Share

บทที่ 897

Author: หูเทียนเสี่ยว
อสังหาริมทรัพย์แบบนี้ มีเยอะไว้ก็ดี

ถึงจะบอกว่า...ได้รับไปก็อาจจะไม่ได้ใช้ประโยชน์ แต่อุทยานหลิ่วพ่านก็สวยงามมากจริงๆ

เป็นที่พักผ่อนที่ไม่เลวเลย

จักรพรรดิเฒ่าพยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นเขาจึงเตรียมพูดเรื่องหลังจากนี้

จั๋วซือหรานไม่รอให้เขาพูดอะไร เอ่ยขึ้นมาก่อนว่า "ฝ่าบาทถ้าหากรังเกียจ สวนชิวอีกับจวนชินอ๋องอวี้จะยกให้ข้าด้วยกันก็ได้นะ ข้าไม่รังเกียจจริงๆ จริงๆ นะ..."

จักรพรรดิเฒ่าพอได้ยินคำนี้ ก็งงงันขึ้นทันที

เขางงงันไปครู่หนึ่ง ในสายตาก็เกิดประกายลึกซึ้ง "เจ้าอยากได้จริงหรือ?"

"ใช่" จั๋วซือหรานตาโค้ง รอยยิ้มในดวงตาเองก็ดูสบายๆ ไร้กังวล ราวกับว่า...ดวงตาพญาหงส์ดำขลับคู่นี้ สามารถมองทะลุได้ทุกสิ่ง

องค์จักรพรรดิเฒ่ารู้สึกว่า นางคงมองทะลุความคิดตนเองแล้วแน่นอน ดังนั้นจึงเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา

จั๋วซือหรานพูดต่อ "ฝ่าบาทเองก็รู้ ข้าอยู่ในเมืองหลวงไม่มีตระกูล ไม่มีสำนัก ไม่มีที่พึ่งพา ดังนั้นของนอกกายเหล่านี้ แน่นอนว่ายิ่งมีมากก็ยิ่งดี คนอื่นจะได้ไม่ดูถูกข้า"

"ช่างเถอะ แล้วแต่เจ้าละกัน แต่ว่า..." องค์จักรพรรดิเฒ่าคิดจะพูดแต่หยุดไว้

จั๋วซือหรานยิ้ม "อา ฝ่าบาทโปรดวางใจ ที่ดินของข้า ข้าจะ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1405

    คนหาข่าวพอได้ยินก็ถลึงตากลมโต เหมือถูกคำพูดนี้ทำให้ตกตะลึงไป พูดอะไรไม่ออกไปพักหนึ่งจั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า "ข้าคิดๆ ดู ในเมื่อเจ้าเดินไปมาอิสระที่นี่ได้ คิดว่าคงจะไม่ใช่พวกขุนนางทาสแน่ แต่ก่อนหน้าพอข้าใช้เรื่องจะขายเจ้าก็ขู่เจ้าจนตกใจ เห็นได้ชัดว่าบนตัวเจ้าน่าจะมีที่มาที่ไปอยู่"จั๋วซือหรานชะงักไป ยื่นมือชี้ไปทิศที่นางชี้มาก่อนหน้านี้ "ดังนั้นข้ารู้สึกว่า บางทีเจ้าน่าจะใกล้เคียงกับคนพวกนั้น อาจจะมีเหตุผลของตัวเอง จึงต้องมาอยู่ในเมืองซื่อหนาน""แล้วเหตุผลที่มาที่ไปของเจ้าคืออะไร?" จั๋วซือหรานถามสีหน้าคนหาข่าวเดิมทีที่แดงระเรื่ออยู่ ตอนนี้กลับซีดเผือดไปอีกครั้ง"ข้า..." มุมปากนางขยับ ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างลำบากใจจั๋วซือหรานเองก็ไม่ได้เร่งรัด เอ่ยแค่ว่า "ไปดูทางนั้นก่อนแล้วกัน เจ้าเองก็ค่อยๆ คิด ถ้าไม่เล่าก็ไม่บังคับนะ ข้าแค่รู้สึกอยากรู้อยากเห็นหน่อยๆ ก็เท่านั้น"พูดจบ พวกของจั๋วซือหรานก็เดินตรงไปทางนั้นทางนั้นกับการค้าทาสทางนี้ก็มีบรรยากาศแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจริงๆชิ่งหมิงอยู่ที่นี่ไม่รุ้สึกรังเกียจอะไรนัก เห็นได้ชัดว่าบรรยากาศทางนี้ไม่ได้ดำมืดเหมือนทางนั้นจั๋วซือหรานดึงนิ้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1404

    พอได้ยินคำนี้ คิ้วของชิ่งหมิงก็ย่นขึ้นมา เขาเอ่ยเสียงต่ำกับจั๋วซือหราน "ข้าไม่ชอบที่นี่เลย"ก็จริง สถานที่แบบนี้ รู้สึกมันดำมืดไปหมด ไม่มีแสงสว่างเอาเสียเลยแล้วชิ่งหมิงเดิมทีก็ใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนกระดาษขาว สำหรับเรื่องดำมืดแบบนี้ จะไม่ใชอบก็เป็นเรื่องปกติจั๋วซือหรานกดบ่าเขาเบาๆ ยัดลูกกวาดหนึบหนับใส่มือเขาหลายเม็ดชิ่งหมิงมองลูกกวาดหนึบหนับใสมือ "..."เขารู้สึกจนใจหน่อยๆ ซือหรานมักปลอบเขาเหมือนกับเด็กแบบนี้เสมอ แต่เขาโตแล้วนะแต่ว่าก็อดพูดไม่ได้เลย ความรู้สึกแบบนี้บางครั้งก็ไม่เลวนักจั๋วซือหรานมองไปทางคนหาข่าวคนนั้น เอ่ยขึ้นว่า "พูดต่อสิ""คนหาข่าวคนนี้พอได้ยินก็ตาเป็นประกาย สีหน้าขาวซีดแต่เดิมที่ถูกจั๋วซือหรานเปิดโปงจนปั้นยาก เวลานี้ก็เหมือนจะตื่นเต้นแดงรื้นขึ้นมาจากคำพูดของจั๋วซือหรานแล้วนางเอ่ยต่อว่า "ใต้เท้า คนเหล่านี้ถึงแม้จะไม่มีแรงมากมายนัก แต่ก็มีอยู่หลายคนที่อ่านออกเขียนได้ ถ้าท่านต้องการหาคนที่รู้หนังสือ ที่นี่ก็จะถูกกว่ากันเยอะมาก แต่ว่า..."จั๋วซือหรานมองนาง "มีอะไรก็พูดตรงๆ เถอะ"คนหาข่าวคนนี้จึงกดเสียงลงต่ำ บอกกับจั๋วซือหรานว่า "แต่ว่า เนื่องจากพวกเขาทั้งหม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1403

    จั๋วซือหรานพูดคำนี้จบ คนหาข่าวคนนั้นก็อดมองไปทางจั๋วซือหรานไม่ได้ในสายตามีอาการตกใจอย่างปิดไม่มิด น่าจะเพราะคิดไม่ถึงว่า นางที่เป็นคนต่างบ้านต่างเมือง แล้วยังเป็นหญิงสาวด้วยกลับมองสถานการณ์ของซื่อหนานได้อย่างทะลุปรุโปร่งและตอนที่สายตาของเขามองไป ดาบยาวในมือจั๋วซือหรานก็พามาที่ข้างคอเขาเขาตะลึงงัน ดวงตาถลึงโต ไม่กล้าขยับตัวไปทันทีกระทั่งหนังหัวยังเกรงแน่นเขาได้ยินเสียงของหญิงสาวคนนี้ที่ยังคงเรียบเฉย เย็นชา และเปิดโปงความคิดนั่นของเขาจั๋วซือหรานเอ่ยว่า "ข้าจ่ายเงินจ้างเจ้า ไม่ใช่ให้มาแค่ไกล่เกลี่ยเรื่องให้จบ ถ้าเจ้ากลัวว่าจะผิดใจกับเนี่ยคุน แล้วมาหลอกข้าแบบส่งเดชล่ะก็..."จั๋วซือหรานเหลือบมองไปยังผู้ดูแลแผงตลาดค้าทาสพวกนั้นผาดหนึ่ง จากนั้นก็มองมาทางคนหาข่าว เอ่ยต่อว่า "ข้าจะจ่ายให้เจ้าพวกนั้นมากหน่อย ให้พวกเขาจับเจ้ามัดแล้วขายส่งออกไปซะ ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร"พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน สีหน้าของคนผู้นี้ก็ซีดไปทันที!ทั้งเนื้อตัวเริ่มสั่นระริกขึ้นเบาๆ "ใต้...ใต้เท้า ข้า...ข้ารู้ผิดแล้ว ข้ารู้ผิดแล้ว ไม่กล้าอีกแล้ว ข้าจะพูดทุกอย่างที่รู้เลย"จั๋วซือหรานเหลือบมองเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1402

    แต่ว่า สำหรับความกังวลเหล่านี้ของพวกเขา จั๋วซือหรานไม่ได้แยแสเลยนางเป็นที่รู้จักกันดีว่าสมองไวกระทั่งว่าพอนางไม่เร่งรีบ พวกขเาก็จะผ่อนคลายตามไปด้วย เหมือนว่า...ตราบใดที่นางยังไม่เร่งร้อน ปัญหาก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "ยังไม่ต้องรีบกังวลไป ข้ารู้สึกว่าเนี่ยคุนอาจจะไม่สามารถดึงตัวคนที่มาประโยชน์มาได้ ถ้าเขามีฝีมือในการดึงคนที่มีประโยชน์ทั้งหมดได้จริง คงไม่ถูกข้าทำให้โมโหขนาดนั้น"จั๋วซือหรานพูดพลางหัวเราะ "นี่ยังไม่ถึงไหนเลยนะ เขากลับเลือดลมพร่องเสียขนาดนี้ ถ้าคนไม่รู้คงนึกว่าเพิ่งคลอดลูกมา"ปันอวิ๋นพอได้ยินคำนี้ของนางก็เกือบจะหัวเราะออกมาจั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า "ข้ารู้สึกว่าคนพวกนี้ ไม่ได้ภักดีกับเนี่ยคุนหรอก พวกเขาแค่ต้องการสถานที่อย่างซื่อหนานนี่เท่านั้น ส่วนว่าจะเป็นซื่อหนานของเนี่ยคุน หรือว่าซือหนานของจั๋วซือหราน พวกเขาคงไม่ใส่ใจเท่าไร""ความหมายก็คือ ตราบใดที่เจ้าอยู่ร่วมกับพวกเขาอย่างสงบสุขในภายภาคหน้า พวเขาก็จะไม่มาหาเรื่องเจ้าอย่างนั้นสินะ?" ปันอวิ๋นถามจั๋วซือหรานพยักหน้า "บนความรู้สึกคืออย่างนั้น แต่ข้าก็คงไม่ปล่อยพวกเขาไว้ตลอด ทว่าตอนแรกนี้จะยังไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1401

    ชิ่งหมิงได้ยินคำนี้ สายตาก็ชะงักไปตอนที่เงยหน้าขึ้นมองปันอวิ๋น ก็ไม่ได้รู้สึกตกตะลึงอะไร ดูสงบนิ่งมาก "ฝีมือก็ดีขึ้นมากจริงๆ เพียงแต่ว่า...ข้ากับเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันมากมายนัก"ปันอวิ๋นไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้ เขาโบกไม้โบกมือ "ไม่เป็นไร ถึงยังไงพวกเราก็ไม่ได้มีพ่อที่ดีกันนักหรอก"จั๋วซือหรานขมวดคิ้วมองเขา "เจ้ามองออกตั้งแต่เมื่อไรกัน?""ข้าไม่ได้ตาบอดนะ เหล่าจวงเองก็แอบมองจวงชิ่งหมิงอยู่ตลอด ทั้งสองคนสกุลจวงเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นในแววตาของเหล่าจวงกับจวงชิ่งหมิงก็คล้ายคลึงกันด้วย แค่มองเฉยๆ อาจไม่รู้สึก แต่ถ้าสองคนอยู่ในภาพเดียวกัน ก็จะสัมผัสได้เลย"ปันอวิ๋นบางครั้งดูแล้วก้เหมือนเป็นคนขี้เกียจที่เหมือนไม่ใส่ใจกับอะไรเลยแต่อันที่จริง เขาเป็นคนละเอียดอ่อนและเฉียบแหลมมากมีหลายเรื่อง ที่แม้เขาจะไม่พูด แต่อันที่จริงในใจก็รู้แจ้งเห็นจริงทุกอย่างปันอวิ๋นเอ่ยต่อ "ไม่เป็นไร ถ้าไม่ชอบฟังคราวหลังจะไม่พูดอีก"แต่เขาคิดๆ จากนั้นก็เสริมมาอีกคำหนึ่ง "น่าจะเพราะว่า ข้ากับเฟิงเหยียนแต่ก่อนรู้ว่าตนเองต้องแบกภาระโชคชะตาแบบไหนไว้ ดังนั้นจึงค่อยๆ ปรับความเข้าใจกับตนเอง จะพูดถึงยังไงก็ได้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1400

    ถึงยังไงการทำงานในโรงคณิกา บ่อยครั้งที่จะตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกแม่เล้ากลอกตาไปมา "ทั้งสามท่านมาที่นี่เพื่อหาความสำราญแบบใดหรือ? เคาะประตูดีดีก็พอนี่นา ไม่เห็นต้องพังประตูใหญ่แบบนี้..."นางจ้องปันอวิ๋นไม่วางตา "แขกท่านนี้ต้องการจะฟังดนตรี หรือจะค้างคืนกันล่ะ? ต้องการแม่นาง...หรือว่าต้องการชายหนุ่ม?"ปันอวิ๋นฟังครึ่งประโยคแรก ก็ขมวดคิ้วแล้ว พอได้ยินครึ่งประโยคหลังก็หนักเลย "อะไรนะ?"แม่เล้าเห็นความเย็นชาในสายตาเขา ก็รู้สึกสันหลังวาบ สั่นเทาไปทั้งตัวจั๋วซือหรานที่อยู่ข้างๆ ฟังแล้วอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ ปันอวิ๋นหน้าตาดี ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นความงามเฉพาะตัวด้วย บุคลิกเย้ายวนชวนหลงใหลแต่กำเนิดนั่น ก็ไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนจะอดคิดไม่ได้ว่าเขาจะต้องการแม่นาง...หรือว่าต้องการชายหนุ่มกันแน่...จั๋วซือหรานกระแอมแล้วอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ เอ่ยขึ้นว่า "...แค่ก พวกเรามากินข้าวน่ะ พวกเจ้าที่นี่มีกับข้าวและสุราอะไรที่อร่อยก็ยกมาให้หมดเลย"หลังจากที่แม่เล้าได้ยิน เดิมทียังคิดจะถามอยู่ว่าพวกเขาต้องการแม่นางหรือชายหนุ่มไหม แต่ก็รู้สึกว่าถ้าทำแบบนั้นมันจะเหมือนว่าตนเองเบื่อชีวิตแล้วก็เลยอ้าปากพะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status