ไดอาเนียลล่าไม่คิดว่าคำพูดดังกล่าวจะออกมาจากปากเซเลน่าอย่างกะทันหัน เธอยืนนิ่งไปสักพักก่อนจะมองไปที่เฟนด์ “ไม่ต้องห่วง ฉันกับเฟนด์เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เราจะดูแลกันและกันอย่างแน่นอน! ฉันจะขอให้พี่สาวของฉันเล่นงานเฟนด์น้อย ๆ ในระหว่างการประลอง!” ไดอาเนียลล่าพยักหน้า “พี่สาวของคุณแข็งแกร่งมากไหม?” เฟนด์ขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน ตามคำพูดและน้ำเสียงของไดอาเนียลล่า ดูเหมือนพี่สาวของเธอจะเป็นผู้ฝึกยุทธที่แข็งแกร่ง และระดับพลังยุทธของเธอก็น่าจะสูง “สำหรับการประลองนี้ ตราบใดที่คุณมาจากตระกูลชาวยุทธและอายุต่ำกว่าสามสิบปี คุณก็มีสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันได้ ฉันยังเด็กอยู่ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่ฉันยังมีระดับพลังยุทธต่ำอยู่” ไดอาเนียลล่ายิ้มบาง ๆ ก่อนจะพูดต่อว่า “แต่พี่สาวคนที่สองของฉัน เธออยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นต้น ส่วนพี่สาวคนโตของฉัน เธออยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นกลางแล้ว แม้ว่าเธอจะอยู่ระดับเดียวกับคุณ แต่ในขั้นกลาง เธอก็อยู่ห่างจากระดับเทพแท้จริงขั้นสูงเพียงก้าวเดียว เธออาจจะทะลวงเข้าสู่ระดับเทพแท้จริงขั้นสูงได้ทุกเมื่อ ความสามารถและพลังยุทธของเธออยู่ในระดับสูงสุดของผู้ที่อยู่ในระดับเทพ
อีกด้านหนึ่ง หัวหน้าตระกูลคาเบลโลกับคนอื่น ๆ ต่างก็กังวลเกี่ยวกับเรื่องบาง พวกเขาเดินไปเดินมารอบ ๆ ห้องโถง สีหน้าของพวกเขาดูเป็นกังวล ไดอาเนียลล่าออกไปนานมากกว่าหนึ่งเดือนแล้ว เมื่อเธอทิ้งจดหมายที่ประกาศว่าเธอจะออกไปค้นหาสมบัติและทรัพยากรในป่า พวกเขาไม่คิดว่าเธอจะไม่กลับมานานขนาดนี้ ตระกูลคาเบลโลได้ส่งคนจำนวนมากออกไปตามหาในป่าซึ่งปกติแล้วพวกเขาจะไปล่าขุมทรัพย์กันบ่อย ๆ แต่ก็ไม่พบร่องรอยของไดอาเนียลล่าเลย เรื่องนี้ทำให้ตระกูลคาเบลโลเป็นกังวลและทรมานใจ “พ่อ ไม่ต้องห่วงไดอาเนียลล่า เธอจะต้องไม่เป็นไร เราไปกันเถอะ!” ที่ลานกว้างของตระกูลคาเบลโล คุณหนูลำดับที่หนึ่งของตระกูลคาเบลโลมองไปที่ อเล็กซานโดร คาเบลโล ซึ่งเป็นหัวหน้าตระกูลคาเบลโลและพูดอย่างยิ้มแย้มว่า “ไดอาเนียลล่าเป็นเด็กผู้หญิงที่ฉลาดและมีไหวพริบ เธอจะไม่เป็นอันตราย เธอจะไม่เป็นไร อีกอย่าง ใครจะใจกล้ามาทำให้ตระกูลคาเบลโลในปัจจุบันโกรธเคือง? พวกนั้นไม่กลัวการแก้แค้นของเราเหรอ? ดังนั้น หนูคิดว่าไดอาเนียลล่าแค่ติดเล่นและยังไม่อยากกลับมาในเร็ว ๆ นี้ เธอคงกำลังเดินเล่นอยู่ที่ไหนสักแห่ง!” “พ่อก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ เฮ้อ! เด็
แนชรู้สึกผิดเมื่อได้ยินแบบนั้น เฟนด์ได้รับการฝึกฝนมาในโลกนี้มาสักพักแล้ว แต่เหมือนว่าเขาจะมีความรู้เกี่ยวกับสมบัติไม่มากนักเขายิ้มนิด ๆ และอธิบายให้เฟนด์ฟังด้วยน้ำเนือย ๆ ว่า “อุปกรณ์มีสองประเภทคือ อุปกรณ์ปกติและอุปกรณ์วิญญาณ ระดับของมันก็มีหลายระดับเช่นกันขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของพลังยุทธที่ส่งเข้าไปและการแปรสภาพหลังจากดูดซับพลังฉี แบ่งเป็น ระดับต่ำ ระดับกลาง ระดับสูง และที่ทรงพลังที่สุดคือ อุปกรณ์ระดับสูงสุด!”แนชหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า “แต่ผู้ฝึกยุทธส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้อาวุธต่อสู้แบบปกติอยู่ มันก็ค่อนข้างดีมากแล้วถ้าคุณมีอุปกรณ์ระดับต่ำ มีเพียงไม่กี่คนหรอกที่จะมีอุปกรณ์ระดับกลาง ไม่ต้องพูดถึงอุปกรณ์ระดับสูงและอุปกรณ์ระดับสูงสุดเลย!”เฟนด์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพลิกฝ่ามือหยิบวัตถุที่มีลักษณะคล้ายกระดองเต่าออกมา เขาส่งมันไปทางแนช “พ่อลองดูนี่สิ ผมคิดว่านี่เป็นอุปกรณ์วิญญาณ แต่ไม่รู้ว่ามันอยู่ระดับอะไร นี่คืออาวุธป้องกันตัวที่สามารถขยายใหญ่ขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีได้!”ดวงตาของแนชเป็นประกายเมื่อได้ยินเรื่องนี้ “อุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันก็หาได้ยากเหมือนกัน มันอาจช่วยชีวิตลูกได้
เฟนด์ไม่คิดว่าดาบจะใหญ่ขึ้นเช่นกัน ออร่าที่แตกต่างกันก็แทรกซึมเข้ามาในหัวของเขาหลังจากที่เขาได้รับข้อความ เขาก็รู้สึกตื่นเต้นมาก สีหน้าเขาแสดงออกว่าดีใจสุด ๆ“นี่-นี่น่าจะเป็นอุปกณ์ระดับสูงสุด!”ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งตื่นเต้นมากจนเสียงสั่น มีเพียงตระกูลลึกลับที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่จะมีสมบัติเช่นนี้ และถึงอย่างนั้นพวกเขาก็คงมีสมบัติที่ครอบครองไว้เพียงชิ้นเดียวเห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้มันล้ำค่ามาก ไม่มีใครคิดว่าดาบของเฟนด์จะเป็นอุปกรณ์ระดับสูงสุด“นั่นสิ ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นอุปกรณ์ระดับสูงสุด ฉันไม่เคยสังเกตเห็นอะไรพิเศษเกี่ยวกับมันเลยตอนที่เฟนด์เอามันออกมาใช้!”แนชก็ตื่นเต้นเหมือนกัน เขาไม่คิดว่าดาบของเฟนด์จะเป็นสมบัติที่ล้ำค่าแบบนี้“พ่อ! ผมคิด-ผมคิดว่าเมื่อกี้ผมได้รับข้อความจากดาบ!”เฟนด์รู้สึกตื่นเต้น เขาโบกมือและดาบก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็วจนดูเหมือนว่ามันสามารถให้คนสองหรือสามพันคนยืนบนนั้นได้ด้วยการใช้พลังจิตภายใน ดาบของเฟนด์ก็หดตัวลงอีกครั้ง จนกระทั่งบรรจุคนประมาณพันคนได้“นี่-นี่คืออุปกรณ์ที่บินได้งั้นเหรอ? พระเจ้า คุณสามารถใช้มันเพื่อบินและต่อสู้ได้ สมบั
ไม่มีใครคิดว่าไดอาเนียลล่าจะพูดขึ้นมาในขณะนั้น หน้าของเธอมีรอยยิ้มอย่างรู้ดีว่า “ฉันคิดว่าพวกคุณคงจะไม่รู้หรอกว่าเฟนด์อยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นกลางแล้ว เขาทะลวงผ่านไปได้เมื่อไม่กี่วันก่อน และด้วยกระบี่เล่มนี้ เขาอาจมีพลังยุทธเหมือนกับนักสู้ระดับเทพแท้จริงขั้นสุดยอด!”“ว่าไงนะ? เขา-เขาทะลวงข้ามผ่านไปได้แล้วเหรอ?”แนชตกตะลึง เขาหันหน้าไปมองเฟนด์อย่างตื่นเต้น “เฟนด์ จริงเหรอ? ลูก-ลูกอยู่ระดับเทพแท้จริงขั้นกลางแล้วเหรอ?”“โอ้พระเจ้า เขาทะลวงผ่านไปได้เร็วมาก? นายน้อยเฟนด์ คุณช่างเป็นอัจฉริยะจริง ๆ ! นายน้อยแลนซ์ก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณ!”ผู้อาวุโสหลายคนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา พวกเขาสงสัยว่าพวกเขากำลังฝันอยู่หรือเปล่าเพราะยังไงซะ ความตกใจที่พบว่า เฟนด์มีอาวุธระดับสูงสุดยังไม่สงบลงอย่างสมบูรณ์เลย และตอนนี้พวกเขายังมาบอกว่าเฟนด์ทะลวงเข้าสู่ระดับเทพแท้จริงขั้นกลางได้แล้วมันไม่ง่ายเลยที่คนที่อยู่ในระดับเทพแท้จริงจะก้าวผ่านเข้าสู่ขั้นที่สูงขึ้น ผู้ฝึกฝนต้องใช้ความสามารถอย่างมาก ที่สำคัญไปกว่านั้น บางคนก็ไม่สามารถทะลวงได้สำเร็จแม้จะพยายามถึงสองสามครั้งแล้วก็ตาม พวกเขาต้องพักสักระยะหนึ่งก่
“อย่าหัวเราะสิ พวกนั้นอาจจะบังเอิญได้อุปกรณ์ระดับต่ำจากที่ใดที่หนึ่งมา ดังนั้นพวกเขาจึงใช้มัน!”ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งของตระกูลนอร์แมนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงประชดประชันเพราะยังไงซะ กระบี่ของเฟนด์ก็ดูหมองคล้ำและธรรมดา มีเพียงสีดำที่ปกคลุมมันอยู่เท่านั้น มันบินด้วยความเร็วที่สบาย ๆ ไม่เร็วเกินไปและไม่ช้าเกินไปนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงไม่มีทางบอกระดับของสมบัตินั้นได้สิ่งเดียวที่พวกเขามั่นใจได้ก็คือสมบัติที่บินได้นั้นต้องเป็นอุปกรณ์วิญญาณอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งอุปกรณ์วิญญาณระดับต่ำบางอย่างก็สามารถบินได้ แต่ก็บินได้ไม่เร็วมากนัก“พวกเขาบังเอิญได้มันมา?”ผู้อาวุโสลำดับที่สองของพวกเขาผงะไปครู่หนึ่ง “ฮ่า แม้จะเป็นสมบัติที่บินได้ก็ไม่คุ้มค่าที่จะเอามันมานะถ้าเป็นสมบัติระดับต่ำ” เขายิ้มพร้อมกับแสดงความเห็นออกมา “พวกเขาต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อซื้อของมือสองชิ้นนั้น”นายน้อยจากตระกูลนอร์แมนกลอกตา “ผู้อาวุโสลำดับที่สอง คุณพูดแบบนั้นได้ยังไง?” เขาพูดอย่างเคร่งขรึม “พวกเขาก็เป็นหนึ่งในแปดตระกูลลึกลับเหมือนกันและเป็นตระกูลชนชั้นหนึ่ง คุณพูดออกมาได้ไงว่าพวกเขาซื้อของมือสอง?”“เฮ้ จริงด้วย ฉันล
ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วตอนที่เห็นพวกเขาเข้ามาใกล้ ความกังวลบีบรัดหน้าอกของเขา “ใครสนล่ะ เราไม่มีอะไรต้องกลัว อีกอย่าง เราก็ไม่อาจหลบซ่อนพวกเขาได้ตลอด ยังไงเราก็ต้องไปเจอกับพวกเขาที่สถานที่แข่งขันอยู่ดี”แนชยิ้มอย่างเย็นช้าและพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ“นั่น...นั่นคือคุณหนูลำดับที่สามของตระกูลคาเบลโลจริงด้วย!”หลังจากที่พวกเขาเข้าในระยะใกล้มากขึ้น ผู้อาวุโสคนหนึ่งก็ตะโกนออกมาตอนที่เขาเห็นกับตาชัด ๆ“ไดอาเนียลล่า ทำไมคุณถึงไปอยู่บนกระบี่บินของตระกูลวู๊ด?”คีธ ลูกชายคนโตของนายท่านนอร์แมนรู้สึกประหลาดใจนิด ๆ “คุณไดอาเนียลล่า คุณถูกตระกูลวู๊ดลักพาตัวมาเหรอ?” เขาถาม “ถ้าเป็นอย่างนั้น ให้คุณกระพริบตา ตระกูลนอร์แมนจะช่วยคุณเอง!”ลูกชายคนที่สองของนายท่านนอร์แมนก็ก้าวออกมาข้างหน้าเหมือนกัน “พวกสมาชิกตระกูลวู๊ด หญิงสาวคนสวยคนนี้คือคุณหนูลำดับที่สามของตระกูลคาเบลโลนะ” เขาตะโกน “ฉันจะฆ่าพวกแกแน่ ถ้าพวกแกกล้าแตะต้องผมแม้แต่เส้นเดียวของเธอ!”คนอ้วน ๆ ซึ่งเป็นลูกชายคนที่สามก็พูดขึ้นด้วยท่าทีประชดประชันว่า “ด้วยเกียรติของฉันในฐานะนายน้อยของตระกูลนอร์แมน ฉันสาบานได้เลยว่าพวกแกเผช
ดูเหมือนว่าสิ่งที่ไดอาเนียลล่าพูดออกมาจะตรงประเด็นมาก และนายท่านนอร์แมนก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ถ้าเขายังยึดถือเรื่องนี้และรายงานต่อตระกูลคาเบลโลว่าเธออยู่กับตระกูลวู๊ด เขาจะไม่เป็นคนใจแคบไปหน่อยเหรอ? แต่ถ้าเขาปล่อยไปแบบนี้ ตระกูลนอร์แมนคงจะอับอายมาก เพราะยังไงซะ ที่พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็เพราะพวกเขาเข้ามาถามไดอาเนียลล่าว่าเธอถูกลักพาตัวหรือเปล่า และยังชวนเธอไปกับพวกเขาแทนอีกเขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันทีหลังจากที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเหลือบมองที่แนชและยิ้มอย่างเย็นชา “นายท่านวู๊ด ฉันได้ยินมาว่าเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่แล้วมีบางอย่างเกิดขึ้นในตระกูลวู๊ดใช่ไหม? หึ ๆ... ถ้าเรื่องราวที่น่าสนใจดังกล่าวถูกเอาไปเขียนลงในหนังสือ หนังสือเล่มนั้นคงจะเป็นที่นิยมแน่นอน!”มุมปากของแนชกระตุกเล็กน้อย เขารู้ว่าคงมีบางคนพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและเอามันมาพูด แต่เขาไม่คิดว่าเรื่องนี้จะถูกเอามาพูดถึงในระหว่างเดินทางไปที่ภูเขาโกเบเขาเหลือบมองแดร์ริลและยิ้มอย่างขมขื่น “ฮ่าฮ่า... ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าตระกูลนอร์แมนจะรู้เรื่องดีและให้ความสนใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในตระกูลวู๊ดมากจริง ๆ !”แนชหยุดก่อนจะพู