ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าจะพาครอบครัวก้าวผ่านปัญหาในครั้งนี้ไปให้ได้ด้วยวิธีไหน!เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็ไม่เห็นจะมีทางออกเลยสักทาง
“ทางนั้นเขาส่งคนมาข่มขู่อีกแล้วเหรอคะ” ไม่ผิดไปจากนี้แน่ ไม่อย่างนั้นบ้านทั้งหลัง คงไม่กระจัดกระจายไปด้วยข้าวของมากมายแบบนี้ ลำพังแค่ป้าเธอทำทุกอย่างคนเดียวไม่ได้หรอก!
“ไม่ใช่แค่นั้นนะ! ก่อนกลับพวกมันยังพากันยกแจกันจีนโบราณของฉันติดมือไปด้วย นี่ฉันจะทำยังไงดียัยเอม! แกพอจะมีเพื่อนฝูงให้หยิบยืมเงินมาสักหน่อยไหม” อย่างน้อยถ้าจ่ายดอกไปก่อน บางทีทางนั้นอาจให้เวลานางกับครอบครับเพิ่มขึ้นอีกสักนิด
ก็ไหนว่าเห็นแก่ความสัมพันธ์อันดีงามที่เคยมีร่วมกันมาไง! มาทำแบบนี้มันเท่ากับหยามศักดิ์ศรีกันชัดๆ แล้วนี่น่ะหรือ คือสิ่งที่นางผู้สืบสายเลือดหม่อมสมควรจะได้รับ!
“ไม่มีหรอกค่ะคุณป้า เพื่อนเอมแต่ละคน ก็ลูกชาวบ้านหาเช้ากินค่ำกันทั้งนั้น” เอมมิกาตอบกลับผู้เป็นป้าอย่างจนใจ ใช่ว่าไม่อยากช่วย แต่เพื่อนของเธอแต่ละคนก็มีชีวิตลำบากไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่ ครั้นจะให้แบกหน้าไปหยิบยืมมา ก็คงได้มากสุดแค่หลักพันเท่านั้น
“แล้วนี่ฉันจะทำยังไงดี!” อีกฝ่ายยังคงคร่ำครวญถึงความโชคร้ายในชีวิต ที่ไม่ว่าจะมองมุมไหน ก็เหมือนว่ามันจะมืดบอดไปหมด!
อย่าว่าแต่หาเงินมาใช้หนี้เลย เงินในบัญชีที่มี ก็เริ่มจะหมดลงไปทุกวัน เพราะบริษัทขาดทุนมาเป็นเวลานาน อีกทั้งนางเองยังไม่มีหัวการค้า คนที่พอจะรู้เรื่องก็ดันมาด่วนชิงตายไปเสียก่อน
ซ้ำยังไม่ตายไปเปล่า แต่ทิ้งหนี้สินไว้ให้ดูต่างหน้าด้วยอีก!
“หรือฉันต้องตายตามลุงของแกไปอีกคน! แบบนั้นเรื่องทุกอย่างมันจะจบไหม ฉันอยากตาย ฉันอยากตายไปเสียให้พ้นๆ” อยู่ไปก็มีแต่จะอายคนเปล่าๆ ตายไปเลยเสียยังจะดีกว่าจะได้จบๆ ไป! และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย....ที่ความคิดเหล่านี้ว่ายวนเข้ามาในหัว หากไม่ติดว่าเป็นห่วงลูก กลัวว่าอีกฝ่ายอาจได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจโง่ๆ ของตัวเอง นางคงตัดสินใจทำไปนานแล้ว อย่างน้อยๆ ก็ไม่ต้องทนอยู่ให้อับอายชาวบ้านชาวช่องเขาแบบนี้!
“คุณป้า! อย่าคิดแบบนั้นนะคะ เอมจะไปเจรจากับเขาเองค่ะ!” เธอทนเห็นป้าตกอยู่ในสภาพนี้ไม่ได้อีกแล้ว ทนไม่ได้แล้วจริงๆ แม้จะสำนึกดีว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ทางนั้นต้องการตัวมาตั้งแต่แรก แต่ถึงจะรู้แบบนั้นก็ยังอยากลองพยายามดูสักครั้ง อย่างน้อยก็ขอให้เธอได้ลอง!
“แกเนี่ยนะจะไปเจรจา น้ำหน้าอย่างแกจะไปทำอะไรได้!” ขนาดนางที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ทางนั้นมันยังตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้า ประสาอะไรกับหลานสาวสามี มากสุดก็คงแค่ถูกไล่กลับมา!
หากฝ่ายนั้นไม่ย้ำชัดว่าต้องการแค่เพียงลูกสาวของนางคนเดียวเท่านั้น บางทีนางอาจจะเกลี่ยกล่อมให้หลานสาวสามีไปแทน ซึ่งก็เชื่ออย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่าเอมมิกาจะไม่ปฏิเสธคำขอ!
“เอมจะลองไปขอร้องเขาดูค่ะ เผื่อว่าเขาจะยอมให้เราผ่อนผัน คุณป้าให้เอมลองนะคะ เอมสัญญาค่ะ ว่าจะทำทุกอย่างให้เขายอมตกลงให้ได้” คำพูดนี้เองที่มันทำให้คนฟังชะงัก ซึ่งจะว่าไปแล้ว ลองดูก็ไม่ผิดนัก ในเมื่อตอนนี้นางไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
ไม่มีแล้วจริงๆ
เอมมิกาเดินทางมายัง ‘จุดนัดพบ’ เจ้าหนี้หน้าเลือด ด้วยหัวใจที่ยังเต้นกระหน่ำไม่หยุด เธอไม่แน่ใจว่าการมาของตัวเองจะเกิดผลมากน้อยแค่ไหน แต่เพื่อป้ากับพี่สาวแล้ว เธอยอมทำทุกอย่าง ไม่ว่ามันจะยากเย็นสักแค่ไหน ขอแค่สิ่งนั้นมันเปลี่ยนใจ ‘เขาคนนั้น’ ได้ เธอพร้อมจะทำทุกอย่างจนกว่าเขาจะยอมใจอ่อน!
“คุณ...คือคนที่คุณหญิงส่งมาใช่ไหมครับ” ผู้ชายวัยกลางคนที่เดินออกมารับกันเอ่ยถามขึ้น เหมือนจะไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นัก แต่แถวนี้นอกจากคนตรงหน้าแล้ว เขาก็ไม่เห็นว่าจะมีใครคนไหนสวมชุดสีฟ้าครามตามคำบอกกล่าว ที่เพิ่งได้รับมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้อีกเลย
‘ดิฉันส่งคนไปเจรจาเรื่องหนี้สินที่ทางเราติดค้างเอาไว้ ได้โปรดให้เธอเข้าพบเจ้านายของคุณสักครั้งเถอะนะคะ ถือว่าฉันขอร้องก็ได้ จะให้ไหว้ฉันก็ยอม เธอสวมชุดเดรสสีฟ้าคราม ตัวเล็กๆ คุณหาเธอเจอไม่ยากนักหรอก ไม่แน่บางทีเธออาจเปลี่ยนใจเจ้านายคุณเรื่องหนี้…’ ไม่ทันที่เขาจะได้รับปากอะไรกลับไป อีกฝ่ายก็ชิงวางสายหนีไปเสียก่อน ทำให้เขาต้องวิ่งหน้าตั้งลงมารับแขกยามวิกาลอย่างเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งเจ้านายเองก็อยากเจอคนที่ฝ่ายนั้นส่งมาเพื่อเจรจาเช่นกัน
‘ไปรับมา ฉันอยากจะรู้เหมือนกันว่าฝ่ายนั้นจะมาไม้ไหน
“คุณโสก็สวยค่ะ เหมาะสมกับพี่คีมากด้วย งานแต่งของพวกคุณเอมอาจไม่ได้ไป ถ้ายังไงขออวยพรล่วงหน้าเลยก็แล้วกันนะคะ” เจ้าของเสียงหวานขานรับ ก่อนจะหันไปมองรักแรกของตัวเองนานร่วมนาที…”เอมขอให้พี่คีมีความสุขมากๆ นะคะ เอมเชื่อว่าคุณโสจะทำให้พี่คีมีความสุขค่ะ” ถ้าเพียงแต่เขายอมเปิดใจสักนิด บางทีอาจได้เห็นบางสิ่งจากดวงตาคู่สวยคู่นั้น ที่จนกระทั่งตอนนี้มันก็ยังจดจ้องอยู่ที่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ทั้งหมดนี้ทำให้เธอเหมือนได้ย้อนกลับไปมองดูตัวเองอีกครั้ง ตัวเองที่เคยตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ ก่อนที่ความเป็นจริงจะผลักให้เธอตื่นจากฝัน ตื่นขึ้นมาพบว่าเธอกับเขานั้นแตกต่างกันแค่ไหน แต่กับผู้หญิงตรงหน้านี้โชคดีกว่าเธอมากที่เกิดมามีพร้อมทุกสิ่ง จะเหลือก็แค่ต้องพยายามอีกสักนิด ทำให้พี่คีรักให้ได้ก็เท่านั้น! “ช่างเรื่องของพี่เถอะ ว่าแต่เอมเถอะ มั่นใจแล้วจริงๆ ใช่ไหม ว่าทั้งหมดนี้คือความรัก” เรื่องราวระหว่างเอมมิกากับผู้ชายคนนั้นเกิดขึ้นเร็วเกินไป นั่นเลยทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเป็นความรักอย่างที่เธอบอกจริงๆ เพราะหากไม่ใช่ความรัก เอมมิกาก็ยังพอมีโอกาสจบทุกสิ่ง และถ้าหากเธอเลือกแบบนั้น
หลังจากได้เมียกลับคืนมา กานต์ก็แทบไม่ยอมให้อีกฝ่ายคลาดสายตาไปไหน การกระทำนั้นเองที่มันทำให้เอมมิการู้สึกอึดอัดไม่น้อยสุดท้ายเมื่อทนไม่ไหวถึงได้ตัดสินใจเปิดอกพูดคุยกับเขาตรงๆ “เอมไปแค่ร้านกาแฟเอง พี่กานต์ไม่ต้องไปด้วยก็ได้” ทะเบียนสมรสก็ยอมจดด้วยแล้วแท้ๆ ไม่รู้จะกลัวเธอหนีไปไหนอีก “ก็พี่อยากไปด้วย” “เอมไม่หนีไปไหนแล้วค่ะ นี่พี่กานต์ไม่เชื่อใจเอมเหรอคะ” “ก็ได้ครับ แต่ห้าโมงต้องถึงบ้านนะ ไม่อย่างงั้นพี่จะออกไปรับด้วยตัวเองจริงๆ” หญิงสาวรับคำพร้อมรอยยิ้ม และไม่ลืมขยับไปจูบเบาๆ ที่แก้มสาก แทนคำขอบคุณที่เขาทำตัวน่ารักมากขึ้นไปทุกวัน แม้จะจดทะเบียนกันแล้ว หากแต่สิ่งที่กานต์หวังจะทำให้ภรรยานั้นกลับเป็นสิ่งที่สร้างความปวดหัวให้กับเขาไม่น้อย และถ้าไม่ใช่เพราะอยากเห็นเมียรักมีความสุขที่ได้สวมใส่ชุดเจ้าสาวสวยๆ ให้ตายเขาก็คงไม่มานั่งอยู่ที่นี่ตรงนี้ ต่อหน้าผู้เป็นป้าของเธอแน่! “แค่รักอย่างเดียวมันไม่ได้หรอกนะคะ ถึงยัยเอมจะเป็นหลาน แต่ดิฉันกับสามีก็เลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีไม่ต่างอะไรกับลูกแท้ๆ ของตัวเองเลยสักนิด แล้วอยู
“นี่เมลต้องหางานใหม่อีกแล้วเหรอคะ เสียดายจัง!” อีกฝ่ายบ่นอุบอิบ ก่อนจะลอบยิ้มเมื่อเพื่อนสนิทยืนยันบางสิ่งกลับมาเบาๆ “ไว้ผมจะหางานที่เหมาะสมกับคุณให้ ต้องขอโทษคุณด้วยจริงๆ” เพราะเมียไม่ปลื้ม เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องขอร้องให้เพื่อยุติการทำหน้าที่พี่เลี้ยงของลูกเป็นการถาวรนับตั้งแต่วันนั้นที่เอมมิกาหนีไป ซึ่งอีกฝ่ายก็พร้อมที่จะเข้าใจถึงความจำเป็นของเขา “เมลจะยกโทษให้ ถ้าคุณตามหาน้องเอมให้เจอ ถ้าไม่เจอก็อย่าฝันเลย ว่าเมลจะยอมให้อภัย!” นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้สนทนากับอีกฝ่ายตามลำพัง ก่อนที่จะส่งเธอไปทำงานในสำนักงานของไร่ ซึ่งก็เหมือนว่าเมลจะชอบงานนั้นมากกว่างานพี่เลี้ยงเสียอีก! “นายครับ”เสียงเรียกจากคนสนิททำให้คนที่กำลังคิดอะไรเงียบๆ ตามลำพังเงยหน้าขึ้น ทันทีที่ได้เห็นสีหน้าของอีกฝ่าย ก็รู้ได้ทันทีว่างานที่เขาสั่งให้ไปทำนั้น คงจะล้มเหลวไม่เป็นท่าเหมือนทุกที “จ้างนักสืบเพิ่มอีก แพงแค่ไหนฉันก็พร้อมจ่าย!” ขอแค่ให้เขาได้เจอเมียอีกครั้ง ต่อให้ต้องเสียมากกว่านี้เขาก็พร้อมจ่ายอย่างไม่ลังเล ให้มันรู้กันไปเลยว่านักสืบพวกนั้นจะไร้ประสิทธิภาพถึ
ร่องรอยของคราบน้ำตาหยดแล้วหยดเล่ายังหลงเหลือให้ได้เห็น มันทำให้อดคิดไม่ได้เลยว่ากว่าจะข่มใจเขียนไอ้จดหมายบ้าๆ ฉบับนี้เสร็จ เมียเขาต้องเสียน้ำตาไปมากสักแค่ไหนกัน! แล้วเรื่องอะไรต้องมาบอกให้เขากับลูกแบ่งพื้นที่ว่างให้คนอื่น ในเมื่อที่ตรงนั้นมันเป็นของเธอ เธอเท่านั้นไม่ใช่ใครที่ไหนก็ได้! กานต์ใช้เวลาตลอดทั้งวันที่เหลือหมดไปกับการตามหาแม่ของลูกในสถานที่ที่คิดเอาเองว่าเธอน่าจะไป นี่ถ้าไม่ติดว่าเคยเห็นการปะทะคารมของเมียกับคุณหญิงนั่นในงานเลี้ยงมาก่อนเขาอาจจะบุกไปที่บ้านของหมอนั่นแล้ว สุดท้ายที่ทำได้ก็มีแค่ขอให้พี่สาวเมียช่วยสืบให้ ก่อนจะพบว่าเอมมิกาไม่ได้ไปอยู่กับหมอนั่น ‘เอมเขาก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ เวลารู้สึกอะไรมักจะไม่ค่อยพูดออกมา แม้แต่สิเองก็ยังไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าน้องต้องเจอกับอะไรบ้าง รบกวนคุณช่วยตามหายัยเอมให้เจอทีนะคะ ถึงตอนนั้นถ้าพวกคุณไม่รักน้องสาวของสิแล้วก็ไม่เป็นไร น้องแค่คนเดียวสิดูแลเองได้’ เป็นสิตาที่ตัดสินใจเอ่ยขึ้น หลังจากได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับน้องสาวของตัวเองจนจบ แน่นอนว่าพอได้รู้มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิด ที่ปล่อย
ตีห้าไม่ขาดไม่เกิน คนที่ไม่ได้นอนเลยตลอดทั้งคืนก็ค่อยๆ ขยับลุก สิ่งแรกที่ทำคือไปเคาะประตูห้องพี่เลี้ยงเพื่อขอลูกคืน ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมส่งแกให้แต่โดยดี นั่นเลยทำให้เธอมีโอกาสได้จูบลาลูกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะต้องปล่อยแกไว้กับพ่อไปตลอดกาล “เป็นเด็กดีของพ่อกับย่าทวดนะปกป้อง แม่ขอโทษที่อยู่กับหนูไม่ได้” เธออยากอยู่กับลูก อยากอยู่กับเขาในทุกช่วงชีวิต แต่เพราะรู้ว่าตัวเองเป็นใคร จึงไม่กล้าแม้แต่จะคิดไปไกลเกินกว่านี้ มีเพียงสิ่งเดียวที่เธอมั่นใจ นั่นคือลูกของเธอจะมีความสุขหากอยู่ที่นี่ แกจะมีพ่อที่พร้อมจะดูแล ซ้ำยังมีย่าทวดคอยปกป้องตามชื่อที่ท่านเป็นคนตั้งให้ตั้งแต่วันแรกที่รู้เพศ หญิงสาวใช้เวลาพักใหญ่ก่อนจะพาลูกกลับไปส่งคืนให้กับพี่เลี้ยงสาว ที่ในอนาคตอีกฝ่ายอาจมีโอกาสขยับไปเป็นอะไรที่มากกว่านั้น ดูได้จากที่หลายๆ คนที่เหมือนจะรักและเอ็นดูมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคุณย่าของกานต์ ที่มักจะชวนอีกฝ่ายไปกินข้าวด้วยบ่อยๆ แต่เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องที่เธอให้ความสนใจเท่ากับเรื่องลูกชายเธอ ขอแค่อีกฝ่ายรักและพร้อมที่จะปกป้องแก เธอรับได้ทั้งนั้นถ้าหากอนาคตลูกเธอจะต้อ
เอมมิกาไม่ได้บอกเล่าถึงเงื่อนไขที่มีต่ออีกคนให้พ่อของลูกได้รับรู้ กานต์จึงคิดเอาเองว่าบางทีย่าของเขาอาจจะแค่โกรธ ไม่นานความรู้สึกเหล่านั้นก็คงบางเบาลงจึงไม่ได้เอะใจสงสัย ในขณะที่เอมมิกาเองก็ทำตัวเป็นปกติ ด้วยรู้ดีว่าเวลาที่จะได้อยู่กับพ่อของลูกนั้น เหลือน้อยลงทุกวัน… “วันนี้หนูทำอะไรบ้างครับ แล้วคนที่บ้านใหญ่มากวนใจรึเปล่า” เป็นเสียงเข้มที่ดังขึ้นอย่างอดห่วงไม่ไหว แม้จะรู้ดีว่าเนื้อแท้ของผู้เป็นย่านั้นไม่ใช่คนใจร้ายอะไรเลย แต่ก็ไม่อยากไว้ใจอยู่ดี “เอมอ่านหนังสือค่ะ ส่วนคุณย่าท่านไม่ได้ทำอะไร นอกจากให้คนเอาของพวกนี้มาให้” พอเห็นของที่ว่ากานต์ก็ถึงกับลอบยิ้ม เพราะแต่ละอย่างนั้นคือของบำรุงครรภ์แทบจะทั้งสิ้น ลองมาแบบนี้ดูท่าว่าเรื่องที่จะทำให้ย่ายอมใจอ่อน ให้อภัยกันคงไม่ยากอย่างที่คิด เขาก็แค่ต้องรอเวลาให้ท่านใจเย็นลงกว่านี้อีกนิดก็เท่านั้น… หลายเดือนต่อมา ตลอดหลายเดือนมานี้ทุกคนดูแลเธอเป็นอย่างดี ในขณะที่เธอเองก็มีความสุขทุกวันที่ได้อยู่ที่นี่ ตราบเท่าที่เขายังอยู่ตรงนี้ด้วยกัน ส่วนอดีตคนรักของเขานั้นถูกไล่ออกไปจากที่นี่ตั้