Share

ตอนที่ 9 บำเพ็ญประโยชน์

last update Last Updated: 2025-12-16 13:41:16

สวนสาธารณะในวันหยุดสุดสัปดาห์คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาออกกำลังกาย ทั้งวิ่งและเดินยืดเส้นยืดสาย รวมทั้งปั่นจักรยานที่มีให้เห็นอยู่จนชินตา บางมุมคือที่นั่งอ่านหนังสือของนักศึกษา อีกทั้งมานั่งพักผ่อนรับอากาศบริสุทธิ์หนีฝุ่นควันจากการจราจร มาพึ่งความเขียวชอุ่มร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่

จิวารีสะพายเป้ที่บรรจุถุงดำและถุงมือสำหรับปฏิบัติการของเธอในวันนี้ อิทธิพลถือเสื่อพับผืนเล็กในมือมาด้วย อีกข้างหิ้วเสบียงพะรุงพะรังเต็มมือทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ผลไม้ อีกทั้งขนมขบเคี้ยว ประหนึ่งจะไปปิกนิกเสียอย่างนั้น เพราะด้านในไม่อนุญาตให้รถขายอาหารเข้ามาจอด หากจะออกมาซื้อหลังจากทำงานเสร็จก็ไกลโขคงหินจนตาลายเป็นแน่

สองหนุ่มสาวเดินพูดคุยกันมาตามทางและมองหาจุดพัก เลือกปูเสื่อใต้ต้นไม้ใหญ่ริมสระน้ำที่มีลมโกรกอยู่เป็นระยะ

“ต้องอิ่มก่อนถึงจะเริ่มทำงานได้เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง” จิวารีพูดอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับค้นเสบียงที่อิทธิพลเพิ่งวางลงเมื่อครู่

“นายนี่รอบคอบดีจัง”

เปิดและชิมดูทุกเมนูเทสรสชาติทุกอย่างอย่างตั้งอกตั้งใจ เพราะตั้งแต่เช้ายังไม่ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย รูดลูกชิ้นปิ้งออกจากไม้ลงในถุงเทน้ำจิ้มราด และจิ้มเข้าปากชิมรสชาติ

“อื้อ อันนี้อร่อย” พยักหน้าคนเดียวจับความรู้สึกอยู่ที่อาหารในปากพร้อมกับโยกตัวไปมา

“ชิมดูสิ”

“ไม่อ่ะ เธอกินเถอะ”

“ชิมดูอร่อยจริง ๆ” คะยั้นคะยอเพื่อนและยื่นลูกชิ้นจ่อปากป้อนแกมบังคับ

“อื้อ...เร็วเข้า”

อิทธิพลอ้าปากรับลูกชิ้นที่เธอป้อนเข้าปากและเคี้ยวแบบขัดไม่ได้

“อร่อยป่ะ?” ถามและลุ้นคำตอบ

“อือ” พยักหน้ารับ รสชาติก็งั้น ๆ มันก็แค่ลูกชิ้นปิ้งเท่านั้นเองเธอจะอร่อยอะไรขนาดนั้น

“ไปไงบอกแล้วว่าอร่อย”

หลังจากเติมท้องจนเต็มก็เริ่มปฏิบัติภารกิจอย่างขะมักเขม้น จิวารีถือถุงดำเดินเก็บขยะเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปตามสนามหญ้าและทางเดิน เนื่องจากในสวนสาธารณะมีถังขยะขนาดใหญ่วางไว้เป็นจุดเพื่อความเป็นระเบียบและสะอาดสะอ้าน จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของเธอในการเก็บขยะในครั้งนี้ จะมีบ้างก็แค่ขยะเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เด็ก ๆ ทิ้งไปเรื่อยก็เท่านั้น

อิทธิพลช่วยเพื่อนสาวเก็บขยะไปตามทาง พร้อมทั้งถ่ายรูปและวิดีโอไว้ให้เธอสำหรับทำรายงานส่งอาจาร์เรียบร้อย ก็ปลีกตัวออกไปนั่งรอที่จุดพัก

ชายหนุ่มหย่อนก้นลงนั่งกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ เสียงเด็กวิ่งหยอกล้อหัวเราะสนุกสนานมองเพลินจนเผลอยิ้มตาม สายลมเย็น ๆ พัดเอื่อย ๆ ปะทะใบหน้าเป็นระยะ บวกกับเสียงก้องกังวานของนกบนต้นไม้ใหญ่ดังแว่วมากับลม เหมือนกำลังขับกล่อมเขาให้หลับใหล พาลให้หนังตาเริ่มตกสำหรับคนที่ดูบอลค่อนสว่างและได้นอนแค่หยิบมือเดียวเท่านั้น ก่อนจะเอนหลังลงนอนเพียงไม่กี่นาทีก็ผล็อยหลับไป

จิวารีที่เสร็จจากภารกิจก็เข้าห้องน้ำล้างมือล้างหน้าทำความสะอาดร่างกาย และกลับมาที่จุดพัก นั่งลงข้าง ๆ คนที่หลับลึกพิจารณาใบหน้าเพื่อนชายในระยะใกล้อย่างพินิจพิเคราะห์โดยละเอียดเป็นครั้งแรก

ใบหน้าคมเข้ม คิ้วเข้ม ๆ จมูกโด่งเป็นสันรับกับปากหนาได้รูป เปลือกตาที่ปิดสนิทอยู่ตอนนี้ทำให้นึกถึงดวงตาเด็ดเดี่ยวของเจ้าของร่าง แต่บางครั้งกลับดูเรียบเฉยอ่านยาก

“ไอ้ดินนี่มันก็หล่อเหมือนกันนะเนี่ย”

พลันในใจก็นึกสนุกขึ้นมาทันที ลุกไปเด็ดดอกหญ้าที่อยู่ริมน้ำและเดินกลับมานั่งที่เดิม

ปัดดอกหญ้าไปตามใบหน้าหล่ออย่างแผ่วเบา คนที่หลับยกมือปัดออกทันทีโดยสัญชาตญาณและพลิกตัวหลับต่อ จิวารีปิดปากหัวเราะกลั้นเสียง ปัดดอกหญ้าขนนิ่มลงใบหน้าชายหนุ่มอีกครั้ง และแยงเข้าในรูจมูกอย่างเบามือก่อนจะหมุนไปมา

“ฮั๊ดเช่ย” เสียงจามจากคนที่ถูกรบกวนและลืมตาตื่น หญิงสาวชักมือกลับแอบดอกหญ้าในมือไว้ด้านหลังทันที

“ตื่นแล้วเหรอ?”

ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งมือลูบหน้าลูบตาและนวดคลึงขมับไปมาอยู่สักพัก พลันสองมือหนาก็คว้าไหล่บางและผลักเธอให้นอนลง รวบสองมือของหญิงสาวขึ้นเหนือศีรษะด้วยมือแกร่งเพียงข้างเดียว เข่าแข็งแรงทับเรียวขาทั้งสองข้างไว้ไม่ให้ดิ้น แย่งดอกหญ้าจากมือเธอมาถือไว้และชูให้หญิงสาวดู ค่อย ๆ ยื่นเข้าไปใกล้ ๆ ใบหน้าของเธอ

“ปล่อย” เสียงโวยวายจากเจ้าของร่าง

อิทธิพลหันมาหยิบผลไม้ข้าง ๆ ยัดเข้าในปากคนโวยวายก่อนที่เธอจะถุยพ่นใส่หน้าเขาทันที ชายหนุ่มใช้ดอกหญ้าปัดแยงเข้าไปในรูจมูกเธอ จิวารีหลับตาปี๋ส่ายหน้าหลบพัลวันแต่ขยับได้แค่ใบหน้าเท่านั้น เสียงแหกปากดังลั่นของเธอบวกกับหัวเราะเบา ๆ ของคนแกล้ง

“พอ...แล้ว” ร่างบางที่ดิ้นกระแด่ว ๆ แต่ขยับลุกไม่ได้

“ขอโทษก่อน”

“ไม่” เสียงหนักแน่นมั่นคง

คราวนี้เปลี่ยนเป็นดอกหญ้าหมุนเข้าไปในหู สลับกับจี๋เอวเธอ จิวารีดิ้นเหมือนไส้เดือนโดนน้ำร้อนแหกปากดังลั่นกว่าเดิม

“โอ๊ย...ไอ้ดิน...ปล่อย” โมโหที่สู้เขาไม่ได้แต่กลับหัวเราะเพราะโดนจี๋เอว

“ขอโทษยัง?”

“เออ...ขอโทษ”

“ขอโทษค่ะพี่ดิน” เขาสั่ง

“ขอโทษค่ะพี่ดิน” เธอพูดตาม ก่อนที่ร่างจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระและรีบลุกขึ้นนั่งทันทีก่อนที่จะโดนเขาแกล้งซ้ำ

“ไอ้บ้านี่” ฝ่ามือบางที่เงื้อหวังจะฟาดลงข้างกกหูแต่ช้ากว่ามือหนาที่ล็อกข้อมือเธอไว้ หญิงสาวเงื้อมืออีกข้างขึ้นกะฟาดใหม่แต่ก็ช้ากว่าเขาอยู่ดี และข้อมือทั้งสองข้างของเธอก็ถูกรวบเข้าไว้ด้วยกันทางด้านหลัง ไม่รอช้าจิวารีโขกหน้าผากลงที่ศีรษะชายหนุ่มแบบไม่กลัวเจ็บทันที

โป๊ก!

“โอ๊ย”

“โอ๊ย”

เสียงร้องพร้อมกันด้วยความเจ็บทั้งคนโขกและคนถูกโขก มือใหญ่ผลักหน้าผากเธอออกห่างตัว แต่ยังล็อกแขนหญิงสาวไพล่ไว้ที่ด้านหลังของเธออยู่ ก่อนจะสับมะเหงกลงกลางศีรษะเธอ และลุกขึ้นวิ่งหนี

“ไอ้ดิน”

จิวารีลุกขึ้นวิ่งไล่ตามเขาทันที สองร่างที่วิ่งรอบต้นไม้ใหญ่กลับไปกลับมาพร้อมกับเสียงหัวเราะของชายหนุ่มที่ยั่วยวนคนหัวร้อนเพราะเอาชนะเขาไม่ได้ ก่อนจะเหนื่อยทั้งสองฝ่ายสุดท้ายนอนแผ่หราอยู่บนเสื่อพร้อมเสียงหายใจถี่ ๆ ประสานกันอยู่อย่างนั้น เหงื่อเม็ดเป้ง ๆ กระจายอยู่เต็มใบหน้า เก็บขยะบำเพ็ญประโยชน์ไม่เห็นจะเหนื่อยขนาดนี้เลย

“น้องคะ”

เสียงเรียกจากด้านข้าง สองหนุ่มสาวลุกขึ้นนั่งมองหาต้นเสียง ชายร่างท้วมมีเคราและจริตจะกร้านแบบสาวจ๋ายืนอยู่ไม่ไกล

“พี่ขอเวลาคุยสักครู่ได้ไหมคะ?”

เขากรีดนิ้วพร้อมกับรอยยิ้มส่งให้อย่างเป็นมิตร

“พี่ชื่อมะม่วงค่ะ” เขาแนะนำตัวเองและยื่นนามบัตรส่งให้ ก่อนจะแจ้งความประสงค์ คือรายละเอียดโปรเจคงานที่เสนอให้สองหนุ่มสาวรับไว้พิจารณา พูดคุยกันอยู่นานสองนานก่อนจะขอตัวจากไป จิวารีเก็บนามบัตรของมะม่วงใส่ในกระเป๋าสตางค์ ดวงตาเป็นประกาย พร้อมกับตัวเลขค่าตอบแทนที่เธอบอกเมื่อครู่ฟังดูมันช่างหวานหูเสียจริง

กับการถ่ายภาพโปรโมทเสื้อผ้ายีนคอลเล็กชันใหม่ สำหรับการเปิดตัวในหัวข้อ “ฟิวแฟน” ที่จะเอาไปลงในเว็บเพจของบริษัท และกำลังหาคู่รักในวัยหนุ่มสาวหลากหลายคู่มาเปิดตัวสินค้าออนไลน์ โดยเลือกคู่หนุ่มสาวที่ยังอยู่รั้วมหาวิทยาลัย เน้นความเป็นธรรมชาติและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือเป้าหมายของการตลาดตามคอนเซปของโปรเจก

“ดิน” เรียกเสียงอ่อย

ขณะเก็บสัมภาระใส่กระเป๋าเป้จะกลับบ้าน หลังจากเสร็จภารกิจการบำเพ็ญประโยชน์ของเธอในวันนี้แล้ว อิทธิพลไม่ตอบแต่ตวัดสายตาขึ้นมองหญิงสาว ยังไม่ทันอ้าปากเขาก็มองทะลุลงไปถึงไส้ทุกขดของเธอแล้ว

“ไม่” ตอบหนักแน่นแบบไม่มีเยื่อใยเลยสักนิด

“ดิน...” ลากเสียงยาว จับชายเสื้อชายหนุ่มกระตุกออดอ้อนด้วยสายตา

“เราไม่ชอบถ่ายรูป”

“แต่ถ่ายรูปแล้วได้ตังค์นะ” เธอพยายามหาเหตุผลมาโต้แย้ง

“ไม่ได้อยากได้”

“แต่ฉันอยากได้นี่ ค่าตอบแทนน่าสนใจมากเลยนะ” จ้องหน้าเพื่อนด้วยสายตาวิงวอน

“เธออยากได้ก็ไปถ่ายสิ...แต่เราไม่”

“ก็เค้ารับเป็นคู่นี่นายก็ได้ยินนี่นา...ถ่ายคนเดียวได้ที่ไหนล่ะ”

“….”

“ตกลงนะ” ส่งยิ้มให้

อิทธิพลทำหูทวนลมเก็บของเสร็จก็ลุกขึ้นหันหลังให้และเดินจากไป ร่างบางวิ่งตามร่างสูงที่ก้าวขายาว ๆ ไป จิวารีวิ่งไปดักหน้าเขาไว้ทำตาปริบ ๆ เรียกคะแนนสงสาร ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่กับความเซ้าซี้ของเพื่อนสาวก่อนจะหยุดเดิน สองมือจับไหล่บางไว้จ้องลึกเข้าไปในดวงตาด้วยใบหน้าเรียบเฉย จิวารียิ้มสวยอย่างมีความหวัง จ้องหน้าชายหนุ่มและลุ้นคำตอบจากปากเขา

อิทธิพลจ้องหน้าเธอและนิ่งเงียบอยู่พักใหญ่ปล่อยให้หญิงสาวลุ้นคำตอบอยู่อย่างนั้น

“ไม่” เสียงหนักแน่นชัดเจน ก่อนจะผลักไหล่บางออกให้พ้นทางและเดินต่อ

“ดิน” วิ่งตามอย่างไม่ลดละ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนพิเศษ 41 แค่มีเรา

    เสียงลมหนาวพัดผ่านรวงข้าวสีทองที่โอนเอนตามแรงลมอย่างอ่อนช้อย แสงอาทิตย์แรกของวันทาบทอลงบนท้องทุ่งกว้าง กลิ่นฟางกลิ่นดินที่ลอยคละคลุ้งในอากาศเมื่อหมอกจาง ๆ เริ่มคลายตัว กลุ่มนกน้อยใหญ่บินวนจิกเมล็ดข้าวในทุ่งนาโดยไม่สนใจหุ่นไล่กาเลยสักนิด ประหนึ่งว่าเป็นเพื่อนที่คุ้นหน้ากันเสียอย่างนั้นอิทธิพลขับมอเตอร์ไซค์ตามทางคดเคี้ยวที่ใช้เป็นทางลัดกลับจากท้ายทุ่ง โดยมีจิวารีนั่งซ้อนท้าย ในมือถือตะกร้าผักสดที่เก็บมาใหม่ ๆ สำหรับให้พ่อโจทำกับข้าวในเช้านี้ หลังจากสองหนุ่มสาวเคลียร์ความวุ่นวายของงานลงตัวแล้วและกลับมาเยี่ยมพ่อผ่านพ้นไปหลายฤดูที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามวันเวลาที่ล่วงผ่าน เช่นเดียวกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ของการทำงาน ที่ไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันคือวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันอย่างดีให้กับทุกปัญหาของการใช้ชีวิตอิทธิพลได้เข้าศึกษาต่อในสาขาบริหารธุรกิจเพื่อสานต่อตำแหน่งผู้บริหารเต็มตัวหลังจากทรงศักดิ์จากไปอย่างสงบในวัยชรา ดวงยี่หวาโอนกิจการร้านอาหารให้ทายาทเพียงคนเดียวหลังจากออกไปทำกิจการความสวยความงามตามที่เธอชื่นชอบ และมีจิวารีบริหารกิจการต่อจากเธอจิวากรลาออกจากบ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 40 อินเลิฟ

    สองหนุ่มสาวหอบหิ้วถุงขนมขบเคี้ยวและกับแกล้มจากร้านสะดวกซื้อ หิ้วพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือไปหมด อีกทั้งเครื่องดื่มที่ตุนไว้สำหรับการเชียร์บอลในคืนนี้ด้วย จิวารีขอตัวไปอาบน้ำหลังจากเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ชำระร่างกายคืนความสดชื่นแล้วยังไม่ทันจะได้นั่งพักเหนื่อยเสียงเคาะที่หน้าประตูก็ดังขึ้น ส่องดูหน้าคนเคาะที่ตาแมว อิทธิพลนั่นเอง“รอนานแล้ว” ทันทีที่เปิดประตูให้เขาก็อ้อนทันที พร้อมกับจูงมือหญิงสาวเดินมาที่ห้อง เครื่องดื่มและของขบเคี้ยวถูกนำมาวางตรงโต๊ะหน้าทีวีสำหรับการเตรียมเชียร์บอลเรียบร้อย พร้อมกับเสียงบรรยายเมื่อการแข่งขันกำลังจะเริ่ม จิวารีนั่งลงข้างเขาเอนพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย“ที่ร้านเป็นไงบ้างวันนี้ยุ่งหรือเปล่า?”“อือ ลูกค้าเยอะ วันนี้ใส่รองเท้าส้นสูงคู่ใหม่ไม่สบายเท้าเลย แถมปวดขามากอีกต่างหาก” มือทุบที่หน้าขาตัวเองเบา ๆ“เหนื่อยก็พักมีพี่ไพลินอยู่ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงหรอก” ยกแขนขึ้นโอบไหล่เธอและดึงเข้ามาซบไหล่ตัวเอง“แล้วเรื่องเรียนต่อของนายไปถึงไหนแล้ว?”“รอเรื่องงานลงตัวก่อนค่อยว่ากันอีกที?” ตอบและจูบที่หน้าผากจิวารีเงยหน้าขึ้นมองเขา“อะไร?” อิทธิพลถามเมื่อหญิงสาวเอาแต่ยิ้มแล

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 39 ชีวิตนอกมหาวิทยาลัย

    จิวารีอยากตอบตกลงการเริ่มงานใหม่กับเอวา เมื่อถูกทาบทามให้ไปทำงานที่สาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดกับการร่วมหุ้นของสองครอบครัวระหว่างดวงยี่หวาและพิมพ์พรรณ แต่ดวงยี่หวาขอร้องให้เธอมาบริหารร้านอาหารแทน โดยยกเหตุผลทั้งร้อยแปดประการให้หญิงสาวใจอ่อน เพียงเพราะเจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวไม่อยากให้สาวห่างไกลหูไกลตาเท่านั้นเองส่วนอิทธิพลนั้นตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งตามที่ทรงศักดิ์แต่งตั้ง ในการสานต่อธุรกิจของตระกูล เนื่องจากปัญหาสุขภาพของผู้เป็นปู่ เท่ากับว่าความรักที่เพิ่งผลิบานใหม่ถูกจำกัดด้วยเวลาและภาระหน้าที่เพราะต่างฝ่ายต่างเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ในชีวิตการทำงาน ทำได้เพียงส่งข้อความหวานและโทรหาเพื่อฟังเสียงเท่านั้น หลังเลิกงานก็มารับหญิงสาวกลับห้องพร้อมกัน เพราะขนกระเป๋าเสื้อผ้ามาอยู่คอนโดที่เคยปฏิเสธแล้ว เนื่องจากดวงยี่หวาอ้างเป็นสวัสดิการและใกล้ที่ทำงานจะได้สะดวกในการเดินทางด้วย“ร้านเดิมนะ ตอนเย็นหลังเลิกงานวันศุกร์”คือข้อความที่นัดเจอกันของกลุ่มเพื่อน หลังจากห่างหายจากการพบปะสังสรรค์นานแล้วหลังจากสิ้นสุดการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะต่างฝ่ายต่างยุ่งกับการจัดการชีวิตให้เข้าที่เข้าทาง ทั้งเร

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 38 สิ้นสุดทางเพื่อน เป็นแฟนกันนะ

    “มีอะไรหรือเปล่า?” เป็นเขาที่ถามขึ้นมาก่อน“เอ่อ....” เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ อิทธิพลปิดหลอดยาและเก็บลงกล่อง“เมื่อคืนนายไปส่งฉันใช่ไหม?” ถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าใช่จากที่เอวาบอก“อือ” ตอบและเดินไปหยิบรีโมทย์เปิดทีวี นั่งพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลาย เลื่อนเลือกช่องดูผลการแข่งขันฟุตบอล“ขอบใจนะ” จิวารีอึกอักพูดต่อ“พี่แจ็คไม่อยู่บ้านน่ะ...ออกไปตั้งแต่เช้าก็เลยยังไม่ได้ถาม” ขยายความให้เผื่อเขาสงสัย“แล้ว...” เธอหยุดคำพูดไว้แค่นั้น กลอกตาล้อกแล้กไปมาเหมือนหัวขโมยจอมโกหกที่กลัวคนจับได้“หือ...” อิทธิพลหันมามองหน้ายกคิ้วเป็นคำถาม และรอฟังว่าเธอจะถามอะไรต่อ จิวารีเม้มปากแน่น หายใจติดขัด“คือ...ฉัน...น่าจะเมาหนักมาก”“แล้ว...เผลอทำอะไรรั่ว ๆ หลุด ๆ ไปบ้างหรือเปล่า?” ถามอย่างมีเลศนัยอิทธิพลยกมือขึ้นจับคางทำท่าครุ่นคิด“ก็...”จิวารีลุ้นคำตอบตามอย่างตื่นเต้น“ไม่มีนะ”เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ฟังคำตอบจากเขา ค่อยยังชั่วหน่อย ที่แท้ก็แค่มโนเท่านั้น ยิ้มอย่างผ่อนคลาย กำลังจะอ้าปากถามเขาว่าอาหารจะมาส่งกี่โมง“เราก็แค่จูบกันเฉย ๆ” อิทธิพลพูดสวนขึ้นมารอยยิ้มบาง ๆ เมื่อครู่ค่อย ๆ หุบลง พร้อมกั

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 37 เคลียร์

    จิวารีงัวเงียตื่นมาเข้าห้องน้ำในตอนเช้ามืด ตามด้วยการกินยาแก้ปวดและเดินกลับห้องทิ้งหัวลงหมอนนอนต่อ ลืมตาตื่นอีกทีก็ใกล้เที่ยง มือควานหาโทรศัพท์บนหัวเตียงกดดูเวลาที่หน้าจอ ก่อนจะวางลงที่เดิม ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งและนิ่งอยู่สักครู่ มือนวดวนอยู่ข้างขมับ ก่อนลุกขึ้นไปอาบน้ำเรียกความสดชื่นคืนให้ร่างกายละอองน้ำเย็นที่ซ่ากระเซ็นลงสู่ร่างตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เรียกความตื่นตัวคืนมาได้ไม่น้อย กลิ่นหอมของแชมพูบวกกับกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ยังติดอยู่ที่ปลายจมูกผสมคละคลุ้งกันภายใต้ไอน้ำเย็นในห้องน้ำเล็ก ๆ จิวารียืนนิ่งใต้ฝักบัวปล่อยให้สายน้ำไหลลงชำระความมึนเมาและความรุงรังในใจออกไปให้หมด ในสมองก็พลอยลำดับเหตุการณ์ของเมื่อคืนไปด้วยภายใต้ภาพความทรงจำที่แสนจะเลือนรางเท่าที่สมองจะบันทึกไว้ได้แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดกลับเป็นความฝันนี่เธอเป็นหนักเอาการถึงขั้นฝันว่าได้จูบกับเขาแล้วเชียวเหรอ มือเสยผมที่เปียกปอนลงสองข้างแก้มขึ้น เงยหน้ารับละอองน้ำเย็น เป่าปากถอนหายใจทิ้ง อีกนานแค่ไหนกันนะถึงจะกล้าเผชิญหน้ากับเขาเหมือนเดิมแบบไม่รู้สึกอะไรได้ เอาน่า ต่อไปก็คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ เรียนจบแล้ว ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายหางานทำ

  • มายเฟรนด์ ไม่สนิทอย่าคิดรัก   ตอนที่ 36 ความในใจ

    อิทธิพลจอดรถข้างริมฟุตบาทแวะซื้อข้าวต้มริมทาง เผื่อเธอสร่างเมาเมื่อถึงบ้านและเกิดหิวขึ้นมา ตลอดเส้นทางคนเมาที่ตื่นมาบ่นเป็นครั้งคราว“ดิน” เรียกชื่อเขาทั้งที่ตาหลับอยู่“หือ” คนขับหันไปมอง เธอพูดแค่นั้นก่อนจะเงียบลงและหลับต่อ อิทธิพลเอื้อมไปดึงมือเธอมากุมไว้อีกมือจับพวงมาลัย“ว่าไง” แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่นั่งข้างกันรถวิ่งมาจอดหน้าบ้าน ดีว่าเขาเคยมาส่งตะวันในครั้งที่ลืมของไว้ที่นี่ไม่งั้นคงวุ่นวายหาบ้านอยู่เป็นแน่ว่าหลังไหน คนเมาก็พูดไม่รู้เรื่อง หันมามองคนข้าง ๆ ที่นั่งคอพับหลับอยู่“จิ๋ว” มือแตะไหล่ปลุกเธอให้ตื่น“ถึงบ้านแล้ว”“อือ” พลิกตัวหลับต่อ“จิ๋ว...เข้าบ้านนะถึงบ้านแล้ว” พูดซ้ำอีกครั้ง“ฮือ...ไม่เอา...จะนอน” งัวเงีย เสียงในลำคอบ่งบอกว่ารำคาญ“เข้าใปนอนในบ้าน”“กุญแจบ้านอยู่ไหน?” ถามคนเมาที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายของเธอมาเปิดหากุญแจ เปิดเข้าไปในบ้านสำรวจก่อนเพื่อความแน่ใจว่าห้องของเธอห้องไหนและเปิดประตูทิ้งไว้ เดินกลับมาอุ้มคนที่หลับอยู่เข้าบ้านวางหญิงสาวลงบนที่นอน ถอดรองเท้าออกให้ และกลับมาปิดรั้วบ้าน ก่อนจะเข้าไปสาละวนกับคนเมาอีกครั้ง“ทำไมเมาทิ้งตัวขน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status