เกศราอยากจะเข้าไปบีบคอให้ชายโฉดหญิงชั่วคู่นั้นแดดิ้นไปต่อหน้าต่อตา แต่เธอสัมผัสพวกเขาไม่ได้ ทำได้เพียงสิงร่างสตรีที่จิตใจอ่อนแอ
เธอจะทำอย่างไรหนอให้โลกรับรู้ว่าคนชั่วสองคนนี้วางแผนฆาตกรรมเธอ !
แล้วสายตาของผีสาวก็เห็นผู้หญิงที่อยู่ห้องข้าง ๆ กำลังเดินสะลึมสะลือ ในมือถือโทรศัพท์เพื่อส่องแสงนำทางไปเข้าห้องน้ำ ทำให้เธอคิดถึงแผนการบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหายตัวแวบเข้าไปสิงร่างของพิมพ์
วาบ.....
พิมพ์ที่กำลังนอนกอดดอนหอบกระเส่าด้วยอารมณ์รัญจวน จู่ ๆ ก็ลืมตาโพลงขึ้น ดวงตาแข็งกร้าวทำเอาชายหนุ่มที่กำลังนัวเนียเธออยู่ชะงัก ถามหญิงสาวด้วยความแปลกใจว่า
“พิมพ์ เป็นอะไร หรือว่าเมื่อครู่ผมยังปรนเปรอความสุขให้คุณไม่พอ”
ท้ายประโยคชายหนุ่มซุกไซ้ลงไปจูบที่ซอกคอของชู้สาวเพื่อเอาใจ
เกศราในร่างของเพื่อนสนิท รีบกะพริบตา ปรับสีหน้า แล้วปั้นยิ้มฉ่ำเยิ้ม
“ดอนขา.... ความสุขที่คุณให้มันล้นปรี่จนเต็มร่องพิมพ์เลยค่ะ แต่เมื่อครู่พิมพ์แค่นึกถึงเกศราเขาน่ะค่ะ”
“จะไปนึกถึงคนอื่นทำไมกัน คิดถึงอนาคตเราสองคนดีกว่า”
ดอนส่งเสียงตอบอู้อี้ผ่านริมฝีปากที่กำลังพรมจูบลงมาจนถึงทรวงอกของหญิงสาว
“อะ... ดอนขา...”
เกศราในร่างคนอื่นส่งเสียงครางกระเส่า เมื่อถูกฝ่ามือ และริมฝีปากของคนที่เคยเป็นสามีเล้าโลม
“เรามาคุยกันก่อนสิคะ ดอน”
เธอรีบผลักเขาออก ก่อนที่อารมณ์ปรารถนาจะทำให้เสียแผนการจับฆ่าตกร
“พิมพ์อยากคุยเรื่องอะไร”
“ก็เรื่องที่พวกเราวางแผนฆ่าเกศราไงคะ”
เกศราใช้ร่างของเพื่อนสนิทตะล่อมถามสามี
“เรื่องนั้น พวกเรารู้ดีกันอยู่แล้วนี่ อีกอย่างมันก็สำเร็จไปแล้ว พิมพ์จะเอ่ยถึงอีกทำไม”
เขากับพิมพ์แอบเป็นชู้กันมานานแล้ว เพราะความโลภอยากได้ทรัพย์สิน และเงินประกันชีวิตของเกศรา จึงทำให้เขาวางแผนฆ่าเมียตัวเอง
“แหม..... คืนแห่งความสำเร็จเช่นนี้ เราก็มาระลึกถึงความสำเร็จสิคะ นะคะ ๆ”
เกศราเลาหลือส่งเสียงออดอ้อนออกไปอีกว่า
“คุณเก่งจริง ๆ ที่คิดแผนการกำจัดยัยเกศราได้อย่างที่ไม่มีใครรู้”
ดอนได้ยินคำชมเช่นนั้นก็หัวใจพองโต “ได้สิ... ผมจะเล่าแผนการกำจัดคนที่ขวางทางรักของเราให้คุณฟังอีกรอบ”
ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะเล่านั้น เกศราก็แกล้งทำเป็นซุกหน้าลงกับอกเขา เพื่อไม่ให้เขารู้ว่าร่างที่เธอสิงกำลังหลับ จากนั้นก็รีบหายตัวแวบเข้าไปสิงร่างของผู้หญิงห้องข้างๆ ที่กำลังเดินสะลึมสะลือออกมาจากห้องน้ำพอดี
วาบ !
เกศราเข้าไปสิงร่างหญิงสาวเรียบร้อยแล้ว ก็รีบวิ่งมาที่ระเบียงหลังห้อง จากนั้นก็ปีนข้ามไปยังระเบียงห้องพิมพ์ แล้วกดโทรศัพท์ในมือให้เปิดโหมดวิดีโอ แล้วยื่นเข้าไประหว่างช่องว่างของหน้าต่างที่เผยอเปิดทิ้งไว้ เพื่อบันทึกภาพดอนกำลังสารภาพแผนการฆาตกรรมเกศราออกมา
“ผมเลือกวันตายให้นังเมียหนังหนาในวันที่ผมเดินทางกลับประเทศไทย”
ดอนเล่าเรื่อย ๆ ดวงตามองไปในความมืดคล้ายกับทบทวนเหตุการณ์ในวันนั้น
“ผมโทรนัดหมายวันเวลาให้เกศขับรถมารับที่สนามบิน จากนั้น ก็โอนเงินให้คุณไปว่าจ้างคนใช้ในบ้านให้แอบใส่ยานอนหลับให้เกศนอนตื่นสาย แล้วแอบตัดสายเบรกรถในตอนกลางคืน เมื่อเกศตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ก็พบว่าตัวเองตื่นสายมากแล้ว ก็จะรีบขับรถมารับผมที่สนามบินด้วยเร็ว เท่านี้อุบัติเหตุก็จะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ โดยที่ตำรวจจะไม่มีทางสงสัยแม้แต่น้อยว่าเป็นการฆาตกรรม ถึงต่อให้สงสัย ก็ไม่มีหลักฐานว่าพวกเราเป็นคนวางแผนอยู่เบื้องหลัง”
เมื่อเล่าจบ เขาก็ก้มลงจูบที่หน้าผากของพิมพ์ แต่ร่างในอ้อมกอดกลับหลับสนิทไม่ตอบสนองแม้แต่น้อย
“อ่าวหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
ดอนเปรยขึ้น แต่ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร เพราะคิดว่าหญิงสาวคงจะถูกเขาขย่มจนเพลียแล้วเผลอหลับไป
ในขณะที่ชายหนุ่มบนเตียงเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียง เกศราในร่างของหญิงสาวที่ระเบียงหลังห้องก็รีบเก็บโทรศัพท์ แล้วปีนกลับมายังห้องของตนเอง
“เฮ้ย !”
ผู้กองแจ็คอุทานเสียงหลง เมื่อเห็นหญิงสาวในชุดนอนกําลังปีนระเบียงคอนโดที่สูงถึง 11 ชั้น
เธอพยายามก้าวจากระเบียงของห้องผู้ต้องสงสัยที่เขากำลังตามสืบคดี กลับไปยังอีกห้องหนึ่ง ระยะห่างระหว่างระเบียงทั้งสองห้องค่อนข้างเยอะ ทำให้เท้าของหล่อนเหยียบบนขอบพื้นที่ทํายื่นออกมาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำเอาเขาถึงกับใจหายวาบ รีบปีนออกจากระเบียงห้องที่ตนแอบซุ่มอยู่ไปหาหล่อนทันที
เขากระโดดแล้วใช้มือ และลำแขนแกร่งเกาะเกี่ยวปีนป่ายข้ามไปอย่างว่องไว เพราะได้รับหารฝึกฝนมาอย่างชำนาญ
ในขณะที่เข้าใกล้ตัวหญิงสาวเป็นจังหวะเดียวกันกับที่หล่อนก้าวพลาด มือลื่นจากขอบระเบียง
“ว้าย !”
เกศราในร่างของผู้หญิงคนนั้นตกใจสุดขีด คิดว่าตนเองคงจะทำให้ผู้หญิงคนนี้ตกตึกตายแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าจู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีมือหนึ่งมาคว้าเอาร่างที่หล่อนสิงอยู่ไว้ได้ทัน กระตุกร่างนั้นขึ้นอย่างแรงทําให้ร่างที่สิงอยู่ปลิวลิ่วมาจนพ้นขอบระเบียง แล้วทั้งคู่ก็ล้มลงบนพื้น
ตุบ !
“ว๊าย !”
“ไม่ต้องกลัว นายเสือนี่พี่ดีดี้ ผู้จัดการฉันเอง”วีนัสแนะนำทั้งคู่ให้รู้จักกัน กึ่งปลอบกึ่งโมโหที่เจ้าเสือหนุ่มบุกเข้าไปที่ห้องนอนของเธอโดยที่ไม่สวมอะไรสักชิ้น แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าผ้าผืนน้อยที่พันติดกายเขาเมื่อคืนได้ถูกฉีกขาดตั้งแต่ตอนเป็นสัดเมื่อคืนแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังโมโหเขาอยู่ดี ดังนั้น เมื่อโยนผ้าเช็ดตัวให้เขาพันเรือนร่างท่อนล่างเอาไว้แล้ว เธอก็โทรหาพี่ดีดี้เพื่อขอยืมชุดมาให้เขาใส่ไปพลาง ๆ ก่อน“พี่ดีดี้”เสือหนุ่มทวนชื่อมนุษย์แปลกหน้า ที่ทำท่าแปลก ๆ ไม่สมเป็นบุรุษ หรือมนุษย์จะมีมากกว่าสองเพศกัน“ใช่จ้ะ พี่ดีดี้ ยินดีที่ได้รู้จักนะพ่อเสือรูปหล่อ ชื่อเสือเนี่ย... เหมาะกับหุ่นล้ำ ๆ แน่น ๆ ของเธอมากเลยนะ”ดีดี้วางมือลงที่แขนล่ำ ๆ ของเสือหนุ่ม พร้อมกับออกแรงบีบกล้ามแน่น ๆ ฝ่ายนั้นถึงกับสะดุ้งโหยง ขนลุกเกรียวขึ้นทั่วทั้งตัว ส่วนดีดี้นั้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำตัวเหมือนผู้ชายที่เพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม จึงรู้สึกเอ็นดูและมองเขาอย่างพินิจอีกครั้งแล้วพบว่าชายหนุ่มอยู่ในชุดกึ่งเปลือย แถมยังเอามือจับที่เอว ก็ตาลุกวาวพร้อมกับยิงคำถามใส่คนทั้งคู่ว่า“เดี๋ยวนะ ! เมื่อคืนนี้เธอสองคนคงไม่ได้ทำอะไรอย่างว่า
“อ๊ะ ๆ อ่า ๆ วีนัส ข้าทรมานเหลือเกิน ซี๊ด อ่า”มือน้อยที่สาวแก่นลำอย่างว่องไว สร้างความเสียวซ่านให้ระเบิดแตกออก เรือนร่างกำยำเกร็งสะท้าน จากนั้นใบหน้าหล่อคมก็แหงนหงายขึ้น“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”เสือหนุ่มร้องออกมาสุดเสียง พร้อมกับปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมา เขารู้สึกว่าความทรมานได้ระเบิดแตกออกกลายเป็นความสุขซ่านแผ่กระจายไปทั่วทั้งร่าง รู้สึกตัวเบาหวิว ลอยละลิ่วสู่ฟากฟ้าเวิ้งว้างเมื่อเขาอาการสงบลงดีแล้ว หญิงสาวจึงปล่อยมือออกจากแก่นลำเขา น้ำสีขาวขุ่นเลอะเปรอะเปื้อนเต็มมือ เขาปรือตามองหล่อนด้วยสายตาลึกล้ำ จากนั้นก็จับมือของหล่อนขึ้นมาดูดเลียกินน้ำหวานของเขาจากนิ้วเรียวของหล่อนอย่างหลงใหลริมฝีปากแดงฉ่ำของชายหนุ่มค่อย ๆ ดูด แล้วค่อย ๆ ตวัดปลายลิ้นอุ่นบรรจงไล้เลียทีละนิ้ว ทีละนิ้ว วีนัสคล้ายกับตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน แม้ลิ้นเขาจะฉ่ำชื้น แต่เธอกลับรู้สึกร้อนผ่าวทุกการสัมผัส หัวใจเต้นกระหน่ำแรงขึ้น“หมดแล้วพอเถอะ”วีนัสรีบดึงมือออก แล้วรีบหันหน้าหนีถอยห่างจากเขา“เดี๋ยวสิ”เขาร้องห้ามเสียงหลง ความทรมานที่เกิดจากการเป็นสัดได้หายไปแล้ว แต่ความสงสัยอย่างมีอยู่“เมื่อครู่เป็นวิธีการผสมพันธุ์ของเ
เสือหนุ่มส่งเสียงคำรามในลำคอเบา ๆ ภาพในหัวกำลังเล่นงานเขาให้รู้สึกเจ็บปวดที่หว่างขา แล้วส่วนสำคัญสำหรับการสืบพันธุ์ก็ตั้งโด่งขึ้น จนเขาต้องขดตัวงอ ร่างกายสั่นสะท้าน รู้สึกหวิววาบในอก สัญชาตญาณบอกให้เขารับรู้ว่าต้องการสิ่งใด !“อ๊ากกกกกกกก”เพล้ง !เสียงแก้วแตกทำให้วีนัสสะดุ้งตื่นกลางดึก.... เสียงนั้นดังมาจากห้องรับแขกแน่ ๆ เธอเป็นห่วงกลัวว่าชายหนุ่มที่นอนซมด้วยพิษบาดแผลจะเป็นอะไรหรือไม่ จึงรีบลุกขึ้นจากเตียง แล้วเปิดประตูออกไปวาบ !เธอเอื้อมมือเปิดสวิตช์ไฟ ภายในห้องก็สว่างขึ้น ทำให้เห็นว่าชายหนุ่มบนโซฟานอนกระส่ายกระสับ เศษแก้วแตกเกลื่อนกลาดบนพื้น วีนัสจึงรีบเดินเข้าไปหาเขาด้วยความเป็นห่วง“นายเสือ นายเป็นอะไร”หญิงสาวเข้าไปเขย่าตัวชายหนุ่มเขาหลับตาแน่น ใบหน้าหล่อคมของเขามีเหงื่อผุดพรายขึ้น คล้ายกับว่ากำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ทรมาน“ออกไป !”ชายหนุ่มผลักหญิงสาวเต็มแรง ทำให้หญิงสาวผงะออกห่างถอยหลังออกไปหลายก้าว เขาขบกรามแน่นจนขึ้นเป็นสัน ดวงตาวาวโรจน์ด้วยอารมณ์บางอย่างที่กำลังคุกรุ่นอยู่ภายใน“นายเป็นอะไรหรือเปล่า หน้าตานายดูไม่ดีเลยนะ”“ขะ ข้า....”ลมหายใจของชายหนุ่มกระชั้นหอบ
เมื่อวีนัสใช้เสื้อกล้ามพันแผลบนหัวไหล่เขาเพื่อห้ามเลือดเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินจ้ำอ่าวมุ่งหน้าไปตามทิศทางที่เสือหนุ่มบอกโดยไม่หันกลับไปมองเขาแม้แต่น้อย เพราะยังโกรธที่เขาไม่รักษาคำพูด แล้วยังแอบดูเธอถอดเสื้อ นายมันไอ้เสือโรคจิต !หญิงสาวย้ำเท้าลงพื้นดินหนักตามอารมณ์ที่คุกรุ่นในใจ ในขณะที่เสือหนุ่มเดินคอตกตามหล่อนไปห่าง ๆ ทั้งเจ็บแขน ทั้งเจ็บตา ไม่นึกเลยว่ากำปั้นผู้หญิงที่แสนจะบอบบางจะหนักเอาการอยู่เหมือนกัน และสิ่งที่เขาแปลกใจมากที่สุด คือ ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นในกายมนุษย์ของเขาเขาเพิ่งรู้วันนี้ว่าส่วนสืบพันธุ์ของมนุษย์เพศผู้สามารถตั้งได้ล้มได้ เมื่อก่อนตอนอยู่ในป่าเขาไม่เคยเกิดปฏิกิริยาเช่นนี้มาก่อนในขณะที่ทั้งคู่กำลังจมอยู่ในห้วงความคิดของตนนั้น ก็ปรากฏกลุ่มคนด้านหน้าสี่ห้าคนอยู่ไกล ๆ พร้อมกับเสียงตะโกนโหวกเหวกว่า“วีนัสได้ยินไหม วีนัสเธออยู่ที่ไหน”คนถูกเรียกชะงักฝีเท้า แล้วเพ่งสายตามองแล้วเห็นว่าเป็นพี่ดีดี้และทีมงานในกองถ่าย จึงตะโกนกลับไปว่า“พี่ดีดี้ วีอยู่นี่ค่ะ วีอยู่นี่”วีนัสทั้งวิ่งทั้งตะโกนโต้ตอบด้วยความดีใจ จึงไม่ทันสังเกตว่าชายหนุ่มด้านหลังเธอเดินช้าลงเรื่อย ๆ ใบหน้าขา
“นายไหวแน่นะ”วีนัสเอ่ยปากถามด้วยความเป็นกังวล“ตอนนี้ไหว แต่หากขืนชักช้ากว่านี้ เจ้าเสือดาว เสือดำ หมีป่า ได้กลิ่มหอม ๆ ของมนุษย์อย่างเจ้า รับรองข้าสู้ต่อไม่ไหวแน่ ๆ”เมื่อได้ยินมันพูดอย่างนั้น เธอก็รีบขึ้นขี่หลังมันอย่างว่าง่าย โน้มตัวลงกอดคอมันไว้พร้อมกับกระซิบบอกมันว่า“ขอบคุณนะ ที่ช่วยชีวิตฉันไว้”เสียงหวาน ๆ นั้น คล้ายจะดังฝังลึกลงไปในใจเสือหนุ่ม มันกระตุกยิ้มน้อย ๆ ก่อนที่จะทะยานไปข้างหน้าอย่างว่องไวเมื่อออกจากป่าแดนสามเหลี่ยมปีศาจแล้วสักระยะหนึ่ง เสือลายพาดกลอนตัวใหญ่ก็ชะลอฝีเท้าลง หูของมันตั้งชันขึ้นอีกครั้ง คล้ายกับได้ยินเสียงตะโกนของมนุษย์อยู่ไกล ๆ“ข้าได้ยินเสียงมนุษย์กลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้”มันส่งเสียงแหบต่ำบอกคนบนหลังมัน“น่าจะเป็นพวกพี่ ๆ ทีมงานในกองถ่าย นายรีบปล่อยฉันลงเถอะ แล้วกลายร่างเป็นคนเสีย ก่อนที่คนอื่น ๆ จะมาเห็นนายในร่างเสือ”วีนัสรีบบอกเจ้าเสือเจ้าเสือตัวใหญ่จึงหมอบลงให้หญิงสาวลงจากหลัง แล้วกลายร่างเป็นชายหนุ่ม บนหัวไหลเขามีรอยแผลเป็นรูปกรงเล็บสัตว์บาดลึกลงไปในเนื้อ เลือดสีแดงสดยังคงไหลออกมาไม่หยุด“เลือดนายไหล”วีนัสมองเขาอย่างเป็นกังวล แม้เขาจะเ
“อ๊ายยยยยยยยยยย”หญิงสาวกรีดลั่นด้วยความหวาดเสียว เธอต้องก้มลงจนแนบลำตัวเสือ เพื่อป้องกันไม่ให้ใบหน้าสวย ๆ ถูกขีดข่วนจะกิ่งไม้ เจ้าเสือทะยานไปข้างหน้าไปเรื่อย ๆ ด้วยท่อนขากำยำอันทรงพลังเมื่อคุ้นเคยกับการขี่หลังเสือ ความกลัวจึงลดลงเธอจึงเริ่มชวนเขาคุย“นี่ นายชื่ออะไร”“ชื่อเหรอ..... ไม่รู้สิ... ตาฤๅษีก็เรียกข้าเสือ พวกสัตว์ในป่าแห่งนี้ก็เรียกข้าเสือ แบบนี้ใช่ชื่อไหม”“งั้นฉันเรียกนายว่าเสือแล้วกัน ฉันชื่อวีนัสนะ”“วีนัส.... วีนัส.... วีนัส...”เสือเรียกชื่อเธอพร้อมกับส่งเสียงคำรามต่ำ ๆ ไปด้วย คล้ายกับกำลังร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี เสียงนั้นทำให้หญิงสาวหลุดขำออกมา... เพราะนึกถึงตัวละครในนิทานดิสนีย์ ที่มักจะมีสัตว์ร้องเพลงอยู่เสมอ ๆแต่แล้วในจังหวะนั้นเอง เงาสีดำสายหนึ่งก็พุ่งตัดหน้าพวกเขาไปฟุบ !เสือดำโตใหญ่ยืนจังก้าดักหน้าพวกเขาเอาไว้ มันแยกเขี้ยวแล้วคำรามขึ้นว่า“ไอ้ลูกเสือกำพร้า ส่งอาหารอันโอชะบนหลังเจ้ามาเสีย !”โฮกกกกกกกกกกกกกกกเสืออีกตัวอ้าปากคำรามโต้กลับ“นางเป็นของข้า !”“ฮ่า ๆ ตอนนี้เจ้าไม่มีฤๅษีเฒ่าคุ้มครองแล้ว คิดรึว่าจะสู้ข้าได้ ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ส่งนางมนุษย์ผู้นั้นมาให้ข