“ยัยทรายร้ายกาจและใจร้ายที่สุด สงสารหมอฟ้าจัง” แพรวารินทร์เอ่ยต่อว่าเพื่อนก่อนจะเดินนำหน้าออกไป พงศ์พยัคฆ์รีบเดินตามไปอย่างช้า ๆก่อนที่ทั้งคู่จะต้องหยุดชะงักเมื่อเดินมาถึงหน้าสระน้ำพุภาพที่ปรากฏในสายตาของทั้งคู่คือปัญจวัตรและฟ้ารดา พงศ์พยัคฆ์หันมาสบตากับภรรยาก่อนคิดด่าตัวเองในใจ
‘ไม่น่ารีบกลับเล้ยไอ้เสือ ถ้าจะไปที่รถก็ต้องผ่านหน้าสองคนนั้นทำลายบรรยากาศกันพอดี’
“จะกลับแล้วเหรอ”ปัญจวัตรเอ่ยถามหลังจากมองเห็นและผละออกจากกุมารแพทย์สาวอย่างนุ่มนวล
“ใช่พอดีหนูแพรมีงานพรุ่งนี้น่ะเลยไม่อยากกลับดึกไปนะครับหมอฟ้า ไปนะเพื่อนกอดหน่อย” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะดึงเพื่อนรักมากอดและกระซิบบางอย่าง
“ถึงที่ฉันทำมันดูแรงไปแต่ก็เพราะหวังดีกับหมอฟ้าแล้วก็นาย ต่อไปก็จีบไปเรื่อยๆล่ะฉันว่าหมอฟ้าไม่ได้อคติกับนายเหมือนแต่ก่อนแล้ว พยายามให้เต็มที่เอามาเป็นสะใภ้ม้าให้ได้ล่ะ ฉันเองก็จะเป็นหลานเขยที่ดีของม้ากับพ่อนายให้ได้แล้วมาดูกันใครจะทำได้ดีกว่า”
“ไอ้เจ้าเล่ห์ เหลี่ยมจัดทั้งพี่ทั้งน้องฝากขอบใจยัยตัวแสบด้วย ฉันจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง คนนี้ฉันรักจริงหวังแต่งว่าที่แม่ของลูกในอนาคต ส่วนเรื่องน้องแพรเวลา9ปีที่เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์มันทำให้น้องเค้าไม่อาจเชื่อคำพูดนายง่ายๆอย่าลืมที่บอกแก้ไขด้วยหัวใจใช้ใจสื่อให้ถึง”ปัญจวัตรเอ่ยบอกก่อนทั้งคู่จะผละออกจากกันเพราะผู้ชายตัวโตๆกอดกันมันไม่จะเป็นเรื่องธรรมดา
“กลับดี ๆ ล่ะน้องแพรมากอดหน่อย”ปัญจวัตรเอ่ยบอกแพรวารินทร์ก่อนจะเดินไปกอดลูกพี่ลูกน้องสาวพร้อมกระซิบที่ได้ยินแค่สองคน
“เสือเป็นคนดีนะน้องแพรยอมเปิดใจดู มองที่การกระทำว่าจริงใจรึเปล่าแต่เล่นตัวนาน ๆก็ดีนะโทษฐานเจ้าเล่ห์หลอกจุ๊บตั้งหลายครั้งบอกตรง ๆพี่หมั่นไส้”ปัญจวัตรเอ่ยบอกอย่างหมั่นไส้และโมโหก่อนจะผละออก
“ไปล่ะ”พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกเมื่อปัญจวัตรผละออกจากแพรวารินทร์ก่อนจะจับมือของหญิงสาวไว้แล้วเริ่มออกเดินไปที่รถก่อนจะเปิดประตูให้หญิงสาวเข้าไปนั่งส่วนตนอ้อมมาเปิดเข้าไปนั่งฝั่งคนขับแล้วขับออกจากบ้านเกตทิวรากุลไปมุ่งหน้าสู่เรือนแสนรัก
“เขาเหมาะสมกันจัง”ฟ้ารดาเอ่ยกับปัญจวัตรจากใจจริงเธออาจทำใจตัดรักที่มีมาถึงสองปีได้ไม่หมดในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงแต่เธอก็ทำใจตัดพงศ์พยัคฆ์ออกไปได้ในระดับนึง
“ไหวมั้ยหมอเข้าไปข้างในกัน” ปัญจวัตรเอ่ยขึ้นแม้ในใจจะดีใจที่เธอตัดใจยอมรับได้แม้ไม่มากก็ตามแต่เขาก็ยังสงสารเธอ
“ไม่ล่ะฉันจะกลับแล้วหมอเข้าไปเถอะ” ฟ้ารดาเอ่ยบอก “กลับ?คุณมากับหมอรดานิเธอยังอยู่ข้างใน อืมงั้นผมไปส่ง” ปัญจวัตรเอ่ยบอกก่อนจะไลน์บอกน้องสาวให้บอกมารดาด้วยก่อนจะจูงมือฟ้ารดาไปที่รถโดยไม่ฟังคำทัดทานแต่อย่างใน
“คุณจอดรถทำไม” ฟ้ารดาเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อออกจากบ้านเกตทิวรากุลมาไม่ถึงสามกิโลเมตรสิ่งก่อร้างตรงหน้ามันคือสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่
“ลงมาสิไม่ต้องกลัวผมไม่ได้พาคุณมาฆ่าในสนามเด็กเล่นหรอกนะ”ปัญจวัตรเอ่ยบอกหลังจากอ้อมมาเปิดประตูรถให้ฟ้ารดา กุมารแพทย์สาวคิดอย่างชั่งใจก่อนจะก้าวลงมาแล้วเดินตามหมอหนุ่มไป ปัญจวัตรเดินนำหญิงสาวมาหยุดที่ชิงช้าสีสวยก่อนจะพามานั่งลงบนชิงช้า และตนนั่งชิงช้าข้างๆ
“คุณมองขึ้นไปข้างบนสิ”ปัญจวัตรเอ่ยขึ้นพร้อมมองขึ้นไปบนท้องฟ้าภาพที่ปรากฏในสายตาของทั้งคู่คือดวงดาวนับล้านที่ส่องแสงสว่างแข่งกันมันช่างสวยงาม
“สวยจังตั้งแต่เริ่มทำงานยังไม่เคยมีเวลามองดูดาวแบบนี้มาก่อน” ฟ้ารดาเอ่ยขึ้นสายตาจ้องมองดวงดาวบนท้องฟ้าอย่างไม่ละสายตา
“ดาวสวยๆมีมากมายมันก็เหมือนกับผู้ชายที่หล่อๆดี ๆ มีอีกมากที่รอให้คุณมองดู ในสายตาคุณก่อนหน้านี้นายเสืออาจเป็นดาวดวงใหญ่ส่องแสงสุขสกาวสวยงามกว่าดวงอื่นแต่ถ้าคุณไม่โฟกัสที่ดาวดวงนั้นคุณก็จะเห็นดาวดวงอื่นที่ส่องแสงเหมือนกันเห็นมั้ยดาวดวงนั้นใหญ่สวยส่องแสงจ้าแต่ถ้าคุณมองไปทางอื่นก็จะเห็นดาวดวงอื่น” ปัญจวัตรเอ่ยบอกพร้อมชี้ให้ดูดวงดาวแสนสวย
“ขอบคุณนะที่ให้กำลังใจฉันแล้วก็อยู่เป็นเพื่อนกัน คุณเองก็เป็นคนดีเหมือนกันนี่ สงสัยคงต้องมองคุณใหม่แล้วขออยู่นี่สักพักค่อยกลับนะ”ฟ้ารดาเอ่ยบอก “ว่าแต่คุณรู้ได้ไงว่าที่นี่มองเห็นดาวชัดแบบนี้”
หมอหนุ่มยิ้มอย่างมีความหวังก่อนจะเอ่ยตอบแม้คำตอบที่จะพูดจะมีชื่อของคนที่ทำให้เธอเศร้าไปก็ตามแต่เขาก็จะบอกไปตามความจริง “ตรงนี้น่ะ เป็นสวนสาธารณะของหมู่บ้านที่อยู่ตรงกลางระหว่างระยะทางบ้านผมกับบ้านนายเสือตอนเด็กๆเวลากลุ้มใจเราจะมาดูดาวที่นี่จนไป ๆ มา ๆ ที่นี่ก็กลายเป็นที่เล่นของยัยน้องปิ่น น้องแพร แล้วก็น้องทรายยัยตัวแสบน้องสาวนายเสือส่วนผมกับนายเสือก็ต้องนั่งเฝ้าดูแล”
“ต่อไปถ้าไม่สบายใจจะมาที่นี่ได้ปะ” ฟ้ารดาเอ่ยถามสายตายังจับจ้องดวงดาวสวยโดยไม่สามารถอ่านออกว่าหญิงสาวรู้สึกอย่างไร
“ได้สิ ที่นี่เป็นสถานที่สาธารณะคุณจะมาเมื่อไหรก็ได้ แต่ถ้าวันไหนอยากมา ให้มาเป็นเพื่อนได้นะ”หมอหนุ่มเอ่ยบอกและยิ้มให้โดยที่ฟ้ารดายังคงจับจ้องอยู่กับดาว หญิงสาวจับจ้องท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับอยู่พักใหญ่ ๆ จึงถอดใจละสายตา
เธอหันกลับมามองใบหน้าคมหมายจะขอบคุณที่พามาทว่าสิ่งที่หญิงสาวได้เห็นก็คือสายตาคมกริบกำลังมองเธออยู่...และน่าจะมองอยู่ตลอด
แว่บหนึ่งหัวใจของหญิงสาวก็เผลอเต้นผิดจังหวะจนหญิงสาวนึกตกใจตัวเอง อาการคล้ายมีอะไรผิดปกติไปของฟ้ารดาทำให้ปัญจวัตรได้สติเบือนหน้าผินมองขึ้นบนฟ้าบ้าง
“ดาวคืนนี้สวยจริง ๆ แฮะ”
“น่ะ นั่นสิ เอ่อ...ฉัน ฉันอยากกลับบ้านแล้ว ไปเถอะ” หญิงสาวที่อยู่ ๆ ก็รู้สึกแปลก ๆ เอ่ยก่อนจะเดินนำไปที่รถ ปัญจวัตรมองตามด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะตามไปเมื่อหญิงสาวหันกลับมาด้วยท่าทีตั้งท่าจะโวยวายที่ไม่รีบตามมา
วันต่อมา
ร่างสูงสง่าของพงศ์พยัคฆ์เดินเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกแปลก ๆ วันนี้หมอหนุ่มต้องมาคนเดียวเพราะมัณฑนากรสาวต้องไปพบลูกค้าการเดินคนเดียวทำให้เขารู้สึกเหงาแปลก ๆ และไม่คุ้นชิน ปกติเขาก็เดินคนเดียวอยู่แล้วแต่เวลาสองสามวันมานี้เขามีเธอข้างกายตลอดมันทำให้เดินคนเดียวแล้วรู้สึกเหงาเหลือเกิน
“อรุณสวัสดิ์ครับพี่เสือ” รามินเอ่ยทักหลังจากเห็นพงศ์พยัคฆ์เดินมาที่แผนกศัลยกรรมประสาทและสมอง
“สวัสดีตอนเช้าราม สวัสดีตอนเช้าครับทุกคน อ่ะนี่ขนมพอดีแม่นมของพี่ทำขนมมาฝากน้องสาวพี่น่ะท่านเลยให้เอามาฝากที่แผนกด้วยเอาไปแจกจ่ายทานให้อร่อยนะครับทุกคนผมขอไปหาน้องก่อน เดี๋ยวมีเรื่องจะปรึกษา” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยทักทายรามินก่อนจะยื่นขนมให้แล้วเดินไปยังห้องพักของพิมพ์พิชชาทันทีโดนไม่รอคำตอบกลับของใคร
ทันทีที่เปิดประตูห้องเสียงซุบซิบของนางพยาบาลสองคนที่ตรวจอาการของพิมพ์พิชชาที่หลับอยู่ก็ดังลอดเข้ามาในหูทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดฟัง
“นี่เธอได้ยินข่าวรึยัง หมอเสือน่ะแต่งงานแล้วแต่งมา9ปีแล้วแหน่ะ”นางพยาบาลที่เช็คสายน้ำเกลือเอ่ยบอก
“จริงเหรอเธอ ว่าแต่เมียหมอเสือสวยรึเปล่าสู้หมอฟ้าได้ไหม” นางพยาบาลอีกคนเอ่ยถามเธอเป็นคนนึงที่เชียร์ฟ้ารดากับพงศ์พยัคฆ์อยู่ พงศ์พยัคฆ์ที่หยุดฟังถึงกับถอนใจพรืดก่อนจะยื่นมือไปดันประตูหมายจะเข้าไปจัดการสองพยาบาลสาวที่เอาแพรวารินทร์ไปเปรียบเทียบกันฟ้ารดา ทว่าไม่ทันทีคุณหมอหนุ่มจะเปิดเข้าไปเสียงหวานจากเตียงก็ดังแทรกขึ้นเสียก่อน
“สวยค่ะ...สวยมากน่ารักมากด้วย”
พิมพ์พิชชาตื่นแล้ว และนางพยาบาลทั้งสองก็ตกใจเป็นอย่างมากด้วยคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุให้คนไข้วีไอพีรู้สึกตัวตื่น
“ขอโทษด้วยนะคะที่ทำคุณตื่น”
“ใช่ค่ะ ขอโทษที่ทำคุณตื่น”
“ไม่เป็นไรค่ะจริง ๆแล้วฉันแค่พักสายตาเท่านั้นเองพอได้ยินสิ่งที่พวกคุณพูดเลยอยากแจมด้วยน่ะค่ะ” พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรและไม่ถือสา ทว่าในใจนึกฉุนเมื่อคืนข่าวลือเรื่องเพื่อนของเธอกับพี่ชายก็มีให้ได้ยินแต่วันนี้นางพยาบาลยังคิดเอาเพื่อนเธอไปเทียบกับหมอฟ้าเสียอีก...ทำไมต้องไปเปรียบเทียบด้วย
“เอ่อ...คือ” แม้จะเป็นขาเม้าท์แต่สองพยาบาลสาวก็รู้ดีว่าการพูดเรื่องในโรงพยาบาลให้นไข้ฟังนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก ยิ่งเป็นเรื่องของแพทย์เจ้าของไข้ของคนไข้ยิ่งแล้วใหญ่ ขืนมีคนรู้ว่าพวกเธอเอาเรื่องส่วนตัวของนายแพทย์พงศ์พยัคฆ์มาเล่าให้คนไข้ของเขาฟังมีหวังโดนดีแน่
ท่าทีอึดอัดใจของสองพยาบาลสาวอยู่ในสายตาของนไข้ของคุณหมอพงศ์พยัคฆ์ตลอด หญิงสาวยักไหล่ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ “ไม่ต้องกลัวค่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันจะรับผิดชอบเอง ถ้าไม่อยากเม้าท์ต่องั้นฉันอยากถามอะไรหน่อยได้ไหมหมอเสือกับหมอฟ้าอะไรนั้นมีข่าวลือว่าอะไรบ้างแล้วทำไมคุณพยาบาลต้องเอาภรรยาหมอเสือมาเปรียบเทียบกับหมอฟ้าด้วย”
“ที่นี่มีข่าวลือบ่อย ๆค่ะบ้างก็ว่าหมอเสือกับหมอฟ้ามีซัมติงรองกัน บ้างว่าหมอฟ้าอยู่บ้านเดียวกับหมอเสือสองต่อสองบ้างมีข่าวว่าพากันเข้าม่านรูดและก่อนหน้านี้ไม่นานก็มีข่าวลือว่าหมอฟ้ากำลังจะถูกเขี่ยทิ้งเพราะสำส่อนจนหมอเสือทนไม่ได้ไปคบคนอื่น” นางพยาบาลที่เช็คสายน้ำเกลือเอ่ยบอกเมื่อพิจารณาแล้วรู้สึกได้ว่าปลอดภัย พิมพ์พิชชาขมวดคิ้วพิจารณา...ดูเหมือนว่าข่าวลือที่ผ่านมาไม่เคยมีข่าวที่ดีกับฟ้ารดาเลย
“ส่วนที่เปรียบเทียบก็เพราะฉันชอบหมอฟ้าเป็นการส่วนตัวค่ะเธอน่ารักและไม่ได้เป็นอย่างข่าวลือแน่นอนถ้าเป็นจริงแบบข่าวฉันว่าหมอเสือต่างหากที่ผิดมีเมียอยู่แล้วก็ไม่พูด” นางพยาบาลอีกคนพูดบ้างพร้อมกับบ่นถึงหมอหนุ่มอย่างไม่ชอบใจ
“แต่ละข่าวแรง ๆ ทั้งนั้นเหมือนจงใจให้หมอฟ้าดูแย่แต่ทำไมต้องสร้างข่าวกับหมอเสือเป็นคนอื่นไม่ได้เหรอคะ” พิมพ์พิชชาเอ่ยถามทำไมจงใจเล่นข่าวแต่กับพี่ชายของเธอแถมมีน้อยมากที่มองว่าพี่เธอผิดส่วนมากจะฟ้ารดาผิดซะมาก
“ก็หมอเสือน่ะได้รับการโหวตให้เป็นหมอที่หล่อ รวย เท่ มีเสน่ห์ และฮอตที่สุดในโรงพยาบาลไงคะพอหมอฟ้าสนิทกับหมอเสือก็มีแต่คนอิจฉาเพราะสาว ๆ ทั้งโรงพยาบาลเนี้ยถึงขั้นคลั่งไคล้หมอเสือทั้งนั้น”นางพยาบาลที่ตรวจสาวน้ำเกลือเอ่ยบอก
‘นั้นสินะ เสน่ห์แรงจริง ๆ พี่เรา’ พิมพ์พิชชาอมยิ้มคิดในใจอย่างปลาบปลื้มที่มีพี่ชายเพอร์เฟคในสายตาคนหมู่มาก แต่เพียงแค่ชั่วพริบตาหญิงสาวก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ และก็หลุดพูดออกมาอย่างที่คิด“แต่พอมีข่าวหมอเสือมีเมียคนที่ปล่อยข่าวแย่ ๆ คงไม่อยู่เฉย ๆ แน่”
“แล้วเขาจะปล่อยว่าอะไรได้อีกละคะ มีข่าวแบบนี้คงไม่มีใครคิดเรื่องหมอฟ้าคบกับหมอเสือ คนที่แต่งงานแล้วแต่ปิดเงียบมันไม่ค่อยดีเลยสงสารหมอฟ้าที่ต้องเป็นข่าวกับหมอเสือ” พยาบาลสาวเอ่ยถามพร้อมพูดถึงพงศ์พยัคฆ์ตั้งแต่ที่ข่าวว่าเขาแต่งงานพยาบาลสาวก็มองพงศ์พยัคฆ์แย่ลงกว่าเดิมแม้จะรู้สึกโกรธนิดๆที่มีคนต่อว่าพี่ชายแต่พิมพ์พิชชาก็เข้าใจได้มันก็จริงว่าพงศ์พยัคฆ์ไม่เคยพูดเรื่องส่วนตัวกับใครแต่เมื่อนึกถึงคำถามแรกหญิงสาวจึงอ้าปากเอ่ยอธิบาย
“ก็ว่าหมอฟ้าเป็น...”
“อ้าวเสือ...ยืนทำอะไรอยู่ลูกทำไมไม่เข้าไป” แต่ก่อนที่พิมพ์พิชชาจะพูดจบประโยคเสียงของคุณหญิงพราวกะรัตที่กลับจากออกไปทานกาแฟที่ร้านข้างล่างก็ดังขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมกับคุณสิงหาส่วนพงศ์พยัคฆ์นั้นเดินตามหลังมา
“นิสัยไม่ดีแอบฟังคนเค้าคุยกัน” พิมพ์พิชชาที่เห็นพี่ชายตามผู้เป็นพ่อและแม่เข้ามาเอ่ยต่อว่าพี่ชายไม่จริงจังนัก
“พี่ไม่ได้แอบฟังนะหนูทราย แค่บังเอิญได้ยิน”พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวแม้จะเริ่มรู้สึกแปลกและคิดเหมือนกันว่าคนที่ชอบปล่อยข่าวทำลายฟ้ารดาจะทำอย่างไรต่อ
“แล้วคุยอะไรกับคุณพยาบาลหึตัวแสบถึงว่าพี่เค้าแอบฟัง” คุณสิงหาเอ่ยถามบุตรสาวพร้อมกับทำหน้าสนใจไปทางลูกชาย “ว่าไง?”
“ไม่มีอะไรหรอกครับพ่อ แค่อยากรู้อยากเห็นไปทั่วนั่นแหละหนูทรายน่ะ จริงสิแม่อุ่นทำขนมมาฝากด้วยทานมั้ยครับ เสือจะจัดให้” พงศ์พยัคฆ์ตัดบทไม่อยากให้คนเป็นพ่อและแม่ต้องมากังวลไปด้วย คุณสิงหาและคุณหญิงพราวกะรัตมองตากันก่อนจะพยักหน้าให้บุตรชาย พิมพ์พิชชามองขนมหวานตาแป๋ว สองนางพยาบาลถึงกับอ้าปากค้างไม่คิดว่าจะได้ยินหมอหนุ่มที่ได้ฉายาว่าเสือยิ้มยากแสนเย็นชาเอ่ยอย่างน่ารักและอ่อนหวาน
“เอ้อคุณพิมพ์ คุณสิตาจะมองอีกนานมั้ยครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามนางพยาบาลสาวทั้งสองแต่สายตาและนิ้วเรียวยังอยู่กับขนมที่จัดใส่จาน สองพยาบาลสาวสะดุ้งโหยงก่อนสบตากันเมื่อกี้พวกเธอนินทาในระยะเผาขนแถมยังอาจจะนินทาให้คนในครอบครัวเขาฟังอีกด้วย
“ขอโทษนะคะหมอเสือคือเราเอ่อ...”
“ไม่เป็นไรครับจริง ๆแล้วผมก็ไม่คิดอะไรกับมันหรอกแค่รู้สึกไม่ดีนิดๆที่เอาภรรยาของผมไปเปรียบเทียบกับหมอฟ้า” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกแม้ไม่ใช้เสียงเยือกเย็นแต่สองพยาบาลสาวก็รู้ว่าหมอหนุ่มไม่พอใจเอามาก ๆ พิมพ์พิชชาเห็นท่าไม่ดีจึงคิดเปลี่ยนเรื่องเพราะรู้ดีว่าลองพี่ชายโกรธจากสุภาพบุรุษจะเปลี่ยนเป็นพยามารดี ๆนี่เอง
“ว่าแต่ยัยแพรล่ะคะไม่มาด้วยเหรอ”
“นั่นสิพ่อยังไม่เห็นหนูแพรเลย” คุณสิงหาที่เห็นบรรยาการไม่ดีจึงเอ่ยขึ้นชื่อของแพรวารินทร์เท่านั้นที่ทำให้ความไม่พอใจลดลงได้
“พอดีน้องมีงานด่วนนะครับเห็นว่าลูกค้าว่างแค่วันนี้หรืออะไรสักอย่างนี่ล่ะ แต่ช่วงบ่ายก็คงจะมา”พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะยกจานขนมมาให้น้องสาวเพราะบางอย่างไม่ดีต่อคนป่วยเขาจึงให้แม่อุ่นเลี่ยงของที่ทำให้สุขภาพของน้องแย่ลงและเพิ่มสิ่งมีประโยชน์ลงไปแทน
“นี่ขนมครับแม่อุ่นทำเอง ส่วนนี่น้ำส้มคั้นหนูแพรคั้นเองกับมือบอกว่าชดเชยที่ไม่ได้มาหาแต่เช้า คุณสิตาครับผมขอผลการตรวจความดันกับอุณหภูมิร่างกายของน้องสาวผมด้วย” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะหันมาหาพยาบาลสาวทั้งสอง
“ห๊ะ...น้องสาว”
“น้องสาวเหรอ?”
“ครับ พิมพ์พิชชาน้องสาวน้องแท้ๆคลานตามกันออกมาเลยแหละ ผมขอผลตรวจด้วย”
“นะนี่ค่ะ ความดันปกติ อุณหภูมิปกติสภาพจิตปกติถึงขั้นดีค่ะ” พยาบาลสาวเอ่ยตอบพร้อมยื่นผลการตรวจให้แพทย์เจ้าของไข้
“อืม...ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวัน วันผ่าตัดก็ไม่น่ามีปัญหา” พงศ์พยัคฆ์พึมพำกับตัวเองก่อนจะคืนผลตรวจคืนให้
“เสือเอาขนมมาให้แล้วเสือไปทำงานก่อนนะครับเดี๋ยวเที่ยงจะมาทานข้าวด้วย” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะขอตัวไปทำงานต่อ พิมพ์พิชชามองตามพี่ชายก่อนจะนึกถึงคนที่สร้างข่าวลือเรื่องฟ้ารดาและหวังว่าสิ่งที่เธอคิดจะไม่เป็นจริง
‘คงไม่มีใครปล่อยข่าวว่าหมอฟ้ารดาเป็นเมียน้อยพี่เสือหรอกนะ’
สายตาคมมองโต๊ะทำงานที่มีร่องรอยของการกรีดอย่างขบคิดว่าใครกันที่ทำแบบนี้ ใครที่เกลียดเธอถึงขนาดนี้ ใครกัน? ฟ้ารดาเฝ้าถามตัวเองโดยไม่รู้สึกถึงการมาของใครบางคน“ทำอะไรอยู่คะพี่ฟ้า ตายแล้วนี่เกิดอะไรขึ้นคะพี่ฟ้า ทำไมโต๊ะถึงได้เป็นแบบนี้” เสียงร้องอย่างตกใจของคนข้างหลังทำให้ฟ้ารดาถึงกับสะดุ้ง คนที่ยืนอยู่หลังเธอคือสุนิสาหรือนิดพยาบาลสาวรุ่นน้องที่ดีกับเธอคนนึงแต่เมื่อเกิดข่าวลือเรื่องเธอกับพงศ์พยัคฆ์เมื่อสามเดือนก่อนทำให้เธอเปลี่ยนความคิดในทันทีเพราะสุนิสาเป็นคนนึงที่เอาข่าวลือไปใส่สีตีไข่จนไม่เหลือเค้าความจริงเธอจึงหลีกเลี่ยงที่จะคบค้ากับคนหน้าซื่อใจคดหน้าไหว้หลังหลอก“มีอะไรเหรอคะคุณนิด” ฟ้ารดาเอ่ยตอบเสียงเรียบราวกับไม่รู้สิ่งที่พยาบาลสาวเคยทำแต่ก็ไม่ได้ยินดีที่จะคุยด้วย“ทำไมพี่ฟ้าทำเสียงแบบนั้นล่ะคะน่ากลัวมากเลย”สุนิสาแกล้งใสซื่อจนถ้าเธอไม่รู้มาก่อนคงคิดว่าผู้หญิงตรงหน้านั้นใสซื่อจริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่แค่ตกใจไปหน่อยคุณนิดมีอะไรก็พูดมาเถ
ร่างสูงของอัคนีเดินเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยใบหน้านิ่งก่อนจะเผยยิ้มออกมาเมื่อเห็นร่างของคนที่ทาบทามเขามาทำงานที่นี่“สวัสดีครับอาจารย์” อัคนีเอ่ยทักอีกฝ่ายอย่างสนิทสนม เขานนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งนี้นั่นเอง เขาได้รู้จักกับแดนสรวงเมื่อ7ปีก่อนสมัยเรียนแพทย์ปี1แดนสรวงเป็นอาจารย์หมอที่เขาสนิทด้วยที่สุดหลังจากเรียนจบอาจารย์หมอหนุ่มทาบทามเขาให้มาทำงานที่นี่หลายครั้งแต่เพราะอยากอยู่ใกล้ครอบครัวทำให้ปฏิเสธไปจนในช่วง2ปีมานี้ที่ฟ้ารดาย้ายมาทำงานที่นี่ทำให้เขาลังเลอยากตามมาอยู่หลายครั้งจนกระทั่งปัญจวัตรโผล่เข้ามาทำให้เขาติดต่ออาจารย์หมอคนสนิทอย่างรวดเร็ว“ไงอัคนี นึกยังไงถึงอยากย้ายมา หวงพี่สาวเหรอ?”แดนสรวงเอ่ยถามลูกศิษย์คนสนิทอย่างขบขัน ไม่คิดว่าที่เคยพูดว่าหวงพี่สาวมากจะหวงขนาดยอมย้ายตามมาขัดขวางเลยทีเดียว สงสารก็เเต่เพื่อนรักของญาติผู้น้องป่านนี้จะรู้รึยังว่าตัวป่วนมาถึงถิ่นแล้ว“หวงมากครับจารย์ ว่าแต่จารย์รู้จักไอ้หน้าจืดปัญญาอ่อนที่มาป้วนเปี้ยนเกาะเกะพี่สาวผมแค่ไหน” อัคนีเอ่ยถามแดนสรวงถึงปัญจวัตร
หลังจากที่พิมพ์พิชชาวางสายจากปลายสายหญิงสาวก็ยืนมองบรรยากาศอย่างมีความสุขกับแผนการทำให้สองสาวขี้อิจฉาหน้าแตกกับใครบางคน“ทำแบบนี้ไม่กลัวแพรโกรธเหรอครับทราย”เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้พิมพ์พิชชาต้องสะดุ้ง คนที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอคือรณพีร์นั่นเองเขายืนฟังเธอตั้งแต่แรกแล้วแต่ไม่ได้แสดงตัวเท่านั้นพิมพ์พิชชาหันมามองก่อนจะเอ่ยบอก“ความลับนะคุณพีร์อย่าให้ยัยแพรรู้เชียว”“มันก็ต้องมีอะไรมาแลกกันสิ แบบเงินมาผ้าหลุดอะไรประมาณเนี่ย” รณพีร์เอ่ยบอกพร้อมยิ้มอย่างมีเลศนัย“ก็ได้คุณอยากได้อะไร”พิมพ์พิชชาเอ่ยถามอย่างเป็นรอง“ดินเนอร์กันสักมื้อ เสาร์นี้” รณพีร์เอ่ยบอกและลุ้นรอคำตอบจากหญิงสาว“ก็ได้เสาร์นี้” หญิงสาวตอบรับอย่างว่าง่ายก่อนจะถามต่อ “วันศุกร์คุณว่างมั้ยถ้าว่างมาแจมกับแผนของฉันหน่อยนะ”“ได้สิ ผมก็เบื่อที่จะต้องถูกคนโยงไปทำร้ายคนอื่นแล้ว ถ้าเรื่องไม่จบผมคงต้องไล่พวกเธอออก”รณพีร์เอ่ยบอกตามใจคิดปัญหานี้บานปลายมานานแล้วเขาเองก็ควรทำอะไร
รุ่งเช้าวันจันทร์ที่แสนสดใสพิมพ์พิชชาเดินยิ้มน่าระรื่นเข้ามาในบริษัทพร้อมแพรวารินทร์ด้วยกิริยาอาการที่บ่งบอกว่ามีความสุขมากมายหลังจากพักผ่อนมาหนึ่งอาทิตย์วันนี้เป็นวันที่หญิงสาวจะได้กลับไปทำงานที่รักอีกครั้งหลังจากหยุดไป1เดือนเต็มๆและที่ทำให้ดีใจยิ่งกว่าคือจะได้ไปเจอหน้าใครบางคนที่หายหน้าไปทั้งอาทิตย์แต่ยังส่งดอกไม้มาเยี่ยมทุกวันอย่างเจ้านายสุดหล่อด้วย“นี่เลิกยิ้มได้แล้วแก ฉันนึกว่าเดินกับคนบ้า” แพรวารินทร์ออกเสียงปรามอย่างไม่จริงจัง ตั้งแต่เช้าที่ผ่านมาเพื่อนรักเอาแต่ยิ้มกว้างจนเธอได้แต่งง นางจะดีใจอะไรขนาดนั้นเล่นใหญ่จริง ๆ“ก็คนมันดีใจอ่า เดือนนึงแล้วน๊าที่ฉันไม่ได้มาทำงานคิดถึงงานแล้วก็เพื่อนร่วมงานจะแย่”“หรา ไม่ใช่คิดถึงคนที่หายไปหนึ่งอาทิตย์เหรอจ๊ะ”แพรวารินทร์ถามกลับอย่างรู้ทัน ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเพื่อนเธอคิดอย่างไรอยู่“รู้มากไปแล้วยะ ไปเข้าไปทำงานกันได้แล้ว”พิมพ์พิชชาว่าให้ก่อนจะดึงเพื่อนรักเข้าไปทำงาน“อ้าว ยัยทรายดูดมาทำงานแล้วเหรอนึกว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอหล่อนซะแล้
“สวัสดีครับคุณพิชชา อาการเป็นยังไงบ้างครับ” เสียงทรงเสน่ห์เอ่ยทักทายไถ่ถามอาการทำให้คนไข้วัยทำงานถึงกับใจละลายความจริงเธอไม่ได้ป่วยแต่แค่อยากจะเห็นหน้าหมอหนุ่มเท่านั้นนายแพทย์อัคนี อัครวิทย์ อายุรแพทย์หนุ่มสุดหล่อวัย25ปีขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ในแถบนี้ยิ้มให้คนไข้อย่างเป็นมิตรแม้จะรู้ดีว่าสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลายแค่อยากมาเห็นหน้าเขาเท่านั้นบ้างก็เอาของมาเยี่ยมเป็นประจำจนเป็นที่ชินตาของบุคลากรคนอื่นในโรงพยาบาล“วันนี้พิชชาจะเป็นอะไรดีเอ๋ย” อัคนีเอ่ยถามพร้อมยิ้มเอาใจอย่างน่ารักในสายตาเพื่อนหลายคนเขาเป็นคนกระล่อนและกวนประสาทสุดๆแต่สำหรับสาวน้อยสาวใหญ่ที่มาปลาบปลื้มเขากลับเป็นคนปากหวานและเอาใจเก่งเป็นอย่างมาก“วันนี้พิชชี่ปวดหัว ตัวร้อน ใจเต้นแรงมั๊กมากเลยค่ะหมอไฟขา” คนไข้สาวเอ่ยบอกทำท่าให้สมจริงจนหมอหนุ่มแอบขำ“แบบนี้คุณพิชชี่คงต้องมาหาหมอบ่อย ๆแล้วล่ะครับ หมอไฟว่าคุณพิชชี่เป็นโรครักหมอไฟแน่เลย” หมอหนุ่มเอ่ยหยอดพร้อมยิ้มแพรวพราว คนไข้สาวได้แต่เขินม้วนกับคำหยอดของหมอหนุ่ม&n
บ้านอัครวิทย์เพราะเกมพนันที่เคยพนันเดตแรกไว้กับฟ้ารดาที่ไร่พยัคฆ์ทำให้ปัญจวัตรต้องมาที่บ้านของฟ้ารดาในวันนี้หมอหนุ่มหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ทำให้น้องชายฟ้ารดากลับมาบ้านเพื่อเดตแต่เพื่อเอาชนะใจพ่อแม่ของหญิงสาวด้วยและที่ปรึกษาหมายเลขหนึ่งในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อนรักแต่เป็นผู้เป็นพ่อแทนจากข้อมูลที่ได้รับทำให้หมอหนุ่มมั่นใจเกือบ90%ว่าจะได้ใจของว่าที่แม่แฟนในอนาคตส่วนอีก10%คือพ่อและน้องชายที่เขาไม่มีความมั่นใจเลยว่าทั้งสองจะยอมให้เขาคบกับฟ้ารดา“เข้าไปข้างในกันคุณ” ฟ้ารดาเอ่ยบอกก่อนจะเดินนำเข้าไปในบ้านหมอหนุ่มเดินตามอย่างมั่นคงและมั่นใจทุกสรรพสิ่งในบ้านอัครวิทย์เหมือนจะหยุดเคลื่อนไหวทันทีเมื่อลูกสาวคนโตของบ้านเดินนำผู้ชายเข้ามาในตัวบ้านนายแพทย์หมออาศิระยืนมองชายหนุ่มรุ่นลูกอย่างไม่วางตาส่วนคุณนายฝนนภากลับมองอย่างตกใจไม่น้อยที่ลูกสาวคนเดียวพาชายหนุ่มที่หน้าคล้ายอดีตคนรักเข้ามาที่บ้านและแนะนำว่าเป็นแฟนหนุ่ม“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมปัญจ์ครับ”ปัญจวัตรเอ่ยทักทายอย่างเ