Share

เซี่ยหมิ่น

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-05-24 00:18:30

แต่หากคนถึงสิ่งที่นางหู่ซื่อกระทำกับเขามาตั้งแต่เล็กก็ไม่ได้แปลกใจอันใด ทุกครั้งที่นางทุบตี หรือด่าทอเขา นางจะด่าเขา ว่าเขาเกิดมาทำไม เหตุใดต้องมาเกิดเรื่องเช่นนี้กับนางด้วย บิดาของเขาก็รีบชิงตายไปเสียก่อน

“เจ้าจะทำเช่นไร” เลี่ยงรุ่ยเห็นใจสหายอยู่ไม่น้อย

“ข้าจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น” เสียงของเขาแผ่วเบาจนแทบจะฟังไม่ได้ยิน

แต่ทุกอย่างก็ปรากฏแล้ว ในเมื่อนางหู่ซื่อมิใช่มารดาของเขา เขาก็คงไม่ต้องอยู่ที่เรือนของนางต่อไป

“ท่านลุงจิ่ว หากนางหู่ซื่อมิใช่มารดาของอาหมิ่นท่านก็เขียนหนังสือตัดขาดเถิดขอรับ ส่วนอาหมิ่นข้าจะรับเขาไปดูแลที่เรือนเอง” เลี่ยงรุ่ยเดินไปพูดกับผู้นำหมู่บ้าน

นางหู่ซื่อเมื่อรู้ว่าเจียงหมิ่นกลายเป็นคนพิการไปแล้ว นางจึงไม่คิดจะเก็บเขาไว้ที่เรือน เพราะเขาไม่อาจจะหาเงินให้นางได้แล้ว ทั้งยังจะเป็นภาระเสียเปล่าๆ

“เจ้าว่าเช่นไร” ผู้นำหมู่บ้านหันไปถามนางหู่ซื่อ ถึงอย่างไรนางก็เลี้ยงเจียงหมิ่นมาตั้งแต่เกิด นางคงจะต้องมีความผูกพันกับเขาสักเล็กน้อย

“ตัดขาดเสียเลย จะไปอยู่ที่ใดก็ไป อยากได้มาอยู่เป็นภาระข้า”

ทุกคนได้แต่ถอนหายใจออกมาเพราะความใจดำของนางหู่ซื่อ เจียงหมิ่นยิ้มเยาะตนเองที่หลงคิด
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   เจ้าทำได้อย่างไร

    นางที่ตื่นก่อนทุกคนในเรือน ยังไม่ได้ยินเสียงของทั้งคู่ออกมาจากห้องเลยสักครั้ง จะเป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยได้เร็วเช่นนี้หลินเยว่นางเดินเข้าไปใกล้เสี่ยวถิง แล้วมองสบตาของนางอย่างจริงจัง“เข้าไปในห้องของเจ้าเถิด ข้ามีเรื่องจะพูดกับพวกเจ้าทั้งสองคน” เสี่ยวถิงพยักหน้า ก่อนจะเดินนำพวกเขาไปที่ห้องของนางภายในห้องเซี่ยหมิ่นรู้สึกตัวแล้ว เขานั่งพิงอยู่ที่หัวเตียง แต่ยังไม่อาจขยับได้มากนัก“มีเรื่องอันใดกันรึ” เซื่อหมิ่นเห็นสีหน้าที่กังวลของเสี่ยวถิง และสีหน้าที่จริงจังของหลินเยว่กับเลี่ยงรุ่ยจึงได้เอ่ยถามออกมา“ข้ามีความลับของข้าจะบอกกล่าวพวกท่าน เพราะคิดว่าพวกท่านคือครอบครัวของข้าแล้ว และข้าหวังว่าพวกท่านทั้งสองจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ” หลินเยว่นางเอ่ยออกมา ทั้งแววตาและสีหน้าของนางไม่บ่งบอกว่านางพูดเล่นเช่นทุกครั้ง“ข้าสาบาน ด้วยชีวิตของข้า ไม่ว่าความลับของเจ้าคือสิ่งใด ข้าไม่มีทางพูดออกไปปอย่างแน่นอน” เซี่ยหมิ่นคุกเข่าสาบานไม่ได้ เขาเลยยกมือขึ้นเหนือหัวแทนในเมื่อนางนับเขาเป็นคนในครอบครัว เขาจะกล้าหักหลังนางผู้เป็นน้องสาวได้อย่างไรเสี่ยวถิงรีบทำตามผู้เป็นสา

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   เซี่ยหมิ่น

    แต่หากคนถึงสิ่งที่นางหู่ซื่อกระทำกับเขามาตั้งแต่เล็กก็ไม่ได้แปลกใจอันใด ทุกครั้งที่นางทุบตี หรือด่าทอเขา นางจะด่าเขา ว่าเขาเกิดมาทำไม เหตุใดต้องมาเกิดเรื่องเช่นนี้กับนางด้วย บิดาของเขาก็รีบชิงตายไปเสียก่อน“เจ้าจะทำเช่นไร” เลี่ยงรุ่ยเห็นใจสหายอยู่ไม่น้อย“ข้าจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น” เสียงของเขาแผ่วเบาจนแทบจะฟังไม่ได้ยินแต่ทุกอย่างก็ปรากฏแล้ว ในเมื่อนางหู่ซื่อมิใช่มารดาของเขา เขาก็คงไม่ต้องอยู่ที่เรือนของนางต่อไป“ท่านลุงจิ่ว หากนางหู่ซื่อมิใช่มารดาของอาหมิ่นท่านก็เขียนหนังสือตัดขาดเถิดขอรับ ส่วนอาหมิ่นข้าจะรับเขาไปดูแลที่เรือนเอง” เลี่ยงรุ่ยเดินไปพูดกับผู้นำหมู่บ้านนางหู่ซื่อเมื่อรู้ว่าเจียงหมิ่นกลายเป็นคนพิการไปแล้ว นางจึงไม่คิดจะเก็บเขาไว้ที่เรือน เพราะเขาไม่อาจจะหาเงินให้นางได้แล้ว ทั้งยังจะเป็นภาระเสียเปล่าๆ“เจ้าว่าเช่นไร” ผู้นำหมู่บ้านหันไปถามนางหู่ซื่อ ถึงอย่างไรนางก็เลี้ยงเจียงหมิ่นมาตั้งแต่เกิด นางคงจะต้องมีความผูกพันกับเขาสักเล็กน้อย“ตัดขาดเสียเลย จะไปอยู่ที่ใดก็ไป อยากได้มาอยู่เป็นภาระข้า”ทุกคนได้แต่ถอนหายใจออกมาเพราะความใจดำของนางหู่ซื่อ เจียงหมิ่นยิ้มเยาะตนเองที่หลงคิด

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   เกิดเรื่องแล้ว

    ทุกคำที่เขาพูดเขาคิดเช่นนั้นจริงๆ เขาและเจียงหมิ่นมีชีวิตไม่ต่างกันมากนัก เขาไม่รู้ว่าเหตุใดมารดาของเจียงหมิ่นจึงไม่ค่อยจะรักเจียงหมิ่นเท่าพี่ชายและน้องชายคนเล็กเจียงหมิ่นมิได้ร่ำเรียนเช่นพี่ชายและน้องชาย ที่ทั้งสองล้วนแต่ได้เล่าเรียนแม้จะเพียงแค่เล็กน้อย เพราะหัวไม่ดีจึงต้องหยุดเรียนเขาทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งไม่แปลกหากคนที่มีชะตากรรมคล้ายๆ กันสองคน เพียงแค่มองตาก็เข้าใจกันเช่นนี้“ขอบใจเจ้ามาก” เจียงหมิ่นเอ่ยเสียงที่สั่นเทาของเขาออกมาอย่างซึ้งใจ“เช่นนั้นต่อไป ท่านว่างจากงานที่ช่วยข้าทำ ก็มาหัดอ่านเขียนตำรากับอารุ่ยก็แล้วกัน” หลินเยว่นางไม่มีความคิดเป็นอื่น หากเลี่ยงรุ่ยได้ตัดสินใจไปแล้วถึงอย่างไรงานสบู่ตอนนี้ก็ไม่ได้รีบร้อน ที่ทำไว้ก็มีจำนวนไม่น้อยแล้ว หากมีคนรู้เรื่องอ่านเขียนเพิ่มอีกคน ต่อไปเมื่อเลี่ยงรุ่ยเข้าสำนักศึกษานางก็จะได้มีคนช่วยเลี่ยงรุ่ยก็คิดเช่นเดียวกับหลินเยว่ เพราะต่อไปเขาจะให้เจียงหมิ่นดูแลเรื่องการส่งสินค้าและบัญชีซื้อขายกับร้านจินเซียงสองสามีภรรยากลับไปที่เรือนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเจียงหมิ่นยังได้เบิกเงินไปก่อนสองร้อยอิแปะ เพื่อนำไปให้มารดาหกสิบอิแปะ ที่เหลือ

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   พวกเจ้าทำอาหารที่ใดกัน

    ครั้งนี้เขาไม่ได้รังแกนางเพิ่ม เมื่อแช่ตัวอยู่ด้วยกันในอ่างน้ำ เขาช่วยนางขัดตัวอย่างใส่ใจ ก่อนจะช้อนตัวนางขึ้นจากน้ำหลินเยว่นางไม่มีสติแล้ว เมื่อถูกเช็ดตัวเรียบร้อยนางก็หลับไปทันที เลี่ยงรุ่ยสวมเสื้อผ้าให้นาง ก่อนที่จะนอนกอดนางและหลับไปอย่างสบายตัว เขาทนอดกลั้นมาหลายคืนมาคิดตอนนี้ก็น่าขันไม่น้อย หากจับนางกินไปเสียแต่แรกก็คงจะไม่ต้องทนนอนทรมานมาหลายคืนแล้วรุ่งเช้าหลินเยว่นางลุกจากที่นอนไม่ไหว ได้แต่ให้เลี่ยงรุ่ยหามื้อเช้าให้นางกิน ก่อนที่จะพากันออกมาจากมิติพอออกมาด้านนอกได้เพียงแต่ชั่วลมหายใจ เจียงหมิ่นก็พาเสี่ยวถิงมาร้องเรียกอยู่ที่หน้าเรือน“เจ้านอนพักต่อเถิด ข้าจะไปดูพวกเขาเอง”“อืม” หลินเยว่นางปรือตามาตอบรับคำของเขาแล้วก็นอนต่อในเมื่อทำให้นางต้องลุกจากที่นอนไม่ได้ เขาก็ต้องจัดการสอนงานสองสามีภรรยาแซ่เจียงแทนนางเมื่อไม่เห็นหลินเยว่ออกมาพบพวกเขา สองสามีภรรยาก็แปลกใจไม่น้อย จนเสี่ยวถิงต้องเอ่ยถามออกมา“อาเยว่เล่า” นางมองหาไปรอบเรือนก็ไม่เป็นหน้าของสหาย“นางไม่ค่อยสบาย วันนี้ข้าจะสอนงานพวกเจ้าแทนนางเอง” เลี่ยงรุ่ยไม่รอให้พวกเขาถามเพิ่มเขารีบเดินนำหน้าไปทางห้องที่อยู่ด้านหลัง เมื

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   พวกเรายังมิได้เข้าหอกันเลย

    หลังจากที่ออกมาจากมิติแล้ว หลินเยว่ก็นอนนิ่งอยู่ในผ้าห่ม นางนอนชิดริมด้านในแทบจะเรียกได้ว่าจะสิงผนังเรือนอยู่แล้วนางได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของเลี่ยงรุ่ยจึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้นอนสบายขึ้น ไม่นานนางก็ผล็อยหลับไปเลี่ยงรุ่ยลืมตาขึ้นมาทันที หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าหลินเยว่นางหลับสนิท เขาทำเช่นทุกที คือดึงตัวนางเข้ามานอนกอด เขาก็ไม่ได้คิดจะรังแกนางหากว่านางไม่เต็มใจหลินเยว่ได้รับไออุ่นยิ่งทำให้นางแนบชิดตัวของเลี่ยงรุ่ยเพิ่มขึ้น นางยังเอาใบหน้าถูที่อกของเขาราวกับลูกแมวนอนที่ซุกหาที่นอนเพื่อให้สบายตัวเลี่ยงรุ่ยกัดฟันแน่น เขายึดต้นคอของนางไว้ เพื่อหยุดถูใบหน้ากับหน้าอกของเขาเสียที แต่ดูเหมือนจะยิ่งแย่ลง เพราะหลินเยว่ที่ถูกจับต้นคอไว้นางไม่สบายตัวจึงได้ขยับตัวไม่หยุดเลี่ยงรุ่ยจำต้องปล่อยมือออกจากคอนาง การที่ทำเช่นนี้ กลายเป็นเขาเองที่ลำบากไม่น้อย ยิ่งเห็นปากน้อยๆ ของนางที่อ้าออกอยู่หน่อยๆ ความยับยั้งชั่งใจทั้งหมดของเขาก็ดูจะขาดลงในทันฝ่ามือหนาประคองศีรษะของนางให้สูงขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ไล่เลียขบเม้มริมฝีบางบางอย่างแผ่วเบา เรียวลิ้นหนาค่อยๆ แทรก

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   หาคนช่วยงาน

    รุ่งเช้าทั้งสองจัดการกินอาหารและแต่งตัวเรียบร้อยก็ออกมาจากในมิติ เลี่ยงรุ่ยเดินไปที่เรือนตระกูลเจียงเพื่อพูดคุยกับเจียงหมิ่น หลินเยว่นางจึงได้นับสบู่อีกรอบ เพราะกลัวว่าจะทำขาดตกไปเพียงไม่นานเลี่ยงรุ่ยก็เดินกลับมาที่เรือน พร้อมกับเจียงหมิ่นและเสี่ยวถิง หลินเยว่ยิ้มให้นางทันที เพราะว่าถูกใจนางอยู่ไม่น้อยหลังจากที่เคยพูดคุยกันมาสองสามครั้ง“เสี่ยวถิงเจ้าก็มาด้วย” นางเดินเข้าไปรับพวกเขาที่หน้าเรือน“เจ้าต้องการคนช่วยงานรึ” นางเอ่ยถามอย่างยินดีเพราะหากไม่ได้ทำงานในนา นางก็ต้องอยู่บ้านปักผ้า เงินที่หามาได้ก็มิได้มากนัก ถึงเจียงหมิ่นจะขึ้นเขาล่าสัตว์ได้ แต่ก็มิได้ทุกวัน ทั้งเงินที่ได้มาเกือบทั้งหมดก็ต้องส่งเข้าเรือนใหญ่ พวกนางสองสามีภรรยาแทบจะไม่มีเงินเก็บติดตัวเลย“ใช่แล้ว เจ้าอยากจะมาช่วยข้าหรือไม่ งานไม่ได้หนักอันใด แต่รับรองข้าจ่ายหนักอย่างแน่นอน” นางอมยิ้มมองเสี่ยวถิงและเจียงหมิ่น“จริงรึ ทำ ข้าอยากทำ แต่ว่า...” ในตอนแรกเสี่ยวถิงก็ดีใจไม่น้อยที่ได้ยินว่าหลินเยว่นางให้เงินเยอะ แต่เมื่อนึกถึงว่าเงินทั้งหมดจะต้องตกไปอยู่ในถุงผ้าของแม่สามีนาง ใบหน้าของนางก็หมองลง“มีอันใดอย่างงั้นรึ” นางม

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ยอดสั่งครั้งแรก

    หลินเยว่นางพูดคุยเรื่องราคามากับเลี่ยงรุ่ยแล้ว จึงได้เอ่ยออกมาตามความตั้งใจของนาง“สบู่ที่ไม่มีกลิ่น สองร้อยอิแปะ ส่วนสบู่กลิ่นดอกกุ้ยเหมยสองตำลึง เจ้าค่ะ” นางมองท่าทีของเถ้าแก่เนี้ยจินว่านางจะมีอาการเช่นไรแต่ก็พบว่านางดูมิได้ตกใจกับราคาที่หลินเยว่นางเอ่ยออกมา พร้อมทั้งพยักหน้าอย่างพึงพอใจอีกด้วย“เช่นนั้นก็ตามนี้ ส่วนเรื่องราคาที่ข้าจะนำมาขายที่ร้านสบู่ไม่กลิ่นข้าจะเพิ่มอีกห้าสิบอิแปะ ส่วนสบู่ดอกกุ้ยเหมยข้าจะเพิ่มห้าร้อยอิแปะ เจ้าเห็นเช่นไร” นางขอความเห็นกับหลินเยว่ที่นางเพิ่มขึ้นเช่นนี้ หลินเยว่จะได้ไม่ต้องมาแบ่งค่าวางสินค้าในร้านให้นางเพิ่มอีก“ได้เจ้าค่ะ” หลินเยว่เห็นว่านางก็ไม่ได้เพิ่มมากกว่าเดิมเยอะ ก็เหมือนว่านางขายส่งส่วนคนขายจะไปบวกเพิ่มเท่าไหร่ นางไม่สนใจแล้ว“เช่นนั้นก็ทำสัญญาเถิด ในเมืองหานตง ข้าอยากให้เจ้าขายให้ข้าเพียงผู้เดียว”“เรื่องนี้ข้าไม่มีปัญหาเจ้าค่ะ”“ดี” จินเหมยฮวายิ้มออกมาอย่างพอใจ ที่หลินเยว่นางพูดง่ายเช่นนี้ นางรีบเดินไปนำกระดาษมาเขียนสัญญาทันที“เอ่อ ข้ายังไม่ได้ถามเจ้าเลยว่าเจ้าจะส่งสบู่ชุดแรกให้ข้าได้เท่าใด” นางหันกลับมาหาหลินเยว่นางหยุดคิดอยู่ครู่ ว่า

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ร้านจินเซียง

    หลินเยว่นางจึงได้รู้ว่า คนที่ถูกตระกูลตัดขาด หากไม่หนักแน่นพอก็อาจจะเป็นบ้าหรือฆ่าตัวตาย หรือไม่ก็ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นเสีย จะได้ไม่ต้องถูกสายตาเหยียดหยามมองมาตลอดเช่นนี้“ใช่ แต่ข้าอยากรู้ว่ามีร้านอื่นอีกหรือไม่” หลินเยว่ นางไม่เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจแล้ว“ร้านจินเซียงอย่างไรเล่า เจ้าก็ช่างประหลาด เมื่อก่อนก็อยู่ในเมืองแท้” นางมองหลินเยว่ด้วยสีหน้าประหลาด“ขอบใจเจ้ามาก ข้าไปก่อนเล่า” หลินเยว่เก็บผ้าทั้งหมดใส่ตะกร้า และแบกขึ้นหลังทันที“อาเยว่ เจ้ายังซักไม่เสร็จเลย” เสี่ยวถิงตะโกนร้องเรียกนาง แต่หลินเยว่นางเพียงแค่โบกมือแล้วเร่งฝีเท้ากลับไปทางเรือนของนาง“อะไรของนาง” เสี่ยวถิงเกาหัวอย่างมึนงงเหมือนหลินเยว่นางเพียงแค่อยากมาพูดคุยเช่นที่นางบอก ไม่ได้อยากมาซักผ้าเสียหน่อยเลี่ยงรุ่ยเห็นนางแบกตะกร้าที่เปียกโชกกลับมาก็รีบเดินออกไปรับตะกร้ามาถือไว้เอง ยิ่งเห็นผ้าด้านในบางตัวเปียก บางตัวไม่เปียก เขาก็มองนางอย่างขอคำตอบ“อ้อ ข้าเพียงไปสืบข่าวเท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจไปซักผ้า” นางเอ่ยออกมา ก่อนจะแย่งตะกร้าแล้วเก็บเข้าไปในมิติ“เจ้าคิดจะทำสิ่งใดกันแน่”“อ้าว ข้าคิดว่าเจ้าเข้าใจแล้วเสียอีก ข้าจะไปเจรจ

  • พ่อบัณฑิตหน้าขาว ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   สืบข่าว

    เพียงนำเบสสบู่ออกมาละลาย โดยวิธีการตุ๋น เมื่อละลายดีแล้ว นางก็นำน้ำหอมที่อยู่ในมิติของนางมาผสมใส่ลงไป เพียงแต่นางไม่ได้ใส่สี เพราะกลัวว่าจะดูแปลกจนเกินไปกลัวว่าผู้คนจะไม่กล้าซื้อไปใช้สบู่ของนางจึงมีเพียงสีขาว และขาวขุ่นเท่านั้น เพื่อเพิ่มความแตกต่างของแต่ละกลิ่น นางจึงต้องหาดอกไม้มาผสมลงไปในสบู่ของนางด้วยในเรือนตอนนี้มีเพียงดอกเหมยกุ้ย (ดอกกุหลาบ) นางจึงทำออกมาเพียงแค่กลิ่นเดียวเท่านั้น เพื่อจะทดสอบดูว่าพอจะใช้ได้หรือไม่ และกลิ่นที่ได้ติดผิวกายมากน้อยเพียงใดส่วนผสมทุกอย่างนางเพียงคาดเดาเท่านั้น จึงไม่อาจสำเร็จได้ในครั้งแรก หลินเยว่ต้องใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่หลายวัน กว่าที่นางจะได้สบู่ชุดแรกออกมา“ข้าว่าครั้งนี้สำเร็จแล้ว” นางมองสบู่ที่เพิ่งแกะออกจากพิมพ์ ครั้งนี้กลิ่นที่ออกมาจากสบู่ไม่รุนแรงเช่นที่ผ่านมา เมื่อนำมาลองล้างมือก็พบว่ากลิ่นติดมือไม่น้อย“ท่านว่าเป็นเช่นไร” หลินเยว่ยื่นมือของนางไปใกล้จมูกของเลี่ยงรุ่ยเมื่อเขาได้ลองสูดดมก็พบว่าครั้งนี้กลิ่นที่ออกมากำลังพอดี ไม่ฉุนจนเกินไป ทั้งยังเย้ายวนไม่น้อย จึงเผลอสูดดมอยู่นาน จนหลินเยว่นางต้องดึงมือกลับมา“ข้าว่าใช้ได้แล้ว” สายตาที่ม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status