Share

ตอนที่ 5.

last update Huling Na-update: 2025-07-19 12:32:13

ตอนที่ 5.

ทวิภาคหรี่ตามองสตรีที่แก้มแดงก่ำตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ เขาติดใจกับการตอบสนองที่ไร้ขีดสิ้นสุดของเจ้าหล่อนยิ่งนัก

ให้ตายเถอะ...! นี่อย่าบอกนะว่าเขาหลงใหลแม่นางกำนัลขององค์หญิงน่ารังเกียจนั่น ชายหนุ่มรีบสะบัดศีรษะแรงๆ เพื่อสลัดความคิดอันน่ารังเกียจนั้นให้หลุดออกไปโดยเร็ว

“ตามใจ แล้วหากไม่อยากถูกจูบอีกล่ะก็... อย่าคิดจะอ่อยฉันอีก”

“อะไรนะ!” จากที่ไม่กล้าสบตาคมของเขา ตอนนี้กลับจ้องเขม็ง

นี่เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ใครอ่อยเขากันยะ หล่อนเหรอ หล่อนอ่อยที่ไหนกัน ก็แค่... แค่อยากอยู่ใกล้ชิดเขาเท่านั้นเอง

“ฉัน...เอ่อ... ข้าน้อยนี่นะอ่อยนายท่าน...”

ควันแทบออกหู ใบหน้าที่แดงแล้วก็แดงก่ำขึ้นอีก แต่ไม่ใช่เพราะความเขินอายเฉกเช่นครั้งแรก เพราะครั้งนี้มันคือความโกรธต่างหากล่ะ

“ทำไมต้องทำเสียงตกใจด้วยล่ะ ก็เธอทำจริงๆ นี่... เอาล่ะไปได้แล้ว”

จากที่เคยคิดจะไปคราวนี้กลับเดินเข้าหา มองหน้าถมึงทึง “ข้าน้อยไม่ได้อ่อยนายท่านนะเพคะ โปรดเข้าใจใหม่ซะด้วย...”

ไปหยุดยืนชิดกับร่างกำยำที่สูงกว่าหล่อนมากมาย มากขนาดไหนหรือ ก็ศีรษะของหล่อนยังไม่ถึงปลายคางของเขาดีเลย แต่กลัวซะที่ไหน... มาว่ากันแบบนี้ มันน่าตัดคอเสียบประจานนัก

“สั่งฉันหรือ... นี่ถ้าองค์หญิงนั่นรู้ว่าเธอยั่วยวนฉันคงจะดีใจไม่น้อยเลยนะ” เขาตั้งใจประชดหล่อนรู้ดี

“ข้าน้อยบอกแล้วไงว่าไม่ได้ยั่วยวน นายท่านช่วยเข้าใจเสียใหม่ด้วยเพคะ ข้าน้อยเสียหาย...”

ราชาวดีหน้าเครียด ทวิภาคระบายยิ้ม ดวงตาคมอ้อยอิ่งอยู่กับกลีบปากอิ่มที่ช้ำเล็กน้อยของเจ้าหล่อนอย่างเสียดาย

“ปากเธอหวานมากเลยรู้หรือเปล่า... นี่หากเปลี่ยนจากการทานข้าวกับองค์หญิงนั่นเป็นเธอ...”

ชายหนุ่มจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตนิ่ง คล้ายกับกำลังจะสื่อสารอะไรบางอย่างกับหล่อน แต่สายตาของเขามันอ่านยากเหลือเกิน พยายามแค่ไหนก็อ่านไม่ออก

“ฉันคง...”

ทวิภาคยังพูดไม่ทันจบ จะบอกว่า ‘ฉันคงดีใจ’ แต่เจ้าหล่อนดันแทรกด้วยน้ำเสียงน่าลงโทษด้วยการตบด้วยปากยิ่งนัก

“ข้าน้อยต้องขอตัวแล้วเพคะ เชิญนายท่านพักผ่อนตามสบายเถอะ”

จะก้าวถอยหลัง เพื่อถอนสายบัว แต่ก็ถูกมือหนาดึงเข้าไปกอดเสียก่อน ราชาวดีตกใจ รีบยกมือขึ้นยันอกกว้างเอาไว้ มองเขาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ไม่คิดว่าผู้ชายเย็นชาอย่างทวิภาคจะมือไวขนาดนี้

“ปล่อยข้าน้อยนะ... อย่าทำแบบนี้...”

ทวิภาคก็อยากทำตามที่แม่สาวน้อยบอก แต่ทำไมนะทำไมเขาถึงทำไม่ได้ อยากอยู่ใกล้ๆ หล่อนจนห้ามใจตัวเองไม่อยู่ แถมหัวใจยังแกว่งแปลกๆ อยากจูบหล่อนอีกสักครั้ง...

ทำไมถึงได้รู้สึกถูกใจแม่สาวน้อยคนนี้รวดเร็วปานติดจรวดแบบนี้นะ หล่อนคุ้นตา คุ้นใจแปลกประหลาด

“ถ้าไม่ปล่อยเธอจะทำไมฉันล่ะ...”

เขาก้มหน้าลงมาหา ฟันขาวสะอาดเรียงตัวกันสวยงามอยู่ภายในรอยยิ้มกระชากใจนั้น สาวน้อยระทวย หัวใจเต้นแรง เลือดสาวร้อนระอุ ไม่อยากปล่อยตัวปล่อยใจแบบนี้เลย ก็สัญญาไว้กับรสาว่าจะไม่ยอมให้ตนเองเสื่อมเสีย

แต่ดูสิ... แค่ไม่ถึงชั่วโมงหล่อนถูกทั้งกอด ทั้งจูบ นี่ถ้าอยู่นานอีกหน่อยคงได้จบกันบนเตียงแน่ ก็พ่อสุดหล่อเล่นทั้งรุก ทั้งต้อนแบบนี้

ไม่คิดว่าผู้ชายที่เย็นชาไม่ต่างจากน้ำแข็งจะซ่อนความร้อนผ่าวเอาไว้มากมายเพียงนี้ ยิ่งคิดหัวใจก็ยิ่งเต้นแรง ซอกขาร้อนระอุ ปวดร้าวอึดอัดลามเลียไปทั่วทั้งร่าง

แต่ก็ต้องใจแข็ง... “ข้าน้อยจะทำอะไรได้ล่ะเพคะ ข้าน้อยมันแค่นางกำนัล แขกมีเกียรติแบบนายท่านจะย่ำยีอย่างไรก็ได้ พอสมใจแล้วก็ทิ้งขว้าง...”

 น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจทำให้ทวิภาคได้สติ ชายหนุ่มปล่อยร่างอรชรให้เป็นอิสระ พร้อมทั้งเป็นฝ่ายถอยห่างออกไปเอง

“เธอออกไปได้แล้ว... ไปสิ ก่อนที่ฉันจะกลายเป็นคนใจดำ...”

“ขอบคุณเพคะ นายท่าน...” ราชาวดีไม่รอให้เขาไล่ซ้ำ ร่างอรชรรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

ทวิภาคมองบานประตูที่ปิดลงเบาๆ ด้วยความรู้สึกละอาย ลมหายใจหนักๆ ถูกพ่นออกมาจากปากหยักสวยสีแดงสด ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปเกาะขอบระเบียง เหม่อมองผ่านความมืดที่โรยตัวเข้ามาทุกขณะไปยังทิวเขาและผืนป่าเบื้องหน้าด้วยอารมณ์ที่ยังคุกรุ่นมิจางหาย

ราชาวดีวิ่งเข้ามาในตำหนักของตนเองด้วยสภาพน้ำตาคลอ รสาที่ยังรออยู่ในห้องบรรทมมองด้วยความเป็นห่วง

“องค์หญิงทรงเป็นอะไรหรือเพคะ ทำไมถึงได้กันแสงแบบนั้น...”

“เปล่าจ้ะ หญิงไม่ได้เป็นอะไร... รสาไปนอนเถอะ หญิงจะนอนแล้ว”

ราชาวดีเดินไปทิ้งลงบนเตียงนอนของตนเอง พยายามซ่อนน้ำตาเอาไว้ให้มิดจากสายตาจับผิดของนางกำนัลคนสนิท

“องค์หญิงยังไม่ได้เสวยเลยนะเพคะ”

“หญิงไม่หิวจ้ะรสา หญิงขอนอนก่อนนะ ปวดหัวนิดหน่อย...”

หญิงสาวรีบล้มตัวลงนอน รสามองด้วยสายตาเป็นห่วง ราชาวดีมีทางท่าแปลกไปจากเดิมหลังจากไปพบพ่อนักร้องหนุ่มสุดหล่อคนนั้น มันต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ

“แต่องค์หญิงเพคะ...”

“รสาจ๊ะ ถ้าหญิงหิวเมื่อไหร่จะบอกให้รสาเอามาให้หญิงทานนะจ๊ะ ไม่ต้องห่วงหญิงหรอก...”

คำพูดของราชาวดีทำให้รสาไม่อาจจะขัดใจได้อีก จำต้องเดินออกจากห้องบรรทมเงียบๆ แต่เสียงของราชาวดีก็หยุดหล่อนเอาไว้

“รสาจ๊ะ เดี๋ยวรสาให้มาลายกมื้อค่ำไปให้เขาหน่อยนะ แล้วฝากบอกเขาให้ด้วยว่าองค์หญิงจะทานมื้อค่ำกับเขาในวันพรุ่งนี้ตอนเย็น...”

กระแสเสียงสั่นเล็กน้อย ทำให้รสารู้ว่าองค์หญิงน้อยของตนเองกำลังน้อยใจเป็นกำลัง “รสาจะทำตามรับสั่งเพคะ”

“ขอบใจมากจ้ะรสา... ถ้าเขารักหญิงได้สักเสี้ยวหนึ่งที่รสารักหญิงก็คงดี...” หญิงสาวพึมพำทั้งน้ำตา ระบายยิ้มเศร้าหมอง พยายามจะยิ้มแย้มแต่ก็ทำไม่ได้

 รสาถอนใจออกมา สงสารราชาวดีจับใจ ไม่น่าเลย... ไม่น่าไปรักผู้ชายที่ไร้หัวใจคนนี้เลย เจ้าชายจากต่างเมืองมากมายมาเจริญสัมพันธไมตรีด้วย แต่องค์หญิงก็ปฏิเสธเสียหมด มาฝังใจอยู่กับผู้ชายที่ไม่มีอะไรคู่ควรคนนี้เพียงคนเดียว

“งั้นทรงบรรทมนะเพคะ ถ้าทรงอยากเสวยเมื่อไหร่เรียกรสาได้ตลอดเวลานะเพคะ”

นางกำนัลวัยเลยเลขห้ามานานหลายปีถอนสายบัวทำความเคารพราชธิดาในกษัตริย์สุขเกษมก่อนจะก้าวออกไปจากห้องนอนของราชาวดีแผ่วเบา

เมื่ออยู่ลำพัง ราชาวดีก็ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาท่วมท้น เสียใจ น้อยใจ และช้ำใจยิ่งนัก กับคำพูด การกระทำที่ทั้งดูหมิ่น เหยียดหยามศักดิ์ศรีของหล่อนให้ต่ำเตี้ยเรี่ยลงดินที่ทวิภาคแสดงต่อหล่อนนัก

เขารังเกียจเจ้าหญิงแบบหล่อน...

ราชาวดีคิดอย่างช้ำใจ น้ำตาไหลไม่หยุดจนต้องยกมือขึ้นเช็ดมัน “หญิงอยากเกลียดคุณนัก... ทวิภาค” รู้ตัวว่าทำไม่ได้ แต่ก็ยังอยากจะพูดออกไป...

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • มายาทมิฬ   ตอนที่ 15.

    ตอนที่ 15.น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บช้ำ จ้องมองอินทรายุธทั้งน้ำตา ชายหนุ่มเบือนหน้าหนี หัวใจอ่อนยวบกับน้ำตาของมัลลิกา แต่ความเจ็บปวดที่เคยได้รับทำให้เขาเลือกที่จะแข็งแกร่งและสลัดเจ้าความใจอ่อนนั้นออกไป“ฉันมีวิธีที่ดีกว่านี้ในการทำให้เธอเจ็บปวด อีกไม่นานหรอกมัลลิกา... เธอจะรู้ว่านรกบนดินนั้นมีจริง และมันก็จะทำให้เธอเกลียดการมีชีวิตอยู่เลยทีเดียวแหละ”เขาหัวเราะเสียงกระด้าง จ้องมองหล่อนด้วยความเกลียดชัง ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากห้องที่กักขังมัลลิกาไว้ด้วยมาดแห่งผู้ชนะ“พี่ยุธใจร้าย... พี่ยุธใจร้าย...”เมื่อเงาแห่งซาตานร้ายพ้นไปจากกายแล้ว หญิงสาวก็คร่ำครวญออกมาอย่างปวดใจ ร่างกายคล้ายถูกเข็มนับร้อยทิ่มแทงไม่หยุด เจ็บจนต้องกัดฟันแน่น หัวใจร้าวราญไม่ต่างจากถูกเฉือนด้วยคมมีด ยื่นโทรศัพท์มือถือส่งคืนให้กับคนสนิท พร้อมๆ กับรอยยิ้มสมใจ ขณะเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้นุ่มตัวโปรด ดวงตาเต็มไปด้วยไฟริษยาแผดเผา “ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเราไหมพ่ะย่ะค่ะ นายท่าน” คำลือเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ สมถวิลหัวเราะร่วน “ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ตอนนี้รอแค่เพียงเจ้าพี่เสด็จกลับมาพบกับความตายที่

  • มายาทมิฬ   ตอนที่ 14.

    ตอนที่ 14. เขาพึมพำขณะงับปลายถันสีสวยมาไว้ในอุ้งปาก ก่อนจะใช้ฟันคมๆ ขบเม้มอย่างรุนแรง มืออีกข้างก็ตะโบมบีบปทุมถันอีกดอกที่ชูไหวรออยู่อย่างรุนแรงไม่แพ้กันสาวน้อยครางสะอื้น ร่างกายอ่อนเปลี้ย ไร้แรงต้านทาน สมองหยุดทำงานไปชั่วขณะ รับรู้แต่เพียงความเสียวซ่านที่เขาปลุกเร้ามันขึ้นมา“พี่ยุธ... ได้โปรด...”สะโพกงามส่ายไหว ยกขึ้นหาความกำยำที่ผงาดใหญ่โตเป็นจังหวะอย่างเชิญชวน ชายหนุ่มครางออกมา อย่างหมดสิ้นความอดทนส่วนที่บ่งบอกความแตกต่างระหว่างเพศชายเพศหญิงของมัลลิกาเด่นชัดเต็มสองตา และมันก็ทำให้เขาถึงกับตะลึงงัน ร่ำๆ อยากจะฝังตัวเองลงไปในนั้นให้สิ้นเรื่องสิ้นราวสิ้นซากไปเสียที“มันน่าจะเป็นของฉันคนเดียว...”“พี่ยุธ... ได้โปรด”ชายหนุ่มแสยะยิ้ม ไล้นิ้วมือลงต่ำมาตามหน้าท้องแบนราบ และต่ำลงมากางมือกุมไว้ที่เนินสาว “ตรงนี้... มันควรจะเป็นของฉัน... มัลลิกาหากเธอไม่ทรยศต่อความรักของฉัน เราคงจะมีความสุขร่วมกัน...”จบคำนิ้วแกร่งก็แทรกลงไปในความคับแน่นนั้นเต็มแรง สาวน้อยตัวเกร็งร้องกรี๊ดออกมา “พี่ยุธ มะลิเจ็บนะ...”น้ำตาร่วงกราว ชายหนุ่มหรี่ตามองสาวน้อยที่ดิ้นเร่าคล้ายกับเจ็บสุดแสนด้วยความแปลกใจ แค่นิ

  • มายาทมิฬ   ตอนที่ 13.

    ตอนที่ 13.“ปล่อยฉันนะ! ปล่อยสิ...” ดิ้นรนเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่เป่าลมหายใจร้อนผ่าวลดพวงแก้มของตนเองด้วยความไม่พอใจแม้หล่อนจะทำไม่ดีกลับเขา แต่อินทรายุธก็ไม่มีสิทธิ์มาทำหยาบคายอย่างนี้กับหล่อน เรื่องนั้นมันก็จบมาตั้งสามปีแล้ว เขาจะยังติดใจอะไรอีก ผู้หญิงที่สวยที่ดีกว่าหล่อนมีเยอะยิ่งกว่าเม็ดทรายเสียอีก ทำไมเขาถึงยังจดจำอดีตที่ปวดร้าวนั้นอยู่อีกทำไม?“เมื่อสามปีก่อน... หากฉันไม่เป็นสุภาพบุรุษเธอคงเสร็จฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอใส่ผ้าขนหนูออกมาเปิดประตูให้ฉันแล้วล่ะ ความจริง... ฉันก็โง่เองแหละที่ไม่จัดการเธอวันนั้น”“คนหยาบคาย คุณไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะมาวิจารณ์ฉันแบบนี้นะ ไม่มีสิทธิ์!”อินทรายุธหัวเราะอย่างสะใจ “แล้วใครมีสิทธิ์ล่ะไอ้ผู้ชายคนไหน หรือว่าไอ้ผัวคนปัจจุบันของเธอ นี่ฉันถามจริงๆ เถอะ ไอ้คนนี้ใช่คนที่ทำให้เธอทิ้งฉันเมื่อสามปีก่อนหรือเปล่า หรือว่าเปลี่ยนคนใหม่แล้ว... ถ้าเปลี่ยนแล้วไอ้หมอนี่คนที่เท่าไหร่ล่ะ”“คุณ...!”เสียงนั้นมาพร้อมกับฝ่ามือบอบบางที่วางลงบนแก้มสากด้วยโทสะ แม้มันจะไม่ได้รุนแรงเพราะหญิงสาวไม่ถนัด แต่กระนั้นมันก็ทำให้ดวงตาคมกล้าที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยันลุกโชนด้วยโท

  • มายาทมิฬ   ตอนที่ 12.

    ตอนที่ 12.ทวิภาคอมยิ้ม “ฉันทำในสิ่งที่เธอต้องการต่างหากล่ะ ไม่เอาน่าอย่าทำหน้าแบบนี้สิ... เมื่อกี้ยังจูบตอบฉันอยู่เลย...” ชายหนุ่มหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี ขณะที่อีกฝ่ายหน้างอง้ำ“ฉันยังไม่อยากกลับเมืองไทยแล้วสิ...”ราชาวดีเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาประหลาดใจ “ทำไมล่ะเพคะ...”ชายหนุ่มระบายยิ้มก่อนจะพูดวาจาน่าตบออกมา “ฉันติดใจปากหวานๆ และการกระตือรือร้นของเธอไงล่ะ”“นายท่านพูดน่าเกลียด...”หมุนตัวจะเดินหนี แต่ข้อมือกลมกลึงก็ถูกรวบเอาไว้ด้วยอุ้งมืออุ่นร้อนของคนตัวโตที่ชอบทำร้ายหล่อนด้วยวาจาเผ็ดร้อนเสียก่อน“จะรีบไปไหนล่ะ อยู่เป็นเพื่อนฉันทานข้าวก่อนสิ องค์หญิงของเธอก็ทิ้งฉันไปแล้ว”“เชิญนายท่านตามลำพังเถอะเพคะ ข้าน้อยขอตัว...”ปฏิเสธออกไปแต่ดูเหมือนว่ามันจะไร้ผล เพราะไม่ช้าก็ถูกทวิภาคจับร่างของหล่อนให้มานั่งบนเก้าอี้ข้างๆ กับเขาอย่างไม่มีทางเลี่ยงได้“ฉันไม่ชอบให้ใครขัดใจ... มันเป็นมาตั้งแต่เกิด”ชายหนุ่มพูดขณะตักข้าวใส่ปาก ราชาวดีมองค้อน ก่อนจะก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารตรงหน้าด้วยท่าทางสง่างามราวกับคุ้นเคยกับมันมาตลอดชีวิตทวิภาคลอบสังเกตด้วยความแปลกใจ และเอ่ยถามขึ้น “เธอเหมือนคุ้นเคยกั

  • มายาทมิฬ   ตอนที่ 11.

    ตอนที่ 11.“ก็อย่าให้สนุกจนเกินเลยไปนักก็แล้วกัน เพราะเลือดขัตติยาแบบหลานมันจะจางเอาได้...” สมถวิลพูดยิ้มๆ ก่อนจะหันไปหาคนสนิท“ไปกันเถอะคำลือ อาไปนะราชาวดี...”หญิงสาวมองตามร่างของท่านอาสมถวิลไปอย่างหวั่นเกรง กลัวว่าท่านอาจะนำเรื่องนี้ไปบอกกับท่านพ่อและท่านแม่ของตนเองที่กำลังจะเสด็จกลับมาภายในไม่กี่วันนี้“ไปกันเถอะ ท่านอาคงไม่สงสัยอะไรมากกว่าคำอธิบายของหญิงหรอก”“แต่มาลีกลัวเพคะ...” มาลีที่อยู่ในชุดเจ้าหญิงแสนงามไม่ยอมขยับเดินตาม ร้อนถึงราชาวดีต้องมาดึงแขนให้เดินไปด้วยกัน“ไม่เอาน่ามาลี เราตกลงกันแล้วนะ ไม่ต้องกลัว หญิงรับผิดชอบทุกอย่างเอง...” มาลีพูดอะไรไม่ออกได้แต่ก้มหน้านิ่ง เดินตามองค์หญิงตัวเองไปอย่างหวั่นเกรงอาญาทวิภาคหรี่ตามองสตรีในชุดที่มองก็รู้ว่าแตกต่างจากนางกำนัลที่ยืนอยู่ข้างๆ นิ่ง ขณะทรุดกายลงนั่งตรงหน้าเจ้าหล่อน“นายท่านนี่องค์หญิงราชาวดีเพคะ” เสียงใสของแม่นางกำนัลดอกเอื้องดังขึ้น“ทรงพระเจริญพ่ะย่ะค่ะ” ทวิภาคเอ่ยอย่างเสียไม่ได้ อยากจะให้การพบปะกันครั้งนี้จบสิ้นลงโดยเร็วที่สุด“เอ่อ... ไม่เป็นไรมิได้เพคะ...”มาลีลืมตัวพูดออกไป ร้อนจนราชาวดีต้องรีบแก้ให้ เพราะสีหน้าของ

  • มายาทมิฬ   ตอนที่ 10.

    ตอนที่ 10.“ฉันอุตส่าห์ให้เกียรติเธอทุกอย่างตลอดเวลาที่คบกัน แต่เธอกับตอบแทนฉันซะเจ็บแสบ... เอาล่ะ ฉันไม่อยากพูดถึงอดีตที่มันน่าขยะแขยงนั้นอีก...” ศีรษะทระนงก้มต่ำลงมาหา พร้อมๆ กับรอยยิ้มชิงชังที่ขว้างใส่หน้า“คุณจะทำอะไร...”อินทรายุธหัวเราะร่วน “อย่าทำเป็นไม่รู้จักสิ ลองอยู่ทุกคืนกับไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นไม่ใช่หรือ...! ฉันจะทำให้เธอเจ็บ... เจ็บจนไม่สามารถบรรยายมันออกมาเป็นคำพูดได้เลย มัลลิกา เจ็บให้เหมือนกับที่ฉันเคยเจ็บเมื่อสามปีที่แล้ว...”หญิงสาวพยายามดิ้นรน แต่ก็ถูกพ่อคนตัวโตกระชับไว้แนบอก ไม่มีทางหนีสำหรับหล่อน “ได้โปรดเถอะ... ปล่อยมะลิไปเถอะ เราไม่ควรจะพบกันอีก...”น้ำตาไหลพราก แม้มันจะเนิ่นนานถึงสามปีแล้ว แต่หล่อนก็ยังโหยหาอ้อมกอดอบอุ่นของเขาไม่เสื่อมคลาย หากเป็นเมื่อก่อนหล่อนคงมีความสุขไม่น้อยเลยทีเดียวแต่ตอนนี้ไม่ใช่! ทุกอย่างมันคืออดีตไปแล้ว...“แต่ฉันกลับไม่คิดอย่างนั้นนะคนสวย... หลังจากที่เธอปั่นหัวจนฉันตกลงไปในหลุมที่เธอขุดจนปีนขึ้นมาไม่ได้ และจากนั้นเพียงไม่นานเธอก็หนีฉันไป พร้อมๆ กับจดหมายที่บอกว่าเธอกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายที่เธอรัก ฉันก็ไม่คิดว่าการที่ปล่อยให้เธอลอยน

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status