รุ่งเช้า
บ้านเรืองพาณิชยากุล
“ป้าพิมพ์ วันนี้ไม่ต้องเตรียมมื้อกลางวันน่ะ พอดีจะออกไปข้างนอกกัน คงจะกลับมาเย็น ๆ เลย” นิษฐา พูดขึ้นมาทันที ที่เดินลงมาถึงชั้นล่างของบ้าน
“แล้วคุณแพทละคะ” พิมพาถามออกมา เพราะว่าวันนี้ลูกสาวเพียงคนเดียวของบ้านอยู่ที่บ้าน
“อ้าว! ยัยแพทอยู่หรอกหรือ” นิษฐาถามออกไปด้วยความสงสัย เพราะปกติลูกสาวจะไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่วันนี้กลับแปลกกว่าทุกที ที่กลับมาค้างที่บ้าน
“คะ กลับมาเมื่อคืนช่วงดึก” พิมพาตอบกลับไป
“ถ้าอย่างนั้น ก็เตรียมเฉพาะของยัยแพทก็พอน่ะ เดี๋ยวนิษกับพี่พงษ์จะไปทานกันข้างนอกเอาเลย” นิษฐาจึงเอ่ยบอกแม่บ้านกลับไป แล้วเดินออกมาข้างนอกมันที
วันนี้พัฒน์พงษ์มีธุระที่จะต้องไปกะทันหันจึงพาภรรยาอย่างนิษฐาไปด้วย เพราะลูกชายคนโตไปต่างจังหวัด พัฒน์พงษ์จึงจัดการงานที่บริษัทแทนไปก่อน และไม่รู้ว่าจะกลับมาวันไหน
และหลานชายกลับมาจากโรงเรียนก็ต้องเป็นหน้าที่พิมพาผู้เป็นยายที่ต้องดูแลต่อ โดยมีไม้เอกลูกน้องคนสนิทของเจ้าของบ้าน ทำหน้าที่ขับรถให้แทน ทุกวันนี้พัฒน์พงษ์จะขับรถเองสะส่วนใหญ่ เพราะไม่ค่อยได้ออกไปไหนตั้งแต่ที่มีหลานชายเข้ามา
“เป็นอะไรของคุณอีกคุณนิษ แล้วเมื่อกี้ก่อนออกจากบ้านคุณสั่งอะไรกับป้าพิมพ์” พัฒน์พงษ์ถามภรรยาขึ้นมาเมื่อขับรถออกมาจากบ้านได้ซักพัก
“นิษบอกป้าพิมพ์ไม่ต้องเตรียมอาหารกลางวันรอพวกเรา แต่ป้าพิมพ์บอกว่ายัยแพทกลับมานอนที่บ้าน” นิษฐาตอบสามีออกไปตามตรง
“ยัยแพทกลับมานอนบ้าน แล้วไม่ดีเหรอ”
“ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่นิษไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับแก่ดีค่ะ” นิษฐาเอ่ยบอกสามีพร้อมกับใบหน้าและน้ำเสียงที่มีความกังวลขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“คงไม่น่ามีอะไรหรอกมั้ง” พัฒนพงษ์เอ่ยขึ้นมาเบา ๆ เมื่อพึ่งนึกอะไรขึ้นมาได้ ว่าเขาให้สิบทิศเข้าไปเช็คและทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศทุกเครื่องที่บ้าน
“อะไรของคุณพี่อีก” นิษฐาถามสามีออกมาทันที
“เปล่า! ผมแค่บอกให้สิบทิศเข้าไปล้างแอร์ทุกตัวที่บ้านให้ แต่ก็ไม่น่าไปถึงห้องยัยแพทง่าย ๆ หรอก”
“แอร์ที่บ้านไม่ใช่มีแค่ตัวเดียว เฉพาะแค่ด้านล่าง ก็ปาไปเกือบเย็นแล้วค่ะ กว่าจะเสร็จ” นิษฐาพูดขึ้นมาตามที่ตัวเองคิด และประเมินค่าจากช่างคนอื่น ๆ ที่เคยจ้างมา
“นั่นนะสิ! แล้วคุณกังวลเรื่องอะไรอีก”
“ก็ลูกสาวของคุณพี่น่ะสิ” นิษฐาพูดขึ้นด้วยใบหน้ามีความกังวลขึ้นมาอีกครั้ง
“ผมเคยบอกคุณแล้ว ว่าอย่าตามใจลูกมากจนเกินไป เป็นไงละทีนี้ถูกตามใจจนเสียคน งานการก็ไม่เอา แต่ดีหน่อยที่เรียนจบมาได้” พัฒน์พงษ์ตำหนิภรรยาออกมาเพียงเล็กน้อย
“หรือว่าจะหาแฟนให้แกดีค่ะ เผื่อลูกจะโตขึ้นมาบ้าง” นิษฐาพูดขึ้นเมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้
“คุณคิดจะทำอะไรอีกคุณนิษ”
“นิษอยากให้ลูกมีความรับผิดชอบขึ้นมาบ้าง”
“ด้วยการ จะจับลูกคลุมถุงชนนี่น่ะ” พัฒน์พงษ์เริ่มขึ้นเสียงทันที
“คุณพี่ดูตาพีทกับหรีดหริ่งสิ อายุแค่นี้เอง แถมเป็นน้องเล็กของบ้าน แต่นิสัยลูกมีความรับผิดชอบสูงมากเลยนะ ตั้งแต่ที่ทั้งคู่มีลูกขึ้นมา” นิษฐาอวยยศให้ลูกชายคนเล็กของบ้านทันที แถมยกตัวอย่างขึ้นมาเปรียบเปรยให้สามีฟังอีก
“ภูมิใจในฝีมือตัวเองว่างั้นเถอะ คุณนิษ! คนเราหากว่าคู่กันแล้วมันก็ไม่แคล้วกันหรอก ถึงยังไง มันก็ต้องมีทางวนเวียนมาเจอกันอยู่ดี”
“เพราะแบบนี้แหล่ะนิษถึงห่วงเรื่องยัยแพทมากที่สุดกว่าคนอื่น”
“ตาเพชรล่ะ” พัฒน์พงษ์ถามถึงลูกชายคนโตขึ้นมาทันที
“รายนั้นถึงไม่มีครอบครัว นิษก็ไม่ห่วงหรอกค่ะ”
“ลูกชายสุดที่รักคนนี้เนอะ ไปในทางที่คุณชี้ทุกอย่างเลย” พัฒน์พงษ์เอ่ยประชดภรรยาขึ้นมาทันที
อีกด้าน
หญิงสาวลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบากในช่วงบ่ายของวัน เพราะเมื่อคืนกลับมาดึก แต่ก็ต้องพยามยามลุกขึ้นมาเมื่อถูกสิ่งรบกวนภายในห้องแถมเครื่องปรับอากาศยังหยุดทำงานอีก
“ไอ้พี่ทิศ...” หญิงสาวเบิกตากว้างขึ้นมาทันที เมื่อเห็นว่าตัวต้นตอเสียงรบกวนการนอนของเธอนั้นคือใคร
“ก็ใช่นะสิ เห็นเป็นใครล่ะ...” เสียงเข้มพูดขึ้นโดยที่มียังทำงานอยู่โดยไม่สนใจหันมามองเธอเลย
“พี่เข้ามาในห้องฉันได้ยังไง” หญิงสาวถามขึ้นมาทันที
“คุณพงษ์ให้มาล้างทำความสะอาดแอร์ในบ้าน” เขาตอบเธอออกมาตามตรง และก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป
“พี่ก็ไปห้องอื่นก่อนสิ” เธอเอ่ยไล่เขาขึ้นมาทัน
“เสร็จทุกตัวแล้ว เหลือแค่ห้องนี้” เขาตอบเธอออกมาตามตรง
“ห๊า!”
“ตกใจอะไร”
“เมื่อคืนเราก็กลับมาพร้อมกัน ถามจริงเถอะ พี่นอนตอนไหน” หญิงสาวถามขึ้นมาด้วยความสงสัยทันที
“คุณหนูแพทครับ อายุเท่านี้แล้ว ควรทำงานมากกว่านอนนะครับ ดูคุณพงษ์สิอายุเยอะจนใกล้จะเกษียรอยู่แล้ว แต่ท่านก็ยังไปทำงานทุกวัน เพราะลูกไม่เอาการเอางานแบบคุณ” สิบทิศลุกขึ้นมาเผชิญหน้าพูดกับเธอทันที อย่างเหลืออด
“นี่พี่ว่าฉันเหรอ” หญิงสาวเริ่มขึ้นเสียงใส่ทันที เพราะถูกชายหนุ่มสั่งสอนเธอ ขนาดพ่อและแม่ยังไม่กล้าขนาดนี้
“เออ”
“ไอ้พี่ทิศ...ไอ้บ้า นี้แหนะ...” เธอคว้าหมอนปาใส่เขาทันที อย่างรู้สึกโมโห
“หยุด! เมื่อคืนนี้แค่จูบไม่พอใช่ไหม” เขารีบคว้าหมอนเอาไว้ แล้วเอาเรื่องเมื่อคืนมาขู่เธอในทันที พร้อมกับพยายามจะแกล้งเธอด้วยการดันเธอล้มลง แล้วเขาก็ขึ้นคร่อมทาบทับเธอทีนที
“พะ พี่จะทำอะไร นี่มันห้องฉันนะ” ซึ่งก็ได้ผลเพราะเธอหุบปากเงียบ แถมเม้มปากเอาไว้แน่นอีก
“ก็ห้องคุณนะสิ...” เสียงแหบพร่าเอ่ยบอกที่ข้างหูเธอทันที เมื่อเธอหลับตาปี๋ไม่กล้ามองคนตัวสูง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เหมือนระฆังช่วยชีวิตของเธอ เพราะมีคนมาเคาะประตูห้องของเธอขึ้นมา ทำให้ทั้งคู่หันมามองหน้ากันอย่างอัตโนมัติ
“ลุกขึ้นสิ มีคนมา” หญิงสาวเอ่ยบอกเบา ๆ
“...” เขาหากได้ทำตาที่เธอบอกหรือไม่
“มีอะไรคะ ป้าพิมพ์” พจีกานต์จึงตัดสินใจจะโกนเสียงดังออกไปถามแทน เมื่อเห็นว่าคนตัวโตไม่ยอมลุกขึ้นจากตัวเธอ
“คุณหนูแพทจะลงมาทางมื้อกลางวันไหมคะ ป้าจะได้เตรียมไว้ให้”
“เดี๋ยวแพทลงไปจัดการเองคะ ป้าพิมพ์มีอะไรทำก็ไปทำเถอะ แพทขออาบน้ำก่อน” หญิงสาวตอบออก แล้วหันมาส่งสายตาให้คนที่ทาบทับตัวเธอลูกขึ้น
หน้าที่ดูแล“ยัยแพท นี่จะหอบกระเป๋าออกไปไหนมันค่ำแล้วน่ะ” นิษฐาถามลูกสาวขึ้น เมื่อเห็นว่าลูกสาวหอบกระเป๋าใบใหญ่ลงมาบันไดมา ในขณะที่ตัวเองกำลังจะพาหลานชายขึ้นไปนอน“แพทขอไปพักสมองที่ต่างจังหวัดสักพักนะคะ” เธอเอ่ยตอบแม่ออกไปตามตรง แล้วลากกระเป่าเดินตรงไปยังพัฒน์พงษ์ที่นั่งอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขก“ถูกพ่อควบคุมความประพฤติแค่นี้ ถึงขั้นต้องเก็บกระเป๋าออกจากบ้านเชียวเหรอ” พัฒน์พงษ์เอ่ยแซวขึ้นมาทันที ที่ลูกสาวเดินมานั่งลงข้าง ๆ กับตัว“แพทขอไปพักสักสองสามวันนะคะพ่อ กลับมาแพทจะเป็นแพทคนใหม่ให้พ่อเห็น” เธอเอ่ยบอกพ่อของเธอออกไป เมื่อนั่งลง“แล้วทำไมไม่รอเดินทางพรุ่งนี้เช้า” พัฒน์พงษ์วางทุกอย่างลง แล้วหันมาสนใจถามลูกสาวขึ้นมา เพราะตอนนี้ก็มืดค่ำแล้วด้วย“แพทอยากมีเวลาเที่ยวเยอะค่ะ เลยอยากเดินทางตอนนี้” พจีกานต์ตอบพ่อออกไป“ผมขับรถไหวครับคุณพงษ์ แค่นี้สบายมาก คุณพงษ์ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะดูแลคุณแพทเป็นอย่างดีเลย” สิบทิศที่พึ่งจะเดินเข้ามา เอ่ยขึ้นพร้อมกับรับปากกับพัฒน์พงษ์เป็นอย่างดี เพื่อให้ท่านหายเป็นกังวล“แล้วจะพากันไปที่ไหนล่ะ” ผู้เป็นพ่อถามขึ้นมาทันที เพราะเห็นกระเป๋าใบโตของลูกสาว ที่น
หน้าที่ใหม่“สรุปว่าเป็นใครกัน ที่กล้ามาหาลูกถึงที่บ้านที่พ่อกับแม่ไม่อยู่” พัฒน์พงษ์เค้นถามเอาความจริงกับลูกสาวขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินสิบทิศเอ่ยเช่นนั้นพจีกานต์จึงส่งหลานชายที่อุ้มอยู่ในตอนนี้ ให้แก่พิมพาพาออกไปจากตรงนี้ทันที เพราะเห็นว่าพ่อของเธอต้องการที่คุยกับเธอ“ก็เพื่อนรุ่นเดียวกับพี่เพชร พี่พีลูกป้าณียังไงละพ่อ เขาไม่ได้มาหาแพทสักหน่อย น่าจะมาหาพี่เพชรหรือละมั้งคะ แพทก็ไม่ได้ถาม” เธอจึงบอกพ่อออกไปตามตรง เพราะเธอก็ไม่ได้ที่คิดจะปิดบังพ่อของเธออยู่แล้ว“อยู่ให้ห่าง ๆ ลูกชายบ้านนั้นเลยน่ะ” พัฒน์พงษ์สั่งห้ามขึ้นมาทันที ที่ทราบว่าคนที่มาบ้านตอนที่เขาไม่อยู่นั้นคือใคร“อะไรกันค่ะคุณพี่ เด็ก ๆ เขาก็ไปมาหาสู่กันตามประสาคนที่เคยเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ” นิษฐาพูดขัดขึ้นมาทันที ที่พึ่งจะเดินเข้ามาภายในบ้าน“ก็ตอนนี้ทุกคนไม่ใช่เด็กกันแล้ว คุณก็รู้ว่าลูกชายเพื่อนคุณ เจ้าชู้ยังกับอะไรดี ผมไม่ยอมให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของเรา ไปเป็นหนึ่งในคู่นอนหรือตัวเลือกของลูกชายบ้านนั้นหรอกน่ะ” พัฒน์พงษ์พูดขึ้นมาอย่างเด็ดขาด“แพทก็ไม่ได้คิดที่สนใจอยู่แล้วนี้ค่ะพ่อ” พจีกานต์จึงพูดขึ้นมา เมื่อเริ่มเห็นว่าพ
จริงจังบ้านเทพารัตน์“ไปไหนมาล่ะพ่อตัวดี พึ่งจะกลับมาเองน่ะ ก็หัดอยู่ให้ติดบ้านหน่อย” เสียงแม่ของเขาต่อว่าขึ้นมาทันที เมื่อเห็นลูกชายตัวดีพึ่งเดินเข้ามาที่บ้านในช่วงเย็นของวัน เพราะตั้งแต่ที่ลูกชายกลับมาจากต่างประเทศก็ยังไม่เห็นว่าวันไหนที่ลูกชายจะอยู่ติดบ้านเลยสักวัน วันนี้ก็เช่นกันปราณี ซึ่งเป็นแม่ของ ปฐพี และเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันกับนิษฐานั้นเอง แต่ทั้งคู่ไม่ค่อยสนิทกันสักเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่ที่ต่างคนต่างมีครอบครัว ก็ไม่ค่อยได้เจอหน้า หรือไปมาหาสู่กันเลย เพราะต่างก็ทำธุรกิจเดียวกัน“ไปบ้านเพื่อนแม่มายังไงครับ” ปฐพีตอบแม่ของเขาออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร และทิ้งตัวลงบนโซฟาทันที“เพื่อนแม่...” ปราณีถามลูกชายออกไปทันที เพราะไม่รู้ว่าลูกชายหมายถึงเพื่อนคนไหนกันแน่ เพราะเพื่อนก็ไม่ได้มีแค่คนเดียว“ครับ”“เพื่อนคนไหน!?” ปราณีถามลูกชายขึ้นมาทันที ว่าลูกชายหมายถึงใคร“ก็...อานิษยังไงละครับ”“นิษฐา!” ปราณีถามย้ำลูกชาย เพราะเพื่อนที่ชื่อนี้ ก็มีอยู่คนเดียวเท่าเดียวเท่านั้นแหล่ะในรุ่น จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนิษฐาคนนั้นคนเดียว“ครับ...แต่น่าเสียดาย ที่วันนี้พวกท่านไม่อยู่บ้าน แถมไอ้เพช
คนมาป่วน“ลุกออกไปได้แล้ว...ฉันจะไปอาบน้ำ ร้อนจะตายอยู่แล้ว” เธอดันอกเขาออกจากเธอทันที ที่เสียงหน้าห้องเงียบลงเขาจึงยอมลุกขึ้น แล้วไปทำงานของตัวเองต่อทันที โดยไม่สนใจเจ้าของห้องที่วิ่งเข้าไปในห้องน้ำเลยแม้แต่น้อยไม่นานเธอก็ออกมาจากห้องน้ำ กลับต้องพบกับความเงียบ และมีเพียงเสียงของเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอยู่ เขาน่าจะกลับออกไปแล้ว“ทุกคนหายไปไหนกันหมดค่ะป้าพิมพ์” เธอถามขึ้นมาทันที ที่เดินลงมาชั้นล่างของบ้าน ต้องพบกับความเงียบอีกครั้ง“คุณท่านทั้งสองไปงานค่ะ เพราะคุณเพชรไม่อยู่” พิมพาตอบออกมาตามตรง“พี่เพชรไม่อยู่” เธอถามย้ำขึ้นมาทันที“ค่ะ”“ไปไหนหรือค่ะ ปกติคนอย่างพี่เพชรไม่เคยขาดงานเลยแม้สักครั้ง” เธอถามขึ้นมาอย่างสงสัยทันที เพราะปกติคนที่บ้างานอย่างพี่ชายเธอ แทบจะเอางานมานอนด้วยทุกครั้ง ทำไมถึงยอมขาดงานได้“เห็นว่ามีธุระที่ต่างจังหวัดค่ะ น่าจะหลายวันเลย คุณท่านเลยต้องเข้าไปดูงานที่บริษัทแทนคุณเพชรก่อนในช่วงนี้” พิมพาตอบออกมาเท่าที่ทราบ“อ่อคะ ป้าพิมพ์มีอะไรก็ไปทำเถอะคะ เดี๋ยวที่เหลือแพทจัดการเองคะ” เธอเอ่ยบอกแม่บ้านคนเก่าแก่ของบ้านกลับไปเธอจึงทิ้งตัวลงนอนที่โซฟาตัวยาวกลางห้อง เพรา
หาทางปรับเปลี่ยนรุ่งเช้าบ้านเรืองพาณิชยากุล“ป้าพิมพ์ วันนี้ไม่ต้องเตรียมมื้อกลางวันน่ะ พอดีจะออกไปข้างนอกกัน คงจะกลับมาเย็น ๆ เลย” นิษฐา พูดขึ้นมาทันที ที่เดินลงมาถึงชั้นล่างของบ้าน“แล้วคุณแพทละคะ” พิมพาถามออกมา เพราะว่าวันนี้ลูกสาวเพียงคนเดียวของบ้านอยู่ที่บ้าน“อ้าว! ยัยแพทอยู่หรอกหรือ” นิษฐาถามออกไปด้วยความสงสัย เพราะปกติลูกสาวจะไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่วันนี้กลับแปลกกว่าทุกที ที่กลับมาค้างที่บ้าน“คะ กลับมาเมื่อคืนช่วงดึก” พิมพาตอบกลับไป“ถ้าอย่างนั้น ก็เตรียมเฉพาะของยัยแพทก็พอน่ะ เดี๋ยวนิษกับพี่พงษ์จะไปทานกันข้างนอกเอาเลย” นิษฐาจึงเอ่ยบอกแม่บ้านกลับไป แล้วเดินออกมาข้างนอกมันที วันนี้พัฒน์พงษ์มีธุระที่จะต้องไปกะทันหันจึงพาภรรยาอย่างนิษฐาไปด้วย เพราะลูกชายคนโตไปต่างจังหวัด พัฒน์พงษ์จึงจัดการงานที่บริษัทแทนไปก่อน และไม่รู้ว่าจะกลับมาวันไหนและหลานชายกลับมาจากโรงเรียนก็ต้องเป็นหน้าที่พิมพาผู้เป็นยายที่ต้องดูแลต่อ โดยมีไม้เอกลูกน้องคนสนิทของเจ้าของบ้าน ทำหน้าที่ขับรถให้แทน ทุกวันนี้พัฒน์พงษ์จะขับรถเองสะส่วนใหญ่ เพราะไม่ค่อยได้ออกไปไหนตั้งแต่ที่มีหลานชายเข้ามา“เป็นอะไรของคุณอีกคุณนิษ แ
พี่ข้างบ้านผู้หวังดี Night Club ร่างอรชรของหญิงสาว โยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะเพลงอย่างเมามันส์ ที่มีแสงไฟวาววับสาดส่องลงมา เพราะเธอเป็นจุดเด่นกว่าใครเป็นไหน ๆ“ใครว่ะ หุ่นเด็ดมากเลย” นำทัพ ชายหนุ่มที่มาท่องราตรีในค่ำคืนนี้ ถามคนที่เอานั่งกระดกแก้วเครื่องดื่มอยู่แต่ไม่ยอมเอ่ยอะไรสักคำตั้งแต่ที่เขาชวนมา“คนไหนของมึงอีกวะ” สิบทิศ ชายหนุ่มวัย 35 ปี ถามขึ้นมาทันที ที่ถูกเพื่อนถาม เพราะไอ้นี่มันเสือผู้หญิงอยู่แล้ว ร้อยวันพันปีไม่เคยชวนเขามา จะแอบทำแอบเที่ยวคนเดียวตลอด แต่วันนี้กลับมาบังคับเขาให้มาเป็นเพื่อน และเขาก็ไม่ค่อยอยากมาเอาเสียเลย แต่เพราะตวามเป็นเพื่อนกันมาหลายปี เลยต้องยอมมันหน่อย“ชุดแดงนั่นไง แม่งน่าฟัดฉิบหาย” นำทัพใช้สายตาชี้ทางบอกสิบทิศที่นั่งไม่ค่อยสบอารมณ์อยู่อย่างเซ็ง ๆ“เหี้ยยย...” สิบทิศสบถออกมา เครื่องดื่มสีอำพรางที่กำลังดื่มเข้าไปแทบจะพุ่งออกมา เมื่อรู้ว่าคนที่เพื่อนหมายตานั้นคือใคร“อะไรของมึง หรือว่ามึงเคยล่อมาแล้ว” นำทัพถามกลับไปทันที เมื่อเห็นอาการพิรุธของสิบทิศออก เพราะถามเพื่อความแน่ใจ เพราะพวกเขาจะไม่ใช้ผู้หญิงคนเดียวกันเด็ดขาด ถึงแม้จะถูกตาต้องใจมากขนาดไหน“เ