공유

2/3 สวมรอย

last update 최신 업데이트: 2024-12-18 15:51:51

ห้องขังสำหรับเหยาอี้เหยาเป็นเรือนหลังหนึ่งที่ปิดตาย นางได้รับเสื้อผ้าชาวเผ่าที่กันหนาวได้ดีและอาหารหนึ่งสำรับ

รสชาติของอาหารสมกับการเป็นอาหารแห้ง เนื้อวัวเหนียวจนกัดไม่ขาด ทั้งยังเหม็นหืนจนกินไม่ลง หญิงรับใช้นอกด้านนามว่าอามู่ จึงไปแอบตุ๋นน้ำแกงมาให้นางหนึ่งชาม

น้ำแกงอุ่นๆ รสชาติกลมกล่อมทำให้เหยาอี้เหยาพอจะคลายความตื่นกลัวและอบอุ่นขึ้นมาบ้าง

อามู่แม้จะพูดภาษาฮั่นไม่ได้ แต่นางดูแลเหยาอี้เหยาอย่างดี เห็นนางเครียดก็จุดกำยานกลิ่นหอม ทั้งยังเฝ้าอยู่ไม่ห่างพร้อมฮัมเพลงกล่อมเด็ก ความจริงใจของอามู่ทำให้นางผ่อนคลายและหลับไปได้บ้าง

ทว่ากลางคืนเหยาอี้เหยาฝันร้าย นางเห็นภาพคนตายรายล้อม นางจึงวิ่ง ด้านหลังได้ยินเสียงอึกทึก ครั้นหันกลับไปมองก็เห็นจี๋เฉวียนที่ใบหน้าบิดเบี้ยวกำลังไล่หลังมา นางตกใจจนสะดุดล้ม มีดเล่มยาวที่จี๋เฉวียนยกขึ้นฟาดลงมาบนตัว แล้วนางก็ตื่นขึ้นบนเตียง

“ไม่นะ!”

เหยาอี้เหยารู้ตัวว่าเมื่อครู่เป็นแค่ฝันร้าย แต่นางกลัว หัวใจเต้นแรงและเหงื่อผุดพราวเต็มใบหน้า ยิ่งปิ่นของท่านแม่ไม่อยู่กับนาง นางก็ไม่รู้จะสงบใจได้อย่างไร

“อามู่!” เหยาอี้เหยาร้องคำเดียว อามู่ที่นอนอยู่ด้านนอกรีบผลักประตูเปิดเข้ามา เมื่อได้ระยะที่เอื้อมถึง นางก็กอดเอวอามู่ไว้แน่น

สองมืออามู่กอดเนื้อตัวที่สั่นเทาของเหยาอี้เหยา พร้อมกับปลอบประโลมให้นางเย็นลง สักพักใหญ่ๆ เหยาอี้เหยาก็ดีขึ้น

“ดีขึ้นไหม…” สำเนียงแปร่งหูของอามู่เอ่ยถาม พร้อมใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้นาง

“ดีขึ้นแล้ว อามู่ ขอบคุณท่านมากที่มาปลอบใจข้า” เหยาอี้เหยาไม่ได้รับอ้อมกอดเช่นนี้มานานแล้ว นับตั้งแต่ท่านแม่จากไป นางจึงโหยหาอย่างสุดหัวใจ

“นอนนะ พรุ่งนี้ เหนื่อย” ภาษาฮั่นของอามู่จำกัด นางจึงพูดได้เท่านี้ แต่เหยาอี้เหยาก็เข้าใจดี

“อามู่ ท่านนอนกับข้าได้ไหม” อามู่ทำท่าคล้ายจะปฏิเสธ เหยาอี้เหยาจึงอ้อนขอ จับมือนางไว้แน่น เช่นนี้อามู่ก็ได้แต่ต้องพยักหน้า

เหยาอี้เหยานอนหลับในอ้อมกอดของอามู่จนเช้า

ยามเช้าแสงแดดไม่ขึ้น ทุกหนแห่งจึงหมองมัว อามู่ตื่นก่อนหน้าเหยาอี้เหยาหนึ่งชั่วยาม

นางจัดเตรียมน้ำอุ่นให้นางล้างหน้า ป้วนปาก ก่อนจะพานางไปพบจี๋เฉวียนที่ห้องโถงเดิมของเมื่อวาน เหยาอี้เหยานั่งรอในจุดที่ถูกเตรียมไว้ให้ ลำดับการนั่งของนางอยู่ห่างจากจี๋เฉวียนเล็กน้อย

เหยาอี้เหยาถูกคนตามประกบในระยะที่เอื้อมถึง หากว่านางคิดหนีหรือทำอะไรหุนหัน คงถูกจัดการในทันที นางจึงไม่ทำอะไร ซึ่งนั้นก็เป็นความตั้งใจเดิมอยู่แล้ว นางมาที่นี้เพื่อแทนที่องค์หญิง หากหนีไปโดยไม่รู้เรื่องราวด้านนอกว่าเป็นอย่างไร นางอาจจะสร้างความเสียหายได้

คอยหนึ่งถ้วยชา จี๋เฉวียนก็ยังไม่มา แต่คนสนิทของเขามาเรียนว่าวันนี้นายของตนรู้สึกไม่สบาย จึงไม่อยากลุกจากที่นอน ให้นางรับอาหารเช้าเพียงลำพังได้เลย

“ข้าทราบแล้ว” แม้จะแปลกใจมากเพียงใด แต่เหยาอี้เหยาก็ไม่พูดอะไรทั้งนั้น เมื่อคืนนางเห็นจี๋เฉวียนแข็งแรงดี ลักษณะอาการของเขาไม่ใช่ลักษณะของคนที่จะล้มป่วยฉับพลันในค่ำคืนเดียว ถึงจะกล่าวว่าจี๋เฉวียนมีบาดแผลก็ตาม

แต่อย่างไรก็ดี จี๋เฉวียนป่วยย่อมเป็นประโยชน์ต่อนาง นางจึงภาวนาในใจ ขอให้จี๋เฉวียนป่วยหนักนานๆ

“ตอนนี้ข้ายังไม่หิวเช่นกัน อามู่ เรากลับที่พักกันเถิด ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่นานนัก” ห้องโถงไม่ต่างอะไรกับลานประหาร เหยาอี้เหยาปรารถนาที่จะจากไปโดยเร็ว

ให้ดีคือไม่ต้องมาที่นี่อีก

คำขอนั่นเป็นจริง วันต่อมาและต่อมา เหยาอี้เหยาไม่ต้องฝืนใจไปที่ห้องโถงอีก

เหยาอี้เหยาอยู่อย่างสงบที่ห้อง ใช้เวลาไปกับการเขียนอักษรและพักผ่อน แม้ที่นี่จะจำกัดอิสระและต้องระมัดระวังตัวทุกฝีก้าว กระนั้นนางก็ไม่ได้ถูกทารุณอันใด ด้วยจี๋เฉวียนล้มหมอนนอนเสื่อมาสามวันแล้ว นางได้ยินคนซุบซิบกันว่าอาการเขาทรุดลงทุกวัน ตามท่านหมอมารักษาก็ไร้คำตอบ ให้ความเห็นเพียงว่าจี๋เฉวียนอาจถูกพิษ คงอยู่ไม่ถึงวันพรุ่งนี้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น สถานการณ์ในตอนนี้ย่อมเปลี่ยนไป

“องค์หญิง เห็นแก่ที่ข้ามีน้องสาว ข้าเลยมาบอกท่าน อีกไม่นานจี๋เฉวียนคงตายแน่ ถึงตอนนั้นสถานการณ์ของท่านจะยิ่งเลวร้ายกว่านี้ คนที่เลวทรามต่ำช้ากว่าจี๋เฉวียนจะย่ำยีท่านแน่ ข้าว่า ท่านหาเวลาเหมาะๆ หนีไปเสียเถอะ”

คนส่งจดหมายมากระซิบบอกนาง เขาเตรียมตัวไว้แล้วในสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

เหยาอี้เหยานั่งคิด นางต้องรอบคอบในการตัดสินใจมากกว่าแค่หนีไป เพราะนางต้องสวมบทบาทเป็นองค์หญิง

การป่วยอย่างกะทันหันของจี๋เฉวียนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือเขาไม่มีแรงมายุ่งกับนาง ข้อเสียคือทำให้คนอื่นมายุ่งกับนางได้

ระบบการปกครองของหุบเขาโจรมีข้อเดียว คือใครแข็งแกร่งที่สุดคือผู้ชนะ นั่นหมายความว่าถ้าอ่อนแออาจจะถูกแทงข้างหลัง เพราะใครบ้างไม่อยากเป็นใหญ่ เมื่อโอกาสมาถึง พี่น้องก็ฆ่าได้ ครอบครัวก็ทอดทิ้งได้

เหยาอี้เหยาไม่ได้สนใจความเป็นตายของจี๋เฉวียนแม้แต่น้อย แต่ยามนี้นางต้องเอาตัวรอด โชคดีที่นางเติบโตมาในสกุลเหยา ในเรือนที่ต้องรู้จักหลบรู้จักหลีก นางจึงมีทักษะในการเอาตัวรอดอย่างเหนือชั้น

ในตอนนี้นางตัดสินใจว่าต้องอาศัยจี๋เฉวียน เพื่อให้รอดชีวิต

“เรือนนี้หรือ” อามู่พยักหน้า เปิดประตูให้ เหยาอี้เหยาเข้าไป แปลกใจไม่น้อยที่เห็นว่าภายในไม่มีผู้ใด นอกจากจี๋เฉวียนที่นอนจมสิ่งปฏิกูลเหม็นเน่า ทั้งน่าอนาถและน่าเวทนา

ซึ่งนี่ก็น่าจะยืนยันได้บ้างว่าจี๋เฉวียนสุ่มเสี่ยงจะถูกทรยศ ลูกน้องไม่สนใจดูแล ปล่อยให้ผู้เป็นนายตายไปแล้วค่อยต่อสู้ชิงอำนาจ

นี่คือวิถีโจร

“องค์หญิงรึ…ข้านึกว่าจะตายโดยที่ไม่ได้พบหน้าใครแล้วเสียอีก” จี๋เฉวียนป่วยมาเป็นสัปดาห์แล้ว ทุกข์ทรมานกับพิษจนอ่อนแอลง ไร้สง่าราศีของนักรบดังวันวาน

“ไม่มีคนดูแลท่านเลยหรือ” เหยาอี้เหยารินน้ำให้เขา จี๋เฉวียนจิบช้าๆ ดูคล้ายคนใกล้ตายขึ้นทุกขณะ

“ใครจะมาดูแลข้าเล่าองค์หญิง”

“ภรรยาท่านล่ะ”

“พวกนางคงหาสามีใหม่กันแล้ว ไม่ก็คงหนีไป ตอนนี้หุบเขาโจรคงแบ่งฝักฝ่าย เริ่มชิงอำนาจกันแล้ว” จี๋เฉวียนพูดอย่างคนที่ปลงตกแล้ว เขาเฝ้ารอให้มีคนมาฆ่าปาดคอเขา ซึ่งคงเกิดขึ้นในเร็ววันนี้แน่ “ข้าถูกพิษร้าย ไม่แน่ว่าจะรอด”

“ท่านจะยอมแพ้หรือ คิดจะตายเช่นนี้หรือ” เหยาอี้เหยาเอ่ยถาม นางเองก็คิดไว้ว่าถ้าจี๋เฉวียนตายจริงๆ ก็คงต้องหนี

คำถามของเหยาอี้เหยาที่เอ่ยถามอย่างจริงใจกระตุ้นอะไรบางอย่างในอกของจี๋เฉวียน

“ไม่ ข้าไม่อยากตาย” จี๋เฉวียนเติบโตมาอย่างทรหด ชีวิตนี้ทำความเลวมาทุกอย่างโดยไร้สำนึกผิดชอบ คร่าชีวิตผู้คนนับไม่ถ้วน แต่ถึงจะมีชีวิตสวะเช่นนี้ จี๋เฉวียนก็ยังละโมบ ยังไม่อยากตาย

“เช่นนั้นท่านก็สู้สิ ได้ยินว่าท่านเป็นราชาแห่งหุบเขาโจร ไม่เคยพ่ายแพ้ผู้ใด จะมาตายเช่นนี้ คงเสียศักดิ์ศรีไม่น้อยกระมัง”

“องค์หญิงน้อย ท่านจะมาใส่ใจคนอย่างข้าทำไม มิสู้ท่านหนีไปตอนนี้มิดีกว่าหรือ ปล่อยให้ข้าตาย ท่านย่อมได้ประโยชน์”

“ข้าไปไม่ได้” เหยาอี้เหยามองอีกฝ่าย ความลำบากบีบให้นางเป็นผู้ใหญ่ “จี๋เฉวียน ข้าจะช่วยรักษาชีวิตและตำแหน่งให้ท่าน แลกกับการที่ท่านต้องปล่อยข้าไปเมื่อข้าต้องการ ข้อตกลงนี้ ท่านตกลงหรือไม่”

จี๋เฉวียนตอบตกลง เขาถูกพิษร้ายแรง คงได้แต่พึ่งปาฏิหาริย์

“เช่นนั้นท่านต้องคืนของให้ข้า”

“อามู่ เอาของคืนให้นาง”

เมื่อได้ของที่ถูกริบไปคืนมา เหยาอี้เหยาก็ควานหาขวดยาที่สามารถใช้แก้พิษชนิดหนึ่งที่เกิดจากดอกไม้ได้

ยาชนิดนี้ท่านตาเป็นคนให้นางเมื่อสามปีก่อน เป็นยาลูกกลอนล้ำค่าที่ฝ่าบาทองค์ก่อนพระราชทานให้สกุลหลิน ก่อนจะตกทอดมาถึงนาง พร้อมทั้งบอกว่าเป็นยาถอนพิษซึ่งผู้อาวุโสสกุลฉู่ปรุงขึ้น

แค่เม็ดเดียวก็มีราคาราวทองพันชั่ง

ถึงอย่างนั้นเหยาอี้เหยาก็ไม่มั่นใจว่ายาลูกกลอนเม็ดนี้จะสามารถช่วยชีวิตจี๋เฉวียนได้หรือไม่ เพราะนางไม่รู้ว่าเขาถูกพิษอะไร

ทว่าจี๋เฉวียนคว้าไปกินทันที

“ยานี้อาจฆ่าท่านได้”

“เช่นนั้นก็ถือเป็นกรรมของข้า” จี๋เฉวียนกินแล้วหลับตา หลังจากนั้นก็ไม่ตื่นอีก

“จี๋เฉวียน” เหยาอี้เหยาเรียกอย่างสิ้นหวัง

ชายผู้หนึ่งที่แอบฟังอยู่ด้านนอกจากไปทันที ซึ่งเหยาอี้เหยารู้ดีว่าจึงแสร้งทำเหมือนจี๋เฉวียนกำลังไม่รอด

แต่เขาลืมตาขึ้น

“องค์หญิง ยาท่านได้ผล แต่เหตุใดจึงทำเหมือนไม่ได้ผล”

นางตอบ “ท่านไม่อยากรู้หรือว่าใครวางยาท่านหรือคิดจะแทงข้างหลัง”

จี๋เฉวียนตีหน้าขรึม

“คืนนี้เขาลงมือแน่”

ในค่ำคืนนั้น มีคนหมายลอบสังหารจี๋เฉวียนจริง แต่จี๋เฉวียนกินยาถอนพิษซึ่งให้บังเอิญว่าถอนได้อย่างชะงัก จึงมีกำลังพอที่จะสู้กลับ

พร้อมกับได้รู้ ‘ถูซานชิ่ง’ เป็นคนวางยาพิษเขาร่วมกับภรรยาที่หนีไปแล้ว

“อย่าโทษข้าที่ต้องสังหารท่าน เราต่างเตรียมตัวที่จะตายกันทุกวัน”

จี๋เฉวียนเอ่ยคำ “สหาย ข้าไม่โกรธเจ้า วันนี้ข้าส่งเจ้าไปโลกหน้าก่อน สักวันข้าจะตามเจ้าไป”

จี๋เฉวียนได้ใช้เวลาที่ล้มป่วยทบทวนตัวเองจนตกผลึกความคิดได้บ้าง ถึงจะเปลี่ยนนิสัยสันดานไม่ได้ในทันที แต่เริ่มตระหนักรู้บ้างแล้ว

ตอนนี้เขาได้โอกาส กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เขาสมควรใช้ให้ดีกว่าเดิม อีกอย่างแต่เดิมจี๋เฉวียนไม่ใช่คนชั่วโดยสันดาน เขาเพียงโดนบีบให้ต้องร้ายเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น

“องค์หญิงน้อย ท่านมาแล้วหรือ”

“อามู่บอกว่าท่านต้องการพบข้า” เหยาอี้เหยาเหมือนจะชินแล้วกับการอยู่หุบเขาโจร กระนั้นนางก็ไม่ชอบห้องโถงถึงจะรู้ว่าจี๋เฉวียนฆ่าสตรีพวกนั้นเพราะพวกนางเป็นไส้ศึกก็ตาม

จี๋เฉวียนเข้าใจ เรียกนางพบที่สวนด้านนอก

“ใช่ ข้าต้องการพบท่าน” จี๋เฉวียนหยิบปิ่นเงินออกมาให้นางอย่างนอบน้อม “สิ่งนี้ข้าควรคืนให้ท่าน”

เหยาอี้เหยาเก็บปิ่นมาไว้กับตัว นางรู้สึกว่าความรักของท่านแม่ได้ปกคลุมเพื่อปกป้องตัวนางไว้แล้ว “จี๋เฉวียน ขอบคุณท่านมาก”

“ไม่ใช่เรื่องที่ท่านต้องขอบคุณข้าเลย เป็นข้าเสียอีกที่ควรขอบคุณ” จี๋เฉวียนคุกเข่า คำนับนางด้วยท่าทีสำหรับเคารพบรรพบุรุษ เพื่อขอโทษและปฏิญาณตน “นับจากวันนี้ไปจนตาย จี๋เฉวียนขอให้สาบาน ไม่ว่าเรื่องใด ขอแค่ท่านเอ่ยปาก ไม่มีเรื่องใดที่ข้าทำให้ท่านไม่ได้”

“ท่านจะแช่งให้ข้าอายุสั้นหรือ จี๋เฉวียน ลุกขึ้น ยาที่ท่านกินเป็นของท่านตา ท่านไม่ได้ติดหนี้บุญคุณอะไรข้าเลย”

“มิใช่ทุกคนที่ตัดใจให้ยาของสกุลฉู่ได้ ท่านรู้ไหมยาเม็ดนั้นมีค่าควรเมือง แต่ท่านให้ข้าง่ายๆ”

เหยาอี้เหยายิ้ม “ท่านเปลี่ยนไปมาก ข้าว่าคุ้มค่าแล้วล่ะ”

จี๋เฉวียนลุกขึ้น เขายังมีอีกเรื่องจะพูดกับนาง “สองสามวันมานี้ข้าให้ลูกน้องเข้าไปตรวจสอบข่าวในเมือง พบเรื่องน่าประหลาดใจอยู่เรื่องหนึ่ง”

จี๋เฉวียนเกริ่นเช่นนี้ เหยาอี้เหยารู้แล้วว่าเป็นเรื่องใด “ข้าอยากบอกท่านมาตลอด ใช่ ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าแซ่เหยา เป็นหนึ่งในคณะราชทูตจากต้าหย่ง”

“วันนี้ข้าถึงได้เข้าใจที่วันนั้นท่านบอกว่าข้าไปไม่ได้” รวมทั้งเข้าใจด้วยว่าเหตุใด จึงไม่มีทหารมาตามหานางแม้แต่คนเดียว

เพราะนางไม่ใช่องค์หญิง

“ท่านได้ข่าวอะไรอีกบ้าง มีข่าวองค์หญิงแพร่ออกไปหรือไม่” นางไม่รู้ว่าฉู่ซื่อจื่อหาองค์หญิงพบหรือยัง แล้วนางต้องสวมรอยไปอีกนานเพียงใด

“ไม่รู้ว่านี่เป็นข่าวร้ายหรือดี แต่คนของข้าได้ข่าวว่า…องค์หญิงเสียชีวิตแล้ว”

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/2 ความรักที่สุกงอม

    ฤดูใบไม้ผลิของแดนเหนืออบอุ่นและงดงาม ต้นไม้ที่หลับใหลในฤดูเหมันต์ผลิใบอ่อน แสงแดดลอดเงาผ่านช่องว่างต้นถั่วแดงเข้ามาเป็นลำแสง ต้นถั่วแดงหงฉู่โตวเป็นไม้ยืนต้นที่ใช้เวลาหลับใหลในฤดูหนาวเช่นกัน แต่เพราะมันเติบโตในแดนใต้ที่อากาศอุ่น ก่อนจะถูกขุดล้อมแล้วย้ายขึ้นมาที่เมืองโจวอี้ ต้นถั่วแดงจึงเจริญเติบโตขึ้นมาก เหยาอี้เหยามักจะมารดน้ำต้นถั่วด้วยตนเอง นางจำได้ว่าช่วงสามปีแรก ต้นถั่วโตช้ายิ่ง จนกระถางเล็กๆ ยังโตไม่เต็ม ครั้นลงดินที่อำเภอซานถง เพียงไม่นานก็สูงเอาๆ แต่พอมาคิดดู เหยาอี้เหยาคิดว่าสาเหตุที่ต้นถั่วโตช้าตอนอยู่ในกระถาง เพราะพื้นที่ไม่พอ สารอาหารขาดแคลน พอได้รับแสงแดด สายลม พื้นที่เหมาะสม พริบตาเดียวก็สูงขึ้นจนต้องแหนหน้ามองแล้ว ร่มเงาของกิ่งก้านที่แผ่ขยายออกเป็นพุ่มงาม ใบไม้เสียดสีเบาๆ ราวกับกำลังอวยพรให้นาง เหยาอี้เหยาพนมมือรับพรด้วยน้ำตา แต่คำอวยพรบางอย่างก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้... “อยู่นี่เอง” ฉู่ซีเย่เดินเข้ามาบริเวณสวนดอกไม้ ตรงกลางมีต้นถั่วยืนต้นโดดเด่น ใต้ร่มเงามีหญิงงามในชุดผ้าคลุมตัวยาว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว กระนั้นเหยาอี้เหยาก็ยังสวมชุดฤดูหนาว “ท่านหาข้าอยู่หรือ” เ

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   23/1 ความรักที่สุกงอม

    เดินทางจากอำเภอซานถงถึงแดนเหนือใช้เวลาสองสัปดาห์ เหยาอี้เหยาตกลงใจใช้ชีวิตอยู่กับฉู่ซีเย่ บางวันหวานชื่น บางวันรักร้อนแรง หรือทะเลาะกันบ้าง เพราะนางอยากออกไปทำงานสำรวจสำมโนครัวแบบเมื่อก่อน เพราะอยู่เฉยๆ เบื่อเกินไปฉู่ซีเย่คัดค้านหัวชนฝา เขาไม่อยากให้นางออกไปทำงานข้างนอก กลัวว่าจะมีคนมาชมชอบนาง ก็นางงามขนาดนี้ มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ไม่มอง“แน่ใจนะว่าท่านไม่อนุญาต”“แน่นอน”“งั้นคืนนี้ท่านไปนอนที่อื่น”ฉู่ซีเย่ลุกพรึ่บ “ไม่ได้”“ได้ ก็นี่ห้องข้า เสียก็แต่ว่าท่านจะยึดคืน” เหยาอี้เหยาลุกขึ้น นางคว้าหมอนและผ้าห่มของฉู่ซีเย่ออกไปทิ้งด้านนอกห้อง“อี้เหยา” ฉู่ซีเย่ตามไปเก็บแล้ววางที่เดิม ก่อนจะประกาศก้อง “คืนนี้ข้าจะนอนที่นี้”“ท่านอ๋อง ท่านไม่สิทธิ์รุกล้ำพื้นที่นะ ยิ่งเจ้าของไม่อนุญาต ยิ่งไม่ได้”“แล้วไง ใครสน” ฉู่ซีเย่นั่งลงบนเตียง เขาเอนนอนเอาแขนชันศีรษะ “ข้าพอใจจะนอนที่นี้”“ก็ได้ งั้นข้าจะไปนอนที่อื่น” เหยาอี้เหยาเดินไปที่ประตู ฉู่ซีเย่ดีดตัวลุกขึ้นมาขวาง เขายืนขวางประตู ก่อนจะถอนหายใจ เขายอมถอยให้นาง“เอาล่ะ พอก่อน มาคุยกันดีๆ เถอะ”“ก็ได้” เหยาอี้เหยาเห็นเขายอมถอย นางก็ถอยหนึ่งก้าว “

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/2 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าต้องเข้าใจว่าข้าไม่อาจสบายใจได้ ตราบใดที่มีเจ้า” หย่งสวินกล่าวอย่างลำบากใจ แต่ดวงตากลับเฝ้ารอ ในใจคงจินตนาการวันที่ได้ฆ่าฉู่ซีเย่มานับครั้งไม่ถ้วน“คนที่คิดจะฆ่าข้า ไม่ตายดีสักคน” ฉู่ซีเย่ไม่กลัวว่าหย่งสวินจะเอาดาบแทงตน เพราะคนเหลี่ยมจัดอย่างหย่งสวิน ไม่เล่นในเกมที่ตกเป็นรอง“เจ้าต้องมีชีวิตอยู่นานๆ หน่อย จะได้รู้ว่าข้าจะได้ตายดีหรือไม่ แต่น่าเสียดาย คงไม่มีวันนั้นแล้ว” หย่งสวินยกดาบขึ้น ก่อนจะฟันใส่แขนขวาจนขาด เขาส่งเสียงร้องโหยหวน“ช่วยข้าด้วย! ต้าเป่ยอ๋องจะสังหารข้า!”ประตูท้องพระโรงเปิดออกในยามรุ่งสาง ฉู่ซีเย่ถูกคุมตัวออกมามุ่งหน้าไปยังลานประหารในโทษฐานลอบทำร้ายประมุขของประเทศ ความรีบร้อนในการประหารเขาทันที เป็นความต้องการของหย่งสวินคลื่นลมในวังเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างมั่นใจแน่แล้วว่าหย่งสวินจะได้เป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป ด้วยไท่จื่อก็สิ้นแล้ว หย่งมู่ที่กลัวตายก็รีบหอบผ้าหนีเอาตัวรอด ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ากังขาหรือคัดค้านแม้เพียงนิดที่หย่งสวินคิดจะสังหารฉู่ซีเย่อย่างไรก็ตาม การประหารใช่จะทำได้เลยในทันที เพราะความวุ่นวายจากทางฝั่งของคนสนับสนุนไท่จื่อก็ไม่ยินยอมเช่นกัน

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   22/1 แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

    “เจ้าไม่เป็นห่วงชายผู้นั้นของเจ้าหรือ”ชายผู้นั้นของกงจิ้ง ย่อมหมายถึงฉู่ซีเย่ “ได้ยินว่าทางวังกำลังเผชิญหน้ากับพายุใหญ่ ไม่แน่ว่าชายผู้นั้นของเจ้า อาจพบอันตรายร้ายแรง”“ก็อาจจะพบอันตราย แต่ข้าไม่ห่วงมากเท่าไหร่” นางล้างผัก ท่าทีผ่อนคลายกงจิ้งทำหน้าประหลาด เหยาอี้เหยาดูไม่ร้อนใจเท่าที่ควร“สามปี” เหยาอี้เหยาพูดขณะมองตรงไปหน้าผืนนา “เขาใช้เวลาสามปีวางแผนแก้แค้น ดังนั้นข้าจึงเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่เป็นอะไร ต่อให้ถูกใครคิดปองร้าย ทุกอย่างก็อยู่ในการคาดเดาของเขา”กงจิ้งมองนาง “เป็นเจ้าที่เข้าใจเขาอย่างลึกซึ้ง”“ความจริงข้าไม่เข้าใจเขาหรอก ใครจะกล้าพูดว่าเข้าใจเขาได้”กงจิ้งเห็นด้วย “ข้าแปลกใจเสมอที่รู้ว่าเขาไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้ชิงบัลลังก์"“ข้าไม่แปลกใจ”“เพราะอะไร” ขอเพียงมีใจนึกอยาก ไม่ใช่ว่าจะชิงมาไม่ได้“เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และยโสโอหังมาก แต่ก็เป็นคนที่รักษาคำสัตย์ยิ่งชีพมากเช่นกัน อะไรที่รับปากคนอื่นไว้แล้ว ต่อให้ดินถล่มฟ้าแหวกออก เขาก็จะทำให้ได้ ในงานพิธีรับตำแหน่งต้าเป่ยอ๋อง เขาชัดเจนแล้วว่าเลือกแดนเหนือ”“เข้าใจแล้ว”ฉู่ซีเย่ไม่ได้ให้คำสัตย์ว่าจะไม่ชิงบัลลังก์ แต่เขาให้คำสัตย์ว่าจะตา

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/2 ความรักที่งอกงาม

    ต้าหย่ง...ชายเสื้อปักดิ้นทองเคลื่อนไหวเพียงบางเบา แต่สามารถทำให้ตะเกียงบนโต๊ะด้านหน้าสั่นไหว เงาใหญ่ยักษ์ที่ทอดลงหลังฉากพระที่นั่งวิจิตรงดงาม แลดูแปลกตา ยิ่งเมื่อขยับเคลื่อนไหว เงาสีดำยิ่งชวนให้รู้สึกขนกายลุกพองหย่งฉียังคงทรงงานแม้จะค่อนคืนเข้าไปแล้ว พระขนงมีมีร่องรอยยับย่น หมึกเปื้อนพระหัตถ์เป็นปื้นสีดำทั้งสองข้าง ลามไปถึงชายแขนเสื้อที่ถูกหมึกสีดำทำลายความประณีตลงหลายเท่าตัวหลังตั้งตรงเริ่มตกลู่ หย่งฉีในปีนี้อายุเพียงสี่สิบกว่าปี ทว่าความเคร่งเครียดและการตรากตรำอยู่ในตำแหน่งมายาวนานกว่าสามสิบปี ทำให้ใบหน้านั้นแก่ชรา ริ้วรอยแห่งวัยทอดแนวอยู่บนหน้าพระพักตร์หมองคล้ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลครั้นมองลงมาภายในโถงพระที่นั่งอันหนาวเหน็บและช่างว่างเปล่า หย่งฉีคล้ายจะยิ้มเย้ยให้ตนเองอย่างสมเพชข้าวของมากมายหล่นเกลื้อนกลาดแทบเท้า ทุกสิ่งทุกอย่างพังไม่เป็นชิ้นดี กระนั้นท้องพระโรงที่เละเทะเช่นนี้ ก็ยังเทียบไม่ได้กับภายในจิตใจของเขาหย่งฉีทิ้งพู่กันในมือ เขาส่งเสียงออกมาอย่างเหนื่อยล้าราวกับแทบขาดใจ“ขันทีโม่...”โม่หานยืนก้มหน้าตามระเบียบประเพณี ในมือมีพวงแส้ม้านุ่มสลวย ทองคำซึ่งหลอมอยู

  • ผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน   21/1 ความรักที่งอกงาม

    เหยาอี้เหยา “ก่อนจะให้ท่านพูดอธิบาย อยากจะขอรบกวนให้ท่านอาบน้ำล้างตัวเสียหน่อย” กลิ่นสาบจากตัวเขาทำให้ภายในบ้านถูกกลิ่นบูดรมควัน ดังนั้นนางจึงนำเสื้อผ้าที่เขาทิ้งไว้คราวก่อนออกมาให้เขา พร้อมชี้ทางว่าสามารถไปอาบน้ำที่ลำธารใกล้กับแปลงผักจี๋ฉายได้ ทั้งยังรุนหลัง ให้เขาไปไวๆ ฉู่ซีเย่ไม่อิดออด เขาก็เริ่มได้กลิ่นจากตัวเองเช่นกัน “ได้ ข้าจะไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นค่อยสนทนาเรื่องที่เข้าใจผิด” ถึงอย่างงั้นในใจของเขาก็มีความน้อยใจเล็กๆ ที่นางดูราวกับไม่ใส่ใจเขาเลย จะถามไถ่สักคำว่าเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยหรือเปล่าก็ไม่มี ยังมีตบของนางอีก แม้แรงนางจะไม่ระคายผิวหนังหนาด้านของเขา แต่จิตใจบอบช้ำยิ่ง “ท่านอ๋อง” เหยาอี้เหยากล่าวรั้ง ใบหน้าคมกระหยิ่มยิ้มย่อง แต่เมื่อหันหน้ามาก็กลบเกลื่อนให้หมดสิ้น “ว่าอย่างไรรึ” ใบหน้าของฉู่ซีเย่ในตอนนี้สามารถพูดได้คำเดียวว่าเขาสำนึกผิดแล้ว “เมื่อครู่ข้าขอโทษที่ตบท่าน ท่านเจ็บมากหรือไม่” การตบตีเขาไม่เคยอยู่ในสมองนางมาก่อน แต่พอเห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้า แรงอารมณ์ที่ถูกกดไว้ตลอดทั้งเดือนก็ปะทุ รู้ตัวอีกทีก็ตบเขาเสียฉาดใหญ่ “แรงเท่ามดของเจ้าจะทำอะไรข้าได้กัน”

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status