Share

บทที่ 690

Author: โม่เสียวชี่
สองวันถัดมา เฉียวเนี่ยนก็หาวิธีออกจนได้

ในตําราแพทย์ไม่มีตำรับขับเด็ก แต่ในหอรักษาโรคมี

เฉียวเนี่ยนนำตำรับนั้นกลับมาศึกษาอย่างละเอียด โชคดีที่นางพลิกอ่านตําราแพทย์ที่หมอประจำจวนให้มาหลายรอบจนจำตำรับยาช่วยชีวิตต่าง ๆ ได้ขึ้นใจและเข้าใจลึกซึ้ง นางจึงรวบรวมความกล้า เปลี่ยนตัวยาหลายอย่างในตำรับขับเด็ก แล้วเพิ่มยาบำรุงร่างกายลงไปอีกหลายขนาน จากนั้นจึงเคี่ยวยาจนได้หนึ่งชาม แล้วถือไปวางไว้ตรงหน้าองค์หญิงซูหยวน

น้ำยาสีดำสนิทยังมีไอร้อนลอยขึ้นอยู่

อวิ๋นเอ๋อร์จะก้าวเข้ามารับไป แต่เฉียวเนี่ยนกลับถอยหลังหนึ่งก้าว หลบมือของอวิ๋นเอ๋อร์

เห็นดังนั้น องค์หญิงซูหยวนก็ขมวดคิ้วทันที “บังอาจ! เฉียวเนี่ยน เจ้าคิดจะเล่นลูกไม้อะไรอีก?!”

“หม่อมฉันไม่กล้าเพคะ!” เฉียวเนี่ยนตอบเสียงอ่อน แต่ในน้ำเสียงกลับแฝงความเด็ดขาด

นางมององค์หญิงซูหยวนแล้วพูดเสียงเบา “ตอนนี้คนนอกถูกพระองค์ทรงไล่ออกไปหมดแล้ว คนที่สามารถอยู่รับใช้ใกล้ชิดได้ก็มีแค่หม่อมฉันกับอวิ๋นเอ๋อร์เท่านั้น เช่นนั้นก่อนที่พระองค์จะเสวยยา หม่อมฉันมีเรื่องหนึ่งที่ต้องถามให้แน่ชัด”

อวิ๋นเอ๋อร์เป็นคนสนิทของซูหยวน รู้เรื่องที่พระองค์ตั้งครรภ์อยู่ ย่อมไม่จำ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 696

    คืนนั้น เฉียวเนี่ยนฝันร้ายในฝัน นางย้อนกลับไปยังกรมซักล้าง กลับไปยังสถานที่ที่ถูกเฆี่ยนตีทารุณตามอำเภอใจนางถูกลากไปที่บ่อซักล้าง ถูกกดกับพื้น ถูกเฆี่ยนตีอย่างโหดร้าย!แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นไม่ใช่การถูกทารุณ หากแต่เป็นตอนที่นางถูกเฆี่ยนตี ศพของหนิงซวงกลับนอนอยู่ข้าง ๆ ลืมตาตายอย่างไม่สงบ!นางแทบจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียงกรีดร้องเมื่อเห็นม่านเตียงที่คุ้นเคย และหนิงซวงที่รีบร้อนมาหา นางก็รู้ตัวในที่สุดว่าภาพน่าสะพรึงกลัวเมื่อครู่นั้นเป็นเพียงความฝันเพียงแต่ว่ามันสมจริงเกินไปสมจริงเสียจนเหงื่อเย็น ๆ ซึมออกมาทางแผ่นหลัง ลมหายใจกระชั้นถี่ แม้ตอนนี้หนิงซวงจะยังยืนอยู่ตรงหน้า คอยปลอบนางด้วยความห่วงใย แต่นางก็ยังหยุดความเย็นเยียบที่เอ่อล้นขึ้นในอกไม่ได้“คุณหนู อย่าทำให้บ่าวตกใจไปมากกว่านี้เลยเจ้าค่ะ!” หนิงซวงตกใจจนแทบขาดใจเมื่อเห็นท่าทีเหม่อลอยของเฉียวเนี่ยน “ไม่ได้การละ บ่าวจะไปตามท่านหมอให้มาดูคุณหนูเสียหน่อย!”พูดจบก็เตรียมจะออกไปแต่กลับถูกเฉียวเนี่ยนคว้ามือไว้ “ไม่ต้อง ข้าไม่เป็นอะไร”นางค่อย ๆ เอ่ยออกมา เกรงว่าหนิงซวงจะเป็นห่วง จึงยังฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อย “ยามไหนแล้ว?

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 695

    แต่เฉียวเนี่ยนไม่กล้าหยุดฝีเท้า รีบเร่งไปทางนอกวังอย่างร้อนรนเมื่อคราวก่อนท่านหมอประจำจวนเคยให้ยาช่วยชีวิตนางมาสองเม็ดนางให้ท่านเซียวเหิงไปหนึ่งเม็ด ตอนนี้ยังเหลืออีกหนึ่งเม็ดนางต้องรีบกลับจวนอ๋อง ต้องให้ทันก่อนที่หัวหน้าคนรับใช้จะสิ้นใจ ป้อนยาเม็ดนั้นให้หัวหน้าคนรับใช้กิน!เฉียวเนี่ยนยิ่งเดินก็ยิ่งร้อนรน จนสุดท้ายแทบจะวิ่งเหยาะ ๆแท้จริงแล้วนางไม่ได้สนิทกับหัวหน้าคนรับใช้มากนัก และเคยพูดคุยกันแค่ไม่กี่คำแต่หัวหน้าคนรับใช้นั้นขยันขันแข็ง สุภาพอ่อนโยน แม้แต่ฉู่จืออี้ยังเคยชมเชยหัวหน้าคนรับใช้ผู้นั้นไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็ไม่ควรตายอย่างนั้น!ในที่สุด เฉียวเนี่ยนก็มาถึงหน้าประตูวัง ขึ้นรถม้าของจวนอ๋อง รีบเร่งสั่งว่า “เร็ว! กลับจวน!”สารถีไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็รีบเงื้อแส้ทันที รถม้าก็พุ่งไปยังจวนอ๋องด้วยความเร็วที่ไม่เคยมีมาก่อนแต่เฉียวเนี่ยนก็ยังช้าไปก้าวหนึ่งนางเพิ่งลงจากรถม้า ก็เห็นขันทีคนหนึ่งนำทางคนแต่งกายเป็นทหารองครักษ์สองคนออกมาจากจวนอ๋องเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยน ขันทีคนนั้นยังยกมือทำความเคารพกับเฉียวเนี่ยนอีกด้วยเฉียวเนี่ยนชะงัก มองดูไม้สองท่อนในมือทหารองครักษ์

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 694

    ทั้งยังเป็นสามสิบไม้ที่ใช้สำหรับลงโทษทหาร ไม่ใช่แค่สามสิบไม้ธรรมดา!ไม้ทหารนั้นล้วนเป็นท่อนไม้ตันขนาดเท่าข้อมือ คนลงโทษก็เป็นทหารทั้งสิ้น แรงเยอะ มือหนักโดนโบด้วยสามสิบไม้ทหาร หัวหน้าคนรับใช้จะเหลือทางรอดอยู่หรือ?เฉียวเนี่ยนเผลอจะเอ่ยห้าม แต่ฝ่ามือกลับรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาเป็นองค์หญิงซูหยวนที่ใช้เล็บจิกลงไปบนหลังมือของนางอย่างแรงนางเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็เห็นสายตาเตือนขององค์หญิงซูหยวนในที่สุดก็เข้าใจ นี่เป็นการทดสอบขององค์หญิงซูหยวนต่อนางนางเห็นแก่ที่องค์หญิงซูหยวนก็เป็นผู้ถูกกระทำ จึงตั้งใจทำงานให้อย่างสุดความสามารถ หวังว่าเมื่อเรื่องจบลง องค์หญิงจะเห็นว่านางยังมีประโยชน์ในภายภาคหน้า จึงจะไม่ลงมือกับนางองค์หญิงเองก็เหมือนจะรับปากแล้ว แต่ไม่คิดว่าองค์หญิงซูหยวนกลับจะลงมือกับหัวหน้าคนรับใช้!เพราะเหตุใดกัน?เพื่อทดสอบว่าเฉียวเนี่ยนจะทรยศองค์หญิงเพื่อผู้อื่นหรือไม่ และเพื่อแสดงให้นางเห็นว่า องค์หญิงมีอิทธิพลเพียงใดสำหรับฮ่องเต้เช่นนั้นหรือเพียงคำพูดหนึ่งประโยค การออดอ้อนหนึ่งครั้ง ก็สามารถชี้เป็นชี้ตายชีวิตของคนคนหนึ่งได้แม้คนผู้นั้นจะเป็นถึงหัวหน้าคนรับใช้ของจวนอ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 693

    ฮ่องเต้ตั้งใจจะรับเฉียวเนี่ยนไว้ใช้งานในราชสำนักมานานแล้ว อย่างไรเสีย นางก็เรียนวิชาแพทย์มาจากหมอเทวดาเรื่องฮูหยินหลินมีไข้สูงไม่ลดตอนอยู่ในวัง แต่กลับถูกนางใช้ทักษะฝังเข็มลดไข้ได้ ฮ่องเต้เองก็ได้ยินมาแล้วตอนนั้นก็นึกอยู่แล้วว่าหมอเทวดานี่ช่างเก่งเหลือเกิน เฉียวเนี่ยนเพิ่งเรียนวิชาแพทย์ได้ไม่นานกลับเก่งกว่าบรรดาหมอหลวงในโรงหมอหลวงเสียอีกตอนนี้ พอได้ยินองค์หญิงซูหยวนชมเชยเช่นนี้ ฮ่องเต้ก็ยิ่งเห็นดีเห็นงามด้วยทันใดนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อย “เราเห็นว่าข้อเสนอนี้ดีมาก แม่นางเฉียว เจ้าคิดว่าอย่างไร?”ทั้งฮ่องเต้และองค์หญิงซูหยวนต่างก็เห็นดีเห็นงามด้วย เฉียวเนี่ยนจะปฏิเสธได้อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น แค่แต่งตั้งให้นางเป็นหมอหญิงชั้นเจ็ด ก็มิใช่เรื่องเสียหายอันใดนางจึงคุกเข่าลง “หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่าบาท ขอบพระทัยองค์หญิงเพคะ”เห็นดังนั้น ฮ่องเต้ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “เช่นนั้น เจ้าต้องเรียกตัวเองว่า ‘ข้าพระพุทธเจ้า’ จึงจะถูกต้อง”“เพคะ ข้าพระพุทธเจ้าขอบพระทัยฝ่าบาท ขอบพระทัยองค์หญิงเพคะ”เฉียวเนี่ยนก็กล่าวขอบพระทัยอีกครั้งฮ่องเต้จึงให้ลุกขึ้น และเมื่อเห็นว่านางดูแลองค์หญิงอย่างดี มี

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 692

    ตลอดสามวันที่เหลือ องค์หญิงซูหยวนอ้างว่าเป็นหวัดเพราะอากาศเย็น จึงนอนพักอยู่ในห้องตลอดสามวันในสามวันนี้ นอกจากอวิ๋นเอ๋อร์แล้วก็มีแค่เฉียวเนี่ยนที่คอยดูแลอยู่ข้างกายสามวันต่อมา องค์หญิงซูหยวนก็จากจวนอ๋องผิงหยาง กลับวังด้วยสีหน้าผุดผ่องส่วนหนิงซวงก็กลับมาจากเรือนเล็กเสียทีเพียงแต่ตอนที่กลับมา เด็กสาวคนนี้อารมณ์ไม่ค่อยดีนักพอเห็นเฉียวเนี่ยน หนิงซวงก็ตาแดงก่ำ “คุณหนู บ่าวไปหาช่างดูแลสวนมาดูแล้ว ต้นเหมยแดงเติบโตได้ดีมาก บอกว่าหน้าหนาวปีนี้ต้องออกดอกเต็มกิ่งแน่! ส่วนที่อื่น ๆ ในเรือนเล็กที่ต้องจัดการ บ่าวก็จัดการไปหมดแล้วเจ้าค่ะ”เห็นหนิงซวงทำท่าจะร้องไห้ เฉียวเนี่ยนก็อดเป็นห่วงไม่ได้ “เป็นอะไร ถูกใครรังแกมาหรือเปล่า?”หนิงซวงส่ายหน้ารัว น้ำตาร่วงลงมา “บ่าวรู้ว่าคุณหนูทำแบบนั้นเพราะหวังดีถึงให้บ่าวออกมา แต่บ่าวก็เป็นห่วงคุณหนู ฮือ ๆ ๆ คุณหนู บ่าวไม่ใช่คนที่กลัวลำบาก ต่อไปหากมีเรื่องแบบนี้อีก คุณหนูอย่าไล่บ่าวไปได้ไหมเจ้าคะ?”หนิงซวงไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้จริง ๆตอนคุณหนูตกลงไปในแม่น้ำฉางหยาง ทิ้งนางไว้คนเดียวที่เมืองหลวง ตอนนั้นหัวใจของนางก็เจ็บปวดมากแล้วแต่ครั้งนั้นก็เข้าใจไ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 691

    องค์หญิงซูหยวนมองเฉียวเนี่ยนด้วยแววตาเย็นชา แววตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “อย่าได้พาลให้คนอื่นมารับเคราะห์รึ? หมายความว่า ข้าจะพาลลงกับเจ้าแทนก็ได้อย่างนั้นหรือ?”เฉียวเนี่ยนจ้องมองดวงตาขององค์หญิง ไม่ได้หลบเลยแม้แต่น้อย “หากหม่อมฉันสามารถปกป้องให้พระองค์ผ่านพ้นเคราะห์นี้ไปได้อย่างปลอดภัย ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่าหม่อมฉันมีประโยชน์ต่อพระองค์”ใครจะกล้ารับประกันว่าตนจะไม่ล้มป่วย ไม่มีภัยในภายหน้าแล้วจะไม่จำเป็นต้องพึ่งนางอีก?เมื่อได้ฟังดังนั้น องค์หญิงซูหยวนก็เริ่มคิดคำนวณในใจ แววตากวาดมองเฉียวเนี่ยนจากหัวจรดเท้า แล้วจึงเอ่ยว่า “เมื่อก่อน เป็นข้าที่ส่งเจ้าไปอยู่กรมซักล้าง ทั้งยังสั่งให้คนรังแกเจ้าทุกวัน แล้วเหตุใดเจ้าจึงไม่โกรธแค้น?”“เป็นหนี้ต้องชำระ เป็นคนผิดต้องชดใช้กรรม เคราะห์กรรมของหม่อมฉันล้วนมีต้นตอมาจากหลินยวนเท่านั้น บัดนี้หลินยวนก็ตายแล้ว เรื่องนี้ก็ถือว่าชำระสะสางสิ้นแล้วเพคะ”นัยว่า นางไม่โกรธแค้นอีกต่อไปแล้วองค์หญิงซูหยวนมองเฉียวเนี่ยน พยายามค้นหาเสี้ยวหนึ่งของความเสแสร้งในดวงตาของนางแต่ไม่คาดคิด ในดวงตาของเฉียวเนี่ยนกลับมีเพียงความจริงใจองค์หญิงซูหยวนจึงถอนหายใจเบา ๆ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status