Home / รักโบราณ / พลิกชะตารักหญิงบ้า / ตอนที่29ปรึกษาหารือ

Share

ตอนที่29ปรึกษาหารือ

last update Last Updated: 2025-07-19 12:28:05

หลังจากกล่อมเหยียนเหยียนจนหลับสนิท จื่ออิงก็เดินออกมาหาหลี่เฉินที่นั่งรอเธออยู่ในห้องโถง ดวงตาคมของเขาจับจ้องเธอตั้งแต่ที่เธอก้าวเท้าออกมาจากห้อง

จื่ออิงสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะนั่งลงตรงหน้าชายหนุ่ม เธอไม่มั่นใจว่าเขาจะเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอกำลังจะทำหรือไม่ แต่เมื่อคิดว่าตัดสินใจแน่วแน่แล้ว เธอก็ไม่ควรถอย 

การเปิดร้านอาหารในช่วงปี 1980 ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าจีนจะเริ่มเปิดประเทศ และมีการผ่อนคลายนโยบายเศรษฐกิจมากขึ้น แต่การทำธุรกิจส่วนตัวยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่ในหลายพื้นที่ ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยนี้ เธอยังต้องพึ่งพาหลี่เฉิน และในฐานะสามีภรรยา เธอไม่อาจตัดสินใจเพียงลำพังโดยไม่ปรึกษาเขาได้

หลี่เฉินมองภรรยาเงียบๆ แววตาเจือด้วยความสงสัยถึงเรื่องที่เธอต้องการจะคุยกับเขา แต่เมื่อเห็นท่าทางของเธอ เขาก็เพียงเอื้อมมือไปหยิบกาน้ำชา รินชาอุ่นๆ ลงในถ้วยเล็ก แล้วยื่นให้เธอด้วยท่าทางใส่ใจ ราวกับอยากให้เธอผ่อนคลาย 

"ดื่มน้ำชาก่อนครับ"

จื่ออิงรับถ้วยชามาถือไว้ ความอุ่นจากน้ำชาซึมเข้าสู่ฝ่ามือ ทำให้หัวใจที่เต้นแรงเพราะความประหม่าและความคิดที่สับสนวุ่นวาย ค่อยๆ สงบลง

หลังจากรอให้ภรรยาดื่มน้ำชาจนหมดถ้วย หลี่เฉินจึงได้เอ่ยถามขึ้น 

"มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ"

น้ำเสียงของชายหนุ่มทุ้มต่ำนุ่มลึกแฝงไปด้วยความอ่อนโยน แววตาฉายแววสงสัย แต่ก็ยังคงเต็มไปด้วยความอบอุ่น และรอฟังเธออย่างตั้งใจ

จื่ออิงเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"ฉันอยากเปิดร้านขายอาหารในตัวอำเภอค่ะ"

หลังจากที่คิดใคร่ครวญมาหลายวัน เธอคิดว่าการเปิดร้านอาหารดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเธอ เพราะมันเป็นสิ่งที่เธอชื่นชอบและถนัดที่สุด

หลี่เฉินชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะวางถ้วยชาลงบนโต๊ะอย่างใจเย็น สายตาคมกริบทอดมองภรรยาด้วยความสนใจ เขาไม่ได้คัดค้าน แต่ต้องการฟังเหตุผลของเธอให้มากกว่านี้

"ทำไมถึงอยากเปิดร้านล่ะครับ"

น้ำเสียงของเขานุ่มนวล แฝงไปด้วยความเอาใจใส่ ไม่มีท่าทีคัดค้าน แต่แววตาฉายแววสนใจ

จื่ออิงยิ้มบางเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้มีท่าทีขัดขวาง เธอสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะตั้งใจอธิบายอย่างเป็นเหตุเป็นผล

"ฉันคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้วค่ะ ตั้งแต่ที่หายป่วยฉันก็อยากหางานทำ ฉันอยากหาเงินให้ได้เยอะๆ วันนั้นที่เราไปตลาดกัน ฉันสังเกตเห็นว่าตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก ดูเหมือนรัฐบาลจะผ่อนปรนกฎเกณฑ์ลง มีร้านค้ามากมายที่ไม่ใช่ของรัฐเกิดขึ้นในตัวอำเภอ"

ในช่วงยุค 80 จีนเริ่มมีการอนุญาตให้ประชาชนทำธุรกิจส่วนตัวได้มากขึ้น โดยเฉพาะร้านอาหารและแผงลอยซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วเพราะคนเริ่มมีรายได้มากขึ้น โดยเฉพาะในเขตเมืองและอำเภอที่มีผู้คนพลุกพล่าน ต่อไปร้านอาหารขนาดเล็กและแผงลอยจะเริ่มผุดขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะมีข้อจำกัดหลายอย่าง

เธอหยุดเล็กน้อยเพื่อเรียบเรียงคำพูด และดูปฏิกิริยาของหลี่เฉิน เมื่อเห็นว่าเขายังตั้งใจฟังในสิ่งที่เธอพูด จึงเอ่ยต่อไป

"แต่ฉันสังเกตว่าร้านอาหารดีๆ ยังมีไม่มาก อาหารบางอย่างก็ไม่มีขายเลย ฉันคิดว่าถ้าเปิดร้านอาหารที่มีรสชาติอร่อยและราคาสมเหตุสมผล น่าจะมีลูกค้าจำนวนไม่น้อยค่ะ"

ร้านอาหารหลักๆ ในตอนนี้เป็นของรัฐ ซึ่งมีเมนูจำกัด และรสชาติค่อนข้างธรรมดา แต่มีราคาถูก เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ ส่วนรถเข็นและร้านแผงลอยข้างทางก็เป็นอาหารแบบง่ายๆ ธรรมดาๆ และช่วงนี้เป็นต้นยุค 80 ร้านอาหารเอกชนจึงยังมีไม่มากนัก แต่พอปลายยุค 80 ก็เริ่มมีเพิ่มขึ้น อาหารที่ขายมักเป็นเมนูง่าย ๆ

หลี่เฉินมองภรรยาของเขา แววตาฉายประกายครุ่นคิด

"คุณวางแผนเรื่องนี้มาดีแล้วหรือยังครับ"

จื่ออิงพยักหน้า ดวงตาเป็นประกายด้วยความมุ่งมั่น

"ฉันมีสูตรอาหารหลายอย่างที่มั่นใจว่าคนต้องชอบ และถ้าเริ่มจากร้านเล็กๆ ก่อน ค่อยๆ ขยับขยายก็น่าจะไปได้ดีค่ะ"

เธอไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ เพราะกลัวว่าเขาจะสงสัยว่าเธอรู้เรื่องเศรษฐกิจและการค้าขายมากเกินไป ทั้งที่เธอเพิ่งฟื้นจากอาการป่วยไม่นาน

เธอจะเปิดร้านอาหารโดยเริ่มจากร้านขนาดเล็กก่อน ถ้าอาหารอร่อยและบริการดี โอกาสขยายกิจการก็มีสูง โดยเฉพาะถ้าเป็นช่วงปลายยุค 80 ที่เศรษฐกิจเริ่มเปิดกว้างมากขึ้น ถึงตอนนั้นร้านของเธอก็คงจะกลายเป็นที่รู้จักหยั่งรากลึกไปแล้ว

หลี่เฉินเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มบางๆ

"ถ้านั่นคือสิ่งที่อาอิงอยากทำ ผมก็จะสนับสนุนครับ"

จื่ออิงชะงักไปเล็กน้อย หัวใจอบอุ่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เธอไม่คิดว่าเขาจะเห็นด้วยง่ายขนาดนี้

"จริงเหรอคะ"

ชายหนุ่มพยักหน้า ก่อนจะยื่นมือมากุมมือเธอเอาไว้

"คุณไม่คิดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้เหรอคะ"

เธอมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ เอ่ยถามเขาอีกครั้ง

"ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะครับ"

หลี่เฉินหัวเราะเบาๆ

"อาอิงของผมเก่งอยู่แล้ว ทำอาหารอร่อยขนาดนี้ ผมเชื่อว่าถ้าคุณเปิดร้าน ต้องขายดีแน่ๆ"

คำพูดของเขาทำให้จื่ออิงคลี่ยิ้มกว้าง ดวงตาคู่งามส่องประกายเจิดจ้า

"ขอบคุณค่ะ คุณเฉ..."

เธอชะงักเมื่อนึกถึงสายตาที่เขามองเธอ การกระทำและคำพูดมากมายก่อนหน้านี้ ก่อนจะเม้มปากเล็กน้อยแล้วเปลี่ยนคำเรียก

"ขอบคุณนะคะ...สามี"

จื่ออิงอยากเรียกเขาด้วยคำคำนี้ คำที่ไม่มีใครสามารถเรียกเขาได้นอกจากเธอ และเป็นคำเรียกขานที่บ่งบอกว่าตอนนี้เธอยอมรับเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตอย่างเต็มใจ

หลี่เฉินชะงักไปชั่วขณะ ดวงตาที่มองเธอทอประกายบางอย่าง ก่อนที่มุมปากของเขาจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

"พูดแบบนี้ น่ารักมากครับ แบบนี้ต้องให้รางวัล"

เขายกมือเธอขึ้นก่อนจะแนบริมฝีปากร้อนลงมา กดจุมพิตลงบนหลังมือของเธอเบาๆ จื่ออิงใบหน้าแดงซ่านขึ้นมาทันที

"ทำอะไรคะเนี่ย"

เสียงของเธอเต็มไปด้วยความขัดเขิน ขณะที่หลี่เฉินหัวเราะเบาๆ บรรยากาศระหว่างคนทั้งสองอบอุ่นเป็นกันเองขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

หลังจากที่ได้พูดคุยกัน หลี่เฉินก็ระบายลมหายใจออกมาเบาๆ สายตาไม่ละไปจากใบหน้าภรรยา เขายังคงกุมมือของเธอเอาไว้

"อาอิง" 

จื่ออิงชะงัก ดวงตากะพริบถี่มองสบตาคนที่กำลังจ้องมองเธออยู่ ขานรับอีกฝ่ายเสียงเบา

"คะ"

"ความจริงผมเองก็มีบางอย่างที่ยังไม่ได้บอกคุณ"

หลี่เฉินเม้มปากลงเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกมา

"คือว่าผม ลาออกจากงานในหมู่บ้านแล้วครับ"

ความจริงเขาคิดเรื่องลาออกมาสักพักแล้ว ตั้งแต่วันที่จื่ออิงฟื้นตัวจากอาการป่วย เขาก็เริ่มทบทวนอนาคตของครอบครัวมากขึ้น งานที่ทำอยู่แม้จะมั่นคงในระดับหนึ่ง แต่กลับไม่มีโอกาสเติบโต รายได้ที่ได้รับก็เพียงพอแค่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่อาจสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับภรรยาและลูกได้

เขาอยากให้เหยียนเหยียนได้รับการศึกษาที่ดี มีโอกาสเรียนสูงๆ และอยากให้ลูกกับภรรยามีชีวิตที่สุขสบายมากกว่านี้

เขาพอจะมีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่ง ซึ่งตั้งใจเก็บไว้เพื่ออนาคตของบุตรสาว แต่เมื่อคิดถึงทางเลือกอื่นๆ เขากลับรู้สึกว่าการใช้เงินก้อนนี้มาต่อยอดทำธุรกิจอาจเป็นทางออกที่ดีกว่า แทนที่จะปล่อยให้มันอยู่เฉยๆ เขาคิดจะเริ่มต้นจากการค้าขายเล็กๆ น้อยๆ แบบซื้อมาขายไปก่อน แล้วค่อยขยับขยาย

แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังลังเล เพราะกลัวว่าหากพลาดขึ้นมา ครอบครัวจะต้องลำบาก แต่พอเกิดเรื่องของเจียงซินหยาขึ้นมาจึงทำให้เขาตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ก่อนกลับบ้านในวันนี้ เขาจึงตัดสินใจแวะไปพบหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อทำเรื่องลาออก แม้จะรู้ว่านี่เป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ แต่เขาก็พร้อมจะเสี่ยง หากมันหมายถึงอนาคตที่ดีขึ้นของครอบครัว

หลี่เฉินอยากบอกจื่ออิงถึงเรื่องนี้ตั้งแต่ที่กลับมาถึงบ้าน แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี เขาไม่อยากให้เธอต้องกังวล 

จนกระทั่งภรรยาเอ่ยปากว่าอยากจะเปิดร้านอาหาร เขาไม่คิดว่าตัวเองกับภรรยาจะมีความคิดเป็นไปในทิศทางเดียวกันถึงขนาดนี้ ความไม่มั่นใจ ไม่สบายใจที่มีอยู่ก็พลันหายไป ราวกับสิ่งที่เขากำลังมองหาได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าแล้ว

เมื่อได้เห็นความตั้งใจของภรรยา เขาก็มั่นใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของเขาไม่ใช่เรื่องผิดพลาด

จื่ออิงนิ่งค้างไปชั่วขณะ ดวงตากลมโตไหวระริก ขณะที่จ้องมองสามีด้วยความตกใจ

"คุณลาออกจากงานแล้วเหรอคะ"

เธอถามเสียงแผ่ว เบื้องลึกในใจเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

หลี่เฉินพยักหน้า สบตาภรรยาด้วยสายตามั่นคง

"ใช่ครับ และผมก็ตัดสินใจดีแล้ว"

เขากุมมือเธอไว้แน่นขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหนักแน่นและจริงจัง

"ผมคิดเรื่องนี้มานานแล้ว ผมรู้ว่าถ้ายังทำงานนี้ต่อไป เราคงไม่มีโอกาสก้าวหน้า ยิ่งคิดถึงอนาคตของเหยียนเหยียน ผมก็ยิ่งมั่นใจว่าต้องเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง"

จื่ออิงเงียบไปครู่หนึ่ง มองใบหน้าของสามีที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

"แล้ว... คุณคิดเอาไว้ว่าจะทำอะไรต่อไปเหรอคะ"

หลี่เฉินคลี่ยิ้มบางๆ ดวงตาฉายแววอบอุ่นปะปนไปกับความคาดหวัง

"ผมตั้งใจจะทำการค้า ตอนแรกกะจะเริ่มจากการซื้อมาขายไปก่อน ใช้เงินเก็บก้อนหนึ่งที่เตรียมไว้ให้เหยียนเหยียนมาลงทุน แต่ก็ยังลังเล เพราะไม่แน่ใจว่าจะไปได้ดีแค่ไหน"

เขาหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะลูบหลังมือของภรรยาเบาๆ

"แต่พอคุณพูดว่าอยากเปิดร้านอาหาร ผมก็คิดว่าบางที นี่อาจเป็นโอกาสของเรา"

จื่ออิงเบิกตาขึ้นเล็กน้อย หัวใจพลันเต้นแรงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

"คุณหมายความว่า..."

"เรามาทำมันด้วยกันเถอะครับ"

หลี่เฉินพูดเสียงหนักแน่น ดวงตาฉายแววแน่วแน่

"เรามาร่วมมือกัน สร้างอนาคตของครอบครัวไปพร้อมกันนะครับอาอิง"

จื่ออิงนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่รอยยิ้มจะค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า

เธอไม่คิดว่าการตัดสินใจของเธอในวันนี้ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในครอบครัวขนาดนี้ แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของสามี เธอกลับรู้สึกอบอุ่นใจ

"ค่ะ เราจะสร้างอนาคตไปด้วยกัน"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่38แม่ของเหยียนเหยียนหายไป

    แสงแดดอ่อนยามเช้าค่อยๆ ลอดผ่านช่องหน้าต่างเข้ามา เส้นแสงอุ่นนวลพาดผ่านผืนฟูกและเรือนร่างสองร่างที่ยังหลับใหลอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันอย่างแนบแน่น เสียงนกน้อยร้องรับอรุณดังแผ่วอยู่ไกลๆ ปะปนกับเสียงลมยามเช้าที่พัดผ่านม่านบางเบา ทำให้บรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยความสงบและอบอุ่นจื่ออิงรู้สึกตัวช้าๆ เปลือกตาของเธอกะพริบไล่แสงที่แตะต้องใบหน้าเบาๆ ก่อนสายตาจะค่อยๆ ปรับให้ชินกับแสงและสิ่งรอบตัวสิ่งแรกที่เธอรู้สึกได้คือความอบอุ่นจากวงแขนแข็งแกร่งที่ยังโอบรอบตัวเธอเอาไว้แน่น แผ่นอกแข็งแกร่งที่แนบอยู่ด้านหลัง ฝ่ามือใหญ่ที่ทาบอยู่บนหน้าท้องของเธอ ลมหายใจสม่ำเสมอที่เป่ารดลงมา และกลิ่นอายที่ชวนให้วาบหวามของเจ้าของวงแขนที่ยังคงติดอยู่บนผิวกายของเธอ ราวกับจะยืนยันว่าเรื่องเมื่อคืนไม่ใช่เพียงแค่ความฝันจื่ออิงหันศีรษะไปมองคนด้านหลังช้าๆ เห็นใบหน้าหล่อคมของชายหนุ่มในยามหลับที่ดูอบอุ่นอ่อนโยน หัวใจของเธอพลันกระตุก ใบหน้างามร้อนวาบขึ้น เธอเม้มริมฝีปากแน่นอย่างขัดเขิน ดวงหน้าแดงเรื่ออย่างห้ามไม่อยู่ การกระทำของหลี่เฉินเมื่อคืนนี้ บอกกับเธอว่าอย่าตัดสินคนเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกจื่ออิงข่มความอับอายที่เกิด

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่37เป็นของกันและกันอย่างสมบูรณ์

    ลมหายใจของหลี่เฉินร้อนผ่าว รินรดลงบนผิวเนื้อของเธอราวกับเปลวไฟอ่อนๆ ที่กำลังโอบล้อมร่างกาย มือใหญ่ของเขาค่อยๆ ลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธอด้วยความอ่อนโยน แต่แฝงไว้ด้วยแรงปรารถนา สัมผัสนั้นไม่ได้เพียงแค่แตะต้องร่างกาย หากแต่เหมือนปลุกให้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นทุกขณะ ทุกสัมผัสจุดความรู้สึกบางอย่างในกายให้ลุกวาบโดยไม่ทันตั้งตัวจื่ออิงไม่รู้ตัวเลยว่าเสื้อผ้าของเธอหลุดหายไปจากร่างกายตั้งแต่เมื่อไหร่ จนกระทั่งหลี่เฉินผละตัวออกห่างจากเธอ ความอบอุ่นที่โอบล้อมอยู่จึงจางหาย ลมเย็นบางเบาพัดผ่านเข้ามาทางช่องหน้าต่าง สัมผัสผิวกายทำให้ขนอ่อนของเธอลุกชัน เธอถึงได้รู้ว่าตัวเองเหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าจื่ออิงปรือตาขึ้นช้าๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจึงหยุดการกระทำทุกอย่างลง หรือว่าเธอทำอะไรผิดไป แต่แล้วจื่ออิงก็ต้องชะงัก เมื่อตอนนี้ภาพอันแสนเย้ายวนกลับปรากฏอยู่ตรงหน้าแสงจากตะเกียงน้ำมันส่องสะท้อนลงบนเรือนร่างของหลี่เฉินที่กำลังยืดกายอยู่ตรงปลายเท้าของเธอ เขานั่งชันเข่า สองแขนแข็งแกร่งยกขึ้นสูง กำลังถอดเสื้อตัวบางออกจากศีรษะ ท่วงท่าเหล่านั้นเป็นไปอย่างเนิบนาบเชื่องช้า ราวกับตั้งใจให้เธอไล่สายตาสำรวจไปทั่วเรื

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่36อ้อมกอดที่อบอุ่น

    ในอ้อมกอดอุ่นนั้น จื่ออิงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง หัวใจเธอเต้นช้าลงอย่างสงบ ราวกับได้พักพิงอยู่ในที่ปลอดภัยที่สุด เธอไม่รู้ว่าหลี่เฉินยืนกอดเธอนานแค่ไหน แต่ก็ไม่อยากให้ช่วงเวลานี้จบลงเลยเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขาอีกครั้ง ใบหน้าของทั้งสองอยู่ใกล้กันจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกันแววตาของหลี่เฉินอ่อนโยน ลึกซึ้ง และเปี่ยมไปด้วยความรัก"อาอิง"เสียงของเขานุ่มนวล "คุณรู้ไหมว่าผมไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนเลย ว่าเราจะมีวันนี้ วันที่ครอบครัวได้อยู่กันพร้อมหน้า"จื่ออิงมองสบตาเขาแล้วยิ้มอ่อนโยน เธอเองก็ไม่เคยคิดเหมือนกัน แต่ยังไม่ทันจะตอบอะไร เขาก็ยกมือขึ้นลูบผมเธอเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ก้มลงประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน"ขอบคุณนะครับที่อยู่ข้างๆ กัน ขอบคุณที่เป็นความสุขให้ผมกับลูก"เขากระซิบด้วยเสียงแผ่วเบาเธอกะพริบตาถี่ๆ รู้สึกเหมือนหัวใจพองโตคับอก เธอไม่ได้พูดอะไรเพราะรู้สึกตื้นตันใจไปหมดจนพูดไม่ออก ทำเพียงยกมือขึ้นกอดเอวเขาเอาไว้แน่น สื่อความรู้สึกทั้งหมดที่เธอไม่อาจเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้หลี่เฉินมองเธออย่างอ่อนโยน แล้วค่อยๆ โน้มหน้าเข้ามาใกล้อีกครั้ง คราวนี้ริมฝีปากของเขาแนบลงบนแก้ม

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่35ส่งเหยียนเหยียนเข้านอน

    หลังจากพูดคุยกันไปสักพัก เด็กหญิงตัวน้อยก็เริ่มนั่งพิงไหล่มารดาอย่างอ่อนแรง พอท้องอิ่มหนังตาก็เริ่มหนัก ร่างเล็กๆ ขยับตัวไปมาเล็กน้อยก่อนจะอ้าปากหาวหวอดใหญ่ ทำเอาจื่ออิงหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลูบผมลูกสาวอย่างอ่อนโยน"หืม ดูสิ คนเก่งของแม่ง่วงนอนแล้วใช่ไหมคะ"เหยียนเหยียนพยักหน้าช้าๆ ดวงตากลมใสเริ่มปรือด้วยความง่วง แต่ก็ยังฝืนลืมตาไว้ไม่ยอมหลับ"ค่ะ แต่หนูก็อยากฟังนิทานก่อนนอนก่อน" เสียงเล็กๆ พูดเบาๆ เหมือนกระซิบ พร้อมกับซุกตัวเข้าหาแม่เล็กน้อยจื่ออิงยิ้ม พลางเอื้อมมือไปลูบแก้มบุตรสาวอย่างอ่อนโยน ขณะที่เหยียนเหยียนซบใบหน้ากับอกเธออย่างง่วงงุน เธอกำลังจะลุกขึ้นเพื่อพาลูกเข้านอน แต่ยังไม่ทันได้ขยับตัว อ้อมแขนอบอุ่นของหลี่เฉินก็ยื่นเข้ามารับร่างเล็กของเหยียนเหยียนไปอย่างนุ่มนวลแต่ในจังหวะที่มือของเขาเอื้อมมารับตัวลูกสาว ใบหน้าหล่อเหลาก็โน้มต่ำลงมาจนปลายจมูกโด่งชนเข้ากับแก้มนุ่มของคนเป็นแม่แผ่วเบาสัมผัสนั้นทำให้จื่ออิงเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายทันที จนสบเข้ากับดวงตาของหลี่เฉินที่กำลังมองมาอย่างอ่อนโยน แววตาของเขาสื่อความหมายได้มากกว่าคำพูดใดๆ"เหนื่อยมากไหมครับวันนี้"เขาถามเบาๆ เสียงนุ่มนวลนั้น

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่34เริ่มการปรับปรุงซ่อมแซมร้าน

    ตลอดหลายวันมานี้ หลี่เฉินและจื่ออิงแทบไม่มีเวลาได้หยุดพัก ทั้งคู่ยุ่งอยู่กับการปรับปรุงและซ่อมแซมร้านตั้งแต่เช้ายันเย็น ต้องตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อเดินทางเข้าตัวอำเภอ กลับบ้านมาก็เกือบค่ำมืด ตั้งแต่วันแรกก็เริ่มต้นด้วยการติดต่อช่างและพาช่างเข้ามาดูหน้างาน พูดคุย ปรึกษา วางแผน และต่อรองราคา จนแทบไม่มีเวลานั่งพัก โชคดีที่ช่างที่หลี่เฉินหามานั้นเป็นคนขยันและมืออาชีพ แต่ถึงอย่างนั้นการปรับปรุงและซ่อมแซมก็ใช่ว่าจะง่าย ตัวอาคารเดิมนั้นแม้โครงสร้างโดยรวมยังคงแข็งแรง แต่สภาพทั้งภายนอกและภายในอาคารกลับทรุดโทรมจนเห็นได้ชัด เพราะผ่านการใช้งานมายาวนาน หลังคากระเบื้องดินเผาหลายแผ่นแตกร้าว บางจุดมีรอยรั่ว หากมีฝนตกคาดว่าคงไหลซึมลงมาเป็นสายผนังด้านนอกลอกเป็นแผ่นๆ เผยให้เห็นปูนเก่า ด้านในแตกร้าวเป็นเส้นตื้นๆ เต็มไปหมด ส่วนภายในยิ่งแล้วใหญ่ พื้นไม้เดิมด้านบนส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดทุกย่างก้าว และเต็มไปด้วยรอยครูด รอยสึกจากการใช้งานมาอย่างยาวนาน โต๊ะเก้าอี้ไม้เก่าโยกเยกคลอนแคลน บางตัวขาเกือบหัก ส่วนเคาน์เตอร์ด้านหน้าก็ผุพัง มีร่องรอยปลวกกินจนบางจุดทะลุ พื้นปูนเดิมก็แตกร้าวเป็นเส้นยาว ดูแล้วไม่สบายตาเอาเสียเล

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่33เลี้ยงฉลอง

    เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย หลี่เฉินและจื่ออิงเดินออกจากร้านน้ำชาด้วยความรู้สึกเปี่ยมสุข รอยยิ้มแต้มอยู่บนใบหน้าของทั้งคู่ วันนี้พวกเขาได้อาคารแห่งนั้นมาเป็นของตัวเองแล้ว ร้านอาหารในฝันกำลังเข้าใกล้ความเป็นจริงไปอีกก้าว และมันไม่ใช่ก้าวเล็กๆ แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะต้องใช้เงินก้อนโต แต่พวกเขาก็มั่นใจว่าคุ้มค่า จื่ออิงมองอาคารไม้ผสมปูนที่เพิ่งกลายเป็นของพวกเขาด้วยสายตาแน่วแน่ ใจของเธอพองโตด้วยความหวัง นี่คือจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ เป็นโอกาสที่เธอและหลี่เฉินจะสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับครอบครัว หลี่เฉินหันไปมองภรรยา ก่อนจะยื่นมือไปกอบกุมมือของเธอไว้แน่น ริมฝีปากคลี่ยิ้มอ่อนโยน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวภรรยา ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจทำสิ่งใด เขาก็พร้อมจะเดินเคียงข้าง คอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้เสมอสำหรับหลี่เฉินแล้ว ตอนนี้จื่ออิงไม่ใช่เพียงแค่ภรรยา แต่เป็นคู่ชีวิตที่เขาอยากก้าวผ่านทุกช่วงเวลาของชีวิตไปด้วยกันทั้งสองเดินเคียงข้างกันไป ท่ามกลางบรรยากาศยามบ่ายที่เต็มไปด้วยเสียงเจี๊ยวจ๊าวของผู้คน เสียงรถลาที่แล่นผ่านไปมา และกลิ่นหอมของอาหารที่ลอยมาตามลม พวกเขารู้ดีว่าหน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status