Share

ตอนที่ 11 ฉลอง

last update Last Updated: 2025-12-16 13:47:44

“ติ๊ง”

เสียงแจ้งเตือนจากข้อความที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือของจิวารี

พี่มะม่วง : โอนเงินเข้าให้เรียบร้อยแล้วนะคะ

พร้อมแนบสลิปมาให้ จิวารีรีบเช็คยอดจากแอปธนาคารทันที ฉีกยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นยอดเงินโอนเข้า  กดส่งข้อความหาเพื่อนชายทันที

“เงินเข้าแล้วนะรออยู่ที่เดิม ไม่มาก็อดนะจ๊ะจะบอกให้” กดส่งพร้อมรอยยิ้ม

อิทธิพลนั่งลงตรงข้ามเธอ จิวารีเปิดสลิปจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือจากข้อความที่พี่มะม่วงส่งมาให้ให้เขาดู พร้อมใบหน้าที่ดูเหมือนจะสดใสเกินเบอร์ไปมาก

“เอาเบอร์บัญชีมาเดี๋ยวโอนให้คนละครึ่ง”

เนื่องจากเป็นงานคู่และอิทธิพลแจ้งให้โอนเข้าบัญชีของจิวารีเลยจะได้ไม่ยุ่งยาก

“ไม่เป็นไรไม่ต้องโอนมาหรอก” ชายหนุ่มปฏิเสธ

“ไม่ได้...ทำงานด้วยกันก็ต้องแบ่งกันสิ” เธอแย้งทันที

“ทำตามข้อตกลงก็พอค่าจ้างเรายกให้”

จากที่ตกลงกันไว้หากชายหนุ่มรับงานคู่ร่วมกัน จะให้เธอทำอะไรก็ได้ตามที่เขาขอหนึ่งเรื่อง อิทธิพลขอให้เธอแกล้งเป็นแฟนเขาเพื่อโกหกพ่อ และต้องไปพบพ่อกับเขาที่บ้านด้วย

“ไม่เอาอ่ะฉันไม่ชอบเอาเปรียบใคร เอาเบอร์บัญชีมาเร็ว ๆ”

“ไม่ใช่ว่าโอนเงินให้เราแล้วคิดจะเบี้ยวสัญญาหรอกนะ” มองหน้าหญิงสาวและพูดดักไว้ก่อน

“ฉันสัญญาแล้วไม่เบี้ยวหรอกน่า”

“งั้นก็ตกลงตามนั้นไม่ต้องโอนมาแค่ทำตามสัญญาก็พอ” อิทธิพลสรุปสั้น ๆ อีกครั้ง

“งั้นฉันเลี้ยงข้าวนายก็แล้วกัน วันนี้ว่างไหม? หลังเลิกเรียนไปกินบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างกัน วันนี้ไม่ได้ร้องเพลง เดี๋ยวชวนเอวาก่อน”

พูดแล้วก็กดโทรไลน์หาเพื่อนสาวทันทีแต่ต้องทำหน้าม่อยเมื่อปลายสายปฏิเสธเพราะนัดทานข้าวกับแม่ไว้แล้ว

สองหนุ่มสาวเดินเข้าห้างสรรพสินค้าหลังเลิกเรียนที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คนในช่วงเวลานี้ แอร์ฉ่ำ ๆ บวกกับกลิ่นหอม ๆ ของร้านขนมที่เดินผ่านมา บวกกับกลิ่นกาแฟสดหอมกรุ่นไปทั่วบริเวณดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อย ถึงแม้ไม่ได้แวะชิมแต่ก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลายได้เพียงแค่ได้มองและสูดกลิ่นหอม ๆ เท่านั้น

“นายอยากกินอะไรเลือกเลยวันนี้ป๋าจิ๋วใจดี” ทั้งที่เป็นเงินน้ำพักน้ำแรงของเขาแท้ ๆ

“เธอเป็นคนเลี้ยงให้เธอเป็นคนเลือก”

“งั้นก็บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างเกาหลีละกันอยากกินมานานแล้ว”

“แต่ขอซื้อของก่อนนะแป็บนึงค่อยกิน นายหิวหรือยัง?”

“ยังไม่หิว ซื้อของก่อนก็ได้”

สองหนุ่มสาวเดินเล่นแวะชมสินค้าเข้าร้านนั้นออกร้านนี้อย่างสนุก ก่อนที่จิวารีจะเดินนำหน้าเข้าไปในร้านขายโทรศัพท์มือถือ กวาดตามองสินค้าที่วางโชว์อยู่อย่างสนใจ

“สวัสดีค่ะ สนใจสินค้าชิ้นไหนแจ้งได้เลยนะคะ” เสียงทักทายจากพนักงานขายในร้าน สองหนุ่มสาวหันไปส่งยิ้มให้

“จะซื้อโทรศัพท์ใหม่เหรอ?” คนข้าง ๆ เอ่ยถามเมื่อเห็นเธออ่านรายละเอียดสินค้าอย่างตั้งใจ

“อือ ซื้อให้พ่อน่ะ ของพ่อมันพังแล้วโทรไปทีไรก็คุยรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง” ตอบโดยไม่มองหน้าสายตายังคงจับจ้องที่สินค้าในร้านอย่างตั้งใจ

“ช่วยเลือกหน่อยสิ” หันมามองและขอคำแนะนำ

อิทธิพลเดินดูโดยรอบและเลือกแบบที่ดีที่สุดมาแนะนำเธอ

“แพงไป...คนแก่ใช้ไม่เป็นหรอกเอาแบบธรรมดาก็พอ”

“นายว่าอันนี้ดีไหม?” หยิบโชว์ขอความคิดเห็นจากชายหนุ่ม แต่ดูเหมือนว่าเธอจะตัดสินใจแล้ว อิทธิพลพยักหน้า จิวารีเดินไปแจ้งพนักงาน รอเพียงไม่นานก็ได้ถุงใส่สินค้ามาถือในมือ และเดินออกร้านไป

ร้านถัดไปของเธอที่แวะคือโซนเสื้อผ้าผู้ชาย โดยมีชายหนุ่มเดินตามเข้าไปเหมือนบอดี้การ์ด จิวารีลูบ ๆ คลำ ๆ กระเป๋าสะพายใบกะทัดรัดอยู่นานสองนาน

“สีนี้สวยไหม?” โชว์กระเป๋าที่ตัดสินใจไม่ได้ว่าเลือกสีไหน

“เปลี่ยนลุคเหรอ?”

“เปล่า...ซื้อให้พี่แจ็คน่ะ” ยิ้มอย่างภาคภูมิใจกับสิ่งเล็ก ๆ ที่ตัวเองได้ทำให้พ่อกับพี่บ้างจากเดิมที่เป็นฝ่ายรับมาตลอด

นึกถึงสภาพกระเป๋าของผู้เป็นพี่ที่ขาดแล้วขาดอีก แต่ก็ยังใช้อยู่เพราะเป็นใบโปรดของเขา และไม่ยอมซื้อใหม่ เหตุผลเพียงเพราะเก็บเงินไว้และเอามาให้เธอเป็นค่าใช้จ่ายข้อนี้หญิงสาวรู้ดี

อิทธิพลลอบมองใบหน้าคนที่อมยิ้มและเลือกกระเป๋าอยู่อย่างอารมณ์ดี นี่เธอทำงานพิเศษงก ๆ ทั้งกอดทั้งจูบเขาจนหน้าแดงได้ค่าจ้างมาไม่คิดจะให้รางวัลตัวเองบ้างเลยหรือยังไง

เมื่อเลือกกระเป๋าได้ถูกใจแล้วก็เดินตรงไปที่โซนเสื้อผ้า หยิบเชิ้ตทรงเท่ขึ้นมาดูใกล้ ๆ และแนบเข้ากับร่างของอิทธิพลเพื่อวัดไซซ์

“พี่แจ็คก็หุ่นพอ ๆ กับนายน่าจะใส่ได้พอดี”

“สีไหนสวยช่วยเลือกหน่อย”

อิทธิพลเลือกและหยิบขึ้นมาสองตัวยื่นให้เธอ เป็นโทนเรียบ ๆ สบายตา

“งั้นเอาสองตัวนี้แหละ” เดินไปที่จุดชำระสินค้า

“แยกเป็นสองถุงนะคะ” สั่งพนักงาน

“ได้ค่ะ”

อิทธิพลรับถุงจากพนักงานมาถือไว้ในมือ และภารกิจซื้อของในวันนี้ก็เสร็จสิ้น ก่อนเดินเข้าโซนอาหาร

ภาพหนุ่มสาวที่นั่งทานอาหารในร้านหัวเราะหยอกล้อกันอยู่เป็นระยะ ท่ามกลางสายตาอีกคู่ที่มองอยู่อีกฝั่งทะลุกระจกใสเข้าไป เนื่องจากสองหนุ่มสาวนั่งติดมุมกระจกด้านข้าง ขวัญข้าวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปซูมให้เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่เป็นหนามตำใจเธออย่างชัด ๆ แน่นอนว่าไม่ใช่เอวา แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน

จิวารีหยิบถุงเสื้อยื่นให้อิทธิพล

“อื่อ...ให้นาย”

“ให้เราเหรอ?”

“อือ รับไปสิ”

“ไหนบอกซื้อให้แจ็คไง”

“ของนายตัวนึง ของพี่แจ็คตัวนึง”

“ไหน ๆ นายก็ทำงานเหนื่อยเหมือนกันแถมไม่เอาค่าแรงอีก คิดเสียว่าแทนคำขอบคุณก็แล้วกัน” อิทธิพลรับถุงเสื้อในมือเธอมาถือไว้

“ใจดีจัง ขอบคุณนะป๋า” แกล้งแซว

เสียงสั่นจากโทรศัพท์มือถือ อิทธิพลหยิบขึ้นมากดรับสายโทรเข้า

“ครับแม่”

“กินข้าวอยู่ครับ”

“กับจิ๋วครับ”

ก่อนจะนิ่งฟังเสียงจากปลายสายสักครู่

“ได้ครับ อยู่ที่คอนโดเดี๋ยวดินเอาไปให้ครับ” และวางสายไป

“เธอมีธุระที่ไหนต่อหรือเปล่า?”

“เปล่า มีอะไร?”

“ขอเข้าไปเอาของให้แม่ก่อนแป็บนึงเดี๋ยวไปส่งจะได้ไม่ต้องย้อนกลับไปกลับมา”

“ได้สิ”

รถเคลื่อนออกจากห้างสรรพสินค้าปลายทางต่อไปคือคอนโดของชายหนุ่ม จิวารีที่อิ่มท้องจากอาหารเมื่อครู่ขึ้นนั่งในรถก็เอนหลังอย่างสบายใจ อิทธิพลเปิดเพลงเบา ๆ และทำหน้าที่เป็นสารถี หญิงสาวนั่งร้องเพลงตามเครื่องเสียงอย่างอารมณ์ดี

“โอ๊ย กินเยอะไปหน่อยหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนง่วงแล้วอ่ะ เมื่อคืนกว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกมากแล้ว ได้นอนแค่งีบเดียวเองแถมมีเรียนคาบเช้าอีก”

โอดครวญให้เขาฟังพร้อมกับบิดขี้เกียจ ไม่นานรถก็วิ่งเข้าจอดในลานจอดรถของคอนโด

“นายอยู่ที่นี่เหรอ?” กวาดสายตาไปทั่วบริเวณ

“อือ”

อิทธิพลเอื้อมมือไปกดลิฟต์เดินนำหน้าเพื่อนสาวเข้าไป

“ปิ๊ง” เสียงประตูลิฟต์ที่แจ้งเตือนเมื่อถึงชั้นและเปิดออกมา หญิงสาวก้าวขาเดินตามขายาว ๆ ของคนนำทาง อิทธิพลสแกนนิ้วที่ประตูห้องและเปิดเข้าไป

“นั่งรอแป็บนึงหยิบของให้แม่ก่อน ห้องน้ำอยู่ทางนั้นถ้าเธอจะเข้า”

“อือ” พยักหน้ารับ เจ้าของห้องเดินไปเปิดแอร์ให้ จิวารีนั่งลงตรงโซฟาข้างกระจกใสที่เปิดม่านไว้จนสุด ไล่สายตาดูทั่วบริเวณห้องที่ถูกตกแต่งไว้อย่างเรียบหรูและมีสไตล์ โดยเน้นโทนเข้มตามแบบฉบับของเจ้าของห้อง เรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้าน มองทะลุกระจกออกไปด้านนอกเห็นวิวในมุมสูงของเมืองกรุงอย่างสวยงาม รถที่วิ่งสวนกันไปมาอยู่บนถนนด้านล่างคันเล็กจิ๋วเหมือนของเล่น

ชายหนุ่มเดินหายเข้าไปในห้องนอนสักพักก็ออกมาพร้อมซองเอกสารในมือ พร้อมกับคุยสายโทรศัพท์ไปด้วย และเดินหายไปในโซนครัวเล็ก ๆ ที่มุมถัดไป

จิวารีฟังเสียงเขาคุยโทรศัพท์อยู่สักพักก็เอนหลังผ่อนคลาย คนรวยเขาใช้ชีวิตกันแบบนี้นี่เอง อยู่คนเดียวคงเหงาน่าดู ซึ่งแตกต่างกับเธอไม่มีเวลาได้เหงาเลยสักนิด คิดในใจคนเดียวขณะที่แอร์เย็นฉ่ำ สุดท้ายก็เผลอหลับไป

อิทธิพลยืนมองร่างที่หลับลึกอยู่บนโซฟา หลังจากเรียกเธออยู่สักพักแต่คนที่หลับลึกอยู่ดูเหมือนจะกำลังดำดิ่งลึกลงไปอีก กวาดสายตาไล่ตามเรียวขาเธอลงมา คนอะไรมาห้องผู้ชายยังจะกล้าหลับลึกขนาดนี้ได้ยังไง แถมใส่กระโปรงนักศึกษาสั้นแค่เข่า ยังจะกล้าหลับแบบทิ้งตัวไม่กังวลเลยสักนิด ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นเธอจะกล้าไว้ใจแบบนี้หรือเปล่า

เดินไปหยิบผ้าผืนบางมาคลุมตัวให้เธอ คงจะเหนื่อยและเพลียเอาเรื่องอยู่ถ้าจะหลับอร่อยขนาดนี้ ปล่อยให้หลับไปก่อนสักพักก็แล้วกัน ปลีกตัวออกมาโทรศัพท์หาผู้เป็นแม่

“ฮัลโหล...แม่ครับ”

“ให้คนออกมาเอาที่คอนโดได้ไหมครับดินต้องไปส่งเพื่อนเผื่อแม่รีบใช้”

และวางสายไป

นั่งมือเท้าคางมองหน้าคนหลับอย่างตั้งอกตั้งใจ พลันภาพมโนในความจำวันนั้นก็ผุดขึ้นมา ชัดเจนว่าเธอไม่เคยมีแฟนจากพฤติกรรมที่แสดงออกในวันนั้น มองริมฝีปากที่ปิดสนิทอยู่ตอนนี้ที่ชวนให้จินตนาการตามสัญชาตญาณของผู้ชาย ก่อนจะไล่ไปทั่วตามกรอบหน้าสวยลงมาที่ติ่งหู คางมนที่เขาคงเป็นผู้ชายคนแรกหรือเปล่าที่ได้สัมผัสตอนถ่ายรูปวันนั้น

ไล่ต่ำลงมาที่ลำคอระหง และหยุดอยู่ที่สองเนินเนื้อนุ่มกลางอกที่กำลังกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจ ก่อนที่ชายหนุ่มจะละสายตาไปทางอื่นทันที ผุดลุกขึ้นยืนก่อนที่สมองจะเตลิดไปไกลกว่านี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนพิเศษ 41 แค่มีเรา

    เสียงลมหนาวพัดผ่านรวงข้าวสีทองที่โอนเอนตามแรงลมอย่างอ่อนช้อย แสงอาทิตย์แรกของวันทาบทอลงบนท้องทุ่งกว้าง กลิ่นฟางกลิ่นดินที่ลอยคละคลุ้งในอากาศเมื่อหมอกจาง ๆ เริ่มคลายตัว กลุ่มนกน้อยใหญ่บินวนจิกเมล็ดข้าวในทุ่งนาโดยไม่สนใจหุ่นไล่กาเลยสักนิด ประหนึ่งว่าเป็นเพื่อนที่คุ้นหน้ากันเสียอย่างนั้นอิทธิพลขับมอเตอร์ไซค์ตามทางคดเคี้ยวที่ใช้เป็นทางลัดกลับจากท้ายทุ่ง โดยมีจิวารีนั่งซ้อนท้าย ในมือถือตะกร้าผักสดที่เก็บมาใหม่ ๆ สำหรับให้พ่อโจทำกับข้าวในเช้านี้ หลังจากสองหนุ่มสาวเคลียร์ความวุ่นวายของงานลงตัวแล้วและกลับมาเยี่ยมพ่อผ่านพ้นไปหลายฤดูที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามวันเวลาที่ล่วงผ่าน เช่นเดียวกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ของการทำงาน ที่ไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันคือวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันอย่างดีให้กับทุกปัญหาของการใช้ชีวิตอิทธิพลได้เข้าศึกษาต่อในสาขาบริหารธุรกิจเพื่อสานต่อตำแหน่งผู้บริหารเต็มตัวหลังจากทรงศักดิ์จากไปอย่างสงบในวัยชรา ดวงยี่หวาโอนกิจการร้านอาหารให้ทายาทเพียงคนเดียวหลังจากออกไปทำกิจการความสวยความงามตามที่เธอชื่นชอบ และมีจิวารีบริหารกิจการต่อจากเธอจิวากรลาออกจากบ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 40 อินเลิฟ

    สองหนุ่มสาวหอบหิ้วถุงขนมขบเคี้ยวและกับแกล้มจากร้านสะดวกซื้อ หิ้วพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือไปหมด อีกทั้งเครื่องดื่มที่ตุนไว้สำหรับการเชียร์บอลในคืนนี้ด้วย จิวารีขอตัวไปอาบน้ำหลังจากเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ชำระร่างกายคืนความสดชื่นแล้วยังไม่ทันจะได้นั่งพักเหนื่อยเสียงเคาะที่หน้าประตูก็ดังขึ้น ส่องดูหน้าคนเคาะที่ตาแมว อิทธิพลนั่นเอง“รอนานแล้ว” ทันทีที่เปิดประตูให้เขาก็อ้อนทันที พร้อมกับจูงมือหญิงสาวเดินมาที่ห้อง เครื่องดื่มและของขบเคี้ยวถูกนำมาวางตรงโต๊ะหน้าทีวีสำหรับการเตรียมเชียร์บอลเรียบร้อย พร้อมกับเสียงบรรยายเมื่อการแข่งขันกำลังจะเริ่ม จิวารีนั่งลงข้างเขาเอนพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย“ที่ร้านเป็นไงบ้างวันนี้ยุ่งหรือเปล่า?”“อือ ลูกค้าเยอะ วันนี้ใส่รองเท้าส้นสูงคู่ใหม่ไม่สบายเท้าเลย แถมปวดขามากอีกต่างหาก” มือทุบที่หน้าขาตัวเองเบา ๆ“เหนื่อยก็พักมีพี่ไพลินอยู่ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงหรอก” ยกแขนขึ้นโอบไหล่เธอและดึงเข้ามาซบไหล่ตัวเอง“แล้วเรื่องเรียนต่อของนายไปถึงไหนแล้ว?”“รอเรื่องงานลงตัวก่อนค่อยว่ากันอีกที?” ตอบและจูบที่หน้าผากจิวารีเงยหน้าขึ้นมองเขา“อะไร?” อิทธิพลถามเมื่อหญิงสาวเอาแต่ยิ้มแล

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 39 ชีวิตนอกมหาวิทยาลัย

    จิวารีอยากตอบตกลงการเริ่มงานใหม่กับเอวา เมื่อถูกทาบทามให้ไปทำงานที่สาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดกับการร่วมหุ้นของสองครอบครัวระหว่างดวงยี่หวาและพิมพ์พรรณ แต่ดวงยี่หวาขอร้องให้เธอมาบริหารร้านอาหารแทน โดยยกเหตุผลทั้งร้อยแปดประการให้หญิงสาวใจอ่อน เพียงเพราะเจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวไม่อยากให้สาวห่างไกลหูไกลตาเท่านั้นเองส่วนอิทธิพลนั้นตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งตามที่ทรงศักดิ์แต่งตั้ง ในการสานต่อธุรกิจของตระกูล เนื่องจากปัญหาสุขภาพของผู้เป็นปู่ เท่ากับว่าความรักที่เพิ่งผลิบานใหม่ถูกจำกัดด้วยเวลาและภาระหน้าที่เพราะต่างฝ่ายต่างเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ในชีวิตการทำงาน ทำได้เพียงส่งข้อความหวานและโทรหาเพื่อฟังเสียงเท่านั้น หลังเลิกงานก็มารับหญิงสาวกลับห้องพร้อมกัน เพราะขนกระเป๋าเสื้อผ้ามาอยู่คอนโดที่เคยปฏิเสธแล้ว เนื่องจากดวงยี่หวาอ้างเป็นสวัสดิการและใกล้ที่ทำงานจะได้สะดวกในการเดินทางด้วย“ร้านเดิมนะ ตอนเย็นหลังเลิกงานวันศุกร์”คือข้อความที่นัดเจอกันของกลุ่มเพื่อน หลังจากห่างหายจากการพบปะสังสรรค์นานแล้วหลังจากสิ้นสุดการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะต่างฝ่ายต่างยุ่งกับการจัดการชีวิตให้เข้าที่เข้าทาง ทั้งเร

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 38 สิ้นสุดทางเพื่อน เป็นแฟนกันนะ

    “มีอะไรหรือเปล่า?” เป็นเขาที่ถามขึ้นมาก่อน“เอ่อ....” เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ อิทธิพลปิดหลอดยาและเก็บลงกล่อง“เมื่อคืนนายไปส่งฉันใช่ไหม?” ถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าใช่จากที่เอวาบอก“อือ” ตอบและเดินไปหยิบรีโมทย์เปิดทีวี นั่งพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย เลื่อนเลือกช่องดูผลการแข่งขันฟุตบอล“ขอบใจนะ” จิวารีอึกอักพูดต่อ“พี่แจ็คไม่อยู่บ้านน่ะ...ออกไปตั้งแต่เช้าก็เลยยังไม่ได้ถาม” ขยายความให้เผื่อเขาสงสัย“แล้ว...” เธอหยุดคำพูดไว้แค่นั้น กลอกตาล้อกแล้กไปมาเหมือนหัวขโมยจอมโกหกที่กลัวคนจับได้“หือ...” อิทธิพลหันมามองหน้ายกคิ้วเป็นคำถาม และรอฟังว่าเธอจะถามอะไรต่อ จิวารีเม้มปากแน่น หายใจติดขัด“คือ...ฉัน...น่าจะเมาหนักมาก”“แล้ว...เผลอทำอะไรรั่ว ๆ หลุด ๆ ไปบ้างหรือเปล่า?” ถามอย่างมีเลศนัยอิทธิพลยกมือขึ้นจับคางทำท่าครุ่นคิด“ก็...”จิวารีลุ้นคำตอบตามอย่างตื่นเต้น“ไม่มีนะ”เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ฟังคำตอบจากเขา ค่อยยังชั่วหน่อย ที่แท้ก็แค่มโนเท่านั้น ยิ้มอย่างผ่อนคลาย กำลังจะอ้าปากถามเขาว่าอาหารจะมาส่งกี่โมง“เราก็แค่จูบกันเฉย ๆ” อิทธิพลพูดสวนขึ้นมารอยยิ้มบาง ๆ เมื่อครู่ค่อย ๆ หุบลง พร้อมกั

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 37 เคลียร์

    จิวารีงัวเงียตื่นมาเข้าห้องน้ำในตอนเช้ามืด ตามด้วยการกินยาแก้ปวดและเดินกลับห้องทิ้งหัวลงหมอนนอนต่อ ลืมตาตื่นอีกทีก็ใกล้เที่ยง มือควานหาโทรศัพท์บนหัวเตียงกดดูเวลาที่หน้าจอ ก่อนจะวางลงที่เดิม ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งและนิ่งอยู่สักครู่ มือนวดวนอยู่ข้างขมับ ก่อนลุกขึ้นไปอาบน้ำเรียกความสดชื่นคืนให้ร่างกายละอองน้ำเย็นที่ซ่ากระเซ็นลงสู่ร่างตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เรียกความตื่นตัวคืนมาได้ไม่น้อย กลิ่นหอมของแชมพูบวกกับกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ยังติดอยู่ที่ปลายจมูกผสมคละคลุ้งกันภายใต้ไอน้ำเย็นในห้องน้ำเล็ก ๆ จิวารียืนนิ่งใต้ฝักบัวปล่อยให้สายน้ำไหลลงชำระความมึนเมาและความรุงรังในใจออกไปให้หมด ในสมองก็พลอยลำดับเหตุการณ์ของเมื่อคืนไปด้วยภายใต้ภาพความทรงจำที่แสนจะเลือนรางเท่าที่สมองจะบันทึกไว้ได้แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดกลับเป็นความฝันนี่เธอเป็นหนักเอาการถึงขั้นฝันว่าได้จูบกับเขาแล้วเชียวเหรอ มือเสยผมที่เปียกปอนลงสองข้างแก้มขึ้น เงยหน้ารับละอองน้ำเย็น เป่าปากถอนหายใจทิ้ง อีกนานแค่ไหนกันนะถึงจะกล้าเผชิญหน้ากับเขาเหมือนเดิมแบบไม่รู้สึกอะไรได้ เอาน่า ต่อไปก็คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ เรียนจบแล้ว ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายหางานทำ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 36 ความในใจ

    อิทธิพลจอดรถข้างริมฟุตบาทแวะซื้อข้าวต้มริมทาง เผื่อเธอสร่างเมาเมื่อถึงบ้านและเกิดหิวขึ้นมา ตลอดเส้นทางคนเมาที่ตื่นมาบ่นเป็นครั้งคราว“ดิน” เรียกชื่อเขาทั้งที่ตาหลับอยู่“หือ” คนขับหันไปมอง เธอพูดแค่นั้นก่อนจะเงียบลงและหลับต่อ อิทธิพลเอื้อมไปดึงมือเธอมากุมไว้อีกมือจับพวงมาลัย“ว่าไง” แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่นั่งข้างกันรถวิ่งมาจอดหน้าบ้าน ดีว่าเขาเคยมาส่งตะวันในครั้งที่ลืมของไว้ที่นี่ไม่งั้นคงวุ่นวายหาบ้านอยู่เป็นแน่ว่าหลังไหน คนเมาก็พูดไม่รู้เรื่อง หันมามองคนข้าง ๆ ที่นั่งคอพับหลับอยู่“จิ๋ว” มือแตะไหล่ปลุกเธอให้ตื่น“ถึงบ้านแล้ว”“อือ” พลิกตัวหลับต่อ“จิ๋ว...เข้าบ้านนะถึงบ้านแล้ว” พูดซ้ำอีกครั้ง“ฮือ...ไม่เอา...จะนอน” งัวเงีย เสียงในลำคอบ่งบอกว่ารำคาญ“เข้าใปนอนในบ้าน”“กุญแจบ้านอยู่ไหน?” ถามคนเมาที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายของเธอมาเปิดหากุญแจ เปิดเข้าไปในบ้านสำรวจก่อนเพื่อความแน่ใจว่าห้องของเธอห้องไหนและเปิดประตูทิ้งไว้ เดินกลับมาอุ้มคนที่หลับอยู่เข้าบ้านวางหญิงสาวลงบนที่นอน ถอดรองเท้าออกให้ และกลับมาปิดรั้วบ้าน ก่อนจะเข้าไปสาละวนกับคนเมาอีกครั้ง“ทำไมเมาทิ้งตัวขน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status