Share

พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน
พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน
Penulis: กะปอมพ่นไฟ

บทนำ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-19 15:59:27

บทนำ

ณ แดนเหนือของแคว้นหวง

ภายในตำหนักรับรองอันหรูหราของวังชินอ๋อง สตรีนางหนึ่งผู้มีใบหน้างดงามอ่อนหวานทว่ากลับแฝงความเอาแต่ใจกอดปลอบมารดาด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยายออกมาได้ นางในชุดเจ้าสาวมงคลสีแดงสดอันหรูหรางดงามผละออกจากอ้อมกอดของมารดา ก่อนจะคุกเข่าตรงหน้าของบิดามารดาเพื่อเป็นการอำลาในการจากลาครั้งนี้

"ลูกขอทูลลาเสด็จพ่อและเสด็จแม่เพคะ การจากลาครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะได้พบกันอีกเมื่อไหร่ ขอเสด็จพ่อกับเสด็จแม่รักษาพระวรกายด้วยเพคะ" น้ำตาแห่งความเสียใจที่ต้องพัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รักไหลปริ่มลงมาไม่ขาดสาย

'ท่านหญิงหวงไป๋เฟิ่ง' บุตรีคนเล็กของ 'ชินอ๋องหวงซือเหวิน' กับ 'พระชายาหวังลี่จู' ได้โขกศีรษะลงตรงหน้าของทั้งสองพระองค์ด้วยหัวใจที่แสนเจ็บปวด นางไม่อยากไปจากแดนเหนือแห่งนี้เลย ทว่ามิอาจทำเช่นนั้นได้

"เฟิ่งเอ๋อร์ของแม่ เจ้าไปอยู่ที่ตระกูลหลี่จะปลอดภัยจากคนพาลผู้นั้น อย่างน้อยการแต่งงานกับอาซานก็จะทำให้เจ้าใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ท่านป้าเสี่ยวชิงกับท่านลุงหงจิ้นจะเป็นผู้คอยดูแลเจ้าเอง แม่ขอให้เจ้าเดินทางอย่างปลอดภัย และมีความสุขกับการแต่งงานในครั้งนี้ อาซานเป็นคนดีจะต้องดูแลเจ้าได้อย่างแน่นอน" 

หวังลี่จูเข้าไปพยุงบุตรสาวให้ลุกขึ้นยืน นางยืนซับน้ำตาโดยมีชินอ๋องกอดประคองไม่ได้ห่าง

"พ่อเขียนจดหมายกำชับไปกับท่านลุงหงจิ้นแล้ว หากเจ้ามีเรื่องคับข้องใจให้รีบบอกท่านลุงของเจ้าเสีย อย่าได้เก็บงำจนตัวเองต้องเจ็บปวดใจ จงจำเอาไว้ว่าเจ้าคือท่านหญิงแห่งวังชินอ๋อง มีสายเลือดของราชวงศ์หวง ผู้ใดก็มิอาจมาดูแคลนหรือทำให้เจ้าต้องรู้สึกไม่เป็นธรรมได้" 

หวงซือเหวินเอ่ยเสียงเข้ม เขาพยายามที่จะกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา การต้องแยกจากบุตรีอันเป็นที่รักนั้นทำให้เขาเจ็บปวดใจเหลือเกิน

"หากมีคนในเมืองหลวงกล้ารังแกเจ้าก็รีบเขียนจดหมายมาหาพี่ พี่จะรีบลงไปจัดการให้เจ้าด้วยตัวเอง จำไว้นะเฟิ่งเอ๋อร์ว่าพวกเราทุกคนล้วนเป็นห่วงและรักเจ้า เจ้าคือแก้วตาดวงใจของแดนเหนือ ไม่ว่าใครก็มาทำให้เจ้าเสียใจไม่ได้ โดยเฉพาะเหวินซานนั่น ถ้าเขากล้าทำให้เฟิ่งเอ๋อร์ของพี่ต้องเสียน้ำตา พี่จะลงไปถลกหนังหัวเขาทันที" 

'หวงจินหมิง' ซื่อจื่อผู้มีท่าทางห้าวหาญดุดันมิแพ้บิดา เขาเป็นนักรบที่เก่งกาจไม่แพ้ชินอ๋องเลย และตัวเขาเองยังรักน้องสาวมากที่สุด ตั้งแต่เล็กจนโตเขาไม่เคยยอมให้คนที่มาทำร้ายน้องสาวได้รอดออกไปเป็นอันขาด ในวัยเด็กเขายังเคยคว้ากระบี่วิ่งไล่ฟันคนเพียงเพราะมาว่าน้องสาวเขาว่าอ้วน และคนผู้นั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นว่าที่เจ้าบ่าวของน้องสาวเขานั่นเอง

"เฟิ่งเอ๋อร์จะจดจำเอาไว้ให้ขึ้นใจเพคะ การจากลาครั้งนี้เพียงแค่ลาเพื่อหลีกหนีภัยร้ายเท่านั้น ในภายภาคหน้าจะต้องได้พบกันอีกครั้งอย่างแน่นอน เฟิ่งเอ๋อร์ขอลาทุกคนเพคะ"

หวงไป๋เฟิ่งโค้งศีรษะลงอีกครั้ง ก่อนที่นางจะเดินออกไปนั่งบนเกี้ยวเจ้าสาวแปดคนหามด้วยความเข้มแข็ง น้ำตาที่ไหลในครั้งนี้ได้เหือดแห้งลงแล้ว คงเหลือไว้แต่เพียงความคะนึงหาสุดหัวใจต่อบุคคลอันเป็นที่รัก... 

เจ้าสาวในชุดมงคลสีแดงถูกประคองขึ้นเกี้ยวอย่างสมพระเกียรติ โดยมีซื่อจื่อแห่งวังชินอ๋องเป็นผู้พาเจ้าสาวขึ้นเกี้ยว เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ขบวนเจ้าสาวจึงได้เคลื่อนออกจากวังชินอ๋องแห่งแดนเหนือเพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงแคว้นหวง!

การเดินทางครั้งนี้ทั้งไกลและยาวนานยิ่งนัก จากแดนเหนือสู่เมืองหลวงระยะทางนับพันลี้ เมื่อเกี้ยวเจ้าสาวออกจากประตูเมืองจึงถูกเปลี่ยนเป็นรถม้าเพื่อให้ง่ายต่อการเดินทาง ผู้คุ้มกันของขบวนเกี้ยวเจ้าสาวคือคนสนิทของชินอ๋อง เขาถูกส่งตัวเพื่อมาอารักขาท่านหญิงแห่งวังชินอ๋อง

'หย่งคัง' องครักษ์คนสนิทที่เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งของหวงไป๋เฟิ่ง เขาคอยดูแลนางตั้งแต่วัยเยาว์จวบจนเติบใหญ่จนได้แต่งงาน เขาคือคนที่ภักดีกับนางด้วยชีวิตเป็นท่านอาหย่งคังที่รักนางเสมือนหลานสาวผู้หนึ่ง

"ท่านอาหย่งคัง อีกนานหรือไม่เจ้าคะกว่าจะถึงเมืองหลวง" 

หวงไป๋เฟิ่งเปิดผ้าม่านรถม้าแล้วยื่นหน้าออกมาถามด้วยความสงสัย นับจากเดินทางออกมาจากแดนเหนือ นี่ก็เข้าสู่เดือนที่สองแล้วที่นางต้องทนนั่งรถม้าจนขบเมื่อยไปหมด รู้สึกไม่สบายตัวเสียเลย

"อีกสามวันจะเข้าสู่ประตูเมืองหลวงแล้วขอรับ หากท่านหญิงรู้สึกไม่สบายตัวจะขี่ม้าก็ได้นะขอรับ" 

หย่งคังเอ่ยขึ้นอย่างใจดี เขารู้ดีว่าท่านหญิงของเขานั้นเป็นสตรีที่มิชอบอยู่ในที่คับแคบ นางชอบการได้โลดโผนอย่างอิสระมากกว่า

"ได้หรือเจ้าคะ เช่นนั้นข้าขอขี่ม้าเล่นจะดีกว่า อยู่แต่บนรถม้าเมื่อยไปหมดแล้ว" 

"ทำเช่นนั้นจะไม่งามนะเจ้าคะท่านหญิง"

'ชุนหลัน' สาวใช้ข้างกายที่อายุมากกว่าท่านหญิง 3 ปีเอ่ยขัดขึ้น นางได้รับการอบรมอย่างเข้มงวดจากหัวหน้าสาวใช้ให้ดูแลท่านหญิงให้ดีที่สุด

"ผู้ใดสนกันเล่า อีกตั้งนานกว่าจะถึงเมืองหลวงขอข้าได้ทำอย่างที่ใจอยากทำก่อนเถิด หากเข้าสู่จวนตระกูลหลี่แล้วข้าจะเชื่อฟังชุนหลันทุกประการเลย" 

ดวงหน้างามหันมายกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะรีบกระโดดลงมาจากรถม้าที่จอดนิ่งสนิท แล้วเดินไปยังม้าตัวโปรดที่คนของหย่งคังจูงเข้ามา 

"ท่านหญิงหลอกบ่าวอีกแล้วนะเจ้าคะ" 

ชุนหลันทอดถอนใจ แต่กระนั้นนางก็ไม่ได้เอ่ยห้ามปรามอีก อย่างน้อยให้ท่านหญิงได้ยิ้มกว้างออกมาเช่นนี้จะดีที่สุด มิรู้ว่าในเมืองหลวงและจวนตระกูลหลี่จะยินดีต้อนรับท่านหญิงของนางมากเพียงใด ภายในใจลึก ๆ ของชุนหลันรู้สึกไม่สงบนัก ตาข้างขวาก็กระตุกถี่ยิบเหลือเกิน

"ข้าคือท่านหญิงย่อมไม่กล่าวคำปดอยู่แล้ว คิกคิก"

หวงไป๋เฟิ่งหันมายิ้มแป้นแล้วกระตุกบังเหียนม้าพุ่งทะยานไปด้านหน้าด้วยความรวดเร็ว สายลมไหวพัดโบกสะพัดเส้นผมอันดำขลับให้ปลิวไปทางด้านหลัง ใบหน้างดงามเชิดหน้าขึ้นยิ้มรับสายลมแห่งความอิสระเสรีด้วยความพึงพอใจ นี่สิคือสิ่งที่นางโหยหาและต้องการมาตลอด... อิสระ!

ขบวนเจ้าสาวได้เคลื่อนเข้าสู่ในเมืองหลวงเมื่อเจ็ดวันก่อน หย่งคังได้พาทั้งหมดไปพักยังจวนชินอ๋องในเมืองหลวง โดยที่จวนชินอ๋องมีขันทีคนสนิทที่คอยดูแลจวนออกมารับรองทุกคนเป็นอย่างดี หลังจากหวงไป๋เฟิ่งพักผ่อนราวเจ็ดวัน นางก็ได้เข้าสู่พิธีมงคลสมรสกับเจ้าบ่าวที่จวนตระกูลหลี่อย่างยิ่งใหญ่ตระการตา 

แม้ไม่มีบิดาและมารดา รวมถึงพี่ชายมาแสดงความยินดี ทว่าฮ่องเต้หวงลู่หลงได้ทรงส่งองค์รัชทายาทมาร่วมงานในพิธีมงคลนี้ด้วย เพื่อแสดงให้เห็นว่าท่านหญิงหวงไป๋เฟิ่งมีพระองค์คอยหนุนหลัง

ห้องหอ

สตรีผู้งดงามในอาภรณ์สีแดงมงคลนั่งมองภาพสะท้อนในคันฉ่องด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด หัวใจของนางเต้นระรัวเมื่อคิดว่าอีกไม่กี่ชั่วยามข้างหน้านางจะกลายเป็นสตรีที่มีพันธะเสียแล้ว

"ท่านหญิงทรงกังวลหรือเจ้าคะ" 

ชุนหลันเอ่ยถามขณะเดินไปรินน้ำชาและนำขนมที่แอบไว้ในแขนเสื้อมาให้ท่านหญิงทานรองท้อง 

"ทั้งใช่และไม่ใช่ ข้ารู้ดีว่าคนในตระกูลหลี่จะต้อนรับข้าเป็นอย่างดี ทว่า... ข้าไม่รู้ว่าเขาจะคิดอย่างไรกับการแต่งงานครั้งนี้"

"ท่านหญิงกังวลเรื่องท่านแม่ทัพน้อยนั่นเอง บ่าวได้ยินมาว่าท่านแม่ทัพน้อยรูปงามและเก่งกาจเป็นอย่างมาก ทั้งยังมีคุณธรรมเป็นที่สุด ท่านหญิงแต่งกับเขาจะต้องมีความสุขอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ"

"เช่นนั้นหรือ... แต่ข้ากลับคิดว่ามันไม่ได้ง่ายดายอย่างนั้นหรอกชุนหลัน เขาสูญเสียคนรักไปเมื่อสองปีก่อนก็ไม่เคยชายตามองสตรีอื่นหรือคิดจะแต่งงานเลย ถ้าไม่ใช่เพราะเสด็จแม่เขียนจดหมายเอ่ยถึงคำสัญญาที่ท่านป้าเคยให้ไว้อย่างไม่จริงจังนัก เขากับข้าก็คงไม่ได้แต่งงานกัน"

"เรื่องนี้..." ชุนหลันเอ่ยคำใดไม่ออก 

"ช่างเถอะ อะไรจะเกิดก็ให้เกิด ขอแค่เขาให้เกียรติข้าไม่ทำให้ข้าต้องเจ็บปวดใจแค่นี้ก็ดีมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องรักกันก็ได้ เพียงแค่..." ข้าอยากมีความรักที่มั่นคงเหมือนกับเสด็จพ่อและเสด็จแม่ก็เท่านั้นเอง

ประโยคหลังหวงไป๋เฟิ่งไม่ได้เอ่ยออกไป ภายในมือกำพัดที่นางเก็บรักษาไว้อย่างดีกว่า 10 ปีแน่น เขาจะจำได้หรือไม่ว่าเคยพูดสิ่งใดกับนางไว้บ้าง 

หวงไป๋เฟิ่งครุ่นคิดอยู่ในใจของตนเอง ขณะนั้นเองบานประตูก็ได้ถูกเปิดออกมาพร้อมกับเงาร่างอันสูงใหญ่ของบุรุษเดินเข้ามาภายในห้องหอ เขาก้าวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเจ้าสาวที่ผ้าผืนบางสีแดงปิดคลุมหน้าเอาไว้ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

"คุณหนู บ่าวขอตัวก่อนนะเจ้าคะ"

ชุนหลันรีบค้อมกายแล้วเดินออกไปจากห้องหอทันที เวลานี้ถึงคราวที่คู่บ่าวสาวจะได้มีช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกันแล้ว ส่วนนางที่เป็นสาวใช้ก็ออกมายืนรออยู่ด้านนอก  

"ท่านหญิงไป๋เฟิ่ง" น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเรียกสตรีตรงหน้า กลิ่นสุราอบอวลไปทั่วร่างกายของเขาชวนให้รู้สึกมึนเมาไปด้วย

"ท่านแม่ทัพน้อยหลี่" นางเอ่ยตอบเสียงเบา 

"ฟังดูเหินห่างมิน้อย ไม่ได้เจอกัน 10 กว่าปีท่านหญิงคงสบายดีใช่หรือไม่" 

"ไม่อาจกล่าวว่าสบายดี แต่ก็ไม่ได้ทุกข์นักเจ้าค่ะ" หวงไป๋เฟิ่งเอ่ยตอบ

'หลี่เหวินซาน' แม่ทัพน้อยผู้กุมทหารกว่าหนึ่งแสนนายเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ เขาหยิบไม้คันชั่งขึ้นมาเปิดผ้าคลุมหน้าของเจ้าสาว ทันทีที่เขาได้เห็นใบหน้าของท่านหญิงหวงไป๋เฟิ่ง ลมหายใจของบุรุษพลันหยุดชะงักไปชั่วครู่ เขากะพริบตาปริบ ๆ เพื่อดูให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดไป เนื่องจากภาพตรงหน้าของเขาคือสตรีที่มีรูปโฉมงดงามจนสามารถกล่าวว่างามล่มเมืองได้

นางมีใบหน้าเรียวรูปไข่ คิ้วเรียวยาวดั่งคันศรเรียงเส้นสวย ขนตาดำยาวงามงอนรับกับดวงตากลมโตที่ใสกระจ่างดั่งดวงดาราบนฟ้า จมูกโด่งเชิดขึ้นบ่งบอกว่านางเจ้าอารมณ์มิใช่น้อย ไล่ลงมาที่ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อดั่งผลผิงกั่วชวนให้ลำคอรู้สึกแห้งผาก กอปรกับผิวกายขาวเนียนละเอียดราวกับไข่มุกน้ำงาม ยิ่งนางใส่อาภรณ์สีแดงมงคลยิ่งขับเน้นผิวกายของนางให้ดูสว่างไสวจนดวงตาของเขาพร่ามัว

นี่น่ะหรือคือท่านหญิงน้อยที่ตัวอ้วนกลมดั่งซาลาเปาเดินได้เมื่อ 10 กว่าปีก่อน?

นางเปลี่ยนไปราวกับคนละคนจนเขาตั้งตัวแทบไม่ทัน ใจบุรุษพลันสั่นไหวขึ้นมาชั่วครู่ก่อนจะเลือนหายไปในทันทีี

นางงดงามมากเสียจนเขาทำตัวไม่ถูกเลย นี่ไม่ถูกต้อง!!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน   ตอนพิเศษ 2 ท่านพ่อข้าอยากได้น้อง

    ตอนพิเศษ 2ท่านพ่อข้าอยากได้น้องครอบครัวของหลี่เพ่ยจูได้เดินทางกลับสู่แดนใต้หลังจากมาอยู่ที่เมืองหลวงหลายเดือนแล้ว โม่ลี่อินที่ชอบหลี่เฟยหนี่ว์มากร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร เด็กน้อยไม่อยากกลับบ้านเสียแล้ว อยากจะอยู่เล่นกับน้องน้อยที่นี่"ฮือ ๆ ข้าไม่ยั่กกับ ข้ายั่กเล่นกับน้อล ฮือ ๆ" โม่ลี่อินร้องไห้จ้าไม่ยอมขึ้นรถม้าไปกับบิดาและมารดา นางยืนกอดป้าสะใภ้ที่อุ้มหลี่เฟยหนี่ว์อย่างน่าสงสาร เด็กน้อยไม่อยากจากไปไหนเลย"โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะอินเอ๋อร์ อีกไม่นานเราก็จะกลับมาที่นี่อีก ทว่าตอนนี้เราต้องกลับบ้านเสียก่อนนะ" หลี่เพ่ยจูพยายามหลอกล่อบุตรสาว "ไม่ ๆ อินเอ๋อร์ไม่ยั่กรอ อีกนานกว่าจะมาที่นี่ ฮือ ๆ""แต่ว่าอินเอ๋อร์จะต้องรีบกลับไปเตรียมห้องนอนให้น้องแล้วนะ ถ้าหากเรายังอยู่ที่นี่น้องของอินเอ๋อร์ก็จะไม่มีห้องนอนของตัวเองนะ" โม่ลู่หลิ่งก้มหน้าลงไปหาบุตรสาว เมื่อได้ยินเช่นนั้นโม่ลี่อินพลันตาโตแล้วหันไปมองมารดาทันทีด้วยความคาดหวัง"น้อลของอินเอ๋อร์หรือ ทั่นแม่มีน้อลแล้วหรือ""ใช่แล้ว ในท้องของแม่มีน้องของอินเอ๋อร์แล้วนะ" หลี่เพ่ยจูคลี่ยิ้มหวาน นางก้มตัวลงไปหาบุตรสาวด้วยรอยยิ้มกว้างเช่นเดียวกับสามีท

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน   ตอนพิเศษ 1 หลี่เฟยหนี่ว์

    ตอนพิเศษ 1หลี่เฟยหนี่ว์หวงไป๋เฟิ่งที่เพิ่งคลอดบุตรสาวจำต้องอยู่ไฟเพื่อให้ร่างกายของนางปรับสมดุล ดังนั้นแล้วหลี่เหวินซานที่เป็นห่วงบุตรสาวมากจึงได้ทูลลาราชการกับฮ่องเต้เป็นเวลาหนึ่งเดือน โดยเขาจะใช้ช่วงเวลานี้ดูแลบุตรสาวที่ยังเล็กและภรรยาที่ยังคงอ่อนแอ ฮ่องเต้หวงลู่หลงเห็นแก่ความดีความชอบของเขาจึงได้ทรงอนุญาตนามของบุตรสาวผู้นี้เป็นหลี่เหวินซานกับหวงไป๋เฟิ่งที่ช่วยกันตั้ง โดยพวกเขาให้ชื่อบุตรสาวคนแรกว่า 'เฟยหนี่ว์' อันหมายถึงหญิงสาวแห่งการโบยบิน เพราะหวงไป๋เฟิ่งนั้นต้องการให้บุตรสาวของนางมีอิสระในการใช้ชีวิต โบยบินไปสู่โลกกว้างด้วยใจของนางเอง"พี่ใหญ่ได้เวลาป้อนนมหนี่ว์เอ๋อร์แล้วเจ้าค่ะ" หลี่ฉิงเซียวเดินเข้ามาในห้องด้านข้างที่อยู่ติดกับห้องของหวงไป๋เฟิ่ง ในตอนนี้นางได้ทำหน้าที่คอยดูแลพี่สะใภ้และเป็นดั่งพี่เลี้ยงให้กับหลานสาวด้วย"พี่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้หนี่ว์เอ๋อร์ก่อน" หลี่เหวินซานตอบกลับมาโดยที่มือคู่นี้ที่เอาแต่จับดาบฆ่าฟันศัตรูกำลังสาละวนกับการผูกผ้าอ้อมให้กับบุตรสาว ตั้งแต่ลางานมาเขาก็คอยดูแลบุตรสาวมิได้ห่าง ทั้งอาบน้ำ เช็ดอึ เช็ดฉี่ เปลี่ยนผ้าอ้อม แล้วยังกล่อมนางนอนบนอกของเขาด้ว

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน   บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย แดนเหนือหลี่เหวินซานใช้เวลาเดินทัพเพียงหนึ่งเดือนกว่าก็มาถึงยังแดนเหนือ ทันทีที่เขามาถึงก็เข้าพบชินอ๋องเพื่อปรึกษาเรื่องการรบ การพบหน้าของพวกเขาครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในฐานะพ่อตาและบุตรเขย ก่อนหน้านี้ทั้งสองเคยพบหน้ากันมาแล้ว ทว่านั่นก็ผ่านมาหลายปีแล้วเช่นกัน"ข้าจะลอบไปทางภูเขาด้านนี้เพื่อตีชายแดนของพวกมันให้แตกราบคาบ ส่วนเจ้าก็อ้อมไปอีกทางตลบหลังพวกมันเสีย" หวงซือเหวินชี้มือไปตามแผนที่ที่กางอยู่บนโต๊ะ"แต่กระหม่อมคิดว่านี่จะเสี่ยงเกินไป ทั้งยังทำให้เสียไพร่พลไปเป็นจำนวนมากด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ""เช่นนั้นเจ้าคิดว่าจะทำเช่นไรเล่า" หวงจินหมิงเอ่ยถาม"กระหม่อมคิดว่าจะแบ่งกำลังทหารออกเป็นสี่ส่วน โดยจะต้องมีพลธนูไปด้วย เราจะใช้ธนูไฟเป็นโล่ในการบุกโจมตี แล้วจึงค่อยตีขนาบข้างเพื่อเลี่ยงความสูญเสียของฝั่งเราให้มากที่สุด อีกทั้งแคว้นอู๋นั้นชำนาญเรื่องการสู้รบบนที่ราบมากกว่าเรา กระหม่อมคิดว่าจะใช้ทหารเขี้ยวพยัคฆ์ที่ชำนาญด้านนี้เป็นทัพหน้าเพื่อประจัญบานกับพวกมัน ส่วนทหารของแดนเหนือที่เก่งเรื่องสู้รบบนที่สูงและชำนาญเส้นทางมากกว่าให้เป็นทัพหลัง คอยสนับสนุนจากบนที่สูงจะดีว่าพ่ะย่ะค่ะ" "อืม.

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน   บทที่ 34 ชดใช้

    บทที่ 34ชดใช้"คุณหนูเอ่ยแค่นั้นก็เอามีดสั้นกรีดข้อมือเพื่อจบชีวิตลง ข้าตกใจมากจนทำสิ่งใดไม่ถูก คนที่คอยเฝ้าพวกเรารีบเข้ามาช่วยแล้วแต่ก็ไร้ผล คุณหนูได้จากไปด้วยความแค้นใจ...""มิใช่... นางจากไปเพราะยอมรับในชะตาของตนเอง นั่นมิใช่ความแค้นแต่เป็นการยอมรับและปลงในโชคชะตาของตัวเองต่างหากเล่า!" หวงไป๋เฟิ่งแก้ต่าง การกระทำของชุนอวิ๋นทั้งกล้าหาญและโง่เขลาในคราวเดียวกัน ถ้านางบอกความจริงกับท่านพี่เหวินซาน นางอาจจะไม่ต้องมาแบกรับเรื่องนี้เพียงผู้เดียว แต่ว่าตัวนางเองก็ไม่ได้ยืนอยู่ในจุดของชุนอวิ๋น บางทีชุนอวิ๋นอาจมีเรื่องราวมากมายที่ไม่มีผู้ใดรู้ก็เป็นได้ "ฮือ ๆ คุณหนูของข้ามิควรมาตายเช่นนี้เลย ถ้าท่านมาตามสัญญาจะต้องช่วยนางได้อย่างแน่นอน" ฟางหรูเอ่ยโทษหลี่เหวินซาน"วันนั้นข้าถูกดึงตัวไปปราบโจรจึงมิได้ไปพบนางตามที่สัญญาไว้ ด้วยข้าคิดว่าอีกไม่นานนางก็จะกลับมา..." หลี่เหวินซานที่รู้สาเหตุการตายของชุนอวิ๋นรู้สึกปวดใจยิ่งนัก ตัวเขาไม่เคยรับรู้ถึงความหนักใจของนางเลย"ฮือ ๆ เพราะท่านคนเดียวที่ทำให้คุณหนูของข้าต้องจบชีวิตของตัวเองลง"ฟางหรูร่ำไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร นางคิดถึงคุณหนูเหลือเกิน... แม้

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน   บทที่ 33 สาเหตุที่แท้จริง

    บทที่ 33สาเหตุที่แท้จริงหลี่เหวินซานมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยอาการสงบ คราแรกเขาก็เตรียมใจมาแล้วว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเป็นแน่ แต่ก็ไม่คิดว่าเรื่องในจวนตระกูลชุนจะร้ายแรงถึงเพียงนี้ "กุมตัวไปขังคุกหลวงทั้งหมด ยกเว้นนาง" เขาเอ่ยสั่งการเสียงเข้มก่อนจะชี้มือไปยังฟางหรู จินเกอที่ติดตามมาด้วยได้เข้ามาควบคุมตัวฟางหรูเพื่อพาไปสืบสวนต่อไป เรื่องของนางนั้นมีเบื้องลึกเบื้องหลังไม่ธรรมดาเลยค่ายทหารเขี้ยวพยัคฆ์ฟางหรูถูกนำตัวมาขังยังคุกของค่ายทหารเขี้ยวพยัคฆ์ มือเท้าของนางถูกตรึงด้วยโซ่ตรวนที่ยากจะหลบหนีออกไปได้ ห้องขังนี้เป็นห้องขังเดี่ยวที่มีไว้สำหรับนักโทษสำคัญ หลังจากหลี่เหวินซานเข้าไปรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้แล้ว เขาก็ได้มาหาฟางหรูเพื่อไต่สวนนางต่อไป ยังคงมีเรื่องของชุนอวิ๋นที่เขายังไม่รู้ รวมถึงการตายที่แท้จริงของนาง ด้วยตอนนี้ชุนฮูหยินได้เสียสติจนมิอาจให้การอะไรได้อีกแล้ว"เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วยสินะฟางหรูที่สวมรอยอวิ๋นเอ๋อร์" ใบหน้าคมเข้มตวัดสายตามองอดีตสาวใช้ข้างกายของชุนอวิ๋น มิน่าเล่านางถึงได้เลียนแบบชุนอวิ๋นอย่างไร้ที่ติ ทั้งยังรับรู้เรื่องราวข

  • พ่ายรักฮูหยินตัวป่วน    บทที่ 32 ปิดจบเรื่องนี้

    บทที่ 32ปิดจบเรื่องนี้หลี่เหวินซานมองทุกคนไปมา ก่อนจะรู้สึกตัวว่าเป็นเขาที่ไม่รู้อะไรเลย ทุกคนต่างร่วมกันแสดงงิ้วฉากใหญ่นี้ขึ้นมา โดยที่ไม่คิดว่าตัวเขานั้นจะรู้สึกเจ็บปวดใจเช่นไร ทั้งที่สามารถบอกเขาก่อนได้"ท่านพี่คงกำลังคิดว่าเหตุใดพวกเราถึงไม่บอกท่านใช่หรือไม่ ดังเช่นที่ท่านพี่ไม่บอกข้าว่ากำลังทำอะไรอยู่ ปล่อยให้ข้านอนร้องไห้หลังจากกลับจากโรงเตี๊ยม ถ้าไม่ใช่เพราะอาเฟิงแอบมาบอกว่าทุกอย่างที่ท่านพี่ทำลงไปเพื่อสืบหาตัวจริงของชุนอวิ๋น ข้าคงได้เป็นบ้าตายและทำเรื่องไม่ยั้งคิดไปเสียแล้ว" หวงไป๋เฟิ่งยังคงรู้สึกน้อยใจสามีในเรื่องนี้ นางยังเสียใจที่เขาเข้าข้างชุนอวิ๋นและดูเป็นห่วงอีกฝ่ายมากเรื่องเกิน"เรื่องนั้น... พี่ทำไปเพราะต้องการกันเจ้าให้ออกห่างจากเรื่องนี้ มันอันตรายมากนะเฟิ่งเอ๋อร์ ชุนอวิ๋นผู้นั้นเป็นใครก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่านางมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ และเหตุใดนางถึงได้สวมรอยได้เหมือนกับชุนอวิ๋นตัวจริงยิ่งนัก เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวพันแค่เพียงพวกเราแต่ยังเกี่ยวข้องกับบ้านเมืองด้วย""ข้ารู้ว่าท่านพี่เป็นห่วงข้า แต่เราเป็นสามีภรรยากันก็มิควรมีเรื่องปิดบังกันมิใช่หรือเจ้าคะ วันนั้นท่านพี่ก็

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status