ความสงสัยและความไม่ไว้วางใจที่พิมหว่านไว้ในใจของคุณหญิงอรุณีและหม่อมราชวงศ์เทวินทร์ เริ่มออกดอกผล คุณหญิงอรุณีตัดสินใจที่จะจับตาดูน้ำตาลอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น และพยายามหาหลักฐานมายืนยันความคิดของเธอว่าน้ำตาลไม่ได้จริงใจกับหมอคิน
พิมเองก็ไม่หยุดอยู่แค่นั้น เธอเริ่มวางแผนที่จะใส่ร้ายน้ำตาล เพื่อให้หมอคินเข้าใจผิดและตีตัวออกห่างจากเธอ วันหนึ่ง พิมได้แอบเห็นน้ำตาลคุยกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ตลาด ชายคนนั้นเป็นเพื่อนเก่าของน้ำตาลที่ไม่ได้เจอกันนาน พิมรีบฉวยโอกาสนี้ถ่ายรูปทั้งสองคนไว้ในมุมที่ดูสนิทสนมเกินจริง หลังจากนั้น พิมได้นำรูปถ่ายเหล่านั้นไปให้คุณหญิงอรุณีดู “คุณป้าคะ หนูบังเอิญเห็นน้องน้ำตาลอยู่กับผู้ชายคนอื่นที่ตลาดค่ะ ดูสนิทสนมกันมาก ๆ” พิมกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงความกังวล คุณหญิงอรุณีรับรูปมาดูด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด ภาพที่เห็นทำให้ความสงสัยในใจของเธอทวีความรุนแรงขึ้น “นี่มันอะไรกัน?” คุณหญิงอรุณีพึมพำ “หนูก็ไม่แน่ใจค่ะคุณป้า แต่หนูเป็นห่วงคุณคิน กลัวว่าเขาจะถูกหลอก” พิมกล่าวเสริม คุณหญิงอรุณีเก็บรูปถ่ายเหล่านั้นไว้ในใจ เธอตัดสินใจที่จะนำเรื่องนี้ไปบอกหมอคิน เย็นวันนั้น เมื่อหมอคินกลับมาถึงบ้าน คุณหญิงอรุณีได้เรียกเขามาคุยเป็นการส่วนตัว “คิน แม่มีอะไรจะให้ลูกดู” คุณหญิงอรุณีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง หมอคินรับรูปถ่ายจากมือแม่มาดู เมื่อเห็นภาพน้ำตาลอยู่ใกล้ชิดกับชายหนุ่มคนอื่น เขาก็รู้สึกตกใจและสับสน “นี่มัน...” หมอคินอุทาน “แม่ได้ยินมาว่าเด็กคนนั้นสนิทสนมกับผู้ชายหลายคน แม่กลัวว่าลูกจะถูกหลอก” คุณหญิงอรุณีกล่าวด้วยความเป็นห่วง หมอคินเงียบไป เขาไม่รู้ว่าภาพที่เห็นนั้นคืออะไร และควรจะเชื่อแม่หรือเชื่อใจน้ำตาลดี ในขณะเดียวกัน พิมก็แสร้งทำเป็นห่วงใยหมอคิน คอยถามไถ่และให้กำลังใจเขา “คุณคินคะ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ดูไม่สบายใจเลย” พิมถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หมอคินถอนหายใจ “ผมเห็นรูปน้ำตาลอยู่กับผู้ชายคนอื่น” พิมทำท่าตกใจ “จริงเหรอคะ? หนูไม่คิดว่าน้องเขาจะเป็นแบบนั้น” “ผมก็ไม่แน่ใจ” หมอคินกล่าวด้วยความสับสน “คุณคินลองคุยกับน้องเขาดูสิคะ เผื่อจะมีอะไรเข้าใจผิดกัน” พิมแนะ แต่ในใจลึก ๆ ของพิมกลับหวังว่าความเข้าใจผิดนี้จะทำให้หมอคินตีตัวออกห่างจากน้ำตาล หมอคินตัดสินใจที่จะไปหาน้ำตาลที่ตลาดในวันรุ่งขึ้น เขาต้องการที่จะถามความจริงจากเธอ เมื่อน้ำตาลเห็นหมอคินมาด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก เธอก็รู้สึกใจไม่ดี “คุณหมอเป็นอะไรไปคะ?” น้ำตาลถามด้วยความเป็นห่วง หมอคินหยิบรูปถ่ายออกมาให้น้ำตาลดู “นี่มันอะไรกันน้ำตาล?” หมอคินถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงความผิดหวัง น้ำตาลมองรูปถ่ายก็ตกใจ เธอรีบอธิบาย “นี่คือเพื่อนเก่าของฉันค่ะ เราไม่ได้เจอกันนาน เขาแค่มาทักทาย” “แค่ทักทายจริง ๆ เหรอ?” หมอคินถามด้วยความไม่แน่ใจ ความเข้าใจผิดเริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างหมอคินและน้ำตาล จากแผนการใส่ร้ายของพิม และความไม่ไว้วางใจของครอบครัวหมอคิน ความรักที่เคยหวานชื่นกำลังเผชิญหน้ากับบททดสอบครั้งสำคัญหลายปีสายลมรักพัดผ่าน ร้านขนมหวานของป้าสมรยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมหวานชวนลิ้มลอง น้ำฟ้าในวัยสิบสองปี เติบโตเป็นเด็กหญิงที่เฉลียวฉลาด มีดวงตาที่ทอประกายความอยากรู้อยากเห็น และมีพรสวรรค์ในการทำขนมเหมือนมารดาไม่มีผิดเพี้ยน เธอชอบใช้เวลาว่างเว้นจากการเรียนมาช่วยป้าสมรที่ร้านเสมอวันนี้เป็นวันครบรอบการจากไปของน้ำตาล แม้เวลาจะผ่านไปนาน แต่ความรักและความคิดถึงที่มีต่อเธอก็ยังคงอยู่ในใจของหมอคินและน้ำฟ้าเสมอ หมอคินมักจะเล่าเรื่องราวความรักของเขากับน้ำตาลให้ลูกสาวฟัง เพื่อให้เธอได้รู้จักและภาคภูมิใจในผู้เป็นแม่น้ำฟ้าตั้งใจที่จะทำขนมพิเศษเพื่อรำลึกถึงผู้เป็นแม่ เธอเลือกทำ “บัวลอยเผือก” ขนมหวานที่น้ำตาลเคยทำให้หมอคินทานเป็นครั้งแรก ด้วยความตั้งใจและใส่ใจในทุกรายละเอียดขณะที่น้ำฟ้ากำลังปั้นบัวลอยเม็ดเล็ก ๆ อย่างคล่องแคล่ว ป้าสมรก็มองดูหลานสาวด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความคิดถึง“หนูทำได้เหมือนแม่หนูไม่มีผิดเพี้ยนเลยนะน้ำฟ้า” ป้าสมรกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนน้ำฟ้าเงยหน้ายิ้มให้คุณยาย “หนูอยากให้คุณพ่อทานแล้วคิดถึงคุณแม่ค่ะ”เมื่อบัวลอยเผือกทำเสร็จ หมอคินที่เพิ่งกลับจากโรงพยาบาลก็ได้ก
หลายปีสุริยคราสเคลื่อนคล้อยผ่านไป แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดผ้าม่านบางเบา ปลุกให้บ้านหลังเล็กของหมอคินและน้ำฟ้าอบอวลไปด้วยไออุ่นแห่งความสุข น้ำฟ้าในวัยเจ็ดขวบปี เติบโตเป็นเด็กหญิงแก้มใส ดวงตากลมโตฉายแววฉลาดซุกซน ถอดแบบความสดใสของน้ำตาลผู้เป็นมารดามาอย่างไม่ผิดเพี้ยนวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ทุกคนรอคอย หมอคินในชุดลำลองสบาย ๆ กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าในครัวเล็ก ๆ กลิ่นหอมของไข่เจียวและไส้กรอกลอยคลุ้งไปทั่วบ้าน ขณะที่น้ำฟ้าในชุดกระโปรงลายดอกไม้ กำลังนั่งวาดรูปอยู่บนโต๊ะอาหาร โดยมีน้ำตาลนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้าง ๆ คอยชี้แนะบ้างเป็นครั้งคราว“คุณพ่อขา ทะเลจะสวยเหมือนในรูปวาดของหนูไหมคะ?” น้ำฟ้าเงยหน้าถามด้วยดวงตาเป็นประกายหมอคินเดินมายีผมนุ่มของลูกสาวเบา ๆ “สวยกว่าเยอะเลยลูก ทะเลกว้างใหญ่ มีทรายสีขาว น้ำทะเลสีฟ้าใส ที่สำคัญ... มีเสียงคลื่นที่ไพเราะมาก ๆ ด้วย”น้ำฟ้าตาโตด้วยความตื่นเต้น “จริงเหรอคะ! หนูอยากไปเดี๋ยวนี้เลย!”น้ำตาลหัวเราะเบา ๆ “ใจเย็น ๆ นะคะคนเก่ง ทานอาหารเช้าให้เสร็จก่อน แล้วเราค่อยไปกัน”หลังจากอาหารเช้าแสนสุขสันต์ ทั้งสามคนก็ออกเดินทางไปยังชายทะเลที่อยู่ไม่ไกลจาก
ข่าวที่น้ำตาลกำลังตั้งครรภ์เป็นเหมือนแสงสว่างที่ส่องนำทางหมอคินออกจากความมืดมิดแห่งความเศร้าโศก แม้ความเจ็บปวดจากการสูญเสียน้ำตาลจะยังคงอยู่ในใจ แต่ความหวังถึงชีวิตใหม่ที่กำลังจะเกิดมาก็ทำให้เขามีกำลังใจที่จะก้าวเดินต่อไปหมอคินเริ่มดูแลตัวเองมากขึ้น กลับไปทำงานที่โรงพยาบาล และใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับป้าสมร เพื่อดูแลและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน พวกเขารอคอยการมาถึงของหลานด้วยความรักและความหวังคุณหญิงอรุณีและหม่อมราชวงศ์เทวินทร์เมื่อทราบข่าว ก็รู้สึกเสียใจกับการจากไปของน้ำตาล แต่ก็ดีใจที่จะได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัว ท่านทั้งสองเข้ามาช่วยเหลือดูแลหมอคินและป้าสมรอย่างเต็มที่ ความสัมพันธ์ในครอบครัวกลับมาแน่นแฟ้นอีกครั้งเวลาผ่านไปในที่สุดวันคลอดก็มาถึง หมอคินเฝ้ารออยู่หน้าห้องคลอดด้วยใจที่เต้นระรัว ความรู้สึกตื่นเต้น กังวล และคิดถึงน้ำตาลวนเวียนอยู่ในความคิดหลังจากรอคอยอยู่นาน เสียงร้องของเด็กน้อยก็ดังออกมาจากห้องคลอด หมอคินรู้สึกน้ำตาคลอเบ้าด้วยความยินดี เขาได้เป็นพ่อแล้วพยาบาลอุ้มเด็กน้อยออกมาให้หมอคินได้ชื่นชม เด็กทารกเพศหญิงตัวน้อยน่ารักน่าชัง ดวงตาจิ้มลิ้มคล้ายกับน้ำตาลอย่างน่าประ
หลังจากน้ำตาลจากไป หมอคินจมดิ่งอยู่ในความเศร้าอย่างยาวนาน ห้องนอนที่เคยอบอวลไปด้วยความรักและความสุข บัดนี้กลับกลายเป็นเพียงพื้นที่แห่งความทรงจำอันแสนเจ็บปวด เขาแทบไม่อยากทำอะไร นอกจากนอนมองเพดานและคิดถึงน้ำตาลวันหนึ่ง ป้าสมรได้เข้ามาทำความสะอาดห้องของหมอคิน เธอเก็บกวาดข้าวของต่าง ๆ อย่างเงียบเชียบ พลางน้ำตาซึมไปด้วยความคิดถึงลูกสาวขณะที่กำลังจัดเก็บหนังสือบนโต๊ะข้างเตียง ป้าสมรก็สังเกตเห็นสมุดบันทึกเล่มเล็ก ๆ ที่น้ำตาลเคยใช้จดสูตรขนมหวานวางซ่อนอยู่ใต้กองหนังสือ ป้าสมรหยิบมันขึ้นมาเปิดดู ภายในเต็มไปด้วยลายมือหวัด ๆ ของน้ำตาล ทั้งสูตรขนมหวานใหม่ ๆ ที่เธอคิดค้น และบันทึกเรื่องราวความรักของเธอกับหมอคินป้าสมรรู้สึกสะเทือนใจ เธอตัดสินใจนำสมุดบันทึกเล่มนี้ไปให้หมอคินเมื่อหมอคินได้รับสมุดบันทึกเล่มนั้นจากมือของป้าสมร เขาก็จำได้ทันทีว่าเป็นสมุดเล่มโปรดของน้ำตาล มือของเขาเริ่มสั่นเทาขณะค่อย ๆ เปิดหน้ากระดาษอ่านในนั้นมีทั้งสูตรขนมหวานที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน และถ้อยคำหวานซึ้งที่น้ำตาลเขียนถึงเขา น้ำตาของหมอคินไหลอาบแก้มอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ความเศร้า แต่ยังมีความรู้สึกถึงความรักที่น้ำต
ในขณะที่น้ำตาลกำลังมีความสุขกับการเตรียมร้านเบเกอรี่ใหม่ และชีวิตคู่กับหมอคินก็ราบรื่น เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น วันหนึ่ง ขณะที่น้ำตาลกำลังเดินทางกลับจากตลาดในช่วงเย็น เธอก็ถูกทำร้ายคนร้ายเป็นชายสองคนดักรอเธอในซอยเปลี่ยว พวกเขาพยายามชิงทรัพย์ แต่เมื่อน้ำตาลขัดขืน คนร้ายคนหนึ่งก็ใช้มีดแทงเธอ อาการของน้ำตาลสาหัสมาก เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนเมื่อหมอคินทราบข่าว เขาก็รีบมาที่โรงพยาบาลทันที สีหน้าของเขาซีดเผือดด้วยความตกใจและความกังวล เขาเฝ้ารออยู่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยใจที่กระวนกระวายคุณหญิงอรุณีและหม่อมราชวงศ์เทวินทร์ รวมถึงป้าสมร ก็รีบมาที่โรงพยาบาลด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความโศกเศร้าหมอคินได้แต่ภาวนาขอให้น้ำตาลปลอดภัย เขาโทษตัวเองที่ไม่สามารถปกป้องเธอได้หลังจากรอคอยด้วยความทรมานอยู่นาน ในที่สุดทีมแพทย์ก็ออกมาจากห้องฉุกเฉิน หมอคินรีบเข้าไปสอบถามอาการของน้ำตาลทันที“อาการของภรรยาผมเป็นยังไงบ้างครับหมอ?” หมอคินถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือแพทย์ถอนหายใจ “คนไข้เสียเลือดมากครับ เราพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่...”คำพูดนั้นราวกับมีดกรีดแทงหัวใจ
ชีวิตหลังแต่งงานของหมอคินและน้ำตาลเริ่มต้นขึ้นอย่างอบอุ่นและมีความสุข พวกเขาใช้เวลาเรียนรู้ซึ่งกันและกันในบทบาทใหม่ของการเป็นสามีภรรยา หมอคินยังคงดูแลน้ำตาลอย่างดี และน้ำตาลก็คอยเอาใจใส่ดูแลสามีของเธอไม่ขาดตกบกพร่องพวกเขาย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ที่หมอคินเคยซื้อไว้ก่อนหน้านี้ ตกแต่งบ้านด้วยกันอย่างเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความรัก น้ำตาลยังคงขายขนมหวานที่ตลาด และหมอคินก็ยังคงทำงานที่โรงพยาบาล แต่ทั้งคู่ก็พยายามหาเวลาว่างมาใช้ร่วมกันเสมอในช่วงเย็น หลังเลิกงาน หมอคินมักจะแวะมาช่วยน้ำตาลเก็บของที่ตลาด หรือไม่ก็พากันไปทานอาหารเย็นข้างนอกบ้างบางครั้ง ความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้เติมเต็มชีวิตคู่ของพวกเขาแต่ถึงกระนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างหมอคินกับหม่อมราชวงศ์เดชานุภาพก็ยังคงตึงเครียด อาของเขายังคงไม่พอใจกับการตัดสินใจของเขา และไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย หมอคินรู้สึกเสียใจ แต่เขาก็ไม่เสียใจกับการเลือกน้ำตาลเป็นคู่ชีวิตคุณหญิงอรุณีและหม่อมราชวงศ์เทวินทร์พยายามที่จะประสานรอยร้าวในครอบครัว แต่ดูเหมือนว่าหม่อมราชวงศ์เดชานุภาพยังคงปิดใจวันหนึ่ง คุณหญิงอรุณีได้ชวนหมอคินและน้ำตาลไปทานอาหารที่บ้าน“
การเผชิญหน้ากับหม่อมราชวงศ์เดชานุภาพสร้างความเจ็บปวดและความผิดหวังให้กับหมอคินอย่างมาก เขากลับมาหาน้ำตาลด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อย น้ำตาลเห็นก็รู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ“เกิดอะไรขึ้นคะคุณหมอ?” น้ำตาลถามด้วยความเป็นห่วงหมอคินเล่าเรื่องทั้งหมดที่เขาได้คุยกับอาของเขาให้เธอฟัง น้ำตาลฟังอย่างเงียบ ๆ ด้วยความตกใจและความเห็นใจ“ฉันเสียใจด้วยนะคะคุณหมอ” น้ำตาลกล่าวพลางจับมือเขาเบา ๆ“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมท่านอาถึงทำแบบนี้” หมอคินกล่าวด้วยความสับสน “ผมรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง”“บางทีท่านอาจจะหวังดีในแบบของท่านก็ได้นะคะ” น้ำตาลพยายามมองในแง่ดี“ไม่ น้ำตาล ท่านไม่ได้หวังดี ท่านแค่ต้องการควบคุมชีวิตของผม” หมอคินตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นความจริงที่ว่าคนในครอบครัวของหมอคินเองที่อยู่เบื้องหลังการทำร้ายเธอ ทำให้ความรู้สึกของน้ำตาลสั่นคลอน เธอไม่เคยคิดว่าอุปสรรคที่พวกเขาต้องเผชิญจะมาจากคนที่ใกล้ชิดกับหมอคินขนาดนี้“แล้วคุณหมอจะทำยังไงต่อไปคะ?” น้ำตาลถามด้วยความเป็นห่วงหมอคินถอนหายใจ “ผมต้องคุยกับพ่อกับแม่”เมื่อหมอคินเล่าเรื่องทั้งหมดให้พ่อแม่ฟัง ท่านทั้งสองก็ตกใจและเสียใจไม่แพ้กัน ท่านไม่เคยรู้มาก่อนว
เมื่อหมอคินได้ยินชื่อหม่อมราชวงศ์เดชานุภาพ เขารู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน อาของเขา... ผู้ที่เขาเคารพรักมาตลอด มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางแผนร้ายทำร้ายน้ำตาลอย่างนั้นหรือ? ความรู้สึกตกตะลึง สับสน และเจ็บปวดถาโถมเข้ามาในใจของเขาอย่างรุนแรง“เป็นไปไม่ได้...” หมอคินพึมพำด้วยความไม่เชื่อ“เรามีหลักฐานการติดต่อระหว่างพิมกับท่านอาของคุณ รวมถึงข้อมูลทางการเงินบางอย่างที่น่าสงสัย” เพื่อนตำรวจอธิบายหมอคินรู้สึกเหมือนถูกทรยศ เขานึกถึงความเมตตาและความเอ็นดูที่อาของเขามีให้เขามาตลอด ไม่เคยคิดเลยว่าภายใต้รอยยิ้มนั้นจะซ่อนความมุ่งร้ายไว้เขารีบโทรศัพท์หาน้ำตาลทันที เสียงของเขาฟังดูเครียดจนน้ำตาลรู้สึกเป็นห่วง“คุณหมอ เป็นอะไรไปคะ?” น้ำตาลถามด้วยความเป็นห่วง“น้ำตาล... มีเรื่องที่ผมต้องบอกคุณ” หมอคินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักอึ้งเขาเล่าเรื่องที่เพื่อนตำรวจบอกให้เธอฟัง น้ำตาลเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เธอไม่เคยคิดว่าจะมีใครจ้องทำร้ายพวกเขาได้ถึงเพียงนี้ และคนที่อยู่เบื้องหลังกลับเป็นคนที่หมอคินเคารพ“ท่านอาของคุณหมอ...” น้ำตาลอุทานด้วยความตกใจ“ผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อ” หมอคินกล่าวด้วยความเจ็บปวด “ผมไม่เข้าใจว่า
การจับกุมพิมได้ก่อนที่เธอจะลงมือทำอะไร ถือเป็นความโล่งใจครั้งใหญ่สำหรับหมอคินและน้ำตาล พิมถูกนำตัวไปสอบสวนอย่างละเอียดที่สถานีตำรวจ โดยมีหลักฐานที่หมอคินและตำรวจรวบรวมไว้แน่นหนาระหว่างการสอบสวน พิมยังคงให้การปฏิเสธในตอนแรก แต่เมื่อตำรวจแสดงหลักฐานต่าง ๆ ที่พบในรถของเธอ รวมถึงบันทึกการโทรศัพท์ข่มขู่ เธอก็เริ่มจนมุมและยอมรับในที่สุดว่าเธอเป็นคนทำทุกอย่าง“ฉันแค่อยากให้พวกแกเจ็บปวดเหมือนที่ฉันเจ็บ!” พิมตะโกนด้วยความโกรธแค้นเธอถูกตั้งข้อหาตามกฎหมาย และต้องถูกดำเนินคดีต่อไปเมื่อข่าวการจับกุมพิมแพร่กระจายออกไป หมอคินและน้ำตาลก็ได้รับการแสดงความยินดีและความเห็นใจจากคนรอบข้าง ทุกคนต่างโล่งใจที่ภัยอันตรายถูกกำจัดไป“ขอบคุณนะคิน ที่ปกป้องฉัน” น้ำตาลกล่าวพลางกอดหมอคินด้วยความรู้สึกขอบคุณ“ผมไม่มีวันปล่อยให้ใครมาทำร้ายคุณได้อีก” หมอคินกอดเธอตอบอย่างอบอุ่นบรรยากาศของการเตรียมงานแต่งงานกลับมาสดใสอีกครั้ง ความหวาดระแวงและความกังวลเริ่มจางหายไป ทุกคนต่างตั้งตารอวันสำคัญของทั้งคู่คุณหญิงอรุณีและป้าสมรรู้สึกสบายใจมากขึ้น และช่วยกันเตรียมงานแต่งงานอย่างมีความสุข“ทุกอย่างจะต้องราบรื่นแน่นอนลูก” คุณ