เข้าสู่ระบบหลายเดือนต่อมา...
ชีวิตของพริมายังคงดำเนินไปท่ามกลางแรงกดดัน ทั้งจากยอดหนี้สินที่พอกพูนขึ้นทุกวัน และจากความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดกับภาสกร ที่นับวันยิ่งรัดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ โดยต้นเหตุเกิดมาจากค่ำคืนนั้นที่ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและยากจะถอยหลัง
พริมาไม่อาจต้านทานข้อเสนอของภาสกรได้อีกต่อไป ในเมื่อตัวเลขค่าตอบแทนและคำมั่นสัญญาว่าจะช่วยเหลือเรื่องหนี้สินคือฟางเส้นสุดท้ายที่เธอคว้าเอาไว้
ความเงียบสงัดปกคลุมโรงแรมหรู แสงไฟนวลตาจากโคมไฟดีไซน์เก๋ส่องกระทบผิวกายบางของพริมาที่นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง กระจกใสสะท้อนภาพเมืองหลวงยามราตรีที่ส่องประกายระยิบระยับ ทว่าความงามภายนอกกลับมิอาจเยียวยาสภาวะสับสนในจิตใจของเธอได้
ภาสกรทอดกายลงบนโซฟาเนื้อนุ่มข้างๆ หญิงสาว ก่อนจะยื่นแก้วไวน์สีแดงก่ำให้เธอ พริมารับมาถือไว้ในมือทว่ามิได้ยกขึ้นจิบ ไอเย็นจากแก้วแก้วนั้นสัมผัสฝ่ามือบางเบา
“คิดอะไรอยู่ครับ...ที่รัก คุณดูเหม่อๆ ไปนะวันนี้” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน
“เปล่าค่ะ... แค่... รู้สึกแปลกๆ ค่ะ” เสียงของเธอแผ่วเบาราวกระซิบ
“แปลกๆ ยังไงเหรอครับ...คุณรู้สึกยังไง? ไหนเล่าให้ผมฟังสิ” ภาสกรเอื้อมมือมาสัมผัสมือของเธอเบาๆ ความอบอุ่นจากฝ่ามือแกร่งนั้นแทรกซึมเข้าสู่ผิวเนื้อ ทำให้ความหวั่นไหวเล็กๆ ก่อตัวขึ้น
“คือฉันกังวลเรื่อง...เอ่อ เรื่องภรรยาของคุณค่ะ” พริมาเว้นจังหวะคำพูด ดวงตากลมโตสบกับเขาอย่างลังเล ภาสกรคลี่ยิ้มบางๆ บีบมือเธอเบาๆ ราวกับต้องการปลอบประโลม
“อย่าคิดมากสิครับ...ก็อย่างที่ผมบอกคุณไง ว่าผมกับมนต์ตราเราไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันแล้ว”
“แล้วทำไมคุณไม่ยอมหย่ากับเธอล่ะคะ” น้ำเสียงของเธอเริ่มสั่นเครือ
“ผมคงทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกครับ เรามีลูกด้วยกัน ผมสงสารลูกน่ะ” ภาสกรส่ายหน้าช้าๆ ดวงตาหนักแน่น คำพูดนั้นราวกับสายฟ้าฟาด พริมานิ่งงัน เงยหน้ามองเขาด้วยความเสียใจ
“แล้วเรื่องที่ภรรยาคุณยินยอม... ให้คุณ... มีคนอื่น มันคือเรื่องจริงเหรอคะ...แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไง”
“มันเป็นไปได้ครับ...คุณเชื่อผมนะ เราคบกันมาตั้งนาน ถ้าไม่มนต์ตราเค้าไม่ยอม ป่านนี้คงมาเล่นงานคุณไปแล้ว” น้ำเสียงของภาสกรจริงจังขึ้น ทว่ายังคงความอ่อนโยน
“ก็อย่างที่ผมบอกคุณไง ชีวิตคู่ของผมกับมนต์ตรา... เรามีปัญหา มนต์ตรา... เธอไม่สามารถตอบสนองความต้องการทางกายของผมได้ครับ... ปัญหาเรื่องบนเตียง มันก็เป็นปัญหาหลักของชีวิตคู่นะครับ เราอยู่กันในฐานะพ่อและแม่ของลูก ๆ เท่านั้น” เขาพูดด้วยท่าทีที่ดูเศร้าสร้อย ราวกับแบกรับความทุกข์ทรมาน
“อย่าคิดมากครับ ก็ไหนเราตกลงกันเรื่องนี้แล้วไง...หืม์!!! คุณไม่ต้องกังวลไปหรอกน่า...มนต์ตราเธอยินดีที่จะให้ผม... มีภรรยาอีกคน... ที่จะเข้ามาดูแลเรื่องนี้... เพื่อที่ชีวิตคู่ของเราจะได้ยังดำเนินต่อไปได้โดยไม่มีปัญหา”
พริมาฟังด้วยความสับสนอลหม่านในหัวใจ เรื่องราวเช่นนี้เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน ถ้อยคำของภาสกรดูเหมือนจะสมเหตุสมผลในตรรกะที่บิดเบี้ยว
“อย่าคิดมากสิ...พริมา คุณทั้งสวย ทั้งเก่ง ผมไม่มีวันทิ้งคุณหรอก...ผมอยากดูแลคุณจริงๆ นะครับ... แล้วผมก็ไม่ได้ต้องการแค่ความสัมพันธ์ฉาบฉวย... ผมอยากให้คุณเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผมจริง ๆ ... เป็นภรรยาอีกคน... ในแบบที่มนต์ตรายินยอม” ภาสกรย้ำคำว่า 'ภรรยาอีกคน' ราวกับต้องการสร้างความชอบธรรมให้กับสิ่งที่เขากำลังเสนอ
“ผมรู้ว่ามันอาจจะฟังดูประหลาด... แต่มันคือทางออกของเราทั้งสองคนในเวลานี้... ผมจะไม่ทอดทิ้งคุณ... ผมจะดูแลคุณอย่างดีที่สุด... คุณไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรอีกแล้ว... ทั้งเรื่องหนี้สิน... หรืออนาคต... ผมดูแลคุณได้”
พริมาจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาที่ฉาบด้วยแววตาจริงจัง น้ำเสียงปลอบโยนและคำมั่นสัญญาเหล่านั้น ค่อยๆ คลอนคลอนหัวใจที่เปราะบางและแบกรับภาระหนักอึ้งของเธอ ประกอบกับบุญคุณที่เขาเคยหยิบยื่นให้
ในห้วงแห่งความเหงา ความสิ้นหวัง และความปรารถนาที่จะมีใครสักคนเป็นหลักยึด คำโกหกที่ถูกร้อยเรียงอย่างแนบเนียนเรื่อง 'คำว่าภรรยาอีกคน' กลับกลายเป็นเหตุผลที่มันก็ฟังดูเป็นไปได้ในห้วงอารมณ์ที่อ่อนแอ…มากกว่าคำว่าเมียน้อยที่หลาย ๆ คนเขาเรียกกัน
พริมาทอดสายตามองภาสกรอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจยาวเหยียด ราวกับยอมจำนนต่อโชคชะตา
“คุณไม่ได้หลอกฉันไม่ใช่มั้ย...คุณภาส” เสียงของเธอแผ่วเบาราวกระซิบถามย้ำ
ภาสกรคลี่ยิ้มอย่างพอใจ ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม “ผมไม่เคยคิดจะหลอกคุณเลย...ที่รัก”
พริมาพยักหน้ารับช้าๆ แววตาว่างเปล่า ราวกับวิญญาณครึ่งหนึ่งได้หลุดลอยไป และนับจากวินาทีนั้นเอง พริมาก็ได้ก้าวเข้าสู่สถานะ 'ภรรยาชั่วคราว' อย่างเต็มตัว โดยหลงเชื่อคำลวงที่ถูกสร้างขึ้นจากความอ่อนแอในชีวิตคู่ของเขา... มาเป็นเครื่องมือในการครอบครองเธอทั้งร่างกายและหัวใจ
บรรยากาศอบอวลไปด้วยความตึงเครียดและความสับสนในจิตใจของพริมา คำโกหกที่ถูกร้อยเรียงอย่างแนบเนียนของภาสกรยังคงก้องอยู่ในหู ราวกับมนต์สะกดที่ค่อยๆ ครอบงำเธอ
ภาสกรสังเกตเห็นความลังเลในแววตาของหญิงสาว เขารู้ดีว่าต้องใช้สัมผัสทางกายเพื่อทำลายกำแพงสุดท้ายในใจของเธอเหมือนเช่นทุกครั้ง มือแกร่งค่อยๆ เอื้อมไปลูบไล้แก้มเนียนอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนลงมาสัมผัสลำคอระหงอย่างอ่อนโยน
“คุณสวยเหลือเกินพริมา...ที่รักของผม” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบข้างใบหู ราวกับต้องมนต์สะกดกับความงามที่อยู่ตรงหน้า
พริมาหลับตาลงเล็กน้อย สัมผัสจากปลายนิ้วของเขาส่งผ่านความรู้สึกวาบหวามอย่างประหลาด เธอพยายามที่จะต่อต้านน้อย ๆ เหมือนทุกครา และร่างกายก็กลับทรยศทุกครั้งไป
ภาสกรค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมาใกล้ ริมฝีปากหยักแตะลงบนหน้าผากมนอย่างทะนุถนอม ก่อนจะเลื่อนลงมาสัมผัสเปลือกตาที่ปิดสนิทอย่างอ่อนโยน
ความรู้สึกวูบไหวเริ่มก่อตัวขึ้นในอกของพริมา ลมหายใจเริ่มติดขัด หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ภาสกรผละริมฝีปากออกเล็กน้อย ดวงตาคมกล้าจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่ค่อยๆ เปิดขึ้นของเธอ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ยากจะหักห้าม
โดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ อีก ภาสกรค่อยๆ โอบประคองร่างบางของพริมาให้ลุกขึ้นยืน เขาสบตาเธออย่างลึกซึ้ง ราวกับต้องการสื่อสารความรู้สึกที่อยู่ภายใน ก่อนที่ริมฝีปากหยักจะประกบลงไปอย่างแผ่วเบา สัมผัสแรกนั้นนุ่มนวล ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยแรงปรารถนาที่เก็บกักมานานหลายวัน
พริมาตอบสนองต่อจูบนั้นอย่างเผลอไผล มือเรียวค่อยๆ ยกขึ้นคล้องรอบคอของภาสกรอย่างไม่รู้ตัว ปล่อยให้ความรู้สึกนำพาไป ภาสกรค่อยๆ อุ้มร่างบางของเธอขึ้น พาไปยังห้องนอนที่ตกแต่งอย่างหรูหรา แสงไฟสลัวๆ สร้างบรรยากาศที่ชวนให้ลุ่มหลง
เขาค่อยๆ วางเธอลงบนเตียงเนื้อนุ่ม ก่อนจะทาบทับร่างของเธอลงไปอีกครั้ง ริมฝีปากยังคงมอบจูบที่เร่าร้อนและโหยหาอย่างต่อเนื่อง มือก็ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างอย่างทะนุถนอม
เสื้อผ้าค่อยๆ ถูกปลดเปลื้องออกอย่างช้าๆ เหลือเพียงผิวเนื้อที่สัมผัสกันโดยตรง ความร้อนจากกายของทั้งสองหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เสียงครางกระเส่าดังแผ่วเบาในความมืดมิด สัมผัสที่ลึกซึ้งและแนบแน่นขึ้นเรื่อยๆ นำพาไปสู่ห้วงแห่งความสุขสมที่ทั้งคู่โหยหา
ภายใต้ผ้าปูที่นอนเนื้อนุ่มละเอียด สัมผัสจากกายของภาสกรยังคงรุ่มร้อนและแนบแน่น พริมาหลับตาพริ้ม ปล่อยให้ความรู้สึกสุขสมแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เสียงครางหวานแผ่วเบาหลุดออกจากริมฝีปากอิ่มอย่างห้ามไม่อยู่
“อ๊ะ...อื้มมม!!!” เสียงหวานนั้นสั่นเครือเล็กน้อย ยามที่เรียวนิ้วแกร่งของภาสกรลูบไล้ไปตามลาดไหล่เนียนอย่างอ่อนโยน
“ชอบมั้ย…ที่รัก?” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบข้างใบหู พรมจูบเบาๆ ไปตามขมับ
พริมาพยักหน้าช้าๆ ริมฝีปากเผยอขึ้นเล็กน้อย ราวกับต้องการสัมผัสที่ลึกซึ้งกว่านั้น
ภาสกรเข้าใจความต้องการนั้นดี เขาก้มลงมอบจูบที่ดูดดื่มอีกครั้ง ลึกซึ้งและเนิ่นนานกว่าครั้งก่อน ปลายลิ้นอุ่นชื้นโลมเลียเข้าไปในโพรงปากหวานอย่างเชี่ยวชาญ
“อ๊ะ...” เสียงครางแผ่วเบาอีกครั้งดังขึ้น เมื่อศีรษะของภาสกรเลื่อนลงต่ำ สัมผัสส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของเธออย่างช้าๆ ด้วยปลายลิ้นร้อน...
ความรู้สึกวาบหวามแล่นปราดไปทั่วร่าง พริมาบิดกายเล็กน้อย ก่อนจะสบัดหน้าไปมากับหมอนนุ่ม ปล่อยให้ความสุขสมนำพาเธอไปสู่ห้วงแห่งความปรารถนา
“คุณภาส!!!...อื้อ..อย่าค่ะ” เสียงเรียกชื่อเขาแผ่วพร่า ราวกับละเมอ
“ขอชิมให้ชื่นใจหน่อยนะที่รัก” ภาสกรตอบกลับด้วยเสียงกระเส่า เลื่อนใบหน้าลงมาจูบซับตามซอกคอขาวเนียน
สัมผัสของเขายังคงดำเนินต่อไป เร้าลึกและหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ พริมาเผลอปล่อยเสียงครางหวานออกมาอย่างไม่อาจควบคุม ความสุขสมที่ได้รับนั้น เกินกว่าที่เธอเคยสัมผัส
“อื้ยยย!!!...คุณภาสขา!!!...” เสียงกระซิบแผ่วเบาที่เปล่งออกมาจากความพึงพอใจอย่างแท้จริง
ภาสกรยิ้มบางๆ กับเสียงหวานนั้น เขากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ตอบสนองต่อทุกการเคลื่อนไหวของเธออย่างอ่อนโยนและเร่าร้อน
ตอนที่ 24 สายใยรัก NCจากนั้น หญิงสาวก็เริ่มเคลื่อนไหว บดเบียดสะโพกขึ้นลงอย่างนุ่มนวล ท่วงท่าที่เธอควบคุมเองนี้ สร้างความรู้สึกที่แตกต่างออกไป ไมค์ได้แต่นอนมองใบหน้าสวยหวานที่กำลังปลดปล่อยความปรารถนาอยู่เหนือร่างของเขา ทุกการขยับเคลื่อนไหวของเธอ ราวกับเป็นการร่ายรำที่แสนเย้ายวน ปลุกเร้าอารมณ์ให้พลุ่งพล่านจนแทบคลั่ง เสียงครางหวานที่ลอดออกมาจากริมฝีปากบาง ยิ่งเติมเชื้อเพลิงให้กับความปรารถนาในตัวของทั้งสองให้ลุกโชนมากยิ่งขึ้นพริมาควบคุมจังหวะการเคลื่อนไหวของสะโพกอย่างเชี่ยวชาญ บดเบียดขึ้นลง เนิบนาบแต่หนักแน่น ราวกับกำลังบรรเลงบทเพลงแห่งความปรารถนา ไมค์ได้แต่นอนมองใบหน้าสวยหวานที่โน้มต่ำลงมาใกล้ ดวงตาคู่สวยเปล่งประกายแห่งความสุขสม เสียงครางหวานที่ลอดออกมาจากริมฝีปากบาง ยิ่งกระตุ้นเร้าอารมณ์ในกายของเขาให้ทวีความรุนแรงขึ้นความรู้สึกคับแน่นและเสียดสีภายในร่างของพริมาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เธอเคลื่อนไหว ราวกับมีคลื่นความสุขซัดสาดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเธอเริ่มสั่นระริกน้อยๆ ริมฝีปากเผยอขึ้นเล็กน้อย หายใจถี่กระชั้นไมค์ยกมือขึ้นลูบไล้แผ่นหลังบอบบางของเธออย่างแผ่วเบา สัมผัสอุ่
ตอนที่ 23 อรุณสวาท NCเช้าวันรุ่งขึ้น แสงอรุณรำไรปลุกให้พริมาตื่นขึ้นจากภวังค์ หญิงสาวขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกถึงอ้อมแขนอบอุ่นที่โอบกอดร่างเธอไว้จากทางด้านหลัง ความรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจแผ่ซ่านไปทั่วร่าง พริมานอนนิ่ง ๆ ซึมซับความรู้สึกนี้ไว้ ก่อนจะค่อยๆ หันกายไปเผชิญหน้ากับชายหนุ่มที่นอนอยู่เคียงข้างไมค์เองก็ตื่นขึ้นมาในจังหวะเดียวกัน แววตาของเขามองเธอด้วยความอ่อนโยนและรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก“อรุณสวัสดิ์ครับ... คุณพริม” ไมค์เอ่ยเสียงพร่าเล็กน้อยจากความง่วงงุน พร้อมกับกระชับอ้อมแขนที่โอบกอดเธอไว้แน่นขึ้น“อรุณสวัสดิ์ค่ะ” พริมาตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่สดใสอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมานานแสนนาน หัวใจของเธอเบิกบานราวกับดอกไม้แรกแย้ม แสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านผ้าม่านมาแตะใบหน้าของเขา ยิ่งทำให้เธอมองเขาอย่างพิจารณา“คุณพริมมีชื่อเล่นไหมครับ?” ไมค์ถามพลางใช้นิ้วเกลี่ยปอยผมที่ปรกใบหน้าหวานของเธออย่างเบามือ เมื่อเห็นสีหน้าลังเลของหญิงสาว เขาก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกนิด ก่อนจะกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม“เราใกล้ชิดกันขนาดนี้แล้ว แต่ผมยังไม่รู้ชื่อเล่นของคุณเลย” พริมายิ้มบางๆ แก้มแดงระเรื่อเล็กน้
ตอนที่ 22 คำว่ารัก..จะเยียวยาทุกสิ่ง NCความคิดหนึ่งวูบเข้ามาในสมองอันพร่าเลือน... หรือว่าเธอจะถูกไอ้เอกมันยัดยาปลุกเซ็กซ์กันแน่! สารกระตุ้นชนิดใดกันที่ปลุกเร้าความต้องการทางเพศในตัวเธอให้รุนแรงถึงเพียงนี้ ความร้อนรุ่มที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง หรือว่าลึกๆ แล้ว เธอเองก็ปรารถนาสัมผัสเช่นนี้มาโดยตลอด แต่ไม่มีใครสามารถตอบสนองให้เธอได้เท่านี้มาก่อนโชคดีที่พวกมันพาเธอไปไม่ถึงรังของพวกมัน... ไม่อย่างนั้น ด้วยความต้องการที่ร่างกายโหยหาอย่างบ้าคลั่งนี้ เธอคงได้ตกเป็นเหยื่อของพวกมันอย่างสมยอมเป็นแน่... แค่คิดก็ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวและขยะแขยงตัวเองอย่างประหลาดการเคลื่อนไหวของไมค์ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง บั้นเอวแกร่งบดเบียด หมุนวนลึกเข้าไปในโพรงสวาทของเธอ ราวกับคลื่นอารมณ์ลูกใหญ่ที่ซัดสาดเข้ามาโถมทับ ความเสียวสะท้านแล่นริ้วไปทั่วทุกอณูของร่างกาย จนพริมาต้องเผลอเกร็งหน้าท้องน้อยๆ แอ่นสะโพกขึ้นรับจังหวะการนำพาของเขาอย่างไม่รู้ตัว เสียงหวานครางกระเส่าแผ่วเบา หลุดลอดออกมาจากริมฝีปากที่เผยอขึ้นเล็กน้อย ราวกับมนต์สะกดที่ยากจะถอน ”โอ้ววว โอ๊ยยย........ไมค์ขา....อื้มมมม.ซี๊ดดดดดด!!!!.......โอ๊ยยย ๆ ..โ
ตอนที่ 21 จากเหยื่อ... สู่โหมดอ้อนวอน NCมือทั้งสองของพริมาลูบไล้เส้นผมดำขลับของไมค์อย่างแผ่วเบา ศีรษะเล็กๆ แอ่นขึ้นเล็กน้อยอย่างลืมตัวเมื่อความเสียวซ่านที่ได้รับนั้นแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ส่วนมือแกร่งของไมค์ก็เคลื่อนลงต่ำ ลูบไล้จากต้นขาด้านในของเธออย่างเชื่องช้า ไล่สูงขึ้นมาทีละน้อย จนพริมารู้สึกถึงการรุกล้ำสู่จุดสำคัญ เธอบีบเรียวขาทั้งสองเข้าหากันตามสัญชาตญาณ แต่ไมค์กลับเลื่อนขาข้างหนึ่งมากดทาบทับขาของเธอไว้มั่น แล้วใช้ฝ่ามืออุ่นวางทาบทับลงบนเนินเนื้อกลางลำตัวของเธออย่างแผ่วเบา“แต่สิ่งที่ฉันโดนมา... มันก็สมควรแล้วล่ะคะ?” พริมาถามเสียงแผ่วเบา น้ำตาคลอหน่วย ความรู้สึกเจ็บปวดและความอับอายยังคงกัดกินหัวใจเธอฝ่ามืออุ่นร้อนของไมค์โค้งรับกับความนูนหยุ่นของเนินสาว ราวกับกำลังสัมผัสความลับที่อ่อนหวานที่สุด เขารู้สึกถึงความอวบอิ่ม นูนสูง จนฝ่ามือของเขาแทบจะโอบไว้ไม่มิด ยิ่งสัมผัส ความปรารถนาก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ เขาจึงรั้งเรียวขาของพริมาให้แยกออกจากกันเล็กน้อย ก่อนจะส่งนิ้วกลางแตะลงตรงรอยแยกกลางเนินเนื้ออ่อนนุ่มนั้นอย่างแผ่วเบา“ไม่ครับ... คุณไม่สมควรถูกกระทำเช่นนั้น” ไมค์ตอบหนักแน่น
ตอนที่ 20 ปลอบใจด้วยไฟรัก NCหลังจากได้ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกชื้นออก ทั้งสองคนก็รู้สึกสบายตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พริมาเดินกลับมานั่งคุยกับไมค์บนเตียงนุ่มในห้องเล็กๆ ของเธอ เขาอยู่ในเสื้อยืดตัวโคร่งลายการ์ตูนที่ดูยังไงก็เล็กกว่าตัวไปหน่อย แถมกางเกงขาสั้นสีหวานของเธอก็รั้งเป้าจนเห็นได้ชัดว่าคับติ้ว ส่วนปลายขาก็เต่อขึ้นมาจนกลายเป็นกางเกงสามส่วนสุดฮิตไปเสียอย่างนั้นทันทีที่พริมาเห็นสภาพของไมค์ เธอก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ เสียงใสๆ หัวเราะร่วนออกมาจนแก้มแดงปลั่ง“คริๆๆ ไมค์!!!” เธอถามพลางเอามือป้องปาก แต่เสียงหัวเราะก็ยังลอดออกมาอยู่ดี“ขำอะไรครับ ก็ชุดคุณมันมีแต่แบบนี้ทั้งนั้นเลยอะ”“ตอนคุณอยู่ในชุดของฉัน ก็น่ารักไปอีกแบบนะคะ..คริๆๆ แบบว่า...สาว ๆ ยังอายเลยอะคริๆๆ อื้มม น่ารักแบบตะโกน! แบบว่า... สาวๆ ยังต้องหลบอะ ขาวโอโม่เบอร์สิบไปเลยปะเนี่ย? คริๆๆ?” เธอเอ่ยแซวเป็นเรื่องขบขันไมค์ก้มลงมองตัวเองบ้าง แล้วก็อดขำตามไม่ได้“โถ่ววว!!!! อย่าเพิ่งแซวซิครับ” เขาว่าพลางทำท่าทางเบ่งกล้ามแขนที่อยู่ภายใต้เสื้อแขนสั้นตัวจิ๋ว“ผมว่า ความจริงแล้วผมไม่ควรใส่อะไรเลยจะดีกว่านะครับ กลัวชุดคุณมันจะขาดน่ะ
ตอนที่ 19 หยาดน้ำตา...และไออุ่นพริมาเดินเปลือยเปล่าไปยังห้องน้ำ แสงไฟนวลภายในห้องขับให้ผิวขาวเนียนของเธอดูเปล่งปลั่ง แม้จะยังคงปรากฏร่องรอยแดงจางๆ เป็นทางยาวบนผิวเนื้อบางส่วน ราวกับภาพวาดที่ถูกแต้มแต่งด้วยสีแดงเรื่ออันน่าเศร้าหญิงสาวรีบคว้าผ้าขนหนูเนื้อนุ่มสะอาดมาพันรอบกายบอบช้ำของตนเองเอาไว้ ส่วนอีกผืนคล้องไว้ที่ไหล่ เตรียมนำไปเช็ดตัวให้ชายหนุ่มที่ช่วยเหลือเธอ ก่อนจะเดินไปยังตู้ยาเพื่อนำกล่องปฐมพยาบาลออกไป เธอตั้งใจว่าจะดูแลเขาให้ดีที่สุดในค่ำคืนนี้... ค่ำคืนที่โชคชะตานำพาให้เธอได้มาใกล้ชิดกับเขาอีกครั้งร่างอรชรของพริมาเคลื่อนกายออกมาจากห้องด้านใน พร้อมผ้าขนหนูสองผืนและกล่องยาในมือ ทว่าภาพที่ปรากฏแก่สายตาของไมค์นั้น ราวกับสะกดทุกการเคลื่อนไหว หัวใจของเขาเต้นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นเสื้อผ้าที่เปียกชื้นแนบเนื้อเมื่อครู่ได้เลือนหายไป เหลือเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวที่โอบรัดเรือนกายบอบบางไว้หลวมๆ อีกผืนคล้องอยู่บนไหล่มน หยาดน้ำยังคงเกาะพราวระยิบระยับบนผิวขาวเนียนละเอียดอ่อนที่เผยออกมาในแต่ละย่างก้าว ไม่ว่าจะเป็นโคนขาอ่อนที่ซ่อนเร้น หรือต้นแขนกลมกลึงขาวผ่อง ทุกสัดส่วนล้วนกระตุ้นจินตนาการให้







