Share

บทที่ 2 ใจแข็งให้มาก 2

last update Last Updated: 2025-11-12 11:18:26


‘ว่าอย่างไร เจ้าไม่เห็นนางเป็นหลานแล้วหรือ!’

‘ย่อมต้องเอ็นดูนางไม่ต่างจากวันวาน เอาเถิด เช่นนั้นก็ลองใช้เหตุผลที่ข้าอ้างกับพวกแม่สื่อดู’

หลี่จินหมิงให้คำตอบว่ายังรู้สึกกับนางเฉกเช่นในวันวาน พร้อมกับเล่าไปด้วยว่าเคยกล่าวความเท็จกับพวกแม่สื่อที่ตามตอแยให้แต่งงานใหม่ ว่าต้องการไว้ทุกข์ให้กับภรรยาและบุตรที่มิได้ลืมตามาดูโลกเป็นเวลาสามปี เขาใช้เหตุผลเดียวกันนี้มาต่อรองเพื่อให้ทุกอย่างออกมาดูสมจริงมากที่สุด

เพื่อปกปิดสถานะและรักษาเกียรติของเสวียนหนิงอันแล้ว หลี่จินหมิงต้องอ้างว่าไม่สามารถจัดพิธีอันใดได้เพราะต้องรักษาเกียรติของตนเอง มิให้ผิดคำกล่าวที่ว่าต้องการไว้ทุกข์สามปีก่อนแต่งภรรยาใหม่เข้าบ้าน

เสวียนหนิงอันจำต้องยอมรับตำแหน่งภรรยาลับ กล่าวว่ายินดีรอจนกว่าเขาจะออกจากการไว้ทุกข์ ซึ่งก็คือในอีกสิบเดือนข้างหน้า ถึงเวลานั้นแล้วค่อยจัดการทุกอย่างให้ถูกต้องตามประเพณี โดยมิได้รู้เลยว่าเขาคิดใช้ช่วงเวลาสิบเดือนนี้พิสูจน์ว่านางมิได้รัก ทว่าเป็นความลุ่มหลงและอยากเอาชนะเท่านั้นเอง

‘หากข้าทำไม่สำเร็จ พ่ายแพ้ต่อเล่ห์กลของนางเล่า!’

‘เรื่องนี้ย่อมแก้ไขได้ไม่ยาก…’

ตวนอ๋องเฉินฟาหยางทำราวกับว่าการแต่งคุณหนูที่เอาแต่ใจตนเองอย่างมากเป็นภรรยาลับนั้นเป็นเรื่องง่าย ในขณะที่หลี่จินหมิงเองแทบไม่เห็นชัยชนะ ยิ่งต้องเผชิญหน้ากับความงามที่แสนเย้ายวนด้วยแล้ว อาจเรียกได้ว่าพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังมิเริ่มต้นแผนการเลยเสียด้วยซ้ำ

“เช่นนั้นก็ต้องใจแข็งให้มาก พูดคุยให้น้อย… มองหน้าให้น้อยยิ่งกว่า”

กว่าหลี่จินหมิงจะข่มตาหลับได้ก็ยามเหม่า[2]แล้ว

‘รักมากถึงเพียงนั้นเลยหรือ

คำถามสั้น ๆ ที่ยังตราตรึงแม้ในยามตื่นนอนทำให้เสวียนหนิงอันถึงกับต้องพ่นลมหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้ม นางจำได้ว่าตอนนั้นร้องไห้สะอึกสะอื้น ก้มหน้ายอมรับความจริงอย่างปวดร้าว ทั้งยังจำได้อีกด้วยว่ามารดามิได้ดุด่าว่ากล่าวเหมือนทุกครั้งที่ก่อเรื่อง บนใบหน้างดงามมีเพียงความเห็นใจ มิตอกย้ำซ้ำเติมเรื่องการกระทำที่ไม่เหมาะสม แต่นั่นกลับทำให้นางรู้สึกแย่เสียยิ่งกว่าเดิม

‘ใช้หัวใจให้มาก ใช้สมองวางแผนน้อยลงหน่อย หนิงเอ๋อร์เข้าใจที่แม่พูดหรือไม่’

‘เจ้าค่ะ ท่านแม่’

‘อย่าลืมใช้สติให้มาก เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วย่อมแก้ไขไม่ได้ อดีต... แก้ไขไม่ได้ ที่ทำได้คือการมองไปข้างหน้าและทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด แล้วทุกอย่างจะออกมาดีเอง’

เสวียนหนิงอันคิดตามคำสอนของมารดาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เข้าใจดีแล้วว่าบุรุษมิชอบสตรีมากเล่ห์ร้อยกล แค่ถูกวางยาจัดฉากให้อยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะสมจนต้องรับนางมาเป็นภรรยา เพียงเท่านั้นก็ยากจะกอบกู้ความสัมพันธ์ให้กลับมาดีได้แล้ว แต่กระนั้นเสวียนหนิงอันก็ยังคาดหวังว่าเขาจะยังใจดีไม่ต่างจากวันวาน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่นางคิดผิดไป

ลืมนึกไปว่าเขามิใช่คนเดิมที่นางเคยรู้จักแล้ว...

“ท่านจะต้องรักข้า...” นางปลอบใจตนเองมิให้ใส่ใจกับถ้อยคำร้ายกาจที่เขาเอ่ยเมื่อหลายชั่วยาม[3]ก่อน ในเมื่อนางทำผิดจริงก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา และในระหว่างนั้นก็หาทางทำให้เขากลับมาเอ็นดูนาง… รักนางดังเดิม

แน่นอนว่าต้องเป็นความรักฉันสามีภรรยา มิใช่อากับหลานเช่นเมื่อหลายปีก่อน แม้หนทางมีมากมายที่จะทำให้เขาลุ่มหลงจนถอนตัวได้ยาก แต่นางกลับเลือกวิธีที่ลำบากที่สุด

เสวียนหนิงอันเลือกที่จะไม่ใช้มารยาสตรี ละวางเล่ห์กลที่คล้ายฝังอยู่ในสายเลือดมาตั้งแต่กำเนิด หมายมาดว่าจะใช้ความจริงใจไถ่ความผิด และภาวนาว่าสักวันเขาจะเห็นถึงความตั้งใจดี นางมิได้ต้องการให้เขารักตอบอย่างที่นางรักเขา ขอเพียงไม่ผลักไสหรือดุเสียงแข็งเช่นเมื่อคืนที่ผ่านมาก็พอแล้ว

แต่กระนั้นนางก็ยังอดขุ่นเคืองใจมิได้

“ไม่มีสาวใช้จริง ๆ หรือนี่” นางสูดลมหายใจลึก ก่อนพาร่างบอบบางไปยังหลังฉากที่อยู่ไม่ไกลนัก

หลังจากล้างหน้าบ้วนปากด้วยน้ำเย็นเสวียนหนิงอันก็รีบแต่งตัวให้เรียบร้อย เสื้อผ้าที่เป็นของเก่าสวมแล้วอึดอัดเพราะทรวงอกของนางอวบขึ้นมากแล้ว ส่วนบังทรงนั้นรัดแน่นและทำให้หายใจลำบาก ทว่านางกลับไม่ใส่ใจเรื่องเล็กน้อยพรรค์นั้น ภาพสะท้อนบนกระจกต่างหากที่สำคัญจนถึงขั้นต้องอุทานออกมาอย่างตื่นตกใจ

“แย่แล้ว!”

มีเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่เสวียนหนิงอันยอมไม่ได้ นั่นคือเรื่องของความงาม ยามนี้ขอบตาของนางบวมเล็กน้อย ริมฝีปากไม่อวบอิ่มเพราะเมื่อวานตื่นเต้นจนแทบมิได้ดื่มน้ำ ไหนจะเรื่องที่นอนหลับไม่สนิทตลอดคืนนั่นอีก

นางค้นของในหีบใบเล็กอย่างรวดเร็ว หวาดกลัวเหลือเกินว่าท่านพ่อจะมิอนุญาตให้สาวใช้บรรจุของสำคัญลงหีบมาด้วย แต่พอเห็นเครื่องประทินโฉมและสมุนไพรบำรุงผิวยังอยู่ครบถ้วน รวมถึงยาบำรุงร่างกายที่มีมากถึงสิบสองขวด ใช้ได้นานถึงสิบสองเดือน นางก็พลันรู้สึกอุ่นวาบทั่วทั้งหัวใจ

เสวียนหนิงอันทราบดีแล้วว่าท่านพ่อมิได้โกรธเคืองถึงขั้นลงโทษด้วยการยึดข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวทั้งหมด เรื่องเสื้อผ้าเก่าที่ส่งมานางยังพอทนได้ หากของสำคัญเหล่านี้มิได้ถูกขนย้ายตามมาด้วย เสวียนหนิงอันคงปวดใจมากเป็นแน่ แต่พอนึกดูให้ดีบิดาของนางภาคภูมิใจในความหล่อเหลาของตนอย่างมาก ย่อมไม่อาจหักใจทำร้ายบุตรสาวที่มีนิสัยเช่นเดียวกัน ส่วนเรื่องยาบำรุงที่ต้องกินในทุก ๆ เช้าเป็นของที่ขาดไม่ได้ มีติดมาด้วยย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก

หลังจากกินยาที่กินมาตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัยสาวเรียบร้อยแล้ว มือเรียวจึงหยิบตลับขนาดเล็ก ตั้งใจว่าจะป้ายสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็นเพื่อให้ขอบตาของนางคล้ำน้อยลงสักหน่อย แต่สุดท้ายกลับชะงักมือชั่วคราว

หรือว่าจะใช้ร่องรอยเหล่านี้เรียกร้องความสนใจดี?

“ไม่ได้ ไม่ได้เป็นอันขาด”

เสวียนหนิงอันโคลงศีรษะเบา ๆ เตือนสติตนเองว่าจงใช้ความจริงใจเข้าสู้ มิใช่วางแผนจนถูกเกลียดชังมากขึ้นไปอีกขั้น นางทาสมุนไพรบำรุงผิวชั้นดีบนใบหน้า ซ่อนความไม่สดใสไว้ได้แปดส่วน แต่มิได้สนใจแต่งแต้มเครื่องประทินโฉมเพิ่มเติมแต่อย่างใด

นางพยายามเกล้าผมเช่นสตรีที่ออกเรือนแล้ว แต่กลับทำได้ไม่ดีจึงปล่อยผมยาวสยายลงตามเดิม ตั้งใจว่าจะทำผมเรียบง่ายเพราะคงได้อยู่แต่ในเรือนเล็กหลังนี้ ทว่ายังมิได้ทำอย่างที่ใจหวัง เสียงนุ่มทุ้มที่ดังมาแต่ไกลก็เปลี่ยนความตั้งใจนางเสียก่อน

เสวียนหนิงอันผลักประตูและเดินกึ่งวิ่งไปยังเจ้าของเสียงคุ้นเคย ปรากฏว่าเขายืนสั่งงานหญิงสูงวัยและสาวใช้อีกนาง ท่าทางเคร่งเครียดราวกับมีเรื่องคอขาดบาดตาย

“ท่านอา!” เสวียนหนิงอันเห็นเขาหยุดชะงักเล็กน้อย นางจึงยิ้มกว้างและก้าวขาเร็วยิ่งขึ้น แต่สุดท้ายกลับได้ยินประโยคที่ไม่น่าฟัง

“หากไม่มีเรื่องจำเป็นก็อย่าให้นางมารบกวนข้า”

น้ำเสียงเฉื่อยชาไร้อารมณ์ทำให้เสวียนหนิงอันหุบยิ้มทันที ใบหน้าของนางแดงก่ำเพราะความน้อยใจ ทั้งยังไม่รู้ว่าต้องทำเช่นใดต่อ ควรเดินกลับเข้าห้องไปขว้างปาข้าวของระบายอารมณ์ หรือว่าทักทายสตรีสูงวัยที่เมื่อวานเปิดประตูต้อนรับนางกลางดึกดี

“ฮูหยินน้อยรับมื้อเช้าเลยหรือไม่เจ้าคะ”

“ข้ายังไม่หิว…” ทว่าสายตาตำหนิของหญิงสูงวัยทำให้เสวียนหนิงอันกลืนน้ำลายพลางทัดปอยผมหลุดลุ่ยที่ใบหู พร้อมกับเตือนตนเองว่าที่นี่ไม่ใช่ตำหนักเยว่ฉี นางจึงควรระวังกิริยาให้มาก “ท่านป้าทำตามธรรมเนียมของบ้านนี้เถิด”

“เช่นนั้นก็รับอาหารเลยนะเจ้าคะ เลยเวลามาสองเค่อแล้ว”

เสวียนหนิงอันพยักหน้า ไม่ทำตัวยุ่งยากเอาแต่ใจอีก หากต้องการใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้อย่างราบรื่น นางก็ควรหาพรรคพวกไว้สักหน่อยมิใช่หรือ?

[1] ยามอิ๋น = ๐๓.๐๐ – ๐๔.๕๙ น.

[2] ยามเหม่า = ๐๕.๐๐ – ๐๖.๕๙ น.

[3] ๑ ชั่วยาม = ๒ ชั่วโมง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาลับพ่อค้าสกุลหลี่   บทส่งท้าย 3

    “ไม่จริงจัง? แต่เจ้าก็บอกว่าชอบมิใช่หรือ” หลี่จินหมิงเห็นนางเอียงอายเช่นนั้นก็ไม่รู้สึกว่าอยากดื่มสุราหรือกินกับแกล้มแล้วอยากกินภรรยามากกว่า…“พอถูไถไปได้ แต่ก็ไม่ดีเหมือนแต่ก่อน”“ลืมไปได้อย่างไรว่าภรรยาของพี่ยังสาวและร้อนแรง… วันนี้คงต้องดูแลเจ้าเต็มที่ ให้สมกับที่ละเลยมานานสักหน่อยแล้ว” หลี่จินหมิงมอบจูบวาบหวามให้กับภรรยาที่น่ารักไม่แปรเปลี่ยน มือใหญ่ลูบไล้บั้นท้ายจนนางต้องร้องห้ามเสียงสั่น“ท่านพี่ทำงานหนัก กลับมาบ้านยังช่วยดูแลลูก ๆ จนแทบไม่ได้หยุดพัก บางอย่างบางเรื่องยังไม่ต้องรีบร้อนก็ได้เจ้าค่ะ”“ร้างรามาเป็นปี กำลังวังชาพี่มีอยู่ล้นเหลือ หนิงเอ๋อร์ไม่ต้องกลัวว่าพี่จะเหนื่อย” หลี่จินหมิงเห็นนางยิ้มเจื่อนราวกับกำลังหาทางหลีกเลี่ยงจึงรีบสอบถามให้เข้าใจ “ยามอยู่เรือนใหญ่เจ้าอ้างว่ากลัวลูกตื่นกลางดึก วันใดที่พี่อยู่บ้านเจ้าก็อ้างว่าไม่ไว้ใจแม่นม ยามนี้ได้คนคุ้นหน้ากันมาช่วยเหลือดูแล หนิงเอ๋อร์คิดอ้างอันใดอีก… หรือว่าเจ้ารังเกียจสามีชราเช่นพี่เสียแล้ว”“มิใช่เช่นนั้นนะเจ้าคะ! ข้าแค่… แค่ไม่มั่นใจ”“ไม่มั่นใจ?” หลี่จินหมิงงุนงงจนกระทั่งนางนำมือเขาไปวางบนท้อง แต่แค่ครู่เดียวก็ไม่ให้

  • ภรรยาลับพ่อค้าสกุลหลี่   บทส่งท้าย 2

    เสวียนหนิงอันกอดแขนสามีเดินออกจากเรือนใหญ่ที่ย้ายมาอยู่หลังแต่งงานอย่างถูกต้องตามประเพณี ตัวเรือนปีกซ้ายถูกขยับขยายกว้างขวาง ส่วนฝั่งห้องเก็บของซึ่งเคยเป็นที่พำนักของจ้าวฮูหยินยังคงอยู่ตามเดิมเพื่อเป็นการให้เกียรติผู้ล่วงลับ โดยมีซุนหยาคอยดูแล“ไม่มีเรื่องอันใดมาก แค่ขันเรื่องที่ผ่านมาก็เท่านั้น” หลี่จินหมิงหอมแก้มภรรยาแผ่วเบา “นึกถึงวันที่เจ้าให้กำเนิดเจ้าก้อนแป้งทั้งสองด้วย”หวงซิงซวี่เก่งอย่างที่อวดอ้างจริง ๆ เขาจำได้ว่าภรรยาร้องเจ็บได้เพียงหนึ่งเค่อ ทารกแฝดก็ออกมาทักทายมารดา ทุกอย่างราบรื่นกว่าที่เขาจินตนาการไว้มากทีเดียว“วันนั้นเจ้าคงเจ็บมาก”“เจ็บจริงเจ้าค่ะ แต่ก็ไม่ได้แย่นัก” เสวียนหนิงอันยิ้มให้กับสามี “สงสารก็แต่พี่ซิงซวี่ เขาถูกท่านพ่อกับท่านพี่ร่วมมือกันกดดันนานกว่าเจ็ดเดือน หน้าตาทนมองไม่ได้ทีเดียว”“ชอบทดลองยากับผู้อื่นก็สมควรโดนแล้ว ว่าแต่ช่วงนี้เขาเป็นอย่างไรบ้างเล่า”“เห็นว่ากำลังจะถูกบังคับให้แต่งงานเจ้าค่ะ”“แต่งกับสตรีที่ฝากรอยข่วนไว้บนหน้าของเขาน่ะหรือ?” หลี่จินหมิงนึกได้ว่าลืมเล่าภรรยาจึงรีบชี้แจงโดยเร็ว“วันที่เราแต่งงานกัน เขาแวะมาแสดงความยินดีแล้วก็รีบกลับ ข้า

  • ภรรยาลับพ่อค้าสกุลหลี่   บทส่งท้าย 1

    หนึ่งปีผ่านไป...เสียงอ้อแอ้ของทารกน้อยวัยห้าเดือนทำให้หลี่จินหมิงอดหัวเราะไม่ได้ บุตรชายของเขาเลี้ยงง่ายที่สุด แทบไม่เคยร้องไห้ให้บิดาหรือมารดาต้องเหนื่อยปลอบใจ ต่างจากบุตรสาวที่ส่งเสียงร้องบ่อยกว่ามาก แต่อุ้มไม่นานก็หลับไป นิสัยคล้ายคลึงกับมารดาผู้ให้กำเนิดไม่ผิดเพี้ยนหลี่จินหมิงมองภรรยาที่เอนตัวพักหลังในช่วงบ่ายด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก พลางนึกถึงเรื่องเมื่อปีก่อนที่เขาต้องง้อนางอยู่เกือบเดือน พอเข้าใจกันดีกลับมีอีกเรื่องที่ทำให้เขากินไม่ได้นอนไม่หลับ นั่นคือเรื่องที่ภรรยาตั้งครรภ์ แต่กระนั้นนางก็หมั่นปลอบใจเขาจนคลายความวิตก ทั้งยังเปลี่ยนเรื่องได้อย่างฉลาด ว่าคนที่อาการน่ากังวลกว่ามากก็คือตัวเขาที่ปวดศีรษะเป็นประจำยามนั้นหมอหลวงสกุลหวงงานเข้าจนแทบไม่ได้พักผ่อน สามีของเฟยฮวาอาการบาดเจ็บกำเริบจากการฝืนเดินทางจึงต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิด หลังจากทำความสะอาดบาดแผลในช่วงเช้า หวงซิงซวี่ก็ต้องมาตรวจดูเขาอย่างละเอียดว่าป่วยเป็นโรคอันใด ยังมีเรื่องที่ต้องเดินทางตรวจคนไข้ประจำ รวมทั้งต้องเตรียมตัวเดินทางไปยังนอกเมืองเพื่อควบคุมสถานการณ์โรคระบาด เสวียนหนิงอันจึงเสนอแกมบังคับว่าให

  • ภรรยาลับพ่อค้าสกุลหลี่   บทที่ 43 ยอมให้อภัย 3

    “นานถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?” หลี่จินหมิงพักผ่อนไม่ดีมาหลายวัน ได้หลับสนิทนาน ๆ จึงรู้สึกว่าตนมีกำลังวังชาขึ้นมาก “ยาของหวงซิงซวี่ได้ผลดีเกินคาดจริง ๆ”“อย่าพูดจาเหลวไหลสิเจ้าคะ ยาของเขาอันตรายที่สุด เชื่อถือไม่ได้สักนิด เขาพูดว่าท่านควรได้สติภายในหกชั่วยาม แต่ท่านกลับหลับนานจนข้ากังวล เสียงดังอย่างไรก็ไม่ยอมฟื้น เขย่าอย่างไรก็ไม่รู้สึกตัว ข้าตกใจมากเลยนะเจ้าคะ” เสวียนหนิงอันตัดพ้อพลางเช็ดน้ำตาแรง ๆ“คงเป็นเพราะกินยาเกินกว่าที่เขาสั่งไว้กระมัง”หลี่จินหมิงไม่คิดว่าตัวยาจะมีฤทธิ์แรงจึงกินไปสองเม็ดในคราวเดียว “หนิงเอ๋อร์ พี่ขอโทษที่ทำให้เจ้ากังวล แต่ที่ผ่านมาพี่พยายามดูแลตนเองอย่างที่ให้คำสัญญาไว้กับเจ้า เพื่อที่จะได้อยู่ดูแลเจ้าไปนาน ๆ ใช่อยู่ว่าสามวันแรกที่เข้าใจว่าสูญเสียเจ้านั้นพี่ผิดคำพูดไปบ้าง กินเพียงกับแกล้ม ดื่มแค่สุรา แต่พอตั้งสติได้ก็รีบกลับมารักษาสุขภาพ ไม่เลือกกินอาหาร เดินออกกำลังในบ้านวนไปวนมาทุกวัน เพิ่งจะบังคับตนเองให้นอนไม่ได้ก็ราวเจ็ดวันที่ผ่านมานี้เอง”“เพิ่งจะนอนไม่ได้หรือเจ้าคะ” เสวียนหนิงอันถามอย่างมิเข้าใจนัก“เรื่องการนอนก็ยังเป็นปัญหาอยู่บ้างจริง ๆ พอไม่ได้ฟังคำข

  • ภรรยาลับพ่อค้าสกุลหลี่   บทที่ 43 ยอมให้อภัย 2

    สาวงามที่ถูกเรียกถึงกับส่ายหน้า นับวันเจียอียิ่งโตยิ่งเอาแต่ใจ บางครั้งก็พูดยากจนน่าตี เช่นบอกให้เรียกว่าคุณหนูเสวียนก็ไม่ยอมเรียก ทั้ง ๆ ที่ตักเตือนหลายหนแล้วว่าที่นี่ไม่ใช่เรือนเล็กในบ้านสกุลหลี่ ควรระมัดระวังกิริยาให้มาก แต่นางก็ยังไม่ยอมรับฟัง ทั้งยังไม่ปรับปรุงตัว มาวันนี้คงต้องดุมากสักหน่อยจะได้รู้ความเสียบ้าง ว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำกันแน่ทว่าเสวียนหนิงอันยังมิทันได้สั่งสอนอย่างที่ตั้งใจไว้ สาวใช้คนโปรดก็รีบรายงานเรื่องสำคัญที่ทำให้นางถึงกับต้องเสียกิริยา“นายท่านหมดสติไปตั้งแต่เมื่อวาน ผ่านมาสิบสองชั่วยามแล้วยังไม่ฟื้นเลยเจ้าค่ะ!”เสวียนหนิงอันวิ่งออกจากจวนของบิดาทันที!เสียงตวาดดังลั่นทำให้หวงซิงซวี่สะดุ้งสุดตัว แต่กระนั้นก็ยังไม่น่ากลัวเท่ายามที่เห็นน้องสาวคนงามถลาร่างเข้ามายืนข้าง ๆ บุรุษที่ยังไม่ได้สติ บนใบหน้างามเผยความเกรี้ยวกราดอย่างไม่ปิดปัง“ท่านพี่เป็นอย่างไรบ้าง!”​ เสวียนหนิงอันเขย่าแขนสามีแรง ๆ ทว่าเขายังคงนอนนิ่งเฉยดังเดิม “ท่านทำอันใดกับเขา บอกข้ามาตามตรงเดี๋ยวนี้!”“หนิงเอ๋อร์ใจเย็นก่อน...”“ท่านจะพูดหรือไม่!” เสวียนหนิงอันเดินเร็ว ๆ ไปยังหวงซิงซวี่ สองตาจ้อง

  • ภรรยาลับพ่อค้าสกุลหลี่   บทที่ 43 ยอมให้อภัย 1

    ยามพ่อบ้านหวังอู่แจ้งว่ามีแขกขอพบ เสวียนหนิงอันฟังแล้วไม่ใส่ใจ คิดไปว่าเป็นเล่ห์กลของสามีที่ต้องการวางแผนให้นางใจอ่อน แต่พอได้ยินชัด ๆ ว่าคนที่มาคือสตรีตั้งครรภ์นามว่าเฟยฮวากับสามี เสวียนหนิงอันก็พลันนิ่วหน้าอย่างไม่พอใจ เลือดลมในร่างกายแปรปรวน โทสะร้อนพลุ่งพล่านเสียยิ่งกว่าเดิม“นางอายุครรภ์ไม่น้อยแล้ว แต่เขากลับใช้เป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้พบข้า! ต่อให้ไม่อยากพบหน้าก็คงต้องพบ พูดคุยให้รู้เรื่องว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ!”เสวียนหนิงอันให้สาวใช้เชิญเฟยฮวาและสามีใจร้ายไปพบกันที่สวน หลายวันมานี้อาการของนางดีขึ้นมากเพราะยอมรับกับตนเองแล้วว่าบางอย่างตัดออกจากชีวิตไปก็ใช่ว่าจะให้ผลดี สวนสวยใกล้เรือนนางในยามนี้จึงมีกลิ่นดอกเหมยกุ้ยหอมเย้ายวน เชิญชวนให้คนที่ผ่านทางไปมาอารมณ์ดีนางเดินเร็ว ๆ ตรงไปยังร่างอวบอ้วนที่ยืนรออยู่ในศาลา ระหว่างนั้นก็เตรียมถ้อยคำเสียดสีเอาไว้มอบให้กับบุรุษที่นั่งอยู่ด้วย แต่พอเดินไปใกล้ ๆ ก็ตระหนักได้ว่าเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่นั่งผินหน้าชมดอกไม้โดยรอบ มิใช่บุรุษที่นางคะนึงหาแต่อย่างใดเขาคนนั้นร่างกายผ่ายผอมราวกับคนป่วยหนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นคนงามที่มองแล้วละสายตา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status