“หนูจะรอป๊านะคะ”
น้ำเสียงบวกกับสายตาแน่วแน่คู่นั้นแล้ว ทำให้หนังหน้าแก่ ๆ ของเขาเกิดร้อนผ่าวขึ้นมาจนได้ เขาเขินเมียตัวเองวันละไม่รู้กี่รอบ
“ป๊าเป็นอะไรหรือเปล่าคะ? หน้าแดงเชียว” คะนิ้งเห็นสีหน้าเขาเปลี่ยนไปก็อดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
“ป๊าแค่รู้สึกว่าหนูสวยขึ้น สวยขึ้นทุกวันเลย”
เขาว่าพลันใช้นิ้วเกลี่ยปอยผมที่หล่นปิดใบหน้าสวยที่เขาหลงใหล แววตาอ่อนโยนการกระทำอันอบอุ่นนี้ช่างเหมือนตอนจีบกันใหม่ ๆ
ดูไม่เหมือนคนเพิ่งทะเลาะกันราวกับจะฆ่าจะแกงกันก็ไม่ปาน ตอนนี้เธอกับเขาปรับความเข้าใจกันเเล้ว ไม่แปลกหากจะกระหนุงกระหนิงกันบ้าง
“ป๊าก็หล่อขึ้นทุกวันเลยค่ะ” เธอเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าชมเขาไม่หยุดปากเช่นกัน ทำเอาอีกคนเขินจนตัวแดงไปหมด
“ไม่ให้ป๊ารักยังไงไหวเนี่ย ฟอด~”
เขาว่าพลันหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ สักพักจึงนึกขึ้นได้ว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่เขาอยู่ จึงรีบดึงตัวคะนิ้งให้ลุกขึ้น
“ป๊าว่าเราไปอาบน้ำดีกว่าจะได้สบายตัว เดี๋ยวป๊าพาหนูไปหาแม่ป๊านะ”
“จริงเหรอคะ?”
“หนูจะรอป๊านะคะ”น้ำเสียงบวกกับสายตาแน่วแน่คู่นั้นแล้ว ทำให้หนังหน้าแก่ ๆ ของเขาเกิดร้อนผ่าวขึ้นมาจนได้ เขาเขินเมียตัวเองวันละไม่รู้กี่รอบ“ป๊าเป็นอะไรหรือเปล่าคะ? หน้าแดงเชียว” คะนิ้งเห็นสีหน้าเขาเปลี่ยนไปก็อดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้“ป๊าแค่รู้สึกว่าหนูสวยขึ้น สวยขึ้นทุกวันเลย”เขาว่าพลันใช้นิ้วเกลี่ยปอยผมที่หล่นปิดใบหน้าสวยที่เขาหลงใหล แววตาอ่อนโยนการกระทำอันอบอุ่นนี้ช่างเหมือนตอนจีบกันใหม่ ๆดูไม่เหมือนคนเพิ่งทะเลาะกันราวกับจะฆ่าจะแกงกันก็ไม่ปาน ตอนนี้เธอกับเขาปรับความเข้าใจกันเเล้ว ไม่แปลกหากจะกระหนุงกระหนิงกันบ้าง“ป๊าก็หล่อขึ้นทุกวันเลยค่ะ” เธอเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าชมเขาไม่หยุดปากเช่นกัน ทำเอาอีกคนเขินจนตัวแดงไปหมด“ไม่ให้ป๊ารักยังไงไหวเนี่ย ฟอด~”เขาว่าพลันหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ สักพักจึงนึกขึ้นได้ว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่เขาอยู่ จึงรีบดึงตัวคะนิ้งให้ลุกขึ้น“ป๊าว่าเราไปอาบน้ำดีกว่าจะได้สบายตัว เดี๋ยวป๊าพาหนูไปหาแม่ป๊านะ”“จริงเหรอคะ?”
ภูผาที่ใบหน้าปรากฏรอยขีดข่วน สีหน้าบ่งชัดถึงอาการไม่พอใจขั้นสุด ทั้งอึมครึมจนน่ากลัว แต่ทว่าพอเห็นว่าเธอตื่นเเล้วก็รีบเปลี่ยนสีหน้าทันที ราวกับไม่ใช่คนคนเดียวกัน“หนูตื่นแล้วเหรอ” รอยยิ้มดีใจผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา เวลานี้ยิ่งทำให้ใจเธอสั่นไหว“...”“อย่าไปโกรธไอ้ผามันเลย มันรักหนูมากเลยนะ หายใจเข้าออกก็มีแต่หนู” อาทิตย์ดูเหมือนจะเข้าใจทุกอย่าง จึงเอ่ยดักขึ้นก่อน“เฮียบอกแล้วเหรอ?” ภูผาถามพี่ชาย“อือ คุยกันเองนะ เฮียไปดูแม่ก่อน”“ครับ”ภูผาพยักหน้ารับ พอพี่ชายตนเดินออกไปยังห้องของผู้เป็นมารดาซึ่งนอนอยู่ข้างกัน ชายหนุ่มจึงรีบเดินเข้ามานั่งลงตรงหน้าเธอ ท่าทางใจเย็นของเขายิ่งทำให้คะนิ้งกำมือเเน่นขึ้น เธอไม่กล้ามองหน้าเขาตรง ๆ เพราะไม่อยากเห็นรอยแผลที่ตัวเธอเองเป็นคนสร้างขึ้น“หนูยังไม่หายโกรธป๊าเหรอ?”“...” ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับภูผาสูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนจะยึดมือเธอมากุมไว้แน่น พลันเอ่ยเสียงเบาอย่างคนรู้สึกผิดและขอโทษไปในที
“โอ๊ย โอ๊ย! ป๊าเจ็บจริงนะเนี่ย”พอเขาพาเธอเข้ามาในรถเรียบร้อย ใช่ว่าจะง่ายอย่างที่คิด คะนิ้งแผลงฤทธิ์ขั้นสุดเช่นเดียวกัน เธอทั้งทุบทั้งตีเขาจนเริ่มเจ็บเข้าแล้วจริง ๆ“ก็ปล่อยหนูไปสักทีสิ!” คะนิ้งยังกัดฟันทุบอีกฝ่ายเป็นเบาะรองมือ จนอีกฝ่ายทนไม่ไหวต้องโทรเรียกใครบางคนทันที“มาขับรถให้เฮียที เร็ว ๆ ”ขืนเป็นแบบนี้เขาคงขับรถไม่ได้จริง ๆ นั่นแหละ หากไม่จับตัวเธอไว้มีหวังขับรถไปแหกโค้งกันพอดี คนที่เขาโทรหาเมื่อกี้คือเลขาเขาเอง ก่อนหน้านี้ไม่เคยโผล่มาหรอก เพราะหากมาที่นี่เขาจะให้หาโรงแรมพัก เพราะเขานั้นต้องอยู่กับคะนิ้ง ไม่อยากให้หมอนั่นมาเห็นเข้า“นิ้ง นิ้ง หนูใจเย็น ๆ มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันก็ได้นี่ครับ ตีป๊าแบบนี้บาปนะ”เขาถึงขั้นต้องเอาเรื่องบาปบุญมาอ้าง เพราะคะนิ้งยังทุบตีเขาไม่ยั้งมือ เธอเก็บกดอะไรขนาดนั้นกัน เธอไม่เคยทำตัวก้าวร้าวแบบนี้มาก่อนนี่?“เหอะ! บาปงั้นเหรอ?”“แล้วคนที่มันนอกใจเมียตัวเองมามีคนอื่นล่ะ? แล้วลากคนที่มันไม่รู้เรื่องอะไรให้เป็นคนเลวไปด้วย แบบนี
“เด็กดี”“!!!”เสียงหลอนหูดังขึ้นหน้าประตูห้องนอน คะนิ้งที่กำลังง่วนอยู่กับการเก็บของสำคัญก็ตกใจขีดสุด ดวงตากลมเบิกกว้าง ภายในตาเกิดเส้นสีเเดงฉาน นั่นเพราะความโกรธและเจ็บปวดเเล่นพล่านในใจ บวกกับที่เธอร้องไห้อยู่นานดวงตาจึงยิ่งน่ากลัว“หนูเปิดประตูให้ป๊าหน่อยได้ไหมคะ ป๊าอยากเข้าไปหา” คนด้านนอกเอ่ยด้วยโทนเสียงอบอุ่นและอ่อนโยนช่างน่าสะอิดสะเอียนสิ้นดี …เธอกำหมัดกัดฟันเเน่น คิดหาทางว่าจะหนีไปจากผู้ชายใจร้ายคนนี้อย่างไรดี!“......”“ป๊าขอโทษนะ” น้ำเสียงเขาฟังดูเศร้าสร้อย หากเป็นเมื่อก่อนคะนิ้งคงเชื่อสนิทใจไปแล้ว แต่ตอนนี้กลับตรงกันข้ามรักมากก็ยิ่งเจ็บมาก รักได้ก็เกลียดได้เช่นเดียวกัน!“ป๊ายอมรับผิดทุกอย่างเเล้วครับ เปิดประตูให้ป๊าหน่อยนะคนดี”ภูผาที่ยืนอยู่หน้าประตู มือถือดอกไม้ช่อใหญ่ แม้ใบหน้าและแววตาจะฉายชัดถึงอาการเหนื่อยล้า แต่ทว่าเขากลับปรับน้ำเสียงให้ฟังดูปกติที่สุด เขายอมรับผิดทุกอย่าง เขากระทำสิ่งที่ไม่ควรกระทำลงไปจริง ๆ เพราะขาด
“!!!”คะนิ้งยืนตะลึงค้าง จู่ ๆ เธอก็โดนชี้หน้าพร้อมกับถูกพ่นคำด่าจนหน้าชา!“หน้าตาก็ดีแต่ไม่มีสมอง!”“นี่คุณ! มันจะมากเกินไปแล้วนะ!” หญิงสาวกำหมัดแน่น พยายามข่มกลั้นอารมณ์สุดชีวิต แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่สนเลยสักนิด ยังคงพูดต่อไม่ยอมหยุด“มันไม่มากเกินไปสำหรับยัยเด็กใจแตกชอบแย่งผัวชาวบ้านแบบเธอหรอกนะ”เธอคนนั้นยังคงยืนด่าเธอฉอด ๆ ต่อหน้าผู้คนมากมายที่มาเดินตลาด คะนิ้งถึงกับยืนนิ่งหน้าชา เมื่อจู่ ๆ ก็โดนตราหน้าว่าไปแย่งผัวชาวบ้าน ทั้ง ๆ ที่เธอมีแฟนแล้ว เขาเป็นผู้ชายที่ดูแลเธออยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น เขาไม่เคยบอกเธอเลยว่ามีภรรยาอยู่แล้ว เธอเองก็ไม่เคยสงสัยมาก่อน จนกระทั่งวันนี้“นะ หนูเปล่านะ หนูไม่เคยแย่งผัวใคร”หญิงสาวที่ใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมา เธอยืนกำหมัดไม่คลาย สายตาก็มองรอบตัว ที่เวลานี้มีคนมามุงดูอย่างคนอยากรู้อยากเห็นเรื่องชาวบ้าน ตอนนี้เธอทั้งอายทั้งเสียใจ เธอก็อยู่ของเธอดี ๆ แต่กลับต้องมาโดนด่าเช่นนี้“เหอะ ตอแหล ถ้าแกไม่แย่งมาพี่ภูผาเขาไม่มีทางเลิกกับฉันมาเ
“อื้อ~~”เสียงดังอู้อี้ในลำคอเมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้น แม้ร่างกายจะระบมซ้ำยังเหนื่อยล้าจนแทบไม่อยากตื่น แต่ก็ต้องฝืนร่างกายตนเองลุกให้ไหว สาเหตุล้วนมาจากเมื่อคืนทั้งนั้น เพราะการกระทำรุนแรงป่าเถื่อนของคนที่เธอรัก ซึ่งบัดนี้ข้างกายไร้วี่แวว เขาหายไปแล้ว…“ฮึก~”เสียงสะอื้นถูกกลืนลงอก ยิ่งพอเธอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนก็ยิ่งปวดหนึบในใจ น้ำตาพลันไหลอยู่รอมร่อ เธอที่เคยถูกรักถูกทะนุถนอมมาดุจเจ้าหญิง แต่ทว่าเพียงชั่วข้ามวันข้ามคืนเขากลับปฏิบัติกับเธอเหมือนวัตถุระบายอารมณ์วัตถุทางเพศ?ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เธอไม่สมควรถูกกระทำแบบนี้ด้วยซ้ำหายไปอีกแล้ว...คะนิ้งพาร่างเปลือยเปล่าเข้าห้องน้ำ มองหาเขาคนนั้นก็หาไม่เจออีก เธอได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับยกมือเรียวขึ้นปาดน้ำตาที่ห้ามไม่อยู่ ยิ่งพอในกระจกปรากฏร่างขาวเนียนที่มีทั้งรอยเเดงรอยช้ำเด่นชัด ยิ่งเธอผิวขาวยิ่งทำให้รอยนั่นชัดเจนและตอกย้ำว่าเธอโดนกระทำอย่างไรแถมครั้งนี้ยังไร้ซึ่งคำขอโทษ ไร้ทั้งเงาคน......&ldqu