ปัจจุบัน(ภูเก็ต)
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะทำให้สองคนนี้อยู่ในแก๊งเดียวกันมาเกือบจะสามสิบปีแล้ว มหัศจรรย์เนอะ” อารตีเอ่ยขึ้นหลังจากทุกคนตกอยู่ในภวังค์ของอดีต คิดแล้วก็คิดถึงสมัยเด็ก ๆ ที่ได้เจอหน้ากันทุกวัน และคุยกันทุกวันแตกต่างจากปัจจุบันที่กว่าจะเจอกันทีไม่ใช่ง่าย ๆ
“นั่นสินะไม่คิดว่าฉันกับไอ้แมวปีศาจนี่จะอยู่แก๊งเดียวกันมาได้รู้สึกมหัศจรรย์จริง ๆ” อริสาเอ่ยขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อว่าแค่เรื่องแสนอับอายครั้งนั้นจะทำให้เธอไม่ชอบขี้หน้าคนที่ครั้งนึงเคยเล่นด้วยกันได้ขนาดนี้
“มหัศจรรย์เหรอ ใช่มันมหัศจรรย์ที่สุดในจักรวาลเลย ฉันโคตรทึ่งพวกนายเลย” ศารทูลเอ่ยบอกก่อนจะมองเวลา “ไปที่เกาะเลยมั้ย หรือจะเที่ยวในตัวเมืองก่อน”
“ไปเที่ยวกันก่อนแล้วกัน อาทิตย์หน้าค่อยเข้าไปที่เกาะ ไปหาโรงแรมพักกันก่อนใครเป็นเจ้าของโรงแรมนำทางค๊า” ปริมาเอ่ยบอกก่อนจะหันไปบอกเตชินทร์
“เชิญครับคุณลูกค้า” เตชินทร์เอ่ยบอกก่อนจะนำทุกคนไปที่รถตู้ของโรงแรมที่เขาสั่งให้มารอ รอบนี้เตชินทร์จัดให้อริสาและศารทูลนั่งห่างกันที่สุดเพื่อป้องกันสงครามน้ำลายระหว่างทางการเดินทางแต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นสงครามน้ำลายข้ามหัวเพื่อน ๆ ก็ยังคงมีขึ้นเป็นระยะ
เชื่อเขาเลย คู่นี้นี่เหมือนลิ้นกับฟันจริง ๆ ยังไงก็ต้องมีกระทบกระทั่งกัน
ตลอดทั้งสัปดาห์ต่อให้ปริมาจะจัดโปรแกรมแน่นสักแค่ไหนศารทูลและอริสาก็มีโอกาสได้จิกกัดกันปละปลายให้เพื่อน ๆ ได้เอือมระอาเล่นแต่ก็ไม่ใช่ว่าทริปนี้ผ่านไปด้วยดีเพราะตามที่ปริมาวางแผนไว้จะต้องไปปิดท้ายทริปที่เกาะรักษ์ เกาะส่วนตัวของศารทูลและสีหราชที่ได้รับมาจากคุณตาอภิมหาเศรษฐีตลอดหลายวันที่เกาะศาลทูลและอริสาคงจะมีเวลาเปิดฉากทะเลาะกันจริงจังอย่างแน่นอน
ตามที่ตกลงไว้ตอนแรกคือพักที่โรงแรมของเตชินทร์หนึ่งสัปดาห์และอีกหนึ่งสัปดาห์อยู่ที่เกาะรักษ์แต่กำหนดการถูกเปลี่ยนอย่างกะทันหันเมื่อปุริมปรัชญ์นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวที่ปริมาตกหล่นไปมาสี่ถึงห้าแห่ง กำหนดเดินทางมาเกาะรักษ์จึงเป็น3วันสุดท้ายของทริป
“ลูกน้องคุณตาสองแฝดนี่อย่างกับมาเฟียแหนะพวกแก” แพนธีรากระซิบก่อนจะหัวเราะคิกคักกับเพื่อน ๆ หลังจากที่เดินทางมาถึงเกาะส่วนตัวของเพื่อนและได้พบกับการ์ดหนุ่มหน้าตาดีหลากหลายคน“แต่ก็หล่อเนอะ”
“น้อย ๆ หน่อยยัยแพน เดี๋ยวฉันจะฟ้องบอสว่าแกนะมองผู้จนน้ำลายหก” อริสาแทรกขึ้นก่อนจะหันไปยิ้มให้การ์ดหนุ่มในชุดดำที่ยื่นมือมารับพวกเธอขึ้นจากเรือ เพราะครอบครัวของเธอสนิทกับครอบครัวของศารทูลและสีหราชมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตาทวดเธอจึงรู้จักมักคุ้นการ์ดเหล่านี้ดี และก็รู้ภูมิหลังของครอบครัวนี้ดี
จริง ๆ แล้วศารทูลและสีหราชเป็นลูกเสี้ยว คุณตาของทั้งคู่เป็นอภิมหาเศรษฐีชาวสเปนมาพบรักกับคุณยายชาวไทยเชื้อสายจีนและอาศัยอยู่ด้วยกันที่เมืองไทย ขณะที่ฝั่งคุณปู่เป็นครอบครัวข้าราชการมารุ่นสู่รุ่น ส่วนฝั่งคุณย่านั้นมีเชื้อมีสายมาจากในรั้วในวัง ทางฝั่งพ่อของสองแฝดมักอยู่กันอย่างเรียบง่ายแต่ฝั่งคุณตาที่ออกแนวมาเฟียหน่อย ๆ กลับไม่ชอบทำอะไรเรียบง่ายสักนิด เวลาที่สองแฝดจะมาพักที่บ้านพักตากอากาศหรือเกาะส่วนตัวก็มักจะส่งบอดี้การ์ดและแม่บ้านมาคอยอำนวยความสะดวกอย่างที่เห็น
สมัยเด็ก ๆ ตอนที่ยังไม่เกลียดกันเธอนี่แทบจะถูกคุณตาของสองแฝดโอ๋อย่างกับหลานอีกคน พี่บอดี้การ์ดนี่ตามประกบดูแลอย่างกับเป็นหลานเจ้านายจริง ๆ เชียวล่ะ
“ถ้าต้องการอะไรเรียกใช้พวกเราได้นะครับ” การ์ดหนุ่มเอ่ยเป็นภาษาไทยเสียงชัดแจ๋วอย่างกับเจ้าของภาษาทั้งที่เป็นหนุ่มสเปนนิชแท้ ๆ ไม่มีเจือปนก่อนจะส่งยิ้มพิมพ์ใจให้กับอริสา
เป็นรอยยิ้มที่ชวนให้หลายคนใจละลายได้แต่อริสาเพียงยิ้มตอบกลับไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไร เธอเข็ดแล้วจริง ๆ กับการรักผู้ชายยิ้มเก่ง ตฤณกันต์ก็ยิ้มเก่ง และอัชฌาสัยดีแล้วสุดท้ายเป็นอย่างไรล่ะ
คนเราหน้าเนื้อใจเสือ เธอไม่อยากไว้ใจใครอื่นอีกแล้ว มีแค่เพื่อนที่คบกันมานานกับครอบครัวที่อยู่เคียงข้างกันมาเท่านั้นล่ะที่เธอจะวางใจได้
“ไอ้คุณฟรานเชสครับ เรียนให้จบก่อนเถอะค่อยมาหว่านเสน่ห์ป้า ๆ แก เดี๋ยวเพื่อนฉันก็ติดคุกฐานพรากผู้เยาว์กันพอดี” เสียงของศารทูลแทรกขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาแทรกระหว่างอริสาและฟรานเชส การ์ดหนุ่มวัยยี่สิบที่พอจับแต่งตัวหน่อยก็ดูเหมือนหนุ่มวัยยี่สิบสี่ยี่สิบห้า
“นี่ป้า เด็กมันเพิ่งยี่สิบ แก่ ๆ อย่างป้าน่ะมันไม่เอาหรอก อย่ามาล่อลวงเด็กมันไปเป็นเด็กในสังกัดเชียวนะ แจ้งจับนะเว้ย” แน่นอนว่าคำพูดเจ็บ ๆ นี้เขาเอ่ยกับอริสาอย่างแน่นอน พูดจบหนุ่มเจ้าของเกาะก็เดินเข้าบ้านพักตากอากาศบนเกาะทันที
“นี่แกเรียกใครว่าป้าฮะไอ้บ้า?”
ศารทูลไม่ตอบกลับขณะที่คนโดนหาว่าเป็นป้าคิดจะจับฟรานเชสเป็นเด็กเจ้ก็ได้แต่ค้อนลมค้อนแล้ง พอถึงถิ่นเข้าหน่อยล่ะหาเรื่องเธอทันทีเชียว มันน่านัก
“เข้าบ้านกันเถอะทุกคน” สีหราชเอ่ยขัดขึ้นก่อนจะกอดคอกับเตชินทร์เข้าไปภายในบ้าน อริสามองสำรวจรอบ ๆก่อนที่จะยกยิ้ม มันต้องมีสักอย่างล่ะที่เธอจะนำมาเอาคืนศารทูลได้ และตอนนี้เธอก็เจอแล้ว
“เดี๋ยวแกเจอ”
“นี่อลิน รีบมาสิ มัวยืนทำอะไรอยู่” แพนธีราส่งเสียงเรียกคนยืนยิ้มอยู่ก่อนที่อริสาจะรีบเดินไปหาเพื่อนโดยไม่หลุดปฏิกิริยาใด ๆ
แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าหญิงสาวได้แอบทำอะไรบางอย่างขณะที่เพื่อนทุกคนเผลอก่อนที่จะแยกย้ายกันไปพักที่ห้อง
การมาที่เกาะรักษ์เป็นการมาพักผ่อนโดยแท้จริง โดยเฉพาะเจ้าของเกาะที่พอยกหน้าที่จัดแจงห้องหับให้น้องชายฝาแฝดเรียบร้อยก็ตรงดิ่งขึ้นห้องเข้าเฝ้าพระอินทร์ทันที
เพราะหน้าที่การงานของแต่ละคนแทบจะไม่มีเวลาให้หายใจหายคอเวลาพักจึงน้อยหลังจากที่เที่ยวกันจนเต็มที่แล้วก็ถึงเวลานอนชาร์จแบตให้เต็มอิ่มก่อนที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับกองงานของตัวเองอีกครั้ง นอกจากศารทูลแล้วคนอื่น ๆ ก็เข้าห้องชาร์จแบตกันหมดเหลือเพียงนลินญาและอริสาที่ไม่ได้นอนพักผ่อนเหมือนคนอื่น ๆ
หนึ่งคนนอนไม่หลับเพราะยังคงทำใจไม่ได้ที่คนที่แอบชอบหมั้นกับคนอื่น ในขณะที่อีกคนยังเสียใจไม่หายที่ถูกแฟนที่คบกันมานานนอกใจ อริสาเลือกที่จะออกมานั่งรับลมแทนที่จะขลุกอยู่ภายในห้องไม่นานคนที่เธอคิดว่าหลับไปเหมือนคนอื่น ๆ ก็ออกมานั่งข้าง ๆ
ไม่ใช่นลินญาแต่เป็นสีหราช คุณหมอหนุ่มคนนี้ไม่ได้พักเหมือนคนอื่น ๆ เพราะต้องรอแม่ครัวที่ยังมาไม่ถึงเพื่อกำชับไม่ให้แม่ครัวใส่อะไรที่เพื่อนคนไหนแพ้ลงไป
“นอนไม่หลับเหรอ?”
“มันไม่หลับอะ เหมือนมีภาพหลอนคอยวนเวียนกวนใจอะ แกไม่เข้าใจหรอก แกไม่เคยเปิดประตูเข้าไปเห็นฉากสิบแปดบวกแบบจัง ๆ” อริสาเอ่ยแล้วก็ทอดถอนใจ ความจริงแล้วเธอมีโอกาสได้เห็นจัง ๆ กับตาว่านภิตราและตฤณกันต์ไปถึงขึ้นไหนกัน ภาพนั้นมันยังติดตาเธอไม่หาย คล้ายเป็นภาพหลอนติดตาไปเสียแล้ว
“ไปปรึกษาจิตแพทย์มั้ย ฉันรู้จักพี่หมอคนนึงเขาเก่งมากแล้วก็รับปรึกษาปัญหาทั่วไป”
“ไม่เอาอะ ขืนไปหาหมอแล้วพวกนั่นรู้เข้ามีหวังหาว่าฉันเป็นบ้ากันพอดี” หญิงสาวปฏิเสธทันควันก่อนจะถามชายหนุ่มบ้าง “ว่าแต่แกล่ะ ทริปนี้มีโอกาสบ้างยัง หรือว่ายังป๊อดอยู่อีก”
“บางทีการแอบรักมันก็ดีกว่าการบอกออกไป”
“นี่รู้มั้ย จีบผู้หญิงช่วงเขาอกหักเนี่ยโอกาสจีบติดสูงมาก นิ้งกำลังเสียใจลองแกเข้าไปปลอบ เข้าไปจีบจริงจังดูสิ ถ้านิ้งยังใจแข็งอยู่อีกเดี๋ยวท่านอลินคนนี้จะจัดการให้” บก.สาวพูดพร้อมกับตบไหล่ให้กำลังใจ “ลุยได้แล้วนะสิงห์ ถ้าแกพลาดโอกาสนี้แกอาจไม่มีโอกาสแล้วก็ได้ อาจจะมีคนชิงตัดหน้าได้นะเว้ย”
“แต่...”
“ไม่ต้องแต่แล้วสิงห์ ปอดแหกแบบนี้สักวันคงได้ทำคลอดลูกของคะนิ้งกับผู้ชายคนอื่นแหง หรือแกต้องการแบบนั้น”
“ใครจะไปต้องการเล่า” คนเป็นหมอสูติฯตอบกลับฉับพลัน เขาอยากให้นลินญาเป็นแม่ของลูก อยากเป็นคนทำคลอดให้เธอแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอยากทำคลอดลูกเธอกับคนอื่นเสียหน่อย
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องลุย บอกไปเลยว่า นิ้งสิงห์ชอบนิ้งนะ”
“เอาก็เอา ฉันจะหาโอกาสบอกคะนิ้ง” สีหราชตอบรับในที่สุดก่อนจะขอตัวไปดูในห้องครัวอีกครั้ง ด้วยกลัวว่าแม่ครัวจะใส่อะไรที่เพื่อน ๆ โดยเฉพาะนลินญาแพ้เข้าไปในอาหารทว่าชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าระหว่างที่คุยกับอริสาอยู่นั้นมีใครอีกคนมาได้ยินพอดี
ใครคนนั้นก็คือคนที่ไม่รู้อะไรเลยมาตลอดสิบกว่าปีอย่างนลินญานั่นเอง สาวแว่นมองตามแผ่นหลังคนเป็นหมอไปอย่างสับสน นี่เธอบังเอิญเข้ามาได้ยินอะไรเนี่ย
สีหราชน่ะเหรอชอบเธอ?
นายคนที่ชอบนิ่งใส่เธอนั่นน่ะเหรอ?
โอ๊ย เธอเข้ามาได้ยินเรื่องบ้าอะไรกัน ตอนเธอชอบอิตานั่นกลับกลับทำนิ่ง พอใจเธอไปชอบคนอื่นกลับมารู้ว่าเขาชอบเนี่ยนะ บ้าบอจริง ๆ
“เรื่องอะไรต้องง้อ” อริสาบอกพร้อมกับทำท่างุนงง ศารทูลหัน ขวับมามองก่อนจะส่งเสียงชิชะขัดใจในลำคอ“ไม่ง้อก็ไม่ง้อ อยากไปหอมแก้มให้รางวัลหรือจะไปจูบหน้าผากให้รางวัลไอ้กล้าก็ไปเลย”“จูบแน่” อริสาตอบกลับก่อนจะยืดตัวขึ้นจูบริมฝีปากชายหนุ่มที่ยังคงมึนงง มือบางยกขึ้นคล้องคอชายหนุ่มไว้ด้วยและจูบอย่างชำนาญ...ขึ้นมาหน่อยศารทูลทั้งงุนงงและใบ้กินไปชั่วขณะแต่ก็จูบตอบในเวลาต่อมา“ที่บอกจะหอมแก้มสักฟอดหรือดีมาก ๆ เลยนะหมายถึงนายต่างหากเล่าตาทึ่มเอ้ย” หญิงสาวเอ่ยหลังจากที่ผละจูบ “เป็นแมวบ้าสมองสล็อตยังไม่พอยังทึ่มอีก”“ทึ่ม?”“ก็ทึ่มสิ ที่ฉันยิ้มมาตลอดน่ะเพราะนายหึงฉันต่างหากเล่า ตัวเองเคยแกล้งเค้าแบบนี้เหมือนกันจำไม่ได้เหรอ?”“นี่...”“เอาคืนนิดหน่อยเอง”“ยัยเอเลี่ยน ร้ายนักนะ” คนที่ถูกแกล้งให้งอนให้หึงว่าให้เมื่อรู้ความจริงทุกอย่างจากจะงอนให้ง้อตอนนี้เริ่มชักจะงอนจริง ๆ แล้วนะ“ยัยผู้หญิงขี้แกล้ง”
การได้มาดูนักชกขวัญใจทำให้อริสาเอาแต่สนใจบนเวทีตั้งแต่นักมวยหนุ่มยังคงไหว้ครูจนศารทูลได้กลิ่นเน่าของหัวตัวเอง รู้สึกหัวเน่ายังไงไม่รู้สิ ไม่น่าปั้นไอ้เจ้าต้นกล้านี่ให้เก่งเล้ย“ไม่คิดว่าวันนี้เจ้าของค่ายจะมาดูด้วยนะ” น้ำเสียงคล้ายทักทายกันดังขึ้นทำให้ศารทูลต้องละสายตามามองคนทัก“ผมก็มาดูต้นกล้ากับเด็กในค่ายบ่อย เสี่ยไม่เคยเห็นเหรอ?” ชายหนุ่มตอบกลับในเชิงกวนประสาทอีกฝ่ายก่อนจะหันไปดูบนเวที คู่สนทนาไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นเจ้าของค่ายมวยของคู่ชกที่ต้นกล้าต้องชกด้วยในวันนี้นั่นเอง“ก็เห็น แต่ระวังวันนี้ต้นกล้าจะถูกกระชากเข็มขัดแชมป์ล่ะเพราะวันนี้เด็กของอั๊วเตรียมตัวมาดี”“ผมมาดูมวยไม่ได้มาฟังใครวิเคราะห์มวย ผลออกมาค่อยว่ากันดีกว่านะเสี่ย”“หึ อวดดี”ศารทูลไม่ว่าอะไรทำเพียงยักไหล่ยิ่งทำให้ถูกมองอย่างไม่ชอบใจ แต่ถามว่าเขาแคร์มั้ย บอกเลยว่าไม่ ไอ้คนชอบเล่นนอกกติกาแบบนี้ทำไมเขาต้องแคร์หลายครั้งที่ได้ยินว่าอีกฝ่ายเล่นตุกติกจนนักชกในค่ายชนะมาแล้วหลายสนามแค่ได้ยินอย่างนั้นเขาก็ไม่อยาก
“ผมเข้าใจทุกอย่างแล้ว” ในที่สุดสิรานนท์ก็เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าอย่างคนตัดสินใจอย่างเด็ดขาดได้ “ผมขอโทษพวกคุณด้วยที่ผมคิดจะทำร้ายชื่อเสียงพวกคุณ ผมเชื่อทุกหลักฐานในวันนี้นอกจากขอโทษแล้วยังขอบคุณด้วยที่ทำให้ผมได้รู้ความจริง”“มันสบายใจขึ้นนะ โล่งมาก ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้เลยตั้งแต่เริ่มสะสมความโกรธแค้นชิงชัง ผมไม่รู้จะพูดยังไงจริง ๆ” เขาพูดต่อก่อนจะยกมือไหว้ท่านอาทิตย์ “ผมขอโทษครับ ที่ผ่านมาผมคิดร้ายกับท่านมาโดยตลอด คิดจะทำร้ายลูกสาวท่านเพื่อให้ท่านเสียใจผมขอโทษ ขอโทษจริง ๆ”“มันไม่สายไปหรอกนะที่จะเริ่มต้นใหม่และเป็นมิตรต่อกัน” ท่านอาทิตย์บอกก่อนจะเดินมาตบไหล่ “ฉันไม่โกรธหรอก เพราะนายยังไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด โชคดีแล้วล่ะที่ยังไม่ได้ทำอะไร แต่คนที่ทำก็ต้องได้รับโทษของการกระทำ”ท่านอาทิตย์หมายถึงวิภาวีที่ตอนนี้นอกจากจะโดนข้อหาหมิ่นประมาทและทำให้เสียชื่อเสียงแล้วยังมีคดีเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคดีเพราะชาวเน็ตช่วยกันขุดคุ้นคนที่ทำร้ายคนอื่นก็ต้องรับกรรมไป ทั้งโดนประณามในโลกออนไลน์และมีคดีความ นอกจากนี
อริสาปล่อยให้นักสืบโซเชียลตามสืบกันเอง เรื่องราวต่อจากนั้นเป็นยังไงอริสาขอไม่รับรู้ขอปล่อยให้เป็นไปตามเวรกรรมของแต่ละคนแม้ดูเหมือนเรื่องจะจบด้วยดีแต่ก็ยังมีเรื่องที่อริสาต้องจบอีกเรื่องนั่นก็คือเรื่องของสิรานนท์และตฤณกันต์เธออยากให้เลิกแล้วต่อกันด้วยดีไม่อยากให้ผูกใจแค้นกันต่อไป ถ้าฝั่งเธอผิดเธอก็จะเป็นฝ่ายขอโทษแทนผู้เป็นพ่อแต่ถ้าไม่ใช่เธอก็จะแก้ไขความเข้าใจผิดให้ทุกอย่างจบลง“เหลือเรื่องสิรานนท์กับตฤณกันต์ เรื่องตรวจDNAยังจะตรวจมั้ย?” สีหราชเอ่ยถามหลังจากที่ดูเหตุการณ์ในโลกโซเชียลว่าควบคุมเรื่องราวได้แล้ว“ไม่ต้องแล้วมั้ง เหมือนสองคนนั้นจะถอดใจแล้วนี่” นลินญาแสดงความคิดเห็น“ได้ไง สิงห์อุตส่าห์เสี่ยงไปเอาเส้นผมนายสิรานนท์มาอย่างยากลำบาก”“คือมันก็ไม่ยากมั้ย ทุกอย่างเป็นไปตามแผนแกเข้าถึงตัวสิรานนท์ได้แบบง่ายมากอะ” อริสาท้วงพ่อคนบอกว่าเสี่ยงอย่างลำบาก ทั้งที่จริง ๆ ทุกอย่างได้มีการวางแผนไว้แล้วตั้งแต่ต้น ตั้งแต่นัดเจอโดยมีศารทูล นลินญาและสีหราชซุ่มดูอยู่ เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดคนใดคนนึงจะได้โผล่มา
อริสารอศารทูลอยู่ที่รถไม่ได้เข้าไปเยี่ยมลูกน้องของชายหนุ่มด้วยเพราะไม่อยากให้มีคนถ่ายรูป คงจะมีคนให้พิกัดโรงพยาบาลที่นภิตรารักษาตัวอยู่แล้วต้องมีคนมาจับตาดูแน่ เธอไม่อยากจะเข้าไปให้เป็นเป้าสายตาหรอกนะ รอให้เธอได้เรื่องคนปล่อยข่าวก่อนเถอะ เธอไปโชว์ตัวแน่อริสาไม่คิดจะเช็คสถานการณ์ในโลกออนไลน์แต่เธอก็พอเดาได้ว่าคนอย่างนภิตราไม่มีทางพูดให้ตัวเองดูแย่ มีแต่จะบอกว่าตัวเองถูกกระทำเท่านั้นล่ะ และอาจจะพูดว่าเธอท้องกับตฤณกันต์ด้วยแต่ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ เธอไม่ได้เป็นอย่างที่นภิตราป่าวประกาศ ยังไงซะเธอก็ย่อมคงอยู่ไม่ถูกทำลายง่าย ๆ หรอกศารทูลไปเข้าไปเยี่ยมพิมพ์นาราไม่นานก็กลับออกมาด้วยใบหน้าอ่อนอกอ่อนใจ “ข้อเสียของโลกออนไลน์คือเมื่อมีหนึ่งข่าวโผล่ขึ้นมามันจะต้องมีคนเกาะกระแสสร้างข่าวปลอมขึ้นมา และก็จะมีคนพวกนึงที่ไม่กรองก่อนเชื่อทุกข่าวที่เห็น บางคนอ่านแค่พาดหัวด้วยซ้ำ มันน่ากลัวโลกออนไลน์เนี่ย”“แต่ยังไงทองแท้ก็ยังเป็นทองแท้ หรือนายคิดว่าฉันเป็นทองปลอม?”“ม้าของป๊านาะของแท้อยู่แล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์ &ldq
แม้เช้าวันใหม่บรรยากาศในโลกโซเชียลจะยิ่งรุนแรงแต่อริสาก็ยังคงยิ้มแย้มและตอบรับการทานอาการเช้ากับครอบครัวของนลินญาด้วยใบหน้าที่ไร้วี่แววความเศร้าหรือเครียด“คุณแม่คะ พี่นนท์ล่ะคะ?” นปภาเอ่ยถามขึ้นเมื่อทุกคนมานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารกันเกือบจะครบแล้ว ความจริงเธออยากจะถามอริสาเรื่องที่เกิดขึ้นแต่พอเห็นอริสายังคงยิ้มแย้มก็พูดไม่ออกจึงต้องเปลี่ยนไปถามเรื่องพี่ชายที่เธอไม่เห็นตั้งแต่เมื่อวาน“เพิ่งออกไปเมื่อครู่นี้เอง เห็นว่าจะไปทำธุระที่ภูเก็ตสักพักน่ะ” คุณแสงรวีตอบ แม้ว่าตัวเธอพอจะรู้ว่าเป็นธุระอะไรแต่ก็ไม่อยากจะพูดออกมา เธอไม่อยากให้พี่น้องต้องระแวงสงสัยกันเพียงเพราะพี่ชายไปเกี่ยวพันกับพ่อค้ายาเสพติด และไม่อยากจะพูดเรื่องนี้“ผมรู้มาว่านายหัวธีระมาที่นี่ในฐานะแขกของคุณสิรานนท์ บางทีอาจจะต้องสอบถามคุณแสงรวี คุณอาอนาคินทร์และตัวคุณสิรานนท์สักหน่อย หวังว่าจะให้ความร่วมมือนะครับ” ราวกับศารทูลรู้ความคิดคนชรากว่าจึงเอ่ยดักขึ้น คนที่พอจะให้ข้อมูลดี ๆ ได้คงมีแต่คุณแสงรวีนี่ล่ะ“เราให้ความร่วมมืออยู่แล้ว” คุณอนาคินทร์