ชีวิตในโรงเรียนคริสเตียน ที่ต้อง ทำตามกฎระเบียบตลอดเวลาเช้านมัสการ เย็นนมัสการ ทำให้คนฝักใฝ่ทางศาสนาพุทธอย่างเอไม่มีโอกาส เคยเข้าร่วมกิจกรรมทางพุทธซะะเท่าไหร่
ยกเว้นถ้าวันสำคัญทางศาสนาวันไหนตรงกับวันหยุด เพื่อนร่วมห้องของครีมอีกคนนึงคือบอสซึ่งพ่อแม่มารับทุกวันศุกร์ ก็จะขออนุญาตมาสเตอร์พาเอออกไปด้วยเพื่อไปวัดด้วยกัน
อาจจะมีกิจกรรมร่วมกันเล็กๆน้อยๆเช่น ทำบุญสังฆทาน หรือไปเรียนนั่งสมาธิ ซึ่งสำหรับเอมันก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ สนใจสักเท่าไหร่เพียงแต่ว่ามันเป็นการได้ออกมาจากรั้วโรงเรียน อะไรก็ได้ตอนนี้ทำไปก่อน ขอให้ได้ออกมาจากกรงนั้นบ้าง
พ่อแม่ของบอสก็เอ็นดูเอ ไม่ได้รังเกียจเลย
เอ้าลูก กรวดน้ำด้วยกันนะ เดี๋ยวว่าตามแม่
อิทังเมญาตินังโหตุ สุขิตาโหตุ ญาตะโย ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้ดีแล้วทั้งในอดีตชาติและจวบจนปัจจุบัน แก่บิดามารดาญาติทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ เทพยดาทั้งหลายที่อุดหนุนค้ำจุนชีวิตข้าพเจ้า ตลอดจนเจ้าเวรนายกรรม เพื่อนฝูง สิงสาราสัตว์น้อยใหญ่อันข้าพเจ้าเคยล่า เคยฆ่าเคยแกง เคยกิน เคยทำร้าย แม้นจำได้ก็ดี จำไม่ได้ก็ดี ข้าพเจ้าสำนึกผิดแล้วจะไม่ก่อกรรมขึ้นอีก ขอท่านโปรดมารับกุศลและโปรดเลิกแล้วต่อกันด้วยเถิด
เทพพรหมเทวดาทั้งหลายที่ค้ำจุนชีวิตข้าพเจ้า เทพยดาทั้งหลาย ทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน ท่านพญายมราช นายนิรยบาล ท้าวจตุมหาราชิกาทั้ง 4 อากาศเทวา รุกขเทวา พระภูมิเจ้าที่ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าเคยอาศัยอยู่และอาศัยอยู่ในปัจจุบัน สัตว์นรกทั้งหลาย สัมภเวสีทั้งหลาย ขอให้ท่านได้รับกุศลโดยทั่วกันทุกท่านทุกคนเทอญ สาธุ สาธุสาธุ พุทธังอนันตัง ธัมมังจักรวารัง สังฆังนิพพานัง ปัจจะโยโหตุ
เป็นบทกรวดน้ำ ที่ยาวมาก และเอก็ไม่เคยคิดเลยว่าหลังจาก ฟังบ่อยจนชินติดหู แล้ว การกรวดน้ำในแทบทุกครั้ง ก็จะใช้บทนี้มาโดยตลอด และจะมีประโยชน์เมื่อถึงเวลาสุดท้ายของชีวิต
ครอบครัวของบอส เป็นครอบครัวที่ มีความแปลกไม่เหมือนคนอื่นชอบแนะนำให้เราทำอะไรแบบที่เราไม่คิดว่า ต้องทำ เหมือนอย่างหลังวันตรุษจีน เมื่อโจรูมเมทอีกคนกลับมา มันก็จะมีเป็ดมีไก่หลายกล่องกลับมาด้วย เพิ่งรวนมาเรียบร้อยพร้อมกิน รวมทั้งน้ำจิ้มสุดแซ่บ บอสชอบมาสะกิดเราอย่ากินอย่ากิน....
"ทำไมล่ะ น่ากินทั้งนั้นเลย"
"อย่าน่าาาาาเราเตือนแล้วนะ"
คนตายน่ะถ้ามากินอาหารเขาตายแบบไหน อาหารที่เขาลามากินน่ะกินแล้วก็จะป่วยแบบที่เขาตาย
ไร้สาระเคยเห็นเหรอ
เออ...กูเห็น!!!
บอสตวาดแหว เอหน้าซีด ตากลมของเพื่อนมันวาวโรจน์ บ่งความไม่โกหก
ตอนกูเจอผีครั้งแรก ป้าแอ๊ดข้างบ้าน ตั้งศาลพระภูมิใหม่ ก็ย้ายจากซอยด้านใน มาซื้อบ้านข้างกัน บ้านเก่าแกช่วงน้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ ท้ายซอยตลิ่งพัง น้ำท่วมไปครึ่งหลัง แต่แกก็ยังไม่อยากย้ายไปที่อื่นบ้านเราอยู่ซอยด้านนอกหน้าโครงการ น้ำท่วมไม่ถึง สุดท้ายแกเลยขายหลังนั้น แล้วเพิ่มเงินซื้อต่อ บ้านหลังที่อยู่ข้างบ้านเราแทน พ่อแม่เราก็ทำอาหารไปร่วมพิธีขึ้นบ้านใหม่แล้วก็ตั้งศาลพระภูมิด้วย ตอนก่อนเที่ยงเราเดินกำลังเดินออกจากรั้วจะกลับบ้านเรา เจอลุงคนนึงหน้าดำคล้ำอย่างกับเป็นลมแดด ใส่กางเกงสีกากีตัวเดียวขาสั้นรองเท้าก็ไม่ใส่ เราเลยทักไปว่า
"ลุง มาหาใคร"
ลุงก้มหน้าแล้วพูดงึมงำว่า
"บอกแอ๊ดด้วย ว่าผัวมาหา ให้มารับเข้าบ้านที"
เราเลยวิ่งกลับเข้ามาในวงอาหารที่ทุกคนล้อมวงกันกินข้าวอยู่
"ป้าแอ๊ด มีลุงคนนึงยืนอยู่หน้าบ้าน ไม่ใส่เสื้อด้วยเขาบอกว่าเป็นผัวป้า ให้ไปรับเข้าบ้านที"
พอพูดจบ ป้าแอ๊ดถือจานข้าว ร่วงลงพื้น ตาเบิกกว้าง ลูกชายกับลูกสาวรีบวิ่งเข้ามาประคอง
นั่นแหละครั้งแรก ที่เราเจอ สรุปว่าลุงเป็นผี และลุงคนนี้คือผัวป้าโดนไฟช็อตตายเพราะขนของหนีน้ำท่วม
ซึ่งตอนตายแกก็ไม่ได้ใส่รองเท้าและใส่กางเกงสีกากีขาสั้นตัวเดียว เหมือนที่เราเห็นไม่มีผิด เราก็เห็นว่าเป็นคน ไม่เห็นเป็นผีสักนิด ไม่เหมือนในหนังเลย หลังจากนั้นเราก็โดนพ่อกับแม่เทศน์ดุด่าตลอดเลยว่าอย่าไปทักคนแปลกหน้าสุ่มสี่สุ่มห้า
ตอนวันตรุษจีนสารทจีนก็เหมือนกัน ตอนเช้า เราออกไปปั่นจักรยาน ตีห้าครึ่ง แถวบ้าน จะมีคนเดินบนถนนกันเป็นกลุ่ม ตอนแรกเราก็แปลกใจ ว่าไปม๊อบที่ไหนกัน แล้วคนพวกนี้ ก็สลาย ตัวกันไปตามแยกต่างๆ
จนกระทั่งมาเรียนกรรมฐานและมาถามพระอาจารย์ทีหลัง เลยรู้ว่า ไอ้ที่เห็นน่ะมันไม่ใช่คน!!!วันตรุษน่ะมันเป็นวันปล่อยผี
เรื่องเล่าของบอสมีเยอะมาก วันหลังจะเล่าให้ฟังอีก นี่แหละเส้นทางการสั่งสมบุญเริ่มต้นของเอ เริ่มมาจากเพื่อนคนนี้
แม้ฉันจะไม่เห็นผี แต่ฉันก็รู้ว่ามันมีอยู่จริง
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เอรู้จักศีล 5 อย่างจริงจัง ศีลคือความเป็นปกติทำยังไงให้ชีวิตเป็นคนปกติได้บ้างก็ เอาศีลนี้แหละเป็นที่ตั้ง เป็นที่ปฏิบัติ
พระสักองค์ก็ไม่เคยมีห้อย สร้อยสักเส้นก็ไม่เคยมีใส่ ตังค์ก็ไม่มีทำบุญ ทำยังไงถึงจะได้บุญล่ะนี่
อยากทำบุญให้พ่อ เขาว่าพ่อฆ่าตัวตายได้บุญยากกว่าคนอื่น พ่อจะได้บุญไหมพ่อจะอยู่ตรงไหนในภพใด แล้วพ่อจะได้ยินเสียงของเอไหม จะรู้ไหมนะว่าลูกนี้คิดถึงพ่อสุดหัวใจ
ภัทรดนัย จิตอารีย์ ตัวอักษรเขียนอย่างลวกๆเป็นชื่อนามสกุลติดลงบน แผ่นพลาสติก สายรัดข้อมือ ไกรสรเทวบุตรเดินวนไปวนมา อยู่ข้างเตียงในห้องฉุกเฉิน คนที่ทำให้แม่เล็กต้องมานอนอยู่ตรงนี้คือฉันเอง ตอนที่ฉันอ่านว่าจะต้องมารับวิญญาณฉันก็ลืมนึกไป ว่านี่คือแม่เล็กด้วยการงานรัดตัว เวรกรรมทำงานของมันเสมอไม่มีอะไรบังเอิญ ฉันนี่แหละ ต้นเหตุ ถ้าฉันไม่แปลงสารแม่เล็กก็ไม่กินยา เขาพึมพำพร่ำบ่นในใจเท้าก็เดินวนไปเวียนมาที่นี่มันโรงพยาบาล เหล่านายนิรยบาลเดินขวักไขว่ ทุกคนก็ล้วนแปลกใจเมื่อเห็นหัวหน้างานมาเดินวนเวียนอยู่ข้างเตียง ใครคนหนึ่งในห้องฉุกเฉิน พวกเค้าแอบกระซิบกระซาบกัน เบาๆเมียเก่า!แทนที่พญายมราชจะไม่ได้ยิน เสียงนั้นกับตรงมาเต็มหูกระแทกหัวใจ บ้าเอ้ย นาทีนี้มันไม่ใช่ความใคร่พิศวาสใดๆแล้วมันคือศักดิ์ศรี เราผู้เป็นนายแห่งผี จะไม่ให้เมียเก่าเราตายได้ไหมจะเปลี่ยภพภูมิให้เค้าได้ไหม ทำยังไงดีControl ผีได้แต่ Control คนเป็นไม่ได้ โธ่เอ๊ย แย่ที่สุดโมโหจนอยากจะเอาหมัดต่อยหน้าตัวเอง ยังไม่ทันจะได้ทำจริงๆก็มีหญิงวัยกลางคนในชุดทหาร เต็มยศ แหวกม่านพุ่งพรวดเข้ามา"โบว์ลูกรัก แม่ขอโทษ ขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่แม
ไกรเทวบุตรหลุดจากสมาธิ คืนร่างเป็นพญายมราช ร่างที่จำแลงแปลงกายไว้นั้นเพื่อจะให้กลมกลืนกับเด็กผู้ชาย วัยรุ่นในโรงเรียนนี้ก็หายไป ด้วยความตกใจที่เห็นแม่เล็กใน ชาตินี้ ด้วยความที่จะต้องติดตามจึงกระโดดข้ามรั้วโดยไม่ได้คิดว่าจะมีใครอยู่ตรงนั้นแม่เล็ก ต่อไปนี้จะเรียกว่าโบว์ ใบหน้าหมองคล้ำ เดินกอดอกสับเท้าอย่างว่องไวให้พ้นดงอโศก ไกรสรเทวบุตรแล่นลิ่วไล่ตาม แต่จังหวะแว๊บนึงก็เห็นคนสองคนซ่อนอยู่ เมื่อหันไปมอง มันก็เหมือนเห็นญาติอีก ใครกันนะ ไว้ก่อน ถ้าอยู่ที่นี่เดี๋ยวก็รู้ว่าใคร ได้แต่ยิ้มมุมปาก แล้วรีบตาม โบว์ไปก่อนที่จะคลาดสายตาโบว์หรือแม่เล็กในชาตินี้ เกิดเป็น เพศชาย แต่ข้างในหัวใจเป็นสตรี รู้ตัวว่าเป็นแบบนี้ตั้งแต่ 6 ขวบ แม่เป็นทหาร พ่อเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง ทุกคนแอนตี้ ความผิดเพศของเขา เมื่อพอรู้ความดีและอายุเข้าเกณฑ์เขาก็ถูกส่งมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ตอนเขาเกิดแม่มียศเพียงนายสิบ ต่อมา เป็นที่เมตตาเอ็นดูของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ยศคงขึ้นเรื่อยๆมา ปัจจุบันแม่มียศถึงพันเอก ทำงาน ควบคุมด้านการเงิน อยู่ในกองบัญชาการ เป็นคนมี ลูกน้องเยอะและลักษณะนิสัย ระเบียบวินัยเป๊ะ และแค้นใจมากที่ลูกไม่ ไ
"จังหวะนรก"หมายถึง เรื่องราวเลวร้ายที่เกิดอย่าง พอดิบพอดี เหมือนอย่างเช่น นายชัช กับอุณา ที่ดันโดนสังหารแบบจังหวะนรก ตายพร้อมกันทันที โดยไม่มีโอกาสสั่งลาด้วยกระสุนนัดเดียว"เวลานรก" หมายถึงเหตุการณ์เลวร้าย ที่ดันดำเนินไปอย่างเนิบช้า เพราะทุกอย่างในนรกช้า เวลาก็ช้ากว่า เมื่อเทียบกับเวลาของภพ มนุษย์ถึง 1 ปีต่อ 1 วัน ถ้าทีมงานนายนิรยบาล ที่มารับดวงวิญญาณ เกิดลืมของกลับไปที่นรกเพื่อไปเอาแล้วกลับมา ยังภพมนุษย์ ก็เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว ในนรก ส่วนของการลงทัณฑ์ มืดดำหม่นหมอง เต็มไปด้วยมูกเลือด ความสยดสยองเกินบรรยาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือสำหรับฑัณฑ์ทรมาน หรือขุมนรกต่างๆ ก็ล้วนแต่ ไม่จรรโลงใจ พาให้เศร้าหมอง สูญเสียแรงบันดาลใจ และความสุข ซึ่งเป็นส่วนที่จะเอาไว้ลงโทษผู้ที่มีความผิดบาปอยู่แล้ว สำหรับนายนิรยบาล ถ้าได้รับเวรมารับวิญญาณบนโลก หรือได้เวลาพักผ่อน ก็มักจะขึ้นมา ผ่อนคลายกัน มักมีคำพูดในภพนรกว่า เทวดาเดินดิน มีต้นแบบมาจาก เทวดาผู้คุมเหล่านี้นี่เองที่มีรูปร่างงดงาม จะเนรมิตสิ่งใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อหาดังนั้นทีมงานที่ไปรับวิญญาณจึงชอบอ้อยอิ่งเที่ยวเล่น อยู่ที่เมืองมนุษย์ ถ้าเห็นใครงดงา
ถ้าความถึงวันก่อนที่ชัชเทวบุตรจะอุบัติมา 1 วัน เวลานรกพญายมราชไกรสรเทวบุตร ได้สำรวจร่างกายของตนเองและพบว่ารัศมีนั้นเปล่งแสงเรืองรองอย่างอัศจรรย์ มากกว่าทุกวัน ทุกคืนที่ผ่านมา เขาจึง อนุมานว่า เขาใกล้จะเปลี่ยนภพภูมิแล้ว เป็นข่าวดีอย่างที่สุด มองนาฬิกาทรายที่ใกล้มือ อีก 1 ชั่วโมงจะถึงเวลาดื่มน้ำทองแดงทันใดนั้นจึงเรียกดอกปาริชาติให้ผุดขึ้นมาบนมือ แล้วสูดดมกลิ่นย้อนรำลึกถึงชาติต่างๆครั้งเป็นมนุษย์ ครอบครัวของเรา ตั้งแต่ครั้งเราเป็นนายไกร ยังช่วยใครไม่หมดนะ เขาค่อยๆไล่เรียงแม่คนโต เกิดใหม่ เป็นฮิปโปที่แอฟริกา เราไปแนะนำให้ถือศีล 5 จนแม่คนโตตายแล้วไปเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง ตอนนี้ก็อายุ 50 กว่าแล้ว บวชเป็นชีตลอดชีวิต น่าจะได้ขึ้นสวรรค์แน่ แม่กลาง น่าจะเหนือกว่าเราเพราะตอนใช้ชีวิตร่วมกัน กับเรา เป็นคนทำดีมีศีลธรรมชอบทำโรงทาน ตายแล้วไปเกิดบนสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานอยู่ใกล้กับ พระเขี้ยวแก้วจุฑามณี ดีกว่าเราเสียอีกภาพหนึ่งปรากฏขึ้นในความทรงจำ ภรรยาคนเล็ก ด้วยการงานแห่งพระยายมราชที่รัดตัวทำให้ลืมไปแล้วตายแล้ว ผ่านไปหลายร้อยวันแล้วสินะ ถ้าเป็นมนุษย์ก็คง เป็นร้อยปี แม่คนเล็กอยู่ที่ไหนแล้ว เขารำ
ย้อนเวลากลับไปไกรสรเทวบุตร หรือเทวบิดร ของ ชัชเทวบุตร ตำแหน่ง ณ ขณะนั้นคือพญายมราช ผ่านวันคืนนับอสงไขย ในตำแหน่งนี้ 1 วันในนรกคือ 1 ปีในเมืองมนุษย์ เวลาของที่นี่มันเดินช้าช้ามากๆ เหล่าดวงวิญญาณ ต่อคิวกันให้เขาได้ตัดสินความ จนไม่มีเวลาได้คิดอย่างอื่น แต่หลายครั้งที่มีโอกาสเขาก็จะ เรียกดอกปาริชาติมาดม เพื่อให้ระลึกได้ว่า ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ตำแหน่งพญายมราชไม่ใช่ตำแหน่ง ที่ต้องผ่านการเลือกสรร หรือตั้งขึ้นมา โดยผู้ใดผู้หนึ่ง แต่อุบัติเกิดขึ้นตามกรรมของผู้นั้น การที่เขาทำงานอยู่ตรงนี้เป็นระยะเวลานานมาก เป็นเพราะว่าไม่มีใครที่กรรมสัมพันธ์กัน และทำบุญ สร้างบาปเท่าเทียมกัน ตอนอยู่ในภพมนุษย์ ที่จะมาแทนเขาได้พอดี ระยะเวลาใน ตำแหน่งนี้ จึงนานกว่า ยมราชคนก่อนหน้าเขา ซึ่งแม้ถ้าเขาเองก็จำไม่ได้แล้ว ว่าเทวบิดรของเขาคือใคร ถ้าไม่เรียกดอกปาริชาติมาดม งานของเขายุ่งมาก และช่วงพักเบรคก็ต้องดื่มน้ำทองแดง ในบางทีเขาก็ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเขาทำบาปอะไรมาเวรกรรมนั้นมีวิถีที่ประหลาดมหัศจรรย์มาก สามารถชั่งตวงวัด สิ่งที่จะเกิดขึ้นในถัดเวลาไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยบังเอิญเลย ทุกอย่างเป็นเพราะว่า การกระทำที่ทำไว้แล้
เมื่อเปิดประตูเข้าไปมีเสียงผู้ชายกรีดร้อง แบบสาวแตกในขณะที่พี่แป๊ดก็ร้องเหมือนกันโอ๊ย...อกอีแป้นแล่นลึกเข้าตึกใน แกโวยเสร็จก็หุ่งพรวดเข้าไปข้างในทันใดนั้นเอง ยังไม่ทันที่อีก 2 คนจะโผล่หน้าตามเข้าไปในห้อง รวมทั้งชัดเทวบุตรที่ต่อคิวเป็นคนที่ 4 ด้วย ทั้ง 3 ก็ต้องผงะออกมา เพราะประตูถูกเปิดสวนทาง สาวผมบลอนด์ยาว จะใส่ชุดแซกสั้นที่ดูไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าไหร่ เอามือขวาปิดปาก มือซ้ายดึงชายกระโปรง แล้ววิ่งพรวดพราดสวนไปทันที. เสียงรองเท้าส้นสูงดังก้องไปทั่วบริเวณเมื่อพี่เรียมแทรกตัวเข้าไปได้ เอก็ตามไปติดๆ สิ่งที่เห็นคือ ผู้จัดการ นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ ด้านหลังโต๊ะทำงาน เป็นกระจกสูง มองเห็นวิวของเมืองพัทยาทั้งเมืองรวมทั้งโค้งชายหาดแสนสวย ผู้จัดการ เป็นชายไหล่กว้างตัวสูงเกือบ 2 เมตร ในชุดสูทหันหลัง และ มองเห็นภาพสะท้อนออกมาจากกระจกใส ทำท่าเหมือนกำลังใส่เข็มขัด ทั้ง 3 คนพี่แป๊ดเรียมและเอ ยืนเรียงกันหน้าโต๊ะเหมือนนักเรียนโดนครูฝ่ายปกครองเรียกมาทำโทษ พี่แป๊ดแก้มแดงไปจนถึงหู ส่วนพี่เรียมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เอก็เก้ๆกังๆ ชัชเทวบุตรลอยเลื่อนขึ้นไปนั่งบนโซฟา รอดูการแสดงอย่างใจจดใจจ่อ"เอาเงินมาส่