Share

ตอนที่ 37 เคลียร์

last update Last Updated: 2025-12-17 21:12:43

จิวารีงัวเงียตื่นมาเข้าห้องน้ำในตอนเช้ามืด ตามด้วยการกินยาแก้ปวดและเดินกลับห้องทิ้งหัวลงหมอนนอนต่อ ลืมตาตื่นอีกทีก็ใกล้เที่ยง มือควานหาโทรศัพท์บนหัวเตียงกดดูเวลาที่หน้าจอ ก่อนจะวางลงที่เดิม ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งและนิ่งอยู่สักครู่ มือนวดวนอยู่ข้างขมับ ก่อนลุกขึ้นไปอาบน้ำเรียกความสดชื่นคืนให้ร่างกาย

ละอองน้ำเย็นที่ซ่ากระเซ็นลงสู่ร่างตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เรียกความตื่นตัวคืนมาได้ไม่น้อย กลิ่นหอมของแชมพูบวกกับกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ยังติดอยู่ที่ปลายจมูกผสมคละคลุ้งกันภายใต้ไอน้ำเย็นในห้องน้ำเล็ก ๆ จิวารียืนนิ่งใต้ฝักบัวปล่อยให้สายน้ำไหลลงชำระความมึนเมาและความรุงรังในใจออกไปให้หมด ในสมองก็พลอยลำดับเหตุการณ์ของเมื่อคืนไปด้วยภายใต้ภาพความทรงจำที่แสนจะเลือนรางเท่าที่สมองจะบันทึกไว้ได้

แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดกลับเป็นความฝัน

นี่เธอเป็นหนักเอาการถึงขั้นฝันว่าได้จูบกับเขาแล้วเชียวเหรอ มือเสยผมที่เปียกปอนลงสองข้างแก้มขึ้น เงยหน้ารับละอองน้ำเย็น เป่าปากถอนหายใจทิ้ง อีกนานแค่ไหนกันนะถึงจะกล้าเผชิญหน้ากับเขาเหมือนเดิมแบบไม่รู้สึกอะไรได้ เอาน่า ต่อไปก็คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ เรียนจบแล้ว ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายหางานทำ แยกกันไปเติบโต สักวันก็คงจะลืมได้ เธอปลอบใจตัวเอง

หญิงสาวสวมเสื้อยืดตัวโคร่งแบบสบาย กางเกงขาสั้น ผ้าขนหนูคล้องอยู่ที่คอเช็ดผมที่เปียกชุ่มอยู่ อาการเวียงเวียนพะอืดพะอมพาลให้สะลึมสะลือเหมือนนอนไม่พอทั้งที่เพิ่งตื่น เดินออกมาในครัวมองถุงข้าวต้มที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าว แต่มันไม่ชวนกินเอาเสียเลย สงสัยคงต้องพึ่งส้มตำรสเด็ดเผ็ดตายไม่เอาเรื่องหน้าปากซอยแล้วกระมัง

เสียงเปิดประตูห้องตามมาด้วยร่างของจิวากรที่เดินออกมา

“อ้าว ยังอยู่เหรอ?” เธอเอ่ยทักผู้เป็นพี่

“คำนี้ฉันต้องเป็นคนถามแกมากกว่า” จิวากรตอบกลับพร้อมตำหนิน้องด้วยสายตากับเหตุการณ์เมื่อคืน แม้ว่าใบหน้าเขาจะบ่งบอกว่าอารมณ์ดี

“ฉันจะไปข้างนอกนะ อาจจะกลับเย็น ๆ” ขี้เกียจจะเท้าความกับเธอ เพราะวันนี้มีนัดสำคัญกับสาว จิวากรเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำมารินใส่แก้วดื่ม

“อือ” จิวารีตอบสั้น ๆ สมองยังสะลึมสะลืออยู่

ผู้เป็นพี่ออกไปแล้ว จิวารีนั่งทบทวนเรื่องราวอีกครั้ง แต่เหมือนสมองมันไม่สั่งการอันไหนจริงอันไหนเท็จก็ยังแยกไม่ออก โทรถามเอวาน่าจะดีกว่า คิดได้เช่นนั้นก็เดินไปหยิบโทรศัพท์กะจะโทรหาเพื่อนสาว แต่มีข้อความที่ยังไม่เปิดอ่าน

ดิน : ข้าวต้มวางอยู่บนโต๊ะ

ดิน : ตื่นมาแล้วรีบกินเลยจะได้ไม่ปวดท้อง

ดิน : แต่อุ่นก่อนนะ

ดิน : ยาแก้ปวดอยู่บนหัวเตียง

จิวารีทำตาปริบ ๆ เมื่ออ่านข้อความจบ

“หมายความว่าไงวะ?”

ไอ้ดินมาที่บ้านเหรอเมื่อคืน อย่าบอกนะว่าภาพในความฝันเมื่อคืนมันคือเรื่องจริง ยกมือแตะปากตัวเอง หัวใจหล่นวูบลงไปอยู่ตาตุ่ม ไม่มั้ง เป็นไปได้เหรอ พี่แจ็คก็น่าจะอยู่ด้วย ถามตัวเองก่อนจะลนลานโทรหาเอวา

(“ว่าไงแก”) เสียงสดใสของเอวา

(“ฉันว่าจะโทรหาแต่ยังไม่ว่างน่ะออกมาธุระกับแม่...แกมีอะไรหรือเปล่า?”)

“เมื่อคืนฉันกลับยังไง?” ป้อนคำถามและตั้งใจฟังอย่างที่สุด

(“ดินไปส่งแกไง”) คำตอบจากเอวาทำให้เธอนิ่งเงียบไปชั่วขณะ

“แล้ว...พี่แจ็คล่ะ?”

(“พี่แจ็คขับรถมาส่งฉันที่คอนโดน่ะ ไม่ได้คุยกันเหรอ?)

“พี่แจ็คออกไปข้างนอกน่ะ ยังไม่ได้คุยกันเลย”

“แล้ว...ดินมาส่งฉันได้ไง?” เนียน ๆ ถามเอวาต่อ

(“แก ฉันมีธุระน่ะเดี๋ยวค่อยคุยกันนะ...ต้องไปแล้วล่ะ”)

(“ว่างเดี๋ยวฉันโทรหานะ...บาย”)

เอวาวางสายไปแล้วแต่จิวารียังนั่งอึ้งอยู่ มันความจริงหรือภาพมโนวะเนี่ย

โทรไปถามพี่แจ็คดีไหมนะ จะบ้าเหรอ เสียงในหัวคัดค้านไว้

 หรือจะโทรไปถามไอ้ดินก็ใช่เรื่อง

เมื่อคืนเราจูบกันเหรอ? ถามแบบนี้หรือไง ใครจะกล้า บ้าไปแล้ว

“ตาย ๆ ๆ ไอ้จิ๋วเอ้ย ทำไมเมาขนาดนี้วะ” เขกหัวตัวเอง

“เผลอพูดอะไรไปบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้”

ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวออกไปซื้อส้มตำมากระแทกปากแก้เซ็งดีกว่าเผื่ออะไรมันจะดีขึ้น

หญิงสาวสวมรองเท้าแตะเดินไปตามริมฟุตบาท ในมือหิ้วถุงส้มตำและไก่ย่าง อีกมือกำโทรศัพท์มือถือพลางครุ่นคิดไปเรื่อย ทั้งที่บอกตัวเองว่าหยุดคิดได้แล้ว ใกล้จะถึงปากซอยเข้าบ้านแล้วแต่มีมอเตอร์ไซค์ขับสวนเลนออกมา แทนที่จะขับออกถนนดันขับขึ้นมาที่ทางเดินริมฟุตบาท หญิงสาวเดินแอบเข้าข้างทางเมื่อมอเตอร์ไซค์ใกล้ถึงตัว

“นี่ทางคนเดินมันจะขับขึ้นมาทำไมวะ” จิวารีคิดในใจ มองไม่เห็นหน้าคนขับเพราะสวมหมวกกันน็อกอยู่ ก่อนที่เขาจะขับผ่านเธอไป

เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นเธอก็ต้องหันขวับกลับไป กับเสียงฝีเท้าที่เดินตรงมาที่เธอ ไอ้คนขับเมื่อสักครู่มันจอดรถทิ้งไว้และมาถึงตัวเธอแล้ว จิวารีถอยหลังกรูด้วยความตกใจ เมื่อชายปริศนาภายใต้หมวกกันน็อกพุ่งเข้าใส่เธอ และฉกโทรศัพท์ที่เธอถืออยู่ในมือด้วยความรวดเร็ว ด้วยสัญชาตญาณเธอเบี่ยงหลบพร้อมกับถีบสวนมันไป มันเซถลาก่อนจะทรงตัวและพุ่งเข้ามาหาเธออีกครั้ง

ถุงส้มตำและไก่ย่างในมือถูกเหวี่ยงฟาดไอ้เลวนั่น พร้อมยื้อยุดฉุดกระชากโทรศัพท์มือถือกันไปมา เสียงแตรรถที่บีบค้างไว้ดังลั่นจากรถเก๋งบนถนนที่วิ่งมาจอดข้างทาง ชายปริศนาตกใจเหวี่ยงร่างเล็กที่ไม่ยอมปล่อยโทรศัพท์และถุงส้มตำในมือเหมือนเป็นเพชรเม็ดงาม ร่างบางเสียหลักและล้มไถลไปกับพื้นถนน ก่อนที่มันจะวิ่งขึ้นรถและขับเผ่นหนีไป

อิทธิพลวิ่งลงจากรถตรงไปหาหญิงสาวที่กองอยู่กับพื้นถนน

“เป็นอะไรหรือเปล่า?” ถามด้วยความเป็นห่วง พยุงร่างเธอให้ลุกนั่ง จิวารีส่ายหน้าว่าไม่เป็นอะไร มองหน้าชายหนุ่มคนเดิมที่ทำให้เธอใจหลุดลอยมาตั้งแต่เช้าแล้ว และเป็นเขาที่เข้ามาช่วยเธอ

“แจ้งตำรวจก่อนไหม?” อิทธิพลถามพร้อมกับพยุงเธอให้ลุกขึ้นยืน

“ช่างมันเถอะมันไม่ได้อะไรไป ทะเบียนรถก็ไม่มีเสียเวลาเปล่า ๆ” เธอวางน้ำหนักลงที่ฝ่าเท้าพร้อมกับนิ่วหน้าขมวดคิ้วทันทีจากอาการเจ็บแปลบที่ข้อเท้า

“เจ็บเหรอ?” ถามแต่ไม่รอให้เธอตอบอุ้มตรงไปที่รถทันที ขับออกไปจากจุดเกิดเหตุปล่อยถุงส้มตำไก่ย่างวางแอ้งแม้งอยู่ข้างทาง

“จะไปไหน? จิวารีเอ่ยถามและหันมามองหน้าเขาเมื่อชายหนุ่มไม่ได้เลี้ยวเข้าไปในซอยหมู่บ้าน

“ไปหาหมอไง” หันมามองหน้าคนถาม

“แผลถลอกนิดเดียวเองเดี๋ยวก็หาย” หญิงสาวปฏิเสธ

“แล้วไม่เจ็บเท้าแล้วเหรอ?”

จิวารีหมุนปลายเท้าเบา ๆ ทดสอบอาการ

“มันเจ็บนิดเดียวไม่ถึงกับต้องไปหาหมอหรอก” พูดจบเสียงท้องร้องก็ทำเธอขายหน้าขึ้นมาทันที

“งั้นก็ไปหาอะไรกิน” อิทธิพลพูดพร้อมกับอมยิ้ม จิวารีปฏิเสธไม่ได้เพราะตอนนี้ความตกใจบวกกับความหิวกินช้างทั้งตัวได้เลย ถุงส้มตำที่สู้สุดฤทธิ์กับเธอเมื่อครู่เขาก็ปล่อยไว้ที่ข้างทาง

“ไหนบอกไปหาอะไรกินทำไมมาที่นี่ล่ะ” เมื่อชายหนุ่มเลี้ยวรถเข้าคอนโด

“เธอขาเจ็บคงเดินไม่สะดวก”

“เดี๋ยวสั่งให้เขามาส่งแป็บเดียวก็ได้กินแล้ว จะได้ทายาด้วย”

“แต่ว่า...” เบี่ยงตัวและหันมามองคนขับ

“ทำไม?” อิทธิพลคิ้วย่นหันมาสบตากับเธอ ถามด้วยใบหน้าเรียบเฉยเดาอารมณ์ไม่ออก จิวารีนิ่งเงียบไป ในใจลึก ๆ บอกว่าอย่าปฏิเสธเขาเลย เธอคิดถึงเขาไม่ใช่เหรอ จะได้หาทางตะล่อมถามเรื่องเมื่อคืนด้วยไง แต่อีกใจบอกว่าอย่างเผลอเข้าใกล้เขาเป็นอันขาด เพราะเธอกับเขาเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นถ้าไม่อยากเจ็บกว่านี้

หรือเธออยากเป็นแค่ตัวขั้นเวลาของเขากันล่ะ เมื่อตกลงกับเสียงหลากหลายในหัวไม่ได้ สุดท้ายก็เลือกปากและท้องเพราะตอนนี้มันหิวมากขอกินข้าวก่อนก็แล้วกัน เธอหาทางออกให้ตัวเอง

“อยากกินอะไร?” อิทธิพลหันมาถามเมื่อถึงลานจอดรถที่คอนโดแล้ว

“ส้มตำ” ตอบสั้น ๆ ด้วยท่าทีเฉยชา ความสนิทสนมของคนคุ้นเคยเหมือนแต่ก่อนมันถูกสั่นคลอนด้วยอะไรนะ จู่ ๆ ถึงเหมือนมีเส้นบาง ๆ กั้นระหว่างเขาและเธอไว้

อิทธิพลหยิบโทรศัพท์กดโทรออก

“พี่ไพลินให้เด็กเอากับข้าวมาส่งที่คอนโดให้ด้วยครับ สำหรับสองคน” ทั้งที่ตัวเองเพิ่งจะกินไป

“และซื้อส้มตำไก่ย่างรสจัด ๆ มาให้ด้วยนะครับ”

เพราะที่ร้านหรูของดวงยี่หวาคงไม่มีส้มตำรสแซ่บแบบที่เธอต้องการแน่

“ขอบคุณครับ” และวางสายไป

จิวารีลอบมองใบหน้าเขา อิทธิพลเปิดประตูและเดินอ้อมมาอีกฝั่งที่คนขาเจ็บกำลังเปิดประตูรถออกมา เมื่อถึงตัวหญิงสาวเขาก็ก้มตัวลงทำท่าเหมือนจะอุ้มเธอ

“เดินเองได้” เธอบอกเขาพร้อมกับค่อย ๆ กะโผลกกะเผลกเดินไป จริง ๆ ก็ไม่ได้เจ็บมากมายขนาดนั้น ขามันพลิกกะทันหันทำให้ระบมจนบวมขึ้นมาเลยเดินไม่สะดวกเท่านั้นเอง

อิทธิพลโอบไหล่บางพยุงเดินไปเรื่อย ๆ เมื่อเข้าไปในลิฟต์เขาปล่อยมือที่โอบไหล่อยู่เปลี่ยนมากุมมือเธอไว้หน้าตาเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

จิวารีดึงมือออกจากการเกาะกุม แต่ไม่เป็นผลและเขาก็บีบแน่นขึ้นไปอีก เธอเพิ่มแรงดึงออกอีกครั้งเหมือนพ่อแง่แม่งอน อิทธิพลหันมามองหน้าสองสายตาสบกันจิวารีเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูง ชายหนุ่มหลุบตาลงต่ำมองคนตัวเล็ก ต่างฝ่ายต่างหาคำตอบจากแววตาของอีกฝ่าย พร้อมกับเสียงหัวใจของหญิงสาวที่เต้นแรงขึ้น เมื่อภาพในมโนของเธอเมื่อคืนผุดขึ้นมาในหัวและบางอย่างในแววตาของเขาที่จ้องมองเธออยู่ ทำให้เลือดในกายของหญิงสาวร้อนผ่าวขึ้นมาทันที

ติ๊ง

เสียงสัญญาณดังขึ้นก่อนที่ลิฟต์เปิดออก อิทธิพลโอบไหล่บางอีกครั้งและพยุงเธอเดินเข้าไปในห้อง ดันไหล่หญิงสาวให้นั่งลงที่โซฟา เดินไปเปิดแอร์และหายเข้าไปในห้องนอนสักพักก็กลับออกมาพร้อมกับกล่องยาในมือ

“ทายาก่อน อีกเดี๋ยวเขาคงมาส่งอาหารแล้ว” นั่งลงข้าง ๆ เธอ

“หิวมากหรือเปล่า?”

“กินอะไรรองท้องก่อนไหม?” ถามเป็นฉาก ๆ หญิงสาวส่ายหน้า เป็นคนพูดน้อยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ปกติแล้วเวลาอยู่ด้วยกันมีเหรอเขาจะพูดทันเธอ เป็นได้แค่ผู้ฟังที่ดีและตอบคำถามให้ทันก็พอ ส่วนที่เหลือคือโดนแกล้ง หรือไม่ก็แกล้งเธอ

อิทธิพลเปิดหลอดยาใช้คัตเติ้ลบัตชุบยาทารอยถลอกที่เลือดซิบอยู่ที่แขนและเข่าของเธอที่ครูดไปกับพื้นถนน

“แสบหรือเปล่า?” เงยหน้าขึ้นมาถาม จิวารีส่ายหน้า และจ้องหน้าเขาชั่งใจอยู่ว่าจะถามแบบเนียน ๆ ยังไงดีนะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนพิเศษ 41 แค่มีเรา

    เสียงลมหนาวพัดผ่านรวงข้าวสีทองที่โอนเอนตามแรงลมอย่างอ่อนช้อย แสงอาทิตย์แรกของวันทาบทอลงบนท้องทุ่งกว้าง กลิ่นฟางกลิ่นดินที่ลอยคละคลุ้งในอากาศเมื่อหมอกจาง ๆ เริ่มคลายตัว กลุ่มนกน้อยใหญ่บินวนจิกเมล็ดข้าวในทุ่งนาโดยไม่สนใจหุ่นไล่กาเลยสักนิด ประหนึ่งว่าเป็นเพื่อนที่คุ้นหน้ากันเสียอย่างนั้นอิทธิพลขับมอเตอร์ไซค์ตามทางคดเคี้ยวที่ใช้เป็นทางลัดกลับจากท้ายทุ่ง โดยมีจิวารีนั่งซ้อนท้าย ในมือถือตะกร้าผักสดที่เก็บมาใหม่ ๆ สำหรับให้พ่อโจทำกับข้าวในเช้านี้ หลังจากสองหนุ่มสาวเคลียร์ความวุ่นวายของงานลงตัวแล้วและกลับมาเยี่ยมพ่อผ่านพ้นไปหลายฤดูที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามวันเวลาที่ล่วงผ่าน เช่นเดียวกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ของการทำงาน ที่ไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันคือวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันอย่างดีให้กับทุกปัญหาของการใช้ชีวิตอิทธิพลได้เข้าศึกษาต่อในสาขาบริหารธุรกิจเพื่อสานต่อตำแหน่งผู้บริหารเต็มตัวหลังจากทรงศักดิ์จากไปอย่างสงบในวัยชรา ดวงยี่หวาโอนกิจการร้านอาหารให้ทายาทเพียงคนเดียวหลังจากออกไปทำกิจการความสวยความงามตามที่เธอชื่นชอบ และมีจิวารีบริหารกิจการต่อจากเธอจิวากรลาออกจากบ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 40 อินเลิฟ

    สองหนุ่มสาวหอบหิ้วถุงขนมขบเคี้ยวและกับแกล้มจากร้านสะดวกซื้อ หิ้วพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือไปหมด อีกทั้งเครื่องดื่มที่ตุนไว้สำหรับการเชียร์บอลในคืนนี้ด้วย จิวารีขอตัวไปอาบน้ำหลังจากเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ชำระร่างกายคืนความสดชื่นแล้วยังไม่ทันจะได้นั่งพักเหนื่อยเสียงเคาะที่หน้าประตูก็ดังขึ้น ส่องดูหน้าคนเคาะที่ตาแมว อิทธิพลนั่นเอง“รอนานแล้ว” ทันทีที่เปิดประตูให้เขาก็อ้อนทันที พร้อมกับจูงมือหญิงสาวเดินมาที่ห้อง เครื่องดื่มและของขบเคี้ยวถูกนำมาวางตรงโต๊ะหน้าทีวีสำหรับการเตรียมเชียร์บอลเรียบร้อย พร้อมกับเสียงบรรยายเมื่อการแข่งขันกำลังจะเริ่ม จิวารีนั่งลงข้างเขาเอนพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย“ที่ร้านเป็นไงบ้างวันนี้ยุ่งหรือเปล่า?”“อือ ลูกค้าเยอะ วันนี้ใส่รองเท้าส้นสูงคู่ใหม่ไม่สบายเท้าเลย แถมปวดขามากอีกต่างหาก” มือทุบที่หน้าขาตัวเองเบา ๆ“เหนื่อยก็พักมีพี่ไพลินอยู่ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงหรอก” ยกแขนขึ้นโอบไหล่เธอและดึงเข้ามาซบไหล่ตัวเอง“แล้วเรื่องเรียนต่อของนายไปถึงไหนแล้ว?”“รอเรื่องงานลงตัวก่อนค่อยว่ากันอีกที?” ตอบและจูบที่หน้าผากจิวารีเงยหน้าขึ้นมองเขา“อะไร?” อิทธิพลถามเมื่อหญิงสาวเอาแต่ยิ้มแล

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 39 ชีวิตนอกมหาวิทยาลัย

    จิวารีอยากตอบตกลงการเริ่มงานใหม่กับเอวา เมื่อถูกทาบทามให้ไปทำงานที่สาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดกับการร่วมหุ้นของสองครอบครัวระหว่างดวงยี่หวาและพิมพ์พรรณ แต่ดวงยี่หวาขอร้องให้เธอมาบริหารร้านอาหารแทน โดยยกเหตุผลทั้งร้อยแปดประการให้หญิงสาวใจอ่อน เพียงเพราะเจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวไม่อยากให้สาวห่างไกลหูไกลตาเท่านั้นเองส่วนอิทธิพลนั้นตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งตามที่ทรงศักดิ์แต่งตั้ง ในการสานต่อธุรกิจของตระกูล เนื่องจากปัญหาสุขภาพของผู้เป็นปู่ เท่ากับว่าความรักที่เพิ่งผลิบานใหม่ถูกจำกัดด้วยเวลาและภาระหน้าที่เพราะต่างฝ่ายต่างเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ในชีวิตการทำงาน ทำได้เพียงส่งข้อความหวานและโทรหาเพื่อฟังเสียงเท่านั้น หลังเลิกงานก็มารับหญิงสาวกลับห้องพร้อมกัน เพราะขนกระเป๋าเสื้อผ้ามาอยู่คอนโดที่เคยปฏิเสธแล้ว เนื่องจากดวงยี่หวาอ้างเป็นสวัสดิการและใกล้ที่ทำงานจะได้สะดวกในการเดินทางด้วย“ร้านเดิมนะ ตอนเย็นหลังเลิกงานวันศุกร์”คือข้อความที่นัดเจอกันของกลุ่มเพื่อน หลังจากห่างหายจากการพบปะสังสรรค์นานแล้วหลังจากสิ้นสุดการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะต่างฝ่ายต่างยุ่งกับการจัดการชีวิตให้เข้าที่เข้าทาง ทั้งเร

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 38 สิ้นสุดทางเพื่อน เป็นแฟนกันนะ

    “มีอะไรหรือเปล่า?” เป็นเขาที่ถามขึ้นมาก่อน“เอ่อ....” เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ อิทธิพลปิดหลอดยาและเก็บลงกล่อง“เมื่อคืนนายไปส่งฉันใช่ไหม?” ถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าใช่จากที่เอวาบอก“อือ” ตอบและเดินไปหยิบรีโมทย์เปิดทีวี นั่งพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย เลื่อนเลือกช่องดูผลการแข่งขันฟุตบอล“ขอบใจนะ” จิวารีอึกอักพูดต่อ“พี่แจ็คไม่อยู่บ้านน่ะ...ออกไปตั้งแต่เช้าก็เลยยังไม่ได้ถาม” ขยายความให้เผื่อเขาสงสัย“แล้ว...” เธอหยุดคำพูดไว้แค่นั้น กลอกตาล้อกแล้กไปมาเหมือนหัวขโมยจอมโกหกที่กลัวคนจับได้“หือ...” อิทธิพลหันมามองหน้ายกคิ้วเป็นคำถาม และรอฟังว่าเธอจะถามอะไรต่อ จิวารีเม้มปากแน่น หายใจติดขัด“คือ...ฉัน...น่าจะเมาหนักมาก”“แล้ว...เผลอทำอะไรรั่ว ๆ หลุด ๆ ไปบ้างหรือเปล่า?” ถามอย่างมีเลศนัยอิทธิพลยกมือขึ้นจับคางทำท่าครุ่นคิด“ก็...”จิวารีลุ้นคำตอบตามอย่างตื่นเต้น“ไม่มีนะ”เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ฟังคำตอบจากเขา ค่อยยังชั่วหน่อย ที่แท้ก็แค่มโนเท่านั้น ยิ้มอย่างผ่อนคลาย กำลังจะอ้าปากถามเขาว่าอาหารจะมาส่งกี่โมง“เราก็แค่จูบกันเฉย ๆ” อิทธิพลพูดสวนขึ้นมารอยยิ้มบาง ๆ เมื่อครู่ค่อย ๆ หุบลง พร้อมกั

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 37 เคลียร์

    จิวารีงัวเงียตื่นมาเข้าห้องน้ำในตอนเช้ามืด ตามด้วยการกินยาแก้ปวดและเดินกลับห้องทิ้งหัวลงหมอนนอนต่อ ลืมตาตื่นอีกทีก็ใกล้เที่ยง มือควานหาโทรศัพท์บนหัวเตียงกดดูเวลาที่หน้าจอ ก่อนจะวางลงที่เดิม ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งและนิ่งอยู่สักครู่ มือนวดวนอยู่ข้างขมับ ก่อนลุกขึ้นไปอาบน้ำเรียกความสดชื่นคืนให้ร่างกายละอองน้ำเย็นที่ซ่ากระเซ็นลงสู่ร่างตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เรียกความตื่นตัวคืนมาได้ไม่น้อย กลิ่นหอมของแชมพูบวกกับกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ยังติดอยู่ที่ปลายจมูกผสมคละคลุ้งกันภายใต้ไอน้ำเย็นในห้องน้ำเล็ก ๆ จิวารียืนนิ่งใต้ฝักบัวปล่อยให้สายน้ำไหลลงชำระความมึนเมาและความรุงรังในใจออกไปให้หมด ในสมองก็พลอยลำดับเหตุการณ์ของเมื่อคืนไปด้วยภายใต้ภาพความทรงจำที่แสนจะเลือนรางเท่าที่สมองจะบันทึกไว้ได้แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดกลับเป็นความฝันนี่เธอเป็นหนักเอาการถึงขั้นฝันว่าได้จูบกับเขาแล้วเชียวเหรอ มือเสยผมที่เปียกปอนลงสองข้างแก้มขึ้น เงยหน้ารับละอองน้ำเย็น เป่าปากถอนหายใจทิ้ง อีกนานแค่ไหนกันนะถึงจะกล้าเผชิญหน้ากับเขาเหมือนเดิมแบบไม่รู้สึกอะไรได้ เอาน่า ต่อไปก็คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ เรียนจบแล้ว ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายหางานทำ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 36 ความในใจ

    อิทธิพลจอดรถข้างริมฟุตบาทแวะซื้อข้าวต้มริมทาง เผื่อเธอสร่างเมาเมื่อถึงบ้านและเกิดหิวขึ้นมา ตลอดเส้นทางคนเมาที่ตื่นมาบ่นเป็นครั้งคราว“ดิน” เรียกชื่อเขาทั้งที่ตาหลับอยู่“หือ” คนขับหันไปมอง เธอพูดแค่นั้นก่อนจะเงียบลงและหลับต่อ อิทธิพลเอื้อมไปดึงมือเธอมากุมไว้อีกมือจับพวงมาลัย“ว่าไง” แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่นั่งข้างกันรถวิ่งมาจอดหน้าบ้าน ดีว่าเขาเคยมาส่งตะวันในครั้งที่ลืมของไว้ที่นี่ไม่งั้นคงวุ่นวายหาบ้านอยู่เป็นแน่ว่าหลังไหน คนเมาก็พูดไม่รู้เรื่อง หันมามองคนข้าง ๆ ที่นั่งคอพับหลับอยู่“จิ๋ว” มือแตะไหล่ปลุกเธอให้ตื่น“ถึงบ้านแล้ว”“อือ” พลิกตัวหลับต่อ“จิ๋ว...เข้าบ้านนะถึงบ้านแล้ว” พูดซ้ำอีกครั้ง“ฮือ...ไม่เอา...จะนอน” งัวเงีย เสียงในลำคอบ่งบอกว่ารำคาญ“เข้าใปนอนในบ้าน”“กุญแจบ้านอยู่ไหน?” ถามคนเมาที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายของเธอมาเปิดหากุญแจ เปิดเข้าไปในบ้านสำรวจก่อนเพื่อความแน่ใจว่าห้องของเธอห้องไหนและเปิดประตูทิ้งไว้ เดินกลับมาอุ้มคนที่หลับอยู่เข้าบ้านวางหญิงสาวลงบนที่นอน ถอดรองเท้าออกให้ และกลับมาปิดรั้วบ้าน ก่อนจะเข้าไปสาละวนกับคนเมาอีกครั้ง“ทำไมเมาทิ้งตัวขน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status