เข้าสู่ระบบ"รอบเดียวพอนะครับ"
คำพูดสองแง่สองง่ามทำให้คนที่คิดว่ารอดแน่ๆ ถึงกับต้องคิดใหม่ ดูเหมือนการสื่อสารของเธอจะผิดพลาดไป ทำไมเขาถึงได้มองเธอด้วยแววตาแฝงความนัยและดูกรุ้มกริ่มยังไงพิกล
"รอบเดียวอะไรคะ"
คนที่โดยสามีรั้งไว้ฝืนยิ้มแห้งๆ ถามกลับไป เธอแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ ท่าทีซื่อใสนั้นทำชายหนุ่มงง ทั้งๆ ที่เมื่อกี้เธอเป็นคนเอ่ยปากชวนเอง
"จะยั่วพี่หรือครับ"
เสียงทุ้มถาม ริมฝีปากของเขาที่คลอเคลียข้างหูทำซูขนลุกซู่
"พี่เฉิงอย่าแกล้งสิคะ"
หญิงสาวตอบไป ในใจของเธอตอนนี้คือร้อนรน จะหนียังไงให้พ้นจากสามีที่จ้องจะกินภรรยา
"ใครแกล้งกันแน่"
มุมปากหยักกระตุกยิ้มจางๆ เมื่อเห็นแววตาของภรรยาสั่นไหว ไม่ต่างจากกวางน้อยที่กลัวหมาป่าจนกระสับกระส่าย ท่าทีที่ดูเปลี่ยนไป มันควรทำให้เขากังวลใจ แต่ทำไมนะ ทำไม เขาถึงได้มองว่ามันน่ารักน่าเอ็นดู
"พี่เฉิง"
หญิงสาวเรียกชื่อของสามีที่มือเริ่มซุกซน เดี๋ยวจับตรงนั้น เดี๋ยวแตะตรงนี้ บางตำแหน่งก็แอบรู้สึกดี แต่บางตำแหน่งก็ทำเธอใจเต้นไม่เป็นส่ำเลย
"หือ??"
ชายหนุ่มตอบรับเบาๆ
"อย่าค่ะ"
คำห้ามถูกกลืนหายเมื่อถูกริมฝีปากของสามีเจ้าของร่างทาบทับลงมา ความรู้สึกมันวาบหวามซาบซ่าน เหมือนผลไม้รสหวานที่สุกงอมเต็มที่
"พี่จะทำเบาๆ"
ริมฝีปากที่ผละออกบอกเธอเบาๆ ดวงตาคมนั้นเร่าร้อนแทบแผดเผาเธอให้ละลาย ทะลุมิติมาแค่วันเดียวจะโดนหนุ่มยุค 80 จิ้มได้ยังไง สติมาเดี๋ยวนี้เลยนะซู!! หญิงสาวบอกตัวเองที่เคลิ้มไปกับสัมผัสที่อันตราย ร่างกายนี้อ่อนไหวง่าย โดนแตะนิดเดียวก็ร้อนผ่าวจนหน้าแดง
"ไปที่เตียงกันนะ"
ชายหนุ่มอุ้มคนตัวเล็กขึ้นแนบอกได้อย่างง่ายดาย เธอร้อง 'ว้าย' ตกใจ แต่เขากลับคิดว่าเป็นการแสดงให้การร่วมรักครั้งนี้มีอรรถรสมากกว่าเดิม และเขาก็เริ่มมีอารมณ์ร่วมไปกับภรรยาที่ทำเหมือนไม่เคยเรื่องอย่างว่า ตั้งแต่ภรรยาฟื้นขึ้นมา เธอดูอ่อนหวานขึ้นเยอะเลย
"พี่เฉิง"
หญิงสาวเรียกชื่อสามีด้วยความตกใจเมื่อเห็นเขากำลังถอดเสื้อ ภาพความทรงจำร้อนแรงของสามีและเจ้าของร่างผุดขึ้นมา ใบหน้าสวยร้อนฉ่า ยิ่งเห็นกล้ามเนื้อแน่นๆ ที่ได้มาจากการทำงานหนักของสามีเต็มๆ ตา ก็ยิ่งรนจนไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง
"พี่ช่วยถอดให้"
ผู้ชายอ่อนโยนมันดีต่อใจ แต่เธอจะมาหวั่นไหวไม่ได้ บอกกับตัวเองที่ไม่รู้ตัวว่าเสื้อผ้าที่สวมหลุดไปตอนไหน แสงไฟจากตะเกียงส่องให้เห็นแววตาของสามีรำไร เป็นผู้ชายที่มีเครื่องหน้าคมบ่งบอกถึงเสน่ห์ทางเพศจริงๆ
"อย่ามองได้ไหมคะ"
ในเมื่อไม่มีเสื้อผ้าใส่ เธอจึงยกมือขึ้นมาปิดบังส่วนน่าอายที่อวบใหญ่จนล้นมือเธอ
"พี่อยากมอง"
พูดพร้อมแกะมือของเธอออก
"ฉันอายค่ะ"
"อายทำไม มากกว่านี้พี่ก็เคยเห็นมาแล้ว"
เฉิงอี้พูดกับภรรยาที่ทำให้เขาแปลกใจไม่หยุด ไม่หย่อน ปกติตอนมีอะไรกัน เธอมักจะเป็นฝ่ายรุกเข้าหาเขาก่อนด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้กลับกัน เธอนอนนิ่งเป็นตอไม้ให้เขาเป็นฝ่ายเล้าโลมเธอ
"มองพี่สิ"
เฉิงอี้บอกกับภรรยาที่ใครต่อใครว่า แต่สำหรับเขาเธอก็คือ 'ภรรยา' ในเมื่อแต่งงานกันแล้วเขาก็ควรให้ความรักและซื่อสัตย์กับเธอ
"อ๊ะ~"
หญิงสาวร้องคราง มันเป็นความเสียวที่เธอเพิ่งเคยสัมผัส เขาใช้มือสลับกับปากสร้างความวาบหวาม ยิ่งเธอร้องครางเขาก็ยิ่งอยากสร้างความสุขให้เธอ
"ชอบใช่ไหม"
เป็นคำถามที่น่าอาย ซูที่โดนเพลิงพิศวาสถาโถมเข้าใส่ไม่ได้ตอบอะไร มีเพียงภาษากายเท่านั้นที่ตอบแทน
"กอดพี่แน่นๆ สิครับ"
ปกติภรรยาไม่เคยแสดงออกเท่าไหร่ ทำเสร็จก็หันหลังให้ เป็นเขาที่รอเธอมาตลอดจริงๆ
"อ๊ะ....ตรงนั้น"
หญิงสาวสะดุ้งตกใจเมื่อลิ้นร้อนของสามีเลื่อนต่ำลงมาเรื่อยๆ วิถีสาวโสด ทำให้เธอหุบเรียวขาเข้าหากัน แต่สามีที่อยากสร้างความรัญจวนให้นั้นมีหรือจะยอม
"อย่าดื้อสิ"
"แต่ฉัน....อื้อ~"
เขารู้ว่าตรงไหนเธอชอบและอ่อนไหว ถึงปากจะบอกว่า 'ไม่' แต่พอเขาทำให้ทีไร เธอก็ถึงฝั่งฝันทุกที แล้วตอนนี้นิ้วของเขาก็ทำหน้าที่เป็นใบเบิกทางสลับกับใช้ลิ้นสร้างความเสียวซ่านให้เธอ
"พี่เฉิง ฉัน ฉัน ฉันจะ...."
ตรงนั้นของเธอร้อนวูบวาบ มันเสียวมาก เสียวจนเธอลืมความอาย และแอ่นสะโพกให้ผู้ชายที่สร้างความสุขให้เธอจนร้องคราง
ยิ่งรัวลิ้นเร็วเท่าไหร่....
หญิงสาวก็ยิ่งหอบหายใจ
ความวาบหวานถาโถมเข้าใส่ ลีลารักของสามีเร่าร้อนเกินบรรยาย เขาทำให้ร่างกายเธอกระตุกถึงฝั่งฝันด้วยความเสียวอย่างรุนแรง
ตอนแรกบอกกับภรรยาว่าจะทำเบาๆ และรอบเดียวในความหมายของเขาคือจะใช้มือและปากทำรักให้กับเธอ แต่พอเห็นสีหน้าและแววตาแสนยั่วยวนของเธอทำเข้าห้ามใจไม่ให้ไปต่อไม่ได้จริงๆ
"ถ้าพี่ทำต่อไหวไหมครับ"
เป็นคำถามที่ทำให้คนตัวเล็กหน้าแดงด้วยความเขินอาย อารมณ์ที่ถูกจุดไว้นั้นทำร่างกายของเธอร้อนผ่าวและต้องการ ดวงตาเยิ้มหวานตอบแทนทุกอย่าง เธอต้องการ และเขาเองก็ต้องการที่จะเข้าไปอยู่ในตัวเธอ
ปั่ก ปั่ก ปั่ก
เสียงเนื้อกระแทกกัน ยิ่งฟังก็ยิ่งเร้าอารมณ์ ชายหนุ่มจับภรรยาเปลี่ยนท่าหลากหลาย บางท่าก็น่าอาย แต่มันช่างแปลกใหม่และน่าลองสำหรับซูที่ไม่เคยมีประสบการณ์ ความเสียวกับความจุกมาพร้อมๆ กัน ยิ่งเธอร้องคราง ชายหนุ่มก็ยิ่งใส่กระแทกใส่ย้ำๆ ลืมคำว่า 'เบา' ไปได้เลย
"ทนอีกนิดนะ"
ชายหนุ่มกระซิบเสียงพร่า
"มะ...ไม่ไหวแล้วค่ะ"
เป็นเธอที่พ่ายแพ้ให้กับลีลา และตอนนี้นิ้วหนาก็กำลังสร้างความหฤหรรษ์ที่ตุ่มสียวให้กับเธอที่โดนกระแทกจากทางด้านหลังจนตัวโยกโคลน
"พี่จะเสร็จแล้ว"
เสียงทุ้มบอกขณะสอดใส่ตัวตนเข้ามาลึกๆ หนักๆ จากด้านหลัง หลังจากที่เสร็จ เขาจูบเธอที่หัวไหล่และแผ่นหลัง เป็นการแสดงออกถึงความรักที่ทำให้หัวใจของสาวโสดยุคสองพันไหวหวั่น แต่นั่นไม่ใช่กับ 'ซูเอ๋อร์' ภรรยาตัวจริงที่หงุดหงิดรำคาญ พอร่วมรักเสร็จก็หันหลังให้ทันที ความทรงจำนี้ทำซูถอนหายใจ พลันอดคิดไม่ได้ว่า
บางที...
การที่เธอทะลุมิติมาอยู่ที่นี่
อาจจะเป็นโชคดีของเฉิงอี้ก็ได้!!
แสงแดดที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างปลุกให้หญิงสาวที่เพิ่งผ่านศึกหนักในคืนร้อนแรงลืมตาตื่นขึ้นมาในสภาพที่ไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ เสื้อผ้ากระจัดกระจาย ส่วนสามีก็ไม่รู้ไปไหน เธอมองผ่านหน้าต่างออกไป ถึงได้รู้ว่าสามีแสนดีกำลังปลูกผักในสวนอย่างตั้งใจ หัวกะหล่ำปลีเพิ่งเก็บไป ส่วนแปลงปลูกคะน้าตรงนั้นก็กำลังโตได้ที่สวยเชียว"ขยันจริงๆ"ซูพูดกับตัวเองที่มีความทรงจำของซูเอ๋อร์ทุกอย่าง ผู้ชายคนนี้ทำแต่งาน วันๆ อยู่แต่ในสวนหรือไม่ก็ไปรับจ้างปลูกข้าวสาลีช่วยชาวบ้านที่มีพื้นที่ทำนาทำไร่ ฤดูเก็บเกี่ยวเขาก็ไป เงินทุกหยวนที่ได้มา ไม่ทันจะได้เก็บไว้ก็มักจะถูกภรรยาขอไปใช้ซื้อเสื้อผ้าและของฟุ่มเฟือย แล้วสามีจะมีเงินเหลือเก็บได้อย่างไร มีปลิงตัวใหญ่คอยสูบ คอยใช้ คำว่า 'ประหยัด' ไม่เคยอยู่ในหัวสมองด้วยซ้ำ'ฉันอยากได้ชุดใหม่''แต่คุณเพิ่งซื้อไปเองนะ''โอ้ยพี่!! จะงกอะไรนักหนา'พอโดนขัดใจ ซูเอ๋อร์ก็มักจะขึ้นเสียงใส่ ดวงตาคู่สวยเบิกโตอย่างไม่พอใจ ก่อนจะสะบัดก้นใส่สามีที่เพิ่งได้เงินมา ทำหน้างอไม่พูดไม่จา น้ำสักแก้วยื่นให้สามีหายเหนื่อยล้าก็ไม่มี เร่งแต่จะเอา เงิน เงิน และ เงิน อย่างเดียว'ซูเอ๋อร์'เฉิงอี้เรียกภรรยาที
"รอบเดียวพอนะครับ"คำพูดสองแง่สองง่ามทำให้คนที่คิดว่ารอดแน่ๆ ถึงกับต้องคิดใหม่ ดูเหมือนการสื่อสารของเธอจะผิดพลาดไป ทำไมเขาถึงได้มองเธอด้วยแววตาแฝงความนัยและดูกรุ้มกริ่มยังไงพิกล"รอบเดียวอะไรคะ"คนที่โดยสามีรั้งไว้ฝืนยิ้มแห้งๆ ถามกลับไป เธอแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ ท่าทีซื่อใสนั้นทำชายหนุ่มงง ทั้งๆ ที่เมื่อกี้เธอเป็นคนเอ่ยปากชวนเอง"จะยั่วพี่หรือครับ"เสียงทุ้มถาม ริมฝีปากของเขาที่คลอเคลียข้างหูทำซูขนลุกซู่ "พี่เฉิงอย่าแกล้งสิคะ"หญิงสาวตอบไป ในใจของเธอตอนนี้คือร้อนรน จะหนียังไงให้พ้นจากสามีที่จ้องจะกินภรรยา"ใครแกล้งกันแน่"มุมปากหยักกระตุกยิ้มจางๆ เมื่อเห็นแววตาของภรรยาสั่นไหว ไม่ต่างจากกวางน้อยที่กลัวหมาป่าจนกระสับกระส่าย ท่าทีที่ดูเปลี่ยนไป มันควรทำให้เขากังวลใจ แต่ทำไมนะ ทำไม เขาถึงได้มองว่ามันน่ารักน่าเอ็นดู"พี่เฉิง"หญิงสาวเรียกชื่อของสามีที่มือเริ่มซุกซน เดี๋ยวจับตรงนั้น เดี๋ยวแตะตรงนี้ บางตำแหน่งก็แอบรู้สึกดี แต่บางตำแหน่งก็ทำเธอใจเต้นไม่เป็นส่ำเลย"หือ??"ชายหนุ่มตอบรับเบาๆ "อย่าค่ะ"คำห้ามถูกกลืนหายเมื่อถูกริมฝีปากของสามีเจ้าของร่างทาบทับลงมา ความรู้สึกมันวาบหวามซาบซ่าน เหมือ
หลังจากกินข้าวเสร็จสามีก็เก็บถ้วยชามไปล้าง ทำราวกับเป็นหน้าที่ในชีวิตประจำวัน ส่วนเธอที่เป็นภรรยานั้นแค่นั่งเป็นกำลังใจให้ก็พอ"ไม่ถูกต้องเอามากๆ"ซูพึมพำ ไม่ใช่ว่าเธอไม่เสนอตัว ไม่ใช่ว่าเธอรักสบาย แต่ผู้ชายร่างสูงใหญ่เขากำชับเธอเสียงหนักแน่นว่าอย่าฝืนทำอะไรที่เกินตัว ไอ้ที่เกินตัวเขาหมายถึงอะไร ถ้าหมายถึงถ้วยชามที่เพิ่งกินไป มันไม่ได้เหนื่อยหนักหนาอะไรเลย หญิงสาวคิดในใจ ในเมื่อไม่รู้ว่าทำอะไร เธอจึงลุกขึ้นยืนสำรวจในบ้านของเจ้าของร่างนี้แทน "ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่"ดวงตาคู่สวยกวาดมองทุกอย่างรอบตัวที่ดูแตกต่างไปจากโลกเดิมของเธอ เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่มี ทั้งๆ ที่นี่คือปี 1980 ที่จีนกำลังพัฒนา สามีของซูเอ๋อร์คงจนมากสินะ ถึงยังใช้ตะเกียงให้ความสว่างอยู่เลย หญิงสาวคิดในใจ การไม่มีไฟฟ้าใช้บอกตรงๆ ว่าลำบากพอสมควรบ้านไม้เก่าๆ หลังนี้ในสายตาของเธอที่อยู่คอนโดและมีพื้นที่จำกัด ถือว่ากว้างพอสำหรับสองสามีภรรยา ภายในบ้านถูกจัดสรรแบ่งออกเป็นสัดส่วน มีห้องนอน ห้องเก็บของ มีพื้นที่โถงตรงกลาง ส่วนห้องครัวอยู่นอกบ้าน มีห้องน้ำที่สร้างถัดจากห้องครัวหน่อยหนึ่งห้องน้ำอยู่ข้างนอกนี่นะ??ซูคิดพลางถอนหายใจ หญิงส
หลังจากที่ฟื้นขึ้นมา ชายหนุ่มที่เป็น 'สามี' ก็รีบรุดเข้ามาประคอง ดวงตาคมเข้มที่มองหน้าเธอนั้นแดงเหมือนผ่านการร้องไห้มา และสีหน้าของเขานั้นก็ดูอิดโรยเหมือนคนอดหลับอดนอนมาหลายวัน"พี่ขอโทษ"เป็นคำขอโทษที่ซูไม่ได้อยากรับไว้ การที่เจ้าของร่างล้มหัวฟาดไป ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพราะเจ้าหล่อนทำตัวเอง "ช่วยพี่หว่านเมล็ดผักได้ไหม""พี่ไม่เห็นรึไงว่าแดดมันร้อน"หญิงสาวยกมือขึ้นมาบังหน้า แสงแแดดยามเที่ยงวันที่สาดส่องมามันทำเธอหงุดหงิดอยากกลับไปที่ร่มเร็วๆ"อีกแค่นิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว""เอ๊ะพี่...."หญิงสาวขึ้นเสียงทำหน้าไม่พอใจใส่ ก่อนจะพูดประโยคที่ทำคนบ้านใกล้เรือนเคียงส่ายหน้าไปมา นึกสงสารชายหนุ่มจับใจ มีตาหามีแววไม่ เมียสวยแล้วอย่างไร แต่นิสัยนั้นน่ารังเกียจริงๆ "เบาๆ สิซูเอ๋อร์""ไม่เบา"หญิงสาวไม่มีทีท่าจะทำตามคำพูดสามี"คนมองกันหมดแล้วนะ"ชายหนุ่มที่เกรงว่าภรรยาจะโดนคนนินทาพยายามดึงตัวเธอเข้าไป แต่สาวเจ้าก็สะบัดแขนใส่ ท่าทีไร้มารยาทต่างจากใบหน้าสวยพิมพ์ใจ ใครเห็นก็เอือมระอา"มองก็ดี จะได้รู้กันให้หมดว่าฉันเป็นภรรยาไม่ใช่คนใช้ที่ต้องก้มหน้าทำงานงกๆ ไปวันๆ "ซูเอ๋อร์โวยวายใส่สามีที่ถือถุงใส่เม
เคยได้ยินประโยคที่ว่า...'ผู้หญิงทุกคนมีค่าไหม??'ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าคอนโด ค่านู่น ค่านี่ บลา บลา บลา ที่รอให้จ่ายตอนสิ้นเดือน มันเป็นแรงขับเคลื่อนให้ผู้หญิงโสดวัยทำงานอย่าง 'ซู' ต้องขยันทำงาน คติประจำใจของเธอคือทำงาน = มีเงินซูที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยดัง จึงเลือกสมัครงานที่บริษัทดัง อัตราการแข่งขันสูงมาก เธอต้องทำผลงาน ผลของความขยันก็ไม่เคยทรยศใคร "ยินดีด้วยนะ""เก่งมากเลยซู""น่าอิจฉาจังเลย"ซึ่งบริษัทที่ซูได้ทำงานเป็นบริษัทที่ให้ค่าตอบแทนในการทำงานสูงมาก เป็นศูนย์รวมหัวกะทิที่จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง และซูก็ได้เป็นหนึ่งในพนักงานที่สอบผ่านข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ตัวต่อตัวเมื่อทำงานได้ระยะหนึ่ง ซูก็เลือกที่จะผ่อนคอนโด ผ่อนรถ ด้วยความอยากมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง ทำให้เธอใช้ชีวิตบ้าระห่ำไปกับการทำงาน เพื่อหาเงินมาโปะคอนโด โปะรถให้หมดไวๆ ใช้เวลาสามปี เธอก็ปลดหนี้ได้ และจุดมุ่งหมายใหม่คือเก็บเงินเพื่อเปิดร้านอาหารที่เป็นความชอบส่วนตัว เธอโตมากับครอบครัวฐานะปานกลาง ไม่ได้มีต้นทุนมาก ดังนั้นเธอจึงต้องปากกัดตีนถีบสอบให้ได้ทุน และทุนนี้ก็เปลี่ยนชีวิตของเธอ เธอมีโอกาสเธอมีงาน เธอม







