Mag-log inความรู้สึกรุ่มร้อนแล่นไปทั่วร่างของเธอ
ผู้ชายคนนั้นที่บอกว่าตัวเองชื่อเฉิงเว่ยฉี เดินดุ่ม ๆ มาอุ้มเธอพาดบ่า ในหัวเธอประมวลผลเรื่องราวใด ๆ ไม่ได้แล้ว
มันร้อน ร้อนไปทั่วทั้งร่างซู่เฟินอยากจะแก้ผ้ากระโดดน้ำเสียเดี๋ยวนี้
“ให้ข้าช่วย” เขาบอกกับเธอ
“ช่วยอะไร ช่วยอะไรกัน” ซู่เฟินพยายาดีดตัวให้เหมือนกุ้ง ดิ้นรนอยู่บนบ่าของเขา มือใหญ่ของเฉิงเว่ยฉีตบตูดเธอไปหนึ่งที
ถานซู่เฟิน แทบอยากจะฆ่าตัวตาย ไอ้คนมารยาทแย่เอ้ย
เฉิงเว่ยฉีแบกนางขึ้นบ่าก้าวดุ่ม ๆ เข้าไปในห้องนอนรัชทายาท เสื้อผ้าที่ห่อหุ้มตัวนางเอาไว้ก็ถูกเขากำจัดทิ้งไปหมดแล้ว
กว่านางจะรู้ตัวก็พบว่าตัวเองเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ห่มร่าง
เขาต้องมองสตรีตัวเล็ก ๆ นั่นด้วยความปรารถนาที่ยากจะคาดเดา และยืนรอดูสถานการณ์เผื่อว่านางจะไม่ต้องการให้เขาช่วย
สายตาของผู้ชายคนนั้นจ้องเธอราวกับจะกลืนกิน ที่บอกว่ามารดาจะกินผู้ชายสามเดือนครั้งเมื่อก่อนหน้านี้ เธอพูดเล่นต่างหาก ต่อให้อยากทำจริง ไม่ว่าจะในสถานะผีหรือสถานะคนเธอก็ไม่เอาหรอก มันทำไม่เป็นว้อยยยยย!!!
คน!! ตอนนี้เธอเป็นคนงั้นเหรอ
เพี๊ยะ!!! ถานซู่เฟินตบแก้มขวาของตัวเองแรง ๆ หนึ่งที ความรู้สึกเจ็บชาวาบบนใบหน้า ริ้วมือเกิดเป็นรอยแดงบนผิวพรรณขาวเนียน
“เจ็บ” คนตัวเล็กสะอื้นเบา ๆ ในใจ แต่เธอก็ยังไม่พอใจขออีกทีอีกข้างก็แล้วกัน
พอทำท่าจะตบอีกทีมือใหญ่ของผู้ชายในชุดโบราณคนนั้นก็รั้งมือเธอเอาไว้
“เจ้าจะทำอะไร” เขาถามนาง สตรีผู้นี้เหมือนจะเป็นสตรีไร้สติ ท่าทางคำพูดของนางดูไม่เข้าร่องเข้ารอย
ยามที่เขาจับมือ ความอุ่นร้อนของร่างกายบุรุษแผ่ซ่านมาถึงเธอ หญิงสาวจ้องมองผู้ชายคนนั้นด้วยความรู้สึกโหยหา
“คุณ ช่วยฉันด้วย” ซู่เฟินหนีบขาบิดกายไปมาอย่างห้ามไม่ได้
“แน่ใจนะว่าจะให้ข้าช่วยเจ้า” เฉิงเว่ยฉีจ้องมองใบหน้าสะอาดบริสุทธิ์ของนางอีกครั้ง
สตรีตัวเล็กคนนี้ใบหน้าแดงซ่านเหงื่อกาฬผุดไปทั่วร่าง หากช้ากว่านี้ชีวิตของนางก็ไม่อาจรักษาไว้ได้
“มียาถอนพิษ หรือยากรักษาอะไรพรรค์นั้นใช่ไหม คุณจะรักษาฉันด้วยวิธีนั้นใช่ไหม” เธอถามเขาเพราะเข้าใจว่าที่จะช่วย คือช่วยต้มยา ฝังเข็มอะไรแบบนั้น แบบที่เคยดูในซีรีส์พีเรียดทั้งหลาย
ไม่ได้คิดว่า.......
เดี๋ยวสิ....แม่ผีสาวเบิกตาโพลง พร้อมกับดิ้นรนผลักเขาให้ออกห่าง
“มีสิ ยาถอนพิษก็คือตัวข้ายังไงล่ะ” เขากระซิบกับสตรีตัวเล็กด้วยเสียงเบาหวิว เฉิงเว่ยฉีผลักนางลองนอนราบกับเตียง
ดวงตาของนางกลมโตเปล่งประกายแม้จะไม่งดงามเท่าสตรีผู้นั้น แต่ก็ถือว่าสวยงามกว่าใคร ผิวกายเนียนเรียบดุจหยก ดูออกได้ในทันทีว่านางได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอม
คนตัวสูงกว่าโน้มกายจูบนาง อย่างเร่าร้อนดุดัน เสื้อผ้าของนางถูกเขาจัดการไปแล้วก่อนหน้านี้
ซู่เฟินเองก็ทนไม่ไหวแล้ว ความรู้สึกหัวใจเต้นเร็วหน้ามืดวิงเวียนคล้ายกับจะขาดใจตายให้ได้ ต้องได้รับการช่วยเหลือจากเขา หญิงสาวใช้มือเกี่ยวรั้งปลดสายคาดเอวเขาออกอย่างช่ำชอง เรื่องพรรค์นี้เคยดูในหนังอยู่บ่อย ๆ
ตกลงนี่เธอกำลังจะเสียซิงใช่ไหม?
ซู่เฟินจ้องมองเข้าไปในดวงตาดำสนิทของชายหนุ่ม เรียกได้ว่าเป็นบุรุษที่หล่อเหลา ถ้าเขาเป็นเฉิงเว่ยฉีในนิยายจริง ๆ ทีมมัมหมีพระรองอย่างเธอก็ตายตาหลับแล้วแม่
ก็พ่อหนุ่มที่กำลังกลืนกินเธออยู่นี้ หล่อระดับโลก เทียบกับดาราซีรีส์ยุคปัจจุบันได้แบบเน้น ๆ นี่ยังว่าอาจดีกว่าหลายคนด้วยซ้ำ โชคดีแล้วมารดาเอ๋ย
ริมฝีปากเรียบเนียนของเฉิงเว่ยฉีประกบจุมพิตกับนาง เขาค่อย ๆ กระทำทุกเรื่องราวอย่างอ่อนโยน นางมีเรือนร่างที่สมสวนไม่มีส่วนเกิน ชายหนุ่มสอดลิ้นลวกร้อนไปสัมผัสกับปลายลิ้นของนางซุกซนวนเวียน หาความหอมหวาน
เพราะอยากแกล้งนางเล่น ๆ เขาจึงขบกัดริมฝีปากนางไปหนึ่งที สตรีใต้ล่าง ถลึงตามองเขาอย่างน่าเอ็นดู ชายหนุ่มยิ้มแบบไม่ยี่หระ
สองมือซุกซนของนางโอ้บล้อมเหนี่ยวรั้งให้ก้มลงไปสัมผัสกับอกอิ่ม คนตัวสูงตอบรับคำเชิญของนางอย่างว่าง่าย
โอ้โห แม่สาวน้อย เธอกรีดร้องในใจ กล้ามากนะหญิงเชื้อเชิญผู้ชายขนาดนี้ ซู่เฟินไม่รู้เพราะอะไรทำให้เธอกล้าถึงขนาดเหนี่ยวรั้งผู้ชายขนาดนั้น
เฉิงเว่ยฉีดูดเม้มโลมเลีย เขาเห็นสตรีหน้าไม่อายผู้นั้น หน้าแดงซ่าน หลับตาพริ้มมืออีกข้างที่ลูบไล้เรือนกายของนางก็เปลี่ยนเป็นขยับลงต่ำ
นางขยับร่างหนี การรุกรานของเขา แต่เฉิงเว่ยฉีแข็งแรงกว่า ดึงสะโพกนางกลับมาอยู่ที่เดิม
“คุณ” ซู่เฟินเรียกเขา ส่วนเขาก็จ้องมองนางด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“อยากให้ข้าหยุดหรือ” เฉิงเว่ยฉีหยุดการกระทำของตน
ซู่เฟินเม้มปากแน่น ถึงขนาดนี้แล้วพ่อเอ้ย ใครจะอยากให้หยุดกันนางเลยอยู่นิ่ง ๆ ยอมให้เขาลากกลับไปแต่โดยดี
นิ้วมือของผู้ชายคนนั้นล้วงเข้าไปในส่วนสงวนของเธอ เขาลากมือไปมาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะค่อย ๆ สอดนิ้วเข้าไป ซู่เฟิน เด้งสะโพกเข้าหามือแกร่ง
“อา!!!” นางร้องครวญครางเสียงหวานแผ่วเบา
“ถ้าอดทนไม่ไหวก็ร้องออกมาเถอะ” เฉิงเว่ยฉีหยอกล้อคนตัวเล็กที่เขากำลังถูกเขาเคี่ยวกรม
เมื่อรู้สึกว่านางพร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไป เฉิงเว่ยฉีก็จับมือนางไปกอบกุมส่วนนั้น พร้อมดึงมือนุ่มเล็กของนางขยับไปมา เขารู้สึกได้ว่านางตื่นเต้น สตรีผู้นี้ตื่นเต้นจนมือสั่นรัว
“เจ้ากลัวหรือ” เขาถาม
“.....” เธอไม่ตอบอะไรได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ
เมื่อเห็นว่านางกลัว เขาจึงก้มลงจุมพิตริมฝีปากอวบอิ่มนั่นอีกครั้ง “อย่าเกร็งนะ” น้ำเสียงของเขาแหบพร่า
ซู่เฟินกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เร็ว ๆ เลยพ่อเอ้ย มารดาจะอดทนไม่ไหวแล้ว
ผู้ชายที่นั่งอยู่บนเตียงมองนางด้วยสายตาเชิงเหยียดหยาม ที่บาดเจ็บก็เพราะนางดื้อเองไม่เกี่ยวกับเขาเลยสักนิดสายตาเขาเย็นชายิ่งกว่าใครคนไหนที่นางเคยเจอมาตลอดทั้งชีวิต พวกเพื่อนผีเพื่อนมนุษย์ของเธอหลายยังไม่เคยมีใครมองนางด้วยสายตาเช่นนั้นมาก่อน เรียกได้ว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมาได้ใช้ชีวิตบนพริวิเลจความงามมาโดยตลอด“เช้าแล้ว จะกลับบ้านเองหรือจะให้ข้าไปส่ง” เฉิงเว่ยฉีถามสตรีตัวเล็กที่นั่งกองอยู่กับพื้นโห!!! แบบนี้มันเข้าว่าฟันแล้วทิ้งชัด ๆซู่เฟินรู้สึกหมั่นไส้คนผู้นั้น จากเอฟซีมารดาจะกลายเป็นซาแซงแล้วนะ“ข้ากลับเอง” หญิงสาวกัดฟันพูด“งั้นไม่ส่ง” พูดจบเขาก็ลุกเดินออกไปทันทีหญิงสาวกำหมัดแน่น ตกลงแล้วนางทะลุมิติเข้ามาเป็นใครกันแน่ นางรอง นางร้าย หรือนางบำเรอ เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางก็ลุกขึ้นยืนอย่างเด็ดเดี่ยวร่างแบบบางเหยียดหลังตรง ตอนสมัยเรียนเห็นเช่นนี้เคยโยนเบสบอลเปิดงานมาก่อนนะเฟ้ย!!ซู่เฟิน จับผ้าขี้ริ้วม้วนเป็นก้อนกลม คนตัวเล็กเดาะผ้าในมือสองสามครั
คนผู้นั้นสอดขาเข้ามาระหว่างขานาง บังคับให้ซู่เฟินแยกเรียวขาออกอย่างเป็นธรรมชาติ เอาเถอะพ่อเอ๊ย มารดาจะทนไม่ไหวแล้ว อยากทำอะไรก็ทำ ในเมื่อมันเลยเถิดมาถึงจุดนี้เข้าไปแล้วใบหน้าหล่อของเฉิงเว่ยฉี ก้มมองส่วนนั้นของเขาและนาง มันจดจ่ออยู่ตรงหน้าท้องเนียนเรียบ เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ ช่างเป็นสตรีที่สามารถทำให้สติของเขากระเจิดกระเจิงได้ถึงเพียงนี้คนตัวใหญ่ที่เป็นฝ่ายควบคุม ค่อย ๆ สอดส่วนนั้นเข้าสู่ช่องทางคับแคบใบหน้าของนางเหยเก หยาดน้ำตาร่วงหล่นลงข้างแก้ม เขาหยุดไว้ก่อนดูเหมือนว่านางจะรับไม่ไหว เขาก้มลงพรมจูบซับน้ำตาให้แก่นาง ตัวเขาเองก็พึ่งรู้ว่านางเป็นสตรีที่ยังไม่ผ่านมือชายใด“เด็กดี อย่าเกร็งแค่นิดเดียวเท่านั้น” น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำอ่อนโยน นางเป็นสตรีคนที่สองที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ แต่ถ้าเป็นเวลาเช่นนี้ก็นับว่าเป็นสตรีเพียงคนเดียวคนอื่นนั้น เพียงทำให้จบ ๆ กันไปเท่านั้น“ฉันเจ็บ” เธอบอกออกไปตรง ๆ ความรู้สึกเหมือนกับร่างจะฉีกขาดอย่างไรก็อย่างนั้น ทำไมพวกนางเอกหนังผู้ใหญ่ที่เธอเคยดู อะไร ๆ มันก็ง่ายดายไปหมดสองมือเนียนนุ่มของซู่เฟิน กอดรัดร่างสูงใหญ่ ไว้แนบแน่นหญิงสาวฝังกรงเล็บลงไปบนแผ่
ความรู้สึกรุ่มร้อนแล่นไปทั่วร่างของเธอผู้ชายคนนั้นที่บอกว่าตัวเองชื่อเฉิงเว่ยฉี เดินดุ่ม ๆ มาอุ้มเธอพาดบ่า ในหัวเธอประมวลผลเรื่องราวใด ๆ ไม่ได้แล้วมันร้อน ร้อนไปทั่วทั้งร่างซู่เฟินอยากจะแก้ผ้ากระโดดน้ำเสียเดี๋ยวนี้“ให้ข้าช่วย” เขาบอกกับเธอ“ช่วยอะไร ช่วยอะไรกัน” ซู่เฟินพยายาดีดตัวให้เหมือนกุ้ง ดิ้นรนอยู่บนบ่าของเขา มือใหญ่ของเฉิงเว่ยฉีตบตูดเธอไปหนึ่งทีถานซู่เฟิน แทบอยากจะฆ่าตัวตาย ไอ้คนมารยาทแย่เอ้ยเฉิงเว่ยฉีแบกนางขึ้นบ่าก้าวดุ่ม ๆ เข้าไปในห้องนอนรัชทายาท เสื้อผ้าที่ห่อหุ้มตัวนางเอาไว้ก็ถูกเขากำจัดทิ้งไปหมดแล้วกว่านางจะรู้ตัวก็พบว่าตัวเองเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ห่มร่างเขาต้องมองสตรีตัวเล็ก ๆ นั่นด้วยความปรารถนาที่ยากจะคาดเดา และยืนรอดูสถานการณ์เผื่อว่านางจะไม่ต้องการให้เขาช่วยสายตาของผู้ชายคนนั้นจ้องเธอราวกับจะกลืนกิน ที่บอกว่ามารดาจะกินผู้ชายสามเดือนครั้งเมื่อก่อนหน้านี้ เธอพูดเล่นต่างหาก ต่อให้อยากทำจริง ไม่ว่าจะในสถานะผีหรือสถานะคนเธอก็ไม่เอาหรอก มันทำไม่เป็นว้อยยยยย!!!คน!! ตอนนี้เธอเป็นคนงั้นเหรอเพี๊ยะ!!! ถานซู่เฟินตบแก้มขวาของตัวเองแรง ๆ หนึ่งที ความรู้สึกเจ็บชาวาบบนใบหน้า
กรี๊ดดดด!!ผีสาวหวีดร้องด้วยความกลัว ตอนตายหรือเล่นรถไฟเหาะยังไม่กลัวเท่านี้เลย ความรู้สึกตอนโดนดูดเข้าไปด้านใน มันวูบวาบเสียวท้องแปลก ๆครั้นพอลืมตาตื่นขึ้นมาดันได้สบตากับผู้ชายคนหนึ่ง ในหัวสมองของผีสาวพร่าเบลอไปหมด ไม่รับไม่รู้อะไรทั้งนั้นรู้อย่างเดียว มันทั้งเสียวและพลุ่งพล่านไปหมดดะ เดี๋ยวนะ!!“คุณเป็นใคร” ซู่เฟินถาม แต่มือก็ยังโอบล้อมรอบคอของเขาผู้ชายคนนั้นถอนจูบจากเธอ ในใจผีสาวมีความรู้สึกเสียดายนิดหน่อย“เจ้าอย่ามาไขสือ เป็นคนหลอกข้ามาเองไม่ใช่หรือ” เขาสบตากับสตรีที่อยู่ในการควบคุมของเขา“ใครหลอกคุณมากัน” ถานซู่เฟินเปลี่ยนจากคล้องคอผลักเขาออกห่างร่างกายของทั้งคู่ที่เคยนัวเนียไร้เสื้อผ้าผละออกจากหัน เฉิงเว่ยฉี จ้องมองสตรีตัวเล็ก ๆ คนนั้นด้วยสายตาเหยียดหยามระคนไม่เข้าใจเมื่อได้ยืนห่างจากกัน ซู่เฟินถึงได้เห็นหน้าตาเขาชัดเจนขึ้น อื้ม!!! หล่อเหลือเกินพ่อ เธอลอบเลียริมฝีปากที่แห้งผาก รสจูบเมื่อครู่เธอรู้สึกถึงมันได้นิดหนึ่ง คนผู้นั้นใส่แค่ชุดผ้าสีขาวบาง ๆ ร่างกายกล้ามเนื้อสัดส่วนทุกอย่างดูแข็งแกร่งไปหมด เมื่อมองต่ำลงมาเรื่อย ๆ ซู่เฟินก็ยิ้มปริ่มทำหน้าเลิ่กลั่ก“คุณหนูถาน หลอกให้ข
แม้ถานซู่เฟินจะตะโกนดังแค่ไหนก็ไม่มีใครได้ยินในสิ่งที่เธอบอก ฆาตกรที่ฆ่าเธอยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในที่ทำงานได้อย่างหน้าตาเฉยเธอเคยได้ยินว่า พวกผีนี่สามารถไปที่ไหนก็ได้ จะตามหลอกหลอนใครก็ได้ เธอจึงตั้งจิตติดตามไปถึงบ้านของคนที่ฆ่าเธอ อย่างน้อยก็ต้องทำอะไรสักอย่าง เช่น เข้าฝัน ทำของตก เป่าลมแรง ๆ หรือไม่ก็แลบลิ้นปริ้นตาให้แม่คนนั้น ที่มารู้ทีหลังว่าชื่อหนิงเยว่ซี ตกใจตายกันไปข้างหนึ่งแต่ไม่ว่าจะใช้อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์แค่ไหน แม่นั่นก็ไม่ได้สะทกสะท้านกับการกระทำของเธอเลยสักนิด ชีหนิงเยว่ซีใช้ชีวิตดี๊ดี ส่วนเธอต้องกลายเป็นผีเร่ร่อนแค่คิดก็เจ็บแค้นเกินไปแล้ว“คนสวย ทำแบบนั้นไม่ช่วยอะไรหรอก” ผีหญิงชราตนหนึ่งพูดกับเธอ“ก็แม่คนนั้นเป็นคนฆ่าหนู หนูอยากจับชีหักคอจริง ๆ” ซู่เฟินพยายามกำมือรอบคอหนิงเยว่ซี“แต่ไหนแต่ไรมา คนเป็นกับคนตายก็เป็นเส้นขนานกัน พวกที่เธอเห็นในละครน่ะ เป็นเรื่องหลอกลวงทั้งนั้น แล้วเพิ่งเป็นผีไม่นานแบบนี้เลเวลผีต่ำต้อยจะไปทำอะไรใครเขาได้” ผียายแก่พูดกับเธอ“งั้นแสดงว่าหนูทำอะไรชีไม่ได้เลยเหรอคะ” ซู่เฟินพองแก้มอย่างเหนื่อยหน่าย“อื้อ ไปชดใช้กันในยมโลกเถอะจะหญิง เดี๋ยวนางก็ไปตกก
การจราจรยามเช้าค่อนข้างติดขัด ซึ่งเป็นเรื่องปกติของมหานครยิ่งใหญ่แห่งนี้ ปีปีหนึ่งจะมีบัณฑิตจบใหม่หลายล้านคน ทุกคนต่างแย่งชิงฝ่าฟันเพื่อให้ได้งานบริษัทระดับท็อป สำหรับถานซู่เฟินแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องลงสนามแย่งชิงอะไรแบบนั้นจบจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติ ผลการศึกษาตอนเรียนจบก็เข้าขั้น Top อีกทั้งยังเคยเดินสายผ่านการประกวดมาหลายเวที หน้าตาจัดว่าสวยงามตอนสัมภาษณ์ อาศัยวาทศิลป์นิดหน่อยบวกกับยิ้มสวยพราวเสน่ห์ หญิงสาวก็ได้งานนั้นมาอย่างง่ายดาย ตำแหน่งเริ่มต้นในทีมพัฒนาและวิจัยของบริษัทระดับชาติจึงตกมาอยู่มือเธออย่างไม่ต้องสงสัยวันนี้เป็นวันทำงานวันแรกคนตัวเล็กเลือกที่จะไม่มาสาย หญิงสาวตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อให้ทันรถเมล์เที่ยวแรก การเริ่มต้นที่ดีจะส่งผลดีต่อเรื่องอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ซู่เฟินเลือกสวมเสื้อผ้าสีโทนอุ่น ให้ดูบอบบางน่าทะนุถนอม“รอด้วยค่ะ” เธอวิ่งตะโกนร้องเรียกรถเมล์ที่กำลังจะเคลื่อนตัวออกจากท่าจอดรถ โชคดีที่คนขับรถได้ยิน เห็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยกำลังตกอยู่ในความยากลำบากใครจะไม่ใส่ใจเมื่อขึ้นไปบนรถซู่เฟินยิ้มโปรยเสน่ห์ไปหนึ่งที คุณลุงคนขับใจดีไม่ว่าอะไร ได้แต่โบกมือให้เธอรีบเข้าไปนั่ง เพราะ







