“ฮ่าๆ เก่งกาจถึงเพียงนี้ หากไร้ประโยชน์ ในเมื่อบ้านเมืองของเจ้ากำลังจะล่มสลาย” มู่ชิงซานไม่คิดขู่สตรี เขาเพียงแต่เอ่ยความจริงเพื่อให้พวกนางเข้มแข็ง ดีเท่าไรแล้วที่มาพบกับเขา มิใช่พวกเผ่าคนเถื่อนที่นอกด่านหากพบเห็นสตรีเช่นนี้ ทั้งสามนางคงไม่แคล้วถูกย่ำยีราวกับเป็นหญิงจากหอนางโลม
“ท่านอ๋อง ให้ข้าได้ปรนนิบัติท่านก่อนเถิด” จางหลิงเวยซึ่งเป็นลูกของพ่อค้าเอ่ย นางสืบเท้าเข้ามาหาชายหนุ่ม ท่าทางนางเป็นกุลสตรี แต่ก็ชวนให้เขารู้สึกเร่าร้อนจนเป้ากางเกงพองขยาย
“เจ้ามีแซ่อันใด”
“ผู้น้อยแซ่จาง นามว่าหลิงเวย”
ชายหนุ่มทำเสียงคำรามในลำคอ เขาชมชอบความงามเพราะเป็นสิ่งที่สตรีพึงมี ทว่าหลายปีมานี้ไม่ได้ตบแต่งพระชายา ด้วยยังไม่ถูกใจใครเป็นพิเศษ อีกทั้งไอสังหารรุนแรงที่อยู่ในร่างกายเขาอาจทำให้ธาตุไฟแตกได้ง่ายๆหลายปีที่ผ่านมาจึงติดตามหาคนผู้หนึ่งที่จะมาช่วยทำให้เขาควบคุมสิ่งที่อยู่ในร่างกายให้เป็นปกติ กระนั้นของสวยงามริมทางเขาก็เชยชมมิขาด ด้วยมันช่วยทำให้เลือดลมสูบฉีด ลดอาการงุ่นง่าน
“หากเจ้าแน่ใจที่จะรับใช้ข้า จงรีบปรนนิบัติเสีย”
แม้จะทำใจดีสู้เสือ แต่จางหลิงเวยยังอดกลัวมิได้ นางค่อยๆ ถอดเสื้อคลุมตัวนอกของเขาออก แล้วบีบนวดเนื้อตัวเขาอย่างออเซาะ
“เชิญชินอ๋องที่ตั่งไม้ดีหรือไม่”
“เสียเวลา ข้าเพียงอยากชิมเต้าหู้ของเจ้า เปลื้องผ้าออก!” เขาสั่งเสียงเฉียบขาด ทำให้นางมิอาจขัดขืน
มือของจางหลิงเวยสั่น ขอบตานางแดงระเรื่อ ทั้งคับแค้นใจและรู้สึกอดสู กระนั้นด้วยความที่สมัครใจมาทำภารกิจนี้เพื่อบ้านเมือง นางจึงเก็บความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้และทำตามที่มู่ชิงซานต้องการ ทว่าไม่ทันที่นางจะเผยดอกบัวคู่งามให้เขาได้ลิ้มรสหอมหวาน เสียงหยวนซางก็ดังขึ้น
“ท่านอ๋อง เกิดเหตุร้ายแล้ว ข้าต้องพบท่านโดยด่วน”
ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึก จากนั้นจึงสั่งให้หญิงสาวทั้งสามออกไปให้พ้นๆ หน้าเขาเสีย
อึดใจต่อมาหยวนซางก็มายืนเหงื่อท่วมร่างอยู่ตรงหน้ามู่ชิงซาน พร้อมกล่องไม้รูปร่างแปลกตา
“มีผู้นำสารส่งของสิ่งนี้มาให้ท่านอ๋อง”
“ข้าไม่ต้องการเจรจาอันใดกับแคว้นหมิง เหตุใดพวกมันยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจนี้”
หยวนซางถอนหายใจแรงๆ สีหน้าเขาเหมือนจะร้องไห้ก็ไม่ได้ หัวเราะก็ไม่ออก
“โถ ท่านอ๋อง ยามนี้หากจะว่าไปตามตรงเรากำลังเสียเปรียบ ทหารที่ถูกรัชทายาทสับเปลี่ยนไปล้วนมากฝีมือ ส่วนที่อยู่กับเราตอนนี้ครึ่งหนึ่งกำลังป่วยไข้ ซ้ำร้ายยังไม่มีทางรักษาพวกเขาให้หาย ขวัญและกำลังใจทหารย่อมต้องเป็นท่านที่ต้องเรียกกลับคืน”
“นี่เจ้ากำลังออกคำสั่งข้า” มู่ชิงซานถลึงตาใส่หยวนซาง
“หามิได้ หากข้ากระทำเช่นนั้น มิแคล้วหัวคงได้หลุดจากบ่า”
“ฉะนั้นยังนับว่าเจ้ายังมีปัญญา แล้วนำกล่องไม้หน้าตาพิลึกเช่นนี้มาให้เพื่อการใด” มู่ชิงซานมองไปยังสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ข้าไม่แน่ใจว่าคนของแคว้นหมิงต้องการสิ่งใด นอกจากป้ายหยกของจวิ้นอ๋องที่ท่านได้รับ สิ่งที่อยู่ในกล่องนี้คงสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งอาจเป็นการข่มขู่”
“ข่มขู่!” มู่ชิงซานนึกว่าตนหูฝาด แผ่นดินเล็กๆ และยังมีผู้ปกครองที่อ่อนแอไฉนกล้าคิดทำการใหญ่เช่นนั้น
“ท่านอ๋อง อาจเป็นไปได้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเราประมาทเกินไป”หยวนซางกล่าวด้วยเสียงเหมือนคนใกล้หมดแรง ก่อนที่เขาจะเปิดกล่องดังกล่าว และมันทำให้โทสะของมู่ชิงซานปะทุ เส้นเลือดที่ขมับเต้นแรง ร่างกายร้อนจัดจนแทบจะระเบิด
“นิ้ว!” หยวนซางแข้งขาอ่อน เขาทรุดลงไปกองบนพื้น
“ใครมันบังอาจล้อเล่นกับข้าเช่นนี้” มู่ชิงซานตวาดเสียงดัง ดวงตาคมกริบจ้องเขม็งที่นิ้วชี้ในกล่องไม้ ซึ่งสวมแหวนหยกแกะสลักลายมังกรและชื่อของมู่หรูซื่อ
หยวนซางหวิดเป็นลมในขณะนั้น แต่เขาฝืนประคองสติของตนไว้และเอ่ยว่า “ข้าเกรงว่าตอนนี้จวิ้นอ๋องคงตกอยู่ในอันตราย และฟ้าดินกำลังลงโทษเรา!”
มู่ชิงซานกำหมัดแน่น ใจห่วงน้องชาย แต่ความแค้นตอนนี้ก็คือเขาต้องตามหาสตรีที่มอบป้ายหยกประจำตัวมู่หรูซื่อให้แก่เขาจงได้ สตรีซึ่งมีจมูกประหลาดใหญ่โตแปะอยู่บนใบหน้า
“สวรรค์โปรดเมตตา นาง ย่อมต้องเป็นนาง หญิงอัปลักษณ์จมูกสุกร!!”
ชายหนุ่มพุ่งออกมาจากกระโจมไม่ฟังเสียงทัดทานผู้ใด เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ด้านนอกเกิดความโกลาหล ทหารปลายแถวที่มู่หรูซื่อหลงกลพี่ชายคนโตของพวกเขาสับเปลี่ยนกำลังมาแทน ต่างร่ำร้องหามารดาของพวกมันราวกับเด็กทารกยังไม่หย่านม
“แย่แล้วท่านอ๋อง ทหารเหล่านั้นต่างอยู่ในความหวาดกลัว” หยวนซางไม่อยากรายงานสิ่งใด แต่กลับถูกเหล่าแม่ทัพและนายกองผลักให้เขามาแจ้งข่าว ตอนนี้กลุ่มกำลังทหารที่เป็นคนของมู่จื้อถิงซึ่งดำรงตำแหน่งรัชทายาทแห่งต้าหลางกำลังแข็งข้อ เพราะเมื่อมู่หรูซื่อหายตัวไป พวกเขาก็ถูกเป่าหูว่ามู่ชิงซานสั่งเก็บน้องชายตนเอง!
“ข้าบอกแล้ว หากพวกมันกลัวตาย ก็สั่งให้ขุดหลุมแล้วฝังกลบตนเองเสีย” มู่ชิงซานกล่าวจบจึงกระโดดขึ้นควบม้าคู่ใจและออกไปในจุดที่เขาเคยพบสตรีอัปลักษณ์ เขาเชื่อว่านางกำลังรอคอยเขาอยู่ มันย่อมเป็นแผนของนาง สตรีแคว้นหมิงแผ่นดินเล็กๆ ที่กล้ากระตุกหนวดหมาป่ารัตติกาลอย่างเขา
“ท่านอ๋อง ช้าก่อน แล้วที่นี่ผู้ใดจะนำทัพ” หยวนซางวิ่งตามมาแล้วพุ่งไปขวางหน้าจนเกือบถูกม้าตัวโตเหยียบ
“ข้าจะตามตัวหรูซื่อกลับมา จากนั้นก็ให้เขานำพาทหารปลายแถวกลับต้าหลาง ส่วนคนของข้าให้อยู่ที่นี่ และข้าจะสั่งเผาแคว้นหมิงให้มอดไหม้จนไม่เหลือซาก”
“หากกระทำเช่นนั้น ย่อมเป็นการขัดคำสั่งฮ่องเต้ผู้เป็นบิดาท่าน”
“ฮ่าๆ ตั้งแต่เกิดมามีครั้งไหนที่บิดากล่าวแล้วข้าเชื่อฟัง”
หยวนซางได้ยินเช่นนั้นก็น้ำตาตก เขาจะขัดมู่ชิงซานผู้เป็นเจ้านายที่มีอำนาจเหนือชีวิตได้หรือ
มู่ชิงซานกวาดตามองไปรอบๆ ตัว เขามั่นใจว่าสตรีอัปลักษณ์คงอยู่ไม่ห่างจากที่นี่ นางเหมือนภูตผีซึ่งหลบซ่อนคอยกัดกินซากสัตว์เน่าตายร่างสูงใหญ่ก้าวไปเบื้องหน้าโดยไม่เกรงกลัวใคร กระทั่งหูแว่วได้ยินเสียงน้ำตก ด้วยความที่เมื่อยล้าและอยากล้างเนื้อตัว จึงเปลื้องผ้าหวังชำระร่างกายเมื่อเขาลงสู่ผืนน้ำใส ความสดชื่นทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าหายเครียด แต่พอเงยหน้าขึ้นเขารู้สึกวูบเล็กน้อย อีกทั้งปวดศีรษะอย่างรุนแรงยามนั้นชายหนุ่มคิดถึงความผิดพลาดที่ตนไม่ทันเฉลียวใจแต่แรก ด้วยประมาทว่าแคว้นหมิงอ่อนด้อยหลายอย่าง แต่สุดท้ายเขากลับเดินเข้าสู่กับดัก มู่ชิงซานนึกย้อนถึงป้ายหยกของน้องชายและกล่องไม้ที่มีนิ้วมือมนุษย์ หรือเป็นไปได้ว่าของสองสิ่งนี้ล้วนแอบแฝงด้วยพิษร้ายและตอนนี้มันกำลังเล่นงานเขาหลังจากที่ใช้พลังภายในเพื่อป้องกันตนเองมู่ชิงซานปวดศีรษะรุนแรงกว่าเดิมและมีเลือดไหลออกจากจมูกกับรูหูทั้งสองข้าง อาการหน้ามืดเล่นงานเขาอย่างฉับพลัน แต่เขาพยายามทรงตัวเอาไว้ด้วยได้ยินเสียงฝีเท้าคน แม้ว่าแผ่วเบาแต่มีจำนวนไม่น้อย“ใครมันบังอาจรบกวนข้า” มู่ชิงซานตวาด ก่อนกระโดดตัวลอยเหนือผิวน้ำ เมื่อมีมีดสั้นซึ่งเป็นอาวุธล
อ๋องปีศาจ ท่านทำให้ข้า...คลั่งมู่ชิงซานไม่ได้ประมาท เขารับมือในยามคับขันได้ดีเสมอ ดาบเล่มยักษ์ในมือกวัดแกว่งป้องกันตนเอง กระทั่งไร้ลูกธนูที่พุ่งมาหมายสังหารเขาจึงมีเสียงร้องข่มขวัญก่อนปรากฏร่างของผู้คนที่วิ่งไล่กวดชายหนุ่มผู้หนึ่งดวงตาคมกริบจ้องเขม็งไปยังคนซึ่งวิ่งหนีตาย“พี่รอง ชะ...ช่วยข้าด้วย”“น้องเล็ก!”มู่หรูซื่อพยายามเอาตัวรอดจากโจรชุดดำนับสิบชีวิต เขาวิ่งหลบหน้าหลบหลัง ปากร้องเรียกพี่ชาย กระทั่งถูกจับตัวไว้ได้จึงออกแรงดิ้นขัดขืน มือข้างหนึ่งใช้มีดสั้นจ้วงแทงใส่คนที่ทำร้ายเขา ทว่าด้วยจำนวนคนที่มาก มู่หรูซื่อจึงเพลี่ยงพล้ำชายหนุ่มถูกจับลากไปตามพื้น และในขณะที่หวิดโดนฟันเข้าบริเวณหัวไหล่ ร่างสูงใหญ่ของพี่ชายพลันทะยานเข้ามาแล้วใช้ฝ่าเท้าถีบใส่กลางหลังศัตรูเต็มแรง “น้องเล็ก หลบมาอยู่ด้านหลังพี่” มู่ชิงซานออกคำสั่ง ดาบในมือเขาฟันไปเบื้องหน้า ร่างคนร้ายซึ่งพุ่งเข้ามาถึงกับขาดเป็นสองท่อน โลหิตสาดกระเซ็นไปทั่วเมื่อกลุ่มชายชุดดำเห็นอย่างนั้นจึงปรับกลวิธีจัดการชินอ๋องจากต้าหลางใหม่“ถ้าไม่อยากให้ร่างกายแยกออกเป็นห้าส่วน จงถอยกลับไปเสีย” มู่-ชิงซานตวาดเสียงก้อง พวกที่ตั้งท่าอยู่จึงละ
ฟ่านรั่วเจี๋ยไม่ได้คิดว่านางจะต้องกระทำเรื่องน่ากลัวเช่นนี้มาก่อนแต่เกาเจียวหั่วได้พบร่างของทหารต้าหลาง และคนผู้นั้นได้รับพิษประหลาดพิษซึ่งดูเหมือนจะมีต้นตอมาจากตำหนักเย็นที่นางอาศัยอยู่ “อาเจี๋ย เจ้ากระทำเรื่องใหญ่เกินตัว เช่นนี้หัวอาจหลุดออกจากบ่า!”“พี่หั่ว ข้าอยากบอกให้ท่านรู้ สิ่งที่เกิดขึ้นหาใช่ฝีมือสตรีผู้นี้ มีคนต้องการใส่ความข้า อีกอย่างพิษดังกล่าวคล้ายคนเป็นไข้หวัด ทว่ามันอันตรายถึงแก่ชีวิต ติดต่อทางการสัมผัสและไอจาม นี่คงเป็นเหตุให้ทหารต้าหลางล้มป่วยลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรเราต้องป้องกันคนของเราด้วย มิเช่นนั้นอาจเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่” “พี่เข้าใจ” เกาเจียวหั่วพยักหน้า ก่อนเอ่ยถามต่อ“แล้วบุรุษที่เจ้าจับตัวไว้จะทำเช่นใดต่อ”“ชายผู้นี้ควรเป็นผู้นำทัพแทนพี่ชายเขา ส่วนมู่ชิงซานอ๋องปีศาจ หากหายสาบสูญไปได้ แผ่นดินนี้ย่อมเป็นสุข”“เฮ้อ เจ้ากำลังกล่าวเรื่องตลกอันใดอาเจี๋ย”“ฮึๆ เดี๋ยวพี่หั่วก็รู้ หากคาดการณ์มิผิด ตอนนี้บุรุษแซ่มู่คงกำลังคลั่งเหมือนหมาบ้า ด้วยกองทัพระส่ำระสาย และน้องชายยังตกอยู่ในมือผู้อื่น”“เจ้านี่มัน!” เกาเจียวหั่วยื่นมือหมายจะขยี้ผมเส้นเล็กดำละเอียดบนศีรษะของฟ่
“ฮ่าๆ เก่งกาจถึงเพียงนี้ หากไร้ประโยชน์ ในเมื่อบ้านเมืองของเจ้ากำลังจะล่มสลาย” มู่ชิงซานไม่คิดขู่สตรี เขาเพียงแต่เอ่ยความจริงเพื่อให้พวกนางเข้มแข็ง ดีเท่าไรแล้วที่มาพบกับเขา มิใช่พวกเผ่าคนเถื่อนที่นอกด่านหากพบเห็นสตรีเช่นนี้ ทั้งสามนางคงไม่แคล้วถูกย่ำยีราวกับเป็นหญิงจากหอนางโลม“ท่านอ๋อง ให้ข้าได้ปรนนิบัติท่านก่อนเถิด” จางหลิงเวยซึ่งเป็นลูกของพ่อค้าเอ่ย นางสืบเท้าเข้ามาหาชายหนุ่ม ท่าทางนางเป็นกุลสตรี แต่ก็ชวนให้เขารู้สึกเร่าร้อนจนเป้ากางเกงพองขยาย“เจ้ามีแซ่อันใด”“ผู้น้อยแซ่จาง นามว่าหลิงเวย”ชายหนุ่มทำเสียงคำรามในลำคอ เขาชมชอบความงามเพราะเป็นสิ่งที่สตรีพึงมี ทว่าหลายปีมานี้ไม่ได้ตบแต่งพระชายา ด้วยยังไม่ถูกใจใครเป็นพิเศษ อีกทั้งไอสังหารรุนแรงที่อยู่ในร่างกายเขาอาจทำให้ธาตุไฟแตกได้ง่ายๆหลายปีที่ผ่านมาจึงติดตามหาคนผู้หนึ่งที่จะมาช่วยทำให้เขาควบคุมสิ่งที่อยู่ในร่างกายให้เป็นปกติ กระนั้นของสวยงามริมทางเขาก็เชยชมมิขาด ด้วยมันช่วยทำให้เลือดลมสูบฉีด ลดอาการงุ่นง่าน“หากเจ้าแน่ใจที่จะรับใช้ข้า จงรีบปรนนิบัติเสีย”แม้จะทำใจดีสู้เสือ แต่จางหลิงเวยยังอดกลัวมิได้ นางค่อยๆ ถอดเสื้อคลุมตัวนอกของเข
ความคิดแรกของมู่ชิงซาน ถึงอย่างไรก็ไม่อยากถอยทัพห่างจากกำแพงแคว้นหมิง ทว่าความอ่อนแอของทหารที่เขานำทัพสร้างความเครียดให้ชายหนุ่ม อีกทั้งสถานการณ์ย่ำแย่ขึ้นทุกที ซึ่งดูเหมือนฟ้าดินกำลังลงโทษเขา ดังนั้นมู่ชิงซานจึงต้องออกคำสั่งลงไปเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจเหล่าทหารกลับคืนยามนี้ ศพทหารเกือบสามร้อยนายเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าแผ่นดินเล็กๆกำลังเปิดศึกกับแคว้นหมิง โดยใช้หมอตำแยชั่วร้ายวางยาพิษ ใช่...เขาต้องควานหาคนผู้นั้นให้ได้ และนำเลือดของมันมาล้างเท้าชดเชยความผิดที่มันก่อขึ้น“อ๋องชิงซาน ข้าเกรงว่าตอนนี้ท่านก็ควรระวังชีวิตเอาไว้ด้วย เพราะหน่วยแพทย์ของเรายังมิอาจหาวิธีรักษาพิษดังกล่าว”มู่ชิงซานได้ยินเข้าพลันตบโต๊ะเสียงดัง เขาไม่กลัวตาย แต่ตอนนี้ความอ่อนแอของทหารต้าหลางทำให้เขาอยากสั่งโบยพวกมันให้เนื้อแตกเพื่อเลิกคร่ำครวญหามารดา“ใครป่วยก็ดูแล แต่ถ้าใครสำออยจงโยนมันลงหลุมแล้วฝังดินเสีย อย่าให้ข้าได้เห็นหน้าอีก ต้าหลางยิ่งใหญ่เกรียงไกร จะมาพ่ายแพ้ต่อไข้ป่าเช่นนี้ได้หรือ”หยวนซางถอนหายใจออกมาหลายเฮือก เขาติดตามมู่ชิงซานมาหลายปีรู้ถึงความเลือดร้อนของอีกฝ่าย แต่ก็รักพวกพ้องยิ่ง หากยามนี้ดูเหมือนผ
บุรุษรูปงามที่ข้าจับตัวได้ฟ่านรั่วเจี๋ยกลับมายังตำหนักของตน เสียงเป็ดที่ร้องต้อนรับทำให้นางรู้สึกปลอดภัย จากนั้นนางจึงเปลื้องผ้าแล้วก้าวลงไปยังบ่อน้ำพุซึ่งก่อนหน้านี้ได้แช่สมุนไพรลับเอาไว้ อีกทั้งใต้บ่อน้ำพุแห่งนี้มีหินวิเศษและแร่ธาตุซึ่งช่วยทำให้ผ่อนคลาย แต่เหนืออื่นใดคือมันมีสรรพคุณช่วยทำให้ความอัปลักษณ์ของนางหายไป!นางหลับตาพริ้ม รู้สึกถึงความผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ขัดเนื้อขัดตัวกระทั่งรู้สึกสบายเนื้อตัวและหายปวดเมื่อยตามร่างกายก็ลุกออกจากบ่อน้ำพุ แล้วสวมใส่เสื้อผ้าในชุดสีเข้มๆ ประหนึ่งเป็นผู้ถือศีลกินเจ นางตรงไปยังกระท่อมหลังเล็กที่อยู่ห่างออกไปเพื่อพบคนผู้หนึ่งเสียงกระแอมไอดังลอดมาจากด้านใน นางจึงรู้ว่าเชลยที่นางได้พบเห็นตรงหน้าปากถ้ำฟื้นแล้วร่างทรงเสน่ห์ก้าวไปมองบุรุษที่นอนอยู่ใกล้ๆ กองฟืน นางมัดผ้าปิดตาเขาไว้ และยังฝังเข็มเพื่อไม่ให้เขาเคลื่อนไหวร่างกายได้“แม่นาง เป็นแม่นางผู้นั้นใช่หรือไม่” ชายหนุ่มเอ่ยถาม ท่าทางเขาดูเหมือนจะมีเรี่ยวแรงกว่าเดิม บาดแผลต่างๆ ก็มีเพียงภายนอก ซึ่งมิอาจส่งผลต่อชีวิต“เหตุใดถึงไม่ตอบข้า” เขาถาม น้ำเสียงดูร้อนรนฟ่านรั่วเจี๋ยหัวเราะน้อยๆ นับว่าเขาไ