Share

บทที่ 65

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-09-10 15:05:42

กลางฤดูใบไม้ผลิ สวนดอกเหมยในจวนเฉินกั๋วกงงดงามจับใจ กลีบดอกที่โรยตัวล้อสายลมเหมือนม่านโปรยขาวบาง ประดับพื้นหญ้าจนดูคล้ายพรมบุปผาแสนงาม เซียงหรงนั่งอยู่บนม้านั่งไม้ไผ่ใต้ร่มเหมย หวังว่าจะได้ใช้ช่วงเวลาสงบอ่านตำราเพลงพิณเล่มโปรด

ซู่ซินซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล เห็นนายสาวของตนแววตาจดจ่อ ทว่าแก้มป่องเล็กน้อย ราวกับครุ่นคิดไม่เลิกเกี่ยวกับเหตุการณ์ในงานประชันโฉมงามยอดเมธี นางไม่กล้าเอ่ยขัดจังหวะ ได้แต่ยืนถือถาดน้ำชาในมือ รอจนกว่าเซียงหรงจะเรียก

เนิ่นนานจากนั้น นางจึงค่อยได้ยินเสียงฝีเท้าแว่วมา

ซู่ซินหันไปมอง ขมวดคิ้วเล็กน้อย ผู้ใดกัน ต้องมารบกวนตอนที่คุณหนูกำลังจะได้อยู่อย่างสงบทุกทีสิน่า

นับตั้งแต่นายสาวของนางได้ชื่อว่าเป็นโฉมงามยอดเมธีของปีนี้ ชีวิตในเรือนก็เริ่มสุขสงบลงมากยิ่งขึ้น แม้จะเริ่มมีเทียบเชิญให้ไปร่วมชุมนุมงานกวี หรือเล่นดนตรีชมบุปผา ร่ำสุราแต่งกลอนกับเหล่าบัณฑิตสุภาพชนทั้งหลาย ทั้งชื่อเสียงที่เคยเสียหายก็กลับมาดีแล้วจากการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อหน้าธารกำนัลในครานั้น

ยิ่งผู้พิสูจน์คือหมอหญิงและนางกำนัลในวัง มีไท่โฮ่วและหวงโฮ่วเป็นประธาน ใครเล่าจะกล้าแย้งว่าการพิสูจน์ไม่เป็นไปอย่างชอบธรรม

เช่นนี้ มลทินของคุณหนูของนางก็ถูกลบเลือนไปอย่างสิ้นเชิง ซ้ำยังได้รับปิ่นหงส์พระราชทานและคำเชิดชูคุณธรรมความกล้าหาญจากหวงโฮ่ว คุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกง ยิ่งนับวันก็ยิ่งเปล่งประกายราวกับหยกงามที่ถูกขัดล้างเอาฝุ่นละอองที่เกาะอยู่เนิ่นนานออกไปสิ้น ทั้งงดงามทั้งเจิดจรัสยิ่งกว่าดวงเดือนหรือพระอาทิตย์บนท้องฟ้า

ก่อนหน้าไปไหนยังถูกผู้คนซุบซิบนินทา แต่ตอนนี้ แม้แต่สาวใช้ที่มีหน้าที่ออกไปซื้อของในตลาดก็ยังสามารถยืนยืดอกเชิดหน้าได้อย่างภาคภูมิ

โฉมงามยอดเมธีคือสิ่งใดเล่า โฉมงามยอดเมธีก็คือสมญาที่มอบให้สตรีที่เพียบพร้อมทั้งรูปโฉมและความสามารถ

คุณหนูของนางนับว่าเป็นโฉมสะคราญที่หาได้ยากผู้หนึ่ง ส่วนเรื่องความสามารถหรือ...หึ...ดูเอาจากสายตาที่ทั้งตื่นตะลึงทั้งชื่นชมหรือแม้แต่อิจฉาริษยาของเหล่าผู้เข้าร่วมการประชันขันแข่งในสวนชิงหลิงเอาเถิด...

ตอนนี้ทั้งเมืองหลวงกำลังตื่นเต้นกับหญิงงามที่เพียบพร้อมอย่างคุณหนูสามของนางผู้นี้ เทียบเชิญหลั่งไหลมาที่เรือนราวกับสายน้ำหลาก

เมื่อก่อนผู้คนต่างพูดถึงกันว่าอย่างไรนะ เด็กสาวเปื้อนราคีคาว หากเข้าใกล้ก็พลอยเหม็นโฉ่ไปด้วย เหอะ! ตอนนี้ไม่รู้ว่าคุณหนูสามของนางกลายร่างเป็นอำพันทะเลหรืออย่างไร ถึงมีแต่คนยื้อแย่งอยากอยู่ใกล้เพื่อให้ตัวได้กลิ่นหอมเช่นนี้!

ซู่ซินพึมพำกับตัวเอง เพียงครู่เดียวเท่านั้นนางก็เห็นเจ้าของฝีเท้า นางอ้าปากจะส่งเสียงเรียกคุณหนูของตน แต่กลับถูกผู้มาเยือนโบกมือห้าม

ซู่ซินลังเลเล็กน้อย ก่อนค่อยๆ พยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง

ช่างเถิด หากเป็นท่านผู้นี้ก็คงไม่เป็นไรกระมัง อีกหน่อยก็ต้องเรียกว่าท่านเขยแล้วนี่นา

โฉมงามที่ยังคงนั่งเหม่อลอยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าผู้ใดกำลังเดินเข้ามาใกล้ นางถอนหายใจอย่างเงียบเชียบ แม้ดวงตาจะจดจ่ออยู่ที่ตำราพิณ ทว่าดวงใจกลับครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมาในช่วงนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

การที่ปล่อยให้หลี่จือหลินประกาศออกไปเช่นนี้ว่านางเคยผูกสมัครรักใคร่กับคนของตำหนักจวิ้นหวัง...อืมมม...หวังว่าคงจะทำให้นางได้รับความสงบเสียบ้าง...

"หรงเอ๋อร์"

...ซะที่ไหนกันเล่า! น้ำเสียงทุ้มนุ่มที่ดังขึ้น ทำเอาคนถูกเรียกสะดุ้งน้อย ๆ เซียงหรงหันไปมองคนเรียก เห็นหลี่จือหลินในอาภรณ์ลำลองสีครามเข้มกำลังยืนอยู่ที่ทางเดิน ดอกเหมยโปรยปรายลงมาบนไหล่กว้าง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 65

    กลางฤดูใบไม้ผลิ สวนดอกเหมยในจวนเฉินกั๋วกงงดงามจับใจ กลีบดอกที่โรยตัวล้อสายลมเหมือนม่านโปรยขาวบาง ประดับพื้นหญ้าจนดูคล้ายพรมบุปผาแสนงาม เซียงหรงนั่งอยู่บนม้านั่งไม้ไผ่ใต้ร่มเหมย หวังว่าจะได้ใช้ช่วงเวลาสงบอ่านตำราเพลงพิณเล่มโปรดซู่ซินซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล เห็นนายสาวของตนแววตาจดจ่อ ทว่าแก้มป่องเล็กน้อย ราวกับครุ่นคิดไม่เลิกเกี่ยวกับเหตุการณ์ในงานประชันโฉมงามยอดเมธี นางไม่กล้าเอ่ยขัดจังหวะ ได้แต่ยืนถือถาดน้ำชาในมือ รอจนกว่าเซียงหรงจะเรียกเนิ่นนานจากนั้น นางจึงค่อยได้ยินเสียงฝีเท้าแว่วมาซู่ซินหันไปมอง ขมวดคิ้วเล็กน้อย ผู้ใดกัน ต้องมารบกวนตอนที่คุณหนูกำลังจะได้อยู่อย่างสงบทุกทีสิน่านับตั้งแต่นายสาวของนางได้ชื่อว่าเป็นโฉมงามยอดเมธีของปีนี้ ชีวิตในเรือนก็เริ่มสุขสงบลงมากยิ่งขึ้น แม้จะเริ่มมีเทียบเชิญให้ไปร่วมชุมนุมงานกวี หรือเล่นดนตรีชมบุปผา ร่ำสุราแต่งกลอนกับเหล่าบัณฑิตสุภาพชนทั้งหลาย ทั้งชื่อเสียงที่เคยเสียหายก็กลับมาดีแล้วจากการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อหน้าธารกำนัลในครานั้นยิ่งผู้พิสูจน์คือหมอหญิงและนางกำนัลในวัง มีไท่โฮ่วและหวงโฮ่วเป็นประธาน ใครเล่าจะกล้าแย้งว่าการพิสูจน์ไม่เป็นไปอย่างชอบธ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 64

    เสียงฮือฮายังคงอื้ออึงในลานประลอง ทว่าในใจของเซียงหรงกลับเหมือนคลื่นน้ำที่ถาโถมเข้าหาฝั่งไม่หยุดนางรู้สึกหน้ามืดวูบ ตั้งแต่หลี่จือหลินก้าวออกมาประกาศอย่างเต็มเสียง ว่านางเป็นคู่หมั้นของเขาเซียงหรงพลันหายใจไม่ทั่วท้อง หัวใจเต้นรัวอย่างตื่นตระหนก ภาพตรงหน้าของนางเหลือเพียงม่านหมอกสีดำร่างอ้อนแอ้นบอบบางทรุดฮวบไปในทันทีซู่ซินรีบเข้าไปประคองพลางร้องลั่น"คุณหนู! คุณหนูเป็นอะไรไปเจ้าคะ!"หลี่จือหลินที่ยืนอยู่ไม่ไกลใบหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เขาก้าวพรวดพราดเข้าไปหา ‘หญิงคู่หมั้น’ ย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองร่างน้อยด้วยความรวดเร็ว กวาดมือออกเป็นเชิงบอกให้ซู่ซินหลบไป"หรงเอ๋อร์!" เสียงทุ้มต่ำเรียกนางอย่างอ่อนโยน กดจุดบนฝ่ามือนางด้วยแรงที่พอเหมาะเซียงหรงค่อยๆ ได้สติคืนมา เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่ใกล้แค่เอื้อม หัวใจก็พลันเต้นระรัวขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะหวั่นไหว แต่เพราะความตื่นตระหนกที่ประดังประเดเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้งถังหูลู่ห้าอีแปะ! สัญญาน่าหัวร่อในวัยเด็กนั่น... เซียงหรงคิดอย่างสิ้นหวัง ต

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 63

    เวลาผ่านไปได้ไม่นาน หลังจากตรวจดูจนแน่ใจ หมอหญิงที่มีความเชี่ยวชาญสูงสุดก้าวออกมาพร้อมกับสีหน้าจริงจัง“ทูลหวงโฮ่ว เรียนราชบัณฑิตและสักขีพยานทุกท่าน ข้าในนามหมอหลวงหญิงผู้ตรวจสอบ ขอประกาศว่าผลการตรวจสอบพรหมจรรย์ คุณหนูสามแห่งจวนเฉินกั๋วกงยังคงบริสุทธิ์ผุดผ่อง หาได้แปดเปื้อนราคีคาวดังที่ถูกกล่าวหาไม่!”ทันทีที่คำกล่าวนั้นถูกประกาศ เสียงซุบซิบในลานพลันเงียบสงบลง เหล่าผู้คนที่เคยวิพากษ์วิจารณ์กลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก บางคนเริ่มกล่าวขอโทษอย่างกระอักกระอ่วนไท่โฮ่วตรัสด้วยสุรเสียงเรียบเรื่อย ทว่าทรงอำนาจ “เรื่องนี้ควรเป็นบทเรียนแก่ทุกคน อย่าให้ข่าวลือที่ไร้หลักฐานกลายเป็นอาวุธทำลายเกียรติของสตรีอีกต่อไป”สวีหวงโฮ่วค้อมศีรษะคารวะแม่สามีอย่างนบนอบ “เสด็จแม่กล่าวได้ถูกต้องแล้วเพคะ” พระนางผินหน้ากลับมาถอดปิ่นหงส์ทองคำอันหนึ่งออกส่งให้นางกำนัลคนสนิท ประกาศด้วยเสียงอันดัง “คุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกงเปรียบดังทองแท้ไม่กลัวไฟ งดงามกล้าหาญ นับเป็นแบบอย่างที่ดีของสตรีเยาว์วัย มอบปิ่นหงส์ทองคำประดับมุกหยกเป็นรา

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 62

    บรรยากาศในลานประชันฝีมือยังคงคึกคักหลังจากการแสดงของยอดหญิงงามทั้งห้าสิ้นสุดลง เมื่อถึงเวลาลงคะแนน ป้ายไม้กลับถูกมอบให้แก่สตรีที่ไม่ได้อยู่ในสายตาผู้ใดมาก่อนอย่างคุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกง เฉินเซียงหรง กองป้ายสูงเกือบสามเท่าตัวคนทำให้นางกลายเป็นผู้ชนะไปอย่างขาดลอย ได้ครอบครองตำแหน่งโฉมงามยอดเมธีในปีนี้เซียงหรงยิ้มน้อยๆ อย่างสงบเสงี่ยมเช่นเดิม นางเองก็รู้สึกดีใจไม่น้อย แต่ไม่ได้เสียกิริยาเพียงเพราะเสียงปรบมือกึกก้องแต่อย่างใดทว่าเพียงครู่เดียว ก็ได้ยินเสียงเย้ยหยันจากใครบางคนในกลุ่มฝูงชนที่มาชมการแข่งขัน“โฉมงามยอดเมธีในปีนี้ เป็นเพียงสตรีที่แปดเปื้อนราคีคาว! น่าอับอายยิ่งนัก!”เสียงคำกล่าวหยามเหยียดนั้นไม่ดังมาก แต่ชัดเจนพอที่จะทำให้ทั้งลานแข่งขันเงียบลงสีหน้าของเฉินกั๋วกงทั้งเจ็บแค้นทั้งโศกสลด เช่นเดียวกับอนุหาน หานชิงเยว่ ที่ลุกขึ้นมาในทันใด“ผู้ใดกล่าวหาบุตรีข้า! คุณหนูสามจวนเฉินกั๋วกง!” นางตะเบงเสียง ยิ่งเอ่ยก็ยิ่งดัง “องครักษ์จวนสกุลเฉินอยู่ที่ใด รีบตามหาตัวคนพูดเดี๋ยวนี้! ข้าจะทำให้แน่ใจว่ามันจะไม่ได้

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 61

    เฉินเซียงหรงยืนอยู่กลางลานแข่งขันด้วยชุดผ้าไหมสีฟ้าปักลายดอกเหมยละเอียดอ่อน ดวงหน้าของนางสงบนิ่ง ทว่าดวงตาคู่งามเปล่งประกายแห่งสมาธิและความมั่นใจเบื้องหน้านางยามนี้มีม้วนกระดาษเซวียนจื่อที่ถูกจับขึงตั้งฉากกับพื้น แขวนไว้ด้วยเส้นเชือกเกลียวทองอันบางเบา ซ้ายมือมีโต๊ะที่ตั้งฉินเอาไว้สายลมพัดดอกเหมยพร่างพรู เซียงหรงยกพู่กันขึ้นด้วยมือขวา พลันปลายนิ้วของมือซ้ายก็เริ่มดีดสายพิณ เพลงที่บรรเลงเป็นทำนองที่รื่นหู ทว่ามีความลึกล้ำคล้ายสะท้อนธรรมชาติ ดั่งสายลมที่พัดผ่านเหล่าดอกเหมยบนภูเขาหิมะปลายพู่กันตวัดไปตามเสียงพิณราวกับเป็นส่วนหนึ่งของท่วงทำนอง นางก้าวขยับไปมาอย่างพลิ้วไหว อาภรณ์ปลิวตามลมเบา ๆ มือหนึ่งดีดฉินคลอคล้ายบอกเล่าเรื่องราวของสายลมและสายฝน อีกมือลากปลายพู่กันสร้างเส้นสายของภาพบนกระดาษ ขณะดีดพิณ นางหมุนตัว ตวัดพู่กันเป็นเส้นโค้งที่งดงามราวกวางน้อยกำลังโลดแล่นในหุบเขาภาพบนกระดาษเซวียนจื่อเริ่มชัดเจนขึ้น เป็นภาพของดอกเหมยยืนต้นท่ามกลางหิมะโปรยปรายภาพนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามของธรรมชาติ แต่ยังเปี่ยมด้วยความหมายลึกซึ้ง เหมือนบอกเล่าถึงจิตใจของ

  • ภรรยาห้าอีแปะ   บทที่ 60

    เสียงกระซิบเหล่านั้นลอยไปถึงหูนางกำนัลของหวงโฮ่วที่อยู่ไม่ไกลจากฝูงชนนางกำนัลเห็นสายตาที่หวงโฮ่วมองไปยังคุณหนูสาม เฉินเซียงหรง ซึ่งยามนี้ยืนรับคำชื่นชมจากทุกทิศทาง ก็รีบปราดเข้าไปกระซิบกระซาบรายงานทันทีฉับพลัน ตาหงส์ที่สงบไว้สง่าของสวีหวงโฮ่วฉายแววชื่นชมประสมยินดีสตรีเก่งกาจและมีนิสัยสงบเสงี่ยม จิตใจมั่นคง ไม่อวดอ้างตน ไม่หวั่นไหวต่อลมปากผู้คน และที่สำคัญ...แม้จะสูญเสียมารดาตั้งแต่ยังเยาว์ บิดาไม่ได้ทะนุถนอมปกป้อง แต่ยังคงมีความอดทน สามารถเติบโตขึ้นมาได้ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากในจวนเฉินกั๋วกง ซ้ำยังมีความสามารถเลิศล้ำเช่นนี้ ย่อมเป็นยอดหญิงที่หาได้ยาก โบราณว่า ‘ใกล้ชาดเปื้อนแดง ใกล้หมึกเปื้อนดำ’ หากองค์ชายได้อภิเษกกับสตรีเช่นนี้ นอกจากจะทำให้มีเรือนหลังที่มั่นคงแล้ว ยังจะช่วยส่งเสริมจิตใจให้มีความมุ่งมั่นและมั่นคงมากขึ้น ช่วยให้องค์ชายสามารถรับภาระในอนาคตและความท้าทายในราชวงศ์ได้อย่างมั่นใจความคิดเหล่านี้เริ่มซึมซาบเข้าสู่จิตใจของพระนางถูกแล้ว...บุตรสาวของเฉินกั๋วกงที่เกิด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status