Share

หนีเที่ยว 1

Author: Priyada
last update Last Updated: 2024-10-02 12:59:50

ร่างเล็กในชุดสาวใช้เดินก้มหน้าก้มตาผ่านโรงครัวไปทางประตูหลังของจวน ฝีเท้าของนางเร่งรีบ แต่เสียงเดินแผ่วเบาราวกับไม่อยากให้ใครได้ยิน นางเหลียวมองด้านหลังเล็กน้อย เมื่อไม่เห็นใครหรือสิ่งใดผิดปกติ สองเท้าก็จ้ำพรวดผ่านประตูออกไปยืนท่ามกลางแสงแดดแผดกล้า ก่อนจะรีบเข้าไปในรถม้าที่ถูกเรียกมาจากข้างนอก โดยมีหญิงสาวอีกนางนั่งรออยู่ด้านในก่อนแล้ว

“คุณหนู ทำแบบนี้จะดีหรือเจ้าคะ”

“ชู่ววว”

“แต่...”

คราวนี้คนที่ถูกเรียกว่าคนหนูถลึงตาใส่สาวใช้ ก่อนจะเคาะที่หลังคารถม้ารับจ้าง เป็นสัญญาณว่าไปได้

“เราไม่ได้ทำแบบนี้เป็นครั้งแรกเสียหน่อย และเจ้าก็ออกปากเตือนข้ามาตลอด ข้าเคยฟังหรืออย่างไรกัน”

“ไม่ฟังเจ้าค่ะ”

“ก็นั่นปะไร”

มู่หรงเยว่ชิงในชุดสาวใช้ยิ้มอย่างซุกซน เพียงแค่นึกถึงตอนที่จะได้เที่ยวเล่น ห่างไกลจากการงานน่าเบื่อทั้งหลาย นางก็พลันมีความสุขขึ้นมา 

“ถ้าหากคุณชายรู้ เพ่ยเพ่ยคนนี้ต้องโดนเอ็ดอีกแน่ แต่นั่นยังไม่แย่เท่ากับที่ทุกคนจะหันมาห่วงคุณหนูหนักกว่าเดิม คราวนี้ท่านก็จะไปไหนมาไหนได้ยากยิ่งขึ้น”

“เรื่องนั้นเอาไว้คิดทีหลังน่า” นางบอกปัด 

มู่หรงเยว่ชิงตั้งใจว่าจะไปเดินเล่นในหมู่บ้าน ชมนกชมไม้ การเก็บเกี่ยวพืชผล หรืออาจจะเสาะหาแม่น้ำลำธารเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ เพราะบางครั้งบางคราว การไปตลาดสร้างความเบื่อหน่ายให้นางเช่นกัน นางแทบจะจำร้านทุกร้านในนั้นได้หมดแล้ว เหตุเพราะไม่ว่าคุณชายท่านไหนก็เอาแต่พานางไปที่นั่น พอนางเลือกซื้อสิ่งต่าง ๆ ตามใจชอบในเกือบทุกร้าน พวกเขาก็จะพากันหนีหายไป ตลาดจึงไม่ใช่ที่ที่น่าสนใจอีกต่อไป เว้นเสียแต่ว่านางอยากจะดูการแสงตลกหรือกีฬาพื้นบ้านเท่านั้น

นางตระหนักดีว่าหากพี่น้องทั้งสามรู้เรื่องเข้า คงอยากจะสั่งกักบริเวณนางแทนบิดาเป็นแน่ หรือไม่ก็ให้บ่าวรับใช้ชายมาตามเฝ้านาง โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพียงการดูแลรับใช้ใกล้ชิดเท่านั้น แต่บ่าวคนนั้นจะคอยรายงานทุกความเคลื่อนไหวอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายกับนางได้ แม้บางครั้ง มันจะเป็นแค่การที่นางออกจากจวนไปเดินยืดเส้นยืดสายห่างออกไปไม่กี่ช่วงถนนก็ตาม

ในทางเดียวกัน มารดาก็ไม่ใคร่จะยินดีปรีดากับบุตรสาวเพียงคนเดียวที่เอาแต่แอบออกไปข้างนอก ในเมื่อสตรีไม่ควรจะปรากฏกายในที่สาธารณะหากไม่จำเป็น ที่ของพวกนางคือในเรือนอันอบอุ่นปลอดภัย และมีงานมากมายให้ทำจนล้นมือ แม้เยว่ชิงจะมีฝีมือในงานปักผ้า การดนตรี หรือกิริยามารยาทงดงามไร้ที่ติ แต่นางก็เอือมระอากับเรื่องเหล่านี้เช่นกัน การหนีออกมาข้างนอกจึงเป็นทางเดียวเท่านั้น ที่จะช่วยบรรเทาความรู้สึกเช่นนี้ได้

“ใกล้ถึงแล้วเจ้าค่ะ” เพ่ยเพ่ยเปิดม่านหน้าต่าง ชะโงกหน้าออกไปดูถนนหนทาง ต่อให้นางจะเห็นค้านกับกับคุณหนูแค่ไหน แต่เมื่อถึงเวลา นางก็ดูแลรับใช้อย่างดีเสมอ

“เราเข้าไปดื่มชากันก่อนดีกว่า” 

“จะดีหรือเจ้าคะ สถานที่แบบนั้นไม่เหมาะกับคุณหนู และอาจจะเกิดอันตรายได้ มีพวกชอบต่อยตีเข้าไปวุ่นวายในโรงน้ำชาออกบ่อยไป”

“แล้วพวกนั้นจะมาสนใจกูเหนียงตัวเล็ก ๆ ไปทำไมกัน” เยว่ชิงโบกมือแบบไม่ใส่ใจ หารู้ไม่ว่าตัวเองมีหน้าตาโดดเด่นดึงดูดสายตาแค่ไหน

เมื่อรถม้าจอดสนิท นางก็เดินเข้าไปตามทางในหมู่บ้านด้วยความตื่นเต้น สองตากวาดมองบ้านช่องเรียบง่าย กับเด็ก ๆ ที่เล่นกันอยู่บนถนน

“คุณหนูรอบ่าวด้วยเจ้าค่ะ”

นางหันขวับไปหาเพ่ยเพ่ย ก่อนจะยกนิ้วขึ้นจ่อริมฝีปาก “ห้ามเรียกข้าเช่นนั้นนะ ข้าแต่งตัวมาเหมาะสมที่จะเป็นคุณหนูหรือ”

“เจ้าค่ะ ๆ ไม่เรียกแล้ว” 

เพ่ยเพ่ยต้องคอยยั้งตัวเองเอาไว้ แต่ก็ไม่กล้าจะเอ่ยนามบุตรีของท่านแม่ทัพออกมาโดยไม่มีคำนำหน้า มันถือเป็นการล่วงเกินอย่างสูง แต่คำสั่งเช่นนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครา ทางที่ดีคือไม่ทำให้คุณหนูของนาง

หัวเสีย และนางเองไม่ต้องลำบากใจ จึงเลี่ยงที่จะเรียกหญิงสาวสูงศักดิ์คนนี้เสีย

“วันนี้เจ้าอยากกินอะไร” เยว่ชิงหันไปถาม พลางมองหาร้านที่ต้องการไปด้วย แต่หมู่บ้านเล็กแค่นี้ เห็นทีจะมีอยู่เพียงร้านเดียว เหมือนกับอีกหมู่บ้านหนึ่งซึ่งอยู่ไกลไปทางทิศประจิม ซึ่งใหญ่กว่านี้ไม่มากนัก ด้วยความที่ชอบแอบออกมาข้างนอก นางจึงได้ไปเยือนหลายที่จนรู้รอบว่าในแต่ละหมู่บ้านมีอะไรน่าสนใจบ้าง

“ข้าอยากกกิน...”

เพ่ยเพ่ยยังพูดไม่ทันจบประโยคก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากถนนเบื้องหน้า ซึ่งเป็นทางที่ทั้งคู่ต้องการจะเดินผ่านพอดี ด้วยความกลัวว่าคุณหนูจะมีอันตราย เพ่ยเพ่ยจึงรีบรั้งร่างเล็กเอาไว้ แต่คุณหนูของนางกลับขืนตัวออก แล้วทำท่าจะพุ่งตัวไปทางต้นตอของเสียง

“ไม่เจ้าค่ะ ครั้งนี้ไม่ได้ อันตรายเกินไป” เพ่ยเพ่ยรีบร้องห้ามเพราะคาดเดาจิตใจของคุณหนูได้

“แต่ข้าเห็นชายคนนั้นกำลังเดือดร้อน คงไม่ใช่เรื่องของอันธพาลทั่วไปหรอก เพ่ยเพ่ยเราไปดูกันหน่อยไม่ได้หรือ ชายคนที่โดนผลักจนล้มก็ชรามากแล้วด้วย” เยว่ชิงพูดพลางชะเง้อคอมอง แล้วขยับเข้าใกล้อีกก้าว

“แต่คนที่ชายชรามีเรื่องด้วยยังหนุ่มแน่นอยู่เลยนะเจ้าคะ หากมีการใช้กำลังกันขึ้นมา ท่านจะทำอย่างไร”

“บุรุษจะตีผู้หญิงเชียวหรือ”

“โธ่” เพ่ยเพ่ยทอดถอนใจกับความไร้เดียงสาของคุณหนู เยว่ชิงจึงอาศัยจังหวะนั้นดึงมือนางออก แล้วพุ่งตัวเข้าไปด้วยความรวดเร็วจนอะไรก็ยั้งไว้ไม่อยู่

เพ่ยเพ่ยได้แต่ต้องรีบตามไปแล้ว

“นี่เจ้าทำอะไร พ่อเฒ่าแก่ชรามากแล้ว ใช้กำลังเยี่ยงนี้ จะฆ่าเขาให้ตายรึ”

“ตายก็ช่างปะไร คนที่ไม่ยอมจ่ายเงินทั้งที่รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ ก็สมควรจะโดนสั่งสอนเช่นนี้อยู่แล้ว” เขาเป็นชายกักขฬะตัวโตเสียงดัง แต่เยว่ชิงก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย ซ้ำยังทำสีหน้าท้าทายเสียด้วย 

“จ่ายค่าอะไร” นางไล่สายตามองชายที่นางช่วยพยุงขึ้นจากพื้น เห็นการแต่งกายของเขาก็รู้ว่าคงมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลำบากมาก

“ค่ายา ของเก่าก็ยังไม่จ่าย ยังจะมีหน้ามาขอยาใหม่ไปต้มกินก่อน แล้วข้าจะได้อะไร ข้าเปิดร้านขายยานะ ไม่ใช่โรงทาน จะได้ให้คนมาเอาของไปตามใจชอบ”

“คนเจ็บป่วยก็แย่พอแล้ว เจ้ายังไม่วายเรียกเอาเงินราวกับพวกหน้าเลือด ทำอย่างนี้ไม่มีความสงสารเห็นใจกันบ้างหรืออย่างไร”

“แล้วเจ้าเป็นใคร มาแส่อะไรด้วย เป็นแค่หญิงชาวบ้านธรรมดา อย่ามาทำตัวเป็นผู้ทวงความยุติธรรมไปหน่อยเลย”

เขามองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า และเป็นครั้งแรกที่เยว่ชิงเสียใจที่ไม่ได้แต่งกายให้สมฐานะ ไม่อย่างนั้น เจ้าคนใจจืดนี่คงไม่มีทางพูดกับนางเช่นนี้แน่

“ข้าจะเป็นใครก็ช่าง แต่เจ้าต้องไม่ทำกับเขาเยี่ยงนี้อีก แล้วก็รับเงินนี่ไปซะ” นางพยักพเยิดไปหาเพ่ยเพ่ยซึ่งคอยเก็บถุงเงินเอาไว้

“ข้าไม่รับ” เขาพูดอย่างยียวน “ข้าจะรับจากตาแก่นี่เท่านั้น”

“เจ้าตั้งใจจะแกล้งกันนี่”

“แล้วจะเป็นอันใดหรือ หืม” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้อย่างคุกคาม “พอมองใกล้ ๆ เจ้าก็งามใช่เล่น”

เยว่ชิงเบี่ยงตัวหลบ ขณะเดียวกันเพ่ยเพ่ยก็เอาตัวเข้ามาขวางไว้ระหว่างนางกับคนถ่อย แต่มันกลับกระชากแขนเพ่ยเพ่ยแล้วผลักไปให้พ้นทาง

“เจ้าอย่ายุ่งกับแม่นางทั้งสองเลย ข้าจะหาเงินมาจ่ายให้ได้ ปล่อยพวกนางไปเถอะ”

“เรื่องอะไรจะปล่อย ข้าชักจะสนใจนางขึ้นมาเสียแล้วสิ”

มันเอื้อมมือมาหา หมายจะจับใบหน้าของหญิงสาว แต่มีมือหนึ่งมากันเอาไว้ แล้วออกแรงบีบที่ข้อมือนั้นอย่างแรงจนคนถูกกระทำร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

“โอ๊ย! ปล่อยข้านะ”

“บิดามารดาเจ้าไม่ได้สอนให้เจ้าให้เกียรติกับสตรีรึ” เสียง

เยือกเย็นเอ่ยขึ้น ขณะที่มือก็ยังไม่ยอมปล่อยออก แม้มันจะสะบัดแรงแค่ไหน ก็ดิ้นไม่หลุด

เยว่ชิงมองเขาอย่างเต็มตา ตื่นตะลึงไปกับพละกำลังมหาศาลของคนที่เข้ามาช่วยในยามคับขัน เขาแทบจะบดข้อมือของอีกฝ่ายเป็นผุยผง แต่ทำราวกับไม่ได้ออกแรงอะไรเลยแม้แต่น้อย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มู่หรงเยว่ชิง ท่านหญิงตำลึงทอง   บทส่งท้าย (จบ)

    “อ๊ะ” เยว่ชิงสะดุ้งกับการถูกรุกล้ำเข้ามาในกายสาว นางรัดแขนรอบคอเขาแน่น สัมผัสของมันทำให้ภายในส่วนกลางกายบีบรัดจนร้อนระอุ พาให้นางเสียววูบวาบอย่างตั้งตัวไม่ติด นางกลั้นหายใจพลางซบหน้าอยู่กับไหล่กว้างเมื่อเขาขยับมือชักเข้าออกเริ่มจากเชื่องช้าไปสู่ความรัวเร็วจนร่างกายของนางรับไม่ไหว เขาเงยหน้าขึ้นมองดวงหน้าที่มีเม็ดเหงื่อผุดพรายแหงนหงายไปด้านหลัง ริมฝีปากเม้มแน่นเป็นเส้นตรง ขณะที่เส้นผมสีดำขลับปัดป่ายอยู่ตรงช่วงลำตัวของนาง ในตอนที่นางหลุดเสียงร้องครวญครางแล้วตัวกระตุกเกร็งภายใต้มือของเขา “ท่านอ๋อง” นางกล่าวเพียงเท่านั้นก่อนจะถอนหายใจหนักหน่วง คล้ายจะบอกว่าตัวเองได้รับความสุขสมเป็นอย่างดีแต่เหนื่อยเกินกว่าจะเอ่ยและปล่อยให้เขาจับพลิกตัวนอนลงกับเตียง “ข้าหวังว่าคงจะไม่มีใครเข้ามาขัดอีก เพราะคราวนี้ข้าจะไม่ยอมถอนกำลังเป็นแน่ หากข้าไม่ได้ชัยชนะ” “แล้วชัยชนะของท่านคือสิ่งใดกัน” นางถามราวกับจะยั่ว “เดี๋ยวเราก็จะได้รู้กัน” เขาปลุกปั่นความปรารถนาของนางขึ้นมาอีกครั้ง แต่กลับทำรุนแรงยิ่งกว่าเดิมอย่างหักห้ามใจไม่ไหว ทั้งบดขยี้กลีบปากบาง สองมือต้องการที่จะได้สัมผัสแตะต้องทุกตารางนิ้ว จนก

  • มู่หรงเยว่ชิง ท่านหญิงตำลึงทอง   บทส่งท้าย

    หญิงสาวยืนตัวตรงอยู่ข้างเตียง สวมเพียงชุดหลวม ๆ สำหรับ ซับในเอาไว้เรียบร้อย หลี่อวี้อ๋องมองนางแน่นิ่งราวกับจะมองให้ทะลุเนื้อผ้าเข้าไปจนกระทั่งเห็นถึงผิวเนื้อด้านใน คนที่ตกเป็นเป้าสายตาก็รู้ตัวดีจนถึงขนาดร้อน ๆ หนาว ๆ ต้องหาเรื่องเบี่ยงประเด็น “ฮ่องเต้เสด็จมาหรือเจ้าคะ” เขาพยักหน้าก่อนจะวางกล่องในมือเอาไว้บนโต๊ะ “เอาของขวัญมาให้ แต่ที่จริงน่าจะอยากแกล้งเสียมากกว่า” “แกล้ง?” “ก็จงใจมาขัดขวางตอนที่ข้าจะเข้าสนามรบน่ะซี่” คำพูดของเขาทำให้นางอายจนต้องก้มหน้างุด ไม่ว่านางจะทำสิ่งใดในสายตาของเขานั้นนางก็น่าเอ็นดู น่าจับมาโอบกอดและรัดแน่น ๆ แล้วก็ไม่ทำสิ่งใดเลยนอกจากมีนางอยู่ในอ้อมแขนทั้งวันทั้งคืน “ข้าจะไปอาบน้ำก่อนละ” “ไปอาบน้ำก่อนอะไรหรือ ก่อนทำเรื่องนั้นหรืออย่างไร” เขาถามแกล้ง ๆ เยว่ชิงอ้าปากค้าง นับวันหลี่อวี้อ๋องที่กลายมาเป็นสามีของนางก็ยิ่งเจ้าเล่ห์เพทุบาย ขี้แกล้งและช่างหยอกเย้าเก่งขึ้นทุกที จนนางไม่รู้ว่าจะรับมือกับเขาอย่างไร “ไปเถอะ ข้าจะนอนรออย่างใจจดใจจ่ออยู่ที่นี่” “ท่าน!” “ข้าพูดความจริงนี่” เขาตอบหน้าตาเฉย ก่อนจะพูดไล่หลังเมื่อนางกำลังจะเปิดประตูออกไป

  • มู่หรงเยว่ชิง ท่านหญิงตำลึงทอง   ครองคู่ 2

    งานอภิเษกสมรสของหลี่อวี้อ๋องกับมู่หรงเยว่ชิงถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ถึงขนาดที่ฮ่องเต้มาเป็นประธานในงาน และเหล่าเชื้อพระวงศ์และขุนนางชั้นสูงจำนวนมากต่างมาร่วมงาน ที่ด้านนอกชาวบ้านล้านตลาดก็พากันออกมาดูเจ้าสาวที่นั่งเกี้ยวแปดคนหาม ซึ่งด้านหลังมีสินเดิมของเจ้าสาวยาวเหยียดชนิดที่ว่าหัวขบวนเคลื่อนไปถึงถนนอีกสายแต่ท้ายขบวนที่ตั้งคอยอยู่ยังไม่มีทีท่าว่าจะขยับออกจากจวนแม่ทัพ สมแล้วที่นางเป็นถึง ท่านหญิงตำลึงทอง แล้วหลังจากที่แต่งงานกับหลี่อวี้อ๋อง ตำลึงทองของนางเห็นจะมีแต่เพิ่มพูนขึ้นไปอีก พิธีการทุกอย่างราบรื่นสวยงามจนกระทั่งจะถึงตอนเข้าหอที่ทำให้เจ้าสาวอย่างเยว่ชิงรู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมา นางได้รู้อะไรมาบ้างจากเพ่ยเพ่ย ก็ไม่ได้มีสิ่งใดมากมายนักเนื่องจากเรื่องเช่นนี้พูดสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้และมันยังน่าอายที่จะหยิบยกเอามาพูดบ่อย ๆ ด้วย สิ่งที่นางรู้ก็เห็นจะเป็นเรื่องห้ามนอนนิ่งเป็นหินแข็งเท่านั้นเอง บ่าวแก่แดด ในขณะที่นางนั่งกังวลเรื่องนี้อยู่ หลี่อวี้อ๋องก็ได้รับกลเม็ดเคล็ดลับมากมายที่จะทำให้มีบุตรอย่างง่ายดายจากทั้งพี่ชายอย่างฮ่องเต้และพ่อสามีหมาด ๆ ว่าด้วยท่

  • มู่หรงเยว่ชิง ท่านหญิงตำลึงทอง   ครองคู่ 1

    มู่หรงเยว่ชิงเฝ้าครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่พบเจอในฝัน หรืออันที่จริงคือตัวนางในชาติที่แล้ว ต้องตกตายเพราะเศษเงินเพียงเหรียญเดียวเท่านั้น ช่างอนาถโดยแท้ ขนาดมาเกิดใหม่ในตระกูลที่มีอันจะกิน นิสัยขี้งก เอ้ย เอาเป็นว่า เห็นคุณค่าของเงินยังติดตัวมาอีก แต่ถ้าจะให้แก้ตอนนี้ก็คงสายไปเสียแล้วกระมัง “คุณหนูเจ้าคะ” เสียงเรียกของสาวใช้คนสนิทขัดความคิดของนาง “ท่านอ๋องมาถึงแล้วหรือ” “ถึงแล้วเจ้าค่ะ” นางพยักหน้ารับ ก้าวเดินไปยังประตูห้อง นางเพิ่งผ่านพิธีปักปิ่นไปเมื่อสิบวันที่แล้ว และแน่นอนว่าปิ่นที่นางเลือกใช้คือปิ่นทองลายหลันฮวาที่หลี่อวี้อ๋องมอบให้แก่นาง ซึ่งเป็นอันเดียวกับที่นางใช้ปักอยู่ทุกวันนี้ ตอนนี้เท่ากับว่านางผ่านพ้นจากวัยเด็กเข้าสู่วัยผู้ใหญ่และพร้อมสำหรับการออกเรือนแล้ว ช่างรวดเร็วจนน่าใจหาย นางเพียงแค่อายุสิบหกหนาวเท่านั้น ร่างบางที่นับวันความงามยิ่งฉายชัดเดินมาหยุดยืนข้างร่างสูงที่ยืนรออยู่ที่ศาลากลางสวน เมื่อเขาเห็นนางก็เผยยิ้มต้อนรับ กวาดสายตามองนางอย่างถวิลหา ช่วงนี้ทั้งสองคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับพิธีอภิเษกที่จะมาถึงในไม่ช้า และนางก็จะต้องถนอมเนื้อตัวจน

  • มู่หรงเยว่ชิง ท่านหญิงตำลึงทอง   อดีตชาติ 2

    “รับปิ่นข้าไปแล้วเท่ากับว่าเจ้าเป็นของข้าไปครึ่งหนึ่งแล้ว รอหลังเจ้าปักปิ่นเราจะจัดงานมงคลกันทันที” “ไม่เร็วไปหน่อยหรือเจ้าคะ” “ข้าเตรียมการไว้หมดแล้ว” “นี่ท่าน” หญิงสาวเบิกตาโต “ข้าจะยอมให้เจ้าตกเป็นของคนอื่นได้อย่างไรกัน ไหนจะหลานชายข้าอีก” “แล้วฝ่าบาท…” “เสด็จพี่ย่อมทำตามที่ข้าต้องการ” เขาพูดพลางหยิบอะไรบางอย่างออกมาชูให้นางดู เป็นม้วนผ้าสีทอง “นี่อย่างไรล่ะ รอเพียงเจ้าฟื้นจะได้ประกาศราชโองการฉบับนี้เสียที” “ราชโองการอันใดเจ้าคะ” นางคาดเดาไว้ในใจ แต่ก็เอ่ยปากถาม “สมรสพระราชทานระหว่างชินอ๋องเฉินหลี่อวี้ พระอนุชาใน เสวียนจงฮ่องเต้ กับท่านหญิงมู่หรงเยว่ชิง ธิดาของแม่ทัพใหญ่มู่หรง เซียนหลิวอย่างไรเล่า” “ท่านมั่นใจอย่างไรว่าข้าจะแต่งกับท่าน” นางนึกหมั่นไส้ “เจ้าย่อมแต่งให้ข้า เพราะไม่มีใครเหมาะสมกับเจ้าและใจกว้างเท่าข้าอีกแล้ว” “องค์ชายชาง…” นางยังพูดไม่ทันจบก็ถูกเขาขโมยจูบ “หากยังพูดถึงชายอื่นข้าจะจูบเจ้าอีก” “ท่านนี่มัน…ร้ายกาจนัก ฮึ่ย! แต่ข้าก็รักท่าน” นางแสร้งต่อว่าและบอกรักเขาไปในตัว ก็เขาอยากฟัง

  • มู่หรงเยว่ชิง ท่านหญิงตำลึงทอง   อดีตชาติ 1

    มู่หรงเยว่ชิงไม่รู้ว่าตนเองอยู่ที่ใด นางไม่รู้ว่าสิ่งนี้คือความฝันหรือจริงกันแน่ หรือว่านางอาจตายแล้ววิญญาณออกจากร่าง เพราะหลายวันมานี้นางได้แต่ตามดูชีวิตของหญิงสาวนางหนึ่งซึ่งมีใบหน้าเหมือนกันกับนางมิผิดเพี้ยน นางได้ยินเสียงเรียกชื่ออันคุ้นเคยมาจากที่ไกล ๆ แต่นางกลับสนใจที่จะตามดูชีวิตของหญิงสาวนางนี้มากกว่าสถานที่ที่หญิงสาวนางนี้อยู่คล้ายโลกที่นางไม่รู้จัก ผู้คนแต่งตัวผิดแผก มีสิ่งก่อสร้างแปลกตา บ้างก็สูงเสียดฟ้าจนนางนึกว่าอาจเชื่อมไปถึงสวรรค์ก็เป็นได้ ข้าวของที่นางไม่รู้จักมากมาย บนถนนก็มียานพาหนะแปลก ๆ แล่นไปด้วยความเร็วสูงโดยที่ไม่ต้องใช้ม้าเทียมหญิงสาวนางนี้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างลำบากกว่านางนัก เริ่มตั้งแต่ตื่นแต่เช้าออกจากบ้านที่เป็นเพียงห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ไปทำงาน เวลาที่นางต้องการซื้ออะไรแม้จะเป็นอาหารก็ตาม นางจะต้องคอยนึกถึงเงินในกระเป๋าอยู่ตลอดเวลา พอเวลานางอยู่คนเดียวในห้องก็มักจะเหม่อมองแล้วหยิบภาพคนซึ่งน่าจะเป็นครอบครัวของนางขึ้นมาดู และทุกครั้งแววตาของนางจะสะท้อนทั้งความรู้สึกเศร้าเสียใจ เจ็บช้ำ และสุดท้ายจะเปลี่ยนเป็นเคียดแค้นชี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status