Share

ผัวไม่ใช่พ่อ

Author: Sun Su
last update Last Updated: 2025-06-12 22:43:08

“ปะป๊าหนู กะ กลัว”

เสียงสั่นเทาจากคนข้างกายเขา เธอสะกิดเขาไม่หยุดเพราะเจ้าหล่อนนั้นเกิดกลัวหนังที่ตัวเองเลือกมา เธอกลัวฉากที่หวาดเสียวแทงกันเลือดสาดนั่นจนมือสั่น รีบหันหน้าหนีไปยังฝั่งที่ปะป๊าสุดหล่อของเธอทันที อย่างคนหาที่พึ่ง

“แต่หนูเป็นคนเลือกเองนะ”

ส่วนเขาก็ยังคงเอ่ยเสียงเรียบ และมองดูหนังที่ฉายอยู่เบื้องหน้า ท่าทีดูเหมือนไม่ค่อยสนใจอีกฝ่ายที่เกาะเเขนเขาแน่น เขาไม่ได้จะเย็นชาใส่เธอเลย เพียงแค่อยากแกล้งนิดหน่อย แต่ไม่เกินสิบวิก็ใจอ่อนอยู่ดี

มือหนาสองข้างยื่นมาปิดหูคะนิ้งไว้ พร้อมกับดึงเธอเข้ามาสบตา ทำให้สาวน้อยลดอาการหวาดกลัวลงได้มากเลยจริง ๆ เธอสบตาเข้ากับดวงตาคู่คมตรงหน้า มองลึกเข้าไปก็ยิ่งหลงใหลจนไม่สามารถอธิบายได้

“ปะป๊า~” คะนิ้งเพียงเอ่ยเรียกชื่อเขา ไม่นานก็มีจูบเบา ๆ แตะลงริมฝีปากเรียวสวย แน่นอนว่าเขาทำแบบนี้ได้เพราะไม่มีใครเห็น ในนี้มีคนนั่งดูหนังไม่ถึงสิบคน แต่ละคนนั่งห่างออกไป

“เมื่อไหร่จะเลิกขี้กลัวนะ ถ้าไม่มีป๊าจะทำยังไง”

เขาพูดเหมือนบ่นเล็กน้อย สิ่งที่เขาห่วงมากที่สุดในตอนนี้ก็คือคะนิ้ง เธอใสซื่อและอ่อนไหวเกินไป ส่วนหนึ่งก็คงจะเป็นเพราะเขาที่เฝ้าประคบประหงมเธอมาตลอด ไม่ผิดเลยที่เธอจะเป็นเช่นนี้

“หนู…หนูไม่รู้ค่ะ” คะนิ้งตอบเขาเสียงเบา เธอตอบตามความรู้สึกในตอนนั้น แน่นอนว่าเธอนึกไม่ออกจริง ๆ หากวันใดวันหนึ่งไม่มีเขาให้พึ่งพาแล้ว ชีวิตเธอจะเป็นในแนวทางไหนก็ไม่อาจนึกออกได้

“หมดแล้ว” ภูผาเอ่ยปากบอกอีกคนพร้อมกับลดมือลง เปลี่ยนมานั่งในท่าปกติ

“ขอบคุณนะคะป๊า”

คะนิ้งเอ่ยขอบคุณชายหนุมเสียงหวาน พร้อมกับขยับตัวเข้าชิดอีกฝ่ายมากขึ้น หน้าอกหน้าใจที่มีขนาดใหญ่เกินตัวจนกระดุมชุดนักศึกษาแทบปริแตก ก็ถูกดันเข้าหาเเขนแกร่ง เธอจงใจกระแซะเบียดกายเข้าหาเขาอย่างเอาใจ พร้อมกับเกาะแขนข้างซ้ายเขาไว้แน่น ศีรษะเอียงซบไหล่หนาราวกับหาที่พึ่ง เพื่อแอบหลับพักสายตาสักหน่อย

“ชวนมาให้หนังดูอีกแล้ว”

คนแก่แบบเขาก็ได้แต่บ่นพึมพำไปอย่างนั้น ให้ขัดใจหรือปฏิเสธเธอ คงไม่มีทางเป็นไปได้ เขาเต็มใจยื่นไหล่ให้เธอซบแถมยังลูบเรือนผมนุ่มให้เธอหลับสบายมากขึ้น ถือซะว่าเป็นของแถมให้เด็กน้อยของเขาก็แล้วกัน

ภูผายังคงนั่งดูหนังต่อจนจบ ส่วนคะนิ้งน่ะหรือนั่งหลับให้หนังดู แทบจะทุกครั้งเวลามาดูหนังด้วยกัน หรือแม้กระทั่งดูอยู่บ้านเธอก็มักจะเป็นแบบนี้ เขากลับไม่ได้มองว่าเป็นข้อเสียแต่มองว่าน่ารักต่างหาก ในสายตาเขาคะนิ้งยังเป็นเด็กวัยกำลังกินกำลังนอนด้วยซ้ำ

.

.

.

“เดี๋ยวหนูไปเข้าห้องน้ำนะคะ”

หลังจากออกจากโรงหนังมาเธอก็เกิดปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ จึงเอ่ยปากบอกเขา ภูผาพยักหน้าทันที เขายินดีที่จะยืนรอเธออยู่บริเวณด้านหน้านี้

“ได้ครับ เดี๋ยวป๊ารอหนูอยู่ตรงนี้นะ”

“ค่ะ”

คะนิ้งรีบเดินออกมาเพื่อเข้าห้องน้ำ หลังจากที่เธอทำธุรเสร็จเะป็นที่เรียบร้อยก็ออกมาล้างมือหน้ากระจก และไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ เมื่อคนที่ยืนส่องกระจกเติมหน้าอยู่คือเพื่อนในคณะของเธอ ซึ่งแน่นอนว่าไม่สนิทกันเท่าไรนัก แต่สาวเจ้าคนนั้นก็บังเอิญอยากทักทายเธอขึ้นมาซะอย่างนั้น

“อ้าว คะนิ้งมาดูหนังเหรอ?”

“อ๋อ ใช่ ๆ เพิ่งดูจบจะกลับแล้วแหละ” คะนิ้งตอบกลับพร้อมกับส่งยิ้มให้สาวผมยาวอีกคนเป็นมารยาท

“มากับใครเหรอ? เมื่อกี้เห็นมีผู้ชายยืนอยู่ด้วย”

นี่คงไม่บังเอิญแล้วสินะ แสดงว่าเพื่อนในคณะเธอต้องเห็นเข้าแล้วว่าเธอมากับใคร แต่ก็ไม่มีอะไรน่าปิดบังนี่นา เธอกับเขาคบกันไม่ใช่เรื่องผิดอะไร คะนิ้งจึงตอบกลับอีกฝ่ายด้วยโทนเสียงเดิม

“มากับปะป๊าน่ะ”

“พ่อเหรอ?!” อีกฝ่ายคงจะลืมตัวเผลอแสดงสีหน้าตกใจขั้นสุด ไม่แน่ว่าอาจจะสนใจเรื่องของเธอจริงจังเข้าเเล้ว

“เปล่า แฟน ไม่ใช่พ่อ”

เธอหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เมื่อเจออีกฝ่ายยิงคำถามแบบนั้นมา มองอย่างไรถึงคิดว่าเขาเป็นพ่อเธองั้นหรือ เอ๊ะ! หรือเป็นเพราะสรรพนามที่เธอใช้เรียกแทนชื่อเขากันนะ

“เอ้าเหรอ? ดีจัง เพิ่งรู้นะเนี่ยว่านิ้งมีแฟนรุ่นใหญ่ด้วย เห็นเงียบ ๆ มาตั้งนาน”

เธอฟังดูแล้วไม่ได้รู้สึกว่านี่เป็นคำชมเลยสักนิด กลับรู้สึกว่าสีหน้าและแววตาที่มองมากระทั่งคำพูดก็ดูเหมือนหยันเธอซะมากกว่า คงมองว่าเธอร้ายเงียบแอบมีแฟนรุ่นใหญ่ไว้คอยเลี้ยงดูสินะ

“ก็คบกันนานแล้วนะ ส่วนมากคนที่สนิทถึงรู้ ส่วนคนที่ไม่สนิทก็คงไม่แปลกที่ไม่รู้” คะนิ้งตอบกลับเสียงเรียบ ไม่มีคำไหนไม่สุภาพแต่อีกฝ่ายกับหุบยิ้ม

“งั้นเราขอตัวก่อนนะ ป๊าจะรอนานน่ะ” คะนิ้งบอกอีกฝ่ายก่อนจะยกมือบ๊ายบาย เธอเดินออกมาจากห้องน้ำตรงดิ่งมายังร่างสูงใหญ่ที่รอเธออยู่

“ไปไหนต่อไหมครับ?”

เพียงแค่เดินมาถึงชายที่ยืนรอเธออย่างกับพ่อรอลูกเข้าห้องน้ำ ก็เอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนหน้านี้คะนิ้งไม่ค่อยสบอารมณ์นัก แต่พอมาเจอใบหน้าหล่อกระชากใจตรงหน้าก็ทำให้เธอลืมความรู้สึกนั้นไปเลย เปลี่ยนมาเป็นยิ้มกว้างให้อีกฝ่ายอย่างเช่นปกติ

“กลับบ้านก็ได้ค่ะ หนูอยากกลับไปอยู่กับป๊า” หญิงสาวเอ่ยเสียงออดอ้อนพลันเกาะแขนเขา

“ได้สิครับ” ภูผาพยักหน้ารับทันที เขาไม่มีทางขัดใจสาวน้อยข้างกายได้อยู่แล้ว

ดีซะอีก เขาเองก็อยากกลับบ้านไปอยู่กับเธอเเล้วเหมือนกัน เขาทนคิดถึงเธอตั้งหลายอาทิตย์กว่าจะเคลียร์งานเสร็จและกลับมาหาเธอได้ เมื่อคืนที่เขายังไม่ได้ทวงค่าความคิดถึงก็เพราะคะนิ้งมีเรียนเช้า ไม่อย่างนั้นล่ะก็ เขาคง…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปะป๊าที่แปลว่าผัวไม่ใช่พ่อ   สัญญาณเตือน

    “หนูไปเรียนแล้วนะคะ”“…”“ป๊าคะ”“ครับ ครับ”เพราะเขานั้นง่วนอยู่แต่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่ตื่นมาก็เอาแต่คุยโทรศัพท์บ้างพิมพ์แชท เธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยจนกระทั่งจะออกไปเรียน อีกฝ่ายก็ยังวุ่นอยู่แต่กับโทรศัพท์เช่นเดิมเขาเงยหน้ามายิ้มให้เธอทีหนึ่ง ก่อนที่จะก้มหน้าสนใจอย่างอื่นต่อ วันนี้เธอคงต้องขับรถไปเรียนเองสินะ“เอ๊ะ”คะนิ้งรู้สึกเอะใจเล็กน้อย เธอเดินลงมายังหน้าบ้านเตรียมเปิดประตูรถเก๋งคันมินิคู่ใจ แต่ทว่ากลับรู้สึกเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งจดจ้องมาที่เธอ เธอรับรู้ได้แบบนั้นจริง ๆพอหันไปยังหน้าบ้านก็มองเห็นเพียงแค่อะไรแว่บ ๆ ผ่านถนนหน้าบ้านไปเท่านั้น หรืออาจจะคิดมากไป ช่วงนี้มีเรื่องให้คิดเยอะจนอ๋องไปหมดแล้ว คงแค่คนเดินผ่านหน้าบ้านหรือไม่ก็เพื่อนบ้านปั่นจักรยานไปซื้อของเท่านั้นล่ะมั้ง“หลอนไปหมดแล้ว”คะนิ้งเปิดประตูเข้าไปในรถ เธอมองเข้าไปในตัวบ้านอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่จะตัดใจขับรถออกไปเรียนด้วยตัวเอง ในระหว่างทางก็คิดอะไรไ

  • ปะป๊าที่แปลว่าผัวไม่ใช่พ่อ   เฉียดเป็นเฉียดตาย

    หลังจากทำผมเสร็จคะนิ้งก็ต้องมาเอางานกับโมเดลที่บ้าน ปล่อยให้คนแก่รออยู่บ้านคนเดียวเกือบชั่วโมง ถึงเวลาจึงบอกลาเพื่อนก่อนกลับ“งั้นฉันกลับแล้วนะเดล”“โอเค เออคะนิ้ง แกได้บอกป๊าเรื่องนั้นยัง”จู่ ๆ โมเดลก็นึกขึ้นได้จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย เรื่องที่ว่าก็คือเรื่องที่คะนิ้งเกือบโดนลากไปปู้ยี่ปู้ยำนั่นเอง“ไม่อ่ะ ยังไม่อยากให้ป๊าไม่สบายใจ”หากเขารู้เขาอาจจะไม่สบายใจ หนักกว่านั้นก็คงรู้สึกผิดและเครียดเป็นแน่ เธออยากให้เขาเครียดแค่เรื่องงานก็พอ จึงได้แต่ปิดปากเงียบไม่เอ่ยถึงเรื่องนั้นให้เขาได้ฟัง“งั้นก็เอาที่แกสบายใจแล้วกัน” คะนิ้งพยักหน้ารับ เธอเก็บใบงานรวมกันก่อนที่จะเดินออกมาจากบ้านของโมเดลวันนี้เป็นวันหยุดสบาย ๆ เธอสวมเพียงเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นธรรมดา เดินกลับเข้าบ้านในช่วงเวลาเกือบหกโมงเย็น ตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว ในบ้านเปิดไฟจนสว่าง ทำให้เธอเห็นเงาตะคุ่ม ๆ ของคนที่อยู่บนชั้นสองของบ้านได้นิดหน่อยคะนิ้งรีบเข้าบ้านมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอตั้งใจว่าตนจะเข้าไปจุ๊บแก้มคนแก่สักฟอด ก่อนที่จ

  • ปะป๊าที่แปลว่าผัวไม่ใช่พ่อ   ชูก้าแด๊ดดี๊

    หลังจากที่โมเดลกลับไปในช่วงสาย คะนิ้งจึงยอมลุกจากเตียงนอนเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย เมื่อคืนเธอนอนคิดหลายเรื่องจนนอนไม่หลับ ตื่นมาร่างกายจึงไม่สดชื่นเท่าไรเธอไม่ได้เล่าเรื่องนั้นให้ใครฟัง รวมทั้งโมเดลด้วย เก็บความสงสัยไว้เพียงคนเดียว รอเธอมั่นใจและหาหลักฐานให้ได้มากกว่านี้เสียก่อนแล้วกัน“อ๊ะ!”แต่ทว่าจู่ ๆ ก็มีมือหนาเข้ามารั้งเอวคอดกิ่ว คะนิ้งที่กำลังจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวตกใจจนสะดุ้ง ด้วยความที่เธอเหม่อลอยจึงไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนแอบย่องเข้ามาในห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!“ป๊าเองครับ”“ป๊า!”นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมัวแต่คิดเรื่องอื่นจนไม่ได้กลิ่นที่คุ้นเคย กลิ่นพิเศษที่มาจากตัวเขา ภูผาแปลกใจเล็กน้อยตั้งแต่เมื่อคืนแล้วที่เธอแปลกไป จนเขาไม่สบายใจรีบกลับมาเร็วกว่ากำหนด“ไหนป๊าบอกจะมาตอนบ่ายไงคะ” คะนิ้งถูกหมุนตัวให้กลับมาสบตากับเขา เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงปกติ แต่เขากลับพบว่ามันไม่เป็นเช่นนั้น ความสับสนบนดวงตากลมคู่สวยที่เขาจ้องมอง มันทำให้เขาไม่สบายใจ“ป๊าคิดถึงหนู เลยกลับมาก่อน”

  • ปะป๊าที่แปลว่าผัวไม่ใช่พ่อ   ข้อความปริศนา

    “แกดีขึ้นบ้างไหมนิ้ง”เป็นโมเดลที่เอ่ยถามด้วยความห่วงใย หลังจากเกิดเรื่องโมเดลก็ตามออกมา และพาคะนิ้งกลับมาบ้านอย่างปลอดภัย โมเดลต้องทนเห็นคะนิ้งร้องไห้เงียบ ๆ แบบไร้เสียงอีกแล้ว เป็นอะไรที่บีบหัวใจที่สุด“คิดถึงปะป๊า~”คะนิ้งยังคงเพ้อแค่คิดถึงปะป๊าของเธอ เวลาที่เธอหวาดกลัวหรือตกใจเธอมักจะคิดถึงเขาเสมอ เธออยากให้เขาอยู่ข้างกายเธอในตอนนี้ แต่ทว่าแม้กระทั่งสายจากเธอเขายังไม่ยอมรับ ไม่รู้ว่างานยุ่งอะไรนักหนา ขนาดที่ไม่สามารถรับสายเธอได้เลย เธอเกือบจะโดนลากไปข่มขืนอยู่แล้ว“เฮ้อ~ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนแกจนกว่าป๊าจะมานะ” โมเดลไม่รู้จะตอบอย่างไร ทั้งเข้าใจและเห็นใจความรู้สึกของคะนิ้งคะนิ้งได้ทุกอย่างที่อยากได้ เธอไม่ขาดเขินสิ่งใดนอกจากเวลาที่จะได้อยู่กับคนที่เธอรัก เธออยากอยู่กับเขา! เธอไม่ได้อยากอยู่กับเงินและสมบัติของเขาซะหน่อย!“ขอบใจนะเดล ฮึก~ แต่แกกลับไปพักผ่อนเถอะ ฉันอยู่คนเดียวได้ฉันชินเเล้ว”ประโยคนั้นราวกับตัดพ้อตัวเองเสียมากกว่า เธออยู่คนเดียวบ่อยจะตายไป จะอยู่อีกวันเป็นไรไป คงไม่ตายสินะ

  • ปะป๊าที่แปลว่าผัวไม่ใช่พ่อ   หายไป

    ณ ผับ A…“รอป๊าเหรอจ๊ะ?”“อื้อ”คะนิ้งที่นั่งหน้าหงอยอยู่ตอบกลับโดยการพยักหน้า เธอสวมชุดเดรสรัดรูปสีแดงเลือดหมู ตัดกับผิวขาวเนียนแบบสุด ๆ ใบหน้าที่สวยเป็นทุนเดิมแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์ก็ยิ่งขับลุคให้เธอดูสวยมากขึ้นไปอีกเอาเป็นว่าเธอเป็นของดีของคณะที่หนุ่ม ๆ ต่างหมายตา แต่ทว่าเธอไม่เคยสนใจใครเลยสักคน เพราะเธอมีเจ้าของหัวใจแล้วนั่นเอง“ไปนานมาก บอกว่าจะไปหาที่จอดรถแต่ป่านนี้ก็ยังไม่มาเลย”คะนิ้งเอ่ยเสียงเศร้าพร้อมกับชะเง้อมองซ้ายทีขวาที เธอเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่เขาจะเดินมาหาเธอที่โต๊ะ อุตส่าห์อ้อนเขาให้มากับเธอได้แล้วเชียว แถมตอนนี้ยัยแก๊งขาสอสระเอือกอไก่ก็นั่งมองมายังฝั่งของเธอหลายหน“หาที่จอดยากมั้ง”“จะยากอะไรขนาดนั้น นี่ครึ่งชั่วโมงแล้วนะ”“งั้นโทรตามดีไหม?”“โทรไปแล้วไม่รับ”คะนิ้งเองก็ได้แต่ถอนหายใจ เธอใจจดใจจ่อรอเขาจนไม่เป็นอันสนุกสนานอย่างคนอื่น เธอดื่มไปเพียงแก้วเดียว ในนี้เป็นงานเลี้ยงคณะ ทุกคนต่างสนุกสนานแต่ท

  • ปะป๊าที่แปลว่าผัวไม่ใช่พ่อ   รางวัล

    “น่ารักที่สุดเลย~” คะนิ้งยิ้มจนตาแทบปิด เธอหอมแก้มสากหนึ่งทีก่อนจะขยับมานั่งยังเบาะข้างคนขับ เพื่อให้อีกฝ่ายขับรถได้สะดวกมากยิ่งขึ้น“อะแฮ่ม” เสียงกระเอมดังขึ้นเรียกให้เธอหันกลับไปมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลา“จับได้นะ ป๊าสมาธิดี”ว่าจบเขาก็เด้งเป้าสองทีเป็นการเชิญชวนอีกฝ่าย จนเธออดขำไม่ได้ ถึงกับหัวเราะจนฟันแทบหลุด“พรืด! ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ตาแก่บ้ากามที่ชอบให้เธอลูบ ๆ คลำ ๆ จนเริ่มติดเป็นนิสัยแล้วสินะ ฟินล่ะซี้~“หัวเราะทำไมครับ?”“หัวเราะปะป๊าไงค่ะ ป๊าหื่น” เธอเอ่ยพลันเล่นหูเล่นตากับอีกฝ่าย“ก็หื่นแค่กับเมียไหมล่ะ ก็มีเมียเด็กนี่นา”“เมีย…”คำพูดที่หลุดออกมาจากปากเขา แม้เธอไม่รู้ว่าเขาตั้งใจเรียกเธอหรือไม่ แต่ทว่ามันกลับทำให้เธอดีใจจนยิ้มไม่หุบ เธอชอบเวลาที่ปะป๊าเรียกเธอว่าเมียเป็นที่สุด เธออยากเป็นเมีย เป็นเมียคนเดียวของเขา...“หนูไม่ชอบให้ป๊าเรียกแบบนี้เหรอครับ?” เขาเอ่ยถามด้วยสีหน้าเครียด มองเธอสล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status