Share

บทที่ 8

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-08-15 11:46:23

ทุกๆ ปี ก่อนจะถึงวันครบรอบวันเกิดของท่านย่าก็คือเทศกาลหยวนเซียว[1] ที่พี่หญิงน้องหญิงของนางล้วนตั้งตารอ

ทุกปีเซียงหรงเองก็ตั้งตารอที่จะได้เดินเที่ยวเล่นในงานเทศกาล ได้เล่นเกมทายปริศนาต่อบทกวีชิงโคมไฟ ได้กินขนมอร่อยๆ มากมายที่ขายอยู่นอกจวน แต่สำหรับปีนี้...นางที่ต้องปักผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่ถึงสามผืน กลับไม่มีแก่ใจอยากออกไปเที่ยวเล่นแล้ว

นางกลัวเหลือเกินว่าจะปักผ้าเช็ดหน้าทั้งสามผืนเสร็จไม่ทันงานฉลองอายุครบหกสิบปีของท่านย่า...

ทีแรกนางคิดว่าเรื่องปักผ้าสามผืนครั้งนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะนางแน่ใจว่า ตนเองสามารถปักผ้าผืนใหม่ให้ท่านย่าแทนผืนที่พี่หญิงใหญ่ต้องการเสร็จทันงานฉลองวันเกิดครบห้ารอบของท่านย่าได้อย่างไม่ต้องสงสัย ใครจะคิดว่าพี่หญิงใหญ่และน้องห้าจะเข้ามาบอกนางด้วยสีหน้าจริงจัง ว่าต้องการผ้าทั้งสองผืนก่อนวันงานฉลองอายุครบห้ารอบของท่านย่า พอนางจะปฏิเสธ น้องห้าก็ทำท่าเหมือนจะอาละวาดขึ้นมา สุดท้ายนางจึงต้องรับปากเพื่อรักษาความสงบในเรือนหลังเอาไว้

เฮ้อ...ที่แท้การเป็นเด็กดีช่างยากนัก...

เสี่ยวเซียงหรงยกมือน้อยๆ ขึ้นกดกลางหว่างคิ้ว หลายวันมานี้ ตลอดทั้งวันนางต้องง่วนอยู่กับการปักผ้า ตอนนี้นางเริ่มจะมึนหัว สายตาของนางก็เริ่มจะล้า ตาลายไปหมดแล้ว

“น้องสาม เจ้าไม่สบายหรือ!” น้ำเสียงร้อนรนของพี่ชายใหญ่ เฉินจิ้งอี้ ทำเอาเซียงหรงตกใจจนพลาดทำเข็มปักมือ เฉินจิ้งอี้เห็นเข้าก็ตกใจ รีบปล่อยมือที่จูงน้องชายสาม เฉินจิ้งเสียน สาวเท้าเข้ามาดูมือให้น้องสาวตัวน้อย

เพียงเห็นว่ามือน้อยๆ ทั้งสองข้างของน้องสาวมีรอยเข็มตำเต็มไปหมด เฉินจิ้งอี้ พี่ใหญ่ผู้เคร่งขรึมจริงจังก็ขมวดคิ้วแน่น

“น้องสาม เหตุใดเด็กสาวอย่างเจ้าจึงต้องฝืนตนเอง ตลอดทั้งวันเอาแต่นั่งปักผ้าอยู่ในเรือนเช่นนี้” เฉินจิ้งอี้วัยสิบขวบเศษบ่นเหมือนผู้ใหญ่ไม่มีผิด เขาชี้ไปที่ท้องฟ้าด้านนอก “เจ้าดูสิ นี่ยามอะไรแล้ว เหตุใดยังฝืนอาศัยแสงสลัวๆ จากนอกหน้าต่างปักผ้าเช่นนี้! เด็กน้อยอย่างเจ้าไม่กลัวจะทำตาตัวเองเสีย แต่พี่ใหญ่อย่างข้าทนเห็นเจ้าเป็นเช่นนั้นไม่ได้!” เฉินจิ้งอี้แย่งเอาผ้า เข็ม และด้ายไปเก็บลงหีบขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กที่ตั้งอยู่ตรงหน้า คาดไม่ถึงว่าในหีบจะมีผ้าปักลวดลายวิจิตรบรรจงที่ปักเสร็จแล้วผืนหนึ่ง ซ้ำยังมีผ้าที่วาดลายผีเสื้อนับร้อยตัวเอาไว้อีกหนึ่งผืน

เฉินจิ้งอี้พอจะรู้ว่าน้องสาวคนดีคิดจะปักผ้าให้ท่านย่าเป็นของขวัญ ทว่า...ทว่าในเมื่อปักเสร็จไปแล้ว...เหตุใดจึงต้องปักเพิ่มอีก ซ้ำยังต้องปักเพิ่มอีกถึงสองผืนใหญ่ๆ “หรือว่าคนพวกนั้น…” เฉินจิ้งอี้คาดเดาได้ทันที เขาขบกรามแน่น เอ่ยเสียงลอดไรฟัน “ผู้ใดกัน บอกชื่อออกมา ครั้งนี้พี่ใหญ่อย่างข้าจะไม่ทนอีกแล้ว!”

เห็นพี่ชายใหญ่ของตนดูโมโหโกรธา เสี่ยวเซียงหรงก็กลัวว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ นางรีบตอบน้ำเสียงออดอ้อนอ่อนหวานเช่นทุกครั้ง

“จะมีผู้ใดที่ไหนกัน ของเหล่านี้หรงเอ๋อร์ตั้งใจปักเพราะระลึกถึงท่านแม่ที่อยู่บนสวรรค์...พี่จิ้งอี้ก็อย่าห้ามข้าเลยนะ...”

กลับเป็นน้องเล็กวัยสี่ห้าขวบ เฉินจิ้งเสียน ที่ไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปง่ายๆ

“พี่หญิงโกหก! ท่านบอกข้ามา ว่าครั้งนี้มีพี่สาวจากเรือนไหนมาข่มเหงรังแก บังคับให้ท่านทำของพรรค์นี้ให้!”

[1] เทศกาลโคมไฟ (元宵) เป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวงเป็นครั้งแรกของปี ในคืนนี้ของทุกปีจะมีการแขวนโคมไฟ เนื่องจากสมัยก่อนชายหญิงจะไม่ค่อยมีโอกาสได้พบหน้ากัน แต่คืนงานเทศกาล

หยวนเซียวนับเป็นคืนที่ชายหญิงได้ออกมาเดินเที่ยว พบหน้ากัน งานเทศกาลโคมไฟ หรืองานเทศกาลหยวนเซียว จึงมีนัยยะเป็นงานเทศกาลแห่งความรัก หรือคู่รัก ด้วยอีกอย่าง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 16

    “ของเหล่านั้นก็เพียงของนอกกาย ท่านเก็บไว้เถอะ!”“หรงเอ๋อร์...” หลี่จือหลินขยับมือที่กุมมือน้อยไว้ ยกมือของเซียงหรงข้างที่ถือถังหูลู่ขึ้นจรดริมฝีปากเล็กๆ ดูจิ้มลิ้ม “กัดสักคำสิ”เสี่ยวเซียงหรงตื่นตระหนก รีบส่ายหน้ายิกเห็นนางใกล้จะหลั่งน้ำตาเต็มทีแล้ว หลี่จือหลินยิ้มน้อยๆ ก่อนย่อตัวลงนั่งชันเข่า ปาดน้ำตาที่ใกล้จะร่วงหล่นให้นาง จุมพิตแก้มนุ่มละมุนที่เริ่มจะโดนความเย็นกัดจนขึ้นสีแดงระเรื่อเหมือนถังหูลู่ที่ถูกตนบังคับจับมือให้ถือเอาไว้เบาๆเซียงหรงพลันตกใจจนลืมร้องไห้อา...บอกนางเรื่องกำไลหยกที่ห้อยคอนางอยู่ดีไหมนะ? หลี่จือหลินไล้ปลายนิ้วเรียวงามไปตามกรอบหน้าเล็กๆ ที่ผิวพรรณขาวนวลผ่องใสราวกับจะคั้นน้ำออกมาได้หลังชั่งใจอยู่ชั่วครู่ จวิ้นหวังจ๋างจื่อก็เลื่อนมือขึ้นลูบศีรษะน้อยๆ ของนางอย่างถนอมยังก่อนถูกแล้ว...เขายังไม่จำเป็นต้องรีบร้อนบอกนางในยามนี้ รอนางโตกว่านี้ค่อยว่ากันใหม่ก็แล้วกัน...ทว่าเรื่องที่สมควรพูดก็ยังต้องพูด หว่านเมล็ดไปแล้วที่ไหนเลยคนชนชั้นตระหนี่ถี่เหนียวเช่นเขาจะปล่อยให้เสียเปล่า ไม่คิดเก็บเกี่ยวสักนิด ยามนี้เกาทัณฑ์ของเขาง้างสายเอาไว้แล้ว ลูกศรหรือก็ชี้ไปที่เป้า จะไม่ใ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 15

    “ข้าไม่แต่งให้ท่านนะ!!!” เสียงอันดังของเซียงหรง กับประโยคน่าตกใจ ทำเอาคนรอบข้างหันมามองพี่ชายจวิ้นหวังจ๋างจื่อกับนางเป็นตาเดียวกันสายตาของคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนด้านหน้า ทำเอาเสี่ยวเซียงหรงต้องกัดริมฝีปากแน่น ในใจได้แต่คิดว่า แย่แล้ว!นาง...เหตุใดนางกระทำการไม่ยั้งคิด โพล่งประโยคไร้มารยาทพรรค์นั้นออกมาต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้! ทำเช่นนี้...ทำเช่นนี้จวิ้นหวังจ๋างจื่ออย่างเขาคงเสียหน้ามากกระมัง?“เอ่อ...คือ...คือว่าข้า...” เซียงหรงอยากจะแก้ไขสถานการณ์ แต่ไม่รู้ว่าสมควรแก้ไขอย่างไรดีแล้วก็...ก็นางไม่อยากแต่งให้คนผู้นี้จริงๆ นี่นา!ไม่ใช่แค่กับคนผู้นี้ กับผู้ใดนางก็ไม่แต่งทั้งนั้น!หลี่จือหลินเห็นท่าทางของนางและสายตาคนรอบข้างแล้ว ก็แย้มรอยยิ้มที่ไม่พาดผ่านไปถึงดวงตา กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ“ของหมั้นก็รับไปแล้ว จะไม่แต่งให้ข้าได้อย่างไร”เอ๋!!! ของหมั้น? นางไปรับของพรรค์นั้นมาตั้งแต่เมื่อใด???หลี่จือหลินลดสายตาลงมองถังหูลู่ในมือนางเสี่ยวเซียงหรงเห็นสายตาเขาแล้วก็มองตามนะ นี่มัน หรือ...หรือว่า...“ต่อให้เจ้าโยนทิ้งลงพื้น ก็ถือว่าเจ้ารับของจากข้าไปแล้ว” หลี่จือหลิน ชิงดักคอ“ข้าจะคืน

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 14

    เซียงหรงพยายามกวาดตามองหาพี่หญิงรอง น้องสี่ ท่านพ่อ และพี่ชายใหญ่ ทว่ากลับมองไม่เห็นใครสักคนแม้เงา“เป็นอะไรไป” เจ้าของร้านพลันรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องหรือเด็กสาวคนนี้จะพลัดหลงกับสาวใช้?ประเดี๋ยวนะ...เด็กสาวผู้นี้มีเงินติดตัวมาหรือไม่ ได้ยินมาว่าพวกคุณหนูตัวน้อยเช่นนี้มักไม่ค่อยพกถุงเงิน เป็นหญิงรับใช้ต่างหากที่คอยดูแลชำระค่าสินค้าต่างๆ ให้พวกนาง...หากนางพลัดหลงกับสาวใช้และครอบครัวจริง เช่นนั้นความหวังที่จะได้เงินห้าตำลึงของตนคงหมดลงแล้ว! ไม่ถูก อย่าว่าแต่ห้าตำลึงเลย กับแค่เงินห้าอีแปะนางจะมีจ่ายให้หรือไม่ก็ยังไม่รู้!เจ้าของร้านพลันหงุดหงิดขึ้นมา วันนี้ค้าขายไม่ดียังไม่พอ ยังถูกคุณหนูตัวน้อยไม่รู้ความจากเรือนใดก็ไม่รู้มาก่อกวนเช่นนี้อีก!เขารีบเอ่ยเสียงแข็ง “คุณหนู จะไม่เอาถังหูลู่ทั้งหมดนี้แล้วก็ไม่เป็นไร ทว่าถังหูลู่ที่ท่านทำตกพื้นไม้นั้นเป็นของซื้อของขาย ท่านจะเก็บขึ้นมากินหรือไม่ล้วนไม่สำคัญ ทว่าท่านสมควรจ่ายค่าถังหูลู่ไม้นั้นมา” เจ้าของร้านแบมือ กระดิกนิ้ว เอ่ยเสียงขรึม “ข้าคิดค่าเสียหายกับค่าเสียเวลารวมทั้งหมดห้าอีแปะก็แล้วกัน! กับแค่เงินห้าอีแปะ อย่าบอกเชียวนะว่าคุณห

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 13

    เฉินเซียงหรงหันกลับไปมองทางพี่ใหญ่และท่านพ่อที่ยืนอยู่คนละฟากฝั่งเล็กน้อยเอาเถอะ...แยกจากไปซื้อถังหูลู่ครู่เดียว ทั้งยังมีสาวใช้ตามมาด้วยถึงสี่คน คงไม่เกิดเรื่องไม่ดีใดให้ทุกคนต้องเดือดร้อนวุ่นวายใจกระมัง?เสี่ยวเซียงหรงหันกลับไปยิ้มให้พี่หญิงรองและน้องสี่ แปลกใจเล็กน้อยที่วันนี้รอยยิ้มของพี่หญิงรองกับน้องสี่ดูแปลกนักล้วนคิดมากไป...ล้วนคิดมากเกินไปทั้งนั้น...เสี่ยวเซียงหรงสลัดความคิดในแง่ร้ายที่ก่อตัวขึ้นอย่างน่ารังเกียจทิ้งไป ก้าวขาเดินไปพร้อมๆ กับพี่หญิงน้องหญิงด้วยหัวใจที่เป็นสุขอา...ถังหูลู่...แค่นึกถึงรสหวานของน้ำตาลที่เคลือบอยู่บนผิงกั่ว[1] นางก็แทบอดใจรอลิ้มชิมรสชาติที่ไม่ได้สัมผัสมานานไม่ไหวในจวนของพวกนางไม่เคยทำขนมชนิดนี้เลยสักครั้ง ด้วยท่านพ่อและท่านย่าเกรงว่าจะทำให้ฟันของพวกนางไม่งาม ซ้ำยังปวดฟัน ยามออกมาข้างนอกเช่นนี้ ท่านพ่อก็ยังห้ามปรามไม่ให้นางแตะต้อง กล่าวว่านอกจากจะทำให้ฟันเสียได้แล้ว ยังไม่แน่ว่าจะสะอาด...กินถังหูลู่ไม้หนึ่งเพื่อให้พี่หญิงรองและน้องสี่สบายใจ คงไม่ถึงกับนับว่าเป็นเด็กไม่ดีกระมัง?อื้อ! ถูกแล้ว นางทำเพื่อให้พี่หญิงรองและน้องสี่สบายใจอย่างไรล่ะ!

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 12

    เสี่ยวเซียงหรงเห็นพี่ชายใหญ่ดูฮึกเหิมจริงจังก็อดขำไม่ได้ดูเหมือนพี่ใหญ่ของนางจะถูกเกมทายปริศนาทำให้เพลิดเพลินจนไม่อาจถอนตัวโดยง่ายแล้วเมื่อเห็นว่ามีการท้าทายกันเกิดขึ้น คนทั้งหลายในบริเวณนั้นต่างก็พากันแห่เข้ามาร่วมฟังคำถามจากเถ้าแก่ และรอลุ้นว่าคุณชายที่ยังเยาว์ผู้นี้จะตอบคำถามไปได้สักกี่ข้อ ชั่วอึดใจเดียวหน้าร้านทายปริศนาก็มีผู้คนมามุงแน่นขนัดเซียงหรงเองก็เพลิดเพลินไปกับการละเล่นทายปริศนาครั้งนี้ นางยืนฟังคำถามอย่างสงบ ขณะฟังไปก็คิดตามไปด้วย เถ้าแก่ถามมาสองข้อ นางก็ตอบในใจถูกทั้งสองข้อ ขณะกำลังตั้งใจฟังคำถามข้อที่สาม คาดไม่ถึงว่าจู่ๆ จะมีมือคู่หนึ่งมาปิดปาก พอหันไปมองก็เห็นว่าเป็นพี่หญิงรอง เฉินเหม่ยลี่ และน้องสี่ เฉินเหม่ยเซียงกำลังจะเอ่ยทัก พี่หญิงรองกลับดึงนางออกไปจากกลุ่มคนทั้งอย่างนั้นเซียงหรงเห็นว่าพี่ใหญ่และน้องเล็ก รวมถึงบ่าวชายสาวใช้ที่ติดตามมาล้วนกำลังเพลิดเพลินกับการทายปริศนา ซ้ำพี่หญิงรองและน้องหญิงสี่ยังมีสาวใช้ตามมาด้วยคนละสองคน รวมเป็นสี่คน นางจึงไม่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่รบกวนความสนุกของผู้คน ยอมเดินตามพี่หญิงน้องหญิงของตนออกไปอย่างเงียบๆเดินห่างออกมามากห

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 11

    เด็กสาวที่ไหนๆ ก็ชอบของน่ารักๆ เช่นนี้ทั้งนั้น เขามั่นใจว่าตนเองเดาไม่ผิดและก็เป็นเช่นนั้นจริงๆเสี่ยวเซียงหรงพยักหน้าเล็กๆ ดูจิ้มลิ้ม กล่าวเสียงหวาน สำเนียงติดจะอ้อน“พี่ใหญ่...โคมกระต่ายอันนั้นน่ารักมากจริงๆ”เห็นนัยน์ตาสุกสกาวของน้องสาวแล้ว เฉินจิ้งอี้ก็ยิ่งฮึกเหิมในที่สุดน้องสาวตัวน้อยของเขาก็เลิกเหม่อลอยแล้ว!“ดี! ในเมื่อเจ้าอยากได้ พี่ใหญ่ก็จะชิงโคมกระต่ายมาให้เจ้า!” เฉินจิ้งอี้จูงมือน้องชายน้องสาวแยกจากคนอื่นๆ มุ่งหน้าไปทายปริศนาชิงโคมไฟทันทีหึ...คนอื่นๆ ก็ล้วนมีคนติดตามกันทั้งนั้น เหมือนๆ กับที่เขาและน้องชายน้องสาวมี เหตุใดเขาจะต้องใส่ใจคนเหล่านั้น?คนเหล่านั้นยามอยู่ในจวนล้วนเก่งกาจ หาเหตุมากลั่นแกล้งรังแกหรงเอ๋อร์ของเขาได้ทุกวัน ส่วนท่านพ่อแม้จะรักเอ็นดูเขาและน้องชายน้องสาวแล้วอย่างไร? วันทั้งวันท่านพ่อผู้นั้นก็เอาแต่ใส่ใจงานราชการ ไม่สนใจเรื่องในเรือนสักนิด เขาบอกกล่าวสิ่งใดกลับดุว่า กล่าวว่าบุรุษเช่นเขาสมควรใส่ใจศึกษาหาความรู้และความเจริญก้าวหน้า มิใช่คอยกล่าวหาคนในเรือนทั้งๆ ที่ไม่มีมูลเช่นนี้ ยามนี้ออกมานอกจวนก็เชิญเหล่าคนที่เก่งกาจทั้งหลายดูแลตนเองและกันและกันให้ดีก็

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status