Home / รักโบราณ / พลิกชะตารักหญิงบ้า / ตอนที่43เปิดร้านวันแรก

Share

ตอนที่43เปิดร้านวันแรก

last update Last Updated: 2025-08-10 20:02:21

ในที่สุดร้านอาหารของพวกเขาก็เสร็จสมบูรณ์ จื่ออิงกับหลี่เฉินยืนเคียงข้างกันอยู่หน้าร้าน มองดูคนงานกำลังติดตั้งป้ายชื่อร้านเหนือประตูทางเข้าด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข แววตาของทั้งสองเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและภาคภูมิใจ

ป้ายไม้ขนาดใหญ่ถูกออกแบบอย่างสวยงามและพิถีพิถัน รูปลักษณ์ดูทันสมัยแต่ยังแฝงกลิ่นอายของความเป็นจีนดั้งเดิม ลวดลายที่แกะสลักลงบนเนื้อไม้ให้ความรู้สึกคลาสสิก ไม่ฉูดฉาดแต่กลับโดดเด่นอย่างมีเสน่ห์ เมื่อติดตั้งเสร็จ ป้ายนี้ก็เสริมให้บรรยากาศของร้านดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้น ราวกับกำลังบอกเล่าเรื่องราวของอาหารและวัฒนธรรมที่รออยู่ภายใน

และสิ่งที่โดดเด่นสะดุดตาที่สุดเห็นจะเป็นชื่อร้านที่ถูกแกะสลักอย่างประณีตและสวยงาม

"หอร้อยรส (百味楼)"

ชื่อนี้จื่ออิงใช้เวลาคิดอยู่นานหลายวัน เธออยากได้ชื่อที่ไม่เพียงแค่ไพเราะ แต่ต้องสื่อถึงอาหารทุกจานในร้าน ร้านที่รวมร้อยรสชาติเอาไว้ รสชาติหลากหลายที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เปรียบเหมือนรสชาติร้อยแบบพันอย่างที่ลูกค้าจะได้สัมผัสและลิ้มลอง

วันนี้เมื่อเห็นชื่อร้านของเธอถูกยกขึ้นติดไว้อย่างสง่างามเหนือทางเข้า จื่ออิงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ แม้ว่าทุกอย่างจะยังไม่เป็นไปอย่างที่วาดฝันไว้อย่างสมบูรณ์ แต่สำหรับจื่ออิงแล้ว ร้านเล็กๆ ที่เธอกับหลี่เฉินช่วยกันลงมือทำทีละนิด ก็มีคุณค่ามากที่สุดแล้ว 

ยังมีเรื่องให้เธอต้องเรียนรู้อีกมาก และมันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของความฝัน จื่ออิงเชื่อว่ามันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น หนทางและอนาคตข้างหน้าของครอบครัวเธอยังอีกยาวไกล มันจะไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้แน่

แล้ววันเปิดร้านก็มาถึง ปลายฤดูใบไม้ผลิ อากาศอุ่นสบายกำลังดี แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านกระจกหน้าร้าน สะท้อนลงบนโต๊ะไม้เรียบง่ายที่เรียงรายอยู่ภายใน ร้านอาหารที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายทว่าดูน่าดึงดูดและมีชีวิตชีวา 

เสียงประทัดดังสนั่นขึ้นด้านหน้าร้าน ควันสีขาวจางๆ ลอยคลุ้งในอากาศ ปะทะกับแสงแดดยามเช้า เกิดเป็นภาพบรรยากาศคึกคักเรียกความสนใจจากผู้คนที่เดินผ่านไปมาให้ต้องชะงักฝีเท้าหันมามอง

บางคนได้ยินข่าวลือว่ามีร้านอาหารเปิดใหม่ บางคนแค่บังเอิญผ่านมาในเส้นทางนี้ และบางคนคือคนที่ผ่านไปมาในเส้นทางนี้อยู่เป็นประจำ ไม่กี่สัปดาห์ก่อน พวกเขาเห็นร้านนี้ยังเป็นเพียงอาคารเก่าโทรม ไม่น่าเชื่อว่าในเวลาไม่นาน จะถูกปรับปรุงจนกลายเป็นร้านอาหารที่ดูสะอาดตาอบอุ่นและดูน่าดึงดูด 

ตั้งแต่หน้าร้านที่ตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูเชื้อเชิญ ไปจนถึงภายในร้านที่แค่มองลอดผ่านกระจกเข้าไปก็ชวนให้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศภายใน แต่สิ่งที่ดึงดูดทุกคนเหมือนกันมากที่สุดคือ "กลิ่น" 

กลิ่นหอมที่โชยออกมาก่อนหน้านี้ ราวกับเป็นการเชื้อเชิญผู้คนให้เข้ามาสัมผัสรสชาติใน "หอร้อยรส" 

กลิ่นหอมอบอวลของอาหารที่ลอยออกมาจากครัวด้านหลัง กลิ่นหอมของเครื่องเทศ ผสมกับกลิ่นน้ำซุปที่ถูกเคี่ยวมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เป็นกลิ่นที่ชวนให้ผู้คนหยุดยืนนิ่ง กลิ่นหอมที่ชวนให้น้ำลายสอ จนต้องสูดลมหายใจลึกๆ ด้วยความหิว ทำให้พวกเขาอดใจไม่ไหว ต้องเดินเข้าไปด้วยความอยากรู้ 

ไม่นานนัก ประตูร้านก็ถูกผลักเข้ามา เสียงกระดิ่งเล็กๆ ที่แขวนอยู่เหนือประตูส่งเสียงดังแผ่วเบา พร้อมกับลูกค้าคนแรกที่ก้าวเข้ามา

หลี่เฉินที่ยืนอยู่ใกล้ประตูหันมายิ้มต้อนรับลูกค้าด้วยท่าทีสุภาพและจริงใจ

"เชิญด้านในครับ หอร้อยรสของเรายินดีต้อนรับครับ" 

เขากล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ พลางพยักหน้าเรียกพนักงานที่รับเข้ามาช่วยงานสองคนให้พาลูกค้าไปนั่ง พนักงานทั้งคู่สวมผ้ากันเปื้อนสีอ่อนดูสะอาดเรียบร้อย ก้าวเข้ามารับลูกค้าด้วยรอยยิ้มและท่าทีนอบน้อม

ลูกค้าที่เข้ามามองไปรอบร้านอย่างพอใจ บรรยากาศภายในตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูอบอุ่น  

เพียงแค่ก้าวเข้ามาก็ได้รับรอยยิ้มและการต้อนรับที่ดี กลิ่นหอมในร้านที่โอบล้อมรอบตัว บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองของเจ้าของร้าน ความรู้สึกพึงพอใจจึงก่อตัวขึ้น พวกเขารู้ทันทีว่าที่นี่ไม่ใช่แค่ร้านอาหารธรรมดา แต่มันจะกลายเป็นร้านประจำของพวกเขา

จื่ออิงโผล่หน้าออกมาจากด้านหลังครัว ยิ้มกว้างอย่างปลื้มใจเมื่อเห็นลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ เธอมองดูบรรยากาศในร้านที่ค่อยๆ คึกคัก แล้วก็หันกลับเข้าไปในครัว สำรวจความเรียบร้อยรอบสุดท้าย ล้างมือล้างไม้ หยิบจับวัตถุดิบอย่างคล่องแคล่ว แล้วเดินไปเปิดฝาหม้อซุปอีกครั้ง กลิ่นหอมของน้ำซุปที่เคี่ยวตั้งแต่เช้าลอยฟุ้งขึ้นมาทันที ตอนนี้แม้จะมีเมนูอาหารเพียงไม่กี่อย่างแต่ทุกจานเธอใส่ใจเหมือนทำให้คนในครอบครัวกิน

หลี่เฉินเดินเข้ามาในครัวพร้อมรอยยิ้มเต็มใบหน้า แขนเสื้อถูกพับขึ้นเรียบร้อย พร้อมจะเป็นลูกมือให้ภรรยา

"ตื่นเต้นไหมครับ"

เขาถามขึ้นเบาๆ ขณะหยิบผ้ากันเปื้อนขึ้นมาสวม

จื่ออิงยิ้ม พลางมองไปที่หน้าร้านอีกครั้ง สายตาของเธอเปล่งประกาย ทั้งจากความตื่นเต้นและความมุ่งมั่น

"นิดหน่อยค่ะ แต่ก็พร้อมมากเลย"

สองสามีภรรยายิ้มให้กัน สบตากันก่อนจะหัวเราะเบาๆ ด้วยความเข้าใจในใจของกันและกัน ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ พนักงานก็นำออร์เดอร์แรกเข้ามาส่ง

จื่ออิงรับออร์เดอร์ด้วยท่าทางคล่องแคล่ว แล้วเริ่มลงมือปรุงทันที หลี่เฉินรีบเข้าประจำจุด ช่วยหยิบของ เตรียมจาน และจัดเรียงเครื่องเคียงอย่างกระตือรือร้น

เพียงไม่นานอาหารจานแรกก็ถูกจัดวางอย่างเรียบร้อย และถูกยกออกไปเสิร์ฟด้วยความตั้งใจ

หลังจากนั้นเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะเบาๆ และเสียงช้อนกระทบถ้วยชามก็ดังไปทั่วร้าน ทำให้บรรยากาศในร้านเต็มไปด้วยความครึกครื้น เกี๊ยวหมูร้อนๆ ที่มีไอความร้อนลอยขึ้นอ่อนๆ และบะหมี่เนื้อตุ๋นที่เป็นเมนูเด่นของร้าน ถูกยกออกไปชามแล้วชามเล่า

"อร่อยมาก!" 

ลูกค้าคนหนึ่งอุทานพร้อมรอยยิ้มกว้าง หลังจากซดน้ำซุปหมดถ้วย

ลูกค้าสองสามีภรรยาวัยกลางคนมองหน้ากันแล้วยิ้ม ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะคีบเกี๊ยวตัวอวบอ้วนขึ้นมาชิมคำแรก

เธอหลับตานิดๆ อย่างพอใจ

"รสชาติดีมากจริงๆ"

ฝ่ายชายพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย ก่อนจะลองซดน้ำซุปแล้วเงยหน้าขึ้นพลางว่า

"น้ำซุปหวานมาก หวานจากกระดูก รสชาติแบบนี้แหละที่ตามหามานาน"

เสียงพูดคุยเบาๆ ผสมกับเสียงช้อนกระทบจาน และเสียงหัวเราะดังขึ้นจากหลายโต๊ะ ลูกค้าโต๊ะอื่นที่เพิ่งเข้ามาก็เริ่มเหลือบมองโต๊ะใกล้ๆ ด้วยความสนใจในกลิ่นและหน้าตาอาหารที่วางอยู่ตรงหน้า

ร้านอาหารดูคึกคักเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินตบเท้าเข้ามาไม่ขาดสาย

จื่ออิงและหลี่เฉินสบตากัน ในความวุ่นวายรอบตัว ทั้งคู่รู้ดีว่านี่เป็นเพียงก้าวแรกของการเดินทางอันยาวไกล แต่ก็เป็นก้าวที่มั่นคงและมีความสุข แม้จะต้องหัวหมุนทำงานแทบไม่ทัน แต่ในใจของจื่ออิงและหลี่เฉินกลับรู้สึกอิ่มเอมอย่างบอกไม่ถูก เหมือนทุกหยาดเหงื่อที่ทุ่มเทลงไปในช่วงที่ผ่านมา เริ่มออกดอกออกผลแล้วจริงๆ

จื่ออิงยืนมองภาพตรงหน้าอย่างเงียบๆ ใจเต้นแรงด้วยความสุข นี่คือช่วงเวลาที่เธอเฝ้ารอมาแสนนาน ร้านอาหารเล็กๆ ที่เกิดจากความฝันและน้ำพักน้ำแรงของเธอกับหลี่เฉิน ได้เริ่มต้นอย่างงดงามแล้วในวันนี้

"หอร้อยรส" เริ่มต้นวันแรกได้อย่างสวยงาม

และในมุมหนึ่งของร้าน เหยียนเหยียนที่เพิ่งกลับจากโรงเรียนกำลังนั่งกินไข่ตุ๋นของโปรดอยู่เงียบๆ เธอหันไปมองพ่อกับแม่ที่กำลังยุ่งอยู่ในครัว แล้วก็ยิ้มกว้างอย่างภูมิใจ

เมื่อพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า แสงไฟสีอบอุ่นภายในร้านก็สว่างขึ้นแทนที่ เสียงพูดคุยจางลงทีละนิด จนในที่สุดลูกค้ากลุ่มสุดท้ายก็กล่าวลา และประตูร้านก็ถูกปิดลงอย่างแผ่วเบา

จื่ออิงยืนพิงเคาน์เตอร์ หลังจากที่จัดเก็บร้านและเตรียมของสำหรับขายในวันพรุ่งนี้เสร็จเรียบร้อย หญิงสาวถอนหายใจเฮือกหนึ่งอย่างเหนื่อยล้า แต่ดวงตาเป็นประกายสดใส

"ในที่สุด วันแรกของการเปิดร้านก็ผ่านไปด้วยดี"

เธอพูดพลางมองไปรอบร้าน โต๊ะเก้าอี้ที่เคยเต็มไปด้วยผู้คน ตอนนี้ว่างเปล่า เหลือไว้เพียงความรู้สึกอิ่มเอมที่ยังคงลอยอยู่ในอากาศ

หลี่เฉินที่กำลังจ่ายเงินค่าจ้างให้ลูกจ้างสำหรับงานวันนี้ เงยหน้าขึ้นยิ้มให้ภรรยา ก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างๆ แล้วเทน้ำชาส่งให้

"วันนี้เหนื่อยมากจริงๆ แต่ผมไม่เคยรู้สึกมีความสุขแบบนี้มานานแล้ว" 

เขากล่าวเสียงแผ่ว

จื่ออิงพยักหน้าช้าๆ พลางยกแก้วชาขึ้นจิบ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของชาอุ่นๆ ช่วยทำให้ความเหนื่อยล้าผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด

ทั้งสองสบตากันครู่หนึ่ง รอยยิ้มบางๆ ที่เผยออกมานั้นไม่ใช่แค่เพราะความสำเร็จของวันแรก แต่เป็นเพราะพวกเขาได้เดินไปด้วยกันในเส้นทางที่ฝันไว้

เสียงฝีเท้าเล็กๆ ดังขึ้นก่อนที่เหยียนเหยียนจะโผล่หน้าออกมาจากหลังร้าน เด็กหญิงวิ่งเข้ามากอดพ่อแม่แน่น

"วันนี้หนูช่วยต้อนรับลูกค้าไปตั้งหลายคนแน่ะ"

เธอพูดเสียงเจื้อยแจ้ว ดวงตาเปล่งประกายอย่างภาคภูมิใจ

จื่ออิงหัวเราะเบาๆ ลูบศีรษะลูกสาวด้วยความรัก 

"แม่เห็นแล้วค่ะ หนูเก่งมากเลย"

หลี่เฉินอุ้มลูกขึ้นมานั่งบนตัก ก่อนจะพูดขึ้นว่า

"งั้นมื้อเย็นวันนี้ เรากินอะไรพิเศษๆ กันดีไหมครับ"

"กินเนื้อย่างกันดีไหมคะ"

เสียงเล็กๆ ของเหยียนเหยียนเสนอขึ้นด้วยรอยยิ้มสดใสพร้อมกับดวงตาเป็นประกาย

"ตกลงตามนั้นค่ะ" 

จื่ออิงหัวเราะเบาๆ แล้วพยักหน้ารับทันที

หลังจากนั้นทั้งสามคนก็พากันขี่จักรยานกลับบ้านหลังน้อยของพวกเขา ท่ามกลางแสงยามเย็นของอาทิตย์ลับฟ้า แม้ร่างกายจะอ่อนล้า แต่ใจกลับเบาสบาย

ค่ำคืนนั้น พวกเขานั่งล้อมวงกันตรงลานหน้าบ้าน เตาย่างเล็กๆ ถูกจุดขึ้น กลิ่นหอมของเนื้อย่างลอยคลุ้งไปในอากาศ แสงไฟนวลอาบไล้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

เสียงหัวเราะของเหยียนเหยียนที่หยอกล้อกับพ่อแม่ กลายเป็นเสียงที่อบอุ่นที่สุดในค่ำคืนนี้ ไม่มีอะไรหรูหรา ไม่มีพิธีรีตอง มีเพียงความเรียบง่าย แต่เปี่ยมด้วยความหมาย

แม้วันพรุ่งนี้จะยังเต็มไปด้วยงานหนักที่รออยู่ แต่ในค่ำคืนนี้ พวกเขามีแค่กันและกัน และหัวใจที่พองโตเพราะได้เริ่มต้นความฝันร่วมกันอย่างงดงาม ความสุขในแบบที่ไม่มีสิ่งใดมาแทนที่ได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่45เจียงซินหยามาเยือน

    ในเวลาเดียวกันภายในหอร้อยรส ช่วงบ่ายคล้อยแสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านกระจกหน้าร้าน ลำแสงสีทองแตะต้องขอบหน้าต่างและโต๊ะไม้ในร้านอย่างแผ่วเบา ภายในร้านยังคงคึกคักไม่ขาดสาย เสียงจานช้อนกระทบกันเบาๆ ผสานกับกลิ่นหอมของอาหารที่ยังอบอวลอยู่ในอากาศ หลี่เฉินกำลังยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ คิดเงินค่าอาหารส่งให้พนักงานอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะหันไปหยิบน้ำชาให้ลูกค้าประจำโต๊ะหนึ่ง ท่าทางของเขาขะมักเขม้น เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและใส่ใจในทุกรายละเอียดจนกระทั่งเสียงกระดิ่งเหนือประตูหน้าร้านดังขึ้นเบาๆ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นโดยอัตโนมัติ พร้อมเอ่ยประโยคต้อนรับอย่างเคย"สวัสดีครับ หอร้อยรสยินดีต้อน..."แต่ประโยคนั้นกลับหยุดลงกลางคันเมื่อเขาเห็นว่าใครกำลังยืนอยู่หน้าประตู รอยยิ้มอ่อนโยนประจำตัวชะงักไปในทันทีหญิงสาวรูปร่างโปร่งบางในชุดกระโปรงสีครีมยืนอยู่หน้าประตู ใบหน้าขาวสะอาดตา ผมยาวถูกรวบเอาไว้อย่างเรียบร้อย แววตาคู่นั้นกำลังจ้องมองมาที่เขาเจียงซินหยาหลี่เฉินยืนนิ่งไปชั่วครู่ รอยยิ้มจางๆ ประจำตัวค้างอยู่บนใบหน้า ในฐานะเจ้าของร้านเขาไม่แน่ใจว่าควรจะรักษามันไว้หรือปล่อยมันหายไปความเงียบแผ่วบางพาดผ่านระหว่างสายตาของทั

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่44เรื่องน่ายินดี

    วันเวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ร้านอาหารเล็กๆ อย่าง "หอร้อยรส" ก็กลายเป็นที่รู้จักในย่านนั้นอย่างรวดเร็ว จากร้านอาหารที่เพิ่งเปิดใหม่ กลับกลายเป็นจุดหมายของผู้คนที่แวะเวียนกันมาแทบทุกวัน ใครจะเชื่อว่าอาคารหลังนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รกร้างเก่าโทรม ไม่มีใครคิดจะหันกลับมามอง แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นร้านอาหารแสนอบอุ่นที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความสุขของผู้คนที่แวะมาใช้บริการและอิ่มท้องในแต่ละวันลูกค้าขาประจำบางคนถึงกับมาทุกเช้า บางคนแวะมาเย็น บางคนแค่เดินผ่านก็อดไม่ได้ที่จะชะโงกหน้าเข้ามาดูว่ามีเมนูอะไรบ้างที่น่าสนใจในวันนี้ ส่วนลูกค้าใหม่ก็ทยอยตามกันมาแบบปากต่อปากไม่ขาดสาย ส่วนใหญ่ล้วนได้ยินชื่อเสียงของร้านจากคำบอกเล่าของเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่คนแปลกหน้าที่เจอกันระหว่างต่อแถวซื้อของ ไม่มีวันไหนเลยที่ร้านจะเงียบเหงา ทุกๆ วันมีเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะ เสียงช้อนกระทบชาม กลายเป็นเสียงประจำร้านที่อบอวลไปด้วยชีวิตชีวา กลิ่นหอมของอาหารที่ลอยมาตามลมเหมือนคำเชิญชวนที่ไม่มีใครต้านทานได้ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นจากความตั้งใจและแรงกายแรงใจของจื่ออิงกับหลี่เฉิน คู่สามีภรรยาที่ทุ่มเทในทุกขั้นตอน เน

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่43เปิดร้านวันแรก

    ในที่สุดร้านอาหารของพวกเขาก็เสร็จสมบูรณ์ จื่ออิงกับหลี่เฉินยืนเคียงข้างกันอยู่หน้าร้าน มองดูคนงานกำลังติดตั้งป้ายชื่อร้านเหนือประตูทางเข้าด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข แววตาของทั้งสองเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและภาคภูมิใจป้ายไม้ขนาดใหญ่ถูกออกแบบอย่างสวยงามและพิถีพิถัน รูปลักษณ์ดูทันสมัยแต่ยังแฝงกลิ่นอายของความเป็นจีนดั้งเดิม ลวดลายที่แกะสลักลงบนเนื้อไม้ให้ความรู้สึกคลาสสิก ไม่ฉูดฉาดแต่กลับโดดเด่นอย่างมีเสน่ห์ เมื่อติดตั้งเสร็จ ป้ายนี้ก็เสริมให้บรรยากาศของร้านดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้น ราวกับกำลังบอกเล่าเรื่องราวของอาหารและวัฒนธรรมที่รออยู่ภายในและสิ่งที่โดดเด่นสะดุดตาที่สุดเห็นจะเป็นชื่อร้านที่ถูกแกะสลักอย่างประณีตและสวยงาม"หอร้อยรส (百味楼)"ชื่อนี้จื่ออิงใช้เวลาคิดอยู่นานหลายวัน เธออยากได้ชื่อที่ไม่เพียงแค่ไพเราะ แต่ต้องสื่อถึงอาหารทุกจานในร้าน ร้านที่รวมร้อยรสชาติเอาไว้ รสชาติหลากหลายที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เปรียบเหมือนรสชาติร้อยแบบพันอย่างที่ลูกค้าจะได้สัมผัสและลิ้มลองวันนี้เมื่อเห็นชื่อร้านของเธอถูกยกขึ้นติดไว้อย่างสง่างามเหนือทางเข้า จื่ออิงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ แม้ว่าทุกอย่างจะยั

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่42วันแสนสุขที่ผ่านไปอีกวัน

    บ่ายวันนั้น หลังจากเก็บงานที่ร้านเสร็จเรียบร้อย จื่ออิงกับหลี่เฉินก็พากันไปรับเหยียนเหยียนที่โรงเรียนทันทีที่แม่หนูน้อยเห็นพ่อกับแม่มายืนรออยู่ตรงประตูโรงเรียน ใบหน้าเล็กๆ ก็เปล่งประกายสดใส ดวงตากลมโตเป็นประกายระยิบระยับ ก่อนที่ร่างเล็กๆ จะรีบวิ่งเข้ามาหาด้วยความดีใจ"แม่คะ พ่อคะ วันนี้หนูสนุกมากเลยค่ะ"เด็กหญิงร้องบอกเสียงใส ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข แก้มกลมนุ่มนิ่มขึ้นสีชมพูอ่อนดูน่าเอ็นดู"วันนี้หนูได้ระบายสีสมุดภาพ ได้เล่นกับเพื่อน แล้วก็..."เหยียนเหยียนพูดเสียงเจื้อยแจ้วไม่หยุด มือเล็กๆ แกว่งไปมาประกอบคำพูดอย่างกระตือรือร้นฝ่ามืออ่อนนุ่มของจื่ออิงยกขึ้นลูบศีรษะเล็กเบาๆ อย่างเอ็นดู รอยยิ้มละมุนกระจายเกลื่อนใบหน้าหลี่เฉินย่อตัวลงรับลูกสาวขึ้นมากอดด้วยท่าทีอบอุ่น แล้วอุ้มขึ้นไปนั่งบนเบาะจักรยานด้านหน้า ขณะฟังเรื่องราวของลูกอย่างตั้งใจ รอยยิ้มอ่อนโยนประดับอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาแต่ยังไม่ทันจะได้จัดให้เจ้าตัวนั่งดีๆ เสียงใสๆ ก็ประท้วงขึ้นเบาๆ"วันนี้หนูขอนั่งข้างหลังกับแม่ได้ไหมคะ"จื่ออิงหัวเราะออกมาเบาๆ พลางสบตากับหลี่เฉินอย่างรู้ทัน เห็นท่าทางกระตือรือร้นของลูกสาวก็พอจะเ

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่41จัดการร้าน

    ทันทีที่มาถึงร้านของพวกเขา จื่ออิงกับหลี่เฉินก็หันมายิ้มให้กัน ทั้งคู่ยืนมองอาคารตรงหน้าด้วยความภูมิใจและพึงพอใจ จากอาคารเก่าทรุดโทรมที่เคยเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว และร่องรอยการชำรุดจากกาลเวลา ได้รับการปรับปรุงจนตอนนี้เปลี่ยนไปจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม กลับกลายเป็นอาคารที่ดูสวยงามและมีเสน่ห์จนนึกไม่ถึงว่าจะเป็นสถานที่เดียวกันอาคารตรงหน้าดูดีขึ้นเป็นอย่างมาก ผนังสีขาวสะอาดตาด้านหน้าร้านที่เพิ่งทาสีเสร็จไม่นาน ถูกแต่งแต้มด้วยลวดลายดอกไม้จางๆ สีสันไม่จัดจ้านแต่กลับดูมีรสนิยม แฝงความละมุนละไมและความตั้งใจที่ใส่ลงไปในทุกรายละเอียดดูน่าดึงดูด แปลกตา มีเสน่ห์ และน่าสนใจ กลายเป็นสถานที่ที่ใครเดินผ่านก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับมามองหลี่เฉินจูงมือภรรยาเดินเข้าไปในตัวอาคาร ก่อนจะแยกออกไปพูดคุยกับนายช่างเกี่ยวกับการเก็บรายละเอียดต่างๆ ตามที่ภรรยาออกแบบเอาไว้ ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันที่โต๊ะเก้าอี้และเครื่องครัวที่สั่งเอาไว้มาส่งพอดี ส่วนจื่ออิงเลือกที่จะเดินสำรวจภายในร้าน นิ้วมือเรียวลูบผนังที่เพิ่งทาสีเสร็จเบาๆ เหมือนกำลังสัมผัสความฝันที่ค่อยๆ เป็นจริง ร้านแห่งนี้ตรงใจของเธอแทบทุกอย่าง ต้องยอมรับว่านายช่างท

  • พลิกชะตารักหญิงบ้า   ตอนที่40วันเปิดเรียน

    วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาเช้าวันจันทร์ก็มาถึง วันนี้ไม่ใช่เพียงแค่วันที่เหยียนเหยียนต้องไปโรงเรียนเป็นวันแรกเท่านั้น แต่ยังเป็นวันที่จื่ออิงกับหลี่เฉินต้องกลับมาทุ่มเทให้กับร้านอาหารของพวกเขาอีกครั้งวันนี้จื่ออิงตื่นตั้งแต่เช้ามืด และแน่นอนตลอดสองวันมานี้เธอตื่นขึ้นมาในห้องนอนของหลี่เฉิน ซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว เพราะทุกคืนหลังจากที่เหยียนเหยียนหลับสนิท หลี่เฉินก็มักจะโผล่มาแบบเงียบๆ แล้วอุ้มเธอออกจากห้องพากลับเข้าห้องของตัวเองและเขาไม่เคยปล่อยให้เธอได้นอนง่ายๆ หลี่เฉินลงมือรังแกเธอจนดึกดื่นค่อนคืน ผลก็คือทุกเช้า จื่ออิงก็มักจะตื่นสายกว่าที่ควรจะเป็น และก็เป็นเหมือนภาพที่ฉายซ้ำ เสียงเคาะประตูจะดังขึ้นตามเวลาเป๊ะ พร้อมกับเสียงใสๆ ของเหยียนเหยียนดังอยู่ด้านหลังประตู"พ่อคะ เปิดประตู พ่อขโมยแม่มาอีกแล้วนะ"แม่หนูน้อยผู้มาเรียกร้องสิทธิ์ในการ'ทวงคืนแม่' จากพ่อหลี่เฉินจะลุกขึ้นด้วยใบหน้ายุ่งๆ แกล้งทำเสียงงัวเงีย แล้วบ่นเบาๆ ว่า"มาแย่งแม่ไปอีกแล้ว พ่อยังนอนกอดแม่ไม่พอเลยนะ"หลังจากนั้นก็เกิดเป็นสงครามเล็กๆ ระหว่างพ่อกับลูกสาว จื่ออิงทำได้แค่หัวเราะเบาๆ กับความวุ่นวายอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status