ปฏิเสธ การคบหากันของเจนรบและปวีณา แต่จะใช้วิธีแยกให้คนทั้งคู่ห่างกันไปเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดเจนรบและปวีณาก็ห่างจนต่อกันไม่ติดในวันสุดท้ายก่อนออกเดินทาง ภาคภูมิส่งคนมาช่วยขนของกลับบ้านที่เชียงใหม่ และไม่เปิดโอกาสให้ปวีณาได้ร่ำลาเจนรบ ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว ช่วงเวลาที่แสนหวานของเจนรบและปวีณากำลังจะจบลง แต่โชคยังดีที่มีสื่อโซเชียล เลยทำให้เจนรบและปวีณาได้พูดคุยกันผ่านทางไลน์ เด็กสาวบอกกับเจนรบว่าพ่อกับแม่ต้องการให้เธอไปช่วยงานธุรกิจที่บ้านระหว่างรอรับปริญญา“ลุงจอม…” ปวีณาไลน์คุยกับเจนรบ “หนูว่าพ่อกับแม่กำลังพยายามกีดกันหนูจากลุง”“ไม่ต้องกลัวนะปลา” เจนรบไลน์ตอบ “ลุงจะขึ้นไปเชียงใหม่อีกครั้ง ไปคุยกับไอ้ภาคและเปิ้ล ลุง

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนที่ 9 : อยากรักก็ต้องเสี่ยง

    ตอนนี้ปวีณากำลังศึกษาอยู่ในคณะนิเทศศาสตร์ สาขาการประชาสัมพันธ์ในชั้นปีที่สี่ อีกแค่เพียงปีเดียวเท่านั้น สาวน้อยก็จะเรียนจบในระดับชั้นปริญญาตรี และเตรียมพร้อมสู่การเดินทางไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกาภาคภูมิและปิยะวรรณตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการยอมเปิดทางให้เจนรบและปวีณาได้คบหากัน พอได้รับไฟเขียวจากเพื่อนรักและอดีตแฟนเก่าเช่นนั้น เจนรบก็รับปากว่าจะขอดูแลลูกปลาเป็นอย่างดี และจะรอคอยจนกว่าเธอจะเรียนจบปริญญาโท เมื่อถึงตอนนั้น คู่สามีภรรยาทั้งสองถึงจะยินยอมให้เจนรบและปวีณาได้ครองคู่กันฟังดูความรักระหว่างเจนรบและปวีณากำลังไปได้สวย แต่ว่าด้วยระยะทางและภาระหน้าที่ของแต่ละคน เจนรบวุ่นวายกับการเดินทางไปถ่ายทำรายการกฎหมายน่ารู้ทางโทรทัศน์ และล่าสุดเจนรบได้เปิดช่องยูทูบเพื่อทำเรื่องราวเกี่ยวกับกฎหมายเพื่อให้ความรู้ผู้คนทั่วไปเพื่อหารายได้เสริม ส่วนหนังสือกฎหมายที่เพิ่งตีพิมพ์ ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากคนอ่าน ด้วยภาษาเขียนที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย ก็เลยทำให้หนังสือกฎหมายของเจนรบได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งที่สองและสามตามลำดับฝ่ายเจนรบเอง ก็ครุ่นคิดว่าช่วงนี้แทบไม่ได้เจอปลาเลย งานของเขาก็ยุ่ง ส

  • ปวีญา...ฉันรักเธอ   ตอนที่ 8 : เงื่อนไขของพ่อกับแม่

    หลังจากสอบเสร็จปลายภาคในช่วงชั้นปีที่สาม เจนรบตัดสินใจแล้วว่าเขาจะไม่รอให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์อีกต่อไป หนุ่มใหญ่ตัดสินใจเดินทางจากกรุงเทพมหานครมุ่งตรงสู่เชียงใหม่ เพื่อพูดคุยกับเพื่อนรักทั้งสองอย่างตรงไปตรงมาเสียที“ลุงจอม? ไหนลุงว่าจะรอให้หนูเรียนจบปริญญาตรีก่อนไง?” ปวีณาที่กลับเชียงใหม่ไปก่อนแล้วถึงกับตกใจ เมื่อทราบข่าวว่าลุงจอมตัดสินใจจะเดินทางตามมาด้วยเพื่อพูดคุยกับภาคภูมิและปิยะวรรณถึงเรื่องขอหมั้นหมายกับเธอก่อน “ถ้าพ่อกับแม่หนูรู้ หนูตายแน่!!”“ไม่ต้องกลัวหรอก ลุงคิดว่าไอ้ภาคกับเปิ้ลน่าจะมีเหตุผลพอ” เจนรบตอบ ขณะกำลังเตรียมขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง “แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวลุงต้องขึ้นเครื่องก่อน แล้วเจอกันที่เชียงใหม่นะคนดีของลุง”สุดท้ายปวีณาก็ไม่อาจทัดทานความต้องการของเจนรบได้ สาวน้อยเลยเอาเรื่องนี้ไปคุยกับปิยะวรรณผู้เป็นแม่ ที่รับรู้ทุกอย่างและมีเหตุผลมากพอที่จะรับฟังเธอ“มีอะไรเหรอจ๊ะปลา?” ปิยะวรรณที่กำลังง่วนอยู่กับการตรวจเอกสารในห้องทำงานของตัวเองเอ่ยปากถามลูกสาว“เอ่อ…หนูมีเรื่องสำคัญจะมาบอกแม่ค่ะ” ปวีณาเดินเข้ามาด้วยท่าทีอ้อยอิ่ง ก่อนทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status