Share

ตอนที่ 36 ความในใจ

last update Last Updated: 2025-12-17 21:11:50

อิทธิพลจอดรถข้างริมฟุตบาทแวะซื้อข้าวต้มริมทาง เผื่อเธอสร่างเมาเมื่อถึงบ้านและเกิดหิวขึ้นมา ตลอดเส้นทางคนเมาที่ตื่นมาบ่นเป็นครั้งคราว

“ดิน” เรียกชื่อเขาทั้งที่ตาหลับอยู่

“หือ” คนขับหันไปมอง เธอพูดแค่นั้นก่อนจะเงียบลงและหลับต่อ อิทธิพลเอื้อมไปดึงมือเธอมากุมไว้อีกมือจับพวงมาลัย

“ว่าไง” แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่นั่งข้างกัน

รถวิ่งมาจอดหน้าบ้าน ดีว่าเขาเคยมาส่งตะวันในครั้งที่ลืมของไว้ที่นี่ไม่งั้นคงวุ่นวายหาบ้านอยู่เป็นแน่ว่าหลังไหน คนเมาก็พูดไม่รู้เรื่อง หันมามองคนข้าง ๆ ที่นั่งคอพับหลับอยู่

“จิ๋ว” มือแตะไหล่ปลุกเธอให้ตื่น

“ถึงบ้านแล้ว”

“อือ” พลิกตัวหลับต่อ

“จิ๋ว...เข้าบ้านนะถึงบ้านแล้ว” พูดซ้ำอีกครั้ง

“ฮือ...ไม่เอา...จะนอน” งัวเงีย เสียงในลำคอบ่งบอกว่ารำคาญ

“เข้าใปนอนในบ้าน”

“กุญแจบ้านอยู่ไหน?” ถามคนเมาที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายของเธอมาเปิดหากุญแจ เปิดเข้าไปในบ้านสำรวจก่อนเพื่อความแน่ใจว่าห้องของเธอห้องไหนและเปิดประตูทิ้งไว้ เดินกลับมาอุ้มคนที่หลับอยู่เข้าบ้าน

วางหญิงสาวลงบนที่นอน ถอดรองเท้าออกให้ และกลับมาปิดรั้วบ้าน ก่อนจะเข้าไปสาละวนกับคนเมาอีกครั้ง

“ทำไมเมาทิ้งตัวขนาดนี้นะ ปกติคอแข็งจะตาย” พูดคนเดียว

บิดผ้าที่ชุบน้ำเย็นออกหมาด ๆ แล้วเช็ดตามกรอบหน้าและลำคอให้ จิวารีปัดออกพัลวัน

“คนจะนอน...อย่ายุ่ง”

บ่นงึมงำและพลิกตัวหนี อิทธิพลพลิกตัวเธอกลับมาเช็ดตามมือและแขน

“บอกว่าไปให้พ้น” ปัดมือเขาออก พร้อมกับเป่าลมหายใจออกทางปาก อิทธิพลหยุดเช็ด นั่งมองเธออยู่อย่างนั้น

“ดิน” อ้อแอ้เรียกชื่อเขาแผ่วเบา ทั้งที่ดวงตายังปิดสนิท

“จะเอาอะไร?” ก้มลงถามใกล้ ๆ

“ฉันเกลียด...นาย”

จุดอ่อนในใจมันทำงานได้ดีที่สุดตอนเราอ่อนแอนี่เอง เกลียดเขาที่ทำให้คิดถึง เกลียดที่ทำให้รัก และเกลียดตัวเองที่เพิ่งรู้ใจตัวเองดีก็ตอนเมาแบบนี้ เกลียดที่ไม่สามารถตัดใจจากความรู้สึกข้างในได้แม้ในวันที่เขามีคนอื่นแล้ว พร้อมกับน้ำตาที่ซึมออกมาแม้ดวงตาจะปิดอยู่

อิทธิพลนิ่งไปชั่วขณะที่ประโยคสุดท้ายหลุดปากเธอออกมา แต่ที่ทำให้เขารู้สึกแย่มากกว่าคำพูดนั้นมันคือน้ำตาของเธอต่างหาก เสียงสะอื้นเล็ก ๆ ที่เล็ดลอดออกมาให้ได้ยินภายใต้น้ำตาที่ไม่หยุดไหลนั้น อิทธิพลเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา

“เราทำอะไรให้เธอโกรธหรือเปล่า?” ถามไปอย่างนั้น รู้ทั้งรู้ว่าคงไม่มีประโยชน์จะเอาอะไรกับคนเมา เหมือนเป็นการถามตัวเองเสียมากกว่า

“นายจะอยู่กับใคร...”

“จะไปไหนกับใคร...”

“ฉันไม่แคร์เลยสักนิด”

หลับตาบ่นเสียงขึ้นจมูกพร้อมกับเสียงสะอื้นที่ดังขึ้นเป็นระยะเหมือนเด็กที่ต้องการให้โอ๋

อิทธิพลขมวดคิ้ว แน่ชัดแล้วว่าเขาต้องทำอะไรให้เธอไม่พอใจเป็นแน่ แต่นิสัยของจิวารีหากมีอะไรคาใจจะถามต่อหน้าให้จบ ๆ ไป นี่เขายังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ อะไรกันที่ทำให้เธอโกรธถึงกับต้องหลั่งน้ำตา ชายหนุ่มเฝ้าครุ่นคิดหัวแทบแตกแต่ก็ไม่มีคำตอบให้กับตัวเอง

“หิวน้ำ” เสียงไอเบา ๆ ทำปากจิ๊จ๊ะ งัวเงียทำท่าจะลุกขึ้นแต่ก็ไม่ไหวเมื่อหินก้อนใหญ่มันทับหัวอยู่ แถมยังเหมือนมีใครจับหัวเธอปั่นหมุนเหมือนลูกข่างอีกต่างหาก

“หิวน้ำเหรอรอแป็บนึง” เดินไปเปิดตู้เย็นและหยิบขวดน้ำมา กลับมานั่งข้างเตียงเปิดฝาขวดออกแต่ไม่มีหลอด

“ลุกขึ้นกินน้ำก่อน” มือช้อนหลังให้เธอลุกขึ้นนั่ง ชายหนุ่มจ่อขวดน้ำที่ปากเธอ จิวารียกขวดน้ำขึ้นดื่มอึกใหญ่ ตามด้วยเสียงถอนหายใจทิ้ง พยายามเปิดตาขึ้นมองภาพพร่ามัวตรงหน้า

“พอแล้วเหรอ?”

ภาพใบหน้าคุ้นเคยที่ไม่มีจุดโฟกัส มันเบลอจนตาลาย แต่กระนั้นก็ยังจำได้แม่นว่าคือเขา

“ดินเหรอ?”

“อือ”

“มาทำไม กลับไปเลย” แขนที่ไม่มีเรี่ยวแรงผลักเขาออกห่างตัว พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นขึ้นขอบตาและหยดเผาะลงข้างแก้ม อิทธิพลดึงเธอเข้ามากอดฝ่ามือหนาลูบเรือนผมเธออย่างอ่อนโยน จิวารีซบหน้าลงที่ไหล่กว้างเสียงสะอื้นเล็ก ๆ ยังไม่หายไป

“ขอโทษนะ” ถึงแม้ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร มือที่ลูบอยู่เรือนผมเลื่อนลงมาที่แผ่นหลังบอบบางลูบวนไปมาแผ่วเบาเหมือนปลอบเด็ก

“ฉันคิดถึงนาย” เสียงแหบที่พูดอู้อี้อยู่กับซอกไหล่เขา

“….”

“คิดถึงมาก” ประโยคสุดท้ายที่มาพร้อมเสียงสะอื้น

อิทธิพลหลับตา ค่อย ๆ กระชับวงแขนให้แน่นขึ้น สูดลมหายใจเข้าลึกเหมือนซึมซับเอาคำพูดเมื่อครู่เก็บเข้าไปไว้ใต้ก้นบึ้งของหัวใจ ถึงแม้จะเป็นคำพูดของคนเมา

จับไหล่บางดึงเธอออกห่างตัว จ้องมองดวงตาท่ามกลางน้ำใส ๆ ที่ซึมออกมาเรื่อย ๆ จิวารีกะพริบตาช้า ๆ มองหน้าเขา ริมฝีปากปิดสนิทย่นขึ้นย่นลงจากการกลั้นร้องไห้ ชายหนุ่มเกลี่ยนิ้วโป้งเช็ดน้ำตาที่พวงแก้มออก

 “เราก็คิดถึงเธอ...คิดถึงมาก”

คิดถึงและอยากอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา

หวง ไม่อยากให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอเลยแม้แต่น้อย

คิดถึงจนไม่สามารถเก็บไว้ในใจได้อีกต่อไป

ค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงมาหาก่อนจะประทับริมฝีปากลงไปอย่างแผ่วเบาที่ปากเธอ มือประคองใบหน้าสวยไว้ จูบอย่างอ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยความปรารถนาที่เก็บไว้นานจนเอ่อล้นออกมานอกอกแล้ว จูบอย่างโหยหาและเต็มไปด้วยความคิดถึงที่มีให้เธอแค่คนเดียวเท่านั้น

จิวารีหลับตาพริ้มปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความฝัน ที่มีเพียงเขาและเธอในเวลานี้ แม้ความเป็นจริงเขาจะเป็นของคนอื่นแล้วก็ตาม

สองใบหน้าแนบชิดรับสัมผัสความอบอุ่นซึ่งกันและกัน ตักตวงความคิดถึงผ่านอ้อมกอดและจูบอันแสนหวาน เนิ่นนาน มือหนาเกลี่ยปลายนิ้วที่กรอบหน้าเมื่อความปรารถนาเริ่มเข้มข้นขึ้น

อิทธิพลถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย เขาไม่ควรฉวยโอกาสตอนเธอขาดสติ แต่แรงปรารถนาภายในมันร้ายนัก ดึงร่างเธอเข้ามากอดอีกครั้งซึมซับความคิดถึงให้เข้าไปทุกอณูของร่างกาย แค่นี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าเธอไม่ได้เกลียดเขาเหมือนคำพูดที่เอ่ยออกมา ส่วนที่เหลือเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องเคลียร์ให้จบหลังจากเธอมีสติเต็มร้อยครบถ้วนก่อน เสียงหายใจแรงจากร่างที่ซบอยู่ที่แผ่นอกบ่งบอกว่าเธอหลับสนิทเสียแล้ว จับร่างเธอเอนหลังลงที่นอน หยิบผ้าห่มมาคลุมร่างให้ ก้มลงจูบที่หน้าผากแผ่วเบา

อิทธิพลเดินออกมานั่งรับลมที่หน้าบ้านหลังจากปิดไฟในห้องให้เธอแล้ว อยากให้สว่างเร็ว ๆ จะได้รีบเคลียร์เรื่องคาใจให้จบเสียที แต่พรุ่งนี้ดวงยี่หวามีนัดกินข้าวกับพิมพ์พรรณและให้เขาไปด้วย หลังเสร็จธุระเรื่องที่บ้านแล้วเรื่องนี้ก็ต้องจบลงเช่นกัน

นั่งรับลมชมวิวจนดึกดื่น รถเก๋งคันคุ้นตาก็เข้ามาจอดที่หน้าบ้าน พร้อมกับร่างของจิวากรที่เดินลงรถมา อิทธิพลเดินไปเปิดรั้วหน้าบ้านให้

“ทำไมขับรถเอวามาได้?”

“ไม่มีแท็กซี่” โกหกยังไงก็ได้

“เรียบร้อยดีใช่ไหม เอวาคงไม่ก่อเรื่องนะ” ถามหยอก ๆ พร้อมรอยยิ้มบาง ๆ

“กูเอาอยู่” ยักคิ้วพร้อมยักไหล่ บ่งบอกว่าเรื่องแค่นี้ชิว ๆ

“ไอ้จิ๋วล่ะ?” ถามและมองเข้าไปด้านใน

“หลับไปแล้ว”

“เฮ้อ...ไอ้ตัวแสบ”

“ขอบใจนะ” ตบไหล่อิทธิพล

“ไม่เป็นไร”

“งั้นฉันกลับก่อนละกันดึกแล้ว พรุ่งนี้มีธุระ”

“อือ ไว้เจอกัน”

อิทธิพลไม่ลืมถือถุงข้าวต้มในรถออกมาวางไว้ในครัวให้

“กูอิ่มแล้ว พรุ่งนี้ค่อยกิน” ก่อนสองหนุ่มจะแยกย้ายกัน

จิวากรมองตามหลังเพื่อนชาย เขาที่เป็นห่วงน้องหนักหนากับผู้ชายทุกคน แต่ทำไมถึงได้ไว้ใจไอ้ดินได้ขนาดนี้นะ จะว่าไปเขาก็พอจะมองออกผู้ชายด้วยกันมันดูง่าย ที่สำคัญคือไอ้ดินมันเป็นเพื่อนที่จริงใจ ก่อนจะเดินเข้าบ้านไปเปิดประตูห้องนอนไอ้ตัวแสบ เปิดไฟมองหน้าคนขี้เมาที่หลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องรู้ราว ก่อนจะปิดไฟและปิดประตูห้อง

ห้องทำงานผู้บริหารที่ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับการพูดคุยธุรกิจของสองบ้าน ระหว่างเพื่อนรักดวงยี่หวาและพิมพ์พรรณ และในวันนี้อิทธิพลและเอวาต้องเข้าฟังรายละเอียดด้วย เพราะถูกวางตัวไว้แล้วสำหรับอนาคต ถึงแม้ทรงศักดิ์ผู้เป็นปู่ของอิทธิพลจะเคลียร์ปัญหาเรื่องกาฝากสาวสองรายนั้นเรียบร้อยแล้ว แต่ความเป็นแม่นั้นก็ต้องเตรียมการไว้ให้พร้อมสำหรับอนาคตของลูก ส่วนอิทธิพลนั้นหากเขายินดีจะสานต่อธุรกิจของพ่อก็แล้วแต่เขา

โต๊ะอาหารมุมวีไอพีโซนเดิมถูกจัดเตรียมไว้อย่างเสร็จสรรพ อิทธิพลในชุดลำลองสุดสมาร์ตแทบนึกภาพนักศึกษาหนุ่มไม่ออกหลังจากสลัดคราบนิสิตทิ้ง เดินบริการเครื่องดื่มให้สามสาวอย่างอารมณ์ดี

“วันนี้ลูกชายแม่อารมณ์ดีจังมีอะไรพิเศษหรือเปล่านะ?”

ดวงยี่หวาพูดแซวด้วยรอยยิ้ม จากสัปดาห์ก่อนยังเคร่งขรึมใจลอยอยู่เลย ถามว่ามีเรื่องกลุ้มใจอะไรก็ไม่ได้รับคำตอบ หนุ่มสาวในวัยนี้คงมีไม่กี่เรื่องหรอกกระมังที่ทำให้หัวเสียได้

“มีอะไรก็รีบเคลียร์นะลูกอย่าปล่อยไว้นาน จนสุดท้ายต้องมานั่งเสียใจภายหลัง” คือคำพูดที่เตือนสติลูกในครั้งก่อน และดูเหมือนเขาจะจัดการได้เรียบร้อยดีแล้วกระมังถึงยิ้มอย่างอารมณ์ดีได้แบบนี้

การพูดคุยของคนคุ้นเคยที่กินไปคุยไป มากมายเรื่องราวที่นำมาแชร์บนโต๊ะอาหารสร้างบรรยากาศเป็นกันเองด้วยรอยยิ้ม

“เอวาก็เรียนจบแล้วเมื่อไหร่จะพาแฟนมาแนะนำน้าสักทีนะ” ดวงยี่หวาหันไปแซวหญิงอ่อนวัย

“ไว้วาจะพามาแนะนำให้รู้จักนะคะ” เธอพูดอย่างสดใสพลอยทำให้คนฟังแปลกใจไปด้วย

“ทุกวันนี้มีความลับกับแม่แล้วเหรอคะ?” พิมพ์พรรณเอ่ยขึ้นแกล้งทำท่าทีน้อยใจ เมื่อหญิงสาวยังไม่เคยคุยเรื่องนี้ให้ฟังเลยสักครั้ง ที่จริงแล้วเธอยินดีมากที่ลูกโตขึ้น หากจะมีคนรู้ใจเธอไม่ขัดเลยสักนิด

“วาต้องบอกคุณแม่อยู่แล้วละค่ะ”

เอวาหันมามองหน้าพิมพ์พรรณพร้อมส่งยิ้มให้แบบเอาใจ

“แสดงว่ามีคนรู้ใจแล้ว” ดวงยี่หวาวางช้อนลงและมองหน้าหญิงสาว เอวาไม่ตอบแต่ยิ้มแก้มแดง พลอยนึกถึงใบหน้าของชายหนุ่มคนนั้นขึ้นมาทันที

“แซงหน้าดินแล้วเหรอหนูเอวา”

“ไม่แซงหรอกค่ะน้ายี่หวา ดินเขามีหวานใจเรียบร้อยแล้วค่ะ”

“ใช่ไหมดิน?” หันมายิ้มให้ชายหนุ่มหลังจากป้อนคำถาม จริง ๆ อยากจะพูดแขวะด้วยซ้ำเพราะเขาคือคนที่ทำให้เพื่อนรักเธอเสียใจ แต่ผู้ใหญ่นั่งอยู่ด้วยไม่น่าจะเหมาะสักเท่าไหร่ อีกอย่างก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขากับน้ำฝนคบกันจริงใช่ไหม หรือแค่ไก่กาเท่านั้น

“หือ ใครเหรอ?” เจ้าตัวยังงง แล้วทำไมเอวาถึงรู้ดีกว่าตัวเขาเสียล่ะ

“อ้าว วันนั้นยังพามาหาน้ายี่หวาอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?”

อิทธิพลนิ่วหน้า พลางคิดตาม

“เปล่านะ” และหันมามองหน้าผู้เป็นแม่

“ดินพาใครมาเหรอครับแม่?” เพราะนึกไม่ออกจริง ๆ

“น้ำฝนไง” เอวาเอ่ยขึ้นมาเอง

“อ๋อ...” ดวงยี่หวาลากเสียงยาว

“หนูน้ำฝน”

“แม่พลาดอะไรไปหรือเปล่าเนี่ย?” หันมามองหน้าลูกชาย

“แล้วเอวารู้ได้ไง?” อิทธิพลถามด้วยความแปลกใจ

“จิ๋วเล่าให้วาฟัง”

“จิ๋ว?”

“อือ”

อิทธิพลนิ่งเงียบอยู่สักพักสมองกำลังประมวลผลตามคำพูดของเอวา วันนั้นที่จิวารีเข้ามาที่ร้านแล้วกลับออกไป เพราะคิดว่าเขาพาน้ำฝนมาเปิดตัวกับแม่สินะ แล้วทำไมถึงไม่ถามคิดเองเออเองได้ยังไง นึกตำหนิหญิงสาวในใจ

“เรากับน้ำฝนไม่ได้เป็นอะไรกัน?”

“ไม่ได้พามาแนะนำตัวหรอกจ้ะ หนูน้ำฝนมาจองร้านเลี้ยงฉลองกับครอบครัวเธอแค่นั้นเอง” ดวงยี่หวาอธิบายเพิ่ม

“แต่น้ำฝนเป็นคนพูดเองว่าคบกับดินอยู่วาได้ยินกับหูตัวเองนะ” หันมาพูดกับเพื่อนชาย

“ถามคุณแม่ดูก็ได้” หันไปทางพิมพ์พรรณ

“ใช่ไหมคะคุณแม่ วันนั้นที่เราไปทานข้าวข้างนอก ที่วาบอกแม่ไงคะ”

“จ้ะ น้าก็ได้ยิน” พิมพ์พรรณเสริมให้

“แล้วจิ๋วรู้หรือเปล่า?”

“รู้สิ วากับจิ๋วคุยกันทุกเรื่องอยู่แล้วนี่นา”

ซวยละ สมองเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวและเหตุการณ์ นี่หรือเปล่าสาเหตุที่เธอหมางเมินกับเขา

“ผมอิ่มแล้วขอตัวนะครับมีธุระต่อ” ลุกจากโต๊ะทันที

“ไว้เจอกันนะครับน้าพิมพ์” ยกมือไหว้ พิมพ์พรรณรับไหว้ ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไร

“ไว้เจอกันนะเอวา”

“ไปนะครับแม่” โบกมือลาทุกคนและหุนหันออกไปอย่างเร่งรีบ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนพิเศษ 41 แค่มีเรา

    เสียงลมหนาวพัดผ่านรวงข้าวสีทองที่โอนเอนตามแรงลมอย่างอ่อนช้อย แสงอาทิตย์แรกของวันทาบทอลงบนท้องทุ่งกว้าง กลิ่นฟางกลิ่นดินที่ลอยคละคลุ้งในอากาศเมื่อหมอกจาง ๆ เริ่มคลายตัว กลุ่มนกน้อยใหญ่บินวนจิกเมล็ดข้าวในทุ่งนาโดยไม่สนใจหุ่นไล่กาเลยสักนิด ประหนึ่งว่าเป็นเพื่อนที่คุ้นหน้ากันเสียอย่างนั้นอิทธิพลขับมอเตอร์ไซค์ตามทางคดเคี้ยวที่ใช้เป็นทางลัดกลับจากท้ายทุ่ง โดยมีจิวารีนั่งซ้อนท้าย ในมือถือตะกร้าผักสดที่เก็บมาใหม่ ๆ สำหรับให้พ่อโจทำกับข้าวในเช้านี้ หลังจากสองหนุ่มสาวเคลียร์ความวุ่นวายของงานลงตัวแล้วและกลับมาเยี่ยมพ่อผ่านพ้นไปหลายฤดูที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามวันเวลาที่ล่วงผ่าน เช่นเดียวกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ของการทำงาน ที่ไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันคือวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันอย่างดีให้กับทุกปัญหาของการใช้ชีวิตอิทธิพลได้เข้าศึกษาต่อในสาขาบริหารธุรกิจเพื่อสานต่อตำแหน่งผู้บริหารเต็มตัวหลังจากทรงศักดิ์จากไปอย่างสงบในวัยชรา ดวงยี่หวาโอนกิจการร้านอาหารให้ทายาทเพียงคนเดียวหลังจากออกไปทำกิจการความสวยความงามตามที่เธอชื่นชอบ และมีจิวารีบริหารกิจการต่อจากเธอจิวากรลาออกจากบ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 40 อินเลิฟ

    สองหนุ่มสาวหอบหิ้วถุงขนมขบเคี้ยวและกับแกล้มจากร้านสะดวกซื้อ หิ้วพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือไปหมด อีกทั้งเครื่องดื่มที่ตุนไว้สำหรับการเชียร์บอลในคืนนี้ด้วย จิวารีขอตัวไปอาบน้ำหลังจากเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ชำระร่างกายคืนความสดชื่นแล้วยังไม่ทันจะได้นั่งพักเหนื่อยเสียงเคาะที่หน้าประตูก็ดังขึ้น ส่องดูหน้าคนเคาะที่ตาแมว อิทธิพลนั่นเอง“รอนานแล้ว” ทันทีที่เปิดประตูให้เขาก็อ้อนทันที พร้อมกับจูงมือหญิงสาวเดินมาที่ห้อง เครื่องดื่มและของขบเคี้ยวถูกนำมาวางตรงโต๊ะหน้าทีวีสำหรับการเตรียมเชียร์บอลเรียบร้อย พร้อมกับเสียงบรรยายเมื่อการแข่งขันกำลังจะเริ่ม จิวารีนั่งลงข้างเขาเอนพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย“ที่ร้านเป็นไงบ้างวันนี้ยุ่งหรือเปล่า?”“อือ ลูกค้าเยอะ วันนี้ใส่รองเท้าส้นสูงคู่ใหม่ไม่สบายเท้าเลย แถมปวดขามากอีกต่างหาก” มือทุบที่หน้าขาตัวเองเบา ๆ“เหนื่อยก็พักมีพี่ไพลินอยู่ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงหรอก” ยกแขนขึ้นโอบไหล่เธอและดึงเข้ามาซบไหล่ตัวเอง“แล้วเรื่องเรียนต่อของนายไปถึงไหนแล้ว?”“รอเรื่องงานลงตัวก่อนค่อยว่ากันอีกที?” ตอบและจูบที่หน้าผากจิวารีเงยหน้าขึ้นมองเขา“อะไร?” อิทธิพลถามเมื่อหญิงสาวเอาแต่ยิ้มแล

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 39 ชีวิตนอกมหาวิทยาลัย

    จิวารีอยากตอบตกลงการเริ่มงานใหม่กับเอวา เมื่อถูกทาบทามให้ไปทำงานที่สาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดกับการร่วมหุ้นของสองครอบครัวระหว่างดวงยี่หวาและพิมพ์พรรณ แต่ดวงยี่หวาขอร้องให้เธอมาบริหารร้านอาหารแทน โดยยกเหตุผลทั้งร้อยแปดประการให้หญิงสาวใจอ่อน เพียงเพราะเจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวไม่อยากให้สาวห่างไกลหูไกลตาเท่านั้นเองส่วนอิทธิพลนั้นตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งตามที่ทรงศักดิ์แต่งตั้ง ในการสานต่อธุรกิจของตระกูล เนื่องจากปัญหาสุขภาพของผู้เป็นปู่ เท่ากับว่าความรักที่เพิ่งผลิบานใหม่ถูกจำกัดด้วยเวลาและภาระหน้าที่เพราะต่างฝ่ายต่างเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ในชีวิตการทำงาน ทำได้เพียงส่งข้อความหวานและโทรหาเพื่อฟังเสียงเท่านั้น หลังเลิกงานก็มารับหญิงสาวกลับห้องพร้อมกัน เพราะขนกระเป๋าเสื้อผ้ามาอยู่คอนโดที่เคยปฏิเสธแล้ว เนื่องจากดวงยี่หวาอ้างเป็นสวัสดิการและใกล้ที่ทำงานจะได้สะดวกในการเดินทางด้วย“ร้านเดิมนะ ตอนเย็นหลังเลิกงานวันศุกร์”คือข้อความที่นัดเจอกันของกลุ่มเพื่อน หลังจากห่างหายจากการพบปะสังสรรค์นานแล้วหลังจากสิ้นสุดการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะต่างฝ่ายต่างยุ่งกับการจัดการชีวิตให้เข้าที่เข้าทาง ทั้งเร

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 38 สิ้นสุดทางเพื่อน เป็นแฟนกันนะ

    “มีอะไรหรือเปล่า?” เป็นเขาที่ถามขึ้นมาก่อน“เอ่อ....” เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ อิทธิพลปิดหลอดยาและเก็บลงกล่อง“เมื่อคืนนายไปส่งฉันใช่ไหม?” ถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าใช่จากที่เอวาบอก“อือ” ตอบและเดินไปหยิบรีโมทย์เปิดทีวี นั่งพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย เลื่อนเลือกช่องดูผลการแข่งขันฟุตบอล“ขอบใจนะ” จิวารีอึกอักพูดต่อ“พี่แจ็คไม่อยู่บ้านน่ะ...ออกไปตั้งแต่เช้าก็เลยยังไม่ได้ถาม” ขยายความให้เผื่อเขาสงสัย“แล้ว...” เธอหยุดคำพูดไว้แค่นั้น กลอกตาล้อกแล้กไปมาเหมือนหัวขโมยจอมโกหกที่กลัวคนจับได้“หือ...” อิทธิพลหันมามองหน้ายกคิ้วเป็นคำถาม และรอฟังว่าเธอจะถามอะไรต่อ จิวารีเม้มปากแน่น หายใจติดขัด“คือ...ฉัน...น่าจะเมาหนักมาก”“แล้ว...เผลอทำอะไรรั่ว ๆ หลุด ๆ ไปบ้างหรือเปล่า?” ถามอย่างมีเลศนัยอิทธิพลยกมือขึ้นจับคางทำท่าครุ่นคิด“ก็...”จิวารีลุ้นคำตอบตามอย่างตื่นเต้น“ไม่มีนะ”เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ฟังคำตอบจากเขา ค่อยยังชั่วหน่อย ที่แท้ก็แค่มโนเท่านั้น ยิ้มอย่างผ่อนคลาย กำลังจะอ้าปากถามเขาว่าอาหารจะมาส่งกี่โมง“เราก็แค่จูบกันเฉย ๆ” อิทธิพลพูดสวนขึ้นมารอยยิ้มบาง ๆ เมื่อครู่ค่อย ๆ หุบลง พร้อมกั

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 37 เคลียร์

    จิวารีงัวเงียตื่นมาเข้าห้องน้ำในตอนเช้ามืด ตามด้วยการกินยาแก้ปวดและเดินกลับห้องทิ้งหัวลงหมอนนอนต่อ ลืมตาตื่นอีกทีก็ใกล้เที่ยง มือควานหาโทรศัพท์บนหัวเตียงกดดูเวลาที่หน้าจอ ก่อนจะวางลงที่เดิม ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งและนิ่งอยู่สักครู่ มือนวดวนอยู่ข้างขมับ ก่อนลุกขึ้นไปอาบน้ำเรียกความสดชื่นคืนให้ร่างกายละอองน้ำเย็นที่ซ่ากระเซ็นลงสู่ร่างตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เรียกความตื่นตัวคืนมาได้ไม่น้อย กลิ่นหอมของแชมพูบวกกับกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ยังติดอยู่ที่ปลายจมูกผสมคละคลุ้งกันภายใต้ไอน้ำเย็นในห้องน้ำเล็ก ๆ จิวารียืนนิ่งใต้ฝักบัวปล่อยให้สายน้ำไหลลงชำระความมึนเมาและความรุงรังในใจออกไปให้หมด ในสมองก็พลอยลำดับเหตุการณ์ของเมื่อคืนไปด้วยภายใต้ภาพความทรงจำที่แสนจะเลือนรางเท่าที่สมองจะบันทึกไว้ได้แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดกลับเป็นความฝันนี่เธอเป็นหนักเอาการถึงขั้นฝันว่าได้จูบกับเขาแล้วเชียวเหรอ มือเสยผมที่เปียกปอนลงสองข้างแก้มขึ้น เงยหน้ารับละอองน้ำเย็น เป่าปากถอนหายใจทิ้ง อีกนานแค่ไหนกันนะถึงจะกล้าเผชิญหน้ากับเขาเหมือนเดิมแบบไม่รู้สึกอะไรได้ เอาน่า ต่อไปก็คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ เรียนจบแล้ว ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายหางานทำ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 36 ความในใจ

    อิทธิพลจอดรถข้างริมฟุตบาทแวะซื้อข้าวต้มริมทาง เผื่อเธอสร่างเมาเมื่อถึงบ้านและเกิดหิวขึ้นมา ตลอดเส้นทางคนเมาที่ตื่นมาบ่นเป็นครั้งคราว“ดิน” เรียกชื่อเขาทั้งที่ตาหลับอยู่“หือ” คนขับหันไปมอง เธอพูดแค่นั้นก่อนจะเงียบลงและหลับต่อ อิทธิพลเอื้อมไปดึงมือเธอมากุมไว้อีกมือจับพวงมาลัย“ว่าไง” แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่นั่งข้างกันรถวิ่งมาจอดหน้าบ้าน ดีว่าเขาเคยมาส่งตะวันในครั้งที่ลืมของไว้ที่นี่ไม่งั้นคงวุ่นวายหาบ้านอยู่เป็นแน่ว่าหลังไหน คนเมาก็พูดไม่รู้เรื่อง หันมามองคนข้าง ๆ ที่นั่งคอพับหลับอยู่“จิ๋ว” มือแตะไหล่ปลุกเธอให้ตื่น“ถึงบ้านแล้ว”“อือ” พลิกตัวหลับต่อ“จิ๋ว...เข้าบ้านนะถึงบ้านแล้ว” พูดซ้ำอีกครั้ง“ฮือ...ไม่เอา...จะนอน” งัวเงีย เสียงในลำคอบ่งบอกว่ารำคาญ“เข้าใปนอนในบ้าน”“กุญแจบ้านอยู่ไหน?” ถามคนเมาที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายของเธอมาเปิดหากุญแจ เปิดเข้าไปในบ้านสำรวจก่อนเพื่อความแน่ใจว่าห้องของเธอห้องไหนและเปิดประตูทิ้งไว้ เดินกลับมาอุ้มคนที่หลับอยู่เข้าบ้านวางหญิงสาวลงบนที่นอน ถอดรองเท้าออกให้ และกลับมาปิดรั้วบ้าน ก่อนจะเข้าไปสาละวนกับคนเมาอีกครั้ง“ทำไมเมาทิ้งตัวขน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status