Share

บทที่ 982

Author: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานคาดไว้แล้ว จึงไม่ได้ห้าม

แสดงชัดเจนว่าไม่กลัวว่าเฟิงเหยียนจะรู้ กระทั่งพูดได้ว่า ตั้งใจให้เฟิงเหยียนรู้ด้วยซ้ำ

แล้วก็เป็นไปตามคาด นี่ก็ไม่ใช่เข้ามาแล้วหรือ

ชายหนุ่มนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงรู้ว่า "ทำไมต้องเป็นปันอวิ๋น"

จั๋วซือหรานฟังออก ว่าระหว่างชายหนุ่มกับปันอวิ๋น น่าจะมีอะไรกันอยู่

ไม่เช่นนั้นปันอวิ๋นเองก็คงไม่ดื้อแพ่งคิดแต่จะบรรลุความร่วมมือหมั้นหมายกับนางแล้ว

"แล้วทำไมถึงเป็นปันอวิ๋นไม่ได้" จั๋วซือหรานยิ้มเรียบๆ สายตามองเขา "เขาก็หน้าตาดีอยู่นี่"

"แค่เพราะเรื่องนี้หรือ?" ในดวงตาคิ้วที่เฉียมคมลึกซึ้งของชายหนุ่ม มีอารมณ์อื่นแทรกเข้ามา

"ไม่อย่างนั้นจะเพราะอะไรล่ะ?" จั๋วซือหรานตอบ "เพียงแต่ ท่านอ๋องเอาฐานะอะไรเข้ามาถามข้ากัน?"

จั๋วซือหรานมองสีหน้าเขา ในที่สุดก็ไม่เหลือรอยยิ้มใดอีก แม้แต่รอยยิ้มบางๆ ที่ไม่ได้อยู่ในดวงตาก่อนหน้า ก็หายไปจากใบหน้างามของนางหมดแล้ว

"จะยุ่งมากไปหน่อยหรือเปล่า?" จั๋วซือหรานมองเขาสายตาเย็นชา

ชายหนุ่มถูกนางจ้องเย็นชาเช่นนี้ ก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนในใจอะไรบางอย่างขาดหายไป เหมือนมุมไหนสักมุมกำลังถูกทิ่มแทง

ราวกับว่า...

ไม่ควรเป็นเช่นนี้ ไม่ควรจะ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 983

    จั๋วซือหรานหลังได้ยินคำนี้ ก็เพียงแค่ยิ้มบางๆ "ทุกคนไม่ใช่เด็กกันแล้ว ใครทำเรื่องอะไรไม่มีสาเหตุกันบ้าง""เพียงแต่สาเหตุของท่าน ผลของมันข้ากลับต้องมาแบกรับ ตอนนี้ใครเมืองหลวงใครไม่รู้บ้าง ว่าจั๋วซือหรานอย่างข้าถูกท่านอ๋องทอดทิ้งไปแล้ว" เนื้อหาในคำพูดของจั๋วซือหรานแม้จะเป็นเช่นนี้แต่ในน้ำเสียงอันที่จริงก็ไม่ได้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอะไร นางเหมือนจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดกาล แข็งแกร่งเหมือนต้นกก"ข้าโดนบังคับให้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยไม่รู้สาเหตุ แล้วยังไม่ยอมให้ข้าได้คิดหาวิธีเองเลยหรือ?"ตอนที่นางพูดกับเฟิงเหยียน ใบหน้ายังมีรอยยิ้มจางๆ อยู่ด้วย ราวกับว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเลยนางเอ่ยต่อ "นี่มันเหตุผลอะไรกัน?"เฟิงเหยียนนิ่งงัน ไม่พูดอะไรไปพักหนึ่งจั๋วซือหรานเลิกคิ้วขึ้น ไม่คิดจะรอให้เขาเอ่ยปากด้วยเช่นกัน ถึงอย่างไรสมองก็ไปหมดแล้วนี่ ในปากเองก็คงไม่มีคำพูดอะไรดีดีนักพอหมุนตัวจะเดินไป ก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำแหบพร่าของชายหนุ่ม ดังลอดเข้ามาด้านหลัง "ปันอวิ๋นเป็นคนรู้จักเก่าของข้า"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ก็เดาได้อยู่"เฟิงเหยียนเม้มปาก คิ้วขมวด "ข้ากับเขามีบุญคุณความแค้นกัน ถ้าเขามาหาเรื่องเจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 984

    หานกวงฟังฟังไม่ออกถึงอารมณ์ใดจากในน้ำเสียงเขา แต่ฟังออกว่า นายท่านไม่ค่อยเบิกบานนัก......จั๋วซือหรานให้ความสำคัญกับแม่และน้องชายมาโดยตลอด ดังนั้นตอนที่เซี่ยอวิ๋นเหนียงกลับเมืองหลวง จั๋วซือหรานจึงออกไปรับที่ประตูเมืองด้วยตนเองคนคุ้มกันที่เฝ้าประตูเมืองก็ล้วนเปลี่ยนผลัดกันมาจากค่ายป้องกันลาดตระเวน พอเห็นจั๋วซือหรานเข้ามา จึงกระตือรือร้นกันอย่างกับอะไรดีถ้าไม่ใช่จั๋วซือหรานปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีก พวกเขาคงจะเอาเก้าอี้มาให้นางนั่งที่ประตูเมืองแล้ว...มานั่งเหมือนคนแก่ที่ประตูเมือง มันคงไม่ค่อยน่าดูนักแต่พวกเขากังวลว่าจั๋วซือหรานจะเหนื่อย ถึงแม้ในใจพวกเขาไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ ว่านี่คือจอมโฉดรับมือกับพวกโจรพรมแดนใต้มานะจอมโฉดอะไร? จอมโฉดก็ยังเป็นหญิงสาวนะ แล้วสองวันนี้อากาศก็เป็นช่วงที่อากาศเย็นลงด้วย ประตูเมืองเองก็มีลมผ่านรอบด้าน คนมารอที่นั่นนานๆ คงได้ถูกลมพัดจนตัวชาดังนั้นหัวหน้าหน่วยคุมกันประตูเมือง จึงมาเตือนอย่างหวังดี ให้จั๋วซือหรานไปนั่งรอที่แผงน้ำชาข้างทางดีกว่า"ถ้ารถม้าของฮูหยินมาถึง ข้าจะมาแจ้งแม่นางทันทีเลย ไม่ต้องกังวล คอยหลบลมอยู่ตรงนี้เถิด วันนี้ลมแรงมากจริงๆ"อีกฝ่า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 985

    จั๋วซือหรานอันที่จริงก็สังเกตเห็นตั้งแต่ก่อนหน้าแล้ว ว่าครั้งนี้ท่านแม่ไม่ได้กลับมาคนเดียวแต่นางเองก็ไม่ได้รู้สึกเกินคาดนัก เพราะครั้งนี้ที่ให้ท่านแม่กลับไปบ้านตายาย หนึ่งก็คือกลับไปเยี่ยมญาติ สองคือคิดจะให้บ้านของตายายเข้าไปอยู่ในตลาดวัตถุดิบยาของเมืองหลวงดังนั้น ถ้าหากบ้านตายายจะให้คนกลับมาเมืองหลวงด้วยกัน มาหารือเรื่องการค้า จั๋วซือหรานก็ไม่รู้สึกมีปัญหาอะไรตอนนี้พอเห็นหญิงสาวคนนี้เดินมา แล้วยังตัดบทสนทนาของนางกับท่านแม่ด้วย จั๋วซือหรานจึงถามว่า "คนผู้นี้คือ?"เซี่ยอวิ๋นเหนียงเอ่ยขึ้นข้างๆ "นี่คือป้ารองของเจ้า"จั๋วซือหรานพยักหน้าเล็กน้อย "ท่านป้ารอง"นางหยวนเองก็พยักหน้าให้จั๋วซือหราน"ป้ารองเมื่อครู่พูดถึงน้องชายข้า" เสียงของจั๋วซือหรานมั่นคงมาก "เสี่ยวหวายเขาทำไมหรือ?"นางหยวนเดิมทีรู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้น่าจะจัดการได้ไม่ยาก ถึงอย่างไรก็เป็นแค่หญิงสาวเท่านั้นแต่พอได้เห็นกับตา แล้วยังเห็นหัวหน้าหน่วยคุ้มกันของค่ายป้องกันลาดตระเวน มีท่าทีเกรงอกเกรงใจกับจั๋วซือหรานนางหยวนจึงไม่กล้าเล่นใหญ๋ แค่รู้สึกว่าหลานสาวคนนี้ ไม่ใช่แค่คนธรรมดาง่ายๆ อย่างที่พวกเขาคิดเสียแล้วน่าจะเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 986

    นางหยวนแน่นอนไม่คิดจะผิดใจกับหลานสาวคนนี้ แม้จะบอกว่าไม่รู้ว่าที่ลือกันเป็นจริงอยู่กี่ส่วน แต่คนผู้นี้ เป็นคนที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง แล้วยังเป็นโหวหญิงอีก ยิ่งไปกว่านั้นยังมีตำแหน่งขุนนางในตัวแน่นอนต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษนางหยวนหยุดไปครู่หนึ่ง จึงพูดว่า "หรานหราน เจ้าเข้าใจบ้านพวกเราผิดแล้ว เสี่ยวหวายไม่ได้ถูกขังไว้ในอวิ๋นหลิวไม่ให้กลับเมืองหลวง แต่หลังจากเขาไปที่อวิ๋นหลิว อาจจะเพราะการกินอยู่ไม่สบายหรืออะไรสักอย่าง ร่างกายก็ไม่ค่อยดีมาโดยตลอด เส้นทางกลับมาก็ไกลแล้วยังขรุขระด้วย ดังนั้นจึงให้เขาอยู่ที่อวิ๋นหลิว รอให้ร่างกายดีแล้วค่อยกลับมาเมืองหลวง"เดิมทีขณะที่พวกนางพูดกันก็กำลังเดินไปด้านในเมืองหลวงแต่พอนางหยวนพูดคำนี้ เท้าของจั๋วซือหรานก็หยุดลงทันทีนางหันมามองนางหยวนนิ่งๆนางหยวนถูกสายตาของนางมองจนลนลาน "หรานหราน เจ้า เจ้า...ทำไมมองข้าแบบนั้น?"จากนั้นนางจึงเห็นรอยยิ้มที่ยากจะเข้าใจบนใบหน้าจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานก็ถามนางเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มมาคำหนึ่ง "ท่านป้า ไม่รู้ว่าครั้งนี้มีแค่ท่านป้าที่มากับท่านแม่ใช่ไหม?"นางหยวนแม้จะถูกนางจ้องจนรู้สึกลนลาน แต่พอได้ยินคำถามท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 987

    การก่อเรื่องกะทันหันของจั๋วซือหราน บวกกับท่าทางของคนของหน่วยคุ้มกันกับองครักษ์เงาที่พุ่งเข้าไปควบคุมขบวนรถอย่างรวดเร็วแน่นอนว่าทำให้คนอื่นๆ ในรถม้าตกใจลุงใหญ่ของจั๋วซือหราน หรือก็คือเซี่ยหมิงอี้พี่ชายคนโตของเซี่ยอวิ๋นเหนียง เดินลงมาจากรถม้าหน้าขรึม"อวิ๋นซี นี่มันเกิดอะไรขึ้น?" เซี่ยหมิงอี้มองไปทางเซี่ยอวิ๋นเหนียง ถามเสียงขรึมจากนั้นสายตาก็เหลือบไปทางจั๋วซือหรานผาดหนึ่ง ถามขึ้นว่า "เข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่า?"คอของนางหยวนยังคงถูกบีบอยู่ในมือจั๋วซือหราน ท่าทางนั้น เหมือนหิ้วไก่ตัวหนึ่งอยู่ไม่ผิดเพี้ยนเพียงแต่ว่า ยังพอส่งเสียงอะไรออกมาได้ เสียงของนางหยวนกับสายตานั้นพรั่นพรึงเหมือนกัน "พี่ พี่ใหญ่! ช่วยข้าด้วย!"เซี่ยหมิงอี้เอ่ยกับจั๋วซือหรานเสียงขรึม "หรานหราน นี่ต้องมีอะไรเข้าใจผิดแน่ เจ้าปล่อยป้ารองเจ้าลงก่อนเถอะ ครอบครัวเดียวกันอย่าทำร้ายกันให้ชาวเมืองเขาหัวเราะเยาะเลย"คำพูดนี้พูดไว้ถูกต้อง ถ้าหากเป็นเรื่องสำคัญของภาพรวม จั๋วซือหรานจะทำตามที่เซี่ยหมิงอี้ว่าแน่นอนแต่ว่านางไม่ใช่คนที่จะต้องเห็นภาพรวมเป็นเรื่องสำคัญเสียทุกเรื่องคนที่นางใส่ใจเดิมทีก็มีไม่เยอะอยู่แล้ว แม่แ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 988

    เซี่ยหมิงอี้คิดๆ ยังเอ่ยขึ้นเสียงต่ำว่า "เดิมทีเรื่องงานแต่งงานของลูกต้องมีพ่อแม่เป็นคนตัดสินใจ ไม่ใช่พี่สายมาตัดสินนะ เจ้ากับเสี่ยวหวายถูกตระกูลจั๋วขับไล่ออกมา ไม่มีตระกูลจั๋วมาจัดการให้พวกเจ้า พวกเราในฐานะผู้อาวุโส จัดการเรื่องนี้ให้เสี่ยวหวายมันก็สมเหตุสมผลดี เจ้าทำไมถึงต้องโมโหเพราะเรื่องนี้..."จั๋วซือหรานหัวเราะเย็นชา "ความหมายก็คือ พวกท่านแค่จัดการให้เสี่ยวหวายยังไม่พอ แต่หลังจากนี้ยังคิดจะวางท่าทางเป็นผู้อาวุโสในตระกูล แล้วมาจัดแจงให้ข้าด้วยว่างั้น"เซี่ยหมิงอี้หน้าแข็งไปจั๋วซือหรานเอ่ยต่อ "ยิ่งไปกว่านั้นข้าเป็นพี่สาวคนโต ข้าตัดสินใจได้อยู่แล้ว ข้าตอนนี้ไม่ใช่แค่พี่สาวของจั๋วหวาย ลูกสาวของเซี่ยอวิ๋นซี ข้ายังเป็นผู้อาวุโสของตระกูลจั๋วอีกด้วย สามข้อนี้ ข้าจัดการงานแต่งงานที่ดีให้กับน้องชายข้าในอนาคตได้เหลือๆ ไม่ต้องลำบากพวกท่านแล้ว!"มือของจั๋วซือหรานออกแรงเพิ่มขึ้น!ดวงตาของเซี่ยหมิงอี้เบิกกว้างขึ้น ในสายตามีความตกตะลึงขึ้นมา!เพราะ...เขาพบว่า นางหยวนแม้จะถูกบีบคอไว้แต่ตอนที่จั๋วซือหรานออกแรงเพิ่ม คอของเขาก็ถูกรัดแน่นขึ้น เจ็บปวดตามขึ้นมาแล้ว!เซี่ยหมิงอี้กระทั่งในดวงต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 989

    จั๋วซือหรานเองก็พาแม่ไปนั่งบนรถม้าคันหนึ่งระหว่างทางที่รถม้าแล่นตรงไปยังจวน เซี่ยอวิ๋นเหนียงก็รีบถามขึ้นว่า "หรานหราน นี่มัน...เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เสี่ยวหวายมีตรงไหนแย่ไหม?"เสียงของนางมีความร้อนรน "แม่ไม่ดีเอง แม่คิดไม่ถึงว่าบ้านตายายเจ้าจะแอบทำแบบนี้ เสี่ยวหวายมีอะไรไม่ดีกันแน่? แม่ได้ยินความหมายเจ้าก่อนหน้านี้ อาการป่วยของเสี่ยวหวาย มันไม่ถูกต้องใช่ไหม?"จั๋วซือหรานครุ่นคิดพักหนึ่ง นางเดิมทีไม่อยากให้แม่ตกใจแต่ก็เข้าใจดี ยิ่งตอนนี้พูดไม่ชัดเจน แม่ก็จะยิ่งถูกทำให้ตกใจง่ายขึ้นดังนั้นจั๋วซือหรนพอคิดไปครู่หนึ่ง จึงกลั่นกรองคำพูดแล้วเอ่ยว่า "ท่านแม่ยังไม่ต้องร้อนใจกังวล เป็นแค่การคาดการณ์ของข้าเท่านั้น ท่านตอบคำถามส่วนหนึ่งข้ามาก่อน ข้าจึงจะพิจารณาได้ว่าตอนนี้คือสถานการณ์แบบไหน"เซี่ยอวิ๋นเหนียงรู้ว่าลูกสาวเป็นคนฉลาด เรื่องทุกเรื่องอยู่ในการควบคุมหมด จึงรีบพยักหน้ารับ "เจ้าแค่ถามมา ถ้าแม่รู้ แม้จะบอกเจ้าให้หมด!""ตอนนี้ตระกูลเซี่ย...ยังเป็นท่านตาที่ดูแลหรือเปล่า?" จั๋วซือหรานถามขึ้นมาเซี่ยอวิ๋นเหนียงถอนหายใจเบาๆ "ข้าเองกลับไปถึงเพิ่งรู้ ว่าสุขภาพตาของเจ้าแย่ลงทุกปี ไม่กี่ปีน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 990

    "แต่พวกของลุงเจ้าบอกว่า ตระกูลของแม่นางทางนั้น เหมือนจะค่อนข้างกระตือรือร้นกับเรื่องนี้ บอกว่าถึงอย่างไรก็เป็นคุณหนูจากสำนัก เรื่องนี้ถ้ากำหนดแล้ว จะเป็นประโยชน์กับเสี่ยวหวาย ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นประโยชน์กับเจ้าด้วย เจ้าเองก็รู้ ว่าน้องชายเจ้า..."เซี่ยอวิ๋นเหนียงส่ายหัวเอ่ยต่อว่า "ถ้าบอกว่าเพื่อตัวเขาเอง เขาก็จะไม่มีปฏิกิริยาอะไร แต่ถ้าบอกว่าเป็นประโยชน์กับเจ้า เขาก็จะไม่มีความเห็นอื่นอีก"พอฟังถึงตรงนี้ จั๋วซือหรานก็เม้มปาก นิ้วมือกำแน่นขึ้นมา กดเสียงต่ำลงถามว่า "จากนั้นล่ะ?""จากนั้นเด็กคนนี้เดิมทีคิดจะกลับมา เพื่อถามการตัดสินใจจากเจ้าด้วยตัวเอง เขาบอกว่าจะฟังเจ้า เขาไม่มีความเห็นอะไร" เซี่ยอวิ๋นเหนียงคิดๆ แล้วก็พูดคำพูดของจั๋วหวายตอนนั้นออกมาคำพูดเดิมของจั๋วหวายตอนนั้นคือ: 'ข้าเองไม่ใช่ว่าจะตัดสินใจหรือเลือกเองไม่ได้ แต่พี่สาวข้าฉลาดกว่าข้า สายตากว้างไกลกว่าข้า ดังนั้นต่อให้นางบอกว่าได้ก็ไม่แน่ว่าอาจจะเหมาะกับข้า แต่ถ้านางบอกว่าไม่ เช่นนั้นก็คือไม่ ข้าจะฟังท่านพี่'จั๋วซือหรานสูดหายใจลึก ถามต่อว่า "ท่านแม่ เสี่ยวหวายเริ่มไม่สบายตั้งแต่ตอนไหน?"เซี่ยอวิ๋นเหนียงคิดอย่างละเอียด

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status