Share

ตอนที่ 33 ดื่มให้ลืม

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-16 14:05:37

กล่องเครื่องสำอางที่ซื้อตุนไว้เมื่ออยากได้ แต่ไม่เคยได้ใช้แบบจัดเต็มเลยสักครั้ง ถูกนำมาวางเต็มโต๊ะดื่มให้ลืมในห้องแต่งตัว ถัดไปคือกองเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยหลากหลายสไตล์ ทั้งสวยหวานละมุน และโทนเซ็กซี่ เสียงเพลงที่เปิดคลอเบา ๆ สร้างบรรยากาศในห้องที่แอร์เย็นฉ่ำบวกกับเสียงฮัมเพลงจากปากของเอวา

สองสาวในชุดคลุมหลังอาบน้ำ กำลังเตรียมตัวสำหรับค่ำคืนของการฉลองบัณฑิตใหม่ให้กับตัวเอง เหมือนยกภูเขาลูกใหญ่ออกจากอก เอวาฮัมเพลงชิว ๆ อย่างอารมณ์ดีแต่สายตาคอยลอบมองเพื่อนอยู่เป็นระยะ จากการจับสังเกตจิวารีที่เปลี่ยนไป ใจลอยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจนบางครั้งเหมือนเธอพูดอยู่แค่ฝ่ายเดียว และแน่นอนอาการแบบนี้ต้องมีอะไรอยู่ในใจเป็นแน่

เจ้าของห้องเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบกระป๋องเบียร์มาเปิดจิบย้อมใจ และยื่นอีกกระป๋องส่งให้เพื่อนสาว

“แกโอเคหรือเปล่า?”

“โอเคสิ ทำไมเหรอ?” จิวารีรับกระป๋องเบียร์มาเปิดและยกขึ้นจิบ แสร้งทำหน้าชิวให้เพื่อน

“แต่ฉันว่าไม่” เอวาจ้องหน้าเพื่อนจริงจัง ถึงแม้จะรู้ดีว่าจิวารีปากแข็งแค่ไหน แต่สิ่งที่เก็บไว้ในใจของเธอตอนนี้มันเก็บไว้ไม่มิดแล้ว และล้นออกมาทางแววตาจนสังเกตได้

“ฉัน...ดูแย่ขนาดนั้นเหรอ?” ยิ้มน้อย ๆ ให้เพื่อนเมื่อโดนคนรู้ใจจี้แผล แต่ยังคงแสร้งเข้มแข็ง

“เรื่องดินกับน้ำฝนน่ะ แกโอเคหรือเปล่า?” เอวาเจาะตรงประเด็น ถึงแม้จิวารีจะไม่ยอมรับว่าตัวเองเฮิรตซ์ก็เถอะ

“….” คนถูกถามแววตากระตุกวูบ ก่อนจะรีบปรับสีหน้าและแววตา

“ก็ต้องโอเคสิ ดินมันมีความสุขเราเป็นเพื่อนก็ต้องดีใจด้วยอยู่แล้วป่ะ” หลบตา มือหยิบครีมประทินผิวแต้มที่ใบหน้าและลูบไล้ส่องกระจกเหมือนคุยเรื่องทั่วไปเพื่อกลบเกลื่อน

“ดินควรรู้ไหมว่าแกรู้สึกยังไง?” เอวาถามเธอเพื่อให้เธอได้ถามตัวเองต่อ และแค่อยากให้เพื่อนปลดปล่อยความรู้สึกออกมาบ้างไม่ใช่เก็บไว้คนเดียวจนอัดอั้นแบบนี้ จะเข้มแข็งไปเพื่ออะไร

“….”

“อย่างน้อยดินควรจะได้รู้”

“เขาคบกันแล้ว แกเป็นคนบอกฉันเองนี่ แค่นี้มันก็ชัดแล้ว”

พูดไปก็เหมือนเอามือกดปากแผลที่กำลังอักเสบอยู่ ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ความเงียบเข้าปกคลุมการสนทนาชั่วขณะ

“มันไม่สำคัญแล้วล่ะเอวา” มองหน้าเพื่อนผ่านทางเงาสะท้อนของกระจก

“แกดูสิตอนนี้เราเป็นใคร” หันกลับมาเผชิญหน้ากับเอวา

“เราเป็นบัณฑิตแล้วนะ เรื่องแค่นี้เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ฉันเก่งจะตายแกก็รู้”

หันกลับไปมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง หยิบโน่นหยิบนี่มาเตรียมแต่งหน้าเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่ทำไมในใจมันหน่วงขนาดนี้นะ

“และวันนี้เราจะปลดปล่อยทุกอย่างที่ทำให้เราไม่โอเค ฉันจะเป็นจิ๋วคนใหม่ที่มีแต่ความสุข” พูดกับตัวเองในเงาสะท้อนของกระจกใส

“แกก็ด้วย” ส่งยิ้มให้เอวาและปลอบใจตัวเอง

“อือ” เอวาพยักหน้า

“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นฉันก็จะอยู่ข้างแกเสมอ เราจะเป็นคนใหม่ที่มีแต่ความสุข”

ยกกระป๋องเครื่องดื่มชูขึ้น จิวารีหยิบกระป๋องมายกชนกัน กระดกเข้าปากอึกใหญ่ยืดยาวเหลือเพียงกระป๋องเปล่า วางกระแทกลงโต๊ะเสียงดังพร้อมถอนหายใจทิ้งเพื่อปลดปล่อยทุกอย่างทิ้งไว้ตรงนี้ ก่อนจะกุลีกุจอแต่งองค์ทรงเครื่องพร้อมออกล่าความสุขในค่ำคืนนี้

“วันนี้ฉันขอเซ็กซี่หน่อยละกัน”

เอวาหยิบเสื้อสายเดี๋ยวเอวลอยตัวจิ๋วสีแดงแรงฤทธิ์ กระโปรงสั้นสีดำเข้ารูปอวดสะโพกกลมโชว์บั้นท้ายและเอวคอด หน้าท้องแบนราบขาวเนียนชวนสัมผัส เรียวขาขาวที่ไม่ค่อยได้เห็นคุณหนูโชว์สักเท่าไหร่ในวันนี้ดึงดูดสายตาไม่ใช่เล่น เกล้าผมขึ้นสูงแบบง่าย ๆ ปล่อยปอยผมลงสองข้างแก้ม โชว์แผ่นหลังบอบบางน่าสัมผัส แม้จะแต่งเติมใบหน้าลุคสายฝอ แต่ความหวานสดใสก็ไม่เลือนหายไปจากใบหน้าเธอ

“เป็นผู้ใหญ่แล้ว...ฉะนั้น เราจะแต่งตัวแบบไหนก็ย่อมได้” เธอยืนอวดทรวดทรงต่อหน้าเพื่อนพร้อมรอยยิ้มสดใส

จิวารีสวมกางเกงยีนแต่งขาดขายาวทรงหลวม หัวกางเกงเกี่ยวอยู่ที่ขอบสะโพกใต้สะดือ โชว์กล้ามท้องแบนราบและความสุขภาพดีของเรือนร่างนักกีฬา เสื้อครอปแขนกุดตัวจิ๋วสีดำเหมือนความรู้สึกในใจตอนนี้ไม่ผิดเพี้ยน เธอแต่งแต้มใบหน้าสวยในโทนเข้ม เพื่อปกปิดความอ่อนไหวข้างใน ขอบตาที่ถูกกรีดด้วยอายไลน์เนอร์โทนเข้มเช่นเดียวกัน แม้แต่อายแชร์โดว์ก็ด้วย ผมยาวถูกม้วนเป็นลอนและปล่อยทิ้งตัว สิ่งที่ยังคงความเป็นจิวารีผู้เรียบง่ายมีเพียงลิปกลอสสีหวานสดใสเท่านั้น

“สวัสดีครับ” เจ้าหน้าที่การ์ดหน้าประตูเอ่ยทักทายสองสาวพร้อมกับยื่นมือมารับบัตรประจำตัวตรวจดูตามกฎของร้าน ก่อนผ่านเข้าประตูด้านใน สองสาวเปิดกระเป๋าสะพายใบเล็กให้การ์ดตรวจดูว่าไม่มีอาวุธใดๆ นำเข้าไปด้วย

“เชิญครับ” เจ้าหน้าที่เปิดประตูให้และโค้งศีรษะอย่างสุภาพ

สถานบันเทิงแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องการเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยในระดับต้น ๆ เป็นสถานที่ปลดปล่อยและระบายความเครียดได้อย่างสบายใจ ในบรรยากาศแบบมินิคอนเสิร์ตสำหรับกลุ่มคนมีระดับที่ญาติ ๆ ของเอวาใช้บริการอยู่เสมอ

“จองโต๊ะไว้ไหมคะ?”

“จองค่ะ ชื่อเอวาค่ะ”

“เชิญด้านนี้ค่ะ” พนักงานสาวเดินนำหน้าไป

เสียงเพลงที่หน้าเวทีโดยนักร้องในตอนหัวค่ำยังคงเป็นจังหวะเบา ๆ จิวารีกวาดตามองไปรอบบริเวณร้านระหว่างเดินไปที่โต๊ะวีไอพี หนุ่มสาวคู่รักหลายคู่ที่อยู่ในบรรยากาศ

โรแมนติกท่ามกลางเสียงเพลงรักหวานซึ้ง ทำให้ใบหน้าของใครคนนั้นโผล่ขึ้นมาในใจหญิงสาวอย่างช่วยไม่ได้

“ดิน...นายจะวนเวียนหลอกหลอนฉันตลอดแบบนี้ไม่ได้นะ” คิดคนเดียวในใจ

“แกดื่มอะไรดี? เอวาเอ่ยถาม หลังจากนั่งลงที่เก้าอี้

“แกสั่งเลยฉันอะไรก็ได้”

เอวาหยิบรายการอาหารและเครื่องดื่มมาเปิดดูและแจ้งพนักงานไป

“เต็มที่ได้เลยนะวันนี้ฉันจองการ์ดพิเศษไว้ดูแลความปลอดภัยให้เรา แกไม่ต้องห่วง”

เครื่องดื่มและของขบเคี้ยวถูกนำวางที่โต๊ะหลังจากสั่งไปเพียงไม่นาน นักท่องราตรีเริ่มหนาตาขึ้นมาเรื่อย ๆ พร้อมกับจังหวะเพลงที่เริ่มคึกคักไปพร้อมกัน สองเพื่อนสาวดื่มไปคุยไปมากมายเรื่องราวที่ถูกขุดจากอดีตขึ้นมาเล่าใหม่ สร้างเสียงหัวเราะกันอยู่สองคนเหมือนได้ปลดปล่อย สายตาหนุ่ม ๆ โต๊ะข้าง ๆ ที่ส่งสัญญาณอยากทำความรู้จักไม่มีผลต่อสองสาวเลยสักนิด แค่หนุ่ม ๆ เดินเข้ามาใกล้โต๊ะก็ถูกการ์ดที่ยืนคุมอยู่ใกล้กันออกเสียแล้ว

อยากสนุกท่ามกลางบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยผู้คน แต่ยังต้องการพื้นที่ส่วนตัวอยู่ อาศัยแค่เสียงเพลงจากหน้าเวทีและดีเจรูปหล่อก็เท่านั้น เอวาหยิบโทรศัพท์มือถือถ่ายเซลฟี่คู่พร้อมแคปชั่นลงในโชเชียลมีเดีย ก่อนจะลุกขึ้นโยกรีแลคตามจังหวะดนตรี

เสียงเบสจากลำโพงสะเทือนตามจังหวะเพลงฮิตที่ดีเจเปิดคลอไปกับแสงไฟสลัวหลากสีทั่วผับ โต๊ะทุกโซนในร้านตอนนี้เริ่มแน่นขนัดไปด้วยผู้คนแล้ว

“ขอให้ค่ำคืนนี้เป็นคืนแห่งการปลดปล่อย” เสียงจากดีเจหนุ่มที่พูดประสานกับจังหวะเพลงซึ้ง

“ความเหี้ยทั้งหลายของเมื่อวาน...โยนมันทิ้งซะ” เว้นช่วงให้เสียงดนตรีแทรกขึ้น

“แล้วมาโยกกัน” ใส่พลังในเสียงปลุกใจคนเศร้าให้ตื่นขึ้น

ตามด้วยเสียงกระหึ่มกึกก้องจากลำโพง และเสียงกรี๊ดเกรียวกราวของหนุ่มสาวทั่วทั้งร้าน แสงไฟวิบวับสลับสีละลานตา กลุ่มหนุ่มสาวลุกขึ้นนแดนซ์ตามคำเชิญของดีเจกันสุดเหวี่ยง เช่นเดียวกับเอวาและจิวารีที่เหมือนนักโทษที่ถูกปล่อยออกจากห้องขัง

ภาพสองสาวที่เช็กอินในผับท่ามกลางไฟสลัวและฉีกยิ้มตาหวานฉ่ำ ถูกซูมขยายเข้าออกดูบรรยากาศรอบข้างเพื่อเก็บรายละเอียดว่าพวกเธอไปกับใคร

อิทธิพลขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด มิน่าล่ะ ส่งข้อความไปตั้งมากมายก็ไม่เปิดอ่านสักที เธอไปกับใครนะ ลุกขึ้นหยิบกุญแจรถเดินลงจากคอนโดทันที

จิวากรหรี่ตามองภาพสองสาวในหน้าจอมือถือ

“ดูแต่งตัวเข้าซิ ยังกะจะไปจับแขก” ส่ายหัวเดินไปหยิบแจ็กเก็ตก่อนจะออกไปเรียกแท็กซี่

ภูผาและกีตาร์ถึงไฮเฟรนด์ผับในไม่กี่นาทีหลังจากเอวาลงสตอรี่ และเดินตามหาอยู่สักพัก อาศัยมุมจากภาพถ่ายในจุดที่สองสาวนั่ง

เพลงเปลี่ยนเป็นจังหวะช้าลง เมื่อใกล้ได้เวลาวงดนตรีรอบดึกขึ้นโชว์ แอลกอฮอล์ร้อนผ่าวในร่างที่ออกฤทธิ์กระตุ้นความในใจให้หน่วงลงไปอีก

อยู่คนเดียวใช่ไหม...หรือเขาอยู่ตรงนั้น?”

ท่อนฮิตของเพลงที่ทำจิวารีเจ็บแปลบพร้อมกับใบหน้าของเขาที่ลอยมาเด่นชัดกว่าเดิม

“ในที่สุดฉันก็ไม่ใช่คนที่ถูกเลือก” หัวเราะเยาะตัวเองที่ทำเหมือนเข้มแข็ง สุดท้ายก็ต้องหนีมาพึ่งเหล้าเพื่อให้ลืม แต่มันได้ผลที่ไหนกัน ยิ่งดื่มยิ่งคิดถึง

“ไอ้ดิน ไอ้บ้า....” แหกปากร้องแข่งเสียงเพลงอย่างลืมตัว

เอวายกแก้วชูขึ้น

“ปลดปล่อย...เพื่อความสุข” สองสาวชนแก้วกันสนั่นกระดกลงคอพรวดเดียวเหมือนเททิ้ง จิวารีนำหน้าไปไกลแล้วเหมือนซ้อมดื่มเผื่อหมา ส่วนเอวานั้นยังแค่ตึง ๆ เท่านั้นเพราะดูจากสภาพเพื่อนสาวของเธอแล้วคงเมาทิ้งตัวเป็นแน่

 เสียงจากหน้าเวทีกับวงดนตรี วงสุดท้ายที่ขึ้นประจำที่แล้วพร้อมแจกความมันส์

นักร้องหนุ่มมาดเซอร์จากหน้าเวทีทักทายแค่ไม่กี่คำ เสียงเบสก็ดังสะเทือนพื้น ผสมกับแสงสีส้มแดงที่กะพริบเป็นจังหวะบีบหัวใจ พร้อมกับร่างของหนุ่มสาวที่ลุกพรึบขึ้นสะบัดโยกแข่งกับไฟวิบวับแบบไม่ต้องนัดหมาย

“จิ๋ว” ภูผาเดินเข้ามาหายังไม่ทันจะถึงตัวก็โดนการ์ดกันตัวออกห่างแล้ว

“เพื่อนผม” เขาโน้มหน้าเข้าใกล้การ์ดเพื่อให้ได้ยินชัดแข่งกับเสียงดนตรี พอดีกับที่เอวาหันมาเจอ

แท็กซี่จอดหน้าไฮเฟรนด์ผับ จิวากรเปิดประตูรถเดินลงมา

“แจ็ค” เสียงเรียกจากด้านหลัง เจ้าของชื่อหันไปมอง

“ไอ้ดิน”

สองหนุ่มเดินเข้ามาด้านในหลังจากพูดคุยเข้าใจตรงกัน อีกคนบอกมาตามหาเพื่อน ส่วนอีกคนบอกมาตามหาน้อง โทรเข้าไม่รู้กี่สายก็ไม่มีใครรับ ข้อความก็ไม่เปิดอ่าน ผู้คนก็แน่นขนัดไปทั้งร้านทั้งเต้นทั้งโยกสะบัด เดินขวักไขว่กันจนตาลาย แถมยังหรี่ไฟให้สลัวลงไปอีกทำให้เป็นอุปสรรคในการตามหาสองสาว สุดท้ายต้องมายืนดักอยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำหญิง

“กูจะบ้า” จิวากรบ่นงึมงำ ห่วงก็ห่วง ไอ้จิ๋วนี่มันน่านักจะบอกพี่สักคำก็ไม่มี เรื่องไม่ดีก็เคยเกิดขึ้นกับตัวเองแล้วแทนที่จะรู้จักระวังตัว เอวาก็เหลือเกินไม่รู้จักเตือนเพื่อนไม่พอ เออออห่อหมกไปตามกันเสียอย่างนั้น

หลังจากยืนรออยู่นานสองนานโต๊ะหัวมุมทางเดินออกไปห้องน้ำ มีลูกค้าเช็คบิลและกลับออกไป สองหนุ่มก็เข้าเสียบสั่งเครื่องดื่มมาดื่มย้อมใจ และกวาดสายตามองหาสองสาวอยู่เป็นระยะ สองหนุ่มหล่อที่ปราศจากแฟนสาวมาคุมไม่นานก็โดนสาวสวยเข้ามาเต๊าะอย่างถึงเนื้อถึงตัว อิทธิพลเดินตามหาเพื่อนสาวอีกครั้งปล่อยให้จิวากรโดนสาวแทะโลมอยู่ตามลำพัง คุยกันแค่ประเดี๋ยวเธอก็กระซิบข้างหูและชวนเขากลับ

“ไปค้างที่คอนโดแพรไหมคะคืนนี้”

จิวากรนั่งกึ่งยืนพิงเก้าอี้สูง สาวสวยยืนแนบชิดในวงขาแข็งแรง สองแขนคล้องคอชายหนุ่มให้โน้มหน้าลงมาหา สองมือของจิวากรแต่ะสะโพกเธอและดันออก

“ไว้วันหลังละกันมันนี้ผมไม่สะดวก”

เอวาหยุดขาที่กำลังก้าวขณะจะเดินเข้าห้องน้ำ หรี่ตามองภาพข้างหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

“พี่แจ็คนี่นา”

“หึ...นี่เขาจะมีผู้หญิงอยู่ทั่วบ้านทั่วเมืองเลยหรือยังไงนะ” เกลียดนักพวกผู้ชายเจ้าชู้จอมกะล่อน หลายใจ มักมาก ไม่รู้จักพอ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนพิเศษ 41 แค่มีเรา

    เสียงลมหนาวพัดผ่านรวงข้าวสีทองที่โอนเอนตามแรงลมอย่างอ่อนช้อย แสงอาทิตย์แรกของวันทาบทอลงบนท้องทุ่งกว้าง กลิ่นฟางกลิ่นดินที่ลอยคละคลุ้งในอากาศเมื่อหมอกจาง ๆ เริ่มคลายตัว กลุ่มนกน้อยใหญ่บินวนจิกเมล็ดข้าวในทุ่งนาโดยไม่สนใจหุ่นไล่กาเลยสักนิด ประหนึ่งว่าเป็นเพื่อนที่คุ้นหน้ากันเสียอย่างนั้นอิทธิพลขับมอเตอร์ไซค์ตามทางคดเคี้ยวที่ใช้เป็นทางลัดกลับจากท้ายทุ่ง โดยมีจิวารีนั่งซ้อนท้าย ในมือถือตะกร้าผักสดที่เก็บมาใหม่ ๆ สำหรับให้พ่อโจทำกับข้าวในเช้านี้ หลังจากสองหนุ่มสาวเคลียร์ความวุ่นวายของงานลงตัวแล้วและกลับมาเยี่ยมพ่อผ่านพ้นไปหลายฤดูที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามวันเวลาที่ล่วงผ่าน เช่นเดียวกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ของการทำงาน ที่ไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันคือวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันอย่างดีให้กับทุกปัญหาของการใช้ชีวิตอิทธิพลได้เข้าศึกษาต่อในสาขาบริหารธุรกิจเพื่อสานต่อตำแหน่งผู้บริหารเต็มตัวหลังจากทรงศักดิ์จากไปอย่างสงบในวัยชรา ดวงยี่หวาโอนกิจการร้านอาหารให้ทายาทเพียงคนเดียวหลังจากออกไปทำกิจการความสวยความงามตามที่เธอชื่นชอบ และมีจิวารีบริหารกิจการต่อจากเธอจิวากรลาออกจากบ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 40 อินเลิฟ

    สองหนุ่มสาวหอบหิ้วถุงขนมขบเคี้ยวและกับแกล้มจากร้านสะดวกซื้อ หิ้วพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือไปหมด อีกทั้งเครื่องดื่มที่ตุนไว้สำหรับการเชียร์บอลในคืนนี้ด้วย จิวารีขอตัวไปอาบน้ำหลังจากเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ชำระร่างกายคืนความสดชื่นแล้วยังไม่ทันจะได้นั่งพักเหนื่อยเสียงเคาะที่หน้าประตูก็ดังขึ้น ส่องดูหน้าคนเคาะที่ตาแมว อิทธิพลนั่นเอง“รอนานแล้ว” ทันทีที่เปิดประตูให้เขาก็อ้อนทันที พร้อมกับจูงมือหญิงสาวเดินมาที่ห้อง เครื่องดื่มและของขบเคี้ยวถูกนำมาวางตรงโต๊ะหน้าทีวีสำหรับการเตรียมเชียร์บอลเรียบร้อย พร้อมกับเสียงบรรยายเมื่อการแข่งขันกำลังจะเริ่ม จิวารีนั่งลงข้างเขาเอนพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย“ที่ร้านเป็นไงบ้างวันนี้ยุ่งหรือเปล่า?”“อือ ลูกค้าเยอะ วันนี้ใส่รองเท้าส้นสูงคู่ใหม่ไม่สบายเท้าเลย แถมปวดขามากอีกต่างหาก” มือทุบที่หน้าขาตัวเองเบา ๆ“เหนื่อยก็พักมีพี่ไพลินอยู่ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงหรอก” ยกแขนขึ้นโอบไหล่เธอและดึงเข้ามาซบไหล่ตัวเอง“แล้วเรื่องเรียนต่อของนายไปถึงไหนแล้ว?”“รอเรื่องงานลงตัวก่อนค่อยว่ากันอีกที?” ตอบและจูบที่หน้าผากจิวารีเงยหน้าขึ้นมองเขา“อะไร?” อิทธิพลถามเมื่อหญิงสาวเอาแต่ยิ้มแล

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 39 ชีวิตนอกมหาวิทยาลัย

    จิวารีอยากตอบตกลงการเริ่มงานใหม่กับเอวา เมื่อถูกทาบทามให้ไปทำงานที่สาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดกับการร่วมหุ้นของสองครอบครัวระหว่างดวงยี่หวาและพิมพ์พรรณ แต่ดวงยี่หวาขอร้องให้เธอมาบริหารร้านอาหารแทน โดยยกเหตุผลทั้งร้อยแปดประการให้หญิงสาวใจอ่อน เพียงเพราะเจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวไม่อยากให้สาวห่างไกลหูไกลตาเท่านั้นเองส่วนอิทธิพลนั้นตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งตามที่ทรงศักดิ์แต่งตั้ง ในการสานต่อธุรกิจของตระกูล เนื่องจากปัญหาสุขภาพของผู้เป็นปู่ เท่ากับว่าความรักที่เพิ่งผลิบานใหม่ถูกจำกัดด้วยเวลาและภาระหน้าที่เพราะต่างฝ่ายต่างเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ในชีวิตการทำงาน ทำได้เพียงส่งข้อความหวานและโทรหาเพื่อฟังเสียงเท่านั้น หลังเลิกงานก็มารับหญิงสาวกลับห้องพร้อมกัน เพราะขนกระเป๋าเสื้อผ้ามาอยู่คอนโดที่เคยปฏิเสธแล้ว เนื่องจากดวงยี่หวาอ้างเป็นสวัสดิการและใกล้ที่ทำงานจะได้สะดวกในการเดินทางด้วย“ร้านเดิมนะ ตอนเย็นหลังเลิกงานวันศุกร์”คือข้อความที่นัดเจอกันของกลุ่มเพื่อน หลังจากห่างหายจากการพบปะสังสรรค์นานแล้วหลังจากสิ้นสุดการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะต่างฝ่ายต่างยุ่งกับการจัดการชีวิตให้เข้าที่เข้าทาง ทั้งเร

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 38 สิ้นสุดทางเพื่อน เป็นแฟนกันนะ

    “มีอะไรหรือเปล่า?” เป็นเขาที่ถามขึ้นมาก่อน“เอ่อ....” เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ อิทธิพลปิดหลอดยาและเก็บลงกล่อง“เมื่อคืนนายไปส่งฉันใช่ไหม?” ถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าใช่จากที่เอวาบอก“อือ” ตอบและเดินไปหยิบรีโมทย์เปิดทีวี นั่งพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย เลื่อนเลือกช่องดูผลการแข่งขันฟุตบอล“ขอบใจนะ” จิวารีอึกอักพูดต่อ“พี่แจ็คไม่อยู่บ้านน่ะ...ออกไปตั้งแต่เช้าก็เลยยังไม่ได้ถาม” ขยายความให้เผื่อเขาสงสัย“แล้ว...” เธอหยุดคำพูดไว้แค่นั้น กลอกตาล้อกแล้กไปมาเหมือนหัวขโมยจอมโกหกที่กลัวคนจับได้“หือ...” อิทธิพลหันมามองหน้ายกคิ้วเป็นคำถาม และรอฟังว่าเธอจะถามอะไรต่อ จิวารีเม้มปากแน่น หายใจติดขัด“คือ...ฉัน...น่าจะเมาหนักมาก”“แล้ว...เผลอทำอะไรรั่ว ๆ หลุด ๆ ไปบ้างหรือเปล่า?” ถามอย่างมีเลศนัยอิทธิพลยกมือขึ้นจับคางทำท่าครุ่นคิด“ก็...”จิวารีลุ้นคำตอบตามอย่างตื่นเต้น“ไม่มีนะ”เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ฟังคำตอบจากเขา ค่อยยังชั่วหน่อย ที่แท้ก็แค่มโนเท่านั้น ยิ้มอย่างผ่อนคลาย กำลังจะอ้าปากถามเขาว่าอาหารจะมาส่งกี่โมง“เราก็แค่จูบกันเฉย ๆ” อิทธิพลพูดสวนขึ้นมารอยยิ้มบาง ๆ เมื่อครู่ค่อย ๆ หุบลง พร้อมกั

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 37 เคลียร์

    จิวารีงัวเงียตื่นมาเข้าห้องน้ำในตอนเช้ามืด ตามด้วยการกินยาแก้ปวดและเดินกลับห้องทิ้งหัวลงหมอนนอนต่อ ลืมตาตื่นอีกทีก็ใกล้เที่ยง มือควานหาโทรศัพท์บนหัวเตียงกดดูเวลาที่หน้าจอ ก่อนจะวางลงที่เดิม ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งและนิ่งอยู่สักครู่ มือนวดวนอยู่ข้างขมับ ก่อนลุกขึ้นไปอาบน้ำเรียกความสดชื่นคืนให้ร่างกายละอองน้ำเย็นที่ซ่ากระเซ็นลงสู่ร่างตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เรียกความตื่นตัวคืนมาได้ไม่น้อย กลิ่นหอมของแชมพูบวกกับกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ยังติดอยู่ที่ปลายจมูกผสมคละคลุ้งกันภายใต้ไอน้ำเย็นในห้องน้ำเล็ก ๆ จิวารียืนนิ่งใต้ฝักบัวปล่อยให้สายน้ำไหลลงชำระความมึนเมาและความรุงรังในใจออกไปให้หมด ในสมองก็พลอยลำดับเหตุการณ์ของเมื่อคืนไปด้วยภายใต้ภาพความทรงจำที่แสนจะเลือนรางเท่าที่สมองจะบันทึกไว้ได้แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดกลับเป็นความฝันนี่เธอเป็นหนักเอาการถึงขั้นฝันว่าได้จูบกับเขาแล้วเชียวเหรอ มือเสยผมที่เปียกปอนลงสองข้างแก้มขึ้น เงยหน้ารับละอองน้ำเย็น เป่าปากถอนหายใจทิ้ง อีกนานแค่ไหนกันนะถึงจะกล้าเผชิญหน้ากับเขาเหมือนเดิมแบบไม่รู้สึกอะไรได้ เอาน่า ต่อไปก็คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ เรียนจบแล้ว ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายหางานทำ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 36 ความในใจ

    อิทธิพลจอดรถข้างริมฟุตบาทแวะซื้อข้าวต้มริมทาง เผื่อเธอสร่างเมาเมื่อถึงบ้านและเกิดหิวขึ้นมา ตลอดเส้นทางคนเมาที่ตื่นมาบ่นเป็นครั้งคราว“ดิน” เรียกชื่อเขาทั้งที่ตาหลับอยู่“หือ” คนขับหันไปมอง เธอพูดแค่นั้นก่อนจะเงียบลงและหลับต่อ อิทธิพลเอื้อมไปดึงมือเธอมากุมไว้อีกมือจับพวงมาลัย“ว่าไง” แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่นั่งข้างกันรถวิ่งมาจอดหน้าบ้าน ดีว่าเขาเคยมาส่งตะวันในครั้งที่ลืมของไว้ที่นี่ไม่งั้นคงวุ่นวายหาบ้านอยู่เป็นแน่ว่าหลังไหน คนเมาก็พูดไม่รู้เรื่อง หันมามองคนข้าง ๆ ที่นั่งคอพับหลับอยู่“จิ๋ว” มือแตะไหล่ปลุกเธอให้ตื่น“ถึงบ้านแล้ว”“อือ” พลิกตัวหลับต่อ“จิ๋ว...เข้าบ้านนะถึงบ้านแล้ว” พูดซ้ำอีกครั้ง“ฮือ...ไม่เอา...จะนอน” งัวเงีย เสียงในลำคอบ่งบอกว่ารำคาญ“เข้าใปนอนในบ้าน”“กุญแจบ้านอยู่ไหน?” ถามคนเมาที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายของเธอมาเปิดหากุญแจ เปิดเข้าไปในบ้านสำรวจก่อนเพื่อความแน่ใจว่าห้องของเธอห้องไหนและเปิดประตูทิ้งไว้ เดินกลับมาอุ้มคนที่หลับอยู่เข้าบ้านวางหญิงสาวลงบนที่นอน ถอดรองเท้าออกให้ และกลับมาปิดรั้วบ้าน ก่อนจะเข้าไปสาละวนกับคนเมาอีกครั้ง“ทำไมเมาทิ้งตัวขน

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status