Share

บทที่ 65

Aвтор: หว่านชิงอิ๋น
นี่เป็นผลให้น้ำหนักตัวเพียงเพิ่มขึ้นแต่ไม่ลดลง

จือเฉาช่วยนางแต่งตัว สีหน้าเคร่งขรึมและพูดว่า “เสื้อผ้าดูแน่นขึ้นอีกแล้ว จะทำเยี่ยงไรดี บางทีพระชายาอาจต้องกินให้น้อยลงหรือไม่เจ้าคะ?”

ลั่วชิงยวนพูดอย่างจริงจังว่า “สาวน้อยโง่เขลา ถ้ากินน้อยร่างกายก็จะไม่มีกำลัง บาดเจ็บแค่ไหนก็เข้มแข็งให้เหมือนวัว ดีกว่าอ่อนแอแล้วล้มลงด้วยหมัดของใคร เข้าใจหรือไม่?”

“ดังนั้นเจ้าเองก็ควรกินให้มากขึ้นด้วย!”

จือเฉาพยักหน้า กลับพูดอย่างเขินอายว่า “แต่พระชายาตัวอ้วนท้วน ก็มิได้แข็งแรงเหมือนวัวนี่เจ้าคะ”

ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย พูดอย่างชอบธรรมว่า “อย่างน้อยข้าก็ดูแข็งแกร่งเหมือนวัว เพียงเท่านี้ก็ทำให้ผู้คนหวาดกลัวได้แล้ว!”

“เจ้าค่ะ”

ใส่เสื้อผ้าเสร็จ ลั่วชิงยวนยืดเข็มขัดที่แน่นเล็กน้อยออก ก้าวออกไป วางแผนจะฝึกชี่กงที่ลานจวน

แม่นมเติ้งรีบเดินเข้าไปในลานจวนแล้วพูดว่า “พระชายาเจ้าคะ องค์ชายห้าเสด็จมาเจ้าค่ะ”

ลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว รีบโบกมืออย่างเร็ว “ไม่พบ ๆ บอกเขาไปว่าข้ากำลังนอนอยู่!”

นางหันหลังกลับและเข้าไปในเรือน

ใครจะรู้ว่าฟู่อวิ๋นโจวจะมาปรากฏตัวที่ทางเข้าเรือน บังเอิญเห็นสิ่งนี้เข้า จึงมิได้ก้า
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Заблокированная глава

Related chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 66

    ช่วงเวลาเดียวกันห้องตำราซูโหยวลังเลอยู่นาน ถึงจะเดินเข้าไปในห้องตำราและพูดว่า “ท่านอ๋อง บัดนี้องค์ชายห้าเสด็จไปพบพระชายาอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนหยุดพลิกหนังสือชั่วคราว แล้วก็กลับมาเป็นปกติทันที สีหน้านิ่งเฉยและพูดว่า “นี่มันไม่ปกติ”พวกเขาเป็นพวกเดียวกันซูโหยวสีหน้าเคร่งขรึมและพูดว่า “องค์ชายห้าทรงมอบอาภรณ์เมฆสีทองหนึ่งชุดให้พระชายา ทรงตรัสว่าเป็นอาภรณ์งานฉลองไหว้พระจันทร์ในวังหลวงให้พระชายาพ่ะย่ะค่ะ”ได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วแต่ยังคงไม่พูดอะไร เพียงสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย“ท่านอ๋อง งานฉลองไหว้พระจันทร์ในวังหลวง ตามเหตุผลพระชายาก็จะต้องเข้าร่วมด้วย เมื่อถึงเวลารูปลักษณ์ของนางจะถูกผู้คนนินทาอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ หากนางยังสวมอาภรณ์ที่องค์ชายห้าทรงมอบให้อีก มิรู้ว่าผู้คนจะหัวเราะเยาะท่านอ๋องลับหลังเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”“ในความเห็นของกระหม่อม ท่านอ๋องเป็นผู้ตระเตรียมอาภรณ์สำหรับงานฉลองไหว้พระจันทร์ในวังหลวง จะเป็นการเหมาะสมกว่าพ่ะย่ะค่ะ”ซูโหยววิเคราะห์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมถึงอย่างไรก็ยังเป็นพระชายาอ๋องด้วย มันไม่เหมาะที่องค์ชายห้าจะส่งเสื้อผ้าอาภรณ์มาให้ในกรณีนี้คิ้วขอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 67

    ลั่วชิงยวนตัวดี วันดี ๆ ของนางจบลงแล้ว!แววตาของนางเย็นเยียบและดุร้าย……เมื่อซูโหยวส่งอาภรณ์มาให้ ลั่วชิงยวนตกใจมาก นางไม่ได้คิดเลยสักนิดว่า ฟู่เฉินหวนจะให้ซูโหยวมอบอาภรณ์ให้นางจริง ๆมองดูชุดอันประณีตงดงามที่เป็นสีแดงเพลิงที่อยู่บนโต๊ะ จือเฉาประหลาดใจมากและพูดว่า “พระชายามาลองกันเถิดเจ้าค่ะ”จือเฉาช่วยนางผลัดผ้า แต่ขนาดของชุดนั้นเกือบจะเท่าเมื่อก่อน แน่นนิดหน่อย ใส่ไม่สบายนัก“ดูเหมือนว่าท่านอ๋องจะไม่รู้ว่าพระชายาน้ำหนักขึ้นเล็กน้อยนะเพคะ อาภรณ์นี้ดูสำรวยนัก ท่านสวมแล้วก็ต้องระวังการเคลื่อนไหวนะเจ้าคะ มิเช่นนั้นมันจะขาดได้ง่าย” จือเฉาจัดไปด้วย พูดไปด้วย“พอแล้ว พอแล้ว ถอดออกเถอะ ทรมานจะตายอยู่แล้ว” ลั่วชิงยวนถอดออกทันทีจือเฉาพับอาภรณ์อย่างเรียบร้อยและใส่กลับเข้าไปในกล่องผ้า “แล้วพระชายาอยากใส่ชุดใดไปงานเลี้ยงวังหลวงเล่าเจ้าคะ?”“ดูดีทั้งสองชุดเลย แต่ชุดหนึ่งใส่สบายหน่อย อีกชุดหนึ่งดูแน่นกว่าเล็กน้อย แต่ชุดนี้ท่านอ๋องทรงมอบให้เจ้าค่ะ”ลั่วชิงยวนมองดู ทำหน้าบึ้งและพูดว่า “ชุดนี้สิ เราจะได้เลี่ยงปัญหาจากเขา”ไม่ให้ยังดีกว่า ให้แล้วนางก็ต้องใส่การเปรียบเทียบเช่นนี้ ฟู่อวิ๋น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 68

    ลั่วชิงยวนก้มลงและกำลังจะขึ้นรถม้า ได้ยินเสียงนี้ ก็พลันตัวแข็งทื่อเมื่อเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นสายตาของฟู่เฉินหวนเต็มไปด้วยความรังเกียจ สายตาที่เย็นชาของเขาคมราวกับกริช เต็มไปด้วยความดูถูกและความโกรธลั่วชิงยวนรู้สึกอึดอัดมาก แอบกำมือแน่น มองฟู่เฉินหวนและไม่เอ่ยวาจาใด หันหลังกลับและลงจากรถม้าทันทีที่ลงจากรถม้า ฟู่เฉินหวนก็สั่งคนขับรถม้าว่า “ออกเดินทาง”รถม้าบังคับออกไปอย่างเร็วจนเกือบจะชนลั่วชิงยวนล้ม ทำให้นางถอยหลังไปหลายก้าวก่อนจะทรงตัวให้มั่นคง“พระชายาเจ้าคะ!” จือเฉาตื่นตระหนกลั่วชิงยวนยืนนิ่ง มองดูรถม้าลับตาไปจากสุดถนน พลันบริเวณรอบ ๆ ก็ว่างเปล่านางถูกทิ้งไว้ข้างหลังชั่วครู่หนึ่งในใจก็ไม่รู้ว่ารู้สึกเช่นไรซูโหยวไปจัดรถม้าคันอื่นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เพียงแต่สั่งให้สารถีเข้าไปในวังหลวงเท่านั้น มิได้เอ่ยวาจาใดอีก จากนั้นก็เดินจากไปมิได้พูดอันใดกับลั่วชิงยวนสักคำ ไม่แม้แต่จะมองนางอีกจือเฉารู้สึกทั้งเสียใจและเป็นทุกข์ ช่วยประคองลั่วชิงยวนขึ้นรถม้า “แม้แต่ซูโหยวก็เปลี่ยนท่าที ทำไมพระชายาต้องผลัดผ้าเป็นอาภรณ์นี้เล่าเจ้าคะ ท่านอ๋องต้องมิพอพระทัยเป็นแน่เจ้าค่ะ”ลั่วชิงยวนพู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 69

    แต่อาภรณ์เพลิงไสวถูกฟู่เฉินหวนซื้อไป เขาจะเอาของปลอมให้ลั่วเยวี่ยอิงใส่ได้เยี่ยงไร? มีเพียงนางเท่านั้นที่ใส่ได้!เห็นได้ชัดว่า ฟู่เฉินหวนกำลังตรวจสอบสินค้าปลอมบนถนนเชียนเมี่ยน แต่กลับเอาสินค้าปลอมให้นางใส่รึ? นี่เขาคิดอะไรอยู่!นี่คือชายที่ลั่วชิงยวนตกหลุมรักอย่างสุดซึ้ง ชายที่วางแผนทำร้ายนางทุกครั้งไป!ลั่วเยวี่ยอิงได้ยินก็ประหลาดใจมากและพูดว่า “ต้องถูกลงโทษอย่างหนักจริง ๆ หรือ?”จู่ ๆ นางก็ตื่นตระหนกเล็กน้อยและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าต้องรีบไปหาพี่สาวของข้า พวกท่านมีใครเห็นพี่สาวของข้าหรือไม่?”ทุกคนสับสน “ตามหาพี่สาวของท่านรึ? ตามหาพี่สาวของท่านทำไม? หรือว่านางไปซื้อของปลอมที่ถนนเชียนเมี่ยน?”สีหน้าของลั่วเยวี่ยอิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิได้ตอบอันใด แต่สีหน้าท่าทางนั้นกลับบอกทุกอย่างแล้วหลายคนที่อยู่รอบ ๆ ประหลาดใจอย่างมาก มองลั่วเยวี่ยอิงและพูดด้วยความประหลาดใจว่า “วันนี้นางมิได้ใส่ชุดปลอมใช่หรือไม่?”ลั่วเยวี่ยอิงส่ายหัวอย่างตื่นตระหนกและพูดว่า “ไม่ใช่ ๆ พวกท่านอย่าเดามั่วสิ”แต่ทุกคนกลับไม่ได้ฟังนาง หารือกับตนเองว่า “ในโอกาสเช่นวันนี้ ต้องถูกลงโทษอย่างหนัก! และเรื่องการสืบสว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 70

    หากเป็นลั่วชิงยวนในอดีต เมื่อได้ยินเช่นนี้ นางคงจะรู้สึกอับอายและหนีไปจากที่นี่ทันที จากนั้นก็ซ่อนตัวและไม่เจอใครอีกเลยแต่ลั่วชิงยวนในยามนี้ มองทุกคนที่พูดถึงนางต่อหน้าด้วยสายตาเย็นชาและสีหน้าไม่เปลี่ยน“พูดพอแล้วหรือยัง? น่าเสียดายนักที่พวกเจ้าเป็นสตรีจากตระกูลสูงศักดิ์ ของแท้ของปลอมยังไม่แม้แต่จะแยกได้ แต่กลับนินทาและชี้นิ้วไปที่ผู้อื่น นี่คือสิ่งที่พวกเจ้าถูกสั่งสอนมาย่างนั้นรึ?”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนในที่นี้ต่างก็พลันหน้าซีดทุกคนต่างตกตะลึง ลั่วชิงยวนมิเคยกล้าพูดเช่นนี้ นับประสาอะไรกับการกล้ามองทุกคนเยี่ยงนี้ โดยเฉพาะการจ้องมองที่ดูถูกเหยียดหยามนั้น มันเหมือนกับการพยายามฉีกใครสักคนทั้งเป็นคนผิวหน้าบางสองสามคนก็หน้าแดงกับคำพูดของลั่วชิงยวนทันทีบางคนถึงกับหน้าแดงด้วยความโกรธและพูดอย่างไม่พอใจว่า “เห็นได้ชัดว่าเจ้ากำลังใส่ของปลอม และน้องสาวของเจ้าก็เป็นพยานได้ เราจะพูดมิได้งั้นรึ?”ลั่วชิงยวนเยาะเย้ยเบา ๆ สายตาเย็นชาของเธอกวาดไปรอบ “แขกผู้มีเกียรติที่นี่ยังพูดไม่พออีกรึ? สนุกกับการเยาะเย้ยผู้อื่น เป็นเหมือนพวกขี้นินทา พวกเจ้าได้เรียนรู้อะไรจากสี่ตำราห้าคัมภีร์ วิธีหั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 71

    ฟู่เฉินหวนประคองลั่วเยวี่ยอิงขึ้น มองลายนิ้วมือที่โดดเด่นทั้งห้าบนหน้าของนาง ก็พลันหน้าซีด มองด้วยสายตาเจตนาฆ่าไปที่ลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ควรมิควรแล้วแต่จะทรงโปรด ไม่ใช่คราวแรกอยู่แล้ว”น้ำเสียงเย็นชาของนาง แต่ก็เผยข้อมูลมากมาย ทำให้ผู้คนเดากันไปต่าง ๆ นานาฟู่เฉินหวนมองว่านางจงใจ กำหมัดแน่น ระงับความโกรธไว้ ก่อนตำหนิว่า “ขอโทษเยวี่ยอิงซะ!”“หม่อมฉันไม่ขอโทษ มีอันใดเล่า?!” ลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างดื้อรั้น ด้วยสายตาที่เฉียบคม "นางใส่ร้ายหม่อมฉันก่อน นางสร้างปัญหาก่อน คนที่ควรขอโทษคือนาง! เหตุใดหม่อมฉันต้องขอโทษ!”อยากให้นางขอโทษลั่วเยวี่ยอิง ชาตินี้ก็เป็นไปไม่ได้!ลั่วเยวี่ยอิงแกล้งทำเป็นใจดีและโผเข้าไปในอ้อมแขนของฟู่เฉินหวน ร้องไห้เสียใจและพูดว่า “ช่างมันเถิดท่านอ๋อง ท่านพี่ของหม่อมฉันนิสัยเช่นนี้มาตลอด นางทำอะไรผิดก็ไม่เคยยอมรับหรอกเพคะ”ลั่วเยวี่ยอิงร้องไห้ จู่ ๆ ฟู่เฉินหวนก็แน่นหน้าอกโดยไม่มีเหตุผล ความโกรธที่อธิบายมิได้พุ่งไปที่ด้านบนศีรษะ แม้ว่าจะยับยั้งชั่งใจตน แต่ยังคงดุลั่วชิงยวนอย่างดุเดือด “ข้าจะพูดอีกครั้ง ขอโทษเยวี่ยอิงซะ! ไม่เช่นนั้นเจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 72

    เขามอบอาภรณ์เพลิงไสวให้นาง ก็เพียงเพื่อช่วงเวลานี้หึ นางแต่งงานกับผู้ชายแบบไหนกันแน่มีความหนาวเย็นในใจของนางณ ตอนนี้ ร่างในชุดขาวค่อย ๆ เดินมา และพูดเสียงอ่อนโยนดังขึ้น...“อาภรณ์เมฆสีทอง ข้าเป็นคนมอบให้เอง มันเป็นผลงานของศาลารุ้งเมฆาเมื่อปีที่แล้ว แต่มิเคยมอบให้ใครมาก่อน และมิได้ซื้อจากถนนเชียนเมี่ยนด้วย”ฟู่อวิ๋นโจวอธิบายอย่างจริงจังเพียงคำพูดนี้หลุดออกมา คนรอบข้างต่างตกตะลึง องค์ชายห้าเป็นคนให้รึ?องค์ชายห้ามอบชุดให้พระชายาอ๋องหรือ? ชุดที่ใส่ในงานฉลองไหว้พระจันทร์ในวังหลวงนั้นมีความหมายมากลั่วเยวี่ยอิงมีสีหน้าซีดลงอาภรณ์เมฆสีทองนั่นเป็นของจริงรึ? ลั่วชิงยวนมิได้ซื้อมาจากถนนเชียนเมี่ยนรึ?องค์ชายห้ามอบอาภรณ์เมฆสีทองให้นาง? !อีกนัยหนึ่งก็คือ ท่านอ๋องมอบอาภรณ์เพลิงไสวให้นาง ในขณะที่องค์ชายห้ามอบอาภรณ์เมฆสีทองให้นางอีกนางอัปลักษณ์ผู้นี้มีสิทธิ์อะไร? !สีหน้าของฟู่เฉินหวนค่อย ๆ เคร่งขรึม ความเยือกเย็นเข้าปกคลุมดวงตา สองคนนี้ไม่สงวนท่าทีต่อหน้าเขาเลย!ในคืนนี้อยากให้ท่านอ๋องถูกผู้คนนินทาว่าพระชายามีชู้รึ?เห็นแววตาอาฆาตของฟู่เฉินหวน ลั่วชิงยวนเข้าไปขวางตรงหน้าฟู่อวิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 73

    มาถึงริมทะเลสาบแล้ว ลมเย็นยามค่ำคืนพัดมา ช่วยคลายอาการปวดบริเวณแก้มมีเสียงฝีเท้าเร็วดังมาจากด้านหลัง นางมองย้อนกลับไป จากนั้นก็เห็นฟู่อวิ๋นโจววิ่งมาอย่างหอบ เมื่อวิ่งมาถึงข้างหน้านาง ก็หายใจลำบากอยู่ช่วงหนึ่ง สีหน้าซีดลงและเกือบจะเป็นลมลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย รีบประคองเขา ตบที่หลังเขา “ท่านดีขึ้นไหมเพคะ?"ฟู่อวิ๋นโจวสงบลมหายใจ มองนางด้วยสีหน้ากังวลและพูดว่า “คำพูดนี้ข้าควรถามเจ้า แต่ทำให้เจ้าต้องมาดูแลข้าแทน”ลั่วชิงยวนหันศีรษะและมองไปที่ทะเลสาบ “หม่อมฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องตามหม่อมฉันมาเพคะ”เขาไล่ออกไปต่อหน้าทุกคน เพียงจะทำให้คนนอกคาดเดาและนินทามากขึ้นฟู่อวิ๋นโจวเข้าใจสิ่งที่นางหมายถึง หน้าบึ้ง โทษตนเองว่า “ขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องลำบาก”“ไม่ต้องขอโทษเพคะ หม่อมฉันควรจะขอบคุณพระองค์เสียมากกว่า ถ้าไม่ใช่พระองค์ช่วยหม่อมฉันชี้แจง หม่อมฉันคงติดคุกไปแล้ว” ลั่วชิงยวนหัวเราะเยาะตัวเองฟู่อวิ๋นโจวเงียบไปครู่หนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ปกติเสด็จพี่ไม่เป็นเช่นนี้ คิดว่าคงมีความเข้าใจผิดอยู่บ้าง”“ท่านอ๋องไม่ต้องทรงอธิบายแทนเขาหรอกว่าเขาเป็นคนเยี่ยงไร นั่นไม่เกี่ยวอะไรกับ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status