共有

บทที่ 1375

作者: หว่านชิงอิ๋น
เพราะอย่างไรเสีย พวกเขาก็ได้ประจักษ์ถึงความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวนและคนใบ้ที่ทางเข้าบ่อน้ำพุร้อนแล้ว

ในยามนี้ถูหมิงกลับเกรงว่าพวกเขาจะหนีไป

“แล้วจะมัวพูดอะไรกันอีก ข้ามแม่น้ำเสียสิ”

ลั่วชิงยวนหันไปสบตากับคนใบ้ “ข้าจะไปทดสอบความลึกของน้ำก่อน”

แต่คนใบ้กลับดึงนางไว้

จากนั้นก็หยิบโซ่เหล็กยาวออกมาจากกระเป๋าด้านหลัง

ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อย

นี่คือโซ่เหล็กที่ใช้สังหารฝูเหมิ่งในคราวนั้น มิคาดคิดว่าเขาจะพกติดตัวมาด้วย

คนใบ้ขว้างโซ่เหล็กไปที่ฝั่งตรงข้าม โซ่เหล็กพันเข้ากับต้นไม้ เขาออกแรงดึงเพื่อตรวจสอบความแข็งแรง

เขาผูกปลายอีกด้านหนึ่งไว้กับลำต้นไม้แล้วส่งให้ลั่วชิงยวน

ลั่วชิงยวนลงน้ำคนแรก ขณะดึงโซ่เหล็กว่ายไปยังฝั่งตรงข้าม

ลั่วชิงยวนดำลงไปดู พบว่าน้ำลึกมาก ต้องว่ายน้ำข้ามไปเท่านั้น

นางขึ้นฝั่งได้อย่างราบรื่น

จากนั้นคนใบ้ก็ข้ามตามไป

ถัดมาคือถูหมิงและคนอื่น ๆ

แต่เมื่อถึงคราวฉีเสวี่ยเวยและซูเซียงก็มีงูฝูงใหญ่ปรากฏตัวบนกองหญ้าด้านหลังพวกนางแล้ว

พวกมันกำลังไล่ตามมา

“งูมาแล้ว! รีบข้ามแม่น้ำเร็วเข้า พวกเจ้าสองคนข้ามไปด้วยกัน!” ถูหมิงร้อง

ฉีเสวี่ยเวยและซูเซียงลงน้ำอย่างกระวนกระวาย

แต่ฉี
この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード
ロックされたチャプター

関連チャプター

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1376

    เมื่อจัดวางทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ลั่วชิงยวนก็กลับมายังลานโล่งมองหาบริเวณที่มีหินใหญ่สองสามก้อน ซึ่งพอดีกับที่ใช้แบ่งชายหญิงให้แยกกันได้จากนั้นสร้างโครงจากท่อนไม้ แล้วถอดเสื้อคลุมนอกออกมาคลุมเพื่อบังสายตาจากนั้นก็ก่อไฟผึ่งอาภรณ์ให้แห้งลั่วชิงยวนช่วยประคองซูเซียงให้นอนลง ก่อนกล่าวว่า “เจ้าถอดอาภรณ์ออกก่อน ผึ่งให้แห้งแล้วค่อยใส่เถิด”ซูเซียงถอดอาภรณ์ออกอย่างยากลำบาก ลั่วชิงยวนส่งยาให้นางพลางกล่าวว่า “โอสถนี้ช่วยขับไล่ความหนาวเย็นได้”“ที่นี่ไม่มีสมุนไพรอื่น เจ้าจะทนได้หรือไม่?” ลั่วชิงยวนมองซูเซียงด้วยความเป็นห่วงซูเซียงพยักหน้า“ข้าทนได้”ใบหน้าของซูเซียงซีดเผือด เห็นได้ชัดว่านางใกล้จะหมดแรงแล้ว ความอดทนของนางช่างน่าชื่นชม“สภาพแวดล้อมบนเขาลูกนี้ยากลำบาก มีอันตรายมากเกินไป ลูกในครรภ์ของเจ้าอาจมิรอด” ลั่วชิงยวนจำเป็นต้องบอกเรื่องนี้ให้รู้ล่วงหน้าเนื่องจากเมื่อครู่ต้องหลบหนีอยู่นาน ทั้งยังลงไปในแม่น้ำ เป็นการใช้กำลังมาก แม้แต่คนทั่วไปก็ยังเหนื่อยล้า นับประสาอะไรกับซูเซียงแต่ซูเซียงกลับหัวเราะเบา ๆ ทั้งน้ำตา “ข้ารู้”“แต่ว่า… หากลูกคนนี้มิอยู่แล้วก็มิเป็นอะไรหรอก”ลั่วช

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1377

    เสียงนั้นดังชัดเจนในยามราตรีที่เงียบสงัดลั่วชิงยวนก็มิเข้าใจว่าเหตุใดต้องใช้กลอุบายเช่นนั้นเพื่อพึ่งพาชายเหล่านั้นด้วยไม่มีผู้ใดชื่นชอบนางอย่างแท้จริง คนเหล่านั้นมองนางเป็นเพียงของเล่นบนเขาลูกนี้มีอันตรายมากมาย หากถึงยามคับขันจะมีผู้ใดเต็มใจช่วยชีวิตนางบ้างกันนางยังคงหลับตาพักผ่อนต่อไปแต่หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกคราวนี้คนที่เข้าไปเป็นถูหมิงลั่วชิงยวนปิดหูด้วยความรำคาญรอจนอาภรณ์ชั้นในแห้งนางก็รีบสวมใส่ทันทีแต่ในขณะนั้นเอง ลมยามค่ำคืนก็พัดแรงขึ้นดูเหมือนจะมีสิ่งใดเคลื่อนที่มาอย่างรวดเร็วในความมืดมิด คนใบ้กำกระบี่แน่นด้วยความตึงเครียดลั่วชิงยวนก็ระแวดระวังรอบข้างอย่างกังวลทันใดนั้นเงาดำก็ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า พุ่งเข้ากระแทกลั่วชิงยวนกลิ่นคาวเลือดโชยมาในทันทีลั่วชิงยวนดิ้นรนอย่างสุดกำลัง แต่มิอาจสลัดหลุด อีกฝ่ายมีพละกำลังมหาศาลเพียงแค่อ้อมแขนที่โอบกอดนางไว้ นางก็จำได้แล้วฝูเหมิ่ง!เป็นฝูเหมิ่งจริง ๆ!ทันใดนั้นเอง คนใบ้ก็พุ่งเข้าไปเตะเขาอย่างแรง และช่วยลั่วชิงยวนออกมาเขาฉีกเสื้อคลุมมาห่มร่างนางในความมืดมิด ฝูเหมิ่งเงยหน้าขึ้น ใบหน้าท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1378

    นางมิอาจปล่อยให้คนใบ้ตายได้!คนใบ้กอดนางไว้แน่น ลั่วชิงยวนขยับเขยื้อนมิได้แม้แต่น้อย นางรีบตะโกน “ปล่อยข้า! ปล่อย!”“ข้าจะหยิบของ มิเช่นนั้นพวกเราจะต้องตายที่นี่”คนใบ้จึงคลายอ้อมกอดลั่วชิงยวนรีบหยิบเข็มทิศออกมา จากนั้นกัดนิ้ววาดอักขระบนกระบี่ห้วงสวรรค์ในเมื่อกินโอสถศพเข้าไป ในยามนี้ฝูเหมิ่งจึงเป็นเพียงซากศพ! มีพลังอื่นควบคุมเขาอยู่ภายในคนใบ้พยุงร่างมาได้นานเต็มทีจึงทนมิไหวอีกต่อไปแล้ว แผ่นหลังแทบทั้งหมดของเขาฉีกขาดจนเลือดโชกไปหมดลั่วชิงยวนมองเขาอย่างแน่วแน่ “ข้าจะนับหนึ่งสองสาม เจ้าจงหลีกไป!”คนใบ้ลังเลเล็กน้อย“เชื่อมั่นในตัวข้า!” ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นคนใบ้พยักหน้าแขนของเขาอ่อนแรง เป็นสัญญาณว่ามิอาจต้านทานได้อีกต่อไปลั่วชิงยวนนับ “หนึ่ง! สอง! สาม!”ทันใดนั้นคนใบ้ก็กลิ้งหลบไปด้านข้างฝูเหมิ่งพุ่งกระแทกลั่วชิงยวนพอดีดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา กระบี่ห้วงสวรรค์ในมือที่วาดอักขระไว้แทงทะลุร่างของฝูเหมิ่งอย่างแรงฝูเหมิ่งร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนาบาดแผลส่งเสียงซู่ซ่าเหมือนถูกเผาไหม้ขณะเดียวกัน ลั่วชิงยวนก็ยกเข็มทิศในมือขึ้นส่อง แสงสีทองเปล่งปร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1379

    เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินคำพูดของฉีเสวี่ยเวย แววตาของนางก็พลันเปลี่ยนเป็นเย็นชานางสร้างอาคมลวงตาไว้ที่นี่ มิใช่เพียงป้องกันงูแต่เพื่อป้องกันคนด้วยแม้ฝูเหมิ่งจะกลายร่างเป็นศพแล้วก็มิน่าจะเข้ามาง่ายดายเช่นนี้......ในป่าอันมืดมิดซูเซียงพิงต้นไม้ด้วยความเหนื่อยล้ามีเสียงดังกรอบแกรบดังมาจากเบื้องหน้า เมื่อนางเพ่งมองจึงเห็นงู!นางตกตะลึงไปชั่วขณะ แล้วขมวดคิ้วหันหลังวิ่งหนีไปแต่จู่ ๆ กลับหยุดเท้าลง นัยน์ตาฉายแววเหี้ยมโหด นางก้มตัวคว้าจับงูพิษที่กำลังเลื้อยเข้ามา ให้กัดข้อเท้าของตนอย่างแรงงูพิษงับข้อเท้าของนาง ความเจ็บปวดแผ่ซ่านนางเตะงูออกไป แล้ววิ่งโซเซกลับมายังค่ายพัก......ลั่วชิงยวนกำลังคิดว่าจะหาสมุนไพรมากำจัดกลุ่มคนของถูหมิงให้พ้นทางได้อย่างไรทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งเดินโซเซมาจากในป่าลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยรีบลุกขึ้นเมื่อเห็นร่างนั้น ปรากฏว่าเป็นซูเซียงซูเซียงวิ่งมาได้มิกี่ก้าวก็ล้มลงบนพื้น ร่างกายหมดเรี่ยวแรงอาภรณ์ใต้ร่างนางเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดลั่วชิงยวนตกใจ รีบเดินเข้าไปหา แล้วเห็นว่าริมฝีปากของซูเซียงดำคล้ำ แสดงว่าถูกพิษเมื่อจับชีพจรก็ยิ่งตกใจนางถู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1380

    ลั่วชิงยวนจ้องมองพวกเขาด้วยความระแวดระวัง ในมือซ่อนเตี่ยฉุยไว้ในยามนี้นางอ่อนแอเกินไป ได้แต่พึ่งพาเตี่ยฉุยหวังเพียงจะพาทั้งสองหนีออกไปแต่ในขณะนั้นเอง คนใบ้กลับเดินมายืนอยู่เบื้องหน้าลั่วชิงยวน มองพวกเขาด้วยเจตนามุ่งสังหารถูหมิงและคนอื่น ๆ มิทราบถึงความแข็งแกร่งของคนใบ้ ในเมื่อเขาสังหารฝูเหมิ่งได้ย่อมมิอ่อนแอ จึงไม่มีใครกล้าลงมือโดยพลการแต่เมื่อได้ยินเสียงงูในป่าถูหมิงจึงตัดสินใจเสี่ยง“ลุย!”เมื่อได้ยินคำสั่ง หลายคนก็พุ่งเข้ามาถูหมิงก็ยกดาบขึ้นฟันเช่นกันเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารการต่อสู้ใกล้ปะทุขึ้นลั่วชิงยวนและคนใบ้ร่วมมือกันต้านทานคนเหล่านี้นางและคนใบ้ทาผงไล่งูไว้บนตัวแล้ว ในยามนี้จึงมิเกรงกลัวว่างูจะเข้ามาล้อมโจมตีทันใดนั้นเอง ก็มีฟ้าแลบหลายครั้งปรากฏขึ้นบนท้องฟ้ายามราตรีแสงสว่างวาบไปทั่วบริเวณในความสว่างชั่วครู่ของสายฟ้านั้นปรากฏร่างในชุดสีแดงขึ้นในสายตาของทุกคนมีคนร้องอุทานออกมา สายตาจับจ้องไปที่ความมืด “เมื่อครู่นี้อะไรกัน!”คนอื่น ๆ กลืนน้ำลายลงคอด้วยความตกใจลั่วชิงยวนเหลียวมอง จึงเห็นสตรีชุดแดงแวบผ่านไปนางโผล่มาอีกแล้วเมื่อสายฟ้าแลบขึ้นอีกครั้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1381

    เมื่อคนใบ้ได้ยินคำพูดนั้น เขาก็รีบคว้าข้อมือนางไว้ มิอยากให้นางไปลั่วชิงยวนกล่าวว่า “วางใจเถิด ข้าเพียงแค่อยู่บริเวณใกล้ ๆ นี้ มิเป็นอะไรหรอก”โอสถห้ามเลือดหมดแล้ว บาดแผลที่หลังของคนใบ้สาหัสถึงเพียงนั้น หากมิได้ยารักษาก็เกรงว่าจะมิอาจประคองชีวิตได้ถึงรุ่งเช้าซูเซียงก็ต้องการสมุนไพรอย่างเร่งด่วนเช่นกัน“เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ ประเดี๋ยวข้าจะกลับมา” ลั่วชิงยวนกำชับคนใบ้คนใบ้พยักหน้าจากนั้นลั่วชิงยวนก็เข้าไปยังป่ารกทึบเพื่อหาสมุนไพรราวกับไม่มีผู้ใดเคยย่างกรายเข้ามาในขุนเขาแห่งนี้มาก่อน พุ่มไม้หนาทึบจนแทบไม่มีทางเดินแต่ก็ดีแล้ว เพราะสมุนไพรมีมากมายแม้จะมิใช่ของวิเศษล้ำค่าแต่ก็เป็นยารักษาที่ดีนางเก็บสมุนไพรมามากมายเมื่อกลับไปอย่างตื่นเต้น นางกลับพบว่า…ทุกคนหายไปแล้ว!ทั้งคนใบ้และซูเซียงหายไปหมดแล้ว!ความหนาวเย็นยะเยือกแผ่ซ่านขึ้นมาในใจทันทีนางมองหาไปทั่วก็มิพบเงาร่างของทั้งสองกระทั่งสงสัยว่าตนเดินมาผิดที่หรือไม่แต่นางกลับเห็นรอยเลือดบนพื้นเป็นรอยเลือดที่ถูกลากไป!ลั่วชิงยวนใจหายวูบต้องเกิดเรื่องกับคนใบ้แล้ว!นางหยิบเข็มทิศออกมา พลันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งควา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1382

    เนื่องจากมันสูงเกินไป ลั่วชิงยวนจึงต้องใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีเกาะตามผนังหินทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้แต่ผนังหินนั้นเกือบจะตั้งตรง และไม่มีสิ่งใดให้ยึดเกาะเพื่อปีนขึ้นไปได้เลย ลั่วชิงยวนทำได้เพียงเกาะชะง่อนหินที่ยื่นออกมาเพื่อช่วยผ่อนแรงจากนั้นร่างของนางก็ตกลงสู่เบื้องล่างมิได้รับบาดเจ็บสาหัสมากนัก เพียงแต่ข้อเท้าพลิกเบื้องล่างมีแสงสว่างริบหรี่ ลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นมอง จึงเห็นว่าถ้ำนี้ลึกเกือบสิบเมตรเบื้องล่างมีหินกระจัดกระจายมากมาย ข้างหินเหล่านั้นยังมีกระดูกสีขาวโผล่ให้เห็นเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเบื้องล่างนี้จะมีผู้คนมาตายอยู่เป็นจำนวนมากมิรู้ว่าเป็นสถานที่แห่งใดเมื่อครู่... ซูเซียงเป็นคนผลักนางลงมาหรือ?ในขณะนั้นเอง ที่ปากถ้ำด้านบนก็มีร่างหนึ่งค่อย ๆ ยื่นศีรษะออกมาคนผู้นั้นคือซูเซียง!ซูเซียงหมอบอยู่ที่ปากถ้ำด้วยสีหน้าเป็นกังวล ด้วยความกระวนกระวายว่า “เจ้าเป็นกระไรหรือไม่?”“บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?”“ขอโทษ ขอโทษจริง ๆ ข้าเท้าลื่นล้มลงไป เลยพลั้งมือผลักเจ้า”“ข้าเองก็มิรู้ว่าที่นี่มีหลุมใหญ่ถึงเพียงนี้ด้วย”ลั่วชิงยวนนั่งอยู่บนพื้นพลางคลึงข้อเท้าพลางมองสำรวจโดยรอบ แล้ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1383

    ในชั่วขณะนั้น ซูเซียงตกตะลึงจนหน้าซีดเผือดทุกสิ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวมิทันนางชักกริชออกมา ขณะเดียวกันลั่วชิงยวนก็ออกแรงดึงนาง สองเหตุการณ์เกิดขึ้นแทบจะพร้อมกันซูเซียงจึงเพิ่งตระหนักได้ว่า ลั่วชิงยวนล่วงรู้ถึงเจตนาของนางแล้ว!ในขณะที่ร่างดิ่งลงสู่เบื้องล่าง ซูเซียงก็คว้าจับเถาวัลย์ไว้แน่นลั่วชิงยวนใช้ขาทั้งสองข้างพันรอบเถาวัลย์ ร่างกายดิ่งลงสู่เบื้องล่างอย่างรวดเร็ว กระบี่ยาวในมือพุ่งแทงไปยังซูเซียงซูเซียงร่วงลงสู่พื้นอย่างรวดเร็วแล้วกระแทกพื้นอย่างแรง จากนั้นก็พุ่งเข้ามาต่อสู้กับลั่วชิงยวนความเร็วของซูเซียงทำให้ลั่วชิงยวนประหลาดใจ ในระหว่างการต่อสู้ กรงเล็บเหล็กที่ยื่นออกมาจากแขนเสื้อของนางส่องประกายแสงเย็นเยียบลั่วชิงยวนรีบหลบหลีก ซูเซียงเตะเข้ามา กรงเล็บเหล็กก็ปรากฏออกมาจากฝ่าเท้าของนางเช่นกัน ทั้งร่างของนางเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารลั่วชิงยวนเพิ่งสังเกตเห็นว่าสตรีผู้นี้ซ่อนอาวุธไว้ทั่วร่างหลังจากการต่อสู้ดุเดือด ลั่วชิงยวนใช้กำลังทั้งหมดกดซูเซียงลงบนพื้น“เจ้าเป็นใครกันแน่! เจ้าเป็นคนทำให้คนใบ้หายไปใช่หรือไม่!”ซูเซียงมองนางด้วยแววตาอำมหิต ทันใดนั้นก็อ้าปากพ

最新チャプター

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status